ปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกวันนี้เจ้ากล้อง GoPro เป็นกล้องที่หลายๆ คนหลงรักและพกมันติดตัวไว้แทบจะตลอดเวลา หรือแทบทุกครั้งที่ออกทริป ด้วยลักษณะเด่นทางด้านขนาด, มุมภาพที่กว้าง, ความถึกที่หาใครเทียบ, สามารถถ่ายได้แทบทุกสถานการณ์แม้กระทั่งใต้น้ำ!! และที่สำคัญยังมีอุปกรณ์เสริมเพิ่มความสามารถให้มันอีกมากมายชนิดเลือกกันจนตาลายเลยทีเดียว @_@
และหนึ่งในอุปกรณ์เสริมที่คนชอบเที่ยวทะเลอยากจะได้ไว้ครอบครองก็คือ Dome Port นั่นเองครับ โดยเจ้า Dome Port นี้จะช่วยทำให้ GoPro ของเราสามารถถ่ายภาพครึ่งบกครึ่งน้ำ 50-50 ได้แบบนี้ครับ
Disclosure : บทความนี้ได้รับการสนับสนุนจากผู้ให้บริการ แต่ทั้งนี้ความเห็นต่างๆ ที่เกิดขึ้นเป็นความรู้สึกจริงของผมครับ


ซึ่งถ้าเราไม่มีอุปกรณ์ที่เรียกว่า Dome Port นี้ เราแทบจะถ่ายภาพลักษณะนี้ไม่ได้เลย และเพราะผมอยากจะได้ภาพแบบนี้มาอยู่ใน Memory กล้องผมซักครั้งให้ได้ ผมก็เลยดั้นด้นพยายาหาเจ้า Dome Port นี้มาให้ทันกับทริปหลีเป๊ะที่ผมกำลังจะออกเดินทางในไม่กี่วันข้างหน้า และในที่สุดผมก็ได้มันมาอยู่ในมือทันเวลาพอดี
สำหรับ Dome Port ที่ผมได้มาทดลองนั้น เป็นของ Telesin โดยเป็น Dome Port อะลูมิเนียมขนาด 6 นิ้ว มีความแข็งแรง จับกระชับถนัดมือ และสามารถใส่ได้กับกล้อง GoPro 3, 3+ และ 4 ทุกรุ่น (กล้องที่ผมใช้คือ GoPro 4 Silver)
ก่อนอื่นเรามาลองแกะกล่องกันดีกว่าว่าภายในกล่องจะมีอะไรให้บ้าง โดยกล่องของ Dome Port Telesin นั้นจะเป็นกล่องสีน้ำตาล พิมพ์ชื่อยี่ห้อและรายละเอียดด้านข้าง เปิดกล่องมาจะเจอฟองน้ำที่ห่อกันกระแทกอยู่และผ้าสำหรับเช็ดทำความสะอาด ส่วนของอย่างอื่นภายในกล่องก็ตามนี้ครับ
-
Dome Port
-
ด้ามสำหรับมือจับ
-
สายรัดข้อมือ
-
ไขควง
-
คู่มือ


หลังจากแกะกล่องสำรวจดูอุปกรณ์คร่าวๆ แล้ว สิ่งที่ทำให้ผมประทับใจหลักๆ ก็มีอยู่ 2-3 อย่างคือ คุณภาพความแข็งแรงของ Dome Port, สายรัดข้อมือที่ทำให้เรามั่นใจได้ว่ากล้องเราจะไม่หลุดมือหายไปในทะเล และสุดท้ายก็คือไขควง 2 ด้าน โดยด้านซ้ายจะเอาไว้ขันด้ามจับเข้ากับ Dome Port ส่วนด้านขวาจะเอาไว้ขันน็อตด้านหน้า ซึ่งโดยปกติเราจะใช้เฉพาะด้านซ้ายที่เอาไว้ขันด้ามจับครับ
หมายเหตุ : การขันน็อตที่บริเวณด้านหน้า เราต้องอย่าขันแน่นหรือแรงเกินไปนะครับ เพราะจะทำให้กระจก Dome Port ร้าว รวมทั้งไขควงบิ่นได้ ควรขันให้พอดีๆ เท่านั้น

