จงออกไปในที่ที่ไม่ค่อยมีคนไป แล้วคุณจะเห็นในสิ่งที่คนอื่นไม่ค่อยได้เห็น
.
.
เพราะประโยคดังกล่าวนี่แหละครับก็เลยทำให้แว้บแรกที่ผมเริ่มทำโปรเจค The Hidden Gems Thailand หรือการแนะนำสถานที่เร้นลับดีๆ ที่คนไทยโดยเฉพาะคนกรุงเทพไม่ค่อยรู้จักเป็นเรื่องของพิพิธภัณฑ์หรือสถานเรียนรู้ เพราะผมมองว่าในปัจจุบันนี้พิพิธภัณฑ์หรือสถานเรียนรู้ในประเทศไทยนั้นมีเยอะมาก และหลายๆ ที่ล้วนแต่มีการพัฒนาการในการนำเสนอที่ดี ดูแล้วไม่น่าเบื่อเหมือนในอดีต แตกต่างจากรูปแบบของพิพิธภัณฑ์ในสมัยก่อนโดยสิ้นเชิง เรียกว่าพิพิธภัณฑ์หลายๆ ที่ในปัจจุบันนี้เปรียบเสมือนสวนสนุกทางปัญญาที่เพื่อน, ครอบครัว, พี่น้อง, แฟน สามารถใช้เวลาร่วมกันได้อย่างมีความสุข เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ รอยยิ้ม และยังได้รับความรู้ที่เพิ่มมากขึ้นอีกด้วยครับ
ที่สำคัญผมอยากจะบอกว่าค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์หรือสถานเรียนรู้ต่างๆ เหล่านี้ถูกมาก บางที่แค่ 30 บาท/คน บางที่ก็เข้าฟรี และบางที่แม้จะต้องจ่ายเงินประมาณ 100 บาท/คน แต่บอกเลยว่าสิ่งที่คุณจะได้รับกลับมานั้นคุ้มค่ามาก เพราะคุณจะได้เรียนรู้ในสิ่งที่คุณไม่เคยรู้มาก่อน ได้เห็นในสิ่งที่คนอื่นไม่ค่อยได้เห็น และยังสามารถนำสิ่งที่ได้รับนั้นไปต่อยอดในชีวิตประจำวันของคุณหลังจากนี้ได้
ถ้าพร้อมแล้ว……มาออกเดินไปชม The Hidden Gems Thailand……..เสน่ห์ของพิพิธภัณฑ์ที่ซ่อนเร้น ทั้ง 9 ที่ พร้อมๆ กันกับผมได้เลยครับ โดยใครที่สนใจที่ไหนเป็นพิเศษก็สามารถตามไปอ่านรีวิวเต็มๆ ได้ในลิงก์ที่โพสต์ไว้ในแต่ละสถานที่เลยครับ
1. Dialogue in the dark Bangkok
Dialogue in the dark Bangkok : บทเรียนในความมืด…ที่จะทำให้คุณต้องน้ำตาไหลพราก
สถานที่ : Dialogue in the dark Bangkok
พิกัด : อาคารจามจุรีสแควร์ ชั้น 4
จุดเด่น : ที่นี่เป็นที่ที่จะทำให้คุณได้ทดลองใช้ชีวิตเป็นผู้พิการทางสายตา มองอะไรไม่เห็นไป 1 ชั่วโมง และคุณจะต้องใช้ประสาทสัมผัสอื่นๆ ที่เหลืออย่าง กาย, ปาก, หู, จมูก ฝ่าฝันภารกิจต่างๆ จนสามารถออกมาสู่โลกแห่งแสงสว่างได้อีกครั้ง เชื่อผมเถอะว่าเมื่อคุณออกมาแล้ว คุณจะเปลี่ยนความรู้สึกที่มีต่อผู้พิการทางสายตาใหม่ทั้งหมดเลยครับ
วันที่เปิดบริการ : เปิดบริการทุกวัน
เวลาที่เปิดบริการ : 10.30 น. – 16.00 น.
