The Shore at Katathani กับราคาพิเศษสุดว้าว “เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 4”

The Shore at Katathani (เดอะ ชอร์ แอท กะตะธานี) นี่คือชื่อของรีสอร์ทที่ผมกับต๋งประทับใจมากเป็นลำดับต้นๆ ในประเทศไทยเลยครับ และมันเป็นรีสอร์ทที่ผมบอกเลยว่าเหมาะกับคู่รักทุกเพศทุกวัยมาก ใครที่กำลังมองหารีสอร์ทดีๆ เพื่อเติมความหวานให้กับชีวิตคู่อยู่ จองเข้าไปพักที่นี่ได้เลยไม่มีผิดหวังแน่นอนครับ!! โดยเฉพาะใครที่มีสิทธิ์ของโครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 4 อยู่ เพราะราคาของห้องพักในโครงการนี้จะลดเหลือคืนละ 5,999 บาทเท่านั้น ซึ่งถือว่าน่าสนใจมากๆ เลยล่ะครับ

ภาพรวมและข้อมูลต่างๆ ที่ควรทราบ

1. นี่เป็นรีสอร์ทหรูระดับ 6 ดาว ดังนั้นทุกคนที่เข้าพักจะได้รับการบริการที่ดี เหนือกว่าโรงแรมอื่นทั่วไปที่เคยสัมผัสมาอย่างแน่นอน ที่สำคัญพนักงานของที่นี่ทุกคนยิ้มแย้มแจ่มใสพร้อมบริการอย่างเต็มที่มากๆ ครับ
2. ห้องพักของที่นี่จะเป็นห้องแบบ Pool Villa ทั้งหมด และมีขนาดที่กว้างมากๆ โดยขนาดห้องพักที่เล็กที่สุดนั้นมีความกว้างถึง 130 ตร.ม. อีกทั้งยังมีสระว่ายน้ำส่วนตัวขนาดใหญ่ภายในพื้นที่อีกด้วย ส่วนห้องประเภทที่กว้างที่สุดนั้นจะมีพื้นที่มากถึง 260 ตร.ม. เลยครับ บอกเลยว่าใหญ่สุดๆ!!
3. ห้องของที่นี่จะมีเพียง 98 ห้องเท่านั้น และแต่ละห้องจะอยู่ห่างกันพอสมควร แยกเป็นวิลล่าหลังใครหลังมันชัดเจน ดังนั้นคุณจะได้พักผ่อนอย่างเป็นส่วนตัวมากๆ ครับ
4. ลักษณะพื้นที่ของ The Shore at Katathani นั้น จะมีลักษณะคล้ายกับภูเขาเล็กๆ และมีเส้นทางขึ้นลงเนินมากมาย ดังนั้นเพื่อความสะดวกสบายของผู้ที่เข้าพักทุกท่าน เค้าจึงมีรถบัคกี้คอยบริการภายในรีสอร์ทตลอด 24 ชม. ไม่ว่าเราจะอยากไปไหนเมื่อไหร่ เพียงแค่กดโทรศัพท์ไปแจ้งเค้า เดี๋ยวจะมีรถบัคกี้พร้อมคนขับมาบริการเราถึงที่ทันทีเลยครับ บอกเลยว่ารวดเร็วและพนักงานบริการดีมากๆ ครับ
5. ภายในรีสอร์ทแห่งนี้จะมีสถานที่นึงที่ผมคิดว่ามันคือสิ่งไฮไลท์ที่สุดที่ห้ามพลาดเลยครับ สิ่งนี้มีชื่อว่า “The Kissing Point” หรือพื้นที่ชมวิวบริเวณหน้าผาที่มีพื้นด้านล่างทำจากกระจกใสที่มีความแข็งแรงครับ โดยที่จุดนี้ถือเป็นจุดชมวิวที่มีความสวยงามมากๆ โดยเฉพาะช่วงที่พระอาทิตย์กำลังตก นอกจากนี้สำหรับคู่รักที่ต้องการช่วงเวลาแห่งความประทับใจถึงขีดสุด ทางรีสอร์ทเค้ายังสามารถเนรมิตพื้นที่ตรงนี้เป็น Private Dinner ที่คุณและคนรักของคุณจะได้ทานอาหารอร่อยๆ ภายใต้บรรยากาศที่แสนจะโรแมนติค โดยมีเชฟฝีมือดีคอยดูแลอย่างใกล้ชิดด้วยครับ ใครที่สนใจก็สามารถติดต่อทางรีสอร์ทได้เลย และผมแนะนำให้จองล่วงหน้านะ เพราะเค้าจะรับแค่วันละ 1 คู่เท่านั้น อีกทั้งมันยังต้องมีการเตรียมการต่างๆ ล่วงหน้าด้วยครับ
6. อาหารเช้าของที่นี่อร่อยและมีคุณภาพที่ดีมากๆ อีกทั้งเรายังสามารถขอให้เชฟทำอาหารตามสั่งบางอย่างให้เราทานได้ด้วย เท่านั้นยังไม่พอสำหรับคนที่ไม่อยากจะออกมาทานอาหารเช้าที่ห้องอาหาร เราก็สามารถให้ทางรีสอร์ทนำอาหารเช้าไปเสิร์ฟที่ห้องได้ รวมไปถึงการทำเป็น Floating Breakfast ทานอาหารในสระว่ายน้ำส่วนตัวในห้องเราแบบเก๋ๆ ครับ ใครสนใจแบบไหนก็สามารถแจ้งพนักงานได้เลย แต่ว่ากรณีที่เป็น Floating Breakfast นั้น มันจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเล็กน้อยนะครับ
7. รีสอร์ทแห่งนี้ไม่รับเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปีเข้าพักทุกกรณีนะครับ แม้กระทั่งเด็กอ่อนอายุไม่เกิน 1 ปีก็ไม่มีข้อยกเว้นครับ

