หลังจากที่ก่อนหน้านี้ผมได้พาทุกคนไปรู้จักกับ Sunday Brunch ของโรงแรม SO Sofitel Hua Hin (โซ โซฟิเทล หัวหิน) ที่เปิดให้บริการทุกวันอาทิตย์ที่ห้องอาหาร Beach Society (บีช โซไซตี้) มาแล้ว วันนี้ผมจะพาทุกคนไปรู้จักกับอีกมุมหนึ่งของห้องอาหาร Beach Society มุมที่คนรักในสายลม ชายหาด ท้องทะเล และเสียงเพลงแจ๊สน่าจะถูกใจกัน กับอีเว้นท์สุดพิเศษที่จะมีทุกคืนวันเสาร์ที่ 3 ของเดือนอย่าง Gin and Jazz (จินแอนด์แจ๊ส) ครับ
ใครที่อ่านจบแล้วรู้สึกโดนใจ รู้สึกว่านี้มันใช่ ก็สามารถไปร่วมอีเว้นท์นี้ได้เลยนะครับ เพราะไม่จำเป็นที่เราจะต้องเข้าพักที่โรงแรมแห่งนี้ เราก็สามารถไปร่วมอีเว้นท์พิเศษนี้ได้อย่างสบายๆ ครับ ^^
Disclosure : บทความนี้ได้รับการสนับสนุนจากผู้ให้บริการ แต่ทั้งนี้ความเห็นต่างๆ ที่เกิดขึ้นเป็นความรู้สึกจริงของผมครับ
หมายเหตุ : วงดนตรีจะบรรเลงเพลงแจ๊ส 2 รอบ คือ ตั้งแต่เวลา 17:30 น. ถึง 18:30 น. และตั้งแต่เวลา 20:00 น. จนถึงเวลา 21:00 น. ซึ่งในช่วงที่วงดนตรีพักการบรรเลงนั้น จะมีการเปิดเพลงจากดีเจแทนครับ โดยแนวเพลงที่เปิดจะเป็นการผสมกันระหว่างจังหวะอิเล็กทรอนิคส์กับดนตรีแจ๊ส
- Beetroot Cured Salmon ราคา 550 บาท net
- Gin-Baked Black Mussel with Ginger and Garlic Lemon Sauce ราคา 450 บาท net
- French Fine de Claire Oysters ราคา 630 บาท net
รสชาติโดยรวมๆ ของทั้ง 3 เมนูนี้ถือว่าดีเลยครับ โดย Beetroot Cured Salmon นั้นจะเป็นเนื้อปลาแซลมอนรมควันหมักกับบีทรูทเสิร์ฟพร้อมกับครีมเปรี้ยวและแตงกวาดอง ส่วน Gin-Baked Black Mussel with Ginger and Garlic Lemon Sauce จะเป็นหอยแมลงภู่ดำอบในเหล้าจินกับซอสขิงและเลมอนกระเทียม รายการนี้จะออกเผ็ดเล็กๆ ครับ และสุดท้าย French Fine de Claire Oysters หรือหอยนางรม ‘ฟิน เดอ แคลร์’ จากประเทศฝรั่งเศสที่หลายๆ คนชื่นชอบ รายการนี้ในหนึ่งจานจะมีหอยนางรมทั้งหมด 5 ตัว เสิร์ฟมาพร้อมกับซอส 5 สไตล์ ทั้งซอสจินโทนิค (Gin & Tonic), ซอสพอนซึสไตล์ญี่ปุ่น, น้ำจิ้มซีฟู้ดรสแซ่บแบบไทยๆ, ซอสคิลแพทริค (Kilpatrick) และซอสสุดคลาสสิกอย่างมิโยเน็ต (Mignonette) ใครที่ถูกชะตากับเมนูไหนก็ลองสั่งมาทานดูนะครับ
หมายเหตุ : ที่เห็นหอยนางรม Fine de Claire ในจานผมมี 6 ตัวนั้นเป็นการจัดให้เป็นกรณีพิเศษนะครับ สำหรับการเสิร์ฟทั่วไปจะมีแค่ 5 ตัว/จาน เท่านั้น
สำหรับตัวผมเองก็ได้มีโอกาสทานไป 6-7 อย่างด้วยกัน รสชาติแต่ละอย่างนั้นทางห้องอาหารก็ทำออกมาได้ดีเลยครับ โดยเฉพาะ Larb Talay Pizza และของหวาน 3 รายการที่อยู่ด้านล่างสุด ผมขอแนะนำเป็นพิเศษเลย ><
- Smoke Fish Tartine ราคา 280 บาท
- Grilled Seabass ราคา 380 บาท
- Larb Talay Pizza ราคา 390 บาท
- Truffled Potato & Shrimp Pizza ราคา 360 บาท
- Cookie Lava ราคา 260 บาท
- Cro-Nuts ราคา 280 บาท
- Chocolate Slap ราคา 340 บาท
และไหนๆ ก็อุตส่าห์ชื่อว่างาน Gin and Jazz ทั้งที ถ้าผมจะไม่พูดถึงเครื่องดื่มที่เป็นพระเอกของงานอย่างค็อกเทลที่มีส่วนผสมของจินนั้นก็คงแปลกๆ ใช่มั้ยล่ะครับ โดยในงาน Gin and Jazz ที่ห้องอาหาร Beach Society นั้น เค้าจะมีเครื่องดื่มค็อกเทลจินโทนิคสูตรพิเศษให้เราสั่งมากมายกว่า 10 รายการเลย ทั้งค็อกเทลสูตรพิเศษที่ผ่านการคิดค้นสูตรโดย World Class Mixologist (นักปรุงเครื่องดื่มจากเวทีการประกวดระดับโลก) หรือค็อกเทลสูตรพิเศษที่ทาง SO Sofitel Hua Hin คิดค้นขึ้นมาเองและสามารถหาทานได้เฉพาะที่นี่เท่านั้น ใครที่เป็นคนชอบทานค็อกเทลที่มีส่วนผสมของจินโทนิคก็ลองสอบถามกับพนักงานดูนะครับว่าแต่ละสูตรมีส่วนผสมของอะไรบ้าง จะได้สั่งมาทานแล้วรสชาติถูกปากแต่ละคนที่สุดครับ
และถ้าใครชอบอะไรที่ Advance หรือความมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใครก็ต้องนี่เลย “การผสมสูตรค็อกเทลด้วยตัวเอง” โดยในงาน Gin and Jazz นี้ คุณสามารถให้บาร์เทนเดอร์ผสมสูตรค็อกเทลที่คุณคิดเองได้ โดยทางห้องอาหารจะมีรายการวัตถุดิบที่คุณสามารถเลือกได้มาให้ คุณก็เพียงเลือกว่าในแต่ละหมวดนั้นคุณจะเลือกอะไรใส่ลงไป จากนั้นก็ตั้งชื่อของเครื่องดื่มที่คุณคิดค้นลงในกระดาษแล้วส่งใบรายการให้กับพนักงาน ไม่นานเครื่องดื่มที่คุณคิดค้นก็จะถูกนำมาเสิร์ฟให้ที่โต๊ะครับ
อย่างผมในวันนั้นก็เลือกผสมตามนี้ครับ
Gin : Citadelle Reserve
Tonic : Fertimans Rose Lemonade
Botany : Pineapple Slice
ส่วนชื่อเครื่องดื่มนั้นผมตั้งว่า “Amazingcouple” ตามชื่อเว็บไซต์ผม และผมบอกเลยว่ามันคือความล้มเหลวมาก ผมรู้สึกว่ามันไม่เข้ากันเลย ใครที่จะสั่งสูตรนี้ขอให้คิดให้ดีก่อนนะครับ อย่าดำเนินตามรอยผมเลย 555555
สำหรับราคาของเครื่องดื่มค็อกเทลจินโทนิคประเภทต่างๆ ที่มีอยู่ในงาน Gin and Jazz จะอยู่ที่แก้วละ 360 บาท net รวมไปถึงเครื่องดื่มสูตรที่เราคิดค้นขึ้นมาเองด้วย แต่ถ้าใครชอบทานค็อกเทลประเภทอื่นๆ ที่ไม่ใช่จินโทนิคก็สามารถขอเมนูจากพนักงานได้ เค้าจะมีอีกหลายเมนูให้เลือกและมีราคาที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งถ้าจะให้ดีผมแนะนำให้ทุกคนรีบสั่งตอน Happy Hours ที่อยู่ในช่วงเวลา 17.00 น. – 20.00 น. นะครับ เพราะช่วงนั้นจะเป็นช่วงเวลาพิเศษที่ซื้อ 1 แถม 1 ><
แต่ถ้าใครไม่สนใจพวกค็อกเทลก็สามารถสั่งเป็นม็อคเทลหรือเครื่องดื่มอื่นๆ มาทานได้เช่นกัน ฟังเพลงแจ๊สเพราะๆ จิบเครื่องดื่มอร่อยๆ กินอาหารดีๆ พร้อมกับวิวทะเลสวยๆ ในยามเย็น มันเป็นอะไรที่ผมว่าแจ่มใช้ได้เลยครับ เหมือนได้พักผ่อน ได้ชาร์จพลัง และได้ตัดขาดกับความวุ่นวายหลายๆ อย่างที่รบกวนสมองของเราออกไปเลย
.
.
ไม่แน่นะว่าหากคุณไปครั้งแรกแล้ว….คุณอาจจะติดใจจนอยากไปทุกเดือนเลยก็ได้ ^^
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านจนจบ สำหรับใครที่อยากจะอ่านรีวิวฉบับเต็มของโรงแรม SO Sofitel Hua Hin ก็สามารถคลิกที่นี่ได้เลยครับ และเพื่อไม่ให้พลาดทุกข่าวสารของการกินและเที่ยวของผมกับต๋ง ทุกท่านอย่าลืมกดติดตามแฟนเพจ “ภรรยาหา สามีใช้” ไว้นะครับ ส่วนใครที่อยากจะสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการไปใช้บริการที่ห้องอาหารแห่งนี้ก็สามารถเข้าไปสอบถามที่ช่องทางด้านล่างนี้ได้เลย แล้วพบกันใหม่ สวัสดีครับ
Fanpage : SO Sofitel Hua Hin
Tel : 032–709555
หมายเหตุ : บทความนี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวของผมในวันที่ไปใช้บริการเท่านั้นครับ แต่ละท่านที่ได้มีโอกาสไปใช้บริการอาจจะได้รับการบริการที่แตกต่างจากนี้