Okami Sushi Premium Buffet A La Carte ถ้าจะว่าไปแล้วร้านอาหารร้านนี้ถือเป็นหนึ่งในร้านอาหารที่มีความผูกพันกับผมพอควรเลยนะ เพราะสมัยที่ร้านนี้เปิดให้บริการครั้งแรกเมื่อประมาณ 5-6 ปีก่อน ที่ The Crystal SB ราชพฤกษ์ และยังใช้ชื่อว่า Okami Sushi Japanese Restaurant อยู่ มันก็เป็นช่วงที่ผมพึ่งเริ่มเขียนรีวิวอาหารรวมถึงเรื่องอื่นๆ แบบจริงจังพอดีครับ ซึ่งตอนนั้นผมก็ได้มีโอกาสไปลองทานอาหารที่ร้านเค้านะ แต่ความประทับใจต่างๆ ก็ยังอยู่ในระดับกลางๆ ไม่ได้มากมายอะไรนัก ซึ่งส่วนหนึ่งก็อาจจะเป็นเพราะวันที่ผมไปนั้นมันเป็นช่วงแรกๆ ที่ร้านเค้าพึ่งเปิดเลย อะไรหลายๆ อย่างก็เลยยังไม่เข้าที่เข้าทางเท่าไหร่ แต่หลังจากนั้นไม่นานผมก็เริ่มได้ยินคนรอบตัวหลายคนเอ่ยถึงร้านนี้ในทางที่ดีขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งในช่วง 1-2 ปีนี้ทางร้าน Okami Sushi ก็ได้มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบครั้งใหญ่ด้วยการเพิ่มการบริการแบบบุฟเฟ่ต์ทานได้ไม่อั้นเข้ามา ก็ยิ่งทำให้หลายๆ คนเอ่ยปากชมมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในเรื่องของเมนูที่มีให้เลือกหลากหลาย รวมถึงราคาต่อคนที่ไม่สูงมากนักครับ
ซึ่งแน่นอนแหละ พอหลายๆ คนเอ่ยปากชมแบบนี้ผมก็ต้องอยากพิสูจน์ด้วยตัวเองซักครั้งใช่มั้ยครับ และกลายเป็นว่าหลังจากที่ผมได้ไปลองใช้บริการบุฟเฟ่ต์ของเค้าในช่วงกลางปีที่ผ่านมาเป็นครั้งแรก หลังจากนั้นที่นี่ก็ได้กลายเป็นหนึ่งในตัวเลือกต้นๆ ที่ผมจะนึกถึงหากต้องการทานบุฟเฟ่ต์ซูชิและอาหารญี่ปุ่นเลยครับ เพราะอาหารเค้ามีให้เลือกหลากหลายจริงๆ ส่วนในเรื่องรสชาตินั้นก็ถือว่าทำได้ดีเลยครับ ไปๆ มาๆ กลายเป็นว่าปีที่แล้วผมน่าจะไปเป็นลูกค้าเค้า 3-4 รอบเลยมั้ง
Disclosure : บทความนี้ได้รับการสนับสนุนจากผู้ให้บริการ แต่ทั้งนี้ความเห็นต่างๆ ที่เกิดขึ้นเป็นความรู้สึกจริงของผมครับ
แต่ๆๆ ถึงปีที่ผ่านมาผมจะได้ไปทานบุฟเฟ่ต์ที่ร้าน Okami Sushi ตั้งหลายที แต่ผมก็ยังไม่มีโอกาสเขียนรีวิวเต็มๆ ลงเวบไซต์แห่งนี้เลยซักครั้งครับ ดังนั้นวันนี้พอผมได้มีโอกาสไปลองทานอาหารที่ร้านนี้อีกครั้งพร้อมกับโปรพิเศษ Okami Plus ที่จ่ายเพิ่มคนละ 299 บาท แล้วได้ทานหอยนางรม, หอยเชลล์โฮตาเตะ และครีบปลาตาเดียวเอ็นกาวะไม่อั้น ผมก็เลยถือโอกาสนี้เขียนรีวิวเต็มๆ ให้ทุกคนอ่านกันเลยครับ ทุกคนจะได้มีข้อมูลในการตัดสินใจในการไปทานมากขึ้น ว่าแล้วก่อนอื่นเราก็ไปทำความรู้จักกับภาพรวมของร้าน Okami Sushi Premium Buffet A La Carte พร้อมกับไลน์บุฟเฟต์ของเค้ากันดีกว่าครับ ^^
ภาพรวมของร้าน Okami Sushi