ที่ตั้งของรีสอร์ท

The Shore at Katathani ตั้งอยู่บนหาดกะตะน้อย จ.ภูเก็ต ห่างจากสนามบินภูเก็ตประมาณ 50 กิโลเมตร หรือใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงครับ ภายในรีสอร์ทแห่งนี้จะประกอบไปด้วย Pool Villa ทั้งหมด 98 หลัง แต่ละหลังตั้งอยู่บนเนินเขาขนาดเล็กไล่เลียงกันไปอย่างมีชั้นเชิง โดยมีธรรมชาติที่สวยงามและทะเลที่กว้างสุดลูกหูลูกตาล้อมรอบ ที่สำคัญที่สุดเมื่อคุณก้าวเข้ามาภายในรีสอร์ทแห่งนี้ คุณจะได้รับความเป็นส่วนตัวและได้ใช้เวลาพักผ่อนอย่างเต็มที่ โดยมีการบริการที่เหนือระดับของพนักงานคอยดูแลตลอด 24 ชั่วโมงครับ

Google Map : https://goo.gl/maps/m2UBZNgmLkwphFV79

Reception & Welcome Drink

หลังจากที่เราเดินทางมาถึงรีสอร์ทแล้ว สิ่งที่เราจะได้เห็นเป็นอย่างแรกก็คือบริเวณ Reception ครับ โดย Reception ของ The Shore at Katathani นั้นจะมีลักษณะสูงโปร่ง ตกแต่งในโทนสีสบายตา เห็นแล้วรู้สึกผ่อนคลายให้ความรู้สึกของการพักผ่อนครับ ส่วน Welcome Drink ของที่นี่ก็ไม่ธรรมดานะ เพราะเค้าจัดเสิร์ฟเป็นน้ำสมุนไพรคู่กับ “ขนมบี้พ้าง” ขนมข้าวพองพื้นเมืองของภูเก็ตครับ ตัวแพคเกจของขนมนั้นน่ารักและดูดีมากๆ อีกทั้งยังมีเรื่องราวอธิบายด้วยว่าทำไมทางรีสอร์ทถึงเลือกใช้ขนมนี้มาเสิร์ฟต้อนรับเราครับ

และพอเราทาน Welcome Drink อะไรเรียบร้อยแล้ว ทางพนักงานก็จะเข้ามาอธิบายข้อมูลพื้นฐานภายในรีสอร์ทให้เราทราบว่ามีอะไรที่น่าสนใจบ้าง รวมทั้งแจ้งให้เราทราบว่าในกระเป๋า Key Card ที่เราได้รับมานั้นจะมีแผนที่และสถานที่ที่น่าสนใจภายในรีสอร์ทระบุเอาไว้ครบถ้วนเลย ใครสนใจอยากจะไปที่ไหนเป็นพิเศษก็ลองเปิดอ่านดูนะครับ ^^

ประเภทห้องพักและรายละเอียดภายในห้อง

สำหรับประเภทห้องของ The Shore at Katathani นั้น จะมีทั้งหมด 6 Type นะครับ ทุก Type จะเป็น Pool Villa ที่มีความเป็นส่วนตัวทั้งหมด รวมทั้งมีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ภายในพื้นที่ด้วย โดยห้องพักทั้ง 6 Type ของเค้าจะมีชื่อและรายละเอียดดังนี้ครับ

1. Pool Villa จำนวน 11 หลัง (ขนาดพื้นที่ 130 ตร.ม. ขนาดสระว่ายน้ำส่วนตัว 5.5×3.4 เมตร) Type นี้คือพูลวิลล่าส่วนตัวพร้อมสระว่ายน้ำที่อยู่ท่ามกลางบรรยากาศสวนสีเขียวชอุ่ม ขนาดห้องกว้างขวางทั้งในส่วนของห้องนอน, ห้องนั่งเล่น, ห้องรับประทานอาหาร รวมไปถึงห้องน้ำ โดยรวมต้องบอกว่านี่เป็นวิลล่าที่มีขนาดกว้างขวางมาก อีกทั้งยังมีความเป็นส่วนตัวสูงด้วยครับ

2. Partial Seaview Pool Villa จำนวน 5 หลัง (ขนาดพื้นที่ 130 ตร.ม. ขนาดสระว่ายน้ำส่วนตัว 5.5×3.4 เมตร) นี่คือ Pool Villa ขนาดใหญ่ ที่สามารถมองเห็นวิวทะเลได้ เพียงแต่วิวทะเลที่เห็นนั้นอาจจะไม่ได้เต็มตาซักเท่าไหร่นะครับ ภายใน Pool Villa ประเภทนี้จะมีการผสมผสานความมีระดับและพื้นที่กว้างขวางอันมีเอกลักษณ์ไว้ได้อย่างลงตัว รวมทั้งยังมีเก้าอี้อาบแดดและอ่างอาบน้ำพร้อมฝักบัวแบบ Rain Shower ด้วยครับ

3. Seaview Pool Villa จำนวน 26 หลัง (ขนาดพื้นที่ 130 ตร.ม. ขนาดสระว่ายน้ำส่วนตัว 5.5×3.4 เมตร) พูลวิลล่า Type นี้ ก็จะคล้ายๆ กับ Partial Seaview Pool Villa เลยครับ เพียงแต่พูลวิลล่าประเภทนี้จะสามารถมองเห็นวิวทะเลได้อย่างเต็มตาและสวยงามมากขึ้น อีกทั้งเรายังสามารถมองเห็นท้องทะเลอันสดใสได้จากด้านในห้องเลยครับ

4. Seaview Pool Villa Romance จำนวน 37 หลัง (ขนาดพื้นที่ 130 ตร.ม. ขนาดสระว่ายน้ำส่วนตัว 6.8×3.5 เมตร) พูลวิลล่าสุดหรูที่นอกจากจะเห็นวิวทะเลสวยๆ ได้อย่างเต็มตาแล้ว ยังมีการเพิ่มความโรแมนติคสุดพิเศษเข้าไปอีกมากมายทั้งพื้นที่ระเบียงอาบแดดที่กว้างขึ้น, ขนาดของสระที่กว้างขึ้น, รูปแบบของห้องน้ำและเลย์เอาท์ภายในห้องที่เปลี่ยนไปจาก 3 แบบที่ผ่านมา ผมบอกเลยว่าทั้งหมดนี้มันจะทำให้คู่รักทุกคู่ประทับใจเพิ่มขึ้นไปอีกระดับอย่างแน่นอนครับ

