การได้ไปใช้ชีวิตบนเรือหรู ได้ชมทะเลสวยๆ พร้อมกับมีอาหาร เครื่องดื่ม และพนักงานบริการอย่างดีตลอดทั้งวันนั้น น่าจะเป็นหนึ่งในความฝัน หรือ Bucket List ของหลายๆ คนเลย และวันนี้ผมจะมาบอกข่าวดีให้ทุกคนทราบว่าสิ่งเหล่านี้จะไม่ใช่ความฝันหรืออะไรที่เกินเอื้อมสำหรับพวกเราอีกต่อไป เพราะวันนี้เรือ Passion Catamaran สุดหรูของบริษัท Andaman Passion เค้าได้เปิดบริการล่องเรือชมความงามของทะเลอันดามันแบบ 1 Day Trip ในราคาเบาๆ เพียงคนละไม่กี่พันเท่านั้น โดยราคานี้คุณจะได้รับประสบการณ์ที่ฟินสุดๆ ได้เห็นวิวทะเลอันดามันสวยๆ ได้กินอาหารอร่อยๆ ได้เล่นกิจกรรมหลากหลาย และจะได้รูปสวยๆ กลับไปอวดเพื่อนๆ เพียบเลยครับ และถ้าใครไม่เชื่อก็ลองดูรูปทีเซอร์เหล่านี้ดูก่อนว่ามันว้าว น่าสนใจแบบที่ผมบอกหรือเปล่า ^^

Disclosure : บทความนี้ได้รับการสนับสนุนจากผู้ให้บริการ แต่ทั้งนี้ความเห็นต่างๆ ที่เกิดขึ้นเป็นความรู้สึกจริงของผมครับ

เอาล่ะ หลังจากที่ดูรูปทีเซอร์ที่ผมเอามายั่วทุกคนไปเรียบร้อย ตอนนี้น่าจะมีหลายๆ คนที่อยากจะเดินตามผมกับต๋งไปขึ้นเรือลำนี้ต่อแล้วใช่มั้ยครับ งั้นเราไปทำความรู้จักเรือลำนี้กันต่อเลยครับ!!

เรือ Passion Catamaran นั้น เป็นเรือ 2 ชั้นขนาดใหญ่ของบริษัท Andaman Passion ที่พึ่งเปิดบริการและทำการออกสู่น่านน้ำทะเลไทยเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2562 นี้เองครับ เรียกว่าเป็นเรือที่ยังใหม่ สด และซิงมาก โดยเรือลำนี้มีจุดเด่นหลายอย่างตั้งแต่ขนาดเรือที่ใหญ่มาก (กว้าง 12 เมตร ยาว 33 เมตร มีท้องเรือ 2 ท้อง
และมีห้องอับเฉาทั้งหมด 8 ห้อง) สามารถรองรับคนได้ 200 คนได้อย่างสบายๆ แต่เพื่อความสะดวกสบายของผู้ที่มาใช้บริการทางเรือเค้าก็เลยจำกัดผู้โดยสารต่อวัน (รวมลูกเรือ) อยู่ที่ไม่เกิน 150 คนเท่านั้นครับ รวมทั้งได้ข่าวว่าเค้ามีการจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนกับจำนวนเด็กเล็กๆ ต่อวันด้วย เพื่อให้ผู้โดยสารทุกคนที่มาใช้บริการนั้นได้รู้สึกผ่อนคลาย สบายใจที่สุดครับ โดยนักท่องเที่ยวชาวจีนที่ทางเค้ารับนั้นก็จะเป็นกลุ่มคนจีนที่มารยาทดี พูดภาษาอังกฤษได้ ต่อแถวเป็นระเบียบ ไม่ใช่จีนแบบที่มากับทัวร์ใหญ่ๆ แล้วสื่อสารอะไรกับใครไม่ได้แบบนั้นนะครับ ><

