กลับมาพบกันอีกแล้วครับกับรีวิวอาหารจากผม “ภรรยาหา สามีใช้” ครับ สำหรับรีวิวนี้เกิดขึ้นก็เนื่องมาจากวันก่อนนู้นนนนน ผมได้ไปทำธุระแถวๆ Emquartier ครับ หลังจากทำธุระเสร็จก็เย็นมากแล้วก็เลยชวนคุณภรรยาไปเดินเล่นที่ Emquartier ต่อเพราะได้ข่าวว่ามีร้านอาหารน่าสนใจหลายร้านเลย โดยเฉพาะโซน Helix Quartier นอกจากนี้ผมยังอยากจะไปเดินเล่นที่ Water Garden ที่หลายๆ คนบอกว่าสวยนักสวยหนาด้วยครับ
Disclosure : บทความนี้เป็นบทความที่ไม่ได้รับการสนับสนุนจากผู้ให้บริการใดๆ ทั้งสิ้น
หลังจากที่ผมไปถึง Helix Quartier ผมกับภรรยาก็เริ่มเดินไปตามทาง Slope เรื่อยๆ เพื่อหาร้านที่จะฝากท้องเย็นนี้ เดินไปเดินมาขึ้นลงวนเวียนอยู่ 2 รอบ ผ่านหน้าร้านนั้นดูเมนูหน้าร้านนี้ก็ยังไม่สามารถเลือกเป้าหมายได้ซักที จนเจ้ากะเพาะมันเริ่มส่งเสียงเตือนและขู่คำรามว่า เฮ้ย!! ถ้าไม่กินภายในอีก 10 นาทีนี้เดี๋ยวมีเรื่องกับตูแน่!!
เอาล่ะสิ เมื่อเจอเตือนแบบนี้แล้ว ผมก็ต้องรีบเลือกร้านแล้ว และร้านที่ผมเลือกก็คือร้านนี้นี่เองครับ “Maisen” ด้วย 3 สาเหตุในการเลือกง่ายๆ คือ
-
เคยได้ยินชื่อเสียงผ่านหูผ่านตา
-
จำนวนคนในร้านไม่มากไม่น้อยจนเกินไป น่าจะพอการันตีความอร่อยได้
-
มี Promotion ของบัตรเครดิตที่น่าสนใจ
สำหรับรายละเอียดของการไปทานก็ตามนี้เลยครับ
วันที่รับประทาน : วันจันทร์ที่ 9 พฤศจิกายน 2558
สาขา : Emquartier
ช่วงเวลา : 20.00-21.30 น.
จำนวนคน : 2 คน
เปิดกันด้วยภาพโลโก้ชื่อร้านแล้วกันนะครับ

หลังจากที่ผมเข้าร้านแล้ว พนักงานก็พาไปที่โต๊ะพร้อมทั้งนำเมนูมาให้ ผมดูผ่านๆ ตาซักพักก็ทำการสั่งครับ เพราะว่าก่อนที่จะเข้าร้านมาผมได้แอบเลือกไว้ในใจแล้วครับว่าจะใช้โปรบัตรเครดิตอันนี้ครับ

สำหรับเมนูที่ผมสั่งก็คือ
-
สุกี้ยากี้คุโรบูตะไข่ออนเซน ราคา 445 บาท
-
ชุดทงคัตซึสันนอก ราคา 385 บาท
เมื่อผมใช้สิทธิ์โปรโมชั่นของ Citibank ก็ทำให้ผมสามารถลดราคาของเมนูทงคัตซึสันนอกจาก 385 บาทเหลือเพียง 250 บาทได้ครับ
เท่าที่ผมเดินดูร้านอาหารในโซนนั้น แทบทุกร้านจะมีโปรโมชั่นของ Citibank กันหมดเลยครับ เรียกได้ว่าจัดหนักจัดเต็มมากๆ เอาเป็นว่าใครที่จะมาทานข้าวแถวนี้ถ้าหากว่ามีบัตรของ Citibank อยู่แล้ว ผมแนะนำว่าให้นำติดตัวมาด้วยจะดีมากครับ
หลังจากสั่ง order ไปเสร็จ ผมก็นั่งเปิดเมนูและถ่ายรูปเล่นไปเรื่อยครับ เริ่มจากเมนูก่อนแล้วกันนะครับ นอกจากจะมีรายการอาหารแล้ว ในหน้าแรกๆ จะเป็นการเล่าถึงประวัติของร้านครับ โดยสำหรับทงคัตซึของที่นี่ จะมีจุดเด่นที่น่าสนใจมาก 3 อย่างก็คือ
-
หมูคุโรบูตะที่นุ่มจนตะเกียบตัดได้
-
เกล็ดขนมปังกรอบเบา ราวกับกลีบดอกไม้ที่ผลิบาน
-
ซอสแอปเปิ้ลสูตรเฉพาะของไมเซน
ด้วยถ้อยคำ ท่วงทำนองในการเขียนอธิบายแบบนี้ มันทำให้ผมนึกถึงรายการ TV Champion จริงๆ ให้ตายสิ

