คงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่ใครหลายคนมักจะทำอะไรที่สุดโต่งหรือเริ่มทำอะไรจากความชอบของเรา (Passion) เพราะมันเป็นอะไรที่เราทำแล้วรู้สึกสนุก ทำแล้วเรารู้สึกว่ามีชีวิตชีวา ชีวิตเรามีค่า มีความหมายและมีพลังมากขึ้น แต่ปัญหาใหญ่ที่คนส่วนใหญ่มักจะเจอกันนั่นก็คือเราไม่สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ด้วยการกิน Passion หรือความชอบเหล่านั้นได้น่ะสิ!
แต่ๆๆๆๆๆๆ แต่อย่าพึ่งถอดใจไป วันนี้ผมมีวิธีที่จะเปลี่ยนความสุขจากการเฝ้าดู like and share ของเรา ที่จากเดิมมันแค่ช่วยเติมเต็มความอิ่มในใจเราได้ ให้กลายเป็น Passion Fruit ที่แสนอร่อยที่นอกจากจะช่วยบรรเทาความหิวของเราแล้วยังมีประโยชน์ต่อร่างกายอีกด้วย โดยหลักการง่ายๆ ของการเปลี่ยน Passion ให้กลายเป็น Passion Fruit ก็ตามนี้เลย
เลือกสิ่งที่เราคิดว่าเราชอบ เราทำแล้วมีความสุขขึ้นมาซัก 3อย่าง
เริ่มหยิบสิ่งนั้นออกมาทำ และเผยแพร่ให้คนเห็นผ่านช่องทางต่างๆ ตามที่เราถนัด……ซึ่งอันไหนที่คิดว่าไม่ถนัดแต่คิดว่ามันน่าจะต้องทำเป็น ก็ต้องไปหัดเรียนรู้นะ……โดยจุดสำคัญก็คือเราต้องเริ่มทำทันที อย่าผลัดวันประกันพรุ่งนะ^^
ฝีกและทำมันอย่างสม่ำเสมอ และค่อยๆ ปรับแต่งความชอบของเราในด้านต่างๆ ผสมกันออกมาให้มีความกลมกล่อมมากขึ้นเรื่อยๆ
เชื่อมั่นในสิ่งที่ตัวเองทำ มั่นใจในความเป็นตัวเอง อย่านอยด์กับจำนวนlikeและ share เพราะบางครั้งจำนวน like, share และจำนวนคนติดตามอาจไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่าง แต่สิ่งสำคัญกว่าคือคุณภาพของสิ่งที่นำเสนอ, ความเป็นตัวคุณที่ชัดเจน และความเป็น expert ในด้านนั้นแบบที่ไม่มีใครสามารถทำตามได้
“เชื่อมั้ยครับ…….ถ้าคุณชัดเจนในตัวตนและเนื้อหามากๆ บางทีคุณมีคนติดตามแค่ 20,000 คน แต่แบรนด์ระดับโลกอาจจะอยากร่วมงานและเชิญคุณไปทำอะไรซักอย่างที่เพจหลักล้านและคนอีก 99.99% ของโลกได้แต่มองตาปริบๆ เลยก็ได้”
.
.
