สวัสดีครับ หลังจากที่เมื่อประมาณ 2 ปีก่อนผมได้เคยเขียนรีวิวถึงบุฟเฟ่ต์ติ่มซำหรือ Dimsum All you can eat ของห้องอาหาร Sui Sian (ซุยเซียน) โรงแรม Landmark Bangkok (แลนด์มาร์ค กรุงเทพ) ไปตามลิงก์ด้านล่างนี้
จากวันนั้นจนถึงวันนี้ผมก็ได้มีโอกาสกลับไปทานอาหารที่ห้องอาหารนี้อยู่หลายครั้งครับ แล้วก็ได้พบกับความเปลี่ยนแปลงหลายอย่างในทางที่ดี รวมทั้งได้รับความประทับใจมากมาย โดยเฉพาะในการทานอาหารในมื้อเที่ยงของวันอาทิตย์ครับ เพราะในมื้อนี้ทางห้องอาหารจะมีประเภทอาหารให้เราเลือกทานมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเป็ดปักกิ่ง, หมูหัน, หมูกรอบ. กระเพาะปลา, ของทานเล่น และของหวานต่างๆ ล้วนแต่มีให้บริการในมื้อนี้ทั้งหมด รวมทั้งยังสามารถทานได้ไม่อั้นแทบทุกเมนูด้วย ซึ่งเมื่อเทียบกับราคาที่จ่ายเพิ่มจากวันจันทร์ – เสาร์ ประมาณคนละ 200 บาทแล้ว ผมว่ามันเป็นอะไรที่คุ้มมากๆ นะ ดังนั้นวันนี้ผมก็เลยจะมาเขียนรีวิวเต็มๆ ของไลน์ All you can eat ติ่มซำของห้องอาหารแห่งนี้ในวันอาทิตย์ให้ทุกคนอ่านกันครับ ทุกคนจะได้มีข้อมูลใหม่ๆ อัพเดทและพิจารณากันว่าไลน์นี้มันคุ้มค่า น่าไปทานแค่ไหนครับ
Disclosure : บทความนี้ได้รับการสนับสนุนจากผู้ให้บริการ แต่ทั้งนี้ความเห็นต่างๆ ที่เกิดขึ้นเป็นความรู้สึกจริงของผมครับ
เริ่มจากเรื่องของราคาก่อนแล้วกันนะครับ สำหรับภาพรวมของห้องอาหาร Sui Sian โรงแรม Landmark Bangkok นั้น ห้องอาหารแห่งนี้จะเป็นห้องอาหารจีนที่ให้บริการอาหารจีนหลายประเภท รวมทั้งมีการให้บริการทั้งแบบ A la carte กับแบบ All you can eat ครับ แต่หลักๆ แล้วคนส่วนใหญ่ที่ไปใช้บริการกันก็น่าจะสนใจกันที่ All you can eat กันเป็นหลักเนอะ โดยในส่วนของ All you can eat หรือที่หลายๆ คนชอบเรียกกันติดปากว่าบุฟเฟ่ต์ติ่มซำนี้ เค้าก็จะมีการแบ่งราคาออกเป็นหลายแบบดังนี้ครับ
ราคาปกติสำหรับลูกค้า Walk in ทั่วไป
- มื้อกลางวัน วันจันทร์ – วันเสาร์ (เปิดบริการตั้งแต่เวลา 11.30 น. – 14.30 น.) ราคา 848 บาท/คน net (รวมชาและเก๊กฮวย ร้อน/เย็น Refill)
- มื้อค่ำ วันจันทร์ – วันอาทิตย์ (เปิดบริการตั้งแต่เวลา 18.00 น. – 22.00 น.) ราคา 883 บาท net/คน net (รวมชาและเก๊กฮวย ร้อน/เย็น Refill)
- มื้อกลางวัน วันอาทิตย์ (เปิดบริการตั้งแต่เวลา 11.00 น. – 15.00 น.) ราคา 1,060 บาท/คน net (รวมชาและเก๊กฮวย ร้อน/เย็น Refill)
ราคาพิเศษสำหรับลูกค้าที่สำรองที่นั่งผ่าน Line@
ทั้งนี้สำหรับใครที่สนใจไปทาน Dimsum All you can eat ที่ห้องอาหาร Sui Sian และทำการสำรองที่นั่งผ่าน Line@ “ @thelandmarkbangkok” จะได้รับโปรโมชั่น มา 4 จ่าย 3 ทันทีทุกคนครับ และจะทำให้ราคาต่างๆ เหลือดังนี้
