ชาวกรุงเทพและปริมณฑลคนไหนที่กำลังมองหาร้านยำแซ่บๆ รสจัดจ้าน หน้าตาอาหารดี ร้านตกแต่งสวยงาม ดูสะอาดสะอ้าน และที่สำคัญราคาไม่แรงอยู่ ลองพิจารณาร้านนี้ดูนะครับ “เบิร์น บุษบา – Burn Busaba” ผมลองทานมาหลายเมนูแล้ว เด็ดอร่อยจริง!!

พิกัด : ร้านมีทั้งหมด 5 สาขา ตามนี้นะครับ โดย 3 สาขาที่มี * ต่อท้าย จะเป็นสาขาที่มีบริการเฉพาะ Delivery เท่านั้น ไม่สามารถนั่งทานที่ร้านได้ครับ

  • สยามพารากอน
  • ซอยประดิพัทธ์ 19
  • สาทร ลุมพินี*
  • ทองหล่อ*
  • บางมด พระราม 2*

ดังนั้นสำหรับใครที่ต้องการนั่งทานที่ร้าน นั่งเม้าท์มอยกับเพื่อนยาวๆ ก็ไปได้แค่ 2 สาขานะ คือ สยามพารากอน” กับ ซอยประดิพัทธ์ 19” ครับ และสำหรับวันนี้ผมไปทานที่สาขาซอยประดิพัทธ์ 19 ครับ เลี้ยวเข้าซอยไปนิดเดียวก็จะเจอกับร้านอยู่ทางซ้ายมือเลย ที่จอดรถเพียบ แต่ถ้าใครกลัวไปไม่ถูกก็ไปตาม Google Map ด้านล่างนี้ได้เลยครับ

Google Map (สาขาซอยประดิพัทธ์ 19) : https://goo.gl/maps/EBCmMBhnB4aDVTrCA

หน้าตาของร้านเบิร์น บุษบา สาขาซอยประดิพัทธ์ 19 จะเป็นแบบนี้นะครับ เป็นบ้านเก๋ๆ 2 ชั้นที่ดูสวยงามแล้วก็สะดุดตาดี ส่วนภายในพื้นที่ที่ร้านตั้งอยู่นั้น เหมือนจะมีร้านอาหารอื่นๆ อยู่ภายในบริเวณด้วยอีก 2-3 ร้าน โดยทุกร้านจะแชร์พื้นที่จอดรถร่วมกัน แต่ดูแล้วก็น่าจะไม่มีปัญหาอะไรครับ พื้นที่จอดรถดูกว้างขวางใช้ได้ สามารถจอดรถประมาณ 20 คันได้เลยครับ

อัตราค่าจอดรถ : ชั่วโมงแรกประทับตราที่ร้านจอดฟรี ชั่วโมงต่อไป ชั่วโมงละ 20 บาท

ภายในร้านตกแต่งดูสวยงามดีครับ โดยพื้นที่นั่งจะมีทั้งชั้น 1 และชั้น 2 เลย รวมๆ กันแล้วน่าจะรองรับคนมาใช้บริการ 50-60 คนพร้อมกันได้อย่างสบายๆ ครับ

ภาพนี้เป็นบรรยากาศที่นั่งบริเวณชั้น 2 ของร้านนะครับ ดูกว้างขวางใช้ได้ โดยตอนที่ผมไปใช้บริการนั้น ชั้น 1 มีลูกค้านั่งใช้บริการเต็มเลย ผมก็เลยได้ขึ้นมานั่งที่ชั้น 2 เป็นโต๊ะแรกเลยครับ ><