นอกจากนี้บนเรือลำนี้ก็ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ครบถ้วน ตั้งแต่อาหาร, เครื่องดื่ม, ห้องน้ำ, ผ้าเช็ดตัว, หน้ากากดำน้ำ, แพยาง, สไลเดอร์ยักษ์, แพดเดิ้ลบอร์ด, ร่มชูชีพ จนไปถึงอุปกรณ์เครื่องเล่นทางน้ำต่างๆ อีกมากมาย โดยอุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวกเหล่านี้รวมไปถึงอาหารและเครื่องดื่มนั้น เราสามารถใช้บริการได้ฟรีทั้งหมด ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ยกเว้นใครที่อยากกินเครื่องดื่มพิเศษก็จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม แต่เครื่องดื่มอย่างน้ำเปล่า น้ำผลไม้นี่เค้ามีบริการฟรีไม่อั้นครับ ^^

และที่สำคัญที่สุดคือ เรือลำนี้ถูกออกแบบและต่อในประเทศไทยทั้งหมดเลยครับ เพราะทางเจ้าของเรือเค้าอยากจะลงรายละเอียดและทำทุกอย่างให้เหมาะสมกับนักท่องเที่ยวชาวไทยและท้องทะเลไทยมากที่สุดครับ

หมายเหตุ : ด้วยขนาดของเรือที่ใหญ่และมีการออกแบบที่ดี ดังนั้นเรือลำนี้จึงไม่มีปัญหาโคลงเคลงเวลาเจอคลื่นเลยครับ ทั้งตอนที่จอดสนิทหรือว่ากำลังแล่นอยู่ ใครที่เป็นคนเมาเรือง่ายก็สบายใจได้เลย เพราะต๋งก็เป็นเมาเรือง่ายเหมือนกันยังสามารถไปทริปนี้แบบชิลๆ ได้เลย

และนี่เป็นโปรแกรมของเรือลำนี้ครับ โดย ณ ปัจจุบันนี้ (พฤศจิกายน 2562) โปรแกรมของเรือ Passion Catamaran จะมีเพียงแบบเดียวเท่านั้นคือ “โปรแกรมเที่ยวชมอ่าวพังงา” โดยจะเริ่มออกจากท่าเรือ Yacht Haven Marina จ.ภูเก็ต ตอนประมาณ 11.30 น. จากนั้นเดินทางไปเล่นน้ำบริเวณเกาะละวะ, ชมความงามของเกาะห้อง, แวะเที่ยวเกาะตะปู และเดินทางกลับถึงท่าเรือ Yacht Haven Marina ตอนประมาณ 19.30 น. ครับ โดยเรือลำนี้จะเปิดบริการทุกวัน ยกเว้นวันพุธและวันที่มีลูกค้าพิเศษขอเหมาเรือ ดังนั้นใครที่สนใจจะไปใช้บริการเรือลำนี้ ผมแนะนำให้ดูวันดีๆ และเช็ควันล่วงหน้ากับทาง Andaman Passion ก่อนนะครับว่าวันที่เราจะไปนั้นเรือเปิดให้บริการหรือเปล่า

ส่วนในเรื่องค่าใช้จ่ายนั้น ปัจจุบันค่าใช้จ่ายสำหรับ 1 Day Trip โปรแกรมนี้จะอยู่ที่ 4,700 บาท/คน สำหรับผู้ใหญ่ และ 3,700 บาท/คน สำหรับเด็กอายุ 4-11 ปี  โดยราคานี้จะรวมทุกอย่างหมดแล้ว ยกเว้นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และเครื่องดื่มพิเศษ แต่พิเศษสำหรับแฟนเพจ ภรรยาหา สามีใช้” ที่ทำการจองภายในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2562 จะได้รับสิทธิ์ซื้อแพคเกจผู้ใหญ่ในราคาเพียง 3,500 บาท/คน เท่านั้น โดยจองวันนี้ แต่สามารถใช้ได้จนถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2563 เลยครับ ใครที่สนใจก็รีบจองตามช่องทางด้านล่างนี้ได้เลย บอกเลยว่าราคานี้คุ้มมากกกกกกก เพราะหลังจากนี้จะหาราคาแบบนี้อีกน่าจะยากแล้วครับ

