โทรศัพท์มือถือ vivo X Series ถือเป็นหนึ่งในโทรศัพท์ที่ผมชอบมากๆ ครับ เพราะโทรศัพท์ซีรี่ย์นี้มันมีจุดเด่นสุดๆ ในเรื่องของการถ่ายภาพ โดยเฉพาะภาพบุคคลและภาพอาหาร ซึ่งเป็นแนวที่ผมชอบถ่ายมาก และล่าสุดหลังจากที่ผมได้มีโอกาสลองใช้งาน vivo X80 5G (ตัวธรรมดา) ได้เพียงแค่ 2-3 วัน ผมก็ตกหลุมรักคุณภาพของภาพที่ได้จากโทรศัพท์เครื่องนี้ทันทีครับ โทนสีของมันสวยโดนใจมาก รวมไปถึงฟังก์ชั่นต่างๆ ของมันก็ช่วยทำให้ผมมีความสุขกับการถ่ายรูป ทำ content ต่างๆ ได้ง่ายขึ้นเยอะเลยครับ
และสำหรับรีวิวนี้ผมจะพาทุกคนไปดูภาพจาก vivo X80 ที่ผมได้ไปถ่ายที่ร้าน Kraft Café & Studio ที่พุทธมณฑลสาย 2 มาครับ โดยร้านนี้เนี่ยนอกจากจะเป็นร้านคาเฟ่ที่มีเมนูขนมกับเครื่องดื่มอร่อย หน้าตาดีแล้ว ที่ร้านเค้ายังมีมุมถ่ายรูปเพียบเลยครับ แถมหลายๆ มุมนั้นยังให้บรรยากาศเหมือนเรากำลังอยู่ที่ญี่ปุ่นเลย
ใครที่ชอบถ่ายรูป หรือชอบไปร้านคาเฟ่ที่บรรยากาศดีๆ ขนมอร่อยๆ ลองไปร้านนี้ได้เลยครับ แนะนำครับ ^^
อ้อ ในรีวิวนี้ผมจะไม่ได้เน้นพูดถึงสเปคกล้อง หรือคุณสมบัติอะไรมากนะครับ เพราะว่าพวกนั้นมันน่าจะหาอ่านที่อื่นได้เยอะแยะ และผมอยากจะให้ทุกคนได้เห็นภาพที่เกิดจากการใช้งานจริง ตาม Lifestyle จริงๆ ของผมมากกว่า ว่าใช้แล้วเป็นยังไง ภาพที่ได้ถูกใจมั้ยครับ
ส่วนใครที่อยากจะรู้รายละเอียดของร้าน Kraft Café & Studio ว่าเป็นยังไงบ้าง น่าไปแค่ไหน มีมุมถ่ายรูปตรงไหนที่ห้ามพลาดบ้าง ก็ค่อยๆ อ่านกันไปนะครับ รับรองว่าผมจะพาทุกคนไปทัวร์ร้านนี้กันแบบเจาะลึกเลยครับ ^^
รายละเอียดและที่ตั้งร้าน
ร้าน Kraft Café & Studio นั้นจะอยู่แถวๆ พุทธมณฑลสาย 2 นะครับ โดยร้านเค้าจะอยู่ในพื้นที่เดียวกับคาเฟ่บ้านหมีเลย จอดรถที่เดียวกันด้วย ดังนั้นใครที่ไปร้านนี้ครั้งแรกก็ไม่ต้องงงนะ มองหาป้ายร้านคาเฟ่บ้านหมีเลยก็ได้ เพราะป้ายเค้าใหญ่และเด่นชัดกว่าครับ ส่วนถ้าใครกลัวหลงก็ตาม Google Map ด้านล่างนี้ไปได้เลยครับ
Facebook : Kraft Café & Studio
Google Map : https://maps.app.goo.gl/Kk6HhRv79CzH7mP58
เวลาเปิด : 8.00 น. – 20.00 น.
