หากจะมีร้านชาบูในไทยซักร้านที่มีเจ้าของเป็นคนญี่ปุ่นที่มีความมุ่งมั่ง จริงจัง อยากจะให้คนที่อยู่ในเมืองไทยได้กินชาบูญี่ปุ่นแท้ๆ แบบไม่ได้ผ่านการปรับแต่งใดๆ ผมว่าร้าน Shabu-Ten น่าจะเป็นร้านนั้นครับ เพราะเจ้าของร้านชาวญี่ปุ่นคนนี้ได้ทุ่มทุน ทุ่มเทหลายอย่างมากตั้งแต่การคัดสรรวัตถุดิบที่มีคุณภาพสูงดีกรีแชมป์โอลิมปิก การคัดเลือกเชฟที่เคยทำงานในร้านที่ได้รับรางวัลมิชลินสตาร์เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในร้านนี้ และการทำเมนูสุดพิเศษแบบวันต่อวัน ที่มีความสด ใหม่ เพื่อคนกินทุกท่านครับ เอาล่ะครับ……..เกริ่นมาขนาดนี้แล้วเราไปลุยร้านนี้พร้อมๆ กันเลยดีกว่าครับ
วันที่รับประทาน : เสาร์ที่ 23 กรกฏาคม 2559
ช่วงเวลา : 11.00-13.30 น.
จำนวน : 2 คน
ร้าน Shabu-Ten นั้นเป็นร้านชาบูสไตล์ญี่ปุ่นแท้ๆ ที่ตั้งโดยเจ้าของชาวญี่ปุ่นครับ ปัจจุบันมีสาขาเดียวคือบริเวณชั้น 8 ตึก The Helix ของ The Emquartier ครับ ซึ่งการมาร้านก็ไม่ยากครับ เพียงแค่ขึ้นลิฟท์แก้วมาที่ชั้น 8 ร้านจะอยู่ทางซ้ายมือเยื้องๆ กับลิฟท์ครับ โดยหน้าร้านจะมีชื่อร้านภาษาญี่ปุ่นบนป้ายไม้สวยๆ พร้อมกับรูปปั้นวัวตัวใหญ่ที่บริเวณทางเข้าร้านครับ
Disclosure : บทความนี้ได้รับการสนับสนุนจากผู้ให้บริการ แต่ทั้งนี้ความเห็นต่างๆ ที่เกิดขึ้นเป็นความรู้สึกจริงของผมครับ


ภายในร้านจะมีการจัดแบ่งโต๊ะไว้หลายแบบเลยครับ ทั้งแบบที่เป็นโต๊ะติดหน้าต่าง โต๊ะไม่ติดหน้าต่าง โซนนั่งหน้าเคาน์เตอร์บาร์และก็ที่เป็นห้องส่วนตัวครับ รวมๆ แล้วน่าจะจุได้ราวๆ 60-70 คนได้ครับ โดยโซนที่เป็นห้องส่วนตัวนั้นสามารถนั่งได้ประมาณ 10 คนครับ
สำหรับวันนี้ผมกับภรรยาเลือกนั่งโต๊ะที่ติดกับหน้าต่าง เพราะแสงจะได้เยอะๆ ถ่ายรูปได้ง่ายๆ ครับ โดยหลังจากที่เรานั่งเสร็จเรียบร้อย ทางพนักงานก็ได้นำเมนูมาให้เราทั้งคู่ดูครับ
เมนูของ Shabu-Ten นั้นจะมีหลายเล่มเลย ดังนั้นผมก็เลยเลือกเฉพาะเล่มที่น่าสนใจมาเล่าสู่กันฟังแล้วกันนะครับ เริ่มจากเล่มหลักหรือเล่มที่มีชาบูก่อนนะครับ
เมื่อเราเปิดเมนูเล่มนี้ดู จะพบว่าหน้าแรกๆ นั้นจะเป็นอาหารประเภทชาบูครับ โดยหน้าคู่แรก กับหน้าคู่ที่สองนั้นจะเหมือนกันทุกประการ แต่แตกต่างกันตรงที่หน้าคู่แรกจะเป็นภาษาญี่ปุ่น ส่วนหน้าคู่ที่สองจะเป็นภาษาอังกฤษ/ไทยครับ