ค่าเข้า :
- ผู้ใหญ่ : 100 บาท
- เด็ก : 50 บาท (สำหรับนักศึกษาหรือนิสิตระดับปริญญาตรี หากแสดงบัตรนักเรียน นักศึกษา จะสามารถซื้อบัตรในราคาเด็กได้)
ระยะเวลาในการเข้าชม : 1 – 1.30 ชั่วโมง
อ่านรีวิวฉบับเต็มของ Dialogue in the dark Bangkok คลิกที่นี่
2. พิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมดอกไม้
พิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมดอกไม้ : แหล่งจิบชาเร้นลับใจกลางสามเสน
สถานที่ : พิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมดอกไม้
พิกัด : ซอยองครักษ์ 13 ถ.สามเสน
จุดเด่น : พิพิธภัณฑ์เฉพาะทางที่เล่าเรื่องราวของวัฒนธรรมการจัดดอกไม้ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ โดยมีผลงานของคุณสกุล อินทกุล นักออกแบบและนักจัดดอกไม้ชื่อดังของไทยที่ได้มีโอกาสถวายงานให้รัชกาลที่ ๙ ให้เราได้ดูด้วย นอกจากนี้ที่นี่ยังมีบรรยากาศที่ดีมาก ทั้งตึกไม้สไตล์โคโลเนียลอายุกว่า 80 ปี, สวนสวยๆ ที่เงียบสงบจนไม่คิดว่าอยู่ใจกลางสามเสน และที่ขาดไม่ได้คือ ชุดชา, ขนมไทย และสโคนสุดอร่อยที่คนรักการจิบชาต้องไม่ควรพลาดโดยเด็ดขาด
วันที่เปิดบริการ : วันอังคาร – วันอาทิตย์ (ปิดวันจันทร์)
เวลาที่เปิดบริการ : 10.00 น. – 18.00 น.
ค่าเข้า : ผู้ใหญ่ : 150 บาท (กรณีไปทานชาและขนม โดยที่ไม่เข้าในส่วนของพิพิธภัณฑ์จะไม่มีค่าใช้จ่ายในส่วนนี้)
ระยะเวลาในการเข้าชม : 1.30 – 2 ชั่วโมง
อ่านรีวิวฉบับเต็มของพิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมดอกไม้ คลิกที่นี่
3. พิพิธภัณฑ์ชาวบางกอก
พิพิธภัณฑ์ชาวบางกอก : เสน่ห์ที่แอบซ่อนในบางรัก นำพาเราย้อนกลับสู่วิถีชีวิตคนกรุงในอดีต
สถานที่ : พิพิธภัณฑ์ชาวบางกอก
พิกัด : ซอยเจริญกรุง 43
จุดเด่น : พิพิธภัณฑ์ที่เล่าเรื่องราวของชีวิตและสภาพความเป็นอยู่ของชาวบางกอกที่มีฐานะปานกลางในช่วงก่อนและหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 (ประมาณปี พ.ศ. 2480 ถึง พ.ศ. 2500) โดยข้าวของและเครื่องใช้ต่างๆ ที่นำมาจัดแสดงนั้นล้วนเป็นของจริงที่ถูกใช้งานในช่วงนั้น เมื่อรวมกับบรรยากาศของพิพิธภัณฑ์ และรูปแบบของบ้านหลังต่างๆ ที่สวยงาม หาดูได้ยากในยุคปัจจุบันนี้ ยิ่งทำให้ที่นี่ควรค่าแก่การไปเยี่ยมชมมากๆ ครับ
วันที่เปิดบริการ : วันพุธ – วันอาทิตย์ (ปิดทุกวันจันทร์และวันอังคาร)
เวลาที่เปิดบริการ : 10.00 น. – 16.00 น.
ค่าเข้า : เข้าชมฟรี
ระยะเวลาในการเข้าชม : 1.30 – 2 ชั่วโมง
อ่านรีวิวฉบับเต็มของพิพิธภัณฑ์ชาวบางกอก คลิกที่นี่
4. พิพิธบางลำพู
พิพิธบางลำพู : หวนคืนสู่วันวาน กับตำนานต้นลำพูต้นสุดท้าย
สถานที่ : พิพิธบางลำพู
พิกัด : บางลำพู
จุดเด่น : พิพิธภัณฑ์ที่เล่าถึง “บางลำพู” หนึ่งย่านเก่าแก่ที่ในอยู่เขตกรุงรัตนโกสินทร์ ที่ที่ในอดีตถือเป็นแหล่งที่มีงานช่างฝีมืออันประณีตงดงามอยู่เป็นจำนวนมาก ทั้งเครื่องทอง เครื่องถม และยังเป็นย่านตลาดสำคัญที่มีความคึกคักมากแห่งหนึ่งของกรุงเทพในสมัยนั้นอีกด้วย นอกจากนี้ในบริเวณดังกล่าวยังอุดมไปด้วยต้นลำพูเป็นจำนวนมาก แต่ไฉน……….ทำไมวันนี้ต้นลำพูที่มีอยู่จึงหายไปจนหมดสิ้น T_T
วันที่เปิดบริการ : วันอังคาร – วันอาทิตย์ (ปิดทุกวันจันทร์)
เวลาที่เปิดบริการ : 10.00 – 18.00 น. (รอบบรรยายรอบสุดท้ายคือ 16.00 น.)