ส่วนนี่เป็นเมนูทั้งหมดที่ผมได้มีโอกาสลองทานนะครับ

  1. ยำบุษบาลุยไฟ 195 บาท
  2. ยำบุษบาครวญแครง-เนื้อล้วนๆ 400 บาท
  3. ยำขนมจีนไข่หมึก 260 บาท
  4. ผัดหมี่โคราชเจ๊บุษ 165 บาท
  5. มาม่าผัดไส้กรอกไข่กุ้งเจ๊บุษ 135 บาท
  6. รวมมิตรทอดพาเพลิน 135 บาท
  7. ข้าวเหนียวผัดแจ่วแซ่บคอหมูย่าง 265 บาท
  8. รวมหมึกย่าง 325 บาท
  9. บุษบาสุดซ่า 89 บาท
  10. กรานิต้าชาไทย มะพร้าวน้ำหอม 169 บาท

หมายเหตุ : ราคาดังกล่าวยังไม่รวม Service charge 10% นะครับ

ทั้งนี้ในส่วนของเมนูที่เป็นยำต่างๆ นั้น เราจะสามารถเลือกน้ำยำและระดับความเผ็ดได้ตามนี้นะครับ

น้ำยำ (Spicy Sauce)

  • ไม่ใส่ปลาร้า
  • ใส่ปลาร้า

ระดับความเผ็ด (Spicy Level)

  • บุษบาเบา (เผ็ดระดับ 1)
  • บุษบาเบิร์น (เผ็ดระดับ 2)
  • บุษบาบอมบ์ (เผ็ดระดับ 3)

สำหรับใครที่ทานเผ็ดไม่เก่ง ผมแนะนำให้เลือกแค่ระดับ 1 บุษบาเบาก็พอนะครับ แต่ถ้าใครเป็นสายเผ็ดแซ่บไปที่ระดับ 2-3 ได้เลย โดยเผ็ดระดับ 3 ของร้านนี้ยังอยู่ในระดับที่ผมกับต๋งทานได้แบบไม่ลำบากมากนัก เรียกว่าแซ่บกำลังดีเลยแหละ กินไป 4-5 คำ มีหยุดพักกินน้ำหรือสลับไปทานของที่ไม่เผ็ดบ้างซัก 1-2 ทีครับ

เอาล่ะ เดี๋ยวเรามาไล่ดูรายละเอียดของแต่ละเมนูกันเลยนะครับ ว่าแต่ละอย่างหน้าตาและรสชาติเป็นอย่างไรบ้างครับ

ยำบุษบาลุยไฟ” (เผ็ดระดับ 2, น้ำปลาร้า) สำหรับจานนี้ผมยกให้เป็น The Best ของวันนี้เลยครับ จานใหญ่ หน้าตาสวยงาม รสชาติดี ราคาไม่แรง โดยภายในจานนี้จะประกอบไปด้วยคอหมูย่าง, แป้งนมย่าง และไส้ย่างครับ รสชาติแต่ละอย่างนั้นดีเลย และให้ปริมาณมาเยอะด้วย ส่วนรสชาติน้ำยำกับความเผ็ดนั้นก็ดีครับ ส่วนตัวผมกับต๋งคิดว่าเมนูนี้เป็น Recommended Menu เมนูที่ทุกคนควรต้องสั่งเลยแหละ โดยเฉพาะคนที่พึ่งเคยมาทานร้านนี้ครั้งแรกครับ และเราทั้งคู่ขอแนะนำเป็นเผ็ด 2 + น้ำปลาร้า ตามสูตรที่เราทานเลยครับ เยี่ยม!!