ดูเมนูจบไปแล้วครับ ทีนี้มาต่อกันที่ของบนโต๊ะจะดีกว่าครับ รายการเครื่องปรุงต่างๆ ของที่นี่มีค่อนข้างเยอะเลยครับ โดยผมขอเริ่มจากซอสก่อนนะครับ จะมีอยู่ 2 แบบ คือ หวาน กับหวานน้อยผสมเปรี้ยว ครับ
น้ำสลัดก็มี 2 แบบเช่นเดียวกันคือ ครีมงาขาว (รสชาติออกมันๆ หน่อยครับ) แล้วก็ครีมโชยุ (รสชาติเค็ม เปรี้ยวครับ)
นอกจากนี้แล้วยังมีเกลือปรุงรส, พริกป่นยูสุ, มัสตาร์ด และ โชยุอีกครับ เรียกได้ว่าเยอะแยะจริงๆ สำหรับใครที่กลัวจะงงหรือกลัวหยิบไม่ถูกก็สบายใจได้ครับเพราะทางร้านจะมีป้ายเล็กๆ เขียนอธิบายเกี่ยวกับเครื่องปรุงพวกนี้ไว้บนโต๊ะทุกตัวครับ



หลังจากที่ผมสำรวจพวกเครื่องปรุงต่างๆ เสร็จ ทางร้านก็ยกของชิ้นนี้มาเสิร์ฟครับ สอบถามดูมันคือชุด “โคบาจิ” หรืออาหารออเดิร์ฟเรียกน้ำย่อยของญี่ปุ่นครับ จะประกอบไปด้วยของ 3-4 อย่าง ได้แก่
-
Maisen Signature Pumpkin Soup ซุปฟักทองเย็นครับ โดยจะอยู่ในแก้วชอทเล็กๆ สามารถยกดื่มได้เลย
-
สึคุเนะ ไก่บดปรุงรสปั้นเป็นก้อนกลมๆ
-
โอฮิตาชิ ผักโฮเรนโซปรุง ทานแบบเย็นๆ
-
มะเขือเทศ+ซอสครีม
สำหรับรายการสุดท้าย มะเขือเทศ+ซอสครีม นั้นจะมีเพิ่มมาให้เฉพาะคนที่สั่งชุดคุโรบุตะเท่านั้นครับ อย่างผมสั่งหมูคุโรบุตะชุดเดียวก็จะได้โคบาจิที่มีมะเขือเทศ+ซอสครีมแค่ชุดเดียวครับ อีกชุดจะไม่มีครับ (ชุดของคุโรบุตะจะเป็นจานสีแดง ส่วนของชุดอื่นจะเป็นจานสีดำครับ)
ในเรื่องของรสชาติ ผมชอบทั้งสึคุเนะและโอฮิตาชิครับ ส่วนซุปฟักทองผมว่ามันแปลกๆ ครับ เลยชิมแค่นิดเดียว แต่เรื่องนี้อาจจะเอาผมเป็นเกณฑ์ไม่ได้เพราะปกติผมเป็นคนไม่ค่อยชอบทานเมนูประเภทซุปพวกนี้อยู่แล้วครับ
หมายเหตุ : จากการที่ผมหาข้อมูลดูพบว่าโคบาจินี้จะมีเสิร์ฟแค่บางสาขาที่ทาง Maisen ถือว่าเป็นสาขา Flagship เท่านั้นนะครับ

หลังจากผมสำรวจเมนูโคบาจิหมดแล้ว อาหารที่สั่งก็ยังไม่มา ผมก็เลยหยิบเอาเจ้าดันโบะที่อยู่ในกระเป๋ามาถ่ายรูปกับเครื่องปรุงเล่นไปเรื่อยๆ ครับ



สำหรับชาเขียวของที่นี่จะรวมมาใน Set ให้แล้วนะครับ ไม่ต้องสั่งเพิ่มครับ รสชาติโอเคครับ

