แทบจะเป็นธรรมเนียมไปแล้วเวลาที่เราสองคนเดินทางไปญี่ปุ่นแต่ละครั้งก็มักจะเอารายการของที่ซื้อมายั่ว…….เอ้ย มาอัพเดตของน่าช้อปและราคาล่าสุดกันค่ะ

สำหรับครั้งนี้ของที่ซื้อมาเยอะแยะมากมายเต็มกระเป๋าเลย ต๋งก็เลยขอแบ่งหมวดหมู่เยอะหน่อยนะคะ ไม่งั้นเดี๋ยวรูปมันจะเล็กจนมองไม่เห็นอะไรเนอะ โดยต๋งจะพยายามอธิบายสรรพคุณกรุบกริบพร้อมราคาในหน่วยเยนไว้ในวงเล็บให้นะคะ โดยราคานี้จะยังไม่รวม Vat 8% และหากใครอยากจะคิดเป็นเงินบาทก็ง่ายๆ เพียงแค่คูณ 0.3 เข้าไปเท่านั้นเองค่ะ

เอาล่ะ ไม่พูดเยอะเจ็บคอ ตามไปดูกันเลยดีกว่าว่ามีรายการอะไรบ้าง ><

Disclosure : บทความนี้เป็นบทความที่ไม่ได้รับการสนับสนุนจากผู้ให้บริการใดๆ ทั้งสิ้น
  

หมวดที่ 1 : เครื่องสำอาง 

 
  1. แป้ง Cezanne ตลับฟ้า ของชิ้นนี้ราคาเดียวกันทั่วญี่ปุ่น ไปทีไรไม่ต้องเทียบราคาให้ยุ่งยาก เพราะนางไม่เคยลดราคาเลย [ตลับจริง 500¥ | refill 380 ¥]
  2. กระดาษซับมัน Gasby ใครที่ใช้อยู่แล้วสอยมาเถอะ ราคาถูกกว่าไทยครึ่งครึ่ง น้ำหนักก็เบาด้วยขนกลับมาสบายๆ [198 ¥]
  3. Lip Cream DHC ลิปครีมบำรุงปากเนื้อนุ่มทาลื่น ให้ความชุ่มชื้นดี พกติดกระเป๋าไว้หายห่วงค่ะ [398¥]
  4. Color Lip Cream DHC ลิปครีมเนื้อสี ต๋งอยากลองดูว่าถ้าทาปากพร้อมบำรุงไปด้วยจะดีแค่ไหน รุ่นนี้มีสีให้เลือกน้อยไปนี๊ดนึง เพราะเค้าเน้นแต่สีสดๆ ค่ะ [498¥]
  5. ที่ดัดขนตา Shu Uemura ที่สุดของที่ดัดขนตาที่ฮิตเว่อร์ ส่วนตัวแล้วชอบมากเลยเข้ากับเบ้าตาได้ดีมาก ไม่เคยหนีบโดนหนังตาเลยค่ะ [999¥]
  6. ที่ดัดขนตา Shiseido213 อันนี้แทบจะเป็นตัวตายตัวแทนของ Shu ได้เลย วัสดุดูด้อยกว่านิดหน่อยแต่ส่วนโค้งเว้าทำได้ดี ที่สำคัญราคาถูกซื้อแล้วซื้ออีกซื้อซ้ำตลอด [640¥]
  7. ยางที่ดัดขนตา Shiseido214 นี่ก็ถูก ซื้อข้อบนแล้วก็ซื้ออันนี้ด้วยนะ ราคาหลักสิบบาทเท่านั้นเอง [80¥]
  8. ที่ดัดขนตา Shiseido215 เป็นที่ดัดขนตารุ่นอันเล็กช่วยซอกซอนการดัดขนตาในมุมแคบ ราคาเท่ากับอันใหญ่เลยจ้า [640¥]
 