ยำบุษบาลุยไฟ

ยำบุษบาครวญแครง-เนื้อล้วนๆ” (เผ็ดระดับ 3, น้ำปลาร้า) จานนี้สำหรับคนที่ชอบทานยำหอยแครงเลยครับ จัดจ้านสะใจและให้หอยแครงกับเมล็ดกระถินมาเยอะมาก ในส่วนของความเผ็ดระดับ 3 นั้น ส่วนตัวผมรู้สึกว่าไม่ต่างจากระดับ 2 ของจานเมื่อกี้มากนัก แบบว่าทานจานแรกแล้วมาทานจานนี้ต่อ ก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันจะเผ็ดกระชากต่างกันเยอะ ต้องแบบว่าตั้งใจชิมและทานอะไรล้างรสเผ็ดก่อนถึงพอจะรู้ถึงความแตกต่างครับ ส่วนในเรื่องราคานั้นจานนี้ค่อนข้างโดดสูงกว่าเพื่อนนะ แต่เค้าก็ให้ปริมาณหอยแครงมาเยอะ คุ้มราคาเลยครับ

ยำขนมจีนไข่หมึก” (เผ็ดระดับ 2, น้ำปลาร้า) รสชาติโดยรวมถือว่าดีครับ หน้าตาการจัดจานก็สวย แต่ในเรื่องของปริมาณไข่หมึกนั้นส่วนตัวผมรู้สึกว่ามันแอบน้อยไปนิดครับ ถ้าได้เพิ่มมากกว่านี้อีกหน่อยจะดีงามมากๆ แต่อย่างไรก็ตามโดยรวมแล้วเมนูนี้ก็ยังเป็นเมนูที่น่าสนใจและน่าสั่ง โดยเฉพาะคนที่ไม่มั่นใจว่าตัวเองจะทานเผ็ดได้มากแค่ไหน เพราะการที่มีเส้นขนมจีนเป็นส่วนประกอบของเมนูนี้ มันเลยเหมือนจะช่วยแบ่งเบาในเรื่องของรสเผ็ด และช่วยทำให้ทานได้ลื่นขึ้นพอควรครับ

จัดหนักกับยำรสเผ็ด รสจัดจ้านมา 3 จานแล้ว คราวนี้เราเปลี่ยนไปยังกลุ่มอาหารที่รสชาติไม่เผ็ดบ้างดีกว่าครับ เริ่มจากจานแรก ผัดหมี่โคราชเจ๊บุษ” ครับ หน้าตาและการจัดจานก็ดูสวยงามอีกแล้ว ส่วนในเรื่องปริมาณกับรสชาตินั้นก็ถือว่าเหมาะสมกับราคาครับ รสชาติอร่อย ทานเพลินๆ เส้นมีความเหนียวหนึบ ส่วนเครื่องต่างๆ ก็ให้มาเยอะดี โดยเฉพาะกากหมู อันนี้อร่อยมากครับ สำหรับเมนูนี้สามารถเป็นได้ทั้งเมนูอาหารจานเดียวเพื่อทานคนเดียวง่ายๆ หรือจะเป็นอาหารจานกลางไว้สำหรับทานด้วยกันเพื่อลดรสเผ็ดจากยำต่างๆ ได้เลยครับ

มาม่าผัดไส้กรอกไข่กุ้งเจ๊บุษ” สำหรับผมจานนี้อร่อยคุ้มราคามากครับ และเหมาะสำหรับเป็นเมนูจานกลางไว้แก้เผ็ดสุดๆ ปริมาณไส้กรอกและไข่กุ้งที่เค้าให้มานั้นเยอะเลย นอกจากนั้นรสชาติของไส้กรอกและการผัดต่างๆ ก็ทำได้ดี โดยเมนูนี้หากเราทานเดี่ยวๆ เป็นจานเดียวอาจจะรู้สึกว่าธรรมดา ไม่ได้หวือหวาอะไรมากนัก แต่ถ้าเราทานคู่กับพวกยำต่างๆ มันจะลงตัวมากครับ มันจะช่วยทำให้เราลดความรู้สึกเผ็ดจากเมนูอื่นๆ ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งไส้กรอกที่เค้าใส่มานั้นมีความหอมของการสโมคชัดเจนดีครับ

