เรื่องเล่าจากงาน “Prudential Scenic Marathon Chanthaburi 2024” งานวิ่งที่อากาศดีมากกกกก และระยะเป๊ะสุด ๆ

📆 วัน : เสาร์ที่ 21 และอาทิตย์ที่ 22 ธ.ค. 67

📌 สถานที่ : อ.ท่าใหม่ และ อ.นายายอาม จ.จันทบุรี

🏃‍♂️ ระยะวิ่งที่มี : 3 / 5 / 10 / 21.1 และ 42.195 กม.

  • งานนี้เป็นหนึ่งในซีรี่ย์งานวิ่งที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศไทย โดยในทุก ๆ ปี ซีนิครูทจะมีการจัดงานทั้งหมด 5 สนาม ใน 4 จังหวัด ได้แก่ ปราณบุรี, จันทบุรี (หาดคุ้งวิมาน), ระยอง, กระบี่ และจันทบุรี (แหลมเสด็จ) โดยใน 4 สนามแรกจะมีระยะวิ่งสูงสุดอยู่ที่ฮาล์ฟมาราธอน 21.1 กม. เท่านั้น ส่วนสนามสุดท้าย “จันทบุรี (แหลมเสด็จ)” จะเป็นสนามเดียวที่มีระยะฟูลมาราธอน 42.195 กม. ด้วยครับ
  • สำหรับสนาม “จันทบุรี (แหลมเสด็จ)” ซึ่งเป็นสนามสุดท้ายของปี จะมีการจัดงาน 2 วัน โดยวันเสาร์ที่ 21 ธ.ค. 67 ช่วงเย็น จะเป็นการวิ่งระยะ 3 และ 5 กม. ส่วนวันอาทิตย์ที่ 22 ธ.ค. 67 ช่วงเช้า จะเป็นการวิ่งระยะ 10 กม., ฮาล์ฟมาราธอน 21.1 กม. และฟูลมาราธอน 42.195 กม. ซึ่งงานนี้ผมกับภรรยาลงระยะฟูลมาราธอนทั้งคู่ครับ
  • ไฮไลท์เด่นสุด ๆ ของระยะฟูลมาราธอนของสนามนี้ก็คือการที่จะต้องวิ่ง Elevation Gain มากถึง 395 เมตร และจะต้องวิ่งพิชิต 2 เนินใหญ่ ๆ อย่างเนินนางพญา และเนินพระยืนครับ
  • อากาศดีมากกกกก ดีแบบตะโกน วิ่งสบายสุด ๆ เย็นสบายตั้งแต่ตอนออกสตาร์ทตอนตี 3.30 น. จนถึงตอนสาย ๆ เลยครับ โดยช่วงหลัง 6.30 น. ที่พระอาทิตย์เริ่มขึ้นแล้ว อากาศก็ยังดีอยู่ สามารถวิ่งได้แบบชิล ๆ เย็น ๆ และไม่เจอกับแสงแดดร้อน ๆ แต่อย่างใด
  • ระยะวิ่งคือเป๊ะเว่อร์!! โดยนาฬิกา Amazfit Cheetah ของผม จับระยะได้ 42.20 กม. ส่วน Garmin Forerunner 165 ของภรรยาผม จับได้ 42.21 กม. ซึ่งถือว่าใกล้เคียงกับระยะฟูลมาราธอนสุด ๆ และมันไม่ได้เป๊ะแค่ระยะสนามอย่างเดียวเท่านั้นนะ แต่ทุกจุดบอกหลักกิโล ทุกจุดรับน้ำ, รับผลไม้ของเค้า ก็เป๊ะ ๆ หมดเลยครับ ยอมใจจริง ๆ
  • เส้นทางการวิ่งดี มีการติดตั้งไฟส่องสว่างเพิ่มเติมตามจุดต่าง ๆ, มีการกั้นกรวยชัดเจนตลอดเส้นทาง และมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลตามจุดต่าง ๆ ที่สำคัญครับ