ซักพักพนักงานก็นำอาหารจานแรกมาเสิร์ฟครับ นั่นคือ สุกี้ยากี้คุโรบูตะไข่ออนเซน ผมก็เริ่มทำการสำรวจและถ่ายรูปทันทีครับ โดยในเซทจะมีข้าว, ซุป, ผักดอง, ผักกระหล่ำฝอย และหมูทอด 1 ชิ้นครับ และก็ตามมาตรฐานทั่วไปของร้านพวกนี้ ข้าว, ซุป, ผักกระหล่ำฝอยสามารถขอเติมได้เรื่อยๆ ครับ

ถ่ายโคสอัพใกล้ๆ หน่อยครับ ไข่ออนเซนน่ากินมากครับ ฟองใหญ่ใช้ได้

ดูกันที่หมูคุโรบุตะครับ

และก็มาดูกันที่หมูทอดกับกะหล่ำฝอยครับ สำหรับรสชาติโดยรวมๆ ของเมนูนี้ ผมว่ายังไม่ค่อยประทับใจครับ หมูคุโรบุตะที่ใส่มาในสุกี้นั้นเนื้อไม่ค่อยนุ่มเท่าที่ควรครับ รวมทั้งน้ำซุปของสุกี้เองก็ไม่ค่อยถูกปากครับ จะมีส่วนที่ทำให้รู้สึกดีก็คือการมีหมูทอดมาใน Set ด้วย 1 ชิ้นนี่แหละครับ รสชาติโอเคเลยครับ


ต่อกันที่เมนูที่สองครับ ชุดทงคัตซึสันนอก มาเสิร์ฟเป็นเซ็ทเหมือนเมื่อกี้ครับ ผักดอง, กระหล่ำฝอย และน้ำซุปมาครบ แต่จะไม่มีเมนูของทอดชิ้นเล็กๆ มาด้วยนะครับ
หน้าตาของ Set ครับ

มาซูมดูกันครับ

ได้เวลาราดซอสครับ ซอสที่ผมเลือกคือซอสอะมาคุจิซึ่งมีรสหวานครับ เพราะผมลองชิมซอสคะราคุจิแล้วผมว่ามันเปรี้ยวไปหน่อยครับ


ในส่วนรสชาติของหมูทอดนั้น ต้องบอกว่าดีงามครับ นุ่มตามคำเคลมจริงๆ นี่ขนาดเป็นแค่หมูสันนอกธรรมดาไม่ใช่หมูคุโรบุตะนะครับ นอกจากนี้ตัวแป้งยังบางกรอบและไม่อมน้ำมันครับ เมนูนี้ให้ผ่านครับ อร่อยถูกปากเลย

หลังจากที่ผมทานอาหารทั้ง 2 รายการครบแล้ว ผมก็ได้เรียกให้พนักงานทำการเช็คเงินครับ ซึ่งทางพนักงานได้บอกว่าใน Set จะมีของหวานให้ด้วยครับ โดยมีให้เลือก 3 อย่างได้แก่
-
เต้าฮวยฟรุตสลัด
-
ไอศกรีมชาเขียว
-
อัลมอนด์คัสตาร์ด
สำหรับวันนี้ผมเลือกเป็น ไอศกรีมชาเขียว และ อัลมอนด์คัสตาร์ด ครับ ในเรื่องของรสชาติผมว่าอร่อยสอบผ่านทั้งคู่ครับ โดยอัลมอนด์คัสตาร์ดรสชาติไม่เหมือนกับที่คิดไว้ รสชาติออกจะคล้ายๆ กับเป็นเต้าฮวยมากกว่า แต่ก็ชอบครับ


