ย่างเข้าสู่ช่วงเดือนสิงหาคมและกันยายนทีไรก็ถึงคราวที่ขนมสุดอร่อยอย่างขนมไหว้พระจันทร์จากแบรนด์ต่างๆ รวมทั้งโรงแรมชั้นนำพากันยกเท้าพาเหรดออกมาอวดโฉมและส่งกลิ่นเย้ายวนให้เราไปหาซื้อมาลิ้มลองกันเป็นประจำทุกปี และสำหรับปี พ.ศ. 2562 นี้ ผมก็ได้มีโอกาสลิ้มลองขนมไหว้พระจันทร์จากโรงแรม The Okura Prestige Bangkok (ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ) อีกแล้วครับ และแน่นอนว่าขนมไหว้พระจันทร์จากที่นี่ก็ยังคงรักษามาตรฐานของตัวเองไว้ได้อย่างดีเยี่ยม รสชาติอร่อยถูกปากผมเหมือนเดิม แถมในปีนี้ผมยังคิดว่าเค้าออกแบบกล่องมาได้ดีกว่าเดิมด้วยนะ สวยงาม แข็งแรง สามารถนำไปประยุกต์ใช้อย่างอื่นต่อได้ง่าย เรียกว่าดีงามทั้งภายในและภายนอกกันเลยทีเดียว ^^
และนี่ก็คือหน้าตาของขนมไหว้พระจันทร์รวมทั้งกล่องใส่ของโรงแรม The Okura Prestige Bangkok ประจำปี 2562 ครับ ลักษณะกล่องจะเป็นกล่องแบบสี่เหลี่ยมจัสตุรัสที่เราต้องเปิดฝาด้านบนออกทั้ง 2 ข้าง โดยเมื่อเราเปิดฝาทั้งสองข้างออกแล้วเราจะสามารถนำเอาฝาด้านบนนั้นมารองเป็นฐานได้ด้วย ดูเผินๆ แล้วเหมือนกับโต๊ะเก้าอี้สไตล์ญี่ปุ่น สวยงามและเก๋ดีครับ
Disclosure : บทความนี้ได้รับการสนับสนุนจากผู้ให้บริการ แต่ทั้งนี้ความเห็นต่างๆ ที่เกิดขึ้นเป็นความรู้สึกจริงของผมครับ

และจากที่ผมได้ลองสัมผัสกล่องตัวจริง รวมทั้งทดลองขยับไปมาหลายรูปแบบ ผมว่ากล่องใส่ขนมไหว้พระจันทร์ของเค้าในปีนี้มีความแข็งแรงสูงเลยครับ หลายๆ คนน่าจะสามารถเอากล่องนี้ไปประยุกต์ใช้งานต่ออย่างอื่นได้หลายแบบเลย และด้วยความที่ทาง The Okura Prestige Bangkok ได้ทำการออกแบบกล่องกับดีไซน์ให้มีความสวยงามโดยการเน้นสีกล่องด้วยโทนสีทองแดงและสีน้ำตาล ตกแต่งลวดลายหน้ากล่องด้วยใบกิงโกะ (Ginkgo) หรือใบแปะก๊วยสีทองแดง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของโรงแรมและให้ความรู้สึกของความเป็นญี่ปุ่น ทำให้กล่องขนมไหว้พระจันทร์กล่องนี้ดูสวยงามเรียบหรู เหมาะแก่การนำไปมอบให้กับผู้หลักผู้ใหญ่ที่เราเคารพนับถือ หรือนำไปเป็นของขวัญในโอกาสต่างๆ ครับ

นี่เป็นหน้าตาของภายในกล่องครับ โดยหลังจากที่เราเปิดฝาด้านบนออกเราจะพบกับขนมไหว้พระจันทร์ของโรงแรม The Okura Prestige Bangkok ปี 2562 ทั้งหมด 4 ไส้ด้วยกัน ได้แก่ ไส้ทุเรียนหมอนทอง-ไข่เดี่ยว, ไส้ชาเขียว, ไส้พุทราจีน-ไข่เดี่ยว และไส้คัสตาร์ด ซึ่งจะว่าไปแล้วทั้ง 4 ไส้นี้ก็ถือเป็นขนมไหว้พระจันทร์ 4 ไส้หลักที่โรงแรมแห่งนี้ทำเป็นประจำทุกปีอยู่แล้วครับ

