Home Travel รีวิว Universal Beijing Resort สวนสนุก Universal ที่ใหญ่ที่สุดในโลกตอนนี้!!

รีวิว Universal Beijing Resort สวนสนุก Universal ที่ใหญ่ที่สุดในโลกตอนนี้!!

เมื่อปลายเดือน มี.ค. 2567 ผมกับภรรยาได้มีโอกาสไปเที่ยว Universal Beijing Resort (ยูนิเวอร์แซล ปักกิ่ง) มาครับ และพวกเราได้เล่นเครื่องเล่น รวมทั้งเห็นเรื่องราวต่าง ๆ ที่น่าสนใจมากมายก็เลยเอามาสรุปให้อ่านกัน เผื่อใครมีแผนจะไปเที่ยวที่นี่จะได้วางแผนกันได้อย่างถูกต้องครับ

หมายเหตุ : ผมไปวันจันทร์ที่ 25 มี.ค. 67 นะครับ

▪ บัตรเข้าสวนสนุก 1 วัน พร้อม Express Pass แบบ 3 เครื่อง ราคา 6,700 บาท/คน

หมายเหตุ :

  1. พวกเราซื้อบัตรผ่าน klook นะครับ โดยตอนที่เราซื้อนั้นเค้าจะให้เราระบุชื่อ-นามสกุล (ภาษาอังกฤษ) และหมายเลขพาสปอร์ตลงไปด้วย และเมื่อถึงวันเราก็เอาพาสปอร์ตของเราไปสแกนที่หน้าทางเข้าได้เลย ไม่ต้องปริ้นท์อะไรไปให้ยุ่งยากครับ
  2. ราคาบัตรในแต่ละวันจะไม่เท่ากันนะครับ และโดยปกติแล้วราคาของ Express Pass นั้นจะสูงกว่าราคาบัตรเข้าอย่างเดียวมาก อย่างวันที่ผมไปนั้นหากซื้อเฉพาะบัตรเข้าสวนสนุกอย่างเดียวก็จะราคา 2,100 บาท/คน แต่พอเพิ่มในส่วน Express Pass 3 เครื่องเข้าไป ก็ต้องจ่ายเพิ่มอีกคนละ 4,600 บาทเลยครับ ดังนั้นเราอาจจะต้องชั่งใจดี ๆ หน่อยนะว่าจะซื้อ Express Pass หรือไม่ครับ

▪ Universal Beijing Resort คือสวนสนุก Universal ที่ใหม่ที่สุดของโลกในตอนนี้ แถมยังมีขนาดใหญ่ที่สุดในบรรดาสวนสนุก Universal ทั้งหมดทั่วโลกด้วยครับ (นับถึงเดือน มี.ค. 67) โดยที่นี่มีพื้นที่ทั้งหมด 2,500 ไร่ หรือใหญ่กว่าที่สิงคโปร์ประมาณ 5 เท่า และภายในพื้นที่จะมีการแบ่งออกเป็นทั้งหมด 7 โซนด้วยกัน ได้แก่ Hollywood, The Wizarding World of Harry Potter, Jurassic World Isla Nublar, Minion Land, Transformers Metrobase, Kung Fu Panda Land of Awesomeness และ Waterworld โดยในส่วนของโซน Kung Fu Panda นั้น ที่นี่จะเป็นที่เดียวในโลกที่มีเลยนะครับ

ขอบพระคุณภาพแผนที่จาก travelchinaguide.com ด้วยนะครับ

▪ ที่ Universal Beijing Resort นั้นจะไม่มีการห้ามเรื่องการนำของกินจากภายนอกเข้าไปนะครับ เราสามารถถือเข้าไปได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นอาหาร, ขนม หรือเครื่องดื่ม ดังนั้นใครที่เป็นสายประหยัดงบหรืออยากทำเวลาในการเล่นเครื่องเล่นต่าง ๆ ก็ขนไปได้เลยครับ