แต่เดี๋ยวนะ เดี๋ยวๆๆๆๆๆ…..ใครที่อ่านมาถึงตรงนี้อย่าพึ่งคิดไปไกล และฟุ้งเฟ้อไปจนถึงวิมานสวรรค์ชั้น 7 นะครับว่า หากเราทำตามจนครบทั้ง 4 ข้อนี้แล้วก็จะสามารถดื่มด่ำและมีความสุขกับ Passion Fruit ที่แสนอร่อยได้ทุกวันตลอดจนสิ้นอายุขัย เพราะอยากจะบอกว่าโลกนี้มันแสนโหดร้ายเหลือเกิน และมีคนอีกมากมายที่ทำตามนี้ครบหมดแล้วแต่ก็ยังไม่สามารถที่จะเลี้ยงปากท้องตัวเองได้…….ซึ่งก็ว่ากันตรงๆ ผมเองก็เป็นหนึ่งในคนเหล่านั้นแหละ T___T แต่สิ่งสำคัญที่สุดก็คือทุกวันนี้ผมยังไม่ยอมแพ้และยังไม่ยอมหยุดเดินครับ
และผมคิดว่าการที่ผมยังไม่ยอมแพ้ ยังไม่ยอมหยุดเดินนี่แหละ จะทำให้วันนึงผมมีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จตามที่มีกูรูท่านนึงที่มีโอกาสได้ไปดูโรงงานประกอบรถ Rolls-Royce ถึงประเทศอังกฤษ และได้ไปขับรถ Super Car แบบ Buffet ที่อเมริกาบอกไว้ว่า “ความสำเร็จไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่มันเกิดจากประสบการณ์และความทุ่มเทของเรา” และ “จงภูมิใจถ้า content ของเราโดนก็อป!!” เพราะว่ามันเข้าตามสูตรกฎ content ที่ดี 3 ประการเป๊ะๆ เลยว่า content ที่ดีนั้นจะต้องประกอบไปด้วย
Original : ความเป็นต้นฉบับครั้งแรกในโลกที่เราเป็นคนสร้างมันขึ้นมาด้วยมือของเราเอง
In-time / Timeless : พอเหมาะพอเจาะกับเวลา หรือไม่ก็เป็น content ที่เหนือการณ์เวลา………10 ปีก็ยังไม่สายที่จะมาอ่านมัน
โดนก็อป!! : แน่แหละ ถ้ามันไม่ดีเค้าก็คงไม่ก็อปปี้เราไปให้เปลือง Bandwidth และทรัพยากรหรอก ยกเว้นไอ้คนที่ก็อปไปนั้นจะโง่เข้าขั้นสุดๆ
เอาล่ะ หลังจากที่เราได้ลองวิ่งตามที่ใจชอบด้วยใจที่ไม่ยอมแพ้ จนมีความชัดเจนของตัวเองในระดับนึงแล้ว ซักพักก็น่าจะมีคนที่อยากจะมาร่วมงานด้วย…….แต่ถ้ายังไม่มีเข้ามาซักทีและตัวเราเองนั้นมั่นใจในแนวทางของเรา มั่นใจว่าเราจะสามารถเข้าไปตอบสนองหรือช่วยเสริมใครให้ดีขึ้นได้ ก็จงหาช่องทาง หาวิธีการเข้าไปแนะนำตัวกับเค้าซะ มันต้องมีซักบริษัทแหละที่พร้อมจะพูดคุยกับคุณครับ
และพอมันมี partner เข้ามา มันก็จะต้องมีเงินหรือคำว่าผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ซึ่งที่นี้แหละจะเป็นบททดสอบครั้งสำคัญของเราเลยว่าหลังจากนี้คุณจะมีผลไม้ยังชีพอย่างเสาวรส (Passion Fruit) ให้กินแค่ลูกเดียวแล้วจบ หรือว่านั่นจะเป็นจุดเริ่มต้นของการทยอยเด็ดมันกินไปเรื่อยๆ จากสวนที่คุณปลูกด้วยหยาดเหงื่อและแรงกายของคุณมายาวนานหลายปี
.
.
.
.
บททดสอบที่ว่านั้นก็คือคุณจะสามารถบริหารสัดส่วนวงกลม 3 วงที่บรรจุคำว่า “รายได้, จริยธรรม และความน่าเชื่อถือ” ได้ดีขนาดไหนครับ

ขอให้ทุกคนโชคดี และมีความสุขในการเดินทางด้วย Passion ครับ
หมายเหตุ : ขอขอบคุณภาพประกอบจาก internet และบทความนี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวของผมจากการได้เข้าอบรม Blogger's Boot Camp by CP All เท่านั้น