แฮะๆ ด้วยสถานการณ์ Covid-19 ที่แพร่ระบาดในประเทศไทยในช่วงที่ผ่านมา ก็เลยทำให้บทความซีรีย์นี้ของผมต้องห่างหายไปนานหลายเดือนเลย แต่หลังจากที่หลายๆ อย่างมันเริ่มคลี่คลายขึ้น และผู้คนในไทยส่วนใหญ่ต่างก็เริ่มกลับมาใช้ชีวิตกันแบบใกล้เคียงปกติแล้ว โดยที่มีการปรับตัวบางส่วนให้เข้ากับยุค New Normal นี้ มันก็ถึงเวลาแล้วล่ะครับที่ผมจะพาทุกคนไปพบกับซีรีย์ตะลุยรีวิว Fitfac Muaythai Academy เผยทุกมุมของแต่ละสาขาในกรุงเทพว่าเป็นอย่างไรบ้าง โดยวันนี้จะเป็นตอนจบของซีรีย์นี้แล้วครับ เพราะสาขาที่ผมจะพาทุกคนไปชมในวันนี้นั้นเป็นสาขาที่ 10 หรือสาขาสุดท้ายในกรุงเทพของทาง Fitfac Muaythai Academy ในตอนนี้ครับ และสาขาที่ว่านั้นก็คือสาขาราชพฤกษ์ซึ่งอยู่แถวบ้านของผมนั่นเองคร้าบบบบบบบ

และด้วยความที่ตอนนี้ผู้ให้บริการต่างๆ ในประเทศไทยของเรานั้นต่างก็ได้มีการปรับตัวเองให้เข้ากับวิถี New Normal เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรค Covid-19 กันอย่างชัดเจน โดยทาง Fitfac Muaythai Academy ก็ได้มีการปรับตัวในประเด็นนี้หลายอย่างเลยครับ ทั้งเรื่องการเข้าใช้บริการ, การจองคลาสล่วงหน้า, การให้บริการผ้าพันมือ, การทำความสะอาดอุปกรณ์และสถานที่ รวมไปถึงเรื่องอัตรค่าบริการ ซึ่งหลายๆ เรื่องผมว่ามันก็น่าสนใจดีนะ ดังนั้นในบทความนี้ผมก็เลยจะทำการรวบยอดเล่าประเด็นที่น่าสนใจเหล่านี้ รวมไปกับการรีวิวของสาขาราชพฤกษ์เลยนะครับ ถ้าใครพร้อมแล้วก็ตามกันไปอ่านได้เลยครับ ^^

หมายเหตุ : หลังจากนี้ผมจะขอเรียก Fitfac Muaythai Academy สั้นๆ ว่า Fitfac เท่านั้นนะครับ

Disclosure : บทความนี้ได้รับการสนับสนุนจากผู้ให้บริการ แต่ทั้งนี้ความเห็นต่างๆ ที่เกิดขึ้นเป็นความรู้สึกจริงของผมครับ

สำหรับหัวข้อแรกที่ผมจะขอเล่าก่อนเลยในรีวิวหรือบทความนี้ก็คือ เรื่องการปรับตัวและการเปลี่ยนแปลงของทาง Fitfac ในยุค New Normal ครับ โดยเนื้อหาต่างๆ เหล่านี้จะอ้างอิงการที่ผมได้เข้าไปใช้บริการ Fitfac สาขาต่างๆ ในช่วงเดือนกรกฏาคม – สิงหาคม 2563 นะครับ


นโยบายและการปรับตัวของ Fitfac ยุค New Normal (Update สิงหาคม 2563)

  1. ในการเข้าใช้บริการคลาสต่างๆ ของทาง Fitfac ผู้ใช้บริการทุกคนจะต้องทำการจองคลาสล่วงหน้าผ่าน Application ในมือถือที่ชื่อว่า Perfect Gym Go (มีทั้ง Android และ iOS) โดยภายใน Application นี้ ทุกคนจะสามารถดูข้อมูลพื้นฐานของ Fitfac สาขาต่างๆ ได้หมด ทั้งภาพสถานที่, ที่ตั้ง รวมไปถึงสามารถกดจองคลาสที่เราต้องการจะเข้าไปใช้บริการได้ โดยเราสามารถกดจองล่วงหน้าได้ประมาณ 2 วันครับ

