สวัสดีครับ วันนี้ผมมีรีวิวมาฝากกันอีกแล้วครับ โดยรีวิวนี้ค่อนข้างจะพิเศษหน่อยครับ เพราะโดยปกติแล้วผมมักจะทำรีวิวเฉพาะเวลาที่ผมไปทานข้ากับภรรยาสองคนเท่านั้นเนื่องจากเกรงใจคนที่ไปด้วย แต่รีวิวนี้ก็เกิดขึ้นได้จากการที่ผมได้ไปปาร์ตี้กับ The Gang ครับ และทุกคนมี life style คล้ายๆ กันก็เลยได้มีโอกาสทำรีวิวออกมาครับ โดยจุดหมายปลายทางของเราในวันนี้ก็คือร้าน Shugaa ในซอยสุขุมวิท 61 ครับ
การเดินทางมาร้านนี้นั้นหากใครที่ขับรถมาก็เข้าซอยสุขุมวิท 61 มาเรื่อยๆ ได้เลยครับ ระยะทางจากปากซอยน่าจะราวๆ 400 เมตรได้ครับ โดยร้านจะอยู่ด้านซ้ายมือบริเวณเดียวครับ Condo The Residence เลยครับ ซึ่งเราสามารถที่จะจอดรถริมถนนได้เลยครับ ส่วนคนที่มารถ BTS แบบผมก็ให้ลงสถานีเอกมัยแล้วก็เดินมาเรื่อยๆ ตามทางราวๆ 600 เมตรได้ครับ ใช้เวลาเดินซัก 10 นาทีก็ถึงร้านครับ
อ้อ…..ระหว่างที่ผมเดินเข้ามาในซอยนั้น ผมเห็นมีรถกอล์ฟของ The Residence วิ่งอยู่ในซอยด้วย ไม่แน่ใจว่าเค้าสามารถไปรับไปส่งเราที่ปากซอยได้หรือเปล่า แต่ผมเดาว่าน่าจะได้นะครับ ถ้ายังไงใครได้มีโอกาสไปที่ร้านลองสอบถามดูนะครับ เค้าจอดใกล้ๆ กับหน้าร้านเลยครับ
Disclosure : บทความนี้เป็นบทความที่ไม่ได้รับการสนับสนุนจากผู้ให้บริการใดๆ ทั้งสิ้น
Shugaa (1)
ก่อนที่ผมกับเพื่อนๆ จะเลือกไปร้านนี้พวกเราก็ได้ลองอ่านรีวิวดู และมันทำให้ผมแอบคิดว่าร้านนี้น่าจะค่อนข้างใหญ่น่าดู ทำให้ตอนที่ผมไปถึงหน้าร้านผมจึงแอบตกใจเล็กน้อยเพราะร้านเล็กกว่าที่คิดครับ โดยร้านมีขนาดประมาณ 2 ห้อง และมีการแบ่งข้างในออกเป็นชั้นครึ่ง คือชั้นล่างเต็มๆ ชั้นและมีบันไดวนเดินขึ้นไปชั้นลอยที่สามารถนั่งได้อีกครึ่งชั้น รวมๆ กันแล้วก็น่าจะสามารถนั่งได้ประมาณ 30 คนครับ โดยตัวผมกับภรรยาไปถึงร้านหลังสุด ซึ่งกลุ่มเพื่อนๆ ผมได้ทำการจับจองโต๊ะไว้เรียบร้อยแล้วรวมทั้งเริ่มทานอะไรไปแล้วด้วยครับ…….แบบว่าไม่รอกันเลย ฮา
สำหรับรายละเอียดของการไปทานก็ดังนี้เลยครับ
วัน : เสาร์ที่ 23 ก.ค. 59
เวลา : 14.30-16.00 น.