 หมวดที่ 2 : บำรุงผิว 

 
  1. KOSE’ Mask set ในเซตนี้ประกอบด้วย KOSE’ Clear Turn Eye Mask (กล่องสีแดง| 64ชิ้น) กับ KOSE’ Cosmeport (ซองสีทอง | 8ชิ้น) ทีแรกมีความตั้งใจจะซื้อ Eye Mask อย่างเดียวเพราะติดใจในความดีงามของนาง แปะโบ๊ะไปใต้ตาทิ้งไว้ 15-20 นาทีรู้สึกสดชื่นสดใสในทันตา แต่ในเมื่อจัดเซตราคาพิเศษแบบนี้มีหรือเหยื่อการตลาดอย่างเราจะไม่หลง [1,280¥]
  2. Naturei Skin Conditioner น้ำตบลูกเดือยตัวดัง ที่เมืองไทยก็มีแต่ที่นี่ราคาถูกกว่า ใครได้น้ำหนักกระเป๋าเยอะก็แบกไปเลยจ้า ขวดนึง 500ml ก็คือหนักครึ่งกิโลกรัมใครๆ เค้าก็ว่าดีครั้งนี้ต๋งเลยขอแบกมาซักนี๊ด [498¥]
  3. Naturei Skin Conditioning gel ต่อจากน้ำตบก็ตามด้วยเจล ซื้อแล้วต้องเอาให้ครบชุด ช่วงที่ต๋งไปเค้ามีการแถมขวดและกระปุกสำหรับแบ่งใช้พอดีเลยดีมากๆ ค่ะ [880¥]
  4. มาส์กข้าว มาสก์ที่หลายคน Recommended ให้ซื้อ ช่วยฟื้นฟูผิวให้แข็งแรงขึ้น ในซองมีทั้งหมด10 แผ่น [650¥]
  5. Shiseido Aqua Label Facial Gelcream Moist ชิ้นนี้มีคนฝากซื้อค่า [1,500¥]
  6. Curel Moisture gel-cream สำหรับรุ่นสีม่วงจะเป็น Aging care series นะคะ เนื้อเจลลื่นทาง่าย ไม่เหนอะ ชิ้นนี้ซื้อฝากคุณแม่ค่ะ [2,800¥]
  7. Hada Labo น้ำตบที่ไม่มีใครไม่รู้จักตัวนี้ต๋งใช้เป็นประจำทุกเช้า ช่วยเตรียมผิวก่อนแต่งหน้าแบบไม่ทิ้งความมันไว้เลยชอบมากค่ะ คราวนี้ต๋งเลยซื้อแบบถุงเติมเอาไว้ใส่กับขวดที่บ้านจะได้ประหยัดเงินลงไปนิดนึง [598¥]
  8. Hyaluron ฝาม่วงตัวฮิต สารภาพว่าซื้อตามคนอื่นล้วนๆ วิธีใช้ง่ายๆ แค่ผสมไปพร้อมครีมบำรุงที่ใช้อยู่ได้เลยเห็นขวดจิ๋วๆ แบบนี้ไม่ต้องกลัวว่ามันจะหมดเร็วนะคะ เพราะว่าครั้งนึงเราใช้แค่นิดเดียวเท่านั้นเอง รายการนี้ราคาเดียวทั่วประเทศเช่นกัน ไม่ต้องเช็คให้เมื่อยตุ้ม [500¥]
 