  2. ในการใช้บริการแต่ละรอบนั้น ทาง Fitfac จะมีการกำหนดจำนวนคนที่สามารถใช้บริการสูงสุดต่อคลาสเอาไว้ ซึ่งแต่ละสาขาก็จะมีการกำหนดจำนวนที่ไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับสถานที่และจำนวนครูมวย โดยหากมีคนทำการจองรอบเวลานั้นเต็มจำนวนแล้ว เราจะไม่สามารถทำการจองคลาสนั้นเพิ่มได้ครับ แต่หากใครอยากจะเล่นรอบเวลานั้นจริงๆ ก็สามารถที่จะไปแสตนบายด์ที่สาขาได้ หากคนที่จองไว้ยกเลิก เราก็จะสามารถเข้าใช้บริการแทนได้ครับ

  3. เมื่อเราไปถึงสาขาที่ต้องการใช้บริการ ทาง Fitfac จะมีการวัดอุณหภูมิของเราทุกครั้ง รวมถึงผู้ใช้บริการคนอื่นๆ ด้วย โดยหากใครที่มีอุณหภูมิสูงเกิน 5 องศาเซลเซียส ทาง Fitfac จะขออนุญาตปฏิเสธการให้บริการบุคคลนั้นในวันนั้นครับ

  4. ทุกสาขาของทาง Fitfac จะมีการกำหนดระเบียบในการทำความสะอาดสถานที่และอุปกรณ์ในการออกกำลังกายอย่างเคร่งครัด อย่างสาขาตลิ่งชันที่ผมไปใช้บริการบ่อยๆ ก็จะให้ผู้ใช้บริการทุกคนช่วยกันฉีดสเปรย์แอลกอฮอล์บนอุปกรณ์ที่ตัวเองใช้เสร็จแล้วทุกครั้งครับ เห็นแล้วก็รู้สึกมั่นใจและปลอดภัยพอควรเลย

  5. ในการลงนวมล่อเป้ากับครูมวยในช่วงนี้ จากเดิมที่เราเคยสามารถเปลี่ยนครูมวยหลังจากจบแต่ละยกไปเรื่อยๆ จนครบ 4 ยกได้ จะกลายเป็นในแต่ละวันที่เราใช้บริการนั้น เราจะต้องลงนวมล่อเป้ากับครูมวยคนเดิมตลอดทั้ง 4 ยก โดยเราสามารถเลือกครูมวยที่เราต้องการลงนวมได้ ตั้งแต่ตอนที่เราไปถึงสาขาก่อนที่คลาสจะเริ่มครับ

  6. ในส่วนของนวมชกมวยและผ้าพันมือนั้น เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของ Covid-19 ในช่วงนี้ทาง Fitfac จึงเปิดบริการให้ทุกคนสามารถยืมได้เฉพาะนวมชกมวยเท่านั้น ส่วนผ้าพันมือทุกคนจะต้องเตรียมไปเอง เค้าจะไม่มีบริการให้ยืมเป็นการชั่วคราวครับ

  7. ในการออกกำลังกายทุกช่วง ทาง Fitfac จะมีการกำหนดระยะห่างไม่ให้ผู้ใช้บริการแต่ละคนออกกำลังกายใกล้กันจนเกินไป และกำชับให้ครูฝึกกับครูมวยทุกคนสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่สามารถทำได้ครับ

  8. การออกกำลังกายในส่วนของ Weight Training ในช่วงนี้ จะเน้นที่การใช้อุปกรณ์ของใครของมันตลอดการออกกำลังกายในแต่ละวัน จะไม่มีการหมุนเวียนอุปกรณ์ใช้ในช่วงนั้นๆ เพื่อลดการสัมผัสอุปกรณ์ระหว่างเรากับผู้ใช้บริการท่านอื่นๆ ซึ่งมันก็เลยทำให้ช่วงนี้เราอาจจะไม่ได้ใช้อุปกรณ์พิเศษที่เป็นพวกเชือก หรืออุปกรณ์ออกกำลังกายขนาดใหญ่อื่นๆ เป็นการชั่วคราวนะครับ

  9. สำหรับใครที่สมัครคอร์สการเล่นแบบบุฟเฟต์ประเภทต่างๆ ไว้ จากเดิมที่เราเคยสามารถเล่นวันละกี่รอบก็ได้ หากรอบนั้นๆ มีพื้นที่ว่าง ตอนนี้จะเปลี่ยนเป็นเราสามารถเล่นได้วันละ 1 รอบเท่านั้นครับ แต่ในแต่ละเดือนเราจะเล่นกี่วันก็ได้ ขึ้นอยู่กับรูปแบบของแพคเกจที่เราได้สมัครไว้ครับ