- มื้อกลางวัน วันจันทร์ – วันเสาร์ (เปิดบริการตั้งแต่เวลา 11.30 น. – 14.30 น.) ราคาพิเศษมา 4 จ่าย 3 เหลือเพียง 655 บาท/คน net (รวมชาและเก๊กฮวย ร้อน/เย็น Refill)
- มื้อค่ำ วันจันทร์ – วันอาทิตย์ (เปิดบริการตั้งแต่เวลา 18.00 น. – 22.00 น.) ราคาพิเศษมา 4 จ่าย 3 เหลือเพียง 682 บาท net/คน net (รวมชาและเก๊กฮวย ร้อน/เย็น Refill)
- มื้อกลางวัน วันอาทิตย์ (เปิดบริการตั้งแต่เวลา 11.00 น. – 15.00 น.) ราคาพิเศษมา 4 จ่าย 3 เหลือเพียง 819 บาท/คน net (รวมชาและเก๊กฮวย ร้อน/เย็น Refill)
หมายเหตุ : โปรโมชั่นสำรองที่นั่งผ่าน Line@ เพื่อรับโปรมา 4 จ่าย 3 นี้ จะมีถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2563 เท่านั้นนะครับ และสำหรับท่านใดที่มีบัตร Club Landmark จะสามารถเลือกรับเป็นส่วนลด 20% แทนได้ครับ
ส่วนนี่จะเป็นความแตกต่างของอาหารที่มีให้บริการในแต่ละมื้อครับ โดยในส่วนของมื้อกลางวันวันจันทร์ – เสาร์ และมื้อเย็นวันจันทร์ – อาทิตย์นั้น อาหารทุกอย่างจะเหมือนกันหมดเลย เพียงแต่มื้อเย็นจะสามารถนั่งทานได้นานกว่า 1 ชั่วโมง ดังนั้นราคาก็เลยสูงกว่าหน่อยครับ ส่วนมื้อกลางวันวันอาทิตย์ที่ราคาสูงที่สุดนั้นก็เป็นเพราะว่ามื้อนี้ทางห้องอาหารเค้าจัดเมนูมาให้เราทานอย่างเต็มที่มาก ไม่ว่าจะเป็นเป็ดปักกิ่ง, หมูหัน, หมูกรอบฮ่องกง, ไก่แช่เหล้า, แมงกระพรุน, ซุปเสฉวนทะเล, ซุปเยื่อไผ่, ซุปกระเพาะปลาน้ำแดง รวมถึงของหวานและอาหารพิเศษจาก Executive Chinese Chef Ming ทุกอย่างนี้มีให้ทานหมดแถมไม่อั้นด้วย ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วผมว่าส่วนต่างประมาณ 160-220 บาท/คน ที่เราต้องจ่ายเพิ่มนี้มันเป็นอะไรที่คุ้มค่ามากๆ ครับ แนะนำจริงๆ ว่าเพิ่มเงินอีกนิดแล้วไปกินมื้อกลางวันวันอาทิตย์เถอะ คุ้มกว่ามากๆ
และนี่เป็นหน้าตาห้องอาหาร Sui Sian รวมถึงแผนที่ตั้งของโรงแรม Landmark Bangkok ครับ โดยห้องอาหาร Sui Sian นั้นจะตั้งอยู่ที่ชั้น 10 ของโรงแรม ขนาดของห้องอาหารถือว่าใหญ่เลย สามารถรองรับคนได้ทั้งหมดประมาณ 180 คน นอกจากนี้ยังมีห้องส่วนตัวอีกหลายห้อง รวมไปถึงเค้ายังสามารถกั้นพื้นที่ส่วนนึงเป็น Private Zone ให้กับหมู่คณะใหญ่ๆ ได้ถึง 80 คนได้อีกด้วย ซึ่งในวันที่ผมไปใช้บริการในครั้งนี้ก็มีกลุ่มใหญ่ๆ เกือบ 40 คน เข้ามาใช้บริการในโซนนี้ด้วยครับ โดยรวมๆ ก็ต้องถือว่าที่นี่เป็นห้องอาหารจีนที่มีพื้นที่กว้าง และสามารถจัดพื้นที่ส่วนตัวรองรับทั้งคนกลุ่มใหญ่และเล็กได้ดีที่นึงเลยครับ
โดยใครที่สนใจจะมาใช้บริการที่ห้องอาหารแห่งนี้ก็สามารถมาได้ทั้งรถไฟฟ้า BTS หรือรถส่วนตัวเลยนะครับ เพราะโรงแรม Landmark Bangkok นั้น จะอยู่ห่างจากสถานีรถไฟฟ้า BTS นานา ทางออก 2 ประมาณ 50 เมตรเท่านั้น เดินแป๊บเดียวก็ถึงแล้ว ส่วนใครที่ขับรถมาก็ให้สังเกตที่ตั้งโรงแรมให้ดี ตัวโรงแรมจะอยู่ระหว่างซอยสุขุมวิท 4 และซอยสุขุมวิท 6 ครับ ในเรื่องที่จอดรถนั้นก็ถือว่ามีเยอะพอดู เพราะผมเคยไปใช้บริการที่โรงแรมแห่งนี้กว่า 10 ครั้งแล้ว ไม่เจอปัญหาเรื่องพื้นที่จอดรถเลยครับ จะมีก็แต่ช่วงทางขึ้นลงระหว่างชั้นเท่านั้นที่มันจะแคบนิดนึง ใครที่ขับรถคันใหญ่ๆ ไปก็อาจจะลำบากหน่อย