“รวมมิตรทอดพาเพลิน” เมนูนี้คือรวมของทอดหน้าโรงเรียนครับ!! มันคือเมนูที่รวมของทอด 3 อย่าง ซึ่งได้แก่ เกี๊ยวไข่นกกระทา, ไส้กรอกแดง และเต้าหู้ปลาไว้ด้วยกัน รสชาติแต่ละอย่างถือว่าดีครับ แต่ที่ผมประทับใจที่สุดก็คือเกี๊ยวไข่นกกระทาครับ ขนาดชิ้นมันใหญ่มาก ใหญ่แบบเต็มปากเต็มคำเลย และทางร้านทอดมาได้ดีมาก กรอบ ไม่อมน้ำมัน ส่วนในเรื่องของน้ำจิ้มนั้นผมต้องบอกก่อนนะว่ามันจะข้นและเผ็ดพอควร ใครทานเผ็ดไม่เก่ง แนะนำกินแต่ของทอดเปล่าๆ ไม่ต้องจิ้มนะครับ แต่ถ้าใครทานเผ็ดได้จิ้มทานโลด อร่อยดีครับ

ข้าวเหนียวผัดแจ่วแซ่บคอหมูย่าง” อีกหนึ่งในเมนูที่ผมคิดว่าทุกคนควรต้องสั่งครับ มันเป็นเมนูที่แปลกใหม่และไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน ที่สำคัญรสชาติดีด้วยนะ โดยลักษณะของเมนูนี้จะเป็นการนำข้าวเหนียวไปผัดกับแจ่วแซบ แล้วก็โปะด้านบนด้วยคอหมูย่าง รสชาติของข้าวเหนียวผัดนั้นดีเลย ได้กลิ่นและรสชาติความเป็นแจ่วผสมแต่ก็ไม่ได้รสเผ็ดหรือจัดจ้านมากนัก ส่วนคอหมูย่างด้านบนก็ดี แต่เสียดายอย่างเดียวผมคิดว่าปริมาณของคอหมูย่างที่เค้าให้มานั้นน้อยไปหน่อยครับ ทานแล้วรู้สึกไม่ค่อยสมดุลกับข้าวเหนียว คอหมูย่างหมดไปแล้ว แต่ยังเหลือข้าวเหนียวผัดอีกตั้งเยอะครับ T_T

“รวมหมึกย่าง” จานนี้ใครชอบทานปลาหมึกย่างดีๆ ควรต้องสั่งเลยครับ มันคือการรวมหมึกย่าง 3 ชนิด ซึ่งได้แก่ หมึกกระดอง,หมึกสาย และไข่หมึกกระดองไว้ด้วยกัน ปริมาณที่ให้มาถือว่าเยอะเลย ส่วนในเรื่องความสดนั้นผมให้อยู่ในเกณฑ์ที่ดีครับ โดยเฉพาะหมึกสายกับไข่หมึกกระดองนั้นดีมาก ส่วนตัวหมึกกระดองนั้นยังมีบางชิ้นที่ผมรู้สึกว่ามันสดน้อยกว่าเพื่อนอยู่ ถ้าหากเค้าสามารถทำให้ความสดอยู่ในระดับเดียวกันได้ มันจะดีกว่านี้มากๆ ครับ ส่วนในเรื่องของน้ำจิ้มนั้นก็ถือว่าอร่อยจัดจ้านเลยล่ะ

ชิมของคาวกันไปจุกๆ แล้ว คราวนี้เรามาดูเครื่องดื่มและของหวานบ้างครับ โดยในส่วนของเครื่องดื่มนั้น ทางร้านเบิร์น บุษบาก็มีเครื่องดื่มชื่อเก๋ๆ หน้าตาดีๆ ให้เลือกสั่งหลายอย่างเลยนะ แต่วันนี้ผมได้ลองเป็นเมนูที่ชื่อว่า บุษบาสุดซ่า” เพียงแค่รายการเดียวครับ ซึ่งถ้าจะพูดให้เข้าใจง่ายๆ เมนูนี้มันก็คือน้ำบ๊วยโซดานี่แหละครับ แต่ทางร้านมีการจัดแก้วมาอย่างสวยงาม แล้วก็รสชาติอร่อยดีครับ รสบ๊วยกับโซดาชัดเลย