อัตราค่าบริการ (Update สิงหาคม 2563)

ตั้งแต่ที่ทาง Fitfac ได้กลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งในช่วงกลางเดือนมิถุนายน 2563 ทาง Fitfac ก็ได้มีการออกโปรพิเศษรวมทั้งปรับอัตราค่าบริการต่างๆ อยู่เป็นระยะ ทั้งโปรสู้โควิดที่แถมผ้าพันมือและนวมชกมวย, โปรเรียนต่อเนื่อง 15 วัน จนไปถึงโปรเรียนเดี่ยวแบบพิเศษ ซึ่งแต่ละโปรต่างก็มีความน่าสนใจและจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไปครับ แต่หากพูดถึงโปรโมชั่นและคอร์สหลักๆ ที่น่าสนใจสำหรับบุคคลทั่วไปแล้ว ผมว่าคอร์สด้านล่างนี้คือคอร์สที่คนส่วนใหญ่น่าจะเลือกใช้บริการและมีความคุ้มค่าที่สุดในมุมมองของผมในตอนนี้แล้วครับ

  • แบบ 1 เดือน Unlimited : ราคา 5,000 บาท/คน/เดือน โดยคอร์สนี้เราจะสามารถออกกำลังกายที่ Fitfac ทั้ง 10 สาขาในกรุงเทพได้ทุกวัน (วันละ 1 รอบ) โดยเราจะสามารถใช้บริการกี่วันก็ได้ใน 1 เดือน ใครที่ฟิตๆ หน่อยก็สามารถไปใช้บริการได้ทั้ง 30 วันเลยครับ สำหรับคอร์สนี้โดยส่วนตัวผมมองว่าเหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มเล่น และยังไม่แน่ใจว่าตัวเองชอบหรือเปล่า หรือไม่แน่ใจว่าจะเล่นได้ต่อเนื่องนานแค่ไหน ดังนั้นการลองจ่ายแบบทีละ 1 เดือนแบบนี้ จึงน่าจะเป็นอะไรที่ดีสุดครับ

  • แบบ 3 เดือน Cheat Day : ราคา 5,000 บาท/คน (เฉลี่ยเดือนละ 1,667 บาท) โดยคอร์สนี้เราจะสามารถออกกำลังกายที่ Fitfac ทั้ง 10 สาขาในกรุงเทพได้เฉพาะวันศุกร์, เสาร์ และอาทิตย์เท่านั้นครับ (วันละ 1 รอบ) โดยรวมจึงเหมาะสำหรับคนที่ทำงานประจำแล้วเลิกงานดึกหรือมีเวลาเลิกงานที่ไม่แน่นอน และเน้นการออกกำลังกายที่วันเสาร์ – อาทิตย์ เป็นหลักครับ

  • แบบ 3 เดือน Regional : ราคา 7,500 บาท/คน (เฉลี่ยเดือนละ 2,500 บาท) โดยคอร์สนี้เราจะสามารถออกกำลังกายที่ Fitfac 6 สาขา ในกรุงเทพได้ทุกวัน ตลอดระยะเวลา 3 เดือน (วันละ 1 รอบ) โดยทั้ง 6 สาขานั้นจะประกอบไปด้วยสาขารังสิต, ตลิ่งชัน, ศรีนครินทร์, เมืองทอง, รามอินทรา และราชพฤกษ์ ซึ่งหากใครสังเกตดีๆ จะเห็นว่าสาขาพวกนี้จะเป็นสาขาที่อยู่โซนรอบนอกของกรุงเทพนิดนึงครับ ใครที่อยู่ในโซนพวกนี้ผมแนะนำเลยนะ เพราะมันเป็นแพคเกจที่ผมว่าคุ้มค่าที่สุดแล้วครับ ตัวผมเองก็สมัครแพคเกจนี้เอาไว้ครับ