มาดูที่ภาพอาหารกันบ้าง โดยผมจะให้ดูภาพอาหารต่างๆ ที่จะมีให้บริการเฉพาะมื้อกลางวันวันอาทิตย์ก่อนนะครับ โดยอาหารเหล่านี้ทางห้องอาหารจะนำมาจัดวางไว้ที่บริเวณกลางห้องอาหาร และมีหมดทั้งอาหารคาว, หวาน, ของหวาน, เค้ก และผลไม้ครับ ใครสนใจรายการไหนก็เดินไปตักได้เลย ทุกรายการเราสามารถทานได้ไม่อั้น ไม่มีการจำกัดจำนวนใดๆ ครับ
เริ่มจากเป็ดปักกิ่ง อันนี้ผมแนะนำเลยครับ อร่อยและทานได้เรื่อยๆ ดี อย่างวันนี้ผมกับต๋งสองคนก็ทานรวมๆ กันไปเกือบ 20 ชิ้นได้ โดยทางเชฟเค้าจะมีการพันแป้งและเป็ดเป็นคำๆ ให้เราเรียบร้อยแล้ว ใครอยากทานก็เดินไปหยิบตามที่ต้องการได้เลย แต่หากใครไม่อยากจะทานผักอะไรเป็นพิเศษก็สามารถสั่งเชฟไว้ได้ครับ เดี๋ยวเค้าจะทำให้แล้วเราค่อยเดินกลับไปเอาครับ
สำหรับใครที่ชอบทานเป็ดปักกิ่งไม่ควรพลาดเมนูนี้เลยครับ ราคานี้ รสชาติแบบนี้ ถือว่าคุ้มเลย
ต่อกันที่หมูหันและหมูกรอบฮ่องกงครับ สองเมนูนี้อร่อยทั้งคู่ หมูกรอบนั้นชิ้นใหญ่ หนังกรอบ เคี้ยวแล้วกรุบดีมาก ส่วนหมูหันจะเป็นสไตล์ที่มีเนื้อติดเยอะๆ นะครับ ไม่ใช่แบบหนังเพียวๆ บางๆ ใครชอบทานสไตล์นี้น่าจะถูกใจ เพราะมันเต็มปากเต็มคำดี แต่ถ้าใครเป็นคนชอบทานแต่หนังหมูหันเพียวๆ ก็อาจจะไม่ถูกใจซักเท่าไหร่ครับ
อ้อ ในส่วนของหมูหันนั้นเค้ามีแป้งให้เราหยิบไปทานคู่ด้วยนะครับ รสชาติของแป้งกับน้ำจิ้มถือว่าดีเช่นเดียวกันครับ
เมนูถัดไปจะเป็นไก่แช่เหล้า, แมงกระพรุน, ซุปเสฉวนทะเล, ซุปเยื่อไผ่ และซุปกระเพาะปลาน้ำแดงครับ อาหารเหล่านี้จะถูกจัดวางไว้ในโซนเดียวกัน ซึ่งในวันนั้นผมกับต๋งได้ชิมแค่ไก่แช่เหล้ากับแมงกะพรุนเท่านั้น สองเมนูนี้รสชาติดีและคุณภาพดีเลยครับสมราคา ส่วนน้ำซุปทั้ง 3 แบบนี้ผมทานไม่ไหวจริงๆ อิ่มมาก T_T แต่อย่างไรก็ตามจากที่ผมเคยมาใช้บริการที่ไลน์นี้หลายครั้งก่อนหน้านี้ ผมว่ารสชาติซุปแต่ละอย่างของเค้าถือว่าโอเคอยู่นะครับ
หมายเหตุ : สำหรับคนที่มาใช้บริการ All you can eat มื้ออื่นๆ ก็จะสามารถทานซุปได้เหมือนกันนะครับ เพียงแต่จะมีการจำกัดคนละ 1 ถ้วยเท่านั้น และเลือกสั่งได้เพียงอย่างเดียวระหว่างซุปเสฉวนทะเล, ซุปเยื่อไผ่ หรือซุปกระเพาะปลาน้ำแดง แต่สำหรับการทานในมื้อเที่ยงวันอาทิตย์นั้นจะไม่มีการจำกัดจำนวนใดๆ ครับ