จำนวน 8 คน
Shugaa (2)
โดยรวมๆ การแต่งร้านดูน่ารักดีครับ มีเคาน์เตอร์ที่เอาไว้ดูขนมและคิดเงินอยู่ที่มุมนึงของร้าน ที่เหลือก็เป็นโต๊ะให้นั่งครับ ของแต่งในร้านไม่ว่าจะเป็นคุณหมีขั้วโลก กล่องที่ห้อยมาจากเพดาน โลโก้ร้าน ทั้งหมดนั้นผมว่ามันดูน่ารักดีครับและเหมือนทางร้านพยายามเล่นรูปทรงเหลี่ยมๆ แบบคิวบิคหรือโพลีกอนในหลายๆ จุดด้วย เมื่อมารวมกับการใช้โทนสีพาสเทลในร้านยิ่งทำให้ดูน่ารักมุ๊งมิ้งกิ๊งก่องแก้วมากครับ
Shugaa (3)
มาดูตัวเมนูกันดีกว่าครับ เมนูของร้านทำมาในสไตล์เก๋ๆ เป็นกระดาษทรงยาวๆ แล้วมีคลิปหนีบด้านบนครับ ในเมนูแต่ละหน้าจะมีรูปภาพ ราคา และคำอธิบายประกอบครับ โดยคำอธิบายจะเป็นภาษาอังกฤษนะครับ ดังนั้นในหลายๆ รายการที่ผมสงสัยผมก็ต้องมีการเรียกพนักงานมาสอบถามเพิ่มเติมครับ กลัวสั่งมาแล้วกินไม่ได้ T__T
โดยรวมๆ แล้วภาพอาหารในเมนูดูเก๋ น่ารัก น่ากินมากครับ และด้วยความที่ผมกับภรรยาพึ่งมาถึงดังนั้นพวกเราจึงได้สั่งอาหารมาเพิ่มเติมดังนี้ครับ
  • Gen-Ki
  • Butter Horlicks
  • Crump B
  • Jao Klom
  • Shugaa
  • Shugria (Bottle)
Shugaa (2)
รอซักพัก ไม่ถึง 5 นาที ขนมก็ได้ทยอยมาเสิร์ฟครับ เพราะขนมบางอย่างมันก็มีอยู่ในตู้อยู่แล้ว เริ่มจาก Crump B กับ Jao Klom โดยทั้ง 2 รายการมีลักษณะคล้ายๆ กันคือ เป็นขนมรูปร่างทรงกลมแล้วมีไส้ตรงกลาง ขนาดไม่ใหญ่มากครับ ประมาณผลส้มพอดีๆ
สำหรับ Crump B นั้น จะมีสีชมพูและจะได้มาไม่เต็มลูก เพราะด้านล่างจะเป็นขนมปัง เนื้อแน่นๆ คล้ายกับโดนัท ส่วนไส้ตรงกลางจะเป็น Apple Caramelized ครับ อร่อยดีครับ
Shugaa (5)
Shugaa (6)
Shugaa (7)
Shugaa (8)
ส่วน Jao Klom นั้น จะมาเป็นลูกสีเหลืองกลมๆ เต็มเม็ดเต็มหน่วย รสชาติหลักของมันคือส้มยูสุ ดังนั้นมันจึงเปรี้ยวเล็กๆ ครับ ส่วนการตกแต่งทางร้านก็พยายามทำให้ออกมาคล้ายๆ กับส้มที่สุดครับ
อ้อ ราคาของทั้ง Crump B และ Jao Klom นั้นจะเท่ากันนะครับ คือชิ้นละ 160 บาทครับ
Shugaa (9)
Shugaa (10)
Shugaa (11)
ต่อกันที่รายการถัดไปครับกับ Shugaa ซึ่งเป็นเมนูชื่อเดียวกับร้านเลยครับ โดยหน้าตาของมันก็เป็นแบบนี้ครับ มีไอศรีมชาเขียว 1 ลูก แล้วก็เค้กชาเขียว 1 ชิ้น ตกแต่งด้วยถั่วแดงและก็ถ่านครับ