  • แบบ 3 เดือน All Day : ราคา 8,500 บาท/คน (เฉลี่ยเดือนละ 2,833 บาท) สำหรับคอร์สนี้เป็นคอร์สที่เหมาะสำหรับคนที่ชอบออกกำลังกายกับ Fitfac มาก และไม่แน่ใจตัวเองว่าตลอดระยะเวลา 3 เดือนนั้นเราจะได้ไปใช้บริการที่สาขาไหนบ้าง เพราะคอร์สนี้เราจะสามารถออกกำลังกายที่ Fitfac ทั้ง 10 สาขาในกรุงเทพได้ทุกวันเลยครับ (วันละ 1 รอบ) ซึ่งถ้าใครเป็นคนที่ใช้บริการที่นี่แบบสม่ำเสมออยู่แล้ว มันจะเป็นอะไรที่คุ้มค่ากว่าการจ่ายแบบ 1 เดือน Unlimited มากๆ เรียกว่าถูกกว่ากันเกือบครึ่งเลยครับ

หมายเหตุ : ราคาดังกล่าวเป็นการอ้างอิงราคาในช่วงเดือนสิงหาคม 2563 นะครับ และทุกแพคเกจสามารถจ่ายด้วยบัตรเครดิต ผ่อน 0% 3 เดือนได้ นอกจากนี้สำหรับคนที่สมัครคอร์สแบบ 3 เดือนและต้องการต่ออายุสมาชิกในเดือนที่ 4 เป็นต้นไปยังจะได้ส่วนลดราคาพิเศษเพิ่มอีกด้วยนะครับ

และนอกจากคอร์สด้านบนนี้ ทาง FITFAC ยังจะมีคอร์สใหม่ออกมาเพิ่มอีก 3 แบบ ซึ่งจะเป็นคอร์สเฉพาะด้านที่ผมว่ามีความน่าสนใจมากเหมือนกันครับ ใครที่สนใจก็ลองติดตามข่าวคราวของเค้าดูนะ เพราะตอนที่ผมเขียนรีวิวนี้รายละเอียดของราคามันยังไม่ออกเลยครับ

  1. คอร์สเพิ่มกล้ามเนื้อ : เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มความแข็งแรงของร่างกาย และเพิ่มกล้ามเนื้อเป็นพิเศษ

  2. คอร์สมวยไทยป้องกันตัว : เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการจะเรียนอย่างจริงจัง และสามารถนำไปใช้งานได้จริง

  3. คอร์สมวยสากล : เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเรียนมวยสากลโดยเฉพาะ

โดยช่องทางการติดตามข่าวสารรวมถึงการสอบถามข้อมูลต่างๆ ของทาง Fitfac ที่ดีที่สุดในตอนนี้ก็น่าจะเป็น Line@ : @Fitfac นะครับ ใครที่สนใจก็ลองแอดไลน์ไปนะ แล้วก็อย่าลืมด้วยว่าหน้าคำว่า Fitfac ต้องมี @ ด้วยนะครับ ^^

Fitfac Muaythai Academy

Perfect Gym Go Application

สำหรับ Application Perfect Gym Go นั้น จะเป็น Application หลักที่ทาง Fitfac เปิดให้ลูกค้าทุกคนใช้งานกันครับ โดยภายใน Application จะประกอบไปด้วยสิ่งต่างๆ มากมาย ทั้งที่ตั้งของแต่ละสาขา, ภาพของแต่ละสาขา, ระบบการจองและยกเลิกคลาส, ระบบสมาชิกและข้อมูลสมาชิกของเรา รวมไปถึงระบบการ Check in เข้าใช้บริการในแต่ละวันครับ ซึ่งโดยรวมต้องบอกว่ามันเป็น Application ที่ทำให้หลายๆ คนไปใช้บริการที่ Fitfac ได้สะดวกขึ้นเลยล่ะ ที่สำคัญมันยังใช้งานง่ายมากๆ ด้วย ลองเล่นแป๊บเดียวก็ใช้เป็นแล้ว ใครที่เป็นลูกค้าที่นี่ต้องมีติดมือถือเอาไว้เลยครับ และ Application นี้มีให้โหลดทั้ง Android และ iOS เลยนะ

เอาล่ะ หลังจากที่เรารู้เรื่องต่างๆ ของทาง Fitfac ที่มีการเปลี่ยนแปลงไปหลังจากการเปิดให้บริการอีกครั้งในยุค New Normal ป้องกันเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของ Covid-19 กันไปครบแล้ว คราวนี้เราก็ไปดูรายละเอียดของ Fitfac สาขาราชพฤกษ์ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของรีวิวนี้กันดีกว่าครับ

วันที่ไปใช้บริการ : วันศุกร์ที่ 14 สิงหาคม 2563

เวลาที่ไปใช้บริการ : 13.30 น. – 15.30 น.