มาดูกันที่อาหารพิเศษประจำสัปดาห์หรือ Executive Chinese Chef Ming Menu กันบ้าง เมนูอาหารเหล่านี้จะมีการเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ ในแต่ละอาทิตย์นะครับ ซึ่งในวันที่ผมไปนั้นจะมีคะน้าฮ่องกงผัดน้ำมันหอย, ซี่โครงหมูผัดเปรี้ยวหวาน, เป็ดทอดหมูแฮมจีน และเนื้อปลาเก๋าผัดพริกไทยดำครับ รสชาติแต่ละรายการถือว่าดีเลย โดยเฉพาะเนื้อปลาเก๋าผัดพริกไทยดำ ทานง่าย ทอดมาได้ดี และไม่มีก้างครับ นอกจากนี้ผมยังแอบได้ยินหลายโต๊ะเอ่ยปากชมเมนูนี้เหมือนๆ กันครับว่าอร่อยถูกปากดี แต่ทั้งนี้สำหรับใครที่ไม่ค่อยชอบทานรสเค็มนั้นอาจจะติว่าเมนูนี้รสชาติเค็มไปนิดนึงนะครับ ส่วนเมนูซี่โครงหมูผัดเปรี้ยวหวานนั้นเมนูนี้จะกรุบๆ หน่อย เพราะมันจะมีกระดูกอ่อนปนด้วย ใครชอบทานอะไรแนวนี้น่าจะถูกใจครับ
และนอกจากอาหารคาวอร่อยๆ จาก Executive Chinese Chef Ming แล้ว เรายังสามารถสั่งพวกข้าวผัดหรือราดหน้ามาทานเพิ่มได้อีกนะครับ โดยเค้าจะมีเมนูให้เลือกทั้งหมด 3 รายการ ได้แก่ ข้าวผัดฟูเจา, เส้นหมี่ผัดเป็ดย่าง และเส้นใหญ่ราดหน้าทะเลครับ แต่ว่าเมนูเหล่านี้เราจะสามารถสั่งได้คนละ 1 เมนูเท่านั้น และมันจะมาเป็นถ้วยขนาดเล็กๆ นะครับ ไม่ได้ใหญ่มาก ซึ่งเอาจริงๆ ผมว่าไม่ค่อยมีใครซีเรียสเรื่องขนาดถ้วยของมันหรอก และโดยส่วนใหญ่แล้วคิดว่าอาจจะไม่ค่อยมีคนสั่งด้วยซ้ำ เพราะแค่ทานพวกเป็ดปักกิ่ง, หมูหัน, หมูกรอบ รวมถึงติ่มซำต่างๆ แค่นี้แต่ละคนก็น่าจะอิ่มมากๆ จนแทบจะทานพวกข้าวหรือราดหน้าไม่ได้แล้วครับ แต่ถ้าใครคิดว่าทานไหวจะสั่งมาลองทานก็ได้นะ รสชาติของทั้ง 3 รายการนี้ในความเห็นผมจะอยู่ในระดับกลางๆ ค่อนไปทางดีครับ และโดยส่วนตัวผมชอบเมนูเส้นหมี่ผัดเป็ดย่างเป็นพิเศษครับ
หมายเหตุ : สำหรับคนที่ทาน All you can eat ในมื้ออื่นๆ ที่ไม่ใช่มื้อกลางวันวันอาทิตย์นั้นก็จะสามารถทานอาหารประเภทข้าวหรือราดหน้านี้ได้เหมือนกัน เพียงแต่เค้าจะมีให้เลือกแค่ 2 รายการ ได้แก่ ข้าวผัดฟูเจา และเส้นใหญ่ราดหน้าครับ ส่วนจำนวนที่สามารถสั่งได้นั้นก็คือคนละ 1 เมนูเช่นเดียวกัน
มาดูกันที่ผลไม้และของหวานต่างๆ กันบ้าง โดยในการทานติ่มซำ All you can eat ในมื้อเที่ยงวันอาทิตย์นั้น นอกจากเค้าจะมีการวางอาหารคาวพิเศษต่างๆ แบบที่ผมเล่ามาให้ทุกคนฟังก่อนหน้านี้แล้ว ในส่วนของของหวานและผลไม้เค้าก็มีให้ทานมากกว่ามื้ออื่นๆ ด้วยนะครับ โดยในมื้ออื่นๆ นั้นเราจะสามารถสั่งของหวานมาทานได้เพียงคนละ 1 ถ้วยเท่านั้น และจะมีทั้งหมด 3 รายการให้เลือก ได้แก่ บัวลอยน้ำขิง, สาคูแคนตาลูป และลิ้นจี่ลอยแก้ว แต่ในมื้อกลางวันวันอาทิตย์เค้าจะมีการวางไลน์พิเศษของของหวานไว้ให้เราตักและทานไม่อั้นเลย โดยในไลน์ที่ว่านี้ก็จะประกอบไปด้วยผลไม้ตามฤดูกาล, ไอศกรีม, ของหวาน รวมไปถึงขนมเค้กกับเบเกอรี่ครับ ซึ่งโดยส่วนตัวผมชอบในส่วนของของหวานมากนะ เพราะมันมีให้เลือกทานเยอะดีไม่ว่าจะเป็นลิ้นจี่ลอยแก้ว, สาคูแคนตาลูป, แปะก๊วยมะพร้าวอ่อน และบัวลอยน้ำขิง ที่สำคัญเราสามารถตักได้ไม่อั้นและไม่มีการจำกัดจำนวน อีกทั้งรสชาติของของหวานแต่ละอย่างนั้นยังดีด้วยครับ โดยเฉพาะแปะก๊วยมะพร้าวอ่อนกับลิ้นจี่ลอยแก้ว สองเมนูนี้ผมชอบมากๆ จนต้องเดินไปตักเพิ่มเลย ><
