ช่วงปลายเดือน มี.ค. 67 ผมได้มีโอกาสไปเที่ยวปักกิ่ง (Beijing) มาเป็นเวลา 6-7 ครับ โดยการเที่ยวในครั้งนี้เป็นการเที่ยวด้วยตัวเองแทบทั้งหมด วางแผนเอง จองตั๋วอะไรต่าง ๆ เอง และในโปรแกรมที่ผมได้วางไว้นั้นก็มีการไปเที่ยวกำแพงเมืองจีน หรือที่เรียกว่า Great Wall of China ด้วยครับ โดยจากตัวเมืองปักกิ่งนั้นเราจะสามารถไปเที่ยวกำแพงเมืองจีนได้หลายด่านมาก ๆ เช่น ปาต้าหลิง, มู่เถียนอวี้ (มู่เทียนยู่), ซือหมาไถ เป็นต้น แต่สุดท้ายแล้วผมก็ตัดสินใจที่จะไปที่ด่านมู่เถียนอวี้ (Mu Tian Yu) โดยผ่านบริการของ Mubus ครับ เพราะผมว่ามันสะดวกในการเดินทางและการจัดการต่าง ๆ ดี อีกทั้งด่านนี้คนก็ไม่ได้เยอะมาก และเค้ามีกิจกรรมให้ทำหลายอย่างเลยครับ เช่น นั่งเคเบิ้ลคาร์, นั่งรถรางสไลด์ Toboggan เป็นต้น
ใครที่สนใจจะไปเที่ยวกำแพงเมืองจีนด่านนี้ก็ลองไล่อ่านดูนะครับ ผมเขียนสรุปเรื่องที่ควรรู้ออกมาให้ครบถ้วนแล้วครับ
จุดเด่นของกำแพงเมืองจีนด่าน Mu Tian Yu
- อยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองปักกิ่งมากนัก ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงนิด ๆ ก็ถึง
- ตัวกำแพงเมืองจีนถูกบูรณะเรียบร้อยแล้ว ทำให้มีความสวยงามและสมบูรณ์ เหมาะแก่การเดินเล่นและถ่ายรูปมาก
- เป็นสถานที่ที่มีการถ่ายทำภาพยนตร์และละครที่มีชื่อเสียงหลายเรื่อง และมีจุดที่เป็นไฮไลท์สำหรับถ่ายภาพพอควร
- มีพื้นที่ให้เดินชมเยอะมาก ๆ และมีการแบ่งรูทการเดินหลักออกเป็น 2 ฝั่ง คือ ฝั่งตะวันตก (West) และฝั่งตะวันออก (East)
- มีกิจกรรมให้ทำเยอะทั้งเคเบิ้ลคาร์ และรถรางสไลด์ Toboggan โดยอย่างหลังนั้นเป็นอะไรที่ผมว่าสนุกใช้ได้เลยครับ
- มีร้านอาหารและร้านขายของภายในพื้นที่เป็นจำนวนมาก แต่ว่าราคาค่อนข้างสูงนะ ใครจะซื้ออะไรก็หาข้อมูลหรือตัดสินใจดี ๆ ก่อนครับ
- ปริมาณนักท่องเที่ยวต่อวันน้อยกว่าด่านปาต้าหลิง
- สภาพห้องน้ำตามจุดต่าง ๆ ดี สะอาด ไม่มีอะไรให้ต้องสยองขวัญ แต่ว่ารูปแบบของส้วมมันจะเป็นแบบนั่งยองนะ
ราคา 1 Day Trip แบบพื้นฐานของ Mubus
คนละ 150 หยวน (ราคานี้อ้างอิง ณ เดือน มี.ค. 67 ซึ่งเป็นช่วง Low Season ของการเที่ยวประเทศจีนนะครับ)
สิ่งที่ได้ใน 1 Day trip แบบพื้นฐาน
- รถบัสปรับอากาศพาเดินทางไปกลับระหว่างสถานี Dongzhimen ในเมืองปักกิ่ง และกำแพงเมืองจีนด่าน Mu Tian Yu (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชม./ขา)
- ค่าเข้ากำแพงเมืองจีน (ปกติคนละ 40 หยวน)
- ค่ารถ Shutter Bus ในด่านมูเทียนยู่ (ปกติคนละ 15 หยวน)
- จุดบริการรับฝากของพิเศษเฉพาะลูกค้า Mubus
- รับประทานเครื่องดื่มและขนมฟรี ในอาคาร Mubus Family