5. Seaview Pool Villa In Love จำนวน 14 หลัง (ขนาดพื้นที่ 130 ตร.ม. ขนาดสระว่ายน้ำส่วนตัว 6.8×3.5 เมตร) ที่สุดของห้องที่ทุกคู่รักจะต้องตกหลุมรัก ด้วยบรรยากาศและมุมมองที่สามารถเห็นวิวทะเลสวยๆ แบบพาโนราม่าได้อย่างเต็มตา และไม่มีอะไรมาบดบังเลย บอกเลยว่าใครเห็นก็ต้องอินเลิฟครับ

6. Two-Bedroom Pool Villa จำนวน 5 หลัง (ขนาดพื้นที่ 260 ตร.ม. ขนาดสระว่ายน้ำส่วนตัว 5.5×8.5 เมตร) พูลวิลล่าแบบสองชั้นสองห้องนอนที่มาพร้อมกับพื้นที่กว้างขวางและความเป็นส่วนตัวสุดๆ โดยชั้นบนของวิลล่าจะประกอบไปด้วยห้องนอนใหญ่ที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของภูเขาและท้องทะเลที่สวยงาม ส่วนชั้นล่างจะประกอบไปด้วยห้องนั่งเล่น, ห้องรับประทานอาหารที่แยกเป็นสัดส่วน อีกทั้งยังมีห้องนอนเล็กและสระว่ายน้ำส่วนตัวพร้อมกับบริเวณสําหรับอาบแดดด้วย โดยวิลล่าแห่งนี้จะสามารถรองรับผู้เข้าพักได้สูงสุดถึงสี่ท่านนะครับ

ห้องประเภท Seaview Pool Villa Romance

สำหรับตัวผมเองนั้นได้มีโอกาสเข้าพักที่ The Shore at Katathani มา 2 ครั้งแล้ว และทั้ง 2 ครั้งนั้นผมก็เข้าพักที่ห้องประเภท “Seaview Pool Villa Romance” ทั้งหมด ดังนั้นเพื่อให้รีวิวนี้มีความสมบูรณ์ที่สุด ผมก็จะขอนำภาพถ่ายของทั้ง 2 ครั้งนั้นมารวมไว้ในรีวิวนี้เลยนะครับ อ่านไปๆ ไม่ต้องแปลกใจไปนะว่าทำไมหน้าตา, ชุด หรือทรงผมของต๋งในหลายๆ รูปถึงแตกต่างกันเยอะครับ ^^

ภาพรวมของห้อง Seaview Pool Villa Romance นั้นก็คือพูลวิลล่าที่มีขนาดใหญ่มาก เตียงนอนนุ่มสบายสุดๆ จนผมเรียกว่าเตียงดูดวิญญาณเลยครับ ส่วนบริเวณห้องน้ำนั้นก็กว้างมาก มีทั้งฝักบัวสายฝนแบบคู่, อ่างล้างหน้าแบบคู่ , อ่างอาบน้ำ จนไปถึงประตูใสที่สามารถมองเห็นวิวภายนอกได้แบบชัดๆ หรือใครจะเดินออกไปที่ระเบียงจากทางห้องน้ำเลยก็ได้ ส่วนสระว่ายน้ำส่วนตัวนั้นก็กว้างสุดๆ มีระเบียงและเก้าอี้สำหรับอาบแดดให้พร้อม ที่สำคัญวิวทะเลที่เราสามารถมองเห็นได้นั้นมันสวยงามมากๆ ครับ

นี่เป็นหน้าตาด้านนอกของห้องหรือวิลล่าที่เราพักนะครับ ดูแบบนี้หลายคนอาจจะรู้สึกว่ามันเฉยๆ ไม่ค่อยสวยงามหรือดูไม่โดดเด่นซักเท่าไหร่เนอะ

แต่นี่พอเปิดเข้าไปด้านในห้องแล้วต้องบอกว่าตะลึงเลยครับ ห้องใหญ่มาก เลย์เอาท์สวย การจัดวางและการตกแต่งต่างๆ ดีมาก ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ก็ครบครันเลยครับ

ภาพนี้เป็นส่วนห้องนอนและห้องนั่งเล่นนะครับ ผมบอกเลยว่าเตียงและหมอนของเค้านั้นดีมากๆ ผมนี่นอนหลับสนิทหลับสบายทุกคืนเลย ส่วนโซฟาและพื้นที่นั่งเล่นนั้นก็มีถึง 2 ที่เลยครับ คือบริเวณด้านข้างห้อง กับบริเวณปลายเตียง เราสามารถนั่งและนอนเล่นที่ทั้ง 2 จุดนี้ได้อย่างสบายๆ ครับ

ส่วนนี่เป็นบริเวณห้องน้ำครับ กว้างสุดๆ มีทั้งอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ที่สามารถลงไปนอนแช่ 2 คนได้สบายๆ, อ่างล่างหน้า 2 อ่าง, ฝักบัวแบบสายฝนที่ติดตั้งเป็นคู่ พร้อม Shower Box ขนาดใหญ่ อีกทั้งยังมีห้องสุขาที่มีประตูปิดมิดชิดแยกออกไปต่างหากครับ

ส่วนในเรื่องของประตูห้องน้ำนั้น มันจะเป็นประตูแบบบานใหญ่ 4 ประตู โดยหากใครที่รู้สึกเขิน ไม่ชิน ก็สามารถปิดมันไว้ได้ครับ และเลือกเปิดเป็นบานๆ เวลาที่ต้องการจะใช้เท่านั้น แต่ส่วนตัวแล้วผมคิดว่าการเปิดกว้างทิ้งไว้ทั้ง 4 บานตลอดเวลาเลยคือสิ่งที่น่าจะดีกว่าครับ เพราะเราจะสามารถใช้งานได้สะดวกสบาย, ห้องดูกว้างขวางมากขึ้น และมันช่วยสร้างสีสันความโรแมนติคได้ดีเลยครับ

ทั้งนี้ในส่วนของห้องนอนและห้องน้ำนั้น มันจะมีประตูที่สามารถเปิดออกไปยังระเบียงส่วนตัวที่มีสระว่ายน้ำอยู่ได้ทั้งคู่เลยนะ ใครอยากเดินออกไปตอนไหนหรือช่องทางไหนก็ออกไปได้เลย หรือถ้าไม่อยากออกเราก็แค่เลื่อนม่านแล้วนอนดูวิวจากภายในห้องเราก็ได้ครับ เห็นแล้วสวยงามสบายตาดี