ต้องบอกว่ารายการนี้ทางร้านตกแต่งจานมาได้สวยมากครับและก็ตรงปกด้วยครับ โดยมันถูกเสิร์ฟมาในภาชนะที่น่าจะสั่งทำขึ้นมาเป็นพิเศษด้วยรูปร่างที่คล้ายกับท่อนไม้ครับ ส่วนรสชาติโดยรวมๆ นั้นโอเคเลยครับ ยกเว้นถ่าน (Charcoal) ที่ผมไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ครับ
ราคาของเมนูนี้อยู่ที่ 275 บาทครับ
Shugaa (12)
Shugaa (13)
Shugaa (14)
Shugaa (15)
ทีนี้มาต่อกันที่เครื่องดื่มดีกว่าครับ เริ่มจากแก้วแรก Gen-Ki เป็นชาเขียวปั่นพร้อมส่วนผสมอย่างข้าวพอง, น้ำผึ้ง, นม และ Panna cotta ครับ แก้วนี่อร่อยเลยครับ ทั้ง 8 คนที่กินให้ความเห็นตรงกันครับ ><
ราคาแก้วนี้คือ 165 บาทครับ
Shugaa (16)
Shugaa (17)
ต่อกันที่แก้วถัดมากับ Butter Horlicks เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของเนยถั่วเยอะมากกกก คนที่ชอบส่วนผสมประมาณนี้น่าจะ love love เลย ส่วนพวกเรา 8 คน ชิมแล้วก็เบ้ปากมองบนเป็นเอกฉันท์ และคนที่ซวยที่สุดคือคนที่สั่งมาเพราะต้องกินให้หมด ฮา
ราคาแก้วนี้ก็ 165 บาทครับ
Shugaa (18)
Shugaa (19)
และก็มาถึงเมนูสุดท้ายครับกับ Shugria เครื่องดิ่มที่ทางร้านได้ไอเดียมาจากไวน์แดงแต่ปรับเป็นน้ำองุ่นที่ไม่มีแอลกอฮอล์ มีส่วนผสมหลักๆ เป็น อบเชย (Cinnamon), มะนาว (lemon), ส้ม และแอ๊ปเปิ้ลครับ
เรื่องของรสชาติผมไม่รู้จะอธิบายยังไงดี เอาเป็นว่าแปลก ซ่านิดๆ ประหลาดดี แต่กินแล้วโอเคครับ ราคาหากสั่งเป็นแก้วจะ 145 บาท แต่หากสั่งมาเป็นขวดจะ 265 บาท เทได้ประมาณ 3 แก้วครับ ผมก็เลยจัดมาเป็นขวดเลย
Shugaa (20)
Shugaa (21)
Shugaa (22)
ตอนนี้เมนูที่พวกผมสั่งไปก็มาครบแล้ว แต่ก่อนที่จะสรุป เดี๋ยวผมจะขอพาไปดูอะไรน่ารักๆ อีกซักหน่อยก่อนครับ เริ่มแรกก็ขนมอีกอย่างที่มีหน้าตาเก๋ๆ และชื่อเก๋ๆ ว่า Forrest Gump  ครับ
ส่วนผสมของมันที่สำคัญก็คือ Dark Chocolate, mint, blackcurrant, brownie แล้วก็ Hazelnut ครับ ชิ้นนี้ราคา 180 บาทครับ ใครได้มีโอกาสไปและชอบส่วนผสมของมันก็ลองสั่งมาชิมดูนะครับ
Shugaa (23)
อย่างที่สองก็คือร้านนี้เค้ามีการทำขนมเค้กเก๋ๆ หน้าตาน่ารักมากกกกกอย่างในภาพนี้ด้วยครับ โดยเราสามารถเลือกชนิดของเค้กได้ ขนาดของเค้กไม่ใหญ่มากเส้นผ่าศูนย์กลางน่าจะซัก 15 ซม. ได้ครับ ทางร้านจะจัดเป็น Set ให้โดยใส่ไว้ในโดมแก้ว พร้อมกับกล่องไม้ครับ