- ลุ้นจับฉลาก lucky draw รับของที่ระลึกฟรี 6 รางวัล
- คูปองส่วนลด 5 หยวน สำหรับซื้อกาแฟในอาคาร Mubus Family
- สิทธิ์ซื้อน้ำเปล่าในราคาขวดละ 3 หยวนในอาคาร Mubus Family (ปกติร้านข้างนอกในโซนนี้จะขายกันที่ขวดละ 10 หยวน)
- สิทธิ์การทานบุฟเฟ่ต์อาหารกลางวันในราคาคนละ 50 หยวน (ปกติคนละ 80 หยวน)
- สิทธิ์ในการซื้อใบประกาศนียบัตรการพิชิตกำแพงเมืองจีนพร้อมกรอบรูปในราคาคนละ 40 หยวน (ปกติคนละ 60 หยวน)
- ไกด์คอยดูแลและอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ตลอดทริป ยกเว้นตอนที่เรากำลังเดินบนกำแพงเมืองจีน อันนี้เค้าจะไม่ได้ไปด้วยนะ
สิ่งที่ยังไม่รวมใน 1 Day trip แบบพื้นฐาน
- ค่าขึ้นลงเคเบิ้ลคาร์ และรถรางสไลด์ Toboggan ฝั่งตะวันออก (East) คนละ 140 หยวน
- ค่าขึ้นลงเคเบิ้ลคาร์ ฝั่งตะวันตก (West) คนละ 140 หยวน
- ค่าบุฟเฟต์อาหารกลางวัน คนละ 50 หยวน
- ใบประกาศนียบัตรการพิชิตกำแพงเมืองจีนพร้อมกรอบรูป คนละ 40 หยวน
ทั้ง 4 อย่างนี้เราสามารถเลือกได้เลยว่าจะเอาหรือไม่เอาครับ โดยเราสามารถตัดสินใจได้ระหว่างที่เรากำลังนั่งรถไปจากเมืองปักกิ่ง หากใครต้องการบริการในส่วนไหนเพิ่มก็สามารถแจ้งและจ่ายเงินกับไกด์ที่อยู่บนรถได้เลย เดี๋ยวเค้าจะประสานงานและดำเนินการต่อให้ครับ ทั้งนี้ในการจ่ายเงินนั้นเราสามารถจ่ายได้ทั้งเงินสด หรือการสแกนผ่าน Alipay และ Wechat ได้เลยครับ
เรื่องควรรู้ของกำแพงเมืองจีนฝั่งตะวันออก (East)
- กำแพงฝั่งนี้จะมีเส้นทางเดินหลักคือ จากป้อมหมายเลข 6 จนถึงหมายเลข 1 ครับ เส้นทางการเดินไม่ค่อยยากมาก มีบันไดชันเป็นบางช่วง แต่ยังอยู่ในระดับที่คนทั่วไปน่าจะยังไหวอยู่
- สำหรับใครที่นั่งเคเบิ้ลคาร์ เราจะไปเริ่มเดินที่ป้อมหมายเลข 6 เลย ซึ่งถ้าเป็นคนที่แข็งแรงหน่อยน่าจะใช้เวลาเดินไปกลับป้อมหมายเลข 6 และป้อมหมายเลข 1 ประมาณ 50 นาที ถึง 1 ชม. ครับ (ใครที่คิดว่าตัวเองไม่ฟิตเท่าไหร่ก็บวกเวลาไปเพิ่มนะครับ)
- สำหรับใครที่ไม่นั่งเคเบิ้ลคาร์ ก็จะต้องเริ่มเดินตั้งแต่ด้านล่างสุดเพื่อขึ้นไปยังป้อมหมายเลข 6 ก่อนนะครับ เห็นว่าระยะทางประมาณ 1 กม. ขาขึ้นใช้เวลาเดินประมาณ 30-40 นาที ส่วนขาลงใช้เวลาประมาณ 15-20 นาทีครับ แต่ผมรู้สึกว่าเสียเงินขึ้นเคเบิ้ลคาร์ไปเถอะครับ ประหยัดเวลา และประหยัดพลังงานได้เยอะเลย รวมทั้งเราจะได้เที่ยวสนุกขึ้นด้วย แต่ถ้าใครอยากจะประหยัดเงินจริง ๆ ก็ซื้อเฉพาะขาขึ้นในราคา 100 หยวน/คน ก็ได้ครับ ส่วนขาลงก็เดินลงเอา มันก็จะเซฟไปได้ 40 หยวน/คนครับ
- เคเบิ้ลคาร์ฝั่งนี้จะเป็นเคเบิ้ลคาร์รูปแบบสกีรีสอร์ทนะ คือ เป็นแบบนั่งห้อยขา ไม่มีตู้ปิด ส่วนเรื่องความหวาดเสียวนั้นผมว่าไม่หวาดเสียวเท่าไหร่ครับ เพราะมันไม่ได้สูงหรือยาวมากนัก