- ร้าน Okami Sushi Premium Buffet A La Carte เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นที่ให้บริการอาหารทั้งแบบ A la carte และแบบ Buffet ครับ ใครชอบทานแบบไหนก็เลือกได้ตามใจชอบเลย โดยจุดเด่นที่สำคัญของร้านนี้ก็คือมีการคัดเลือกวัตถุดิบต่างๆ ที่ดี มีคุณภาพ มาปรุงอาหารให้พวกเราทานครับ โดยเฉพาะในส่วนของ Buffet นั้น เค้าจะทำใหม่ๆ จานต่อจานเลยนะ
- จุดที่แตกต่างจากร้านอาหารญี่ปุ่นอื่นๆ และเป็นสิ่งที่ร้าน Okami Sushi โดดเด่นมากนั่นก็คือ นอกจากเค้าจะมีปลาและอาหารญี่ปุ่นที่พวกเราคุ้นเคยให้ทานกันมากมายแล้ว ที่นี่ยังมีปลาไทยคุณภาพดีที่ส่งตรงสดๆ จากแพปลาทุกวันมาให้เราเลือกทานด้วยครับ โดยปลาไทยเด่นๆ ของเค้าก็จะประกอบไปด้วย ปลากะพง, ปลาสีเงิน, ปลาสีกุน, ปลาหมึก เป็นต้น ใครอยากลิ้มลองว่ารสชาติเป็นยังไง เด็ดแค่ไหน ก็ไปลองสัมผัสกันได้ครับ แต่ทั้งนี้ผมต้องบอกก่อนนะว่าประเภทของปลาไทยเนี่ยมันจะเปลี่ยนไปตามแต่ละฤดูกาลนะ บางช่วงบางฤดูปลาบางประเภทก็อาจจะไม่มีให้ทานนะครับ
- ในส่วนของ Buffet นั้น โดยปกติทางร้าน Okami Sushi จะมี 2 ราคาให้เลือกทาน คือ ราคาคนละ 499 บาท+ (สามารถสั่งได้ทั้งหมด 69 เมนู) และราคาคนละ 599 บาท+ (สามารถสั่งได้ทั้งหมด 109 เมนู) โดยทั้ง 2 ราคานี้จะนั่งทานได้ 1 ชั่วโมง 40 นาที และยังไม่รวมน้ำนะครับ หากใครต้องการทานเครื่องดื่มก็จะมีชาเขียวร้อนเย็น Refill บริการในราคา 40 บาท+ ครับ (สำหรับบุฟเฟต์ราคา 499 บาท+ นั้นจะมีให้บริการแค่บางสาขาเท่านั้น ซึ่งโดยส่วนตัวแล้ว ผมเชียร์ให้ทุกคนกินแบบ 599 บาท+ นะครับ เพราะเมนูเยอะกว่า ทานแล้วคุ้มค่ากว่ามากครับ)
- ในจำนวนอาหาร 109 รายการของบุฟเฟต์ราคา 599 บาท+ นั้น เราจะสามารถสั่งอาหารมาทานได้หลากหลายประเภทมากๆ ทั้งซูชิ, ซาชิมิ, ข้าวหน้าต่างๆ, อาหารจานร้อน, สลัด, ซุป, สเต๊ก, เนื้อย่าง, ยากิโซบะ, ข้าวห่อสาหร่าย, โรล, รวมไปถึงของทานเล่น ซึ่งในแต่ละประเภทอาหารนั้นก็จะมีแยกย่อยลงไปให้เราสั่งได้อีกมากมาย โดยเฉพาะพวกซูชิกับโรลนี่มีให้ทานเพียบ ทั้งปลาญี่ปุ่น, ปลาไทย, เนื้อ, กุ้ง หรืออื่นๆ ใครชอบทานอาหารพวกนี้ถูกใจแน่ๆ ครับ กินกันเพลินๆ กินกันจนจุกเลยจ้า
- สำหรับคนที่ชอบทานเมนูที่เป็นเอกลักษณ์หรือ Signature ไม่ซ้ำกับร้านอื่นๆ การมาที่ร้าน Okami Sushi คุณจะรู้สึกประทับใจและแตกต่างอย่างแน่นอนครับ เพราะที่นี่จะมีเมนูแปลกๆ อย่าง กุ้งแช่เบียร์, โอคามิวันทัน, ข้าวตังปลาแซลมอนซอสทาทาร์, ซูชิหน้ามันปูมิโสะ, ข้าวหน้ามันกุ้ง และอื่นๆ ให้คุณเลือกทานมากมายเลย ที่สำคัญทางร้านเค้าจะมีการปรุงซอสและน้ำจิ้มต่างๆ ให้เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองด้วย รสชาติของเค้าจึงโดดเด่น แตกต่าง ไม่เหมือนกับร้านอื่นๆ ครับ โดยเมนูที่ผมไม่อยากให้ทุกคนพลาดเลยนั่นก็คือ กุ้งแช่เบียร์, โอคามิวันทัน และข้าวตังปลาแซลมอนซอสทาทาร์ครับ 3 เมนูนี้เด็ดมากๆ