ที่ตั้งของสาขา

สำหรับ Fitfac สาขาราชฤกษ์นั้นจะตั้งอยู่ใน Food Villa ถนนราชพฤกษ์ ใกล้ๆ กับ The Circle ราชพฤกษ์เลยครับ โดย Food Villa นั้นจะเป็นโครงการขนาดใหญ่ที่อยู่ติดกับถนนราชพฤกษ์เลย สามารถมองเห็นได้ชัดเจนมาก ภายในโครงการจะมีของจำหน่ายมากมายทั้งอาหาร, เสื้อผ้า, ต้นไม้ รวมไปถึงสถานที่ออกกำลังกาย, ร้านเสริมสวย และอื่นๆ ครับ

อันนี้จะเป็นหน้าตาด้านหน้าโครงการ Food Villa นะครับ โครงการจะอยู่ติดถนนเลยครับ

ภายในโครงการจะมีที่จอดรถมากมาย โดยอัตราค่าบริการจอดรถนั้น 3 ชั่วโมงแรกจอดฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดใด ส่วนชั่วโมงที่ 4 และ 5 นั้นจะชั่วโมงละ 20 บาทครับ ซึ่งถือว่าเป็นอัตราค่าจอดรถที่ไม่แพงเลย ที่สำคัญถ้าเรามาออกกำลังกายที่ Fitfac เพียงอย่างเดียว หรืออาจจะเดินหาซื้ออะไรอีกนิดหน่อย ยังไงก็ไม่เกิน 3 ชั่วโมงครับ เราไม่ต้องเสียค่าจอดรถเลย ^^

ภาพนี้จะเป็นภาพหน้าตาทางเข้า Food Villa บริเวณด้านหลังที่อยู่ติดกับลานจอดรถนะครับ

โดยหากเราเข้าทางด้านหลัง Food Villa ที่ติดกับลานจอดรถนี้ เราจะเห็นบันไดและลิฟท์เพื่อขึ้นไปยังชั้น 2 ครับ เราก็ขึ้นไปเลยและเดี๋ยวเราก็จะเห็น Fitfac สาขาราชพฤกษ์ทันทีครับ สีเหลืองของเค้าดูโดดเด่นแต่ไกล และมันก็อยู่ใกล้ๆ กับบันไดและลิฟท์มาก ขึ้นมาปั๊บก็เห็นทันทีครับ

บรรยากาศภายใน

ลักษณะของ Fitfac สาขาราชพฤกษ์นั้นจะเป็นพื้นที่แนวยาวรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า บรรยากาศดูโปร่งโล่งสบายตา และมีผนังด้านนึงเป็นกระจกใสยาวที่สามารถมองเห็นด้านนอกได้ตลอดแนว โดยที่ผนังฝั่งที่เป็นกระจกนี้จะมีการติดตั้งม่านเอาไว้ดึงบังแสงหรือสายตาจากคนด้านนอกในช่วงเวลาที่ต้องการได้ด้วยครับ ส่วนที่บริเวณพื้นนั้นก็จะมีการปูพื้นยางสีเหลืองดำซึ่งเป็นโทนสีของ Fitfac เกือบตลอดพื้นที่ ซึ่งด้วยลักษณะพื้นที่แบบนี้มันก็เลยทำให้การจัดระเบียบและการแบ่งพื้นที่การออกกำลังกายในช่วงต่างๆ นั้นมันเป็นสัดส่วนและดูง่ายมากๆ โดยในความเห็นของผมนั้นเราจะสามารถแบ่งพื้นที่ของสาขานี้ออกเป็น 3 ส่วนง่ายๆ ได้ดังนี้ครับ

ส่วนแรกสุดก็คือส่วนด้านหน้าที่ทุกคนจะได้เจอหลังจากที่เปิดประตูเข้าสาขามา บริเวณนี้จะเป็นเคาเตอร์ต้อนรับลูกค้าครับ จะมีเจ้าหน้าที่คอยประจำอยู่ตลอดเวลา ใครสนใจหรือสงสัยอะไรก็มาสอบถามได้ครับ

นอกจากนี้ที่จุดนี้ก็จะมีการจำหน่ายน้ำเปล่า รวมไปถึงอุปกรณ์การออกกำลังกายต่างๆ ของทาง Fitfac ด้วยครับ ใครยังขาดเหลืออะไรก็ลองไปส่องดูได้นะ