Tel : 091-7328263
ที่จอดรถ : เยอะมากครับ
พอเรามาถึงร้านแล้ว เราก็จะเห็นว่าภายในพื้นที่ร้านเค้าจะมีการแบ่งออกเป็น 2 โซนหลักๆ ครับ คือ โซน Outdoor และ โซน Indoor โดยในส่วนของโซน Outdoor นั้น เค้าจะมีการจำลองบรรยากาศต่างๆ ให้เหมือนกับว่าเรากำลังอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่นเลยครับ บอกเลยว่าสวยงามและดูดีมาก ถ่ายรูปสนุกเลยครับ
เรามาเริ่มจากมุมนี้ซึ่งเป็นมุมมหาชนก่อนนะครับ ถ่ายออกมาแล้วเหมือนกำลังอยู่ที่ญี่ปุ่นจริงๆ แถมยังปั้นถ่ายได้หลายมุมด้วย
สำหรับภาพที่เห็นเป็นแนวยาวด้านล่างนี้ จะเป็นภาพที่ผมถ่ายด้วยสไตล์แบบ Cinematic นะครับ มันจะเป็นสไตล์แบบใหม่ที่พึ่งเพิ่มเข้ามาใน vivo X80 ซีรี่ย์ และผมอยากจะบอกว่ามันดีมาก ผมชอบสุดๆ มันให้ฟีลของการถ่ายภาพยนตร์เลย ที่สำคัญเวลาดูในมือถือเราภาพมันจะสวยแบบเต็มตาเต็มจอมากครับ
อ้อ ในโหมดนี้เราจะสามารถปรับระดับรูรับแสงได้ด้วยนะครับ ตั้งแต่ f0.95 จนถึง f16 เลย โดยถ้าเราถ่ายมาแล้วไม่ชอบใจ เราก็สามารถมาปรับรูรับแสงในมือถือเราทีหลังก็ได้นะ แจ่มมากๆ
มาดูมุมอื่นๆ ที่น่าสนใจในโซน Outdoor กันต่อครับ เริ่มจากมุมจักรยานครับ
มุมต้นส้มข้างๆ จักรยานครับ และภาพนี้ทำให้ผมหลงรัก vivo X80 เลยครับ มันละลายหลังทำโบเก้ได้สวยเป็นธรรมชาติมากครับ ที่สำคัญภาพนี้ผมใช้ f2.8 เท่านั้น ซึ่งถ้าใครปรับเป็นช่วง f0.95 – f2.8 โบเก้ที่ได้ก็จะอลังการกว่านี้อีกครับ
มุมร้านขายไอศกรีมครับ มุมนี้ก็น่ารักดี
และข้างๆ ร้านขายไอศกรีมก็จะมีร้านขายบาร์บีคิว รวมถึงฉากอื่นๆ ให้เราถ่ายรูปอีกพอควรเลยครับ
ส่วนใครที่ชอบความเป็น minimal หรือต้น cactus มันก็มีหลายจุดที่ดูน่ารักน่าถ่ายรูปนะครับ
เอาล่ะ เดี๋ยวเราเข้าไปดูข้างในร้านกันบ้างดีกว่า โดยหลังจากที่เราเดินผ่านประตูเข้าไป เราก็จะเห็นร้านที่มีขนาดใหญ่โตมากๆ แบบนี้ครับ เปิดเข้าไปทีแรกถึงกับตกใจ ร้านใหญ่มากและดูน่าถ่ายรูปไปหมดเลยครับ ><
มุมด้านนี้จะมีบันไดวนด้วยนะครับ น่ารักมาก
อ้อ ผมต้องบอกก่อนนะครับ ส่วนตัวแล้วผมรู้สึกว่าเลนส์ wide ของ vivo X80 นั้นจะไม่ได้กว้างมากนะครับ แต่โดยรวมมันก็ยังสามารถถ่ายงานในรูปแบบที่ผมใช้บ่อยๆ ได้ครับ
ภาพนี้จะเป็นที่นั่งริมกระจกบานใหญ่ครับ หมอนรองนั่งเค้าดูน่ารักดี
ส่วนมุมนี้จะเป็นที่นั่งริมกระจกอีกมุมนึงครับ และเป็นมุมที่ผมชอบมากๆ เพราะมันสามารถนั่งไปแล้วชมวิวข้างนอกที่เป็นวิวสไตล์ญี่ปุ่นได้ด้วย
และสำหรับภาพนี้ต้องบอกว่าระบบ HDR Auto ของ vivo X80 มันช่วยผมเอาไว้ได้มากๆ เลยครับ เพราะจริงๆ แล้วสภาพแสงด้านในกับด้านนอกมันต่างกันเยอะมาก ถ้าเราใช้กล้องถ่ายรูปปกติอาจจะต้องถ่ายเป็น RAW และมาทำต่อ แต่พอมีระบบ HDR แบบนี้ มันก็ทำให้ทุกอย่างจบได้ง่ายขึ้นภายในแชะเดียวครับ