▪ ข้างใน Universal Beijing Resort จะมีจุดให้เติมน้ำเปล่าฟรีทั้งร้อนและเย็นหลายจุด เราสามารถเตรียมขวดต่าง ๆ ไปกรอกได้เลยครับ

▪ ห้องน้ำภายในสวนสนุกดี สะอาด มีหลายจุด และมีแผ่นรองก้นให้ด้วย โดยในห้องน้ำแต่ละจุดก็จะมีรูปแบบให้เราเลือกด้วยนะว่าจะเอาเป็นนั่งยอง (Chinese style) หรือนั่งแบบปกติ (Western style) ครับ

▪ ในแต่ละวันนั้นสวนสนุกจะมีเวลาเปิดและปิดไม่เหมือนกัน โดยเราสามารถดูข้อมูลการเปิดปิดของเค้าได้ที่ https://www.universalbeijingresort.com/en ส่วนใครที่จองเข้าพักโรงแรมของเค้า ทั้ง The Universal Studios Grand Hotel และ NUO Resort Hotel ก็จะสามารถเข้าสวนสนุกได้ก่อนคนทั่วไป 1 ชั่วโมงครับ

▪ ปริมาณคนภายในสวนสนุกน้อยกว่าที่ผมคาดไว้มาก ผมสามารถเดินถ่ายรูปได้สบาย ๆ รวมถึงคิวของเครื่องเล่นแต่ละเครื่องก็ไม่ได้นานมากครับ โดยเฉลี่ยอยู่ที่เครื่องละ 20-30 นาทีเท่านั้น และบางเครื่องบางช่วงเวลารอแค่ 5-10 นาทีเอง แต่ว่ามันก็มีบางเครื่องเหมือนกันนะที่บางช่วงอาจจะต้องรอประมาณ 1 ชม. ครับ

▪ วันที่ผมไปนั้นสวนสนุกเปิดบริการตั้งแต่ 10.00 น. – 20.00 น. โดยผมไปรอตั้งแต่ก่อนสวนสนุกเปิดประมาณ 1.30 ชม. และได้อยู่ต้น ๆ แถวเลย (วันที่ผมไปนั้นเค้าเปิดก่อนเวลา 5 นาทีนะครับ)

▪ วันนั้นผมอยู่สวนสนุกจนแทบจะถึงเวลาปิดเลย และเบ็ดเสร็จแล้วผมสามารถเล่นเครื่องเล่นไปได้ทั้งหมด 11 เครื่องเล่น, ดูอีก 3 โชว์ และชมอีก 1 พาเหรด โดยที่เวลายังเหลืออีกพอควรครับ และผมสามารถเก็บเครื่องเล่นที่ตั้งใจไปเล่นได้ทั้งหมด รวมทั้งสามารถเล่นซ้ำบางเครื่องได้ด้วย

▪ แม้ว่าผมจะซื้อบัตรเข้าสวนสนุก + Express Pass 3 เครื่องมา แต่สุดท้ายแล้วผมก็แทบไม่ได้ใช้สิทธิ์พิเศษอะไรของ Express Pass เลยนะครับ เพราะวันที่ผมไปนั้นเครื่องที่ผมมี Express Pass คนทั่วไปก็ใช้เวลารอคิว 5-10 นาทีเท่านั้นเอง มันก็เลยแทบไม่ได้ช่วยประหยัดเวลาอะไรซักเท่าไหร่ครับ

▪ ระบบ Express Pass ของ Universal Beijing Resort นั้นดีมาก ๆ ครับเพราะมันใช้ระบบสแกนหน้า เราไม่ต้องหยิบหรือเอาเอกสารอะไรให้เค้าดูเลย แค่เดินเข้าช่อง Express แล้วก็แสกนหน้าเป็นอันจบครับ

▪ เท่าที่ผมเห็นทุกเครื่องเล่นของ Universal Beijing Resort จะไม่มีแถวผู้เล่นเดี่ยว (Single Rider) เลยนะครับ ดังนั้นใครมาคนเดียวก็ต้องต่อแถวเหมือนคนอื่นปกตินะ