 หมวดที่ 3 : ทำความสะอาดผิว 

 
  1. Curel Makeup Cleansing Gel เจลล้างเครื่องสำอาง อันนี้เพื่อนฝากซื้อค่ะ เค้าว่าแบรนด์นี้คนผิวแพ้ง่ายใช้ดีมาก [1,000¥]
  2. Biore Men Facial Sheet อันนี้ลักษณะจะคล้ายกับทิชชูเปียกและเอาไว้ใช้สำหรับเช็ดทำความสะอาดผิว ต๋งชอบติดไว้ใช้เวลาที่ต้องไปผจญอะไรที่ทำตัวเหนอะหรือในวันที่แดดร้อน เช็ดแล้วรู้สึกสดชื่นดีค่ะ รุ่นนี้สามารถใช้เช็ดหน้าได้ด้วยนะคะ [98¥]
  3. Kracie Shampoo อันนี้เห็นลดราคาอยู่เลยลองๆ หยิบมาค่ะ [178¥]
  4. Bifesta Cleansing Sheet ไอเท็มนี้เด็ดจริงจัง เป็นที่เช็ดเครื่องสำอางที่สะดวกสุดๆ พกพาง่าย ไม่ต้องทำอะไรหลายขั้นตอน เช็ดทำความสะอาดเกลี้ยงเกลา แผ่นเดียวเอาอยู่ ไปทีไรไม่หยิบไม่ได้เลย 1 ห่อมีทั้งหมด 46 แผ่นจ้า ตกแผ่นละ 2 บาทเอง คุ้มเว่อร์ [298¥]
  5. Softymo Facial foam สูตร HyaluronicAcid (สีชมพู) ก่อนหน้านี้ต๋งเคยใช้สูตร Collagen (สีฟ้า) แล้วโอเคเลย ล้างสะอาด หน้าไม่แห้งไม่เอี๊ยด ครั้งนี้เลยขอลองอีกสูตรบ้างยี่ห้อนี้เค้าทำหลอดใหญ่เบิ้ม 190 กรัม ในราคาถูกกว่า Perfectwhip อีก คุ้มมากๆ ค่ะ [298¥]
  6. Senka Perfect Whip ไปทีไรมีคนฝากซื้อทู้กกกที ของเค้าดีจริง ราคาก็ไม่แรง แต่หลังๆ ต๋งไม่ได้ใช้เท่าไรแล้วเพราะชอบลองของใหม่ไปเรื่อย [298¥]
  7. ยาสีฟัน Ora2 สิ่งนี้เริ่มจากเพื่อนฝากซื้อเราเลยซื้อตาม ซึ่งพอเอามาใช้แล้วปรากฏว่ามันดีแฮะใช้แล้วรู้สึกสะอาดปาก เช้ามาพวกกลิ่นน้ำลายบูดไรงี้ลดลงเยอะเลย [100¥]
     

หมวดที่ 4 : ครีมกันแดด 

 
  1. Shiseiso Sunmedic ครีมกันแดดอีกรุ่นของ Shiseido ที่ราคาจะย่อมๆ ลงมาจากรุ่น Annessa นิดนึง เนื้อน้ำนมขาวขุ่นทาแล้วแอบคล้ายลงเบสเหมือนกัน ค่อนข้างหาซื้อยากหน่อยค่ะตัวนี้ [1,800¥]
  2. Biore UV Aqua กันแดดที่ฮิตมากอีกตัวเนื้อ Watery ให้ความรู้สึกสบายผิวที่สำคัญตัวนี้ถูกกว่าในไทยเยอะเลย [580¥]
  3. Skin Aqua UV Moisture Essence กันแดดตัวนี้เป็นตัวที่ต๋งใช้เป็นประจำทุกวันเลยค่ะ เนื้อกึ่งเจลแห้งไวแต่ทิ้งความชุ่มชื้นไว้ ทาก่อนแต่งหน้าแป๊บเดียวแทบไม่ต้องรอแห้ง หลอดใหญ่กว่าใครเพื่อนเลย คุ้มมากๆ [698¥]
  4. Mentholatum Sunplay Super Cool ครีมกันแดดสูตรเย็น ใช่ค่ะ….มันเย็นจริงๆขวดเล็กกะทัดรัดเหมาะแก่การพกพา เนื้อน้ำนมทาแล้วไม่เหนอะ เวลาทาที่ไทยแอบมีความมันนี๊ดนึง แต่ถ้าเอาไปทาในที่แห้งๆ หน่อยจะรู้สึกชุ่มชื้นกำลังดี ต๋งเอามาใช้เวลาไปเที่ยวทะเลค่ะ เย็นสะใจดี [198¥]
 