หลังจากสำรวจอุปกรณ์เสร็จแล้ว ผมก็ประกอบด้ามจับและสายรัดข้อมือเข้ากับ Dome Port ซึ่งใช้เวลาแค่ 1-2 นาทีเท่านั้น จากนั้นก็ใส่เจ้า GoPro เราเข้าไปใน Case แล้วก็ปิดฝาด้านบนล็อคเป็นอันเสร็จเรียบร้อย เรียกว่าสะดวกมากๆ แต่ทั้งนี้ผมขอแนะนำนะครับว่าก่อนที่เราจะใส่เจ้า GoPro เข้าไปในเคสแล้วเอาลงน้ำเลยนั้น เราควรเอาเฉพาะ Dome Port เปล่าๆ ที่ประกอบเสร็จไปลงน้ำดูก่อนว่ามันกันน้ำได้แนบแน่นดีมั้ย หากไม่แน่นเราก็มาทำการไขน็อตส่วนต่างๆ ให้เรียบร้อยก่อน จะได้ไม่เกิดโศกนาฏกรรมกับกล้องเราครับ T_T
เมื่อเราทดสอบอะไรเรียบร้อยก็เอาลงไปลุยได้เลยครับ!! โดยการใช้งานนั้นเราสามารถที่จะถ่ายแบบ Half 50-50 หรือกดลงไปถ่ายใต้น้ำทั้งอันเลยก็ได้ ซึ่งหากใครต้องการจะถ่ายภาพ Half 50-50 นั้น ที่บริเวณด้านหลังของเจ้า Telesin Dome Port จะมีขีดระดับน้ำบอกด้วยว่าเราควรถือกล้องเราสูงต่ำแค่ไหนครับ

เอาล่ะครับ หลังจากที่ผมได้ลองใช้งาน Telesin Dome Port 1 วันเต็มๆ ผมก็ได้ข้อสรุปในการใช้งานดังนี้ครับ
ข้อดี
-
วัสดุแข็งแรง จับแล้วมั่นใจกระชับมือ
-
มีสายรัดข้อมือมาให้ ซึ่งเป็นอะไรที่ดีมาก สร้างความอุ่นใจในการใช้งาน
-
ประกอบง่าย พร้อมใช้งานในเวลาไม่เกิน 2 นาที
-
ราคาไม่แรง เพียงสองพันบาทต้นๆ
ข้อเสีย
-
ไม่สามารถเปลี่ยนโหมดในการถ่ายภาพขณะใส่ Dome Port ได้ เพราะที่เคสมีปุ่มให้กดแค่ปุ่มด้านบนและด้านขวาเท่านั้น
-
ขนาดใหญ่ พกยาก เปลืองพื้นที่กระเป๋า
สรุป : แม้หลายๆ คนจะสามารถ DIY Dome Port สำหรับกล้อง GoPro ด้วยตัวเองได้ แต่ก็มีหลายๆ คนที่ไม่ถนัดงานฝีมืออย่างเช่นผม T__T ดังนั้นการซื้อสินค้าที่ผลิตเสร็จเรียบร้อยแล้วก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง และถึงแม้เจ้า Telesin Dome Port นี้จะทำให้อึดอัดใจอยู่บ้างตรงที่เราไม่สามารถเปลี่ยนโหมดในการถ่ายภาพขณะใส่มันอยู่ได้เลย ต้องเปิดกล้องค้างไว้ตลอดและถ่ายเป็นโหมดๆ ไป หากเราอยากจะเปลี่ยนโหมดก็ต้องแกะกล้องออกมาจากเคสก่อนทำให้ขาดความสะดวกในการใช้งานไปบ้าง แต่เมื่อเทียบกับราคาและภาพที่ได้แล้ว ก็ถือว่าเป็นหนึ่งในอุปกรณ์ที่น่าลอง และให้ภาพแปลกตาดีครับ
สุดท้ายนี้ ขอขอบคุณอุปกรณ์ในการทดสอบจากร้าน Smartcam1988 ด้วยนะครับ สำหรับท่านที่สนใจเกี่ยวกับอุปกรณ์ในการถ่ายวีดีโอ, ไมโครโฟน, Gadget ต่างๆ ของ Smartphone / Go Pro หรืออยากจะได้ข้อมูลของร้านนี้เพิ่มเติม สามารถเข้าไปดูข้อมูลตามลิงก์ด้านล่างได้เลยครับ