ปิดท้ายวันนี้กับเมนูของหวานที่ชื่อว่า กรานิต้าชาไทย มะพร้าวน้ำหอม” ครับ เมนูนี้ผมกับต๋งชอบมาก อร่อยสุดๆ และเป็นหนึ่งในเมนูที่พวกเราคิดไว้เลยว่าหากเรากลับมาทานอาหารที่ร้านนี้อีกพวกเราจะต้องสั่งแน่ๆ โดยตัวเมนูนี้จะประกอบไปด้วยกรานิต้ารสชาไทยเข้มข้น ท็อปปิ้งด้านบนด้วยเฉาก๊วย, มะพร้าวน้ำหอม และอัลมอนด์สไลซ์ ตัวกรานิต้าอร่อยและมีความละเอียดของเกล็ดน้ำแข็งดีมากครับ ทานแล้วเพลินสุดๆ ส่วนท็อปปิ้งด้านบนนั้นก็ดี โดยเฉพาะเนื้อมะพร้าวน้ำหอมนี่นุ่มอร่อยมาก เมนูนี้แนะนำเลยครับ!!

และทั้งหมดนี้ก็คือภาพรวมของอาหารจากร้านเบิร์น บุษบา สาขาซอยประดิพัทธ์ 19 ที่ผมได้ลองทานมาครับ โดยรวมผมรู้สึกประทับในหลายๆ อย่างนะ โดยเฉพาะเรื่องหน้าตาอาหารกับรสชาติ ส่วนในเรื่องของราคากับการบริการนั้นก็อยู่ในเกณฑ์ที่ดีเลยครับ มีหลายๆ เมนูเลยที่ผมรู้สึกว่าคุ้มค่าคุ้มราคามาก ได้ปริมาณมาเยอะเลยครับ

ใครสนใจก็ลองไปทานดูนะ โดยเฉพาะคนที่ชอบทานยำเผ็ดแซ่บรสจัดจ้าน ร้านนี้ตอบโจทย์เลยครับ ส่วนใครที่ทานเผ็ดไม่เก่งก็อย่ากังวลไป ทางร้านเบิร์น บุษบาเค้ามีระดับความเผ็ดให้เลือกหลายระดับ อีกทั้งยังมีเมนูอื่นๆ ที่ไม่เผ็ดแต่รสชาติอร่อยไม่แพ้กัน ให้เลือกสั่งเลือกทานเยอะเลยครับ

สาขาที่สามารถนั่งทานที่ร้านได้ : สยามพารากอน และซอยประดิพัทธ์ 19

สาขาที่สามารถสั่ง Delivery ผ่านแอพได้ : สยามพารากอน, ซอยประดิพัทธ์ 19, สาทร ลุมพินี, ทองหล่อ และบางมด พระราม 2

Delivery App : Grabfood, Lineman และ Robinhood (ค้นหาคำว่า “เบิร์นบุษบา”)

ข้อมูลอื่นๆ ของร้าน

Facebook : เบิร์น บุษบา – Burn Busaba

Tel : 080-587-5005

Line : @burnbusaba

ส่วนใครที่อยากชมรีวิวร้านเบิร์น บุษบาในรูปแบบคลิปวีดีโอก็สามารถกดดูที่คลิปด้านล่างนี้ได้เลยครับ ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านมาจนถึงตรงนี้ และสำหรับใครที่อยากจะติดตามเรื่องราวการรีวิวอื่นๆ ของผมแบบรวดเร็วทันใจก็สามารถกดติดตามที่เพจ “ภรรยาหา สามีใช้” ได้เลยครับ แล้วพบกันใหม่ในรีวิวหน้า สวัสดีครับ