 หมวดที่ 5 : ของใช้ในบ้าน 

 
  1. Bold Gel Ball ก้อนซักผ้าที่รวมครบทั้งน้ำยาซักผ้า, น้ำยาขจัดคราบ และน้ำยาปรับผ้านุ่มไว้ด้วยกัน โยนเข้าเครื่องไปพร้อมกองผ้าแล้วกดปุ่มซัก จบปิ้งงงง สีฟ้าหอมสดชื่น สีชมพูหอมดอกไม้ แบบเติมหรือแบบกล่องก็ราคาเดียวกันค่ะ [18 ก้อน 298¥]
  2. ผ้าอนามัย ไม่รู้ว่าอุปทานไปเองมั้ยว่าผ้าอนามัยที่ญี่ปุ่นมันคุณภาพดีกว่าของไทย สัมผัสนุ่ม ราคาก็พอๆ กับของไทยเลยค่ะ สาวๆ คนไหนไม่เคยลอง ลองดูนะคะ [198¥]

 หมวดที่ 6 : ร้านร้อยเยน 

มาญี่ปุ่นต้องห้ามพลาดร้านร้อยเยนเลยค่ะ ที่นี่เค้ามีหลายยี่ห้อมาก แต่ที่เราๆ คุ้นเคยกันดีก็คงไม่พ้น Daiso เพราะเค้ามีของขายทุกประเภท บางอย่างดูคุ้มค่าเกินราคาและไม่น่าเชื่อว่าจะขายกันไปได้ และบางอย่างก็มีขายเฉพาะในญี่ปุ่นเท่านั้น ต๋งได้ของฝากน่ารักๆ จากที่นี่บ่อยๆเลยแหละ ลองซูมกันดูนะว่าของแต่ละชิ้นน่ารักแค่ไหน ^^

อ้อ ถึงจะชื่อว่าร้านร้อยเยน แต่ยอดที่เราจ่ายต่อชิ้นนั้นต้องรวม vat 8% เป็นชิ้นละ 108 เยน เสมอนะคะ ร้านพวกนี้ไม่สามารถ vat refund ได้จ้า 

 

หมวดที่ 7 : ขนมของกิน 

 
  1. ถั่ววาซาบิ ของฝากสุดฮอต ไปทีไรคนไทยเหมากันมาตลอด เพราะเอกลักษณ์ความเป็นญี่ปุ่นนั่นก็คือวาซาบิ แถมเค้ายังแบ่งเป็นห่อเล็กๆ พร้อมแจกจ่ายด้วย ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมคนชอบซื้อมาฝากกัน [798¥]
  2. Caramel Corn ขนมตัวใหม่ที่ต๋งเองเพิ่งรู้จักเพราะมีคนฝากซื้อ และแน่นอนด้วยความอยากรู้เราก็เลยลองซื้อมาชิมเองซะบ้าง ลักษณะเป็นข้าวโพดอบรูปทรงเหมือนตัวด้วง รสชาติหวานมัน หอมกลิ่นคาราเมล หวานๆ กรอบๆ กินเพลินมากจนต้องซื้อกลับมาด้วย ราคาไม่แรงเลยค่ะ ในร้านสะดวกซื้อทั่วไปก็อาจจะราคาแพงกว่าดองกี้นิดนึง ในมูจิก็มีขายนะคะ รสชาติคล้ายๆ กัน แต่ต๋งชอบยี่ห้อ Tohoto ซองสีแดงมากกว่าเพราะมันหอมและกรอบว่าค่ะ [118¥]
  3. บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เห็นอะไรแปลกใหม่ก็อดไม่ได้ที่จะขอซื้อกลับมาลองนิดนึง สำหรับบะหมี่ของญี่ปุ่นรสชาติเค้าหลากหลายมากๆ เลย เท่าที่ชิมมาหลายแบบต๋งยังไม่เคยเจอแบบที่ผิดหวังนะคะ ก็เลยลองกันต่อปายยย  [78¥]
  4. Mitsuya Cider เครื่องดื่มอัดลมยี่ห้อยอดฮิตของญี่ปุ่น กินแล้วให้ความสดชื่นดีค่ะ [68¥]
  5. Peach mix soda หรือน้ำพีชซ่านี่เอง ส่วนตัวต๋งเป็นคนที่ชอบกินพีชอยู่แล้ว พอเจอเครื่องดื่มแบบนี้จึงไม่ลังเลที่จะซื้อมาลอง รสชาติของเจ้านี่หอมพีชมาเลยค่ะ รสซ่าสร้างความสดชื่นได้ดีมาก [79¥]
  6. Qoo Jelly รายการนี้ไม่ต้องบรรยายเนอะทุกคนรู้จักกันดีอยู่แล้ว ต๋งไปทีไรซื้อกลับมาหลายซองตลอด [98¥]
  7. ลูกอมตัวหอม อันนี้ต๋งชอบกว่าเยลลี่อีกนะ เคี้ยวหนึบ หอมหวาน มี 2 รสชาติ คือ กุหลาบกับเบอร์รี่ อร่อยทั้งคู่เลย [98¥]
  8. ขนมมาม่า ขนมอีกอย่างที่ต๋งชอบมากกก กินที่นู่นไปหลายซอง ยังขอแบกกลับมาอี๊ก 555 กรอบๆ เค็มๆ และเป็นขนมที่หลายๆ คนถึงกับรีเควสอันนี้เป็นของฝากเลยค่ะ [78¥]
  9. ทาโร่ชีส ชอบม๊ากกก กินเพลินแบบไม่สนตอนเบิร์นแคลเลย [298¥]
  10. Kitkat ชาเขียว อีกหนึ่งของฝากประจำของนักท่องเที่ยวชาวไทย [189¥]
  11. ลูกอมต่างๆ รายการนี้ซื้อมาฝากเค้าล้วนๆ เลยค่ะ แต่ละอย่างดูน่ากินดี อย่างของ Capis lacto นั้นรสชาติจะเป็นแบบเดียวกับตัวที่เป็นเครื่องดื่มเด๊ะเลย อร่อยดีค่ะ แนะนำเลยว่าใครชอบกินเครื่องดื่ม Capis lacto ควรหาลูกอมนี้มาลองชิม [138-158¥]
 

