สวัสดีครับ วันนี้ “ภรรยาหา สามีใช้” จะพาทุกท่านไปรีวิวร้านอาหารกันครับ โดยเป้าหมายในวันนี้ก็คือ Narai Pizzeria Inter Buffet ที่ J Arena ถ.ราชพฤกษ์ ครับ
สำหรับการเดินทางนั้นหากขับรถไปจะสะดวกสุดครับ โดย J Arena จะอยู่ตรงข้ามกับ The Circle ราชพฤกษ์พอดีๆ ครับ มีที่จอดรถกว้างขวางสบายๆ ครับ เอาล่ะครับ ถ้าใครพร้อมแล้วเดินตามผมมาเลยครับ
วันที่ผมไปนั้นเป็นเย็นวันอาทิตย์ที่ 20 กรกฎาคม 2557 ช่วงเวลาประมาณ 1 ทุ่ม ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ถือว่าคนกำลังค่อนข้างเยอะเลยครับ โดยมีคนนั่งใช้บริการกันราวๆ 80% ของที่นั่งทั้งหมดได้ครับ
โดยปกติราคาของร้านนี้จะอยู่ที่ 499 บาท/ท่าน Net ครับ แต่ช่วงนี้ที่ร้านมี Promotion ลด 20% เหลือคนละ 399 บาท Net ครับ
ปล. โปรดอย่าถามว่าลดถึงเมื่อไหร่นะครับ เพราะผมลืมถามมา T_T
Disclosure : บทความนี้เป็นบทความที่ไม่ได้รับการสนับสนุนจากผู้ให้บริการใดๆ ทั้งสิ้น
ก่อนจะเดินเข้าไปกิน มาดูกันก่อนนะครับว่าเวลาเปิด-ปิดร้านของที่นี่เป็นอย่างไรครับ
หลังจากที่เดินเข้าร้านและได้ที่นั่งเรียบร้อยแล้ว พนักงานก็จะนำป้ายที่มีหมายเลขมาให้ที่โต๊ะ โดยตัวเลขในป้ายนี้จะบอกถึงจำนวนคนบนโต๊ะของเราที่นั่งทานครับ เรียกได้ว่าหมดสิทธิ์เนียน หมดสิทธิ์โกงนะครับ ^^
หลังจากนั้นพนักงานก็จะมาขอเรียกเก็บค่าอาหารก่อนครับ ซึ่งระหว่างที่พนักงานไปดำเนินการนู่นนี่นั่น เราก็เดินไปตักอาหารได้ตามสบายครับ
สำหรับเวลารับประทานอาหารก็คือ 1 ชั่วโมงกับ 45 นาทีนะครับ
“ตัวเลข 21.00 น. ที่เห็น นั่นคือเวลาที่หมดสำหรับโต๊ะเรานะครับ”
มาดูบรรยากาศโดยรอบของร้านนะครับ ค่อนข้างใหญ่ โปร่ง โล่งสบายมากครับ
และที่เรียกว่า inter buffet นั้น เป็นเพราะมีอาหารให้เลือกทานถึง 4 ชาติ ตามในภาพครับ
ไทย อิตาเลี่ยน ญี่ปุ่น และจีน ครับ
อาหารของที่นี่นอกจากจะแบ่งออกเป็น 4 ชาติแล้ว ยังแบ่งออกเป็น 2 ประเภทในการสั่งด้วย นั่นคือ
แบบที่ 1 เดินไปตักตามปกติที่เคาเตอร์บาร์แล้วนำกลับมาทานที่โต๊ะ
แบบที่ 2 อาหารที่ต้องสั่ง โดยแต่ละโต๊ะจะมีไม้หนีบที่มีหมายเลขอยู่ เราก็นำไม้หนีบนั้นไปหนีบรายชื่ออาหารที่ต้องการแล้วหย่อนลงไปหน้าครัว ซักครู่จะมีคนนำอาหารมาเสิร์ฟให้ที่โต๊ะ พร้อมคืนไม้หนีบนั้นให้เราครับ สำหรับโต๊ะผมมีไม้หนีบทั้งหมด 4 ตัวครับ