นี่เป็นหน้าตาของระเบียงและสระว่ายน้ำส่วนตัวภายในห้องครับ กว้างขวางและเป็นส่วนตัวมากๆ โดยจุดที่ผมประทับใจเป็นพิเศษก็คือสระว่ายน้ำนี้จะมีระบบควบคุมอุณภูมิให้เหมาะสมด้วย เราไม่ต้องกลัวว่ามันจะหนาวหรือร้อนไปเลย สามารถลงไปแช่ได้ทุกเวลา นอกจากนี้เค้ายังมีเก้าอี้อาบแดดไว้ให้เรานอนเล่นเก๋ๆ อีก 2 ตัวด้วยครับ

ส่วนนี่เป็นลักษณะวิวที่เราจะได้เห็นจากห้องประเภทนี้ครับ โดยแต่ละห้องอาจจะเห็นวิวที่แตกต่างกันได้นะครับ บางห้องอาจจะเห็นวิวทะเลได้เต็มตาเลย แต่บางห้องก็อาจจะเห็นวิลล่าหลังอื่นเข้ามาอยู่ในเฟรมบ้างครับ

ตัดกลับมาดูสิ่งอำนวยความสะดวกภายในห้องกันซักครู่ครับ เค้ามีให้ครบครันมากทั้งโทรทัศน์, Wifi, ตู้เย็น, ตู้เซฟ, โต๊ะแต่งหน้า, ไดร์เป่าผม, ร่ม, รองเท้า, กระเป๋าใส่ของขนาดใหญ่, เตารีดและโต๊ะรองรีด, เสื้อคลุมอาบน้ำ, รองเท้าแตะ และที่ผมชอบมากๆ ก็คือเค้าจะมีการติดตั้งปลั๊กไฟภายในห้องเป็นแบบ International ที่สามารถรองรับปลั๊กได้หลายรูปแบบ รวมทั้งยังมีพอร์ทแบบ USB ด้วย บอกเลยครับว่าหมดปัญหาเรื่องการเสียบชาร์จไม่ได้อย่างแน่นอน!!

สำหรับส่วนของมินิบาร์และเครื่องดื่มเค้าจะมีน้ำเปล่าให้เราทานฟรีวันละ 6 ขวด รวมทั้งมีพวกชากาแฟบริการฟรีด้วย โดยกาแฟนั้นจะเป็นแบบแคปซูลครับ แต่ทั้งนี้ในส่วนของเครื่องดื่มประเภทอื่นๆ ที่อยู่ภายในตู้เย็น รวมไปถึงขนมขบเคี้ยวต่างๆ นั้น พวกนี้จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมนะ

ผมให้ดูบรรยากาศภายในห้องนี้เพิ่มเติมนะครับ โดยเฉพาะในส่วนของบริเวณสระส่วนตัวและเก้าอี้อาบแดดบริเวณระเบียง ผมว่ามันเป็นจุดนึงที่เราจะได้ผ่อนคลายและใช้ชีวิตอย่างเป็นส่วนตัวกับคนที่เรารักได้ดีมากๆ ครับ อย่างเช่นใครจะเอาชุดเงือกมาใส่ถ่ายเล่นแบบนี้ก็ได้ ไม่ต้องแคร์สายตาหรือกังวลว่าคนอื่นจะมองยังไงเลยครับ

หรือถ้าใครอยากจะทานเป็น Floating Breakfast เก๋ๆ แค่ 2 คนแบบนี้ก็ได้ครับ สามารถแจ้งพนักงานได้เลย แต่ว่าจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมนะ

ส่วนนี่คือหนึ่งในช่วงเวลาที่แสนประทับใจที่สุดและผมไม่อยากให้ทุกคนพลาดเลยครับ ช่วงเวลาที่พระอาทิตย์กำลังลาลับของฟ้า บรรยากาศที่ระเบียงส่วนตัวในห้องเราช่วงนี้จะดีมากๆ ยังไงก็อย่าเที่ยวเล่นด้านนอกรีสอร์ทจนลืมที่จะมาใช้เวลาช่วงนี้ที่ห้องด้วยกันกับคนที่คุณรักนะ รับรองว่ามันจะเป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่คุณจะรู้สึกประทับใจอย่างแน่นอนครับ

โดยภาพรวมแล้วผมรู้สึกประทับใจการเข้าพักในห้องประเภทนี้มากๆ ครับ และผมขอแนะนำว่าใครที่กำลังมองหารีสอร์ทแบบพูลวิลล่าที่มีความเป็นส่วนตัวสูง วิวสวย พนักงานบริการดี ห้องกว้างๆ และมีบรรยากาศรอบตัวที่ช่วยเสริมสร้างความโรแมนติคอยู่ ห้องประเภท Seaview Pool Villa Romance ของ The Shore at Katathani คือหนึ่งในห้องที่คุณควรจะต้องเลือกหยิบมาพิจารณาเป็นลำดับต้นๆ เลยครับ

ส่วนถ้าใครอยากจะดูหน้าตาของห้องประเภทอื่นๆ ของ The Shore at Katathani ก็สามารถกดที่นี่ได้เลยครับ ในเวบไซต์เค้ามีรายละเอียดบอกไว้ครบเลย

ห้องอาหารและไลน์อาหารเช้า

ดูเรื่องห้องพักเสร็จแล้วเรามาดูในส่วนของห้องอาหารซึ่งเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่สำคัญมากๆ ในการเข้าพักรีสอร์ทแต่ละที่ดีกว่าครับ โดยที่ The Shore at Katathani นั้น จะมีห้องอาหารหลักๆ 2 ห้อง ได้แก่ ห้องอาหาร The Harbor ที่เป็น All Day Dining แล้วก็ห้องอาหารปรัมปรา (Param Para) ซึ่งเป็นห้องอาหารที่เปิดบริการเฉพาะช่วงเย็นเท่านั้นครับ