  • ระหว่างเรซจะมีบริการจุดให้น้ำจากน้ำดื่ม Sprinkle ทุก ๆ 2 กม. และมีบริการเครื่องดื่มเกลือแร่จาก Gatorade ทุก ๆ 4-6 กม. โดยก่อนที่จะถึงจุดให้น้ำประมาณ 100 เมตร จะมีการตั้งป้ายแจ้งให้ทราบก่อนล่วงหน้าทุกครั้ง และที่ดีงามสุด ๆ ก็คือช่วงที่เริ่มออกวิ่งใหม่ ๆ และท้องฟ้ายังมืดสนิทอยู่นั้น จุดให้น้ำแรก ๆ จะมีป้ายเรืองแสงให้เรามองเห็นอย่างชัดเจนด้วยครับ
  • น้ำดื่มที่เค้ามีบริการทุก 2 กม. จะเป็นน้ำดื่มแบบที่เค้าเทใส่แก้วไว้แล้วนะครับ และจะมีให้เลือกดื่มทั้งน้ำเย็น และน้ำอุณหภูมิปกติเลย และทุก ๆ จุดที่ผมเข้าไปใช้บริการ ไม่มีจุดไหนเลยที่มีปัญหาเรื่องน้ำไม่พอ หรือไม่ได้มีการวางแก้วเตรียมเอาไว้ล่วงหน้าครับ
จุดให้น้ำ งาน Prudential Scenic Marathon Chanthaburi 2024
  • มีการแจกเจลจาก Amino Vital ระหว่างเรซ 2 จุด
  • มีจุดแจกผลไม้ระหว่างเรซ 3 จุด โดยจะมีจุดนึงที่มีขนมไทย, ลูกชุบ และปีโป้แจกด้วย
  • ทุกจุดที่มีเครื่องดื่มเกลือแร่ Gatorade และเจลจาก Amino Vital แจก จะมีป้ายสัญลักษณ์ของ 2 แบรนด์นี้ให้เรามองเห็นชัดเจนจากระยะไกล ทำให้เรารู้เลยว่าจุดนี้มีอะไรแจกบ้าง ไม่ต้องคอยตะโกนถามครับ
  • ถังขยะรอบ ๆ จุดให้น้ำทุกจุดมีการติดตั้งเพิ่มขึ้นมาอย่างเพียงพอ และเหมาะสม
จุดให้น้ำ งาน Prudential Scenic Marathon Chanthaburi 2024
  • จุดพยาบาลระหว่างเรซมีมากถึง 8 จุด รวมทั้งยังมีทีม Medical ที่คอยเดินและวิ่งอยู่ในเรซกับเราด้วย
  • มีการวางห้องน้ำชั่วคราวเพิ่มระหว่างเรซได้อย่างเหมาะสม และมองเห็นได้อย่างชัดเจน
  • การรับ BIB ที่หน้างานไวสุด ๆ ใช้เวลาไม่ถึง 1 นาทีก็เสร็จเรียบร้อย และเค้ามีการแจกเจลของ Amino Vital มาให้พร้อมกับ BIB ด้วยอีก 1 ซอง เป็นอะไรที่ดีมาก ๆ เลยครับ
  • การบอกข้อมูลข่าวสารที่หน้าเพจดีมาก ๆ บอกละเอียด บอกครบทุกอย่าง ตั้งแต่ข้อมูลสนาม, แนะนำที่พัก, แนะนำจุดจอดรถ รวมไปถึงเรื่องอื่น ๆ ที่ควรรู้อีกมากมาย
  • มีจุดจอดรถบริการฟรี 3 จุด สามารถรองรับรถได้มากถึง 800 คัน
  • มีบริการรถรับส่งไปยังจุด Start / Finish ฟรี ครอบคลุมพื้นที่จุดจอดรถต่าง ๆ ที่ทางงานแนะนำ และครอบคลุมไปจนถึงบริเวณหาดเจ้าหลาวเลย ดังนั้นใครที่พักอยู่ในโซนนั้นก็สามารถขึ้นรถรับส่งฟรีได้เลยครับ