▪ เรื่องที่ใครจะตัดสินใจว่าจะซื้อบัตรเข้าแบบไหน จะซื้อ Express Pass หรือเปล่า อันนี้อาจจะขึ้นอยู่กับแต่ละช่วงเวลาด้วยนะครับ ยังไงลองติดตามข้อมูลแต่ละช่วงให้ดี และบางทีมันอาจจะขึ้นอยู่กับดวงด้วยว่าวันนั้นบังเอิญคนเยอะหรือเปล่า แต่โดยรวมแล้วผมว่าถ้าเลือกมาเที่ยววันธรรมดาคนน่าจะน้อยกว่าวันหยุดพอควรครับ

▪ คิวร้านอาหารภายในสวนสนุกแต่ละที่น้อยมาก แทบจะไม่มีคนซื้อเลย ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะว่าที่นี่อนุญาตให้นำของกินทุกอย่างเข้ามาเองได้ กับอีกส่วนหนึ่งก็คือรูปแบบอาหารและแพ็คเกจของที่นี่มันดูเฉย ๆ มาก ไม่น่ารัก ไม่มีเสน่ห์ดึงดูดใจให้ซื้อเท่าไหร่ครับ

▪ ราคาอาหารและเครื่องดื่มภายใน Universal Beijing Resort แรงพอควรนะครับ อย่างเครื่องดื่มต่าง ๆ ก็ขวดละ 10-15 หยวน ส่วนของกินก็เริ่มต้นที่ 30 หยวนครับ

▪ โดยรวมเครื่องเล่นภายใน Universal Beijing Resort นั้นใหม่มากครับ แต่ในด้านบรรยากาศของสวนสนุก และการแอคติ้งของสต๊าฟที่นี่ยังสู้ญี่ปุ่นไม่ได้นะ ที่ปักกิ่งมันดูเหงา ๆ เฉื่อย ๆ ไม่เหมือนที่ญี่ปุ่นที่พอเข้าไปแล้วมันจะได้บรรยากาศของความสนุกสนานและความร่าเริงกว่าครับ

▪ ระบบล็อกเกอร์ฝากของที่เครื่องเล่นทั้งหมดจะเป็นแบบสแกนหน้าและกดรหัสนะครับ ซึ่งดีมาก ๆ เราไม่ต้องกังวลเรื่องกุญแจหายเลย โดยตัวล็อคเกอร์นั้นจะทำงานด้วยระบบสแกนหน้าเป็นหลัก ส่วนรหัสผ่านนั้นจะเอาไว้สำหรับกรณีฉุกเฉินครับ

▪ โซน The Wizarding World of Harry Potter นั้นแทบจะเหมือนที่ญี่ปุ่น 100% ต่างกันแค่รายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เท่านั้น

▪ ที่นี่จะมีโซนกังฟูแพนด้าที่เดียวในโลกนะครับ แต่ว่าเครื่องเล่นในโซนนี้จะเป็นแนวสำหรับเด็กนะ ไม่ได้หวือหวาหรือหวาดเสียวอะไรเท่าไหร่ และโซนนี้เค้าจะตกแต่งเป็นธีมกลางคืนด้วย ทำให้มันถ่ายรูปยากพอควร ดังนั้นถ้าใครที่ไม่ได้อินกับการ์ตูนเรื่องนี้อยู่แล้วก็อาจจะคิดว่าโซนนี้เป็นโซนน่าเบื่อสุด ๆ ไปเลยครับ

▪ มารยาทของคนจีนที่ไปสวนสนุกวันเดียวกับผมส่วนใหญ่ดีนะครับ มีบ้างบางคนที่แทรกหรือทำอะไรที่ผมรู้สึกไม่ค่อยโอเคนิดหน่อย แต่ก็แค่ส่วนน้อยมาก และบางจุดก็จะมีสต๊าฟคอยดูแลป้องกันให้ครับ

▪ สำหรับใครที่ไม่ได้มีการโหลดแอพของสวนสนุกมา ก็สามารถดูเวลารอของแต่ละเครื่องเล่นแบบ Real time ได้ที่จอแสดงข้อมูลตามจุดต่าง ๆ นะครับ