หมวดที่ 8 : ยาและอาหารเสริม 

 
  1. Meiji Premium Collagen คอลลาเจนเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิว รายการนี้มีเพื่อนฝากมาอีกแล้ว โดยส่วนตัวต๋งคิดว่าแบบเม็ดมันทานง่ายกว่าเลยไม่ค่อยชอบแบบนี้เท่าไรค่ะ ต๋งทานแบบเม็ดของ DHC นะคะ [3,380¥]
  2. สเปรย์กันกรน อันนี้มีเพื่อนที่เคยใช้เค้าว่าเห็นผลจริง หลักการทำงานคือให้ความชุ่มชื้นกับระบบทางเดินหายใจ การกรนก็จะลดลง ต๋งเลยขอซื้อมาลองปราบสามีซักหน่อย แต่ยังไม่ได้ลองใช้ซักทีเลยไม่กล้าฟันธงถึงประสิทธิภาพนะคะ [1,480¥]
  3. DHC Karinichin ซองสีฟ้า ตัวนี้ช่วยกระตุ้นการเผาผลาญและช่วยในเรื่องการขับถ่ายค่ะ ปริมาณที่เหมาะสมคือ 5 เม็ดต่อวัน ทานเยอะไปไม่ดีนะคะอาจทำให้ท้องเสียได้ [แบบ 60 วัน 2,080¥]
  4. DHC Vit C ซองสีเหลือง วิตามินซีมีประโยชน์หลายอย่าง นอกจากช่วยสร้างภูมิต้านทานแล้วก็ยังช่วยในเรื่องการดูดซึมวิตามินต่างๆ ได้อีกด้วยค่ะ ดังนั้นเราสามารถกินวิตามินซีเป็นพื้นฐานก่อนแล้วค่อยกินวิตามินตัวอื่นๆ ได้เลย ปริมาณที่เหมาะสมคือ 2 เม็ดต่อวัน [แบบ 60 วัน 298¥]
  5. DHC Kitosan ซองสีแสด ตัวนี้ช่วยย่อยสลายแป้ง เพิ่มประสิทธิภาพในการเผาผลาญ และลดการสะสมไขมันตามร่างกาย ทานตัวนี้ก่อนอาหารจะช่วยดักจับไขมันได้ด้วยค่ะ ปริมาณที่เหมาะสมคือ 3 เม็ดต่อวัน [แบบ 20 วัน 368¥]
  6. DHC MutiVitamin+MultiMineral+Q10 บอกเลยว่าซื้อเพราะความคุ้ม กินอย่างเดียวได้ไปสารพัดอย่าง เพราะเค้ารวมวิตามินไว้ถึง 13 ชนิด, แร่ธาติอีก 10 ชนิด และ Q10 ที่ช่วยลดเลือนริ้วรอยอีก ปริมาณที่เหมาะสมในการกินคือ 5 เม็ดต่อวันค่ะ [แบบ 20 วัน 618¥]
  7. ROHTO Lycee’ น้ำตาเทียมกล่องสีชมพู สำหรับผู้ที่ใส่คอนแทคเลนส์ตัวนี้ใช้แล้วตาชุ่มชื้นดีแบบไม่ต้องหยอดบ่อย ขนาดกำลังดี พกพาง่ายค่ะ [468¥]

หมายเหตุ : สำหรับใครที่ไม่รู้ว่าวิตามิน DHC แต่ละชนิดนั้นมีวิธีกินอย่างไร สามารถกดไปอ่านวิธีกินอาหารเสริม DHC ง่ายๆ ที่นี่ได้เลยค่ะ

 

หมดแล้วค่า เยอะน่าดูเลยใช่มั๊ยคะ หวังว่าจะมีประโยชน์กับเพื่อนๆ ที่กำลังจะเดินทางไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่น และเป็นแนวทางในการเดินช้อปปิ้งกับเปรียบเทียบราคานะคะ โดยของทั้งหมดนี้ต๋งซื้อจากหลายๆ ที่รวมกัน เพราะแต่ละร้านแต่ละสาขาจะมีของไม่เหมือนกัน ราคาก็จะไม่เท่ากันค่ะ โดยแนวทางในการเลือกซื้อของต๋งจะเป็นดังนี้ค่ะ 

  • ถ้าซื้อของใช้, ขนม และของกิน แนะนำให้ไปที่ Don Quijote (ดองกี้) เพราะที่นี่เป็นเหมือน Supermarket ขนาดใหญ่ มีของหลากหลายในราคาประหยัด แถมยังเปิดดึกดื่น และบางสาขาก็เปิด 24 ชั่วโมงเลยค่ะ
  • ถ้าซื้อเครื่องสำอางจำพวก Make up, Skin care หรืออหาหารเสิรมแบบต่างๆ ก็จะต้องเป็ยร้านขายยา (Drug Store) เช่น Matsumoto Kiyoshi, Sundrug, Tsuruha โดยเราอาจจะต้องเดินดูหลายๆ ร้านหน่อยนะคะว่าแต่ละร้านมีของที่เราต้องการครบมั้ย จะได้รวบรวมยอดเพื่อขอ Tax Refund ได้ค่ะ 

ก็จบแล้วนะคะสำหรับบทความ “ไปเที่ยวญี่ปุ่นคราวนี้ มีอะไรน่าช้อปบ้าง..ฉบับอัพเดตทิ้งทวนปี 2018” ขอบคุณทุกคนที่ติดตามอ่านจนจบค่ะ และสำหรับใครที่ไม่อยากพลาดทุกเรื่องราวของการกินและเที่ยวของต๋งกับร็อดก็สามารถกดติดตามแฟนเพจ “ภรรยาหา สามีใช้” ได้เลยค่ะ แล้วพบกันใหม่นะคะ สวัสดีค่ะ 

หมายเหตุ : บทความนี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวของผมในวันที่ไปใช้บริการเท่านั้นครับ แต่ละท่านที่ได้มีโอกาสไปใช้บริการอาจจะได้รับการบริการที่แตกต่างจากนี้ออกไป