ภาพด้านล่างนี้จะเป็นไอศกรีมนะครับ จะมีทั้งหมด 3 รส และในแต่ละอาทิตย์เค้าจะมีการหมุนเวียนรสชาติไปเรื่อยๆ โดยในวันนี้ผมไม่ได้มีโอกาสลองทานเลยนะครับเพราะอิ่มมาก แต่เท่าที่ผมเคยมาทานไอศกรีมของโรงแรมแห่งนี้ในไลน์บุฟเฟ่ต์ต่างๆ รสชาติของเค้าถือว่าดีนะครับ ใครที่ยังพอมีพื้นที่กระเพาะเหลือ อยากตบอะไรเย็นๆ เป็นการปิดท้ายมื้อก็จัดไปครับ
ส่วนนี่จะเป็นขนมเค้ก, เบเกอรี่ และผลไม้ครับ ในส่วนของพวกขนมเค้กและเบเกอรี่นั้นไม่ได้มีให้เลือกเยอะมากนัก เพราะไม่ใช่เมนหลักของไลน์นี้ ส่วนในเรื่องรสชาตินั้นผมไม่ขอออกความเห็นนะครับ เพราะผมไม่ได้ลองชิมซักอย่างเลยครับ @_@
เอาล่ะ ดูเมนูพิเศษต่างๆ ที่มีเฉพาะมื้อเที่ยงวันอาทิตย์ไปครบแล้ว คราวนี้เราไปดูในส่วนของเมนูติ่มซำที่เราสามารถสั่งทานได้เหมือนๆ กันในทุกมื้อดีกว่าครับ โดยไม่ว่าใครจะมาทานอาหาร All you can eat ที่ห้องอาหาร Sui Sian วันไหนก็จะสามารถสั่งอาหารตามเมนูข้างล่างนี้ได้หมดเลย ยกเว้นเมนูที่มีดาวสีแดงอยู่ข้างหน้า 3 เมนูเท่านั้นที่หากใครต้องการทานจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมครับ ซึ่งรวมๆ แล้วเมนูติ่มซำทั้งคาวหวานที่เราสามารถสั่งได้แบบไม่อั้นและไม่มีค่าใช้จ่ายนี้จะมีมากถึง 37 เมนูเลยครับ ถือว่าเยอะเลยนะ ใครไป 3-4 คนแล้วสามารถทานครบทั้ง 37 เมนูนี่ผมบอกเลยว่าไม่ธรรมดา เพราะขนาดวันนี้พวกผมไปกัน 10 คนยังชิมกันแทบไม่หมดเลยครับ T_T
นี่เป็นหน้าตาของติ่มซำต่างๆ ครับ ผมไม่ขอลงรายละเอียดมากนะเพราะเมนูมันเยอะมาก แถมบางรายการผมก็จำชื่อไม่ได้ด้วย แต่รวมๆ ต้องบอกว่าขนาดของติ่มซำแต่ละเข่งนั้นถือว่าใหญ่ใช้ได้เลยครับ แล้วก็รสชาติของเมนูส่วนใหญ่ล้วนแต่อยู่ในเกณฑ์ที่ดี จะมีอยู่เพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่ผมรู้สึกว่ามันธรรมดาหรือทานแล้วไม่ค่อยถูกปากซักเท่าไหร่ โดยกลุ่มเมนูที่ผมชอบมากๆ ก็จะประกอบไปด้วยขนมจีบกุ้งหยก, ขนมจีบหมู, กุยช่ายทอด, กุ้งทอดครีมสลัด, ขนมผักกาดทอด แล้วก็ซาลาเปาต่างๆ ครับ โดยเมนูกุยช่ายทอดและกุ้งทอดครีมสลัดนั้นถือเป็นสองเมนูที่ผมเซอไพรส์รสชาติที่สุดในมื้อนี้เลย ไม่คิดว่ามันจะอร่อยถูกปากแบบนี้ ดีนะที่ตัดสินใจชิม เพราะตอนแรกผมกะว่าจะปล่อยผ่านไปแล้ว ><
และนอกจากเมนูติ่มซำจำนวน 37 รายการที่เราสามารถสั่งได้ไม่อั้นแล้ว ในช่วงนี้ใครที่ไปทาน All you can eat ที่ห้องอาหาร Sui Sian นั้น ยังจะมีโอกาสได้ลิ้มลองเมนูติ่มซำพิเศษ 5 เมนูจาก Executive Chinese Chef Ming ด้วยนะครับ แต่ว่าเมนูเหล่านี้เค้าจะมีการจำกัดจำนวนในการสั่งที่คนละ 1 เมนูนะ ส่วนรายชื่อของทั้ง 5 เมนูนั้นก็จะประกอบไปด้วยรายชื่อตามนี้เลยครับ