ส่วนใครที่พึ่งเคยมาใช้บริการที่สาขานี้ครั้งแรก หรือพึ่งมาใช้บริการไม่นาน ที่นี่ก็จะมีการพิมพ์ภาพครูมวยพร้อมชื่อเอาไว้ให้เราดูด้วยนะครับ เราจะได้เรียกชื่อถูกและจำได้ว่าครูมวยคนไหนสไตล์ไหน ครั้งต่อไปเราอยากลงนวมกับใครจะได้เลือกถูกครับ

ส่วนบริเวณที่สองนั้นจะเป็นบริเวณตรงกลางของสาขา และน่าจะเป็นบริเวณที่มีพื้นที่กว้างที่สุดแล้ว โดยบริเวณนี้จะเป็นจุดที่ใช้สำหรับการออกกำลังกายในช่วงที่ 1 (Warm up and Shadow Boxing) และช่วงที่ 2 (Sparring / ลงนวมล่อเป้า) ครับ โดยจากที่ผมสังเกตดูพื้นที่ตรงนี้น่าจะสามารถรองรับคนลงนวมล่อเป้า 6-7 คู่พร้อมกันได้อย่างสบายๆ และหากไม่พอจริงๆ ก็ยังสามารถขยับพื้นที่เลยไปในส่วนที่ 3 อีกได้ เพราะในช่วงเวลาที่เราลงนวมล่อเป้านั้น พื้นที่ในส่วนที่ 3 จะว่าง ไม่มีใครใช้งานครับ

อ้อ สำหรับคนที่ต้องการความเหนื่อยแบบสุดๆ หลังจากจบการลงนวมล่อเป้าแต่ละยกแล้ว เราสามารถขอให้ครูมวยช่วยควบคุมให้เราซิทอัพได้ด้วยนะครับ บอกเลยว่าเหนื่อยมากกกก ชกมวย 3 นาทีก็จะหมดแรงอยู่แล้ว เจอแบบนี้เข้าไปอีก แทบคลานกลับบ้านครับ T_T

ส่วนนี่คือพื้นที่ส่วนที่ 3 และเป็นพื้นที่สำหรับการออกกำลังกายในช่วงที่ 3 (Weight Training) ครับ โดยพื้นที่บริเวณนี้จะอยู่ด้านในสุดของสาขาเลย และไม่ได้กว้างซักเท่าไหร่นัก แต่โดยรวมก็ยังสามารถที่จะออกกำลังกายพร้อมกัน 6-7 คนได้อยู่ครับ และหากมีคนไปใช้บริการมากกว่านั้น เราก็สามารถขยับเข้าไปในส่วนพื้นที่ของโซนที่ 2 ได้ เพราะช่วงที่คนส่วนใหญ่ Weight Training กันอยู่ พื้นที่ในส่วนที่ 2 จะเป็นการวอร์มอัพ ซึ่งจะใช้พื้นที่ในการเคลื่อนไหวน้อยกว่าการลงนวมล่อเป้าอยู่แล้วครับ

และนี่เป็นภาพของอุปกรณ์การออกกำลังกายที่ทาง Fitfac สาขาราชพฤกษ์มีครับ หน้าตาและความสมบูรณ์ต่างๆ ถือว่าดีเลย รวมทั้งยังมีปริมาณและความหลากหลายมากกว่าสาขาตลิ่งชันที่ผมไปใช้บริการประจำอีกด้วยครับ

ส่วนนี่จะเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่ทาง Fitfac ราชพฤกษ์มีครับ นวมชกมวย, ตู้ล็อคเกอร์ แล้วก็เครื่องกดน้ำดื่ม โดยในส่วนของนวมชกมวยนั้นสภาพต่างๆ ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีเลย ส่วนขนาดของตู้ล็อคเกอร์ก็ถือว่าใหญ่ดี สามารถจุของได้เยอะ เสียแต่ว่าปริมาณตู้ล็อคเกอร์นั้นมันอาจจะน้อยไปนิด เมื่อเทียบกับสาขาอื่นๆ ครับ

และนี่ก็คือห้องน้ำภายในสาขาครับ โดยห้องน้ำภายใน Fitfac สาขาราชพฤกษ์นั้นจะเน้นไปที่ห้องอาบน้ำเป็นหลักครับ มีการแบ่งเพศชายหญิงชัดเจน โดยในส่วนของห้องน้ำชายจะประกอบไปด้วยห้องอาบน้ำ 2 ห้องแล้วก็อ่างล่างหน้า ภายในห้องอาบน้ำมีเครื่องทำน้ำอุ่น รวมถึงสบู่และยาสระผมให้ครบ ส่วนประตูห้องอาบน้ำนั้นก็จะเป็นแบบผ้าใบรูดเปิดปิดเหมือนกับสาขาส่วนใหญ่ของ Fitfac ครับ