  • มีรางวัลรุ่นอายุให้ถึงรุ่นละ 5 รางวัล และโล่รางวัลน่ารักมากกกก เป็นรูปหมูดุดสีสันต่าง ๆ ครับ (หมูดุด คืออีกชื่อของ “พะยูน” นะครับ)
  • มีตุ๊กตาหมูดุดแจกให้กับ Top 100 ในระยะ 21.1 กม. และ 42.195 กม. ด้วย (แยกเพศชายหญิง) และตุ๊กตาที่เค้าแจกนั้นน่ารักมากกก ตัวใหญ่สุด ๆ ไปเลยครับ
  • มีป้ายฟูลมาราธอนแรกให้ด้วย และลวดลายการออกแบบก็น่ารักสุด ๆ
  • เนื้อผ้าของเสื้องานที่เค้าแจกดีเลยครับ เบา สบาย สัมผัสดี ส่วนเรื่องดีไซน์อันนี้แล้วแต่คนชอบนะ แต่ส่วนตัวแล้วผมรู้สึกว่ามันสวยน้อยที่สุดใน 5 สนามของปีนี้เลยครับ @_@
  • มีเสื้อฟินิชเชอร์ให้กับคนที่วิ่งระยะ 21.1 กม. และ 42.195 กม. โดยเสื้อฟินิชเชอร์ของระยะ 42.195 กม. นั้น จะมีการพิมพ์ชื่อและนามสกุลของเราลงในเสื้อให้ด้วยนะครับ
  • มีประกันความคุ้มครอง 100,000 บาท และค่ารักษาพยาบาลวงเงิน 10,000 บาท จากพรูเด็นเชียล ประกันชีวิต ให้กับนักวิ่งทุกคนในงานนี้ด้วย
  • อาหารหลังเรซถือว่าให้มาเยอะเลยครับ โดยระยะฟูลมาราธอน จะได้คูปองอาหารหลัก 3 รายการ และของหวานอีก 1 รายการ ส่วนระยะฮาล์ฟจะได้คูปองอาหารหลัก 2 รายการ และของหวานอีก 1 รายการ นอกจากนี้เค้าก็ยังมีน้ำดื่ม Sprinkle, เกลือแร่ Gatorade, ไอศกรีมกระเบื้อง และแอปเปิ้ล แจกให้อีกฟรี ๆ ด้วยครับ เรียกว่าทานกันอิ่ม ๆ ไปเลย (ไอศกรีมกระเบื้อง จะเป็นของขึ้นชื่อเมืองจันทบุรีครับ เป็นไอศกรีมโบราณที่มีการเคลือบผิวไม่เหมือนปกติ มันจะกรอบ ๆ หนา ๆ หน่อยครับ)
  • นักวิ่งที่ DNF ก็สามารถรับคูปองอาหารและของกินต่าง ๆ ได้ด้วยนะครับ เพียงแค่นำ BIB ไปแสดงกับเจ้าหน้าที่จุดบริการ ซึ่งจริง ๆ แล้วทุกงานก็น่าจะเป็นแบบนี้เหมือนกันเนอะ เพียงแต่ว่างานนี้เค้ามีการเขียนและประกาศบอกชัดเจนดีครับ ทำให้หลาย ๆ คนน่าจะได้ข่าวสารกันครบ
  • มีบริการไอซ์บาธ (Ice Bath) จากพรูเด็นเชียล ประกันชีวิตให้เราแช่เท้าฟรี ๆ คนละ 15 นาทีด้วย ซึ่งบอกเลยว่าเย็นมากกกกกกก และดีมากครับ มันช่วยฟื้นฟูร่างกายเราได้เป็นอย่างดีเลย นอกจากนี้ที่บูธของพรูเด็นเชียล ประกันชีวิต เค้าก็ยังมีกิจกรรมสนุก ๆ ให้เราร่วมเล่น และแจกของให้ฟรี ๆ เยอะเลยครับ