- เสี่ยวหลงเปา
- ซาลาเปาลาวาไข่เค็ม
- กุ้งนึ่งซอสสามรส
- กรรเชียงปูทอดซอสไข่เค็ม
- ฮะเก๋าครีมชีสผักโขม
และผมกับต๋งก็ได้มีโอกาสลิ้มลองทั้ง 5 เมนูนี้เลยครับ ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วผมชอบรสชาติของกุ้งนึ่งซอสสามรส, กรรเชียงปูทอดซอสไข่เค็ม และฮะเก๋าครีมชีสผักโขมมากๆ ครับ หากใครไปกันน้อยคน สั่งได้ไม่ครบ 5 เมนู ผมแนะนำให้สั่ง 3 อย่างนี้ก่อนนะ เพราะโดยส่วนตัวแล้วผมว่าเสี่ยวหลงเปากับซาลาเปาลาวาไข่เค็มนั้นรชาติมันธรรมดาไปนิด ไม่ค่อยแตกต่างจากที่อื่นมากนัก แต่ 3 เมนูที่ผมบอกนี่มันแปลกและแตกต่างจากที่อื่น แถมรสชาติเด่นกว่าจริงๆ ครับ
กุ้งนึ่งซอสสามรส เมนูนี้จะประกอบไปด้วยกุ้งโตๆ จำนวน 2 ตัวต่อเข่ง ราดมาด้วยซอสที่มีรสชาติเผ็ดนำ กินแล้วมีความแซ่บจัดจ้านกว่าติ่มซำเข่งอื่นๆ แถมกุ้งนั้นยังมีความสดสูงด้วยครับ กินแล้วประทับใจจนอยากจะขอสั่งเพิ่มเลย
กรรเชียงปูทอดซอสไข่เค็ม อันนี้โดยปกติเค้าจะเสิร์ฟเข่งละ 2 ชิ้นนะครับ แต่ในภาพด้านล่างนี้ทางห้องอาหารเค้าจัดพิเศษมาให้ผม ขนาดแต่ละชิ้นถือว่าใหญ่เลย และเมื่อกัดไปก็พบว่ามีเนื้อปูเยอะมาก ส่วนการทอดต่างๆ นั้นก็ทำมาได้ดี ไม่มีการอมน้ำมันรวมทั้งยังได้รสชาติของไข่เค็มที่เปลือกนอกนิดๆ ครับ
ฮะเก๋าครีมชีสผักโขม เมนูนี้เป็นเมนูติ่มซำที่แปลกมากครับ เรียกว่าแปลกเป็นลำดับต้นๆ ของติ่มซำที่ผมเคยลองชิมมาเลย เพราะทางเชฟเค้ามีการเอาชีสไปผสมอยู่ในฮะเก๋าผักโขมครับ!! เออ…..เกิดมาก็พึ่งเคยทานนี่แหละครับติ่มซำชีส แต่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อครับ เห็นแปลกๆ แบบนี้แต่มันอร่อยมากเลย ยิ่งใครที่ชอบทานชีสนะผมบอกเลยว่าฟินมาก กินตอนร้อนๆ ชีสด้านในยังเยิ้มๆ อยู่ อร่อยมากมายครับ แล้วก็สำหรับใครที่กลัวว่ากลิ่นผักโขมจะแรงจนกินไม่ได้ ผมบอกเลยว่าไม่ต้องกังวลครับ กลิ่นผักมันน้อยมากๆ เพราะมันโดนชีสกลบไปเกือบหมดครับ
เมนูนี้ใครชอบทานชีส และไม่ใช่คนที่เกลียดผักจริงๆ ควรต้องสั่งครับ!!
และทั้งหมดนี้ก็คือภาพรวมของ Dimsum All you can eat มื้อเที่ยงวันอาทิตย์ของห้องอาหาร Sui Sian (ซุยเซียน) ชั้น 10 โรงแรม Landmark Bangkok (แลนด์มาร์ค กรุงเทพ) ครับ ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วผมว่ามันเป็นไลน์บุฟเฟ่ต์ติ่มซำและอาหารจีนที่คุ้มมากๆ นะ โดยเฉพาะคนที่ชอบทานเป็ดปักกิ่งและได้ทำการสำรองที่นั่งผ่าน Line@ โรงแรม เพื่อรับสิทธิ์โปรโมชั่นมา 4 จ่าย 3 ครับ บอกเลยว่าราคานี้ อาหารแบบนนี้ หาไลน์อื่นมาสู้ยากจริงๆ และเพื่อให้ทุกคนได้เห็นทุกแง่มุมต่างๆ ของไลน์นี้ชัดเจนขึ้น ผมก็เลยทำการสรุปทิ้งท้ายออกมาเป็นหัวข้อต่างๆ ให้อ่านดังนี้นะครับ
วันที่รับประทาน : วันอาทิตย์ที่ 8 มีนาคม 2563
ช่วงเวลา : 11.30 – 14.00 น.