ค่าเข้า : เข้าชมฟรี
ระยะเวลาในการเข้าชม : 1.30 – 2 ชั่วโมง
อ่านรีวิวฉบับเต็มของพิพิธบางลำพู คลิกที่นี่
5. หอสมุดเมืองกรุงเทพมหานคร
หอสมุดเมืองกรุงเทพมหานคร : อีกหนึ่งสถานที่ดีๆ ที่คนรักหนังสือต้องไปเยือน
สถานที่ : หอสมุดเมืองกรุงเทพมหานคร
พิกัด : สี่แยกคอกวัว ราชดำเนิน
จุดเด่น : ห้องสมุดที่มีหนังสือดีๆ เป็นจำนวนมากให้เรานั่งอ่านฟรีๆ ที่สำคัญที่นั่งเยอะ, แอร์เย็นสบาย, สิ่งอำนวยความสะดวกพร้อม, บรรยากาศสวย และมีห้องส่วนตัวสำหรับคนที่ต้องการความเป็นไพรเวทสุดๆ ด้วยครับ บอกเลยว่าใครที่รักการอ่านไม่ควรพลาดเด็ดขาด และหากใครอยากจะยืมกลับมาอ่านที่บ้านก็สามารถทำได้ด้วยนะครับ
วันที่เปิดบริการ : วันอังคาร – วันอาทิตย์ (ปิดทุกวันจันทร์และทุกวันหยุดนักขัตฤกษ์)
เวลาที่เปิดบริการ : 8.00 – 21.00 น. (เฉพาะวันอาทิตย์เปิดเวลา 9.00 น.)
ค่าเข้า : เข้าชมฟรี
ระยะเวลาในการเข้าชม : แล้วแต่ความสามารถในการอ่านของแต่ละคน
อ่านรีวิวฉบับเต็มของหอสมุดเมืองกรุงเทพมหานคร คลิกที่นี่
6. วังบางขุนพรหม
วังบางขุนพรหม : ล้ำค่าทางประวัติศาสตร์ กับวังแสนสง่าเคียงคู่เจ้าพระยา
สถานที่ : วังบางขุนพรหม
พิกัด : ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานใหญ่ ถ.สามเสน
จุดเด่น : วังที่ว่ากันว่ามีความสวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย และมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ไทยมากในช่วงรัชกาลที่ ๕ จนถึงรัชกาลที่ ๗ นอกจากนี้ยังเป็นวังที่มีสถาปัตยกรรมบารอกและโรโคโคที่สมบูรณ์ที่สุดอีกด้วยครับ
วันที่เปิดบริการ : เปิดบริการเฉพาะวันเสาร์ โดยหลังวันที่ 30 มิ.ย. 61 เป็นต้นไปจะปิดไม่ให้เข้าชมเนื่องจากจะทำการบูรณะวังครั้งใหญ่
เวลาที่เปิดบริการ : เปิดเป็นรอบทั้งหมด 4 รอบด้วยกันได้แก่ รอบเวลา 10.30 น., 11.30 น., 13.30 น. และ 14.30 น. (จำกัดจำนวน รอบละ 100 คน และมีรอบให้เข้าชมเฉพาะวันเสาร์เท่านั้น)
ค่าเข้า : เข้าชมฟรี
ระยะเวลาในการเข้าชม : 1.30 ชั่วโมง
อ่านรีวิวฉบับเต็มของวังบางขุนพรหม คลิกที่นี่
7. ศูนย์การเรียนรู้ธนาคารแห่งประเทศไทย
ศูนย์การเรียนรู้ธนาคารแห่งประเทศไทย : เรียนรู้ เข้าใจ และเห็นคุณค่าของคำว่าเงินตรา
สถานที่ : ศูนย์การเรียนรู้ธนาคารแห่งประเทศไทย
พิกัด : ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานใหญ่ ถ.สามเสน
จุดเด่น : สถานที่ที่จะทำให้คุณเข้าใจความหมายของคำว่าเงินตราและการแลกเปลี่ยน โดยที่นี่นอกจากคุณจะได้มีโอกาสเห็นเหรียญในสมัยก่อนที่คนไทยและคนเชื้อชาติอื่นๆ ใช้กันแล้ว ที่นี่คุณยังจะได้เห็นเครื่องพิมพ์ธนบัตรไทย, ห้องมั่นคงที่ใช้เก็บธนบัตรไทยที่พึ่งพิมพ์เสร็จ คุณยังจะได้เห็นธนบัตรไทยตั้งแต่รุ่นแรกจนถึงรุ่นปัจจุบัน รวมไปถึงธนบัตรที่ระลึกสุดพิเศษทุกรูปแบบ เช่น ธนบัตรมูลค่าใบละ 500,000 บาทครับ