  • สำหรับใครที่เป็นลูกค้าพรูเด็นเชียล ประกันชีวิต จะได้สิทธิ์เข้า Prudential Beach Lounge ด้วยครับ ซึ่งภายในพื้นที่เค้าจะมีเก้าอี้ให้นั่งพักผ่อน รวมทั้งมีอาหาร, ผลไม้ และเครื่องดื่มอร่อย ๆ ให้ทานฟรีเพียบเลย (ข้าวเหนียวหมูปิ้ง, ปลาหมึกย่าง, ก๋วยเตี๋ยวลุยสวน และอื่น ๆ อีกมากมาย) และที่พิเศษสุด ๆ ก็คือเค้ามีบริการนวดเท้านวดตัวให้ด้วยครับ ดีมากกกก ผมเข้าไปใช้บริการมาแล้วฟินสุด ๆ ไปเลย
  • นักวิ่งเข้าร่วมงานน้อยมาก เห็นว่าทุกระยะรวมกันน่าจะประมาณ 3,000 คนเท่านั้น ทำให้วิ่งสบายสุด ๆ ครับ แต่ในแง่ผู้จัดอันนี้เค้าคงอาจจะไม่แฮปปี้เท่าไหร่เนอะ @_@
  • แม้จะมีการติดตั้งไฟส่องสว่างเพิ่มเติมตามจุดต่าง ๆ แล้ว แต่ก็ยังมีบางจุดที่ผมรู้สึกว่ามืดมากเกินไปอยู่นะครับ และอาจจะทำให้เกิดอันตรายในการวิ่งได้ แต่จุดมืด ๆ ที่ว่านี้ก็มีแค่ช่วงสั้น ๆ ไม่กี่จุดเท่านั้นนะ
  • ระบบการวางน้ำดื่มในเรซแต่ละจุดมีความงง ๆ และไม่เป็นมาตรฐาน โดยบางจุดมีการวางน้ำอุณหภูมิปกติไว้โต๊ะแรก ๆ และวางน้ำเย็นไว้โต๊ะหลัง แต่บางจุดกลับกลายเป็นว่าวางน้ำเย็นไว้ที่โต๊ะแรก ๆ แทนซะงั้น ส่วนจุดให้น้ำที่มีการแจกเครื่องดื่ม Gatorade ด้วย บางจุดก็มีการวางเครื่องดื่ม Gatorade ไว้ตรงกลาง และมีการวางโต๊ะน้ำเปล่าปิดท้ายไว้อีก 1 โต๊ะ แต่บางจุดกลายเป็นว่าวางเครื่องดื่ม Gatorade ไว้โต๊ะสุดท้ายเลย ซึ่งถ้าเป็นไปได้ผมก็อยากให้ทุกจุดวางน้ำให้เป็นมาตรฐานเดียวกันนะครับ
  • ด้วยการออกสตาร์ทตั้งแต่ตอนตี 3.30 น. และมีการวางรูทให้จุดชมวิวเนินพระยืน และจุดชมวิวเนินนางพญา อยู่ที่ช่วง กม. 13-15 ทำให้นักวิ่งทั้งหมดจะไม่ได้เห็นวิวสวย ๆ ที่ 2 บริเวณนี้เลย เพราะต่อให้เราวิ่งเฉลี่ยที่เพซ 8 เราก็จะมาถึงจุดชมวิวนางพญาตอนประมาณตี 5.30 น. เท่านั้น ซึ่งหากทางผู้จัดมีการวางเส้นทางให้คนส่วนใหญ่มาถึงจุดนี้ตอนประมาณ 6.30 น. – 7.00 น. ได้ จะเป็นอะไรที่ดีมาก ๆ เลยครับ

ใครที่สนใจปีหน้าก็ไปสมัครกันได้นะครับ โดยรวมแล้วผมว่ามาตรการการจัดงานนี้อยู่ในเกณฑ์ที่ดีมากเลย อากาศก็ดี วิ่งสนุกมาก นอกจากนี้ทางซีนิคเค้าก็กำลังมีแคมเปญพิเศษอย่างการวิ่งพิชิตฮาล์ฟมาราธอนครบ 5 สนาม ใน 3 ปี ก็จะได้รับเสื้อแจ๊คเก็ต และเหรียญฟินิชเชอร์สุดพิเศษขนาด 12 ซม. ด้วยนะ รูปแบบเหรียญสวยสุด ๆ ใครสนใจก็ลองไปดูรายละเอียดที่เพจ Scenic Marathon ได้เลยครับ

หมายเหตุ : ขอบคุณภาพเหรียญฟินิชเชอร์สุดพิเศษ จากเพจ Scenic Marathon ด้วยนะครับ