Facebook Andaman Passion

Line : @andamanpassion

Tel : 062–9562416, 092–2582824, 076–390577

รู้ภาพรวมของเรือรวมทั้งราคา วันและเวลาที่เปิดบริการแล้ว คราวนี้เราไปรีวิวโปรแกรม 1 Day Trip กันแบบเจาะลึกกันเลยดีกว่า โดยสำหรับทริปนี้ผมกับต๋งใช้บริการสายการบินนกแอร์จากสนามบินดอนเมืองไปยังสนามบินภูเก็ตครับ โดยหากเราเลือกออกจากกรุงเทพตั้งแต่ไฟลท์เช้า เราจะสามารถไปถึงภูเก็ตและเดินทางไปยังท่าเรือ Yacht Haven Marina ได้ทันเวลาพอดี เพราะระยะทางจากสนามบินไปยังท่าเรือนั้นจะใช้เวลาแค่ประมาณ 20 นาทีเท่านั้นครับ

หมายเหตุ : ค่ารถรับส่งจากสนามบินไปยังท่าเรือ หรือจากท่าเรือไปยังโรงแรมต่างๆ ในภูเก็ต จะรวมอยู่ในราคา 1 Day Trip ที่เราจ่ายไปเรียบร้อยแล้วนะครับ

นี่เป็นภาพของท่าเรือ Yacht Haven Marina ภูเก็ตครับ ที่นี่จะมีร้านอาหารและห้องน้ำบริการด้วย ใครมาถึงก่อนก็สามารถไปใช้บริการได้ หรือถ้าใครเป็นสายถ่ายรูปจะเดินถ่ายรูปเล่นก็ได้นะ ที่นี่มีเรือสวยๆ รวมทั้งมุมถ่ายรูปเก๋ๆ เยอะเลย

และเมื่อใกล้ถึงเวลาที่เรือจะออกจะมีเจ้าหน้าที่ของเรือพาเราไปยังบริเวณที่เรือ Passion Catamaran จอดอยู่ครับ และไหนๆ ก็ได้มีโอกาสมาใช้ชีวิตแบบนี้ทั้งที เราก็ต้องขอถ่ายรูปเก๋ๆ ก่อนขึ้นเรือซักนิดนึงนะครับ ><

ทั้งนี้เมื่อเราเดินขึ้นเรือแล้ว ทางเจ้าหน้าที่เค้าจะให้เราทำการถอดรองเท้านะครับ โดยทางเจ้าหน้าที่เค้าจะมีการจัดเก็บรองเท้าของเราเป็นอย่างดีเลยแหละ

ส่วนนี่จะเป็นภาพของเรือ Passion Catamaran บริเวณชั้น 1 ครับ ที่ชั้นนี้จะมีเก้าอี้ให้เรานั่งอยู่ทั้ง 2 กราบของเรือ ขนาดของโต๊ะและเก้าอี้นั้นใหญ่ นั่งสบายมาก และทุกที่นั่งจะมีเสื้อชูชีพวางประจำไว้ให้เรียบร้อยแล้วด้วย

และเมื่อเราได้ที่นั่งของเราเรียบร้อย ทางเจ้าหน้าที่ของเรือก็จะนำ Welcome Drink มาเสิร์ฟครับ รสชาติอร่อยถูกปากเลยล่ะ

นอกจากนี้ที่ชั้น 1 ของเรือจะมีจุดบริการไลน์อาหารกลางวัน, เคาน์เตอร์เครื่องดื่ม รวมไปถึงผ้าเช็ดตัวและอุปกรณ์การเล่นน้ำต่างๆ วางไว้ด้วย โดยในส่วนของน้ำเปล่า, น้ำผลไม้ และ Soft Drink นั้น เราจะสามารถทานได้เรื่อยๆ ไม่มีค่าใช้จ่ายครับ แต่ในส่วนของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และกาแฟต่างๆ อันนี้จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมนะ

ส่วนนี่จะเป็นที่นั่งบริเวณหัวเรือครับ จุดนี้เป็นจุดที่ผมชอบมาก เพราะมันนั่งและนอนสบายสุดๆ แถมยังเห็นวิวสวยๆ ได้เต็มตาด้วย แต่ทั้งนี้ใครจะไปอยู่ตรงนี้ก็ควรต้องทาครีมกันแดดไปดีๆ นะ ไม่งั้นผิวไหม้แน่ @_@

และด้วยความที่วันที่ผมกับต๋งไปนั้น มีพี่ๆ น้องๆ บลอกเกอร์ รวมถึงนายแบบ นางแบบไปด้วย ผมก็เลยขอเก็บภาพบรรยากาศสนุกๆ รวมถึงความเซ็กซี่ต่างๆ มาฝากทุกคนเลยนะครับ รีวิวนี้มันจะได้ร้อนฉ่าๆ หน่อย

เอาล่ะ คราวนี้มาดูที่ชั้น 2 ของเรือกันบ้างดีกว่า ที่ชั้น 2 ของเรือนี้นอกจากจะมีเคาน์เตอร์บริการเครื่องดื่มแบบชั้นล่างแล้ว เค้ายังมีที่นั่งอีกหลายแบบด้วย ใครอยากนั่ง นอน หรือโพสต์ท่าถ่ายรูปเก๋ๆ ตรงไหนก็จัดไปโลดดดดด มาทั้งทีต้องเอาให้คุ้มครับ

และด้วยความที่บริเวณชั้น 2 นี้ค่อนข้างโล่งและโปร่งกว่าชั้นล่าง มันก็เลยทำให้เราเห็นวิวและถ่ายรูปต่างๆ ได้สะดวกกว่าครับ โดยภาพด้านล่างนี้ก็คือภาพวิวต่างๆ ที่ผมได้ถ่ายมาจากการล่องเรือทริปนี้ครับ

ส่วนนี่เป็นภาพห้องน้ำในเรือครับ โดยห้องน้ำนี้จะอยู่บริเวณชั้นล่างของเรือ แยกชายหญิงชัดเจน และจะมีบริการอย่างละ 2 ห้องเท่าๆ กัน ลักษณะ ขนาด และความสะอาดต่างๆ ถือว่าดีเลย ใครกังวลเรื่องห้องน้ำ ผมบอกเลยว่าสบายใจได้ครับ

ส่วนนี่เป็นหน้าตาของอาหารกลางวันที่เค้ามีบริการบนเรือครับ โดยวันที่ผมไปนั้นจะมีต้มยำกุ้ง, ส้มตำ, ไก่ทอด, กุ้งผัดผงกะหรี่, ไก่สะเต๊ะ, ผัดกะหล่ำ, ผัดไทย, ซูชิ, เปาะเปี๊ยะ, เต้าหู้ทอด, ข้าวผัดสับปะรด, ข้าวสวย แล้วก็ผลไม้ ใครชอบรายการไหนก็เดินไปตักได้เลย รสชาติจากที่ผมได้ชิมมาถือว่าโอเคเลยครับ ที่สำคัญคืออาหารเหล่านี้เค้ามีการปรุงสดๆ ใหม่ๆ บนครัวที่อยู่บนเรือเลยครับ!! บอกเลยว่าแจ่มมาก!!