แต่ทั้งนี้ผมต้องขอแจ้งให้ทราบก่อนนะครับว่า ในการจำหน่ายขนมไหว้พระจันทร์ของโรงแรม The Okura Prestige Bangkok ประจำปี 2562 นั้น เค้าจะมีการจำหน่ายทั้งแบบเป็นชิ้นและเป็นชุดนะครับ โดยราคาต่อชุดจะอยู่ที่ 1,168 บาท net (ได้ขนมไหว้พระจันทร์ทั้งหมด 4 ชิ้น) ส่วนราคาแบบเป็นชิ้นจะอยู่ที่ชิ้นละ 228 บาท ซึ่งถ้าคำนวนแบบง่ายๆ เราก็จะเห็นเลยว่าค่ากล่องของขนมไหว้พระจันทร์ชุดนี้จะอยู่ที่ 256 บาทครับ ก็ลองคำนวนและตัดสินใจกันดูนะครับว่าเราจะซื้อแบบเป็นกล่องหรือเป็นชิ้นดี แต่ถ้าในความเห็นของผมนั้นผมคิดว่าหากจะซื้อไปฝากคนอื่นเราน่าจะจัดแบบเป็นชุดหรือเป็นกล่องไปเลย เพราะมันดูสวยงามและสามารถสร้างความประทับใจให้แก่ผู้รับได้เป็นอย่างดี แต่ถ้าใครจะซื้อมาทานเองผมว่าซื้อแบบเป็นชิ้นก็พอ ยกเว้นว่าใครอยากจะได้กล่องของเค้ามาสะสมเป็นคอลเลคชั่นหรือเอาไว้ใช้งานอย่างอื่นต่อครับ
เอาล่ะ คราวนี้เรามาเริ่มแกะและชิมขนมไหว้พระจันทร์ของปีนี้กันดีกว่าครับ โดยขนมไหว้พระจันทร์ของเค้าทุกชิ้นจะมีการวางไว้ในถาดสี่เหลี่ยมพลาสติกที่มีสารดูดความชื้นอยู่ด้านล่าง มีการซีลพลาสติกต่างๆ เป็นอย่างดี มีการเขียนชื่อไส้บอกที่ด้านหน้าอย่างชัดเจน รวมทั้งมีการระบุวันที่หมดอายุบริเวณด้านหลัง โดยตัวพลาสติกที่ซีลขนมมานั้นมีความแข็งแรงทนทาน แต่ก็สามารถฉีกออกได้ง่าย โดยรวมๆ แล้วถือว่าเค้าทำแพคเกจจิ้งในส่วนนี้ได้ดีเลยนะครับ
หมายเหตุ : วันหมดอายุของขนมไหว้พระจันทร์แต่ละไส้นั้นจะไม่เท่ากัน ซึ่งโดยส่วนมากไส้คัสตาร์ดจะหมดอายุเร็วที่สุด คือมีอายุประมาณ 7-10 วัน ส่วนไส้อื่นๆ จะมีอายุประมาณ 20-30 วัน ดังนั้นก่อนที่เราจะซื้อเราควรเช็ควันหมดอายุของทุกๆ ชิ้นให้เรียบร้อยก่อนนะครับ

และเมื่อเราทำการแกะพลาสติกต่างๆ ออกมาหมดแล้ว เราจะพบว่าขนาดของขนมไหว้พระจันทร์ของโรงแรม The Okura Prestige ประจำปี 2562 นั้นจะมีขนาดที่เรียกว่าพอดีมือและถือว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานทั่วๆ ไปครับ โดยเราสามารถตัดแบ่งขนมออกเป็นชิ้นพอดีคำได้ประมาณ 6-8 ชิ้น ส่วนด้านหน้าของขนมทุกชิ้นจะเป็นลวดลายโลโก้ของโรงแรม และสำหรับใครที่แกะพลาสติกออกมาทุกชิ้นแล้วไม่สามารถจำได้ว่าชิ้นไหนคือไส้อะไร ผมมีทริคมาบอกทุกคนง่ายๆ ดังนี้ครับ
ไส้ชาเขียว : จะไม่มีจุดสีแดงที่ด้านบนขนม
ไส้ทุเรียนหมอนทอง–ไข่เดี่ยว : จะมีจุดสีแดงตรงกลางที่ด้านบนของขนม
ไส้พุทราจีน-ไข่เดี่ยว : จะมีจุดสีแดงที่ด้านบนของขนม แต่จะเป็นการจุดไว้บริเวณข้างๆ ไม่ใช่ตรงกลางของขนม
ไส้คัสตาร์ด : ไส้นี้ไม่น่ามีปัญหาอะไรครับ เพราะสีของขนมจะมีสีเหลืองแตกต่างจากไส้อื่นชัดเจนอยู่แล้ว