แต่เห็นหน้าตาน่ารักๆ แบบนี้ ราคาผมว่ามันไม่น่ารักเท่าไหร่นะครับ เพราะที่ผมลองสอบถามดูวันนั้นได้รับคำตอบจากทางร้านมาว่าราคาชิ้นละ 3,500 บาทครับ #ลาก่อยยยยยย T_______T
Shugaa (24)
Shugaa (25)
Shugaa (26)
Shugaa (27)
และก็อย่างที่สามครับ กับบันไดวนอันลือชื่อ ซึ่งเป็นจุดที่ถ่ายรูปออกมาได้น่ารักและเก๋ดีครับ ผมเชื่อว่าหลายๆ คนมาที่ร้านนี้ก็เพราะเจ้าบันไดนี้เลยครับ อย่างเช่นแก๊งค์ผมเป็นต้นครับ ฮา
Shugaa (28)
เอาล่ะครับ หลังจากที่ผมกับ The Gang ได้อิ่มหนำสำราญและสำรวจร้านกันเต็มที่แล้ว ทีนี้ก็ได้เวลาคิดเงินกันแล้วครับ โดยค่าเสียหายทั้งหมดในมื้อนี้คือ 1,659 บาท โดยมีสามรายการแรกที่ผมมาไม่ทัน แล้วก็ราคาที่เห็นในเมนูอาหารนั้นเป็นราคาที่ยังไม่รวม Vat 7% นะครับ (เฉลี่ยหาร 8 คนแล้วก็ตกคนละ 207 บาทครับ) โดยเราสามารถชำระด้วยบัตรเครดิตได้นะครับ
เอาล่ะครับทีนี้เรามาแยกดูกันดีกว่าครับว่าในแต่ละเรื่องนั้นผมคิดเห็นกับร้าน Shugaa อย่างไรบ้างครับ
รสชาติอาหาร : อร่อย สอบผ่านเกือบทุกเมนูที่ผมได้ชิม มีไม่ถูกปากรายการเดียวคือ Butter Horlicks ครับ โดยอาหารร้านนี้นอกจากอร่อยแล้วผมว่าเค้ายัง Create เมนูออกมาได้เก๋ไก๋ แปลกและแตกต่างมากครับ
ความหลากหลายของอาหาร : เป็นร้าน Café ที่มีเมนูและความหลากหลายเหมาะสมดีครับ จำนวนอาจจะไม่ได้เยอะมาก แต่ด้วยความแปลกและปริมาณคนต่อกลุ่มที่เข้ามากินไม่ได้เป็นกลุ่มใหญ่เท่าไหร่ ดังนั้นด้วยเมนูเท่าที่มีตอนนี้ผมก็ก็ถือว่าพอเพียงแล้วครับ
ความสะอาดของร้าน : สะอาดสะอ้าน สอบผ่านครับ
การบริการของพนักงาน : บริการดีและรวดเร็วใช้ได้ครับ โดยรวมๆ พนักงานก็อัธยาศรัยดีและสิ่งที่ผมเดาว่าพนักงานร้านแบบนี้ต้องโดนเป็นประจำคือการถูกขอให้รบกวนมาเป็นช่างภาพถ่ายรูป ซึ่งเท่าที่ผมสังเกตพนักงานแต่ละคนก็เต็มใจช่วยเหลือดีครับ
ความสะดวกของการเดินทาง : ด้วยตำแหน่งของร้านที่เข้าซอยค่อนข้างไกล และไม่มีรถประจำทางผ่าน อาจจะเป็นอุปสรรคสำหรับบางคน แต่สำหรับคนที่ชอบเดินแบบผมก็คงไม่ได้มีปัญหาอะไรครับ ส่วนคนที่มีรถก็สามารถจอดข้างถนนบริเวณหน้าร้านได้สบายๆ ครับ เพราะตัวร้านก็ไม่ได้มีพื้นที่ใหญ่มากจนจะทำให้ปริมาณรถจอดเยอะเกินไปอยู่แล้ว และเดาว่าน่าจะสามารถไปจอดรถในส่วนของคอนโดได้อีกด้วยครับ อ้อ…..สำหรับเรื่องรถกอล์ฟของคอนโด The Residence นั้นหากสามารถบริการไปรับส่งคนที่มาที่ร้าน Shugaa ด้วย น่าจะดีมากครับ ซึ่งตรงนี้คงต้องลองสอบถามกับทางร้านดูนะครับว่าเค้ามีบริการตรงนี้ให้หรือเปล่า