กินกันอิ่มๆ ไปแล้ว คราวนี้เรามาดูโปรแกรมท่องเที่ยวกันบ้างดีกว่า โดยหลังจากที่เรือ Passion Catamaran ออกจากท่าเรือไม่นาน จุดแรกที่เรือจะจอดก็คือกลางทะเลอันดามันแถวๆ เกาะละวะ โดยที่จุดนี้เค้าจะจอดให้เราเล่นน้ำประมาณ 30 นาที ใครที่อยากลงไปเล่นน้ำทะเล หรือดำน้ำดูปะการังต่างๆ ก็สามารถเปลี่ยนชุดลงไปได้เลย โดยอุปกรณ์ต่างๆ บนเรือ เช่น สไลเดอร์ยักษ์, แพยาง, แพดเดิ้ลบอร์ด, หน้ากากดำน้ำ, เสื้อชูชีพ รวมไปถึงผ้าเช็ดตัวนั้นเราสามารถใช้ได้ฟรีทั้งหมดครับ ที่สำคัญตอนที่เราลงไปเล่นน้ำอยู่นั้นเค้าจะมีการกั้นทุ่นรวมถึงมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลความปลอดภัยอยู่ใกล้ๆ ด้วย ดังนั้นเราสบายใจในการเล่นได้เลยครับ

หมายเหตุ : ในวันที่ผมกับต๋งไปนั้น สไลเดอร์ยักษ์บนเรือยังไม่เสร็จเรียบร้อยดี แต่ปัจจุบันนี้เค้ามีให้บริการในส่วนนี้เรียบร้อยแล้วครับ ใครอยากเล่นสไลเดอร์ลงน้ำทะเลก็อย่าลืมเตรียมชุดไปให้พร้อมนะ

หลังจากเล่นน้ำบริเวณเกาะละวะเสร็จ เรือก็จะเดินทางต่อไปยังเกาะห้อง จ.พังงา โดยที่บริเวณนี้เค้าจะมีเรือคายัคพาเราเข้าไปชมความงามและความอัศจรรย์ของเกาะห้อง ซึ่งผมบอกเลยว่ามันเก๋และดีมาก ทุกคนควรลงไปสัมผัสครับ โดยเรือคายัคหนึ่งลำจะสามารถลงไปได้อีก 2 คน ทุกลำจะมีคนพายให้หมดและแต่ละคนพายเก่งมาก เราไว้วางใจได้เลย ที่สำคัญเราสามารถเอากล้องลงไปถ่ายรูปได้ด้วย ไม่เปียก ไม่คว่ำแน่นอน แต่ก็อย่าทำอะไรพิเรนท์หรือแผลงมากเกินพิกัดนะครับ

นี่เป็นบรรยากาศขณะที่ผมกับต๋งนั่งเรือคายัคเข้าไปชมความงามของเกาะห้องครับ โดยระหว่างที่เราลัดเลาะไปตามซอกเขาและถ้ำต่างๆ คนที่พายเรือเราก็จะคอยอธิบายถึงจุดที่น่าสนใจในบริเวณหมู่เกาะห้องไปด้วย เช่น หินนั้นรูปร่างเหมือนอะไร มุมนี้เหมือนอะไร อย่างเช่นภาพนี้จะเป็นภาพที่หากเราเงยหน้าขึ้นไปมองบนฟ้าก็จะเห็นโครงร่างของต้นไม้และภูเขาเป็นรูปของหัวใจครับ อเมซซิ่งมากๆ เลยแหละ

สำหรับระยะเวลาในการนั่งเรือคายัคจนจบรูทของเค้านั้นจะใช้เวลาประมาณ 40 นาทีครับ และมันเป็นช่วงเวลาที่ผมว่าคุ้ม น่าประทับใจมาก หลายๆ จุดเค้าจะพาเรือของเราเข้าไปในถ้ำที่มืดมิด หรือตรอกซอกซอยที่แคบ เพื่อชมความสวยงามของลากูนที่แอบซ่อนอยู่ด้านใน และในบางช่วงนั้นเราอาจจะต้องทำตัวลีบๆ หรือนอนราบไปกับเรือด้วยนะ เพราะช่องทางมันแคบมาก แต่พอหลุดเข้าไปได้นี่บอกเลยว่าโคตรคุ้มครับ ยอมใจในฝีมือคนพาย และคนหาเส้นทางจริงๆ