วันที่เปิดบริการ : วันอังคาร – วันอาทิตย์ (ปิดทุกวันจันทร์)
เวลาที่เปิดบริการ : 9.30 น. – 20.00 น. (สำหรับในส่วนของพิพิธภัณฑ์จะปิดตอน 16.00 น.)
ค่าเข้า : เข้าชมฟรี
ระยะเวลาในการเข้าชม : 1.30 – 2 ชั่วโมง
อ่านรีวิวฉบับเต็มของศูนย์การเรียนรู้ธนาคารแห่งประเทศไทย คลิกที่นี่
8. Museum Siam
Museum Siam : ถอดรหัสความเป็นไทย ค้นหาแก่นแท้ความเป็นตัวเรา
สถานที่ : Museum Siam (มิวเซียมสยาม)
พิกัด : ถ.สนามไชย ใกล้ๆ กับวัดโพธิ์
จุดเด่น : ที่ที่คุณจะได้ไปร่วมค้นหาและถอดรหัสความเป็นไทย ว่าอะไรคือไทยแท้ อะไรคือไทยประดิษฐ์ โดยที่นี่จะเล่าเรื่องและโยนโจทย์ให้คุณขบคิดค้นหาคำตอบไปเรื่อยๆ ผ่านห้องทั้งหมด 14 ห้อง ซึ่งในแต่ละห้องก็จะมีเรื่องราวที่ผมว่าแต่ละคนต้องรู้สึกว้าวหรือแอบทึ่งอยู่ในใจแน่ๆ ที่สำคัญสถานที่ของ Museum Siam นั้นมีความสวยงามมาก ใครที่ชอบการถ่ายรูปไม่ควรพลาดเลยครับ
วันที่เปิดบริการ : วันอังคาร – วันอาทิตย์ (ปิดทุกวันจันทร์)
เวลาที่เปิดบริการ : 10.00 น. – 18.00 น.
ค่าเข้า :
- นักเรียน / นักศึกษา : 50 บาท/คน
- ผู้ใหญ่คนไทย : 100 บาท/คน
- ผู้ใหญ่ชาวต่างชาติ : 200 บาท/คน
- เยาวชนอายุต่ำกว่า 15 ปี, ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป, พระภิกษุสงฆ์, นักบวช, ผู้พิการและทุพพลภาพ และมัคคุเทศก์ เข้าชมฟรี
- ผู้มีบัตร Muse Pass เข้าชมฟรี
- ถ้ามาเป็นหมู่คณะตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปลดค่าบัตรเข้าชม 50%
- ทุกวันหยุดนักขัตฤกษ์ เข้าชมฟรี
- หลังเวลา 16.00 น. ของทุกวัน เข้าชมฟรี
ระยะเวลาในการเข้าชม : 2 – 3 ชั่วโมง
อ่านรีวิวฉบับเต็มของ Museum Siam คลิกที่นี่
9. พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร : มรดกล้ำค่าทางประวัติศาสตร์ ที่ไม่สามารถประเมินราคาได้
สถานที่ : พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร
พิกัด : บริเวณสนามหลวง ใกล้กับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์
จุดเด่น : ที่ที่คุณจะได้มีโอกาสเห็นโบราณวัตถุ, โบราณสถาน, ราชรถที่ใช้ในงานราชพิธี หรือพระที่นั่งภายในวังหน้าของกรุงรัตนโกสินทร์อย่างใกล้ชิด โดยของบางอย่างที่จัดแสดงภายในพิพิธภัณฑสถานแห่งนี้ถือว่าเป็นของที่หายากมาก และไม่สามารถประเมินมูลค่าได้เลย และของบางชิ้นน่าจะมีเพียงชิ้นเดียวในโลกเลยครับ!!