จำนวน : 10 คน
รสชาติอาหาร : ในเรื่องรสชาติอาหารนี้ผมขอแบ่งออกเป็น 2 ส่วนนะครับ ส่วนแรกจะเป็นส่วนที่มีเฉพาะในมื้อเที่ยงวันอาทิตย์ เช่น เป็ดปักกิ่ง, หมูหัน, หมูกรอบ เป็นต้น ส่วนส่วนที่สองจะเป็นเมนูติ่มซำที่ทุกมื้อสามารถสั่งได้เหมือนๆ กันหมด โดยในส่วนแรกนั้นผมค่อนข้างประทับใจในรสชาติและคุณภาพมากกว่าครับ หลายๆ เมนูทำให้ผมอยากเดินไปตักทานอีก โดยเฉพาะเป็ดปักกิ่ง, หมูหัน, หมูกรอบ สามอย่างนี้ดีมากๆ เมื่อเทียบกับราคานี้ ดังนั้นในส่วนนี้ผมขอให้คะแนนไปที่ประมาณ 8.5 คะแนนจาก 10 นะครับ ส่วนส่วนที่สองที่เป็นเมนูติ่มซำต่างๆ นั้น แม้รสชาติส่วนใหญ่จะดี แต่มันก็ไม่ได้ดีแบบว้าวมากๆ ทุกเมนู คือมีดีมาก ดี กลางๆ ปนกันไป แล้วก็ยังมีเมนูที่ผมทานแล้วไม่ค่อยถูกปากเท่าไหร่ด้วย ดังนั้นในส่วนนี้ผมเลยขอให้ที่ประมาณ 7.5 คะแนนนะครับ อย่างไรก็ตามเมื่อมองถึงภาพรวมทั้งไลน์ที่ประกอบไปด้วยสองส่วนแล้วก็ต้องถือว่านี่เป็นไลน์ All you can eat ที่มีรสชาติอาหารอยู่ในเกณฑ์ที่ดี คุ้มค่าแก่การไปลองครับ เพียงแต่มันไม่ว้าวปังสุดทุกเมนูเท่านั้นเอง
ความหลากหลายของอาหาร : ข้อนี้ผมว่าเค้าทำได้ดีมากๆ ครับ เพราะในส่วนของเมนูติ่มซำที่ทุกมื้อสามารถทานได้เหมือนกันนั้นจะมีเมนูให้เลือกสั่งมากถึง 37 เมนู ไม่รวมซุป, ข้าวผัด, ราดหน้า, ของหวาน และเมนูติ่มซำพิเศษจากเชฟ ซึ่งจำนวนเมนูประมาณนี้เมื่อเทียบกับหลายๆ ที่มันถือว่าเยอะกว่าพอควรเลยครับ และยิ่งในมื้อเที่ยงวันอาทิตย์เค้ามีการเพิ่มอาหารพิเศษๆ เข้าไปอีกกว่า 10 เมนู มันยิ่งทำให้ไลน์นี้เพิ่มความหลากหลายของอาหารเข้าไปอีก ดังนั้นไม่ต้องแปลกใจเลยว่าทำไมห้องอาหารแห่งนี้จึงมักจะมีคนกลุ่มใหญ่ๆ เข้ามาใช้บริการกัน ทั้งครอบครัว, พนักงานบริษัท หรือการคุยธุรกิจต่างๆ เพราะพอมาใช้บริการแล้วเราไม่ต้องปวดหัวเลยว่าจะมีอาหารให้เลือกทานน้อย มาแล้วจะไม่มีอะไรทานครับ มีแต่มาแล้วจะสั่งอะไรดี มันดูน่าทานน่าสั่งไปหมดเลยครับ ><
ความสะอาดของสถานที่และบรรยากาศโดยรวม : ข้อนี้ไม่มีปัญหาอะไรเลยครับ อยู่ในเกณฑ์ที่ดีทั้งความสะอาดและบรรยากาศต่างๆ ห้องอาหารกว้าง พื้นที่เยอะ มีห้องส่วนตัวหลายขนาด แล้วก็ยังสามารถกั้นเป็น Private Zone ขนาดใหญ่ได้ด้วย โดยรวมๆ ต้องบอกว่าตอบโจทย์ความต้องการหลายรูปแบบได้ดีมากครับ
การบริการของพนักงาน : อันนี้ให้อยู่ในเกณฑ์ที่ดีเลยครับ เพราะวันนั้นแม้ผมจะใช้บริการในห้องส่วนตัว และมีลูกค้าท่านอื่นๆ มาใช้บริการด้านนอกเป็นจำนวนมาก รวมถึงมีกลุ่มใหญ่ขนาดประมาณ 40 คนมาใช้บริการด้วย แต่การบริการต่างๆ ของพนักงานยังอยู่ในระดับที่ดี รวดเร็ว อาหารเสิร์ฟหลังจากสั่งไม่นาน และเมื่อมีการขอให้นำไปอุ่นร้อนใหม่ก็สามารถดำเนินการได้ฉับไวครับ ข้อนี้ชื่นชมเลยครับ