มาดูกันที่ความยาวของไลน์อาหารบ้างครับ
ด้านซ้ายมือและหลังผมจะเป็นแนวเคาร์เตอร์วางอาหารของอาหารไทยนะครับ ส่วนอีก 3 ชาติก็ตามในภาพเลยครับ
สุดทางจะเป็นพุดดิ้ง เครื่องดื่ม และไอศครีมครับ ส่วนด้านขวามือจะเป็นสลัด ผลไม้ และน้ำแข็งไสครับ
และด้านขวามือของภาพที่ตกเฟรมไปจะเป็นเคาร์เตอร์ชา กาแฟครับ
อ๊ะ ดูภาพกว้างๆ แล้ว มารีวิวเจาะกันๆ ในแต่ละเมนูนะครับ จะได้ไม่เบื่อกันครับ
เริ่มที่จากนี้ก่อนครับ บะกุ๊ดเต๋ ครับ รสชาติ ผมว่าธรรมดาๆ ไม่ได้ประทับใจอะไรครับ
ถัดมาเป็นแมงกะพรุน และบรรดาอาหารสัญชาติอิตาเลี่ยนในถ้วยเล็กๆ
ก็ยังไม่ได้รู้สึกน่าประทับใจอะไรครับ
จานนี้ เมนูนี้ ถ้าไม่ได้ชิม ไม่ได้กิน ก็คงเหมือนไม่ได้มาทานร้านนี้ครับ
พิซซ่าครับ รสชาติอร่อย สมตามมาตรฐานครับ มีหลายหน้า แต่ต้องรอเป็นรอบๆ ที่ออกมาครับ
เครื่องบนหน้าพิซซ่าเยอะพอดูครับ
มาลองเมนูหนีบๆ สั่งทำใหม่บ้างครับ
สปาเก็ตตี้คาโบนาร่า รสชาติกลางๆ ยังไม่ได้โดนใจอะไรมากครับ
ต่อด้วย สปาเก็ตตี้ผัดหอยลาย
จานนี้เผ็ด จี๊ดจ๊าด รสจัดมากครับ ใครชอบทานเผ็ดคงถูกใจแน่นอนครับ
จบจากอิตาเลี่ยนแล้ว เดี๋ยวข้ามไปจีนกันนะครับ
เมนูนี้ก่อนไป อ่านรีวิวไว้ คาดหวังไว้สูงครับ “บะหมี่หมูแดงฮ่องกง”
แต่พอไปถึง พบว่าเส้นไม่น่าทานเท่าไหร่ครับ ติดกันเป็นก้อน และเมื่อตักมาชิมแล้วผมว่าแข็งไปมากเลยครับ
ส่วนหมูแดง ต้องยอมรับว่าอร่อยครับ
เอาเป็นว่าวันไหนใครไปแล้วพิจารณาด้วยตาแล้วว่าเส้นวันนี้ท่าทางจะไม่โอเค ให้ตักแต่หมูแดงปล่าวๆ มาทานเล่นดีกว่าครับ
ต่อด้วยพวกเมนูติ๋มซำนะครับ
รสชาติกลางๆ ครับ อาจจะเป็นเพราะผมตักมาทิ้งไว้นานครับ เอาแต่ถ่ายรูปอาหารเลยเย็นไปซะก่อนด้วยครับ
ถัดมาอันนี้ไฮไลท์ครับ “ซาลาเปาลาวา” ครับ
เป็นเมนูที่ต้องสั่งโดยการหนีบเอาครับ ไม่ใช่ซาลาเปาที่วางนึ่งไว้กับพวกติ๋มซำนะครับ
รสชาติของเมนู ถือว่าอร่อยครับ โดนใจ มีเบิ้ลครับ ไข่เป็นไข่ กินแล้วมันในปากมากครับ
จบจากจีนก่อนจะไปประเทศอื่นต่อ
มาคั่นด้วยสลัดก่อนแล้วกันนะครับ