สำหรับการสั่งชาบูนั้นก็ง่ายๆ ครับ เพียงแค่เราเลือกคอร์สเนื้อที่เราชอบ หลังจากนั้นพนักงานก็จะยก Set ชาบูมาให้เราครับ โดยใน Set จะมีน้ำซุป, เนื้อ, ผัก, ข้าว, เส้นอุด้งแล้วก็ของหวานครับ ซึ่งราคาของคอร์สชาบูแต่ละอันก็ตามนี้เลยครับ
Set A : เนื้อเซอร์ลอย 100 กรัม + หมูคุโรบูตะ 100 กรัม ราคา 670 บาท
Set B : เนื้อเซอร์ลอย 200 กรัม ราคา 750 บาท
Set C : หมูคุโรบูตะ 200 กรัม ราคา 600 บาท
Set D : เนื้อวากิว 200 กรัม ราคา 1,800 บาท
Set E : เนื้อฮิดะ* 200 กรัม ราคา 2,400 บาท
*สำหรับเนื้อฮิดะนั้นจะเป็นการใช้เนื้อจากฟาร์มที่เป็นแชมป์โอลิมปิค 2 สมัยซ้อนครับ ซึ่งผมก็พึ่งรู้นะครับว่าเค้ามีการประกวดอะไรพวกนี้ด้วย โดยทางร้านให้ข้อมูลว่าการแข่งขันนี้เค้าจะจัดกัน 4 ปีครั้งเหมือนกับโอลิมปิคเลยครับ
**ราคาด้านบนนั้นจะเป็นราคาสำหรับคอร์สแรกนะครับ และเป็นราคาที่ยังไม่รวม Vat 7% กับ Service Charge 10% ทั้งนี้หากใครต้องการสั่งเฉพาะเนื้อเพิ่มเติมก็สามารถสั่งเพิ่มภายหลังได้ครับ


อ้อ สำหรับคนที่ไปทานชาบูในช่วง 10.00 น. -15.00 น. นั้น ทางร้านเค้ามีการจัดชุดชาบูกลางวันราคาพิเศษไว้ให้ด้วยนะครับ ราคาก็ตามนี้เลยครับ
Lunch Shabu Course (การสั่งแบบนี้จะได้เต้าหู้โฮมเมด หรือ มะเขือม่วงในมะเขือเทศพูรี่เพิ่มครับ)
Set 1 : เนื้อเซอร์ลอย 70 กรัม + หมูคุโรบูตะ 70 กรัม ราคา 460 บาท
Set 2 : เนื้อเซอร์ลอย 100 กรัม + หมูคุโรบูตะ 100 กรัม ราคา 590 บาท
Set 3 : เนื้อวากิว 200 กรัม ราคา 1,700 บาท
Set 4 : เนื้อฮิดะ 200 กรัม ราคา 2,300 บาท
Lunch Shabu Set (จะไม่มีเต้าหู้โฮมเมด หรือ มะเขือม่วงในมะเขือเทศพูรี่ครับ)
Set A : เนื้อเซอร์ลอย 100 กรัม + หมูคุโรบูตะ 100 กรัม ราคา 520 บาท
Set B : เนื้อเซอร์ลอย 200 กรัม ราคา 580 บาท
Set C : หมูคุโรบูตะ 200 กรัม ราคา 470 บาท

ส่วนใครที่ทานแต่หมู เนื้อไม่ยุ่ง ทางร้านก็มีการจัด Set หมูคุโรบูตะแบบนี้ไว้ให้ครับ โดยจะได้เนื้อหมูสามชนิดคือ สันคอ, สามชั้น และสันนอกอย่างละ 70 กรัมครับ

นอกจากชาบูแล้ว ร้าน Shabu-Ten ยังมีเมนูอื่นๆ ที่น่าสนใจให้เราเลือกทานอีกมากมายเลยนะครับ ไม่ว่าจะเป็นพวก Sushi, ฟัวกราส์, เนื้อย่าง, อาหารจานเดียว และของทานเล่นต่างๆ ถ้ายังไงลองเปิดเมนูดูนะครับ เท่าที่ผมเห็นก็น่าสนใจหลายรายการเลย และเมนูหลายๆ อย่างก็ไม่เคยเห็นจากร้านอื่นมาก่อนครับ