ห้องอาหาร The Harbor

ห้องอาหารนี้คือห้องอาหารหลักของทาง The Shore at Katathani เลยครับ เพราะเป็นห้องอาหารที่เปิดบริการตลอดทั้งวัน รวมทั้งยังมีอาหารบริการหลากหลายรูปแบบมาก ใครอยากทานแบบไหนเค้ามีให้เลือกทานเกือบหมด และนี่คือตัวอย่างอาหารที่ผมได้มีโอกาสลองทานมาครับ

โดยพื้นที่ของห้องอาหารนี้จะมีทั้งส่วน Indoor และ Outdoor นะครับ และยังเป็นห้องอาหารที่ใช้รับประทานอาหารเช้าของทุกคนที่เข้าพักด้วย แต่ในส่วนของรายละเอียดอาหารเช้านั้นเดี๋ยวผมจะเขียนแยกไปอีกหัวข้อนะ ทุกคนจะได้เห็นภาพและอ่านรายละเอียดกันแบบเต็มๆ ครับ

ทั้งนี้ในช่วงเวลา 15.00 น. – 17.00 น. ของทุกวันนั้น ทางห้องอาหาร The Harbor เค้าจะมีบริการ Afternoon Tea ด้วยนะ ใครอยากทานก็สามารถแวะมาใช้บริการได้เลย รสชาติของขนมกับเครื่องดื่มต่างๆ นั้นดีเลยครับ นั่งทานไปชมวิวทะเลไป ชิลมากๆ

ห้องอาหารปรัมปรา (Param Para)

นี่คือห้องอาหารไทยที่ผมอยากให้ทุกคนเข้ามาสัมผัสซักครั้งครับ เพราะทั้งหน้าตาอาหาร, ชื่อเมนู รวมถึงรสชาติ มันคือสิ่งที่ผมไม่เคยเจอที่ไหนมาก่อน มันเยี่ยมยอดมากๆ ครับ โดยทุกเมนูอาหารของเค้าจะมีเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับนิทานชาดก, ป่าหิมพานต์หรือรามเกียรติ์ทั้งหมด เช่น ป่าหิมพานต์, สระอโนดาด, พรานล่อเนื้อ, ปีกหางนางมโนราห์, กวนเกษียรสมุทร, เกล็ดนิลมังกร, กามนิต-วาสิฏฐี, กุมภวรรณทดน้ำ, รจนาเลือกคู่, สีดาลุยไฟ, เมฆาป่าหิมพานต์ เป็นต้น

ใครที่อยากรู้ว่าอาหารเหล่านี้จะรสชาติเป็นยังไง และหน้าตาอาหารของจริงจะสวยแค่ไหนก็ต้องลองแวะไปทานซักครั้งครับ โดยในการเสิร์ฟอาหารแต่ละจาน ทางพนักงานของห้องอาหารเค้าจะมีการเล่าที่มาหรือแนวคิดของจานนั้นๆ ให้เราฟังก่อนด้วย พอฟังเสร็จเราก็ค่อยเริ่มลงมือทานครับ

หมายเหตุ : ห้องอาหารแห่งนี้จะเปิดบริการเฉพาะตอนกลางคืนเท่านั้น และผมแนะนำให้ทำการจองล่วงหน้าก่อนนะครับ

ไลน์อาหารเช้า

ในส่วนของไลน์อาหารเช้านั้น เค้าจะให้บริการที่ห้องอาหาร The Harbor นะครับ โดยจะเริ่มบริการตั้งแต่ 6.00 น. – 11.00 น. เรียกว่าเปิดให้บริการยาวมากๆ ใครที่ทานสายๆ หน่อยน่าจะสามารถอิ่มควบ 2 มื้อ เช้ากับเที่ยงได้สบายๆ ครับ

นี่เป็นลักษณะที่นั่งของห้องอาหารครับ จะมีทั้งแบบ Indoor และ Outdoor โดยในช่วงไม่เกิน 9.00 น. นั้น ผมว่าการนั่งทาน Outdoor ถือเป็นตัวเลือกที่ดีเลยครับ บรรยากาศดี วิวสวย ได้เห็นทะเลเต็มๆ ตา แต่ทั้งนี้ก็อาจจะต้องระวังเรื่องนกแอบมาขโมยกินอาหารบนโต๊ะเราในบางจังหวะด้วยนะครับ ><

ในเรื่องของคุณภาพอาหารและปริมาณอาหารเช้าของที่นี้นั้นผมถือว่าดีงามมากๆ ครับ มีให้เลือกทานหลายอย่าง และแต่ละอย่างคุณภาพดีทั้งนั้น แถมเท่าที่ผมทราบมาในแต่ละวันนั้นทางเชฟเค้าจะมีการเปลี่ยนเมนูไปเรื่อยๆ ด้วยครับ โดยเฉพาะพวกเมนูพิเศษประจำวัน เพื่อให้คนที่เข้ามาพักนานๆ ไม่รู้สึกเบื่อและได้ลองทานอะไรใหม่ๆ เท่านั้นยังไม่พอนอกจากอาหารในไลน์ที่เราเห็นกันแล้ว เรายังสามารถสั่งอาหารประเภทต่างๆ เพิ่มเองได้ด้วย เช่น ราดหน้า, กะเพรา เป็นต้น ใครที่อยากจะทานพวกนี้เพิ่มเติมก็สามารถแจ้งพนักงานเค้าได้เลยครับ

และแน่นอนครับว่าขนาดอาหารยังจัดเต็มและสามารถสั่งเพิ่มได้แบบนี้ ดังนั้นในส่วนของเครื่องดื่มเค้าก็ไม่ยอมน้อยหน้าครับ โดยนอกจากเครื่องดื่มประเภทน้ำผลไม้ที่เราจะสามารถหยิบทานได้เองจากในไลน์แล้ว เค้ายังมีเครื่องดื่มอื่นๆ ให้เราสั่งเพิ่มเติมได้อีกเพียบ ไม่ว่าจะเป็นชามะนาว, ชาเย็น หรือกาแฟประเภทต่างๆ ใครสนใจเมนูไหนก็ลองสอบถามทางพนักงานได้เลยครับ สามารถสั่งได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ เพิ่มเติมครับ