▪ พาเหรดของที่นี่จะยาวกว่าของ Universal Studios Japan ที่ผมไปมาเมื่อตอนเดือน เม.ย. 66 โดยพาเหรดของ Universal Beijing Resort นั้นจะมีระยะเวลาประมาณ 20 นาที และประกอบด้วยตัวละครหลัก ๆ อย่างมินเนี่ยน, เชรค, มาดากัสการ์ และกังฟูแพนด้าครับ

▪️ ปกติพาเหรดเค้าจะเริ่มเวลา 17.00 น. นะครับ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในแต่ละวันด้วย อย่างวันที่ผมไปก็เลทประมาณ 30 นาที และหากวันไหนฝนตกหรือสภาพอากาศไม่ดีเค้าก็จะยกเลิกนะครับ

▪️ Decepticoaster (2 รอบ) : นี่คือเครื่องเล่นที่ผมว่าสนุกที่สุดในสวนสนุกแห่งนี้แล้วครับ มันคือรถไฟเหาะธีม Transformer ที่ออกตัวเร็วแรง รวมถึงมีการหมุนและเหวี่ยงพอควร แต่ว่าถ้าเทียบความหวาดเสียวและความมันแล้ว เจ้าเครื่องนี้ยังแพ้ The Flying Dinosaur ที่ Universal Studios Japan ญี่ปุ่น รวมถึงรถไฟเหาะใน Fuji Q Highland หลายช่วงตัวนะครับ

▪️ Transformers Battle for the AllSpark : เครื่องเล่นแบบ 4 มิติแบบที่เราต้องใส่แว่นด้วย รูปแบบการเล่นคล้ายกับเครื่องเล่นสไปเดอร์แมนที่ญี่ปุ่น เพียงแต่ผมรู้สึกว่าภาพ 4 มิติของเครื่องนี้มันดูไม่ค่อยชัดและไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ครับ ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันนะว่าเป็นเพราะสายตาผมมีปัญหาด้วยหรือเปล่า

▪️ Harry Potter and the Forbidden Journey : เครื่องเล่นที่มีรูปแบบการเล่นเหมือนกับที่ญี่ปุ่นเลย เพียงแต่เนื้อเรื่องบางจุดและรายละเอียดของบางอย่างจะแตกต่างกันนิดหน่อยครับ

▪️ Flight of the Hippogriff : รถไฟเหาะเวอร์ชั่นชิล ใคร ๆ ก็เล่นได้ เครื่องนี้เหมือนที่ญี่ปุ่นเป๊ะเลยครับ รอบนึงเล่นแค่ 30 วินาทีจบ ไวและสั้นมาก @_@

▪️ Jurassic World Adventure (2 รอบ) : เครื่องเล่น 4 มิติที่จะพาเราไปนั่งรถชมโลกของ Jurassic World พร้อมทั้งหนีการไล่ล่าจาก Indominus Rex โดยรวมแล้วผมว่าเครื่องนี้ทำได้ดีเลยนะครับ ภาพสวย มีความหวาดเสียวนิด ๆ และมีการทำรายละเอียดต่าง ๆ ดี

▪️ Jurassic Flyers : เครื่องเล่นแบบกึ่งโรลเลอร์โคสเตอร์ ไม่ได้หวาดเสียวหรือเหวี่ยงอะไรมากนัก นั่งชมวิวโลกของ Jurasic World จากบนฟ้าไปเรื่อย ๆ โดยสำหรับผมแล้วผมว่าเครื่องนี้งั้น ๆ นะครับ จะเล่นหรือไม่เล่นก็ได้ และผมรู้สึกว่าเค้าน่าจะใส่อะไรมาให้เราดูระหว่างทางมากกว่านี้หน่อย เพราะว่าตอนนี้มันราบเรียบมากครับ