และก็นอกจากเมนูเล่มหลักแล้ว ทางร้านยังมีอีก 2 เมนู คือ เมนูจากครัวคุณต๋อย Expo และเมนู lunch set ครับ ซึ่งเมนู lunch set นั้นน่าสนใจมากเนื่องจากทางร้านมีการ Set ราคาไว้ค่อนข้างดีครับ (เรื่องราคาต่อจานนี่ผมลองเปรียบเทียบกับร้านอื่นๆ ที่อยู่ในบริเวณใกล้ๆ กันนะครับ ซึ่งต้องยอมรับว่าโซนนี้เป็นโซนร้านอาหารที่มีราคาต่อจานค่อนข้างสูงจนไปถึงสูงมากครับ T_T)


เอาล่ะครับ ตอนนี้เราก็ดูเมนูของร้านกันไปคร่าวๆ แล้วว่ามันมีอะไรบ้าง หน้าตาประมาณไหน ลำดับต่อไปเราก็มาชิมอาหารกันเถอะครับ!! เริ่มจากพระเอกของเรากันเลย กับชุดชาบูเนื้อวากิว!!!
ทั้ง Set ที่เราสั่งไปจะได้ทั้งหมดตามภาพนะครับ แต่โดยปกติแล้วทางร้านจะเสิร์ฟของหวานที่เห็นเป็นแก้วๆ นั้นทีหลังนะครับ เพียงแต่วันนี้ผมขอให้เค้านำมาเสิร์ฟพร้อมกันก่อน จะได้ถ่ายรูปรวมๆ ให้ดูครับ

เนื้อวากิวในจานเค้าจัดวางมาได้สวย ลายของเนื้อดูดีมากครับ ถ้าไม่เชื่อลองเข้าไปซูมดูใกล้ๆ กันได้เลยครับ

หลังจากที่ผมได้ลองคลี่เนื้อออกมาดูก็พบว่ามีขนาดชิ้นค่อนข้างใหญ่ครับ และถ้าผมนับไม่ผิดนั้นใน 1 จานเราจะได้เนื้อมาทั้งหมด 7 ชิ้นด้วยกันครับ

สำหรับเจ้าชุดชาบูนี้เค้าจะมาเสิร์ฟพร้อมกับหม้อซุปแล้วก็ซอสนะครับ โดยซุปจะเป็นซุปสาหร่ายคอมบุ ส่วนซอสนั้นจะมีทั้งหมด 2 แบบนะครับ ได้แก่
ซอสงา : สีจะออกครีมๆ หน่อยครับ เหมาะสำหรับทานกับเนื้อสัตว์ โดยซอสงาของที่นี่นั้นจะมีการทำสดใหม่ทุกเช้า โดยผู้ที่ทำซอสนี้นั่นก็คือเชฟใหญ่ประจำร้านที่ได้รับรางวัลมิชลินสตาร์นั่นเองครับ เท่าที่ผมลองชิมซอสงาของที่นี่ดูต้องบอกว่ามันอร่อยดี สมกับ Story ที่ทางร้านตั้งใจไว้ครับ ส่วนใครที่คิดว่ามันจืดไป อยากเพิ่มรสเผ็ดไปอีกหน่อย ทางร้านก็มีน้ำมันงาหรือที่ญี่ปุ่นเรียกว่ารายุให้เติมเพิ่มครับ
ซอสพอนซึ : สีออกดำๆ หน่อย อันนี้เหมาะกับทานกับผักครับ แต่อาจจะมีคนชอบเอาไปทานกับเนื้อก็ได้ครับ แล้วแต่สไตล์ใครสไตล์มันเลย




หลังจากที่ผมได้เทซอสลงในถ้วยเรียบร้อย ทีนี้ผมก็ทำการนำเจ้าเนื้อวากิวลายสวยๆ ที่อยู่ในจานลงไปในน้ำซุปร้อนๆ ครับ และแค่เพียงไม่นานมันก็มาละลายอยู่ในปากผม ซึ่งอยากจะบอกว่าอร่อยมากกกกกกกกครับ