สรุปสั้นๆ เกี่ยวกับอาหารเช้าของที่นี่นะครับ ดีงาม หลากหลาย อร่อย และคุ้มค่าแก่การตื่นมาทานครับ ส่วนถ้าใครไม่อยากจะออกมาทานที่ห้องอาหารซักเท่าไหร่ อยากจะอยู่ที่ห้องยาวๆ นอนไปทานไป พร้อมชมวิวที่ห้องเพลินๆ ก็สามารถสั่งเป็น Breakfast in room หรือ Floating Breakfast ได้ครับ โดยในส่วนของ Breakfast in room ที่เค้าจะนำอาหารแบบปกติไปเสิร์ฟให้เราถึงห้องนั้นจะไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ แต่ในส่วนของ Floating Breakfast ที่ต้องเป็นการเสิร์ฟแบบลอยน้ำนั้นอันนี้จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมนิดนึงนะครับ

จุดที่น่าสนใจอื่นๆ และ Facilities ต่างๆ ภายในรีสอร์ท

ภายใน The Shore at Katathani นั้นจะมีจุดที่น่าสนใจและ Facilities ต่างๆ ที่เราไม่ควรพลาดอยู่มากมายเลยครับ และนี่คือไฮไลท์ที่ผมคัดมาให้ทุกคนดูแบบเน้นๆ แล้ว ยังไงก็ลองไล่ๆ อ่านกันดูนะ เวลาที่เข้าไปพักจะได้ไม่พลาดกันครับ ^^

The Kissing Point

จุดนี้คือสุดยอดไฮไลท์ที่ทุกคนไม่ควรพลาดเลยครับ โดยที่ The Kissing Point นี้จะเป็นจุดชมวิวบนผาริมทะเลที่ทางรีสอร์ทเค้าสร้างเอาไว้ให้เราชมวิวสวยๆ โดยพื้นที่ที่เรายืนอยู่นั้นมันจะเป็นกระจกใสที่เราสามารถมองเห็นทะเลด้านล่างได้อย่างชัดเจนเลยครับ ที่สำคัญในช่วงเย็นๆ เราจะสามารถมองเห็นพระอาทิตย์ตกจากจุดนี้ได้อย่างสวยงามมาก บอกเลยว่าวันไหนท้องฟ้าเป็นใจนะ มันสวยมากๆ เลยล่ะครับ

และที่ The Kissing Point นี้ ทาง The Shore at Katathani ยังสามารถจัดสถานที่เพื่อเป็นที่ดินเนอร์สุดพิเศษให้กับคู่รักทุกคู่ได้ด้วยครับ โดยเค้าจะจำกัดการใช้บริการเพียงวันละ 1 คู่เท่านั้น เพื่อให้ทุกคนได้สัมผัสกับบรรยากาศสุดโรแมนติคและมีความเป็นส่วนตัวมากที่สุด โดยตลอดเวลาที่เรานั่งรับประทานอาหารที่จุดนี้ก็จะมีทางเชฟและพนักงานคอยดูแลเรื่องอาหารและเครื่องดื่มอย่างใกล้ชิดตลอดเลยครับ

ใครที่อยากจะหาสถานที่โรแมนติคสุดๆ ไว้ขอแต่งงาน หรือฉลอง Anniversary ต่างๆ บอกเลยว่าจุดนี้เหมาะมากๆ แนะนำเลยครับ!!

The Chapel

นี่คืออาคารรูปทรงโมเดิร์นสีขาวที่ตั้งอยู่บนจุดที่เกือบสูงที่สุดของรีสอร์ทแห่งนี้ครับ โดยที่นี่เป็นสถานที่ที่เค้าเปิดให้คู่รักได้มาจัดเลี้ยงหรือทำพิธีแต่งงานกัน โดยเปรียบเสมือนว่าที่นี่คือโบสถ์หรือห้องจัดเลี้ยงขนาดย่อม และต่อให้ไม่ใช่คนที่เข้าพักที่รีสอร์ทแห่งนี้ก็สามารถติดต่อขอใช้บริการในส่วนนี้ได้นะครับ เค้าจะมีการดูแลให้ครบเลยทั้งเรื่องสถานที่ รวมถึงอาหารและเครื่องดื่ม ส่วนจำนวนคนที่ผมว่าเหมาะสมในการจัดงานที่นี่ก็น่าจะประมาณ 30-40 คนกำลังดีครับ

ใครที่มีโอกาสเข้าพักที่ The Shore at Katathani แล้วอยากจะไปเยี่ยมชมที่จุดนี้ก็ลองติดต่อที่ Reception ได้นะครับ ผมว่ามันเป็นหนึ่งในจุดชมวิวที่สวยเลย แต่ทั้งนี้ในบางช่วงเวลาทางรีสอร์ทเค้าก็อาจจะไม่สะดวกให้ขึ้นไปชมนะ ^^

The Ocean Walk

เส้นทางนี้คือเส้นทางเดินริมทะเลที่คุณจะได้เห็นวิวสวยๆ พร้อมกับจุดต่างๆ ที่น่าสนใจภายในรีสอร์ทตลอดการเดินประมาณ 400 เมตร โดยคุณจะได้เดินผ่าน The Kissing Point จุดชมวิวที่แสนจะโรแมนติค, The Swing ชิงช้าสีขาวขนาดใหญ่ภายใต้ต้นไม้ที่สูงชะลูด, The Sun Terrace สถานที่ที่เอาไว้จัดกิจกรรมพิเศษต่างๆ, The Cupid’s Bridge สะพานไม้น่ารักที่เราสามารถถ่ายรูปสวยๆ ได้มากมาย และสุดท้ายจะไปสิ้นสุดที่สวนริมทะเลที่ชื่อว่า The Garden of Eden ครับ

ใครที่ได้มีโอกาสไปพักที่ The Shore at Kathatani ก็ลองหาช่วงเวลาที่แดดไม่แรงมาก เดินเล่นชมวิวในส่วนนี้ด้วยนะครับ จะได้เปลี่ยนอารมณ์จากการอยู่ในห้องด้วย ส่วนระยะเวลาการเดินเล่นในส่วนนี้ผมว่าซัก 30-45 นาทีกำลังดีครับ