ไปชมภาพบรรยากาศอื่นๆ ที่บริเวณชั้น 1 กันต่อครับ บอกเลยว่ามุมถ่ายรูปเค้าเพียบจริงๆ
ดูชั้น 1 กันไปเยอะแล้ว เดี๋ยวเราไปดูชั้น 2 กันต่อดีกว่าครับ บอกเลยว่าด้านบนนี่ก็มุมถ่ายรูปเพียบไม่แพ้ด้านล่างครับ
ขึ้นบันไดมาเราก็จะเจอกับแก๊งค์หมี 3 ตัวรอต้อนรับแบบนี้ครับ
มุมต่างๆ ที่ชั้น 2 ครับ
ส่วนตัวผมชอบมุมนี้มากครับ ผมว่าแสงมันสวยดี
ส่วนมุมนี้ก็น่าสนใจครับ มีทั้งหมีใหญ่ยักษ์และดอกไม้ครับ เป็นพร็อพที่น่าสนใจทั้งคู่เลย
ขอกดเป็นแนวยาว โบเก้ Cinematic อีกซักใบนะครับ โหมดนี้มันทำให้สนุกกับการถ่ายรูปขึ้นเยอะจริงๆ โดยเฉพาะเวลาที่เราดูรูปที่ได้ในโทรศัพท์ครับ
ลองถ่ายดอกไม้ต่างๆ ดูบ้าง ผมว่าสีสันและการไล่ชัดตื้นของมันทำได้ดีเลยนะ
ดูข้างบนกันครบแล้ว เดี๋ยวเราย้อนลงไปดูข้างล่างกันอีกรอบครับ โดยคราวนี้ผมจะพาทุกคนไปดูเมนูอาหารที่ได้ลองทานกันด้วย เผื่อใครสนใจอยากจะสั่งตามบ้าง
เมนูที่ผมทาน
- Double Fresh Summer (115 บาท) : แก้วนี้จะเป็นน้ำส้มผสมพีชครับ รสชาติอร่อยดี ทานแล้วสดชื่นครับ
- Dirty Coffee (125 บาท) : เดอร์ตี้ที่เสิร์ฟพร้อมกับมาร์ชเมลโล่นุ่มๆ ดูเก๋ไก๋และน่ารักดี ส่วนรสชาติของกาแฟนั้นผมว่ามันออกไปทางลาเต้หน่อยๆ ครับ
- Strawberry Croffle + Whipped Cream (175 บาท) : เมนูนี้อร่อยมากๆ ครับ แนะนำเลย ครอฟเฟิลกรอบหอมอร่อยกำลังดี ส่วนท้อปปิ้งด้านบนนั้นก็ให้สตรอเบอร์รี่สดมาแบบเต็มๆ เลย
- Rainbow Cake (159 บาท) : เค้กที่หน้าตาและสีสันน่ารักมากกกกก เด็กๆ และสาวๆ น่าจะถูกอกถูกใจกันเป็นพิเศษ ส่วนเรื่องรสชาตินั้นส่วนตัวผมเฉยๆ คิดว่าครอฟเฟิลจานเมื่อกี้เด็ดกว่าเยอะครับ ><
ส่วนนี่เป็นมุมที่ผมนั่งทานครับ นั่งไปชมวิวบรรยากาศญี่ปุ่นไปด้วย ^^
ใครดูบรรยากาศร้านแล้วสนใจก็ตามไปลองได้นะครับ บอกเลยว่าเมนูขนมของเค้ายังมีให้เลือกสั่งอีกเพียบ น่าลองทั้งนั้น ส่วนเรื่องมุมถ่ายรูปนั้นผมบอกเลยว่าเยอะจริงๆ เยอะจนผมว่าบางคนน่าจะได้รูปกลับบ้าน 3-400 รูปสบายๆ ครับ เรียกว่าถ่ายกันจนมือหงิก โพสต์จนเมื่อยตัวเลยครับ
ส่วนใครที่กำลังสนใจคุณภาพของภาพที่ถ่ายจากโทรศัพท์มือถือ vivo X80 5G (ตัวธรรมดา) อยู่ ผมหวังว่ารีวิวนี้น่าจะช่วยทำให้ทุกคนมีข้อมูลมากขึ้นนะครับ ส่วนตัวผมนั้นบอกเลยว่าประทับใจมาก ใช้งานสนุกจริงๆ ครับ มันสามารถถ่ายภาพในรูปแบบที่ผมใช้งานเป็นประจำออกมาได้ดีเลยครับ
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านจนจบครับ และสำหรับใครที่อยากจะอ่านเรื่องราวอื่นๆ ของผมเพิ่มเติมก็สามารถกดติดตามได้ที่แฟนเพจ “ภรรยาหา สามีใช้” ได้เลยครับ แล้วพบกันใหม่ สวัสดีครับ
