ตลอดระยะเวลา 30 ปีตั้งแต่ผมเกิดมาจนถึงวันนี้ บอกตรงๆ ว่าไม่เคยมีคอนเสิร์ตไหนที่ทำให้ผมต้องยอมเสียเงินในกระเป๋าตังค์เพื่อไปดู ที่ผ่านมาผมจะไปดูเฉพาะฟรีคอนเสิร์ต ไปถ่ายงานบ้าง หรือไม่ก็ได้บัตรฟรีที่มีคนสงเคราะห์ให้มาโดยตลอด
แต่ชีวิตคนเราเกิดมาย่อมต้องมีครั้งแรกเสมอ และ Born to be Ben คือ คอนเสิร์ตเปิดซิงแบบเสียเงินครั้งแรกของผมครับ
เหตุผลง่ายๆ ที่ผมเลือกคอนเสิร์ตนี้เพราะคอนเสิร์ตนี้จัดวันเสาร์ที่ 5 ต.ค. 56 ซึ่งใกล้กับวันครบรอบวันเกิดของภรรยาผมมากๆ และผมเชื่อว่าเบน ชลาทิศ จะทำให้ภรรยาของผมมีความสุขจากบทเพลงของเค้าได้อย่างแน่นอน มันคงจะเป็นของขวัญที่ล้ำค่าและสร้างความประทับใจให้เธอได้อย่างแน่นอน
ตลอดระยะเวลา 3 ชั่วโมงกว่าๆ ของคอนเสิร์ตนี้ เบน ชลาทิศ สามารถทำหลายๆ อย่างได้อย่างที่พูด อย่างที่ตั้งใจไว้ จนถึงขั้นเกินคำว่าดีและก้าวเข้าไปสู่คำว่าสมบูรณ์แบบจริงๆ ครับ ไม่ว่าจะเป็นการตั้งใจว่าจะไม่ลงจากเวทีแม้ซักนาทีเดียว เพื่อตอบแทนทุกๆ คนที่เข้ามาดูคอนเสิร์ตนี้ และอยากจะให้เวลาทุกวินาทีของทุกคนคุ้มค่าที่สุด มันคงจะเป็นคอนเสิร์ตเดียวที่นักร้องเปลี่ยนชุดบนเวที กินน้ำบนเวทีแบบไม่ห่วงภาพลักษณ์ ยืนอยู่กับแขกรับเชิญตลอดเวลา เพื่อให้เกียรติแขกรับเชิญและคนดู (มีแค่ไม่กี่นาทีเท่านั้นที่เบน หายไปจากเวที เพื่อเปิดโอกาสให้แขกรับเชิญคนนั้นได้เปล่งแสงที่สุดเท่านั้นเอง)
ตลอดระยะเวลา 3 ชั่วโมงกว่าๆ เบน ชลาทิศได้ลำดับและร้อยเรียงคอนเสิร์ตนี้ออกมาได้อย่างไพเราะเพราะพริ้งจริงๆ ทุกๆ สิ่ง ทุกๆ อย่าง ที่เบนได้แสดงออกมาบนเวทีมันเป็นตัวของตัวเองมากๆ ทั้งหัวเราะ ทั้งปากจัด ทั้งท่าทางที่แรดและชวนยิ้มทุกครั้งที่เห็น หลายๆ อย่างที่ผมเห็นเบน ชลาทิศ บนเวที มันเหมือนผมเห็นเค้าผ่านทางแฟนเพจ ในแฟนเพจเค้าเป็นอย่างไร บนเวทีเค้าก็เป็นอย่างนั้น ไม่มีเสแสร้ง ไม่มีแกล้งทำ ทุกอย่างที่ทำ ทุกอย่างที่แสดงรับรู้ได้เลยว่านั่นคือตัวตนของเค้าจริงๆ
…………… มีอยู่เพียงสิ่งเดียวเท่านั้นที่แตกต่างไปจากที่ผมติดตามข้อความเค้าจากในแฟนเพจ นั่นคือผมได้มีโอกาสเห็นสีหน้าและรอยยิ้มของเค้าเพิ่มขึ้นครับ
บนเวทีในค่ำคืนนั้น ดวงตา สีหน้า ของเบน ชลาทิศเปี่ยมไปด้วยความสุขจริงๆ ทุกๆ วินาที ทุกๆ ถ้อยคำที่เค้าพูดกับคนดูกับแขกรับเชิญนั้นเต็มไปด้วยเสียงที่อบอุ่น เคารพ และรับรู้ได้เลยว่าเค้ามีความสุขกับค่ำคืนนี้มากมายแค่ไหน
เบน ชลาทิศ ได้ร้อยเรียงความงามของบทเพลงแต่ละเพลงและถ่ายทอดออกมาในแบบฉบับของตัวเองได้อย่างลงตัวจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นเพลงของตัวเอง เพลงคัฟเวอร์ หรือเพลงฟิตจะริ่งกับแขกรับเชิญ