- นอกจาก Buffet ปกติที่เค้ามีให้บริการแล้ว ทางร้าน Okami Sushi ยังมักจะมีโปรเด็ดๆ ที่คุ้มค่ามาให้เราทานเพิ่มด้วยนะครับ อย่างเช่นในช่วงเดือนกรกฎาคม – กันยายน 2563 นี้ เค้าก็มี Okami Plus ที่จ่ายเพิ่มเพียงคนละ 299 บาท+ เท่านั้น แต่สามารถทาน 3 เมนูเด็ดอย่าง หอยนางรมตัวอวบๆ, ครีบปลาตาเดียว (เอ็นกาวะ) และหอยเชลล์โฮตาเตะตัวอ้วนๆ ได้ไม่อั้นเลย ซึ่งผมบอกเลยนะว่าใครที่ชอบทานเมนูเหล่านี้อยู่แล้วไม่ควรพลาดครับ มันคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายเพิ่มไปมาก เพราะเมนูเหล่านี้โดยปกติหากเราสั่งเป็นคำๆ หรือแบบ A la carte มันก็ตกชิ้นละ 80-120 บาทแล้ว ที่สำคัญหอยนางรมของเค้าเนี่ย สด ตัวใหญ่ รสชาติดี แถมมีให้เลือกถึง 3 แบบ ทั้งพริกเผา, พอนซึ แล้วก็ซีฟู้ดครับ แต่ละอันรสชาติเด็ดๆ ทั้งนั้นเลย
หมายเหตุ : สำหรับใครที่อยากจะทานโปร Okami Plus 299 บาท+ นี้ จะต้องเลือกทานบุฟเฟ่ต์แบบ 599 บาท+ เท่านั้นนะครับ ^^
ผมให้ดูภาพของ 3 เมนูพิเศษที่เราจะสามารถทานได้ไม่อั้นในกรณีที่เราเลือกทานแบบ Okami Plus เพิ่มก่อนนะครับ ทุกคนจะได้ตัดสินใจได้ง่ายๆ ว่ามันน่าสนใจแค่ไหน
เริ่มจากหอยนางรมตัวอวบอ้วนที่ส่งตรงมาจากแพทุกวันก่อนนะครับ หอยตัวโตและมีความสดสูง นอกจากนี้เค้ายังมีให้เลือกทานทั้งหมดถึง 3 ซอสด้วยกัน ได้แก่ คือ พริกเผา, พอนซึ และซีฟู้ด บอกเลยว่าใครที่ชอบทานหอยนางรมน่าจะถูกใจมากครับ กินคนละ 5-6 ตัวก็คุ้มกับเงินที่จ่ายเพิ่มไปคนละ 299 บาทแล้วครับ
ส่วนนี่คือซูชิเอ็นกาวะครับ เบิร์นมาใหม่ๆ หอมอร่อยมาก แถมจะกินเท่าไหร่ก็ได้ด้วย
และสุดท้ายคือซูชิหอยเชลล์โฮตาเตะตัวอวบๆ ครับ เป็นยังไงครับแต่ละเมนูน่ากินมั้ยครับ และผมบอกเลยว่าทั้ง 3 เมนูใน Okami Plus นี่ล้วนแต่เป็นเมนูที่ต๋งเค้าชอบทานมากๆ ดังนั้นพอเจอแบบนี้เข้าไปเค้าก็เลยยิ้มแก้มบานเลยจ้า อิ่มและคุ้มมาก
ส่วนใครที่ชอบทานแซลมอนหรือที่หลายๆ คนเรียกกันเล่นๆ ว่าปลาส้มก็ต้องนี่เลย ซาชิมิแซลมอน ลายสวย รสชาติดีเลยครับ ที่สำคัญเมนูพวกนี้มีอยู่ในราคาบุฟเฟ่ต์ปกติ 599 บาทนะครับ เราสามารถสั่งได้เต็มที่ ไม่ต้องจ่ายอะไรเพิ่มอีกเลยครับ ^^
และที่เด็ดกว่าใครเลยก็คือ ร้าน Okami Sushi เนี่ย เค้าจะมีปลาไทยสดๆ ที่ส่งตรงจากแพปลามาให้บริการทุกวันด้วยนะ ใครอยากรู้ว่ารสชาติเป็นยังไงก็ต้องไปลองครับ!!