สระว่ายน้ำ

นอกจากสระว่ายน้ำส่วนตัวที่มีอยู่ในวิลล่าทุกหลังแล้ว ภายใน The Shore at Kathatani ก็ยังมีสระว่ายน้ำส่วนกลางให้บริการอีก 2 สระครับ และทั้ง 2 สระนี้ก็มี Gimmick กับรูปร่างที่แตกต่างกันด้วย โดยสระแรกจะอยู่ใกล้ๆ กับห้องอาหาร The Harbor และเป็นสระลักษณะ Infinity Pool หรือสระแบบไม่มีขอบเพื่อให้ความรู้สึกเหมือนกับว่าสระนี้ไม่มีที่สิ้นสุด และเป็นส่วนหนึ่งเดียวกันกับทะเลเบื้องหน้านั่นเองครับ

โดยรอบๆ บริเวณสระนี้จะมีที่นั่งหลายแบบให้เรานั่งเล่นนอนเล่น หรือว่าทานของอร่อยๆ มากมายเลย ใครที่สนใจก็สามารถแวะมาใช้บริการได้นะ เพราะขนาดของสระตรงนี้จะใหญ่กว่าสระส่วนตัวที่ห้องเราพอควรครับ

ส่วนสระที่สองนั้นจะอยู่ห่างออกมาเล็กน้อยครับ และบรรยากาศค่อนข้างสงบกว่าสระแรกพอควร โดยลักษณะของสระนี้จะเป็นการจำลองให้มีความคล้ายกับชายหาดและทะเล มีทรายอยู่รอบๆ สระ ส่วนน้ำในสระก็เป็นน้ำที่นำมาจากทะเลเลยครับ

ใครที่อยากเล่นน้ำทะเล ได้อารมณ์เล่นชายหาด แต่ไม่อยากลงไปที่ทะเลจริงๆ ก็สามารถมาที่สระนี้ได้เลยครับ

สปา

ภายในรีสอร์ทแห่งนี้มีสปาขนาดใหญ่บริการด้วยนะครับ แต่ตัวผมนั้นยังไม่เคยได้ลองใช้บริการเลย ได้แค่แวะเข้าไปดูและถ่ายรูปเล่นเฉยๆ แต่จากที่ลองสอบถามและหาข้อมูลมา หลายต่อหลายเสียงบอกว่าสปาของที่นี่ดีมากๆ ครับ และหากใครที่สนใจอยากจะใช้บริการควรต้องจองล่วงหน้าก่อน เพราะบางวันคนก็จองเต็มตลอดทั้งวันเลยครับ

ฟิตเนส

ฟิตเนสของ The Shore at Kathatani นั้นถือว่าดีมากเลยนะครับ สถานที่โปร่ง เพดานสูง อุปกรณ์เยอะและสภาพดี ที่สำคัญเวลาที่คุณออกกำลังกายอยู่ในฟิตเนสนี้ คุณจะสามารถเห็นวิวทะเลสวยๆ เบื้องหน้าได้แบบเต็มๆ ตาเลยครับ

ห้องสมุด

ห้องสมุดนั้นจะอยู่บริเวณใกล้ๆ กับห้องอาหาร The Harbor ครับ หากใครหาไม่เจอก็สามารถสอบถามพนักงานได้เลย ขนาดของพื้นที่ห้องสมุดแม้จะไม่ใหญ่มากนัก และอาจจะไม่ได้เหมาะแก่การมานั่งชิลยาวๆ ซักเท่าไหร่ แต่หากใครสนใจหนังสือเล่มไหนก็สามารถหยิบไปอ่านที่ห้องหรือที่ต่างๆ ได้เลยครับ เค้ามีหนังสือดีๆ ให้อ่านเยอะพอควรเลย

ชายหาดและกิจกรรมทางน้ำต่างๆ

ภายในพื้นที่ของ The Shore at Kathatani นั้นจะมีทางลงไปยังชายหาดและทะเลได้โดยตรงเลยครับ และพื้นที่ชายหาดกับทะเลช่วงนี้ก็ถือว่ามีความเป็นส่วนตัวพอควรเลย ผู้คนไม่พลุกพล่านซักเท่าไหร่ ส่วนใหญ่จะมีเฉพาะผู้ที่ใช้บริการโรงแรม The Shore at Kathatani และโรงแรม Kathatani ซึ่งอยู่ข้างๆ กันเท่านั้น รวมถึงที่บริเวณทางขึ้นลงชายหาดนั้นก็ยังมีพนักงานรักษาความปลอดภัยคอยดูแลอยู่ตลอดด้วยครับ

ใครที่สนใจก็สามารถเดินลงไปเล่นได้เลยครับ ช่วงที่ผมไปมาล่าสุดชายหาดเค้าดูดีมาก ทรายนุ่ม ละเอียด แบบที่สามารถเดินด้วยเท้าเปล่าได้เลย ส่วนน้ำทะเลก็ใสมากๆ ครับ

ส่วนใครที่สนใจพวกกิจกรรมทางน้ำต่างๆ เช่น พายเรือคายัค, เซิร์ฟ ก็สามารถเดินไปใช้บริการที่โรงแรม Kathatani ซึ่งเป็นโรงแรมในเครือและอยู่ข้างๆ กันได้เลยครับ เค้ามีบริการหลายอย่างเลย อย่างรอบล่าสุดนี้ผมกับต๋งก็ลองไปพายเรือคายัคใสแจ๋วแบบนี้มาครับ สนุกสนานดีเหมือนกัน แต่ทั้งนี้พวกกิจกรรมต่างๆ เหล่านี้ มันจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มนะ

และทั้งหมดนี้ก็คือจุดเด่นๆ ที่น่าสนใจภายใน The Shore at Katathani ครับ แต่นอกเหนือจากที่ผมเล่ามานี้ภายในรีสอร์ทแห่งนี้ก็ยังมี Facilities ที่น่าสนใจอีกมากมาย เช่น จุดนอนอาบแดดและชมวิวสวยๆ, The Light House Bar บาร์ชิลๆ ที่ตกแต่งสวยงามพร้อมประภาคารอันเป็นเอกลักษณ์ รวมไปถึง The Nest Beach Club ซุ้มที่นั่งส่วนตัวรูปร่างคล้ายรังนกที่เราสามารถนอนชมวิวทะเลสวยๆ พร้อมจิบเครื่องดื่มต่างๆ ได้โดยไม่ร้อนครับ ใครที่มีเวลาก็ลองเดินสำรวจจุดต่างๆ ของเค้าดูนะครับ หลายๆ ที่ผมว่าน่าสนใจดี