Born to be Ben ไม่ได้เป็นคอนเสิร์ตที่จัดมาเพื่ออวยตัวเองและข่มแขกรับเชิญให้ดับ แต่หากเป็นคอนเสิร์ตที่ให้เกียรติแขกรับเชิญมากๆ และจัดทำทุกอย่างเพื่อผลักดันรัศมีให้แขกรับเชิญเจิดจรัส หรือเปิดเผยมุมมองใหม่ๆ ของแขกรับเชิญที่เราไม่เคยเห็นออกมา ไม่ว่าจะเป็นการให้พี่ต๊งเหน่ง รัดเกล้าออกมาเต้นรำกับชายหนุ่มในเพลง “เพื่ออะไร” หรือผสานเสียงกันอย่างหวานในเพลง “Beauty and the Beast” การจิกกัด การต่อปากต่อคำและถ่ายทอดความปวดร้าวคู่กับอ็อฟ ปองศักดิ์ในเพลง “แทงข้างหลังทะลุถึงหัวใจ” และการที่ทำให้ผมได้มีโอกาสฟังพี่ปู พงษ์สิทธิ์ คำภีร์ ร้องเพลงสดๆ เป็นครั้งแรก
จะบ้าตายผมพึ่งรู้ว่าเสียงสดๆ ของพี่ปูเพราะมาก ใสมาก หวานมากกกกกกก ผมโคตรชอบเลยครับ
และการที่ได้ให้ผมมีโอกาสฟังเจนนิเฟอร์คิ้ม ร้องเพลงหวานๆ ในสไตล์เจ้าหญิง สวยๆ หวานๆ สไตล์นางสาวไทย ไม่ใช่แนวก็อซซิล่าพ่นไฟอย่างที่เคยฟังผ่านหูมา มันเป็นภาพที่ผมไม่เคยจินตนาการถึงมาก่อน ผู้หญิงคนนี้มีอีกมุมหนึ่งที่สวย เพราะมากกก เพราะเพียงแค่เธอขยับปากเบาๆ เพียงเล็กน้อยเท่านั้น เสียงของเธอก็ลอยกังวานเข้ามาถึงกลางหัวใจเลยครับ
การดูเอลฟิตจะริ่งที่แสนจะดุเด็ด เผ็ดมันส์มาก ระว่างเบน ชลาทิศและพี่ป๊อด โมเดิร์น ด็อก ในเพลง “รักคุณเข้าแล้ว&รักคุณเข้าอีกแล้ว” มันเป็นการผสานเสียงเพลงที่มันส์และเพราะมากๆ จริงๆ และเมื่อเพลงนี้จบลง พี่ป๊อด ถึงกับเอ่ยปากบอกทุกคนว่าการร้องเพลงคู่เมื่อกี้เป็นอะไรที่สุดๆ และมันส์มากในชีวิตเค้าจริงๆ เค้าไม่เคยร้องเพลงมันส์แบบนี้มาก่อน ผู้ชายชื่อเบน ชลาทิศ นี่สุดยอดจริงๆ …….และนี่ก็เป็นอีก 1 คนที่เอ่ยปากชมเบน ชลาทิศแบบนี้ หลังจากที่ผมเคยได้ยินประโยคทำนองนี้จากปากของศิลปินไทยหลายๆ ท่าน
ในการเลือกแขกรับเชิญที่เข้ามามีส่วนร่วมในคอนเสิร์ตนี้ เบน ชลาทิศ บอกไว้อย่างชัดเจนว่าไม่ได้เลือกมาเพื่อขายบัตร แต่เลือกมาเพราะแต่ละคนล้วนมีสิ่งที่ผูกพันกับเบน ชลาทิศ ไม่ว่าจะเป็นพี่ต๊งเหน่ง รัดเก้า ซึ่งเบน ได้บอกไว้ว่าหลังจากที่จบคอนเสิร์ตแนะนำตัวการเป็นนักร้องหน้าใหม่ของเบนครั้งแรกภายในงานที่จัดกันภายในของเบเกอรี่ มิวสิค พี่ต๊งเหน่ง รัดเกล้า ได้เดินเข้ามาหาเบน พร้อมกับบอกว่าอยากจะมีโอกาสร้องเพลงคู่กับเบนซักครั้ง!! หรือจะเป็นพี่ปู พงษ์สิทธิ์ ศิลปินที่เป็นต้นแบบในการร้องเพลงของเบน ชลาทิศ และแน่นอนว่าต้องมีคนอีกหนึ่งกลุ่มที่เบน จะไม่เชิญมาไม่ได้นั่นก็คือ B5 นั่นเองครับ
ทุกๆ วินาที ที่แขกรับเชิญอยู่บนเวทีกับเบน เบนจะพยายามจับมือแขกรับเชิญไว้ตลอด พูดขอบคุณทุกครั้งที่มีโอกาส กอดเมื่อมีโอกาสทำได้ และตั้งใจฟังอย่างเคารพมากเมื่อแขกรับเชิญท่านเหล่านั้นพูดอะไร มันเป็นภาพที่น่ารักมากๆ ครับ
3 ชั่วโมงกว่าๆ ของคอนเสิร์ตนี้ เบน ชลาทิศ ทำให้ผมและคนดูทั้งอิมแพ็ค อารีน่ารับรู้ได้จริงๆ ครับว่าเบนตั้งใจและทุ่มเทกับคอนเสิร์ตครั้งนี้แค่ไหน มีความสุขกับมันส์แค่ไหน เบนหัวเราะ ยิ้ม แทบจะตลอดเวลา และเพลงสุดท้ายที่เบนร้อง เพลงที่เบนเล่าให้ฟังว่ามันเป็นเพลงความลับเมื่อ 10 ปีก่อนระหว่างเบนกับพี่บอย โกสิยพงษ์ว่าเบนจะขอเก็บเพลงนี้ไว้ก่อน เบนจะยังไม่ร้อง เบนจะร้องเพลงนี้ก็ต่อเมื่อเบนมีคอนเสิร์ตเดี่ยวเป็นของตัวเอง เพื่อเป็นการขอบคุณแฟนๆ ที่รักเบน “เพลงจากคนผิดหวัง”
…………..