ส่วนใครที่ต้องการใช้บริการห้องสุขาจะต้องเดินออกไปใช้บริการที่ห้องน้ำของทาง Food Villa นะครับ ซึ่งมันก็อยู่ไม่ไกลมาก เดินออกจาก Fitfac ไปประมาณ 60-70 เมตรก็น่าจะถึงแล้วครับ

ทั้งหมดนี้ก็คือภาพรวมของ Fitfac สาขาราชพฤกษ์ ในมุมมองผมครับ และเพื่อให้ทุกคนได้เห็นภาพต่างๆ ชัดเจนมากขึ้น ผมก็จะขอสรุปทิ้งท้ายพร้อมกับให้คะแนนในแต่ละหัวข้อว่าจากที่ผมได้ไปใช้บริการที่สาขานี้มาในวันที่ทำรีวิวนี้ ผมรู้สึกอย่างไรบ้าง ยังไงก็ลองอ่านกันดูนะ อีกนิดเดียวก็จบแล้วครับ

ทำเลที่ตั้งและความสะดวกในการเดินทาง : ข้อนี้ผมขอให้ 8 คะแนนจาก 10 นะครับ เพราะทำเลที่ตั้งของสาขาราชพฤกษ์นั้นแม้จะอยู่ติดถนนใหญ่ สามารถมองเห็นได้ชัดเจน มีที่จอดรถเยอะ แต่พื้นที่บริเวณนี้มันเป็นพื้นที่ที่เหมาะสำหรับคนที่มีรถส่วนตัวเท่านั้น ใครที่ปกติเดินทางด้วยรถ BTS, MRT หรือรถเมล์ จะไม่สามารถมาใช้บริการที่สาขานี้ได้เลยครับ แต่สำหรับคนที่มีรถส่วนตัวนั้นที่นี่ถือว่าสะดวกมากเลย เพราะที่จอดรถเค้าเยอะ แถมยังจอดได้ฟรีตั้ง 3 ชั่วโมง ที่สำคัญหลังจากที่เราออกกำลังกายเสร็จแล้ว เรายังสามารถเดินซื้อของต่างๆ โดยเฉพาะอาหารกลับได้ด้วย บอกเลยว่าของกินที่นี่เยอะมากและรสชาติดีหลายร้านเลยครับ อ้อ….แต่ผมเตือนไว้นิดนึงนะ ช่วงเย็นๆ ของวันธรรมดา รวมถึงวันเสาร์อาทิตย์บางช่วง ถนนบริเวณหน้า Food Villa นี่ถือว่ามีการจราจรที่ติดขัดใช้ได้เลยนะ ><

บรรยากาศโดยรวม : ข้อนี้ผมให้ที่ 9 คะแนนครับ เพราะโดยรวมผมชอบเลย์เอาท์ของสาขานี้ มันเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าดูง่ายดี มีการแบ่งสัดส่วนต่างๆ ได้อย่างชัดเจน ส่วนในเรื่องของความสะอาดนั้นก็ถือว่าทำได้ดีเลยครับ

ปริมาณและความสมบูรณ์ของอุปกรณ์ออกกำลังกาย : ข้อนี้ผมให้ที่ 9.5 คะแนนนะครับ อุปกรณ์การออกกำลังกายต่างๆ เยอะดี มีทั้งที่เป็นอุปกรณ์พื้นฐานแล้วก็อุปกรณ์พิเศษ ส่วนสภาพอุปกรณ์โดยรวมนั้นก็อยู่ในเกณฑ์ที่ดีครับ หลายๆ ชิ้นยังใหม่เอี่ยมอยู่เลย เสียอย่างเดียวเท่านั้นคือที่สาขานี้ไม่มีเวทีมวยด้วย ไม่งั้นผมว่าตัวผมเองอาจจะได้มาใช้บริการบ่อยๆ เลยล่ะครับ