ความคุ้มค่า : หากเทียบเป็นราคาต่อชิ้น ต่อแก้วแล้ว ผมว่าเป็นร้านที่ราคาค่อนข้างแพงเลยครับ แต่ถ้าคิดถึงบรรยากาศร้าน รสชาติที่ได้ และก็คิดว่าปกติร้านพวกนี้เรามักจะนั่งกันค่อนข้างนานอยู่แล้ว โดยเฉลี่ยก็ 1.30-2 ชั่วโมง ก็พอจะกล้อมแกล้มไปได้ครับ อย่างกลุ่มผมไปกัน 8 คนก็ตกคนละ 200 บาทนิดๆ ครับ แต่ไม่ได้สั่งทุกคนนะครับ หากสั่งทุกคน คนละชิ้นมื้อนี้น่าจะมี 350 บาท/คนได้ครับ
สรุป : หากคุณเป็นสายคาเฟ่ ต้องการพักผ่อนในวันหยุดกับกลุ่มเพื่อน หรือสุดที่รักในบรรยากาศร้านที่สบายๆ น่ารักๆ มีของกินน่ารักและรสชาติดี เก๋ๆ ไม่ค่อยเหมือนใคร  และไม่อยากปวดหัวเรื่องที่จอดรถ งบประมาณไม่ได้เป็นข้อจำกัดมากนัก ร้านนี้เป็นร้านที่ดีร้านนึงเลยครับ โดยเฉพาะกับคนที่ชอบถ่ายภาพครับ เพราะของกินและบรรยากาศร้านตรงบันไดวนนั้นน่ารักมากครับ แต่หากคุณเป็นพวกที่อยากจะหาที่นั่งทำงานชิวๆ นั่งสบายๆ เดินทางสะดวก มีงบไม่เกิน 300 บาทต่อคน ผมแนะนำว่ามีอีกหลายร้านที่น่าสนใจกว่านี้ครับ ส่วนแก๊งหนุ่มๆ ที่กำลังโสด อยากจะหาคนรู้ใจมาเคียงข้าง ร้านนี้เป็นร้านที่ควรจะแวะไปดูซักครั้งครับ โดยเฉพาะหนุ่มๆ ที่มี skill ด้านการถ่ายภาพ เพราะตลอดเวลาหนึ่งชั่วโมงครึ่งที่ผมอยู่ที่ร้าน ผมก็ไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทำไมมันมีแต่ผู้หญิงน่ารักๆ มาใช้บริการเยอะจัง @_@
ก็จบลงแล้วสำหรับรีวิวนี้ ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านจนจบ แล้วพบกันใหม่ในรีวิวหน้าครับ สำหรับผู้ที่ต้องการติดตามเรื่องราวการรีวิวต่างๆ ที่รวดเร็วทันใจ สามารถกดติดตามได้ที่เพจ ภรรยาหา สามีใช้ และสำหรับท่านที่อยากจะได้ข้อมูลของร้านนี้เพิ่มเติม สามารถเข้าไปดูข้อมูลตามลิงก์ด้านล่างได้เลยครับ
Facebook : Shugaa
Shugaa (29)
Shugaa (30)
หมายเหตุ : บทความนี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวของผมในวันที่ไปใช้บริการเท่านั้นครับ แต่ละท่านที่ได้มีโอกาสไปใช้บริการอาจจะได้รับการบริการที่แตกต่างจากนี้ออกไปครับ