ส่วนนี่คือความเห็นของผมที่มีต่อขนมไหว้พระจันทร์ของโรงแรม The Okura Prestige Bangkok ในปีนี้ครับ
ไส้ทุเรียนหมอนทอง–ไข่เดี่ยว : ไส้ที่หลายๆ คนน่าจะชอบเป็นลำดับต้นๆ ของการทานขนมไหว้พระจันทร์ และไส้นี้ก็ไม่ทำให้ผิดหวังครับ ขนาดผมที่ปกติไม่ค่อยชอบทานทุเรียนยังชอบเลย เนื้อของไส้เนียนละเอียด แถมกลิ่นของทุเรียนยังหอมแตะจมูกด้วย โดยทันทีที่เราผ่าขนมไหว้พระจันทร์ไส้นี้เราก็จะได้กลิ่นของทุเรียนหอมๆ มาแตะจมูกทันที และกลิ่นของเค้านั้นจะอยู่ในระดับที่ดีเลย ไม่แรงจนเกินไป จนทำให้ผมซึ่งไม่ได้เป็นคนชอบทานทุเรียนเกิดความรู้สึกดีและกล้าที่จะหยิบมาลองทาน และเมื่อทานแล้วก็รู้สึกประทับใจเลยครับ อร่อยลงตัวมาก รสของทุเรียนไม่ได้เข้มมาก กินได้เพลินๆ และไข่เค็มบริเวณตรงกลางก็ช่วยตัดรสรวมถึงลดกลิ่นของทุเรียนได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ทางโรงแรมยังได้มีการนำเอาเม็ดแตงโมมาผสมลงไปด้วย ดังนั้นเวลาที่เราเคี้ยวก็เลยจะมีความกรุบกรอบและมีความมันเล็กๆ ของเม็ดแตงโมด้วยครับ กินแล้วเพลินมาก ใครที่ชอบทานขนมไหว้พระจันทร์ไส้ทุเรียนไม่ควรพลาดเลยครับ แต่ถ้าใครเป็นสายทุเรียนจ๋าๆ อยากจะกินขนมไหว้พระจันทร์ที่ไส้ทุเรียนเน้นๆ อาจจะรู้สึกว่ารสชาติของทุเรียนนี้อ่อนไปหน่อยนะครับ
ไส้ชาเขียว : ไส้นี้เป็นไส้ที่ผมชอบมากที่สุดในปีนี้เลยครับ หอมกลิ่นชาเขียวมาก และเวลาที่เรากัดแล้วเราจะได้ความหอมอ่อนๆ ของชาเขียวออกมาด้วย ส่วนในเรื่องของความหวานและขมนั้นผมว่าทางโรงแรมก็ทำออกมาได้ดีเลย รสชาติหวานนิดๆ และไม่รู้สึกถึงความขมของชาเขียวเลย กินเพลินมากและโดยส่วนตัวแล้วผมว่านี่คือหนึ่งในรสชาติที่เราสามารถจะหยิบทานได้ทั้งแบบเปล่าๆ หรือหยิบมาทานคู่กับชาเลยครับ
ไส้พุทราจีน–ไข่เดี่ยว : ถ้าใครอ่านรีวิวผมปีที่แล้วน่าจะพอจำได้ว่าผมรู้สึกผิดหวังกับไส้นี้ที่สุด เพราะไส้นี้เป็นไส้ที่ผมคาดหวังไว้สูง และผมเป็นคนที่ชอบทานพุทราจีนมาก แต่ปรากฏว่าปีที่แล้วผมชิมแล้วรู้สึกกลางๆ ไม่ได้ประทับใจอะไรเป็นพิเศษครับ T_T
แต่กลายเป็นว่าปีนี้ไส้พุทราจีน-ไข่เดี่ยวนี้ทำให้ผมรู้สึกประทับใจเลยครับ และผมว่าทางโรงแรมเค้าปรับปรุงรสชาติดีขึ้นนะ กินแล้วรู้สึกถึงความเป็นพุทราจีนเต็มปากเต็มคำมากขึ้น มีความหวานของพุทราจีนทุกคำที่กัดลงไป แล้วก็เนื้อไส้โดยรวมมีความเนียนละเอียดมากขึ้น ปีที่แล้วใครที่รู้สึกผิดหวังไส้นี้แบบผม ปีนี้ให้โอกาสมาลองชิมใหม่นะครับ ผมว่ารสชาติดีและถูกปากขึ้นกว่าเดิมเยอะเลย ^^