โปรโมชั่นและราคาเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 4

และในที่สุดตอนนี้เราก็เดินทางมาถึงเรื่องสุดท้ายของรีวิวนี้กันแล้วครับ และน่าจะเป็นหนึ่งในเรื่องที่หลายคนสนใจมากๆ นั่นก็คือราคาที่พักของ The Shore at Katathani ในโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 4 นั่นเอง โดยรายละเอียดของราคาก็มีตามนี้เลยครับ

ช่องทางจอง : https://bit.ly/TS-TTG-TheShore (จองล่วงหน้าอย่างน้อย 7 วันก่อนเข้าพัก)

ช่วงเวลาที่เข้าพักได้ : ตั้งแต่วันนี้ – 30 พ.ค. 65

รายละเอียดอื่นๆ

• The Shore at Katathani เป็นรีสอร์ทสำหรับผู้ใหญ่ ไม่อนุญาตให้ผู้เข้าพักอายุน้อยกว่า 12 ปี เข้าพักทุกกรณี
• ห้องทุกประเภทสามารถเข้าพักได้ 2 คน ยกเว้นห้อง Two-Bedroom Pool Villa จะสามารถเข้าพักได้ 4 คน และทุกห้องรวมอาหารเช้าตามจำนวนคนเรียบร้อยแล้ว
• ราคาวิลล่ารวมภาษี ค่าบริการ และอาหารเช้าเรียบร้อยแล้ว
• ราคาข้างต้นเป็นราคาที่ต้องจ่าย 60% ตามเงื่อนไขของโครงการ (ลด 40% ที่รัฐบาลช่วยจ่ายแล้ว)
• เมื่อจองห้องพัก ชำระเงินแล้ว ไม่สามารถยกเลิกการจองได้ และสงวนสิทธิการคืนเงิน 100%
• สามารถเปลี่ยนแปลงวันเข้าพักได้ (ตามเงื่อนไขของโครงการ)
• ไม่สามารถใช้ได้กับทุกโปรโมชั่นที่จองไว้แล้ว

ราคาสำหรับการเข้าพักระหว่างวันที่ 8 ก.พ. – 28 ก.พ. 65

• ห้องประเภท Pool Villa ราคา 7,999 บาท/คืน
• ห้องประเภท Partial Seaview Pool Villa ราคา 9,999 บาท/คืน
• ห้องประเภท Seaview Pool Villa ราคา 10,999 บาท/คืน
• ห้องประเภท Seaview Pool Villa Romance ราคา 12,999 บาท/คืน
• ห้องประเภท Seaview Pool In love ราคา 13,999 บาท/คืน
• ห้องประเภท Two-Bedroom Pool Villa ราคา 19,999 บาท/คืน

พิเศษ!! สำหรับการเข้าพักในเดือน ก.พ. 65 รับของขวัญ Love Surprise เพื่อคนที่คุณรักฟรี 1 อย่าง/คืน ทันที!! (เลือกอย่างใดอย่างหนึ่งนะครับ)

1. Dessert in love 1 ชุด

2. Floating afternoon tea 1 ชุด

3. Floating sunset drink 1 ชุด

4. Romantic picnic basket 1 ชุด

5. The Love of wine 2 แก้ว

ราคาสำหรับการเข้าพักระหว่างวันที่ 1 มี.ค. – 20 เม.ย. 65

• ห้องประเภท Pool Villa ราคา 6,999 บาท/คืน
• ห้องประเภท Partial Seaview Pool Villa ราคา 8,999 บาท/คืน
• ห้องประเภท Seaview Pool Villa ราคา 9,999 บาท/คืน
• ห้องประเภท Seaview Pool Villa Romance ราคา 11,999 บาท/คืน
• ห้องประเภท Seaview Pool In love ราคา 12,999 บาท/คืน
• ห้องประเภท Two-Bedroom Pool Villa ราคา 18,999 บาท/คืน

ราคาสำหรับการเข้าพักระหว่างวันที่ 21 เม.ย. – 30 พ.ค. 65

• ห้องประเภท Pool Villa ราคา 5,999 บาท/คืน
• ห้องประเภท Partial Seaview Pool Villa ราคา 7,999 บาท/คืน
• ห้องประเภท Seaview Pool Villa ราคา 8,999 บาท/คืน
• ห้องประเภท Seaview Pool Villa Romance ราคา 10,999 บาท/คืน
• ห้องประเภท Seaview Pool In love ราคา 11,999 บาท/คืน
• ห้องประเภท Two-Bedroom Pool Villa ราคา 16,999 บาท/คืน

ส่วนตัวผมแล้วคิดว่าราคาด้านบนนี้น่าสนใจมากๆ นะครับ ใครที่มีสิทธิ์โครงการเราเที่ยวด้วยกันอยู่ และกำลังมองหาพูลวิลล่าดีๆ มีความเป็นส่วนตัวสูง ขนาดห้องกว้างขวาง พนักงานบริการดี อาหารอร่อย ผมแนะนำที่นี่เลยครับ ดีและคุ้มมากๆ ครับ ส่วนใครที่มาอ่านบทความนี้ช้าไป หมดเขตโครงการไปแล้ว ก็สามารถเช็คราคาพิเศษอื่นๆ ผ่าน Agoda ได้ที่ลิงก์ด้านล่างนี้เลยครับ

เช็คราคาและจอง The Shore at Katathani ราคาพิเศษ ผ่าน Agoda ได้ที่นี่

ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามจนจบแล้วอย่าลืมกดติดตามเพจ “ภรรยาหา สามีใช้” เพื่ออ่านเรื่องราวกินและเที่ยวของผมกับต๋งอย่างใกล้ชิดด้วยนะครับ พบกันใหม่บทความหน้า สวัสดีครับ

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Facebook : The Shore at Katathani

LINE : @katathani_hotels (มี @ นำหน้าด้วยนะครับ)

E-mail : TheShoreReservation@katathani.com

Tel : 076-318350 (แผนกรับจองห้องพัก)

Website : https://www.theshorephuket.com/