ย้ำอีกครั้งนะครับ ใครที่ได้ไปทริปนี้กับเรือ Passion Catamaran ห้ามพลาดที่จะลงจากเรือเพื่อไปชมความงามของเกาะห้องเด็ดขาด มันคุ้มมาก และมันฟรีไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ เลย แต่ถ้าหากใครกลับเรือมาแล้วอยากจะให้ทิปพิเศษแก่คนพายเรือเรา อันนี้ก็แล้วแต่ความพอใจและกำลังทรัพย์ของเราเลยครับ

และเมื่อเรากลับขึ้นเรือทั้งหมดเรียบร้อย เรือ Passion Catamaran ก็จะพาเราเดินทางต่อไปยังเกาะตะปูหรือเขาพิงกัน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่โด่งดังมาก เพราะสถานที่แห่งนี้เคยถูกถ่ายทำภาพยนต์เรื่องเจมส์ บอร์น 007 ตอน The Man with Golden Gun ครับ โดยสิ่งที่พิเศษสุดๆ ของคนที่เดินทางมากับเรือ Passion Catamaran นั้นก็คือ เราจะมาถึงที่เกาะตะปูนี้ในช่วงเย็นๆ ซึ่งจะเป็นช่วงที่ไม่มีนักท่องเที่ยวคนอื่นแล้ว ทำให้เราสามารถถ่ายภาพตามจุดต่างๆ ได้สะดวกมาก อย่างวันที่ผมไปนั้นก็ไม่มีเรือนักท่องเที่ยวอื่นๆ เหลืออยู่ที่เกาะแล้ว บนเกาะก็เลยเหลือเฉพาะพวกผมเท่านั้นครับ ถ่ายรูปกันได้สนุกและสบายมากกกกกกกก จะโพสต์สวยๆ มุมไหนก็ได้หมด ไม่ต้องรอคิวอะไรเลย

อ้อ แต่ผมต้องบอกไว้ก่อนนะครับว่าด้วยความที่ขนาดของเรือ Passion Catamaran นั้นใหญ่มาก ดังนั้นเราจึงไม่สามารถเอาเรือไปเทียบท่าที่เกาะตะปูได้โดยตรง เราจะต้องจอดเรือที่กลางทะเลแล้วนั่งเรือหางยาวเข้าไปที่เกาะแทนนะครับ ซึ่งมันก็ได้ประสบการณ์อะไรที่พิเศษดีนะ ส่วนเรื่องความปลอดภัยก็สบายหายห่วง เพราะเป็นเรือหางยาวขนาดใหญ่ แถมเค้าจะมีชูชีพให้พวกเราทุกคนด้วยครับ

และเมื่อพวกเรานั่งเรือหางยาวกลับจากเกาะตะปูแล้ว คราวนี้ก็ถึงเวลาที่เราจะต้องเดินทางกลับท่าเรือ Yacht Haven Marina จ.ภูเก็ต กันซักที ซึ่งขากลับนี้จะเป็นการนั่งเรือยาวๆ 2 ชั่วโมงกว่าๆ เลย แต่ทุกคนไม่ต้องกลัวว่าจะเหงาหรือเบื่อนะครับ เพราะในช่วงเวลานี้นอกจากเค้าจะเสิร์ฟอาหารเย็นที่เป็นสเต๊กให้เราทานแล้ว ช่วงเวลานี้มันยังเป็นช่วงเวลาที่พระอาทิตย์กำลังตกด้วย เราจะได้เห็นท้องฟ้าและวิวสวยๆ มากมายตลอดการนั่งเรือกลับเลยแหละ ใครเป็นสายถ่ายรูปหรืออยากได้รูปตัวเองสวยๆ นี่เป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่ห้ามพลาดเลยครับ