สำหรับรสชาติอาหารอื่นๆ ที่อยู่ใน Set ชาบู ก็ตามนี้เลยครับ
เส้นอุด้ง : เหนียว นุ่ม ไม่ขาดง่ายครับ เอาไปจุ่มซอสพอนซึแล้วอร่อยดีครับ
ผัก : สวย สด ดูสะอาดสะอ้าน มีหลากหลายประเภทใช้ได้ครับ
เต้าหูโฮมเมด : สิ่งนี้คืออะไรที่ดีงามที่สุดเลยครับ อร่อยมาก ไม่เหมือนเต้าหู้ไทยรวมทั้งเต้าหู้ต่างๆ ที่ผมเคยกินมาเลย เหนียว หนึบ นุ่ม คล้ายๆ กับพุดดิ้งแต่รสชาติไม่ใช่ครับ ต้องบอกเลยว่าสมกับเป็นอีกหนึ่งรายการที่ร้านภูมิใจเสนอและนำมาเป็นจุดขายของร้านครับ แนะนำว่าใครที่ไปทานร้านนี้ควรจะต้องสั่งมาลองเป็นอย่างยิ่งครับ จะทานเฉยๆ ก็ดีหรือจะทานกับโชยุก็เลิศครับ (ถ้าผมจำไม่ผิด เจ้าเต้าหู้โฮมเมดนี่ถ้าสั่งแยกน่าจะราคา 90 บาทต่อชิ้นครับ และจะได้ขนาดชิ้นที่ใหญ่กว่าแบบที่มาใน Set ครับ)



เอาล่ะ ตอนนี้เรามาดูเมนูอื่นๆ นอกเหนือจากชาบูกันดีกว่าครับ เริ่มจากเจ้าผัดรวมทอดเสิร์ฟในมะเขือม่วงครับ ราคาของจานนี้จะอยู่ที่ 170 บาทนะครับ
ต้องบอกตรงๆ ว่าตอนที่ผมเห็นชื่อรายการนี้ทีแรก ผมไม่มีความคิดที่อยากจะสั่งมาทานเลย เพราะผมไม่ใช่สายผัก แถมมะเขือม่วงนี่ก็เป็นอะไรที่ผมไม่พิศวาสเท่าไหร่อยู่แล้วด้วยครับ แต่ไหนๆ ทางร้านเค้าก็ภูมิใจนำเสนอมากกกก ผมก็เลยจัดมาดู และก็ปรากฏว่า เฮ้ยยยย!! มันอร่อยนะครับ ผมบอกเลยว่าถ้าคุณไม่ใช่คนที่เกลียดการกินผักแบบสุดๆ หรือกินมะเขือม่วงไม่ได้เพราะจะคันคอหรือเกิดอาการแพ้ ผมแนะนำเลยว่าเมนูนี้คุณควรจะต้องสั่งมาลองเป็นอย่างยิ่งครับ ไม่ควรพลาดเด็ดขาด!!
สำหรับขนาดความยาวของมะเขือม่วงชิ้นนี้น่าจะซัก 20cm ได้ครับ ตรงผักด้านในจะมีพริกสามสีอยู่ครับ ตัวรสชาติของมะเขือม่วงนั้นหอม นุ่ม และทานง่ายไม่เหม็นเขียวเลยด้วยครับ ส่วนน้ำราดนั้นผมว่ารสชาติคล้ายๆพวกน้ำแดงของราดหน้าประมาณนั้นครับ


ต่อกันที่อาหารเป็น Set กันดีกว่าครับ กับ “เซตข้าวหน้าเนื้อวากิวและโรสต์บีฟสุกี้ยากี้” Set นี้ ราคา 570 บาทนะครับ โดยจะได้ซุป, ผัก, เครื่องเคียง แล้วก็เต้าหู้โฮมเมดแสนอร่อยมาใน set ครับ
ว่ากันตรงๆ ราคา Set นี้ก็ถือว่าสูงเลยทีเดียวครับ เพราะราคาขนาดนี้สามารถไปกินบุฟเฟต์อิ่มใหญ่ๆ ได้หนึ่งมื้อเลยทีเดียวครับ สำหรับรสชาติที่ได้ก็ประมาณนี้ครับ ตัวเนื้อผมว่ารสชาติกลางๆ นะครับ เทียบกับเนื้อที่อยู่ในชาบูไม่ได้ และโดยส่วนตัวในจานนี้ผมชอบเนื้อวากิวมากกว่าโรสต์บีฟครับ ทั้งนี้เจ้าเนื้อวากิวที่เค้าปรุงออกมานี่ตรงกลางๆ จะยังแดงๆ อยู่เลยนะครับ ดังนั้นหากใครที่ไม่ชอบทานความสุกของเนื้อประมาณนี้ ควรหลีกเลี่ยงเมนูนี้ไปครับ