อ๊ะ เล่าเรื่องพื้นฐานของร้าน รวมทั้งเอาภาพอาหารบางส่วนมายั่วน้ำลายกันแล้ว คราวนี้เราไปดูรายละเอียดกันแบบเจาะลึกกันดีกว่าครับ เริ่มจากสาขาที่ให้บริการกันก่อนเลย โดยปัจจุบันนี้ทาง Okami Sushi จะมีทั้งหมด 4 สาขานะครับ ได้แก่ สาขา Crystal SB ราชพฤกษ์ ชั้น 3, สาขาพรรคภูมิใจไทย พหลโยธิน 43, สาขาซีคอนศรีนครินทร์ ชั้น 4 และสาขาพาซิโอ กาญจนาภิเษกครับ
สำหรับวันนี้ผมมากินที่สาขา
โดยข้อดีของการมาทานที่สาขานี้คือ มันจะมีมุมสวยๆ สไตล์ญี่ปุ่นให้เราถ่ายรูปเพียบเลยครับ ใครพอมีเวลาก็ลองเดินเล่นภายในพาซิโอ ก่อนที่จะเดินเข้าร้านนะครับ
ส่วนนี่เป็นบรรยากาศภายในร้านครับ โปร่ง สวยงาม สบายตา โดยถ้าผมนับไม่ผิดภายในสาขานี้เค้าน่าจะมีโต๊ะประมาณ 20 ตัว และสามารถรองรับคนมาใช้บริการพร้อมๆ กันประมาณ 50-60 ที่นั่งได้สบายๆ โดยที่ไม่แอดอัด และยังมีบรรยากาศที่เป็นกันเองอยู่ครับ
ส่วนนี่เป็นหน้าตาของเมนู 599 บาท+ ครับ จะมี 2 หน้าให้เราเลือกสั่งนะครับ โดยราคานี้จะยังไม่รวมชาเขียว Refill 40 บาทต่อคน และสามารถนั่งทานอาหารได้ทั้งหมด 1 ชั่วโมง 40 นาทีนะครับ
ใครดูชื่ออาหารในภาพด้านบนไม่ชัดก็ลองดูในภาพนี้แทนก็ได้ครับ ผมถ่ายจากใบสั่งอาหารมาให้ดู โดยทางร้านเค้าจะมีการแยกประเภทในใบสั่งอาหารออกเป็นหมวดต่างๆ เช่น อาหารทานเล่น, ซุป, ยำ, ข้าวหน้าต่างๆ, สลัด, สเต๊ก, อาหารจานร้อน, ของทอด, โซบะ, ซูชิ, ซาชิมิ, ข้าวห่อสาหร่าย, โรล เป็นต้น เพื่อให้เราสามารถดูและสั่งได้ง่ายๆ ครับ
มาดูกันที่หน้าตาอาหารแต่ละอย่างกันดีกว่าครับ แต่บอกไว้ก่อนนะว่าผมได้ลองไม่ครบทุกเมนูนะ เพราะมันมีให้สั่งเยอะมากจริงๆ ลองหมดไม่ไหวครับ @_@
เริ่มจากพวกซาชิมิก่อนเลยนะครับ โดยซาชิมิของเค้าจะมีทั้งปลาไทย ปลาต่างประเทศ รวมถึงไข่หวาน ปูอัดครบๆ เลย บอกเลยน่าสนใจมาก นอกจากนี้สำหรับใครที่ชอบกินสาหร่ายพวงองุ่นแบบต๋งก็น่าจะถูกใจแน่ๆ เพราะเค้ามีเมนูซาชิมิสาหร่ายพวงองุ่นให้เราสั่งด้วย จิ้มกับน้ำจิ้มซีฟู้ดเค้านี่อร่อยมากๆ และโดยปกติแล้วเมนูนี้หากเราซื้อข้างนอกกินเองกิโลกรัมนึงก็หลายร้อยแล้วครับ นี่อยากกินเท่าไหร่ก็สั่งโลดดดด
ส่วนนี่เป็นเมนูเด็ดอื่นๆ ของทางร้านที่ผมอยากแนะนำครับ เมนูเหล่านี้ไม่อยากให้ใครไปที่ร้านครั้งแรกแล้วพลาดเลย มันอร่อยและควรสั่งมาลองมาก
เริ่มจากข้าวตังปลาแซลมอนซอสทาทาร์นะครับ เมนูนี้แปลกทั้งชื่อและหน้าตาเลย เพราะนี่เป็นการฟิวชั่นผสมผสานระหว่างอาหารไทยและญี่ปุ่นครับ ตัวข้าวตังจะกรอบๆ และไม่ค่อยมีรสชาติซักเท่าไหร่ แต่พอนำไปจิ้มแซลมอนทานแล้วลงตัวมากครับ
ต่อกันที่โอคามิวันทัน เมนูนี้ผมชอบมาก จะเป็นเกี๊ยวกรอบที่มีการท็อปปิ้งด้วยแซลมอนกับซอสด้านบน อร่อยลงตัวมากๆ ครับ
และเมนูที่สามที่ผมอยากจะแนะนำทุกคนให้รู้จักนั่นก็คือกุ้งแช่เบียร์ครับ อร่อย กลมกล่อม เคี้ยวเพลินมาก กินเรื่อยๆ แบบหยุดไม่ได้เลย ผมแนะนำเป็นพิเศษเลยนะว่าทั้ง 3 เมนูนี้เป็นเมนูเด็ดที่พวกเราไม่ควรพลาดที่จะลองเลยครับ รสชาติดี แถมหาทานที่ร้านอื่นได้ยากมากๆ ด้วย
ถัดจากเมนูเด็ด 3 อันที่ผมไม่อยากให้ทุกคนพลาด คราวนี้เราวกกลับมาที่ 3 เมนูที่มีเฉพาะการทานแบบ Okami Plus กันดีกว่าครับ นั่นก็คือหอยนางรม, หอยเชลล์โฮตาเตะ และเอ็นกาวะ ทุกคนจะได้เห็นชัดๆ เลยว่ามันเป็นยังไง โดยในส่วนของหอยนางรมนั้นจะมีให้เลือกถึง 3 แบบเลย ได้แก่ พริกเผา, พอนซึ และซีฟู้ดครับ
หอยนางรมแต่ละตัวนั้นสดดี ขนาดก็ถือว่าตัวโต เนื้อเยอะครับ ส่วนซอสทั้ง 3 แบบนั้นก็มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง อร่อยคนละสไตล์เลยครับ
ส่วนนี่ซูชิหอยเชลล์โฮตาเตะครับ จะสั่งมาทานเท่าไหร่ก็ได้เลย
และที่ถูกใจต๋งสุดๆ ก็ต้องนี่เลยครับ ซูชิเอ็นกาวะแบบไม่อั้นจ้า ใครชอบทานนี่ฟินแน่นอนคร้าบบบบบบ
ดูพวกเมนูพิเศษใน Okami Plus ไปครบแล้ว คราวนี้ตัดกลับมาดูที่เมนูปกติที่เราสามารถทานได้ในราคา 599 บาท+ แบบที่ไม่ต้องจ่ายอะไรเพิ่มกันดีกว่าครับว่ามันมีอะไรที่น่าสนใจบ้าง ซึ่งผมบอกเลยว่ามีอีกเพียบ!! โดยเฉพาะพวกซูชิกับโรลครับ เค้ามีให้เลือกสั่งเยอะมาก กุ้ง, ปลาไหล, ปลาบิน, เนื้อ, แซลมอน, ไข่หวาน, ปลาหมึก, ปูอัด รวมถึงปลาไทย มีให้เลือกสั่งหมดเลยครับ
หน้าอะโวคาโดแบบนี้ก็มีนะ
ส่วนขาเนื้อก็ต้องนี่เลย ซูชิเนื้อสุดอร่อย แถมมี 2 แบบให้เลือกสั่ง คือ ซอสทาทาร์ กับซอสเทอริยากิ วันนั้นผมจัดไปหลายคำเลยครับ
หรือถ้าใครเห็นเมนูมันเยอะจัด ตาลาย สั่งไม่ถูก ก็สามารถสั่งเป็นเซ็ตซูชิที่ทางร้านเค้าจัดไว้เรียบร้อยแล้วก็ได้นะ ง่ายและสะดวกดีครับ เค้ามีหลายเซ็ตให้เลือกเลย
ส่วนนี่เป็นพวกสเต๊กและอาหารจานร้อนต่างๆ ครับ เนื้อ, หมู, ปลา, ปลาหมึก, แมงกะพรุน มีมาครบๆ
และพวกนี้เป็นยำต่างๆ ครับ มีเลือกทานหลายแบบเหมือนกัน โดยวันนี้ผมลองทานเป็นแซลมอนยำสไตล์ญี่ปุ่นกับปลาสีกุนยำไทย อร่อยทั้งคู่เลยครับ รสชาติแซ่บดี ช่วยเบรก ช่วยตัดรสได้ดีเลย
ส่วนพวกนี้เป็นข้าวหน้าต่างๆ ครับ มีให้เลือกสั่งอีกหลายรายการเหมือนกัน โดยในภาพนี้จะเป็นข้าวหน้ามันกุ้งและข้าวหน้าปลาแซลมอนซอสมิโสะนะครับ
และนี่เป็นพวกเมนูของทานเล่นต่างๆ ครับ เป็นอีกหนึ่งประเภทอาหารที่มีให้เลือกสั่งเยอะมาก เช่น ยากิโซบะ, ถั่วแระญี่ปุ่น, หมึกสายวาซาบิ, ครีบปลากระเบนย่าง, หัวปลาแซลมอนต้มซีอิ๊ว, ไส้กรอกญี่ปุ่นทอด, เบคอนพันเห็ดเข็มทองย่าง, หนังปลาแซลมอนทอด, เห็ดเข็มทองผัดเนย, เห็ดออรินจิผัดเนย, ยำสาหร่าย, กิมจิ เป็นต้น
ผมได้ลองทานไปทั้งหมด 6-7 เมนู อร่อยทุกเมนูเลยครับ โดยเฉพาะครีบปลากระเบนย่าง เมนูนี้ผมชอบมาก
ปิดท้ายกันด้วยของหวานกับ “มันม่วงนมสด” บอกเลยถ้วยนี่อร่อยมาก ห้ามพลาดเด็ดขาดครับ อร่อยจนเวลาผมไปทานอาหารที่นี่ทีไร ผมต้องต้องขอเบิ้ลตลอดครับ!!
และทั้งหมดนี้ก็คือภาพรวมของบุฟเฟ่ต์ซูชิและอาหารญี่ปุ่นจากร้าน Okami Sushi Premium Buffet A La Carte พร้อมกับโปรโมชั่น Okami Plus ครับ ใครที่สนใจก็สามารถลองไปทานได้นะ ปัจจุบันร้านเค้ามีทั้งหมด 4 สาขาตามนี้ ส่วนโปรโมชั่น Okami Plus ที่มีหอยนางรม, หอยเชลล์โฮตาเตะ และครีบปลาตาเดียวเอ็นกาวะไม่อั้นนั้น จะมีถึงวันที่ 30 กันยายน 2563 นะครับ
สาขาของร้าน Okami Sushi
- สาขา Crystal SB ราชพฤกษ์ ชั้น 3 โทร. 02-102-5656
- สาขา พรรคภูมิใจไทย พหลโยธิน 43 โทร02-091-1039
- สาขา ซีคอนศรีนครินทร์ ชั้น 4 โทร 02-136-4233
- สาขา พาซิโอกาญจนา โทร. 02-111-3970
และก็เป็นธรรมเนียมของผมเนอะเวลาที่เขียนรีวิวถึงร้านอาหารต่างๆ ผมก็จะมีการสรุปทิ้งท้ายเอาไว้ให้ทุกคนอ่านเป็นเรื่องๆ ว่าแต่ละเรื่องนั้นผมคิดเห็นอย่างไรบ้าง ว่าแล้วก็ตามไปอ่านกันได้เลยครับว่าสำหรับบุฟเฟ่ต์ร้าน Okami Sushi Premium Buffet A La Carte ในช่วงปี 2563 นั้น ผมคิดเห็นอย่างไรบ้างครับ
วันที่รับประทาน : วันศุกร์ที่ 10 กรกฎาคม 2563
ช่วงเวลา : 18.30 – 21.00 น.
จำนวน : 2 คน
รสชาติอาหาร : อ่านผ่านๆ จากรีวิวทั้งหมดที่ผมเขียนมา หลายๆ คนอาจจะคิดว่าอาหารร้านนี้รสชาติอร่อยแบบ 10 เต็ม 10 ใช่มั้ยครับ แต่ผมต้องบอกตรงนี้นะว่าระดับความอร่อยยังไม่ถึงขั้นนั้นครับ แต่โดยรวมรสชาติของเค้าอยู่ในเกณฑ์ที่ดี มีหลายเมนูที่รสชาติดีมากและหากินที่อื่นไม่ได้ เช่น กุ้งแช่เบียร์, โอคามิวันทัน, ข้าวตังปลาแซลมอนซอสทาทาร์ เป็นต้น ส่วนพวกเมนูชูโรงอย่างหอยนางรม, หอยเชลล์โฮตาเตะ, ครีบปลาตาเดียวเอ็นกาวะ รวมไปถึงซาชิมิอย่างแซลมอน, ปลาไทย และสาหร่ายพวงองุ่น พวกนี้ก็ถือว่าทำรสชาติออกมาได้ดีมากครับ ส่วนเมนูอื่นๆ ที่เหลือนั้นก็มีรสชาติปะปนกันไปทั้งปานกลาง, ดี, ดีมาก จนไปถึงยังไม่ประทับใจซักเท่าไหร่ครับ แต่โดยรวมแล้วเมื่อเทียบสัดส่วนรสชาติของอาหารทั้งหมด ผมว่านี่เป็นร้านบุฟเฟ่ต์อาหารญี่ปุ่นและซูชิที่คุณภาพดีและน่าสนใจร้านนึงเลยครับ
ความหลากหลายของอาหาร : เรื่องนี้สอบผ่านแบบไม่ต้องคิดเลยครับ อาหารมีให้เลือกสั่งเยอะมากและมีหลายประเภทด้วย จะกินซูชิ, ซาชิมิ, ของทานเล่น, ซุป, อาหารจานร้อน, สเต๊ก หรืออื่นๆ ที่นี่ก็มีให้เลือกเพียบครับ และด้วยความหลากหลายของมันนี่แหละทำให้ผมคิดว่าร้านนี้เหมาะมากๆ ที่จะนัดเพื่อนฝูงหรือคนกลุ่มใหญ่ๆ มาทานร่วมกันครับ ทุกคนจะสนุกกับการสั่งและการกินมากๆ ครับ
ความสะอาดของสถานที่และบรรยากาศโดยรวม : ข้อนี้ก็ถือว่าดีครับ สอบผ่านเหมือนกัน พื้นที่ของร้านกว้าง เพดานสูง รองรับคนมาใช้บริการทีละมากๆ ได้ ส่วนความสะอาดก็ไม่มีอะไรต้องติครับ โดยในหัวข้อนี้ถ้าจะมีเรื่องต้องติน่าจะมีเรื่องเดียวคือโต๊ะของสาขาพาซิโอที่ผมไปใช้บริการนั้น ตรงกลางโต๊ะจะมีลักษณะเหมือนเป็นที่ฝังหม้อหรือเตาปิ้งของร้านเดิมก่อนที่ร้าน Okami Sushi จะมาเปิดบริการครับ ซึ่งตอนนี้ทางร้าน Okami Sushi เค้าก็ได้ทำการปิดไว้แล้วแหละ เพียงแต่ว่าเวลาที่เราเห็นนั้นเราอาจจะรู้สึกแปลกๆ ตาบ้างครับ
การบริการของพนักงาน : โดยรวมถือว่าดีครับ ไม่มีอะไรต้องติ พนักงานเสิร์ฟอาหารเร็ว สอบถามข้อมูลรู้เรื่อง แล้วก็เวลาขอความช่วยเหลืออะไรก็ได้รับการตอบสนองที่ดีครับ
ความสะดวกของการเดินทาง : ถ้าหากพูดถึงเฉพาะสาขาพาซิโอ ถนนกาญจนาภิเษกที่ผมไปใช้บริการนั้น ก็ต้องบอกตามตรงครับว่ามันยังไม่สะดวกซักเท่าไหร่ เพราะพื้นที่บริเวณนี้เหมาะสำหรับคนที่มีรถส่วนตัวเป็นหลักครับ รถประจำทางต่างๆ ยังมีบริการน้อยมาก อีกทั้งพื้นที่จอดรถเองก็ดูจะมีปัญหาในบางวัน ใครดวงไม่ดีก็อาจจะต้องวนหาที่จอดรถนานหน่อย แต่ทั้งนี้ทางร้าน Okami Sushi เค้าก็มีอีก 3 สาขาให้เราไปเลือกใช้บริการนะ ใครดูแล้วสะดวกสาขาไหนมากกว่าก็เลือกไปใช้บริการที่สาขานั้นแล้วกันนะครับ เพราะแต่ละคนน่าจะสะดวกไม่เหมือนกันเนอะ ^^
ความคุ้มค่า : ในหัวข้อนี้ผมขอพูดทั้งสองส่วนเลยนะครับ คือ ทั้งในส่วนของราคาบุฟเฟ่ต์ปกติคนละ 599 บาท+ และ Okami Plus ที่ต้องจ่ายเพิ่มคนละ 299 บาท+ โดยผมมองว่าทั้งสองราคานี้คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปมากครับ เพราะในราคาประมาณนี้เราจะหาร้านอาหารญี่ปุ่นที่มีเมนูอาหารให้เลือกทานเยอะแบบนี้ได้ยากมากๆ ครับ และยิ่งถ้าเป็นบุฟเฟ่ต์โรงแรมที่ไม่ได้เน้นเรื่องอาหารญี่ปุ่นแล้ว ผมบอกเลยว่าที่นี่กินขาดครับ ใครที่กำลังมองหาบุฟเฟ่ต์อาหารญี่ปุ่นแบบจัดหนักจัดเต็มอยู่ ที่นี่น่าจะตอบโจทย์เลย จะกินแค่แบบ 599 บาท+ ก็ได้ แค่นี้ก็อิ่มและจุกมากๆ แล้ว หรือถ้าใครเป็นคนที่ชอบทานหอยนางรม, หอยเชลล์โฮตาเตะ และเอ็นกาวะอยู่แล้ว จะจ่ายเพิ่มอีกคนละ 299 บาท+ ก็ยังถือว่าคุ้มค่าอยู่ครับ เพราะเมนูพิเศษเหล่านี้ปกติกินแยกเป็นคำๆ ก็ราคาประมาณคำละ 80-120 บาทเลย พอมาจัดโปรเหลือ 299 บาทแบบนี้ มันเลยดูคุ้มค่าน่าสนใจมากครับ
สรุป : สำหรับใครที่กำลังมองหาบุฟเฟ่ต์อาหารญี่ปุ่นที่มีอาหารให้เลือกทานหลากหลาย และมีให้ทานครบๆ ทั้งซูชิ, ซาชิมิ, อาหารทานเล่นต่างๆ รวมถึงไม่ได้มีข้อจำกัดด้วยว่าต้องเป็นบุฟเฟ่ต์ในโรงแรม ร้าน Okami Sushi ถือเป็นร้านที่น่าสนใจมากครับ โดยภาพรวมในเรื่องคุณภาพอาหาร, ความหลากหลายของเมนู และความเป็นเอกลักษณ์ของอาหาร เค้าสอบผ่านสบายๆ เลย อีกทั้งยังมีเมนูจากปลาไทยหลากชนิดให้ทานด้วย ซึ่งตรงนี้ถือเป็นจุดแข็งมากๆ ที่ร้านอื่นๆ ไม่ค่อยมีให้ทานกัน โดยสำหรับผมถ้าจะมีติดก็น่าจะมีเรื่องเดียวเท่านั้น คือ เวลาในการรับประทานอาหารของเค้าจะอยู่ที่ 1 ชั่วโมง 40 นาทีเท่านั้น ซึ่งอาจจะทำให้คนที่ไปกินกันเป็นกลุ่มใหญ่ๆ หรือคนที่ต้องการนั่งคุยเมาท์มอยนานๆ รู้สึกขัดใจบ้าง หากทางร้านสามารถปรับเวลาในการทานเป็น 2 ชั่วโมงได้ มันน่าจะทำให้หลายๆ คนประทับใจมากขึ้นครับ
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านจนจบนะครับ ทั้งนี้หากท่านใดที่ต้องการสอบถามข้อมูลต่างๆ ของทางร้าน Okami Sushi เพิ่มเติม ก็สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ช่องทางด้านล่างนี้เลยครับ ส่วนท่านใดที่ต้องการติดตามเรื่องราวการกินและเที่ยวของผมกับต๋งอย่างใกล้ชิดก็สามารถกดติดตามที่เพจ “ภรรยาหา สามีใช้” ได้เลยครับ แล้วพบกันใหม่ในรีวิวหน้า สวัสดีครับ
Fanpage : Okami Sushi Premium Buffet A La Carte
หมายเหตุ : บทความนี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวของผมในวันที่ไปใช้บริการเท่านั้น ทั้งนี้แต่ละท่านที่ได้มีโอกาสไปใช้บริการอาจจะได้รับการบริการหรือความรู้สึกที่แตกต่างจากนี้ได้