ส่วนใครที่เป็นสายตื้ด อยากจะแด้นซ์ อยากจะเต้น ช่วงนี้บนเรือเค้าก็จะมีดีเจมาเปิดเพลงสนุกๆ ให้เราเต้นมันๆ กันด้วยครับ ยิ่งใครที่ไปเป็นก๊วนใหญ่ๆ ผมว่าน่าจะสนุกมากเลยแหละ

ส่วนนี่เป็นภาพอาหารเย็นที่เค้ามีบริการบนเรือครับ มื้อเย็นจะเป็นประเภทสเต๊ก หน้าตาดูดี รสชาติโอเคเลย ที่สำคัญอาหารเหล่านี้เค้าปรุงเสร็จใหม่ๆ บนเรือเลย ^^

และทั้งหมดนี้ก็คือภาพรวมของโปรแกรม 1 Day Trip ของเรือ Passion Catamaran ครับ ใครสนใจทริปหรูๆ ดูดี ราคาไม่แรงแบบนี้ก็รีบติดต่อรีบจองเลย เรือเปิดบริการทุกวันยกเว้นวันพุธและวันที่มีลูกค้าพิเศษขอเหมาเรือ ส่วนราคานั้นโดยปกติผู้ใหญ่จะอยู่ที่ 4,700 บาท/คน และเด็กอายุ 4-11 ปี จะอยู่ที่ 3,700 บาท/คน แต่สำหรับแฟนเพจ ภรรยาหา สามีใช้” ที่ทำการจองภายในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2562 จะได้รับสิทธิ์ซื้อแพคเกจผู้ใหญ่ในราคาพิเศษเพียง 3,500 บาท/คน เท่านั้น โดยจองวันนี้แต่สามารถเก็บไว้ใช้ได้ยาวๆ จนถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2563 นู่นเลยครับ ใครที่สนใจก็สามารถติดต่อจองได้ตามช่องทางด้านล่างนี้เลยนะครับ

Facebook : Andaman Passion

Line : @andamanpassion

Tel : 062–9562416, 092–2582824, 076–390577

ส่วนถ้าใครตัดสินใจจองทริปเรือนี้แล้วแต่ยังไม่รู้ว่าจะไปพักที่ไหนในภูเก็ตดี ลองดูที่โรงแรม Cape Sienna Hotel & Villas หาดกมลา ก็ได้นะครับ ผมกับต๋งได้มีโอกาสไปพักมาและประทับใจหลายอย่างเลย โดยเฉพาะขนาดห้องนอนที่ใหญ่ รวมถึงมีอ่างจากุชชี่ที่สามารถมองเห็นวิวทะเลด้วย แต่ทั้งนี้ผมต้องบอกก่อนนะว่าอ่างจากุชชี่ของเค้านั้นจะตั้งอยู่ที่ระเบียงด้านนอกห้องนะครับ แต่ก็ไม่ต้องกลัวไป เพราะทำเลที่เค้าตั้งอ่างไว้นั้น ห้องอื่นๆ จะไม่สามารถมองเห็นเราได้ครับ ^^

นี่เป็นภาพของห้อง “Sea View Honeymoon Suites” ที่ผมกับต๋งได้ไปพักมาครับ เรานอนกัน 2 คืน ที่นอนดี หมอนดี หมอนเยอะ นอนหลับสบายมากครับ ส่วนห้องน้ำนั้นก็มีการแยกโซนเปียกแห้งชัดเจน แบ่งออกเป็น 2 ห้องแยกจากกันโดยมีอ่างล้างหน้าอยู่ตรงกลาง น้ำไหลแรง และการใช้งานต่างๆ ไม่ติดขัดอะไรครับ