ความสะดวกของการเดินทาง : โดยรวมๆ ต้องบอกว่าห้องอาหาร Sui Sian นั้นเป็นห้องอาหารที่เดินทางสะดวกระดับนึงเลยครับ เพราะโรงแรม Landmark Bangkok นั้นอยู่ห่างจากสถานี BTS นานา เพียงแค่ 50 เมตรเท่านั้นเอง เดินแป๊บเดียวก็ถึง ส่วนคนที่ขับรถมานั้นก็ไม่ต้องกังวลเรื่องที่จอดซักเท่าไหร่ เพราะพื้นที่จอดรถของเค้าค่อนข้างเยอะเลย
ความคุ้มค่า : เรื่องนี้ผมขอพูดเฉพาะมื้อกลางวันวันอาทิตย์ที่ผมทานในครั้งนี้แล้วกันนะครับ สำหรับราคาปกติของไลน์นี้จะอยู่ที่คนละ 1,060 บาท net (รวมชาและเก๊กฮวยรีฟิลเรียบร้อย) และสำหรับใครที่ทำการสำรองที่นั่งล่วงหน้าผ่าน Line@ “@thelandmarkbangkok” จะได้รับสิทธิ์มา 4 จ่าย 3 เหลือคนละ 819 บาท net (รวมชาและเก๊กฮวยรีฟิลเรียบร้อย) ซึ่งโดยส่วนตัวผมมองว่าคุณภาพอาหารแบบนี้ ความหลากหลายแบบนี้ ราคาปกติที่ 1,060 บาท/คน เป็นอะไรที่สมเหตุสมผลและสามารถไปทานได้เลยครับ ไม่แพงเลยเมื่อเทียบกับอาหารที่ได้ และยิ่งใครที่สามารถใช้สิทธิ์มา 4 จ่าย 3 เพื่อไปเหลือที่ 819 บาท/คน ได้ ผมบอกเลยว่าราคานี้น่าสนใจมากๆ คุ้มน่าไปลองสุดๆ ครับ
สรุป : Dimsum All you can eat มื้อเที่ยงวันอาทิตย์ของห้องอาหาร Sui Sian โรงแรม Landmark Bangkok ถือเป็นอีกหนึ่งไลน์บุฟเฟ่ต์ติ่มซำที่ผมค่อนข้างประทับใจมากที่นึงเลยครับ และโดยส่วนตัวผมเองก็ได้มีโอกาสไปใช้บริการบ่อยๆ ในช่วงก่อนหน้านี้ เพราะผมว่าอาหารเค้าหลากหลายดี คุณภาพติ่มซำอยู่ในเกณฑ์ที่ดี แถมมีเมนูอย่างเป็ดปักกิ่ง, หมูหัน, หมูกรอบ ให้ทานไม่อั้นด้วย ในราคาไม่ถึงคนละ 820 บาท (เมื่อใช้โปรโมชั่นมา 4 จ่าย 3) ดังนั้นผมแนะนำเลยว่าใครที่กำลังมองหาไลน์บุฟเฟ่ต์ติ่มซำเกรดโรงแรมที่เดินทางสะดวก มีอาหารให้ทานหลากหลายนอกจากติ่มซำเพียวๆ แล้วก็มีทีเด็ดตรงที่มีเป็ดปักกิ่ง, หมูหันให้ทานไม่อั้น ไลน์นี้ตอบโจทย์มากๆ ครับ จะไปกลุ่มเล็กกลุ่มใหญ่ ต้องการห้องส่วนตัวหรือไม่ทางห้องอาหารเค้าก็มีโต๊ะรองรับหมด ยังไงใครที่ไม่รู้จะไปทานติ่มซำบุฟเฟ่ต์ที่ไหนดี หรือมีอารมณ์อยากกินเป็ดปักกิ่งไม่อั้น ไม่ต้องกังวลเรื่องงบบานปลาย ก็ลองไปใช้บริการที่นี่ดูนะครับ ^^
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านจนจบ ทั้งนี้หากท่านใดที่ต้องการสอบถามข้อมูลต่างๆ ของไลน์อาหารนี้เพิ่มเติม รวมถึงต้องการสำรองที่นั่งต่างๆ ก็สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ช่องทางด้านล่างนี้เลยครับ ส่วนท่านใดที่ต้องการติดตามเรื่องราวการกินและเที่ยวของผมกับต๋งอย่างใกล้ชิดก็สามารถกดติดตามที่เพจ “ภรรยาหา สามีใช้” ได้เลยครับ แล้วพบกันใหม่ในรีวิวหน้า สวัสดีครับ
Fanpage : The Landmark Bangkok Hotel
Tel : 02-2540404
Line@ : @thelandmarkbangkok (สามารถสำรองที่นั่งเพื่อรับสิทธิ์โปรโมชั่นมา 4 จ่าย 3 ได้ที่ช่องทางนี้ครับ)
หมายเหตุ : บทความนี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวของผมในวันที่ไปใช้บริการเท่านั้น ทั้งนี้แต่ละท่านที่ได้มีโอกาสไปใช้บริการอาจจะได้รับการบริการหรือความรู้สึกที่แตกต่างจากนี้ได้