โดยรวมสลัดวันที่ผมไปทาน ไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่ ผักดูไม่สด แอบเหี่ยวเล็กน้อย และเบคอนกรอบ ชิ้นเล็ก ร่วน แทบไม่มีรสชาติเลยครับ
มาเข้ากันที่ญี่ปุ่นกันครับ กับเมนูขึ้นชื่อ นั่นคือ ซูชิ ครับ
ผมไม่แน่ใจว่ามีกี่หน้านะครับ แต่ตอนผมไปเจอแต่แซลมอนครับ
รสชาติกลางๆ ไม่ได้ประทับใจอะไร แต่ที่โดนใจก็ตรงยำสาหร่ายครับ ผมชอบทาน เจอแบบนี้ก็กินกันเรื่อยๆ ครับ
อาหารญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะต้องใช้การหนีบสั่งเอาครับ รวมทั้งซาซิมิด้วยครับ
สำหรับรสชาติก็ ไม่ได้ประทับใจอะไรครับ ไปทานเมนูอื่นดีกว่าครับ
เทปันยากิครับ เมนูเยอะแยะมากมาย
ผมชิมมานิดหน่อย ไม่ฟังธงเรื่องรสชาติแล้วกันครับ ลองทานกันดูเองครับ
ปิดท้ายเมนูญี่ปุ่นด้วยราเมงครับ
ชามไม่ใหญ่มากครับ รสชาติกลางๆ ครับ เอาไว้แก้เลี่ยนพอดีๆ ครับ
ต่อกันที่เมนูอาหารไทยครับ โดยส่วนตัวรู้สึกว่าเมนูอาหารไทยจะยาวและจำนวนเยอะมากครับ สารพัดประเภทของเนื้อเลยครับ เรียกได้ว่าชิมไม่หมดเลยครับ
ผมถ่ายรูปมาฝากกันนิดหน่อยครับ เมนูจริงๆ ยังมีอีกเยอะมากครับ
อ๊ะ ซูม เข้ามาดูซัก 1-2 เมนูแล้วกันนะครับ
คอหมูย่างครับ
ปีกไก่ เมนูนี้อร่อยเลยครับ ยิ่งได้ทานตอนร้อนๆ นี่ กินเพลินๆ ยาวๆ เลยครับ ไม่ควรพลาดครับ
จริงๆ เหลือเมนูอีกเยอะมากนะครับ แต่ผมทานไม่ไหวจริงๆ เลยขอปิดท้ายอาหารคาวด้วยนี่แล้วกันครับ
“หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์อบเครื่องเทศ”
เมนูนี้หนีบเอานะครับ โดย 1 หนีบจะได้แค่ 1 ตัวครับ
ขนาดของหอยวันที่ผมไปกินไม่ถือว่าใหญ่มากครับ รสชาติถือว่าสอบผ่านครับ
ของหวานรายการแรกที่ผมชิม นี่เลยครับ “Honey Toast”
เมนูนี้อร่อยมากครับ ถึงกับต้องขอเบิ้ลจานสองเลยครับ
โดยตอนไปกินจานสอง พ่อครัวไม่ยอมทำให้แล้ว บอกว่าป้ายหมด แต่หลังจากที่ผมเดินไปคุยถามผู้จัดการร้าน ผู้จัดการก็บอกเดี๋ยวจัดการให้แล้วก็ได้ทานอีกจานครับ
ขออธิบายนิดนึงนะครับที่ไปผมเดินถามนี่ไม่ได้ต้องการจะเบ่งหรือวีนนะครับ แค่แปลกใจ เนื่องจากร้านติดป้ายว่าปิดบริการตอน 22.00 น. แต่ตอนนั้นที่ผมทานอยู่เวลาประมาณ 20.45 น. เองครับ เลยสงสัยว่าทำไมปิดไม่ทำให้เร็วจัง?