มาดูส่วนประกอบอื่นๆ ที่อยู่ในข้าว Set นี้เพิ่มกันดีกว่าครับ
หอย : สด ใหญ่ดีครับ
ไข่หวาน : อร่อยดีครับ เนื้อแน่น ไม่หวานมาก และก็มีการยัดไส้ไว้เยอะพอควรเลยครับ เท่าที่ดูก็มีทั้งปูอัด ปลาไหล แล้วก็เห็ดครับ
ผัก : สดและสวยดีครับ
น้ำซุป : ออกเค็มๆ นิดนึง ตามมาตรฐานของซุปประเภทนี้ครับ


ต่อกันที่ Foie Gras Saikyou Yaki หรือฟัวกราส์ย่างสไตล์เกียวโต ครับ จานนี้ราคา 320 บาท เราจะได้ฟัวกราส์ย่างจำนวน 6 ชิ้น โดยจะมีหัวไชเท้าที่ฝานบางๆ คั่นไว้ตรงกลางครับ โดยส่วนตัวผมว่าขนาดชิ้นค่อนข้างเล็กไปหน่อยครับ และก็ในเรื่องของรสชาติผมไม่ค่อยชอบเท่าไหร่แฮะ ไม่แน่ใจว่ามันไม่ถูกปากผมหรือรสชาติเมนูอื่นๆ มันเด่นกว่าเยอะจนกลบเมนูนี้ไปซะหมดครับ



และมาต่อกันที่ Salmon Kinoko Uni Cream หรือซอเต้ปลาแซลมอนและเห็ดในซอสครีมไข่หอยเม่น จานนี้ราคา 300 บาทครับ
สำหรับเมนูนี้ น่าจะคือสิ่งที่ดีงาม สร้างความประทับใจให้ผมที่สุดในมื้อนี้เลยครับ ด้วยการทำเมนูออกมาไม่เหมือนใคร และปรุงออกมาได้ลงตัวสำหรับผมมากครับ เนื้อแซลมอนอร่อย เข้ากันกับซอสครีมที่ราดมา ตัวซอสนี่มัน “มัน” มากครับ และก็ปกติแล้วผมไม่ค่อยชอบทานไข่หอยเม่นเท่าไหร่เพราะคิดว่ามันเหม็นแถมไม่อร่อยด้วย แต่ว่าจานนี้สอบผ่านครับ ไม่รู้สึกถึงความเหม็นหรืออะไรเลย ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะวัตถุดิบดี เชฟปรุงมาดีหรือด้วยปริมาณไข่หอยเม่นที่ไม่มากนัก วัตถุดิบอื่นๆ ก็เลยกลบกลิ่นเอาไว้ได้อยู่หมัดครับ จานนี้ผมแนะนำเลยว่าจะต้องสั่งครับ!!

จานถัดมาเป็น Salmon Foie Gras Miso Yaki หรือปลาแซลมอนย่างราดด้วยมิโสะฟัวกราส์ ในราคาจานละ 200 บาท ผมว่าเมนูนี้ก็เป็นอีก 1 เมนูที่ทางร้านทำฟิวชั่นออกมาได้ดีเลยครับ ชอบๆ

ต่อกันด้วย Hon Maguro Rare Steak – Traffle no Kaori – หรือสเต็กปลามากุโร่ กลิ่นทรัฟเฟิล ในราคาจานละ 460 บาทครับ
จานนี้จะเป็นสเต็กปลามากุโร่ที่ต้องบอกว่าเนื้อตรงกลางมาในสภาพที่ยังดิบๆ อยู่เลยครับ จะมีสุกๆ แค่ตรงขอบเท่านั้น ดังนั้นใครไม่ชอบทานปลาดิบก็ไม่ควรสั่งเมนูนี้ครับ
สำหรับรสชาติเท่าที่ผมได้ลองชิมนิดๆ ผมว่าโอเคนะครับ แต่ยังไม่ถึงขั้นประทับใจมาก ถ้าให้เลือกคราวหน้าผมเลือกกินซอเต้ปลาแซลมอน กับผัดรวมทอดในมะเขือม่วงมากกว่าครับ