อ้อ ไส้นี้จะเป็นอีกหนึ่งไส้ที่ทางโรงแรมมีการนำเอาเม็ดแตงโมลงไปผสมด้วยนะครับ ซึ่งผมว่ามันกินแล้วเข้ากันดีเลยเม็ดแตงโมกับพุทราจีนเนี่ย
ไส้คัสตาร์ด : หนึ่งในไส้ขนมไหว้พระจันทร์ที่ผมชอบมากๆ ในปีที่แล้ว และปีนี้ทางโรงแรมก็ยังคงรักษามาตรฐานได้ดีครับ เนื้อเนียนสุดๆ ทั้งไส้และแป้ง ส่วนความหวานของคัสตาร์ดก็อยู่ในเกณฑ์ที่ดี หวานนิดๆ ให้พอมีรส และเหมาะมากที่จะนำไปกินคู่กับชาที่มีรสอ่อนๆ หรือถ้าใครจะนำไปทานเล่นๆ เลยก็ได้ไม่ว่ากันครับ ><
และทั้งหมดนี้ก็เป็นความรู้สึกของผมที่มีต่อชุดขนมไหว้พระจันทร์ (Mooncake) ของโรงแรม The Okura Prestige Bangkok (ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ) ประจำปี 2562 ครับ โดยรวมๆ ต้องบอกว่าปีนี้ผมประทับใจทุกไส้เลยนะครับ แป้งของเค้าดีมาก บางและเนียนเหมือนปีที่ผ่านมา ส่วนไส้ต่างๆ ทั้ง 4 ไส้ก็ทำออกมาได้ดี โดยไส้ที่ผมชอบในปีที่แล้วปีนี้เค้าก็ยังคงรักษามาตรฐานไว้ได้ตามเดิม ส่วนไส้ที่ปีที่แล้วที่ผมรู้สึกว่าทานแล้วไม่ถูกปาก ปีนี้ก็รสชาติถูกปากถูกใจมากขึ้น และนั่นทำให้ปีนี้ผมรู้สึกประทับใจกับขนมไหว้พระจันทร์ของเค้าทั้ง 4 ไส้เลยครับ
สำหรับใครที่อ่านแล้วสนใจอยากจะลองชิมหรือซื้อไปฝากคนอื่นบ้างก็สามารถซื้อขนมไหว้พระจันทร์ของโรงแรม The Okura Prestige Bangkok ประจำปี 2562 นี้ได้ที่ร้านขนมลา พาทิสเซอร์รี ชั้น 1 ฝั่งอาคารปาร์คเวนเชอร์ อีโคเพล็กซ์ ได้เลยครับ โดยแบบเป็นกล่องจะราคากล่องละ 1,168 บาท net หรือถ้าใครจะซื้อเฉพาะขนมก็ราคาชิ้นละ 228 บาท net ครับ โดยร้านขนมลา พาทิสเซอร์รีนี้เค้าจะเปิดให้บริการเฉพาะวันจันทร์-วันศุกร์ ตั้งแต่เวลา 7.00 น. – 19.00 น. และจะเริ่มจำหน่ายขนมไหว้พระจันทร์นี้ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม จนถึงวันที่ 13 กันยายน 2562 ซึ่งเป็นวันไหว้พระจันทร์ประจำปีนี้ครับ หรือถ้าใครไม่สะดวกกับการไปซื้อที่ร้านลา พาทิสเซอร์รี ก็ลองติดต่อสอบถามเพิ่มเติมตามช่องทางด้านล่างนี้นะครับ เผื่อจะมีช่องทางอื่นที่สะดวกขึ้นครับ
โทร. : 02-6879000
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านจนจบ และหากใครที่ต้องการจะติดตามเรื่องราวการกินและเที่ยวของผมกับต๋งอย่างใกล้ชิดก็สามารถกดติดตามได้ที่แฟนเพจ “ภรรยาหา สามีใช้” ได้เลยครับ แล้วพบกันใหม่ในรีวิวหน้า ขอให้ทุกคนอิ่มหนำสำราญ มีความสุขกับการกินขนมไหว้พระจันทร์ในช่วงนี้นะครับ สวัสดีครับ

หมายเหตุ : บทความนี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวของผมในวันที่ไปใช้บริการเท่านั้นครับ แต่ละท่านที่ได้มีโอกาสไปใช้บริการอาจจะได้รับการบริการที่แตกต่างจากนี้