เอาล่ะครับ ตอนนี้ก็ทานครบทุกเมนูแล้ว ต่อไปจะเข้าสู่ของบทสรุปนะครับ โดยผมขอแยกเป็นเรื่องๆ ตามนี้ครับ
รสชาติอาหาร : สำหรับเมนูทงคัตซึสันนอกนั้น ถือว่าอร่อยสอบผ่านสบายๆ เลยครับ เนื้อหมูนุ่ม แป้งบางกรอบตามคำโฆษณาจริงๆ แต่สำหรับเมนูสุกี้ยากี้คุโรบูตะไข่ออนเซน ผมว่ายังไม่ค่อยโอเคครับ รสชาติด้อยไปหน่อยครับ
ความหลากหลายของอาหาร : เท่าที่ผมเปิดดูผ่านๆ ในเมนูแล้วส่วนใหญ่จะมีแค่ข้าวหมูทอด, สุกี้ แล้วก็ของทานเล่นอีกนิดหน่อยครับ ถือว่าเมนูไม่หลากหลายเท่าไหร่ เป็นร้านที่ค่อนข้างเฉพาะทางครับ
ความสะอาดของร้าน : ไม่มีปัญหาอะไรกับเรื่องนี้ครับ โดยเฉพาะสาขานี้ที่ตั้งอยู่ในห้างดังอย่าง Emquartier คงต้องระมัดระวังเรื่องนี้เป็นพิเศษอยู่แล้ว
การบริการของพนักงาน : โดยส่วนตัวยังไม่ค่อยโอเคกับการบริการของพนักงานเท่าไหร่นะครับ ด้านความใส่ใจและ Service mind ถือว่าดีครับ ขออะไรได้หมด แต่กว่าจะได้ค่อนข้างช้าไปหน่อยครับ โดยเฉพาะเวลาที่นั่งโต๊ะที่อยู่ฝั่งตรงข้ามชื่อร้านครับ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะพนักงานน้อยหรือผมไปตอนร้านจะปิดแล้วทำให้พนักงานหมดพลังครับ อย่างไรก็ตามตอนที่ผมเลือกนั่งโต๊ะฝั่งตรงข้ามร้านนั้นทางพนักงานเองก็ได้บอกตั้งแต่แรกแล้วว่าอาจจะบริการช้าหน่อยเพราะอาจจะมองไม่ค่อยเห็นครับ แต่ผมเลือกที่จะนั่งฝั่งนี้เองเนื่องจากแสงเยอะกว่า วิวสวยกว่าอีกฝั่งครับ
ความสะดวกของการเดินทาง : ตัวห้างติดกับ BTS พร้อมพงษ์ครับ ดังนั้นเดินทางสะดวกสบายมากครับ ยกเว้นคนที่ขับรถเพราะก็คงรู้ดีว่าแถวนั้นรถติดมากแค่ไหนครับ
ความคุ้มค่า : ร้านนี้เป็น 1 ในร้านขายทงคัตซึที่ราคาสูงเอาเรื่องครับ โดยมื้อนี้ค่าใช้จ่ายก่อนหักส่วนลดของผมอยู่ที่ 913 บาท (เป็นค่าอาหาร 830 บาท และ Service charge อีก 83 บาท) เรียกได้ว่าไปอิ่มกับบุฟเฟต์หลายๆ ที่ได้สบายๆ ครับ หลังจากที่หักส่วนลดของ Citibank แล้วจะเหลืออยู่ที่ 778 บาท หรือประมาณ 389 บาท/คน ครับ ซึ่งถ้าพิจารณาจากราคาหลังหักส่วนลดแล้วก็ถือว่ายังพอรับได้ครับ เพราะราคาที่ว่านี้ได้รวมโคบาจิ, น้ำชาเขียว Refill และของหวานแล้วครับ เมื่อคำนึงถึงรสชาติของหมูนุ่มๆ แป้งบางกรอบที่ไม่อมน้ำมันก็ทำให้พอกล้อมแกล้มและพอฟัดพอเหวี่ยงกับร้านข้าวหมูทอดดังๆ เจ้าอื่นได้ครับ
สรุป : หากคุณต้องการลองทานข้าวหมูทอดทงคัตซึที่หมูนุ่มๆ แป้งบางกรอบ ว่าเป็นอย่างไร หรืออยากพิสูจน์กับลิ้นตัวเองซักครั้งว่าร้านชื่อดังจากญี่ปุ่นที่มีตำนานหลายสิบปีนี้จะมีรสชาติอย่างไร อร่อยแค่ไหนก็สามารถลองซักครั้งได้เมื่อเจอ Promotion ดีๆ ของทางร้านครับ แต่ถ้าไม่มี Promotion อะไรเลยและต้องซัดราคาเต็มๆ ผมคิดว่าราคามันแรงไปนิด การเลือกไปร้านอื่นที่เรามั่นใจคุณภาพและถูกลิ้นเราอาจจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าครับ
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านจนจบ แล้วพบกันใหม่ในรีวิวหน้าครับ สำหรับผู้ที่ต้องการติดตามเรื่องราวการรีวิวต่างๆ ที่รวดเร็วทันใจ สามารถกดติดตามได้ที่เพจ ภรรยาหา สามีใช้ ได้เลยครับ

หมายเหตุ : บทความนี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวของผมในวันที่ไปใช้บริการเท่านั้นครับ แต่ละท่านที่ได้มีโอกาสไปใช้บริการอาจจะได้รับการบริการที่แตกต่างจากนี้ออกไปครับ