ปิดท้ายของคาวกันด้วย Set ข้าวต้ม!! ใช่แล้วครับ Set ข้าวต้มสุดพิเศษที่เชฟของร้านจะเป็นคนมาจัดการทำให้เราดูสดๆ ที่โต๊ะของเราครับ โดยอุปกรณ์ก็จะมีตามนี้ครับ

หลังจากที่อุปกรณ์การทำข้าวต้มถูกตั้งวางไว้บนโต๊ะเราเรียบร้อยแล้ว เชฟก็จะเดินเข้ามาจัดการทำเมนูนี้ให้เราดูครับ โดยหม้อชาบูจะเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญในการทำอาหารนี้ครับ
บอกเลยการได้ดูเชฟผู้ชายหน้าตาดีๆ ทำอาหารแบบใกล้ๆ แบบนี้ มันทำให้ผมฟินมากครับ และเพียงแค่ไม่นานข้าวต้มร้อนๆ ที่เต็มไปด้วยเนื้อปูกับมันปูก็ถูกปรุงเสร็จครับ กลิ่นที่ได้หอมมาก และรสชาติที่ได้ก็ไม่ทำให้ผมผิดหวังเลยครับ อร่อย ปิดท้ายของคาวเป็นการล้างปากได้เป็นอย่างดีครับ สำหรับใครที่คิดว่ารสชาติของข้าวต้มมันจืดไปหน่อยก็สามารถใช้พอนซึ เกลือ หรือพริกไท ปรุงเพิ่มเติมได้ตามใจชอบเลยครับ




ปิดท้ายมื้อนี้กันด้วยของหวานกับโฮจิฉะ ซึ่งมีรสชาติหวานมัน ผสมกับกลิ่นหอมๆ ของชาอ่อนๆ นี่เป็นอีกเมนูนึงที่ผมกินแล้วประทับใจครับ เพราะโดยปกติเวลาเข้าร้านอาหารญี่ปุ่นทีไร ของหวานยอดฮิตมักหนีไม่พ้น เมลอน, ไอศรีมชาเขียว, โมจิถั่วแดง อะไรประมาณนี้ครับ แต่เมนูนี้แปลก แตกต่างออกไป และออกมาดีเลยครับ