วันที่เปิดบริการ : วันพุธ – วันอาทิตย์ (ปิดทุกวันจันทร์ และ วันอังคาร)
เวลาที่เปิดบริการ : 9.00 น. – 16.00 น. (เปิดจำหน่ายบัตรถึง 15.30 น.)
ค่าเข้า :
- คนไทย 30 บาท
- ชาวต่างชาติ 200 บาท
- นักเรียน นักศึกษา ผู้สูงอายุ นักบวช และพระ เข้าชมฟรี
ระยะเวลาในการเข้าชม : 3 – 5 ชั่วโมง
อ่านรีวิวฉบับเต็มของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร คลิกที่นี่
เป็นอย่างไรบ้างล่ะครับ กับ The Hidden Gems Thailand……..เสน่ห์ของพิพิธภัณฑ์ที่ซ่อนเร้น ทั้ง 9 ที่ที่ผมนำมาฝากทุกคนในวันนี้ ถ้าชอบใจหรือถูกใจอันไหนก็อย่าลืมกดไปอ่านรีวิวเต็มกันต่อตามลิงก์ที่ผมเขียนไว้ในแต่ละสถานที่ หรือไม่ก็กดไลค์กดแชร์กันด้วยนะครับ
และสำหรับใครที่รู้ตัวว่าเป็นคนชอบท่องเที่ยวพิพิธภัณฑ์หรือสถานเรียนรู้เหล่านี้แต่ยังไม่รู้ว่าในประเทศไทยของเรานั้นมีบัตรที่ชื่อว่า Muse Pass อยู่ ผมก็ขออนุญาตแนะนำให้ทุกคนรู้จักกับบัตรใบนี้เลยแล้วกันนะครับ ^^
Muse Pass คือบัตรเที่ยวพิพิธภัณฑ์และแหล่งเรียนรู้ในประเทศไทย โดยเพียงแค่เราจ่ายเงินซื้อบัตรนี้เพียงแค่ครั้งเดียว เราก็จะสามารถเข้าชมพิพิธภัณฑ์และสถานเรียนรู้ในประเทศไทยที่เข้าร่วมโครงการได้ทั้งหมด โดยที่ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ เพิ่มเติมเลยเป็นเวลา 1 ปีครับ (บัตร 1 ใบ/คน/ครั้ง) โดยบัตรนี้จะมีการทำออกมาจำหน่ายปีละครั้งและมีราคากับรายละเอียดแตกต่างกันออกไป อย่างในปี พ.ศ. 2561 นั้นก็จะเป็น Muse Pass Season 6 ที่จำหน่ายในราคา 299 บาท/ชุด และสามารถเข้าชมแหล่งเรียนรู้และพิพิธภัณฑ์ทั่วประเทศไทยได้ฟรี!! ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดรวมกว่า 63 แห่ง พร้อมทั้งยังมีส่วนลดคูปองร้านค้าและกิจกรรมต่างๆ อีกกว่า 20 ร้านค้าด้วยครับ!!
ใครที่คิดว่าบัตรนี้น่าสนใจและมีแพลนจะไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์หรือสถานเรียนรู้ต่างๆ เหล่านี้อยู่แล้วก็ลองดูรายละเอียดต่างๆ เพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/notes/muse-pass/faqmuse-pass-season-6/1271623416208128/ หรือที่ Facebook Fanpage Muse Pass ได้เลยครับ แต่โดยส่วนตัวผมบอกเลยว่านี่เป็นหนึ่งบัตรที่ดีและคุ้มค่ามากๆ เลย
ว่าแล้วก็หยิบกระเป๋า คว้ากล้อง หันไปชวนคนข้างๆ แล้วออกเดินทางไปเรียนรู้เรื่องราวใหม่ๆ ในชีวิตกันเถอะครับ!!! Let’s go!!