ส่วนนี่จะเป็นอ่างจากุชชี่ที่อยู่ด้านนอกห้องตรงบริเวณระเบียงครับ ขนาดอ่างใหญ่มาก สามารถแช่ได้ 2 คนสบายๆ รวมทั้งตอนที่นอนแช่อยู่นั้นเรายังสามารถเห็นวิวทะเลสวยๆ ไปพร้อมกันได้ด้วย โดยห้องพักของ Cape Sienna Hotel & Villas นั้นแทบทุกห้องจะเป็น Sea View ทั้งหมดครับ เพราะลักษณะของโรงแรมจะเป็นการตั้งอยู่บนเนินเขา ก็เลยทำให้สามารถมองเห็นทะเลได้หลายระดับครับ

ส่วนนี่เป็นภาพบรรยากาศอื่นๆ ภายในโรงแรมครับ โดยจากที่ผมได้ลองเดินสำรวจคร่าวๆ ก็พบว่าที่โรงแรมแห่งนี้มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบเลย ไม่ว่าจะเป็นสปา, สระว่ายน้ำ หรือฟิตเนส ใครสนใจอยากทำกิจกรรมไหนเป็นพิเศษก็เตรียมตัวไปด้วยนะครับ

และนี่เป็นภาพของ Vanilla Sky Bar & Gastro Pub บาร์ที่อยู่ชั้น Rooftop ของโรงแรม และเป็นบาร์ที่วิวสวยมากกกกกก โดยเฉพาะตอนพระอาทิตย์ตกครับ ใครที่ได้มีโอกาสไปพักที่นี่และตอนเย็นๆ ไม่ได้มีโปรแกรมไปไหน ผมว่าไปนั่งเล่นกินเครื่องดื่มอร่อยๆ พร้อมชมวิวสวยๆ แบบนี้ก็เป็นอะไรที่น่าสนใจมากเลยล่ะครับ

อ้อ สำหรับเรื่องประเภทห้องพักนั้น ที่โรงแรม Cape Sienna Hotel & Villas นี้จะมีให้บริการหลาย Type มากๆ ครับ ตั้งแต่ห้องที่ไม่มีจากุชชี่, ห้องที่มีจากุชชี่, พูลวิลล่าขนาดเล็ก, พูลวิลล่าขนาดใหญ่ รวมไปถึงมีโปรโมชั่นพิเศษต่างๆ ออกมาเป็นระยะๆ ด้วย ใครที่สนใจก็ลองติดต่อสอบถามหรือทำการจองผ่านช่องทางด้านล่างนี้ได้เลยครับ โดยเฉพาะคนที่กำลังหาห้อง Pool Villa ในจังหวัดภูเก็ตอยู่ ที่นี่ถือว่าน่าสนใจมากเพราะที่โรงแรม Cape Sienna Hotel & Villas นั้นเค้ามีประเภทของ Pool Villa หลายแบบเลย บางหลังก็มีห้องนอนแค่ 2-3 ห้อง แต่บางหลังก็ใหญ่โตมาก มีห้องมากมาย จนถึงขั้นต้องมีลิฟท์ด้วยครับ @_@

Facebook : Cape Sienna Hotel & Villas

Website : www.capesienna.com/

Tel : 076-337300

จองที่พัก Cape Sienna Hotel & Villas ราคาพิเศษกับ Agoda คลิ๊กที่นี่

ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านจนจบ และหวังว่ารีวิวนี้จะมีประโยชน์สำหรับคนที่กำลังหาข้อมูลเหล่านี้อยู่นะครับ ทั้งนี้หากใครที่ต้องการติดตามเรื่องราวของการกินและเที่ยวของผมกับต๋งแบบใกล้ชิดก็สามารถกดติดตามได้ที่แฟนเพจ ภรรยาหา สามีใช้” ได้เลยครับ แล้วพบกันใหม่รีวิวหน้า สวัสดีครับ

หมายเหตุ : บทความนี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวของเราในวันที่ลองใช้บริการเท่านั้น ทั้งนี้แต่ละท่านที่ได้มีโอกาสใช้บริการอาจจะได้รับการบริการหรือมีความคิดเห็นที่แตกต่างจากนี้ได้ครับ