เอาล่ะครับ ตอนนี้พุงผมก็แทบจะแตกแล้ว ดังนั้นเรามาทำการสรุปแยกเป็นเรื่องๆ กันดีกว่าว่าผมคิดเห็นอย่างไรกับอาหารมื้อนี้ครับ
รสชาติอาหาร : 80% ของอาหารมื้อนี้เป็นอะไรที่ผมประทับใจมากครับ อร่อย แปลก และไม่เหมือนใครดี เรียกได้ว่าสามารถดันหลายๆ เมนูเป็นจุดชายชูโรงของร้านได้เลย ไม่ว่าจะเป็นเต้าหู้โฮมเมด, ผัดรวมทอดเสิร์ฟในมะเขือม่วง, ซอเต้ปลาแซลมอนและเห็ดในซอสครีมไข่หอยเม่น, ชุดเซตข้าวต้ม จนไปถึงของหวานอย่างโฮจิฉะครับ
ความหลากหลายของอาหาร : ต้องบอกว่าว่าใครที่เดินผ่านร้านนี้อาจจะมีงงได้ว่าร้านนี้ขายอะไรกันแน่ เพราะหากดูที่หน้าร้านแล้วจะเห็นอาหารปลอมและป้ายนั่นนู่นนี่ติดเต็มไปหมดครับ นั่นก็เพราะว่าทางร้านเค้ามีเมนูหลากหลายมากนั่นเองครับ ตั้งแต่ชาบู, อาหารทานเล่น, อาหารจานเดียว, สเต็ก จนกระทั่งเป็นพวกซูชิ ชาชิมิ ซึ่งแต่ละอย่างก็มีแยกย่อยลงไปอีกหลายแบบด้วยกันครับ ดังนั้นเรื่องความหลากหลายของอาหารนี่ให้ผ่านได้สบายๆ เลยครับ
ความสะอาดของร้าน : ไม่มีปัญหาอะไรในข้อนี้ครับ สะอาด ดูดีครับ
การบริการของพนักงาน : ยิ้มแย้มแจ่มใส่ เอาใจใส่ดี บริการรวดเร็วครับ ข้อนี้ผ่านสบายๆ ครับ ส่วนนึงไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะตอนที่ผมไปนั้นยังมีแขกเข้ามาทานอาหารน้อยด้วยหรือเปล่า
ความสะดวกของการเดินทาง : The Emquartier เป็นห้างสรรพสินค้าที่เรียกได้ว่าอยู่ใจกลางเมืองสุดๆ สามารถขับรถมาได้แต่ก็แน่นอนว่าโอกาสเจอรถติดสูงมาก โดยเฉพาะช่วงชั่วโมงเร่งด่วน แต่ด้วยความที่ห้างแห่งนี้มีรถ BTS จอดบริเวณหน้าห้างพอดิบพอดี ดังนั้นจึงทำให้ชีวิตและการเดินทางสะดวกสบายขึ้นมากครับ
ความคุ้มค่า : รสชาติอาหารแทบทั้งหมดผมว่าดีจนถึงดีมากเลยนะครับ บ่งบอกได้ถึงความตั้งใจของเจ้าของร้าน และความพิถีพิถันของเชฟที่ทำได้เป็นอย่างดี แต่ก็ต้องยอมรับตามตรงว่าการที่ใช้วัตถุดิบดีแบบนี้ ทรัพยากรบุคคลดีแบบนี้ ตั้งอยู่ในทำเลที่ดีแบบนี้ มันก็ต้องทำให้ต้นทุนขยับสูงขึ้นตามไปด้วย และส่งผลให้ราคาขายสูงขึ้น จนบางรายการผมแอบคิดว่ามันสูงเกินไปมาก อย่างเช่น ชุดชาบูเนื้อวากิวกับฮิดะครับ คือเนื้อดี คุณภาพสูง แต่สำหรับคนบางคนที่ลิ้นไม่ดีมาก แยกความแตกต่างไม่ค่อยออกก็คงจะคิดว่ามันแพงไปมากครับ แต่หลายๆ เมนูโดยเฉพาะพวกของทานเล่นทางร้านก็สามารถทำราคาออกมาได้ดีจนน่าแปลกใจเลยครับ เช่น ผัดรวมทอดเสิร์ฟในมะเขือม่วง, ซอเต้ปลาแซลมอนและเห็ดในซอสครีมไข่หอยเม่น จนเมื่อนำไปเทียบกับรสชาติที่ได้มันทำให้ผมรู้สึกว่ารายการพวกนี้มันเป็นเมนูที่คุ้มค่าทีเดียวเลยครับ
สรุป : หากคุณต้องการทานชาบูเนื้อลายสวยๆ มีคุณภาพสูง แถมยังเป็นชาบูแบบ original ญี่ปุ่นแท้ๆ และไม่เกี่ยงปัญหาด้านงบประมาณ ร้าน Shabu-Ten คือคำตอบที่ลงตัวสำหรับคุณครับ โดยเฉพาะกับคนที่ไม่ชอบทานชาบูสไตล์ไทย รวมไปถึงคนที่ต้องการสร้างความประทับใจให้กับแขกที่เป็นชาวญี่ปุ่นครับ ผมคิดว่าเค้าน่าจะชอบนะครับ สำหรับคนที่มีปัญหาเรื่องงบประมาณที่ค่อนข้างจำกัด ร้านนี้ยังมีทางออกด้วยอาหารประเภทอื่นๆ ที่ผมว่าน่าสนใจมาก ด้วยการฟิวชั่นอาหารมาได้อย่างลงตัว แตกต่างจากร้านอื่น และบางเมนูก็มีราคาที่ไม่สูงมากครับ
ก็จบลงแล้วสำหรับรีวิวนี้ ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านจนจบ แล้วพบกันใหม่ในรีวิวหน้าครับ สำหรับผู้ที่ต้องการติดตามเรื่องราวการรีวิวต่างๆ ที่รวดเร็วทันใจ สามารถกดติดตามได้ที่เพจ ภรรยาหา สามีใช้ และสำหรับท่านที่อยากจะได้ข้อมูลของร้านนี้เพิ่มเติม สามารถเข้าไปดูข้อมูลตามลิงก์ด้านล่างได้เลยครับ
หมายเหตุ : บทความนี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวของผมในวันที่ไปใช้บริการเท่านั้นครับ แต่ละท่านที่ได้มีโอกาสไปใช้บริการอาจจะได้รับการบริการที่แตกต่างจากนี้ออกไปครับ