▪️ Raptor Encounter : เครื่องเล่นที่จะพาคุณไปเรียนรู้การควบคุม Raptor จากนั้นก็จะเปิดโอกาสให้คุณได้ถ่ายรูปกับเจ้าแรพเตอร์ในระยะประชิดแบบ 1 ต่อ 1 สำหรับเครื่องเล่นนี้ถ้าใครที่ไม่ได้อยากจะถ่ายรูปกับเจ้าแรพเตอร์ก็ข้ามไปเลยก็ได้นะครับ เพราะมันไม่ค่อยมีอะไรและมันต้องใช้เวลารอคิวถ่ายรูปนานด้วย

▪️ Despicable Me Minion Mayhem : เครื่องเล่นแบบ 4 มิติที่มีบรรยากาศและภาพรวมคล้ายกับที่ญี่ปุ่นเลยครับ แต่ว่าที่ปักกิ่งจะมีเอฟเฟคบางอย่างจัดเต็มกว่า แล้วก็รายละเอียดในเนื้อเรื่องที่เล่นจะไม่เหมือนกัน ทั้งนี้ที่ปักกิ่งนั้นการเล่นเค้าจะเล่นพร้อมกันในห้องใหญ่ ๆ เลยนะครับ มันจะไม่ได้มีการแบ่งเป็นห้องเล็ก ๆ เหมือนกับที่ญี่ปุ่น

▪️ Kung Fu Panda Journey of the Dragon Warrior : เครื่องเล่นแบบนั่งเรือชมโลกของกังฟูแพนด้าครับ ส่วนตัวผมเฉย ๆ มาก ถ้าใครไม่ใช่แฟนเรื่องนี้และเจอว่าต้องรอคิวเกิน 30 นาทีขึ้นไป จะข้ามไปเลยไม่ต้องเล่นก็ได้นะครับ

▪️ Untrainable : การแสดงโชว์ของตัวละครจากเรื่อง How to train your dragon ในโรงละครขนาดใหญ่ เนื้อเรื่อง, เอฟเฟค และการนำเสนอต่าง ๆ ดีมาก แนะนำให้ดูเลยครับ ยิ่งใครที่เป็นแฟนอนิเมชั่นเรื่องนี้ด้วยแล้วยิ่งไม่ควรพลาดครับ

▪️ WaterWorld Stunt Show : สตั้นท์โชว์ที่เก่าแก่และอยู่คู่ Universal Studios มานาน เอฟเฟคต่าง ๆ จัดเต็ม ใครที่ยังไม่เคยดูมาก่อนก็ลองดูซักครั้งได้ แต่ถ้าใครเคยดูที่อื่นมาแล้วก็ข้ามไปได้เลยครับ เหมือนกันเด๊ะ ๆ

▪️ Lights Camera Action! : โชว์เบื้องหลังการถ่ายทำภาพยนต์ฮอลลีวู้ด โดยรวมคล้ายกับที่ญี่ปุ่น แต่ส่วนตัวผมว่าที่ปักกิ่งทำดีกว่าและใหม่กว่าเยอะครับ

และทั้งหมดนี้ก็คือรีวิว Universal Beijing Resort แบบจัดเต็มของผมครับ โดยเครื่องเล่นที่ผมไม่ได้เล่นนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นแนวเด็ก ๆ หรือไม่ก็เป็นแนวที่ผมไม่ได้ชอบ ดังนั้นผมก็เลยปล่อยผ่านแล้วเอาเวลาไปทำอย่างอื่นดีกว่าครับ

ใครที่สนใจจะไปที่นี่ก็ลองวางแผนแล้วก็เช็คเรื่องจำนวนคนเข้าสวนสนุกในช่วงนั้นดี ๆ นะครับ จะได้เลือกซื้อบัตรเข้าสวนสนุกได้อย่างเหมาะสม และสุดท้ายนี้ผมขอให้ทุกคนมีความสุขกับการไปเที่ยว Universal Beijing Resort (ยูนิเวอร์แซล ปักกิ่ง) มาก ๆ นะครับ

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • Always Active

บันทึก
Exit mobile version