ตรงนี้ต้องขอชมเชยผู้จัดการร้านนะครับที่ดูแลได้ดีมากครับ
ปรบมือให้ครับ
ถัดไปเป็นพุดดิ้งครับ ถ้วยไม่ใหญ่มาก มี 3 รสชาติ ชาเขียว ชานม และชาอังกฤษ ผมจัดมา 2 ชาเขียว กับ ชานม อร่อยทั้งคู่
รายการนี้ ชอบครับ
ณ จุดนี้ ต้องบอกว่าผมอิ่มมากๆ แล้วครับ ทานอะไรไม่ไหวแล้ว ทั้งที่ยังเหลือของหวานอีกหลายรายการทั้ง ผลไม้ น้ำแข็งไส และไอศครีม (ไอศรีมเป็นของ เนสเล่ย์ นะครับ)
ขอไปพูดถึงเครื่องดื่มแล้วกันนะครับ เครื่องดื่มจะมีน้ำอัดลม และน้ำอื่นๆ เช่น ชาเขียวนม ชามะนาว พันซ์ โดยน้ำอัดลมเป็นของเอสครับ
ผมชิมเฉพาะน้ำชาเขียว ชามะนาว และพั้นซ์ครับ ต้องบอกว่าชาเขียวอร่อยถูกใจมาก ชามะนาวตามมาตรฐาน ส่วนพั้นซ์หวานไปหน่อยครับ
ก็จบแล้วนะครับสำหรับการรีวิวครั้งนี้ครับ ขอนุญาตสรุปตามนี้นะครับ
ความหลากหลายของอาหาร : หลากหลายมากครับ เรียกได้ว่าต่อให้ชิมอย่าละนิดก็อาจจะชิมไม่หมดครับ เหมาะมากกับการพาครอบครัวไปทานเพราะเมนูเยอะ ใครชอบอะไรที่แตกต่างกันก็สามารถที่จะทานของที่ถูกปากได้เลยครับ
รสชาติอาหาร : อร่อยบ้าง ไม่อร่อยบ้าง กลางๆ บ้าง ตามที่เขียนไว้ในภาพครับ แต่โดยรวมก็ถือว่ามีมาตรฐานทั้งด้านหน้าตาของอาหาร และความสะอาดที่ดีครับ เมนูที่คิดว่าห้ามพลาด ก็ได้แก่ ปีกไก่, พิซซ่า, ฮันนี่ โทส, พุดดิ้ง และซาลาเปา ลาวาครับ และอาจจะมีอีกหลายเมนูเพราะผมชิมไม่หมด ฮา
ความสะอาดและสถานที่ : ความโปร่งโล่งของสถานที่ถือว่าดีครับ กว้างขางครับ มีโต๊ะใหญ่ โต๊ะเล็กเหมาะกับกลุ่มคนหลายขนาดครับ ส่วนเรื่องความสะอาดถือว่าสอบผ่านไม่ติดอะไรครับ
ความคุ้มค่า : สำหรับราคาโปรโมชั่นที่ผมไปทานมา 399 บาท/ท่าน net แล้ว ถือว่าคุ้มค่ากับอาหารนานาชาติและเมนูเยอะมากมายแบบนี้ครับ (เกิน 100 รายการได้ครับ) แต่ถ้าราคาเต็ม 499 บาท ผมอาจจะมีลังเลหน่อยครับ เพราะไปกินที่อื่นอาจจะได้อาหารที่รสชาติดีกว่านี้ครับ
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านจนจบ แล้วพบกันใหม่ในรีวิวหน้าครับ สำหรับผู้ที่ต้องการติดตามเรื่องราวการรีวิวต่างๆ ที่รวดเร็วทันใจ สามารถกดติดตามได้ที่เพจ ภรรยาหา สามีใช้ และสำหรับท่านที่อยากจะได้ข้อมูลของร้านนี้เพิ่มเติม สามารถเข้าไปดูข้อมูลตามลิงก์ด้านล่างได้เลยครับ
สาขา J Arena ราชพฤกษ์ : โทร 02-432-2878
หมายเหตุ : บทความนี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวของผมในวันที่ไปใช้บริการเท่านั้นครับ แต่ละท่านที่ได้มีโอกาสไปใช้บริการอาจจะได้รับการบริการที่แตกต่างจากนี้ออกไปครับ