ห้องอาบน้ำและห้องสุขา : สำหรับข้อนี้ผมขอให้คะแนนเฉพาะห้องอาบน้ำที่อยู่ภายใต้การดูแลของ Fitfac เพียงอย่างเดียวนะครับ โดยคะแนนในหัวข้อนี้ผมขอให้ที่ 9 คะแนนครับ เพราะถึงแม้ความสะอาดของห้องน้ำต่างๆ จะอยู่ในเกณฑ์ที่ดี มีเครื่องทำน้ำอุ่นและครีมอาบน้ำ, ยาสระผมให้ครบ แต่ผมว่าปริมาณของห้องอาบน้ำมันดูน้อยไปนิดนึงเมื่อเทียบกับปริมาณของคนที่มาออกกำลังกายที่สาขานี้ อีกทั้งพอเค้าไม่มีห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าแยกออกไปต่างหาก มันก็เลยทำให้คนที่ต้องการเปลี่ยนเสื้อผ้าต้องเปลี่ยนในห้องอาบน้ำด้วย ซึ่งจะทำให้บางช่วงเวลาที่มีคนไปใช้บริการพร้อมกันจำนวนมาก อาจจะต้องเกิดการรอคิวกันได้ครับ ^^

หมายเหตุ : สำหรับความเห็นและคะแนนในแต่ละหัวข้อนั้นเป็นเพียงความคิดเห็นในวันและเวลาที่ผมไปใช้บริการเท่านั้น ทั้งนี้แต่ละคนอาจจะมีความเห็นที่แตกต่างจากนี้ออกไปได้ครับ

และทั้งหมดนี้ก็คือรีวิวของ Fitfac สาขาราชพฤกษ์ครับ ใครที่ใช้ชีวิตอยู่แถวๆ นั้น หรือใช้เวลาขับรถไปไม่นานมาก อยากจะหาสถานที่ออกกำลังกายที่มีที่จอดรถเยอะ รวมทั้งสามารถซื้ออาหารต่างๆ ติดไม้ติดมือกลับบ้านได้ด้วย สาขานี้ถือว่าน่าสนใจเลยครับ ใครที่สนใจก็ลองแวะเวียนไปดูพื้นที่จริงก่อนได้นะ หรือจะลองติดต่อสอบถามข้อมูลเบื้องต้นตามช่องทางด้านล่างนี้ก่อนก็ได้ครับ

Facebook : Fitfac Muaythai – ราชพฤกษ์

Tel : 096-7011024

Line : @Fitfac

ส่วนใครที่ดูแล้วคิดว่าสาขานี้น่าจะยังไม่ค่อยเหมาะกับตัวเองซักเท่าไหร่ แต่ก็อยากไปออกกำลังกายที่ Fitfac ดู ก็สามารถอ่านรีวิวของ Fitfac สาขาอื่นๆ ในกรุงเทพที่ผมเคยเขียนไว้ก่อนหน้านี้ทั้ง 9 สาขาก็ได้ครับ ผมไปลองมาหมดแล้วว่าแต่ละที่เป็นยังไงบ้าง เผื่อใครอ่านดูแล้วจะรู้สึกถูกชะตากับที่ไหนเป็นพิเศษครับ ^^

โดยใครที่อยากจะรู้ว่าแต่ละสาขาเดินทางไปยังไง นอกจากจะอ่านในรีวิวข้างบนของผมแล้ว ยังสามารถกดูเป็นภาพเคลื่อนไหวที่ลิงก์นี้ได้อีกด้วยนะครับ https://www.youtube.com/channel/UC01HPmB3ADTicqGlEZXSFFQ/videos

ขอบคุณทุกท่านมากๆ ที่ติดตามอ่านจนจบ และตอนนี้ก็ถือเป็นตอนสุดท้ายปิดฉากซีรีย์รีวิวนี้ของผมซักที 10 สาขาในกรุงเทพครบถ้วน แต่ไม่แน่นะว่าในอนาคตผมอาจจะมีเรื่องราวดีๆ ของทาง Fitfac มาเล่าให้ทุกคนต่อ ใครที่สนใจยังไงหรืออยากจะติดตามอ่านรีวิวเรื่องอื่นๆ ของผมเพิ่มเติม ก็สามารถกดติดตามแฟนเพจ ภรรยาหา สามีใช้” ได้เลยครับ แล้วพบกันใหม่ในรีวิวหน้า สวัสดีครับ

Fitfac Muaythai Academy
หมายเหตุ : บทความนี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวของผมในวันที่ไปใช้บริการเท่านั้น ทั้งนี้แต่ละท่านที่ได้มีโอกาสไปใช้บริการอาจจะได้รับการบริการหรือความรู้สึกที่แตกต่างจากนี้ได้