……..
….
….
ใครจะเชื่อครับว่าเพลงนี้ เพลงที่ผมไม่เคยได้ยินมาก่อนในชีวิต เพลงที่ผู้ชายคนนึงที่ยืนอยู่บนเวทีของอิมแพ็ค อารีน่า เพลงที่เค้าร้องเพลงด้วยปากเปล่าสดๆ โดยที่ไม่ใช้ไมค์!! จะดังก้องกังวานและส่งอารมณ์มาถึงผมกับแฟนที่นั่งอยู่แถวหลังสุดของฮอลล์ ขอย้ำครับว่าแถวหลังสุดจริงๆ ครับ
เพลงนี้ทำให้ผมน้ำตาซึม เพลงนี้ ทำให้คนกว่าครึ่งฮอลล์ยืนขึ้นปรบมือให้ เพลงนี้ทำให้ผมไม่เสียดายเงินแม้แต่บาทเดียวจริงๆ เพลงนี้ทำให้ของขวัญวันเกิดภรรยาผมปีนี้มันเลอค่ามากครับ
สองปีก่อนตอนที่คุณเปิดปากบอกสาธารณะชนในสิ่งที่คุณเป็น ผมเคยเขียนบทความนึงถึงคุณมาก่อน
มาวันนี้คุณได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่ามันคือความจริง
You are the real singer in my mind whatever you will be in real world
และคุณเกิดมาเพื่อเป็นนักร้องจริงๆ You born to be!!
ขอบคุณมากๆ ครับ ขอบคุณสำหรับทุกๆ สิ่งที่คุณตั้งใจทำให้คนดูทุกคนจริงๆ ขอบคุณมาก ขอบคุณสำหรับของขวัญวันเกิดภรรยาผมที่ล้ำค่ามาก ขอบคุณที่ทำให้ผมมั่นใจว่าผมเลือกมอบของชิ้นนี้ให้เธอไม่ผิดจริงๆ
หากเป็นไปได้ผมอยากจะขออะไรซัก 2-3 อย่างจากพี่เบน ชลาทิศครับ นั่นคือ ดูแลสุขภาพตัวเองเยอะๆ เพื่อที่จะได้ร้องเพลงเพราะๆ ให้ทุกคนได้ฟังไปนานๆ และขอเถอะครับช่วยออกแผ่นบันทึกการแสดงสดครั้งนี้เถอะครับ ผมอยากให้ทุกๆ คนที่พลาดโอกาสไปได้ดูคอนเสิร์ตดีๆ แบบนี้ ได้ฟังเพลงที่เพราะมากๆๆ ได้เห็นภาพเจนนิเฟอร์ คิ้ม หลุดๆ ได้เห็นภาพคิว โต๋ มาเรียม เค้ก เต้นฮาๆ น่ารักๆ ในเพลง อ้วน ผ้าเช็ดหน้า แน่นอก และขอใจเธอแลกเบอร์โทร
ขอเถอะครับ ผมอยากฟังเพลง “สุดใจ” อีกรอบ มันเพราะมากๆๆๆๆๆ จริงๆ ครับ
ด้วยสัญญาของลูกผู้ชาย ถ้ามีแผ่นบันทึกการแสดงสดครั้งนี้ออกมาจริง คนที่ไม่เคยซื้อแผ่นประเภทนี้มาก่อนอย่างผมก็จะซื้อมันมาเก็บไว้อย่างไม่ลังเลครับ!!
เขียน ณ วันที่ 7 ตุลาคม 2556
หมายเหตุ : ภาพทั้งหมดที่ประกอบในบทความนี้ ผม save มาจาก internet นะครับ ไม่ได้เป็นคนถ่ายเอง และเพื่อให้บทความนี้อ่านแล้วเกิดความต่อเนื่อง ในเนื้อความผมจึงขออนุญาตใช้คำว่าเบน ชลาทิศ โดยตัดคำว่าพี่ออกไปนะครับ