- สำหรับคนที่ซื้อบัตรเคเบิ้ลคาร์แบบขึ้นลงไว้ ขาลงเราจะสามารถเลือกได้ว่าจะนั่งเคเบิ้ลคาร์ลง หรือจะนั่งรถรางสไลด์ Toboggan ลงครับ ซึ่งผมแนะนำให้นั่งเป็นรถรางสไลด์จะดีกว่า มันสนุกกว่าเยอะมาก แถมยังได้ประสบการณ์พิเศษด้วยครับ
- จุดไฮไลท์สุดของฝั่งนี้เห็นว่าคือป้อมหมายเลข 4 นะครับ ซึ่งเดินจากป้อมหมายเลข 6 นิดเดียวก็ถึงแล้ว ส่วนป้อมหมายเลข 1 ซึ่งอยู่สุดทางเลยนั้นอันนี้ไม่ค่อยมีอะไรเท่าไหร่ ยกเว้นป้ายเล็ก ๆ 2 ป้ายให้เราถ่ายเป็นความภาคภูมิใจที่พิชิตได้ครับ
- โดยภาพรวมแล้วการเดินกำแพงฝั่งนี้จะสั้นและง่ายกว่าอีกฝั่งเยอะ แต่วิวก็สวยน้อยกว่านะครับ
เรื่องควรรู้ของกำแพงเมืองจีนฝั่งตะวันตก (West)
- กำแพงฝั่งนี้จะมีเส้นทางเดินหลักคือ ตั้งแต่ป้อมหมายเลข 14 จนถึงป้อมหมายเลข 20 โดยที่ป้อมหมายเลข 20 นั้นจะเป็นจุดที่วิวสวยที่สุด และจะมีป้ายผู้พิชิตให้เราถ่ายรูปด้วย ดังนั้นแนะนำให้เดินไปให้ถึงนะครับ อย่าพึ่งถอดใจไปก่อนนะ
- เส้นทางการเดินฝั่งนี้จะยาวและยากกว่าอีกฝั่งมาก ๆ โดยเฉพาะช่วงท้าย ๆ ก่อนถึงป้อมหมายเลข 20 เราจะต้องเดินขึ้นบันไดต่อเนื่องเกือบ 500 ขั้น และบันไดขั้นท้าย ๆ นั้นทั้งสูงและชันมากครับ
- วิวทิวทัศน์ของฝั่งนี้จะสวยกว่าอีกฝั่งนึงพอควร รวมทั้งยังเป็นโลเคชั่นในการถ่ายทำภาพยนตร์และละครหลายเรื่องด้วย
- ที่ฝั่งนี้จะมีก้อนหินขนาดใหญ่ที่สลักชื่อด่าน Mu Tian Yu รวมถึงโลโก้อุทยานแบบ AAAAA และ World Heritage Convention ด้วยครับ
- เส้นทางการเดินฝั่งนี้ หากเป็นคนที่ร่างกายแข็งแรงและมีการออกกำลังกายเป็นประจำ น่าจะใช้เวลาในการเดินไปกลับป้อมหมายเลข 14 ถึงป้อมหมายเลข 20 ประมาณ 1.30 – 1.45 ชั่วโมง แต่หากใครที่ไม่ค่อยฟิตเท่าไหร่ก็ต้องเผื่อเวลาไปอีกหน่อยนะครับ
- สำหรับใครที่ไม่นั่งเคเบิ้ลคาร์ขึ้นไป จะต้องเดินตั้งแต่ด้านล่างเพื่อขึ้นไปยังป้อมหมายเลข 14 ก่อน เห็นว่าระยะทางประมาณ 1 กม. และเป็นทางขึ้นบันไดต่อเนื่องครับ ยังไงก็ลองชั่งใจดูนะว่าจะเดินขึ้นลงไหวหรือเปล่า หรือจะใช้เงินแก้ปัญหาครับ
- เคเบิ้ลคาร์ฝั่งนี้จะเป็นแบบตู้ปิดนะครับ มีความแข็งแรงและนั่งแล้วรู้สึกปลอดภัยกว่าอีกฝั่ง
- ขาลงฝั่งนี้จะไม่มีรถรางสไลด์ Toboggan นะครับ จะมีเฉพาะเคเบิ้ลคาร์ล้วน ๆ
- ระหว่างทางเดินฝั่งนี้จะมีพ่อค้าแม่ค้าหาบเร่ชาวจีนขายเครื่องดื่ม, ขนม, และของที่ระลึกหลายจุด ส่วนราคานั้นต้องบอกว่าแพงมาก และขึ้นอยู่กับสกิลในการต่อรองด้วยครับ
ทั้งนี้เคเบิ้ลคาร์ของทั้ง 2 ฝั่งนั้นจะเป็นผู้บริการคนละเจ้ากันนะ และเราจะไม่สามารถใช้ตั๋วร่วมกันได้ ดังนั้นหากใครต้องการจะขึ้นอีกฝั่งนึงแล้วไปลงอีกฝั่งนึง จะต้องซื้อตั๋วแยกฝั่งละขานะครับ ในราคาขาละ 100 หยวน/คน แต่ส่วนใหญ่แล้วไกด์จีนจะไม่แนะนำให้ทำวิธีนี้ซักเท่าไหร่ เค้าจะแนะนำให้เราเสียเงินซื้อเคเบิ้ลคาร์ขึ้นลงทั้ง 2 ฝั่งให้ครบ ๆ จบ ๆ ไปเลย แต่เท่าที่ผมหาข้อมูลมาก็เห็นมีหลายคนเหมือนกันที่ทำวิธีนี้ครับ และบางคนก็ใช้วิธีการเดินลงด้วยเท้าด้วย ก็คือจ่ายเงินแค่กระเช้าขาขึ้นแค่ขาเดียว 100 หยวน/คน จากนั้นก็เดินยาว ๆ บนกำแพงตั้งแต่ฝั่งตะวันออกไปยังฝั่งตะวันตก และเมื่อดูครบจบแล้วก็เดินเท้าลงมาด้านล่าง โดยถ้าเป็นคนที่แข็งแรงและไม่ได้โอ้เอ้ถ่ายรูปหรือหยุดพักนานมากนัก ก็จะสามารถเดินจบวิธีนี้ได้ทันเวลาอยู่ครับ
ใครดูแล้วสนใจจะเดินทางไปเที่ยวกำแพงเมืองจีนด่าน Mu Tian Yu ด้วยวิธีนี้ ก็สามารถจองผ่าน Mubus ได้เลยครับ โดยตอนจองนั้นเรายังไม่ต้องจ่ายเงินอะไร เราไปจ่ายบนรถทีเดียวตอนที่เรากำลังเดินทางไปจากปักกิ่งและตัดสินใจได้แล้วว่าจะซื้อ option อะไรเพิ่มเติมอีกหรือเปล่าครับ ส่วนจุดนัดหมายเพื่อขึ้นและลงรถของทาง Mubus ในปักกิ่งนั้นจะอยู่ที่สถานี Dongzhimen บริเวณทางออก B1 ครับ โดยเค้าจะมีรายละเอียดต่าง ๆ แจ้งมาให้ทราบอีกครั้งหลังจากที่เราทำการจองเสร็จเรียบร้อย และพอถึงเวลานัดหมายก็จะมีเจ้าหน้าที่ของ Mubus ใส่ชุดสีแดงยืนรอเราอยู่ครับ
ช่องทางจอง : https://www.beijingmubus.com/
ระยะเวลาที่เราจะได้อยู่ที่กำแพงเมืองจีน
หากหักลบเวลาเดินทางไปกลับจากตัวเมืองปักกิ่งและเวลาที่ทาง Mubus เค้าบรี๊ฟข้อมูลต่าง ๆ แล้ว เราจะมีเวลาเที่ยวกำแพงเมืองจีนด่าน Mu Tian Yu ประมาณ 4.30 ชม. ครับ โดยระยะเวลาที่เค้าให้มานี้เพียงพอสำหรับการเที่ยวกำแพงเมืองจีนทั้งสองฝั่งแบบครบ ๆ แต่อาจเอ้อระเหยมากไม่ได้นะ ทั้งนี้สำหรับคนที่อยากจะเที่ยวทั้งสองฝั่งและหาวิธีเซฟเวลามากที่สุด ผมแนะนำให้นั่งเคเบิ้ลคาร์ทั้ง 2 ฝั่งเลยนะครับ และให้ซื้อพวกขนม, อาหาร, ของกินเล่น, เครื่องดื่ม ติดตัวไว้ด้วยเลย จะได้เดินไปกินไป หรือนั่งกินระหว่างพักฟื้นร่างกายบนกำแพงเมืองจีนครับ
การเตรียมตัวที่สำคัญ
- พาสปอร์ต เพราะว่ามันต้องใช้ในการแสกนเข้าออกสถานที่บางจุดครับ
- ชุดและรองเท้าที่เหมาะสำหรับการเดินไกล ๆ รวมทั้งสามารถก้าวขึ้นลงบันไดชัน ๆ ได้สะดวก
- น้ำดื่ม และขนมเพิ่มพลังกรุบกริบ
- เสื้อกันหนาว, ครีมกันแดด, อุปกรณ์กันแดด (ขึ้นอยู่กับฤดูที่ไป)
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านจนจบ และหวังว่าทุกท่านจะมีความสุขกับการไปเที่ยวกำแพงเมืองจีนด่าน Mu Tain Yu (มู่เถียนอวี้ / มู่เทียนยู่) นะครับ ทั้งนี้สำหรับท่านใดที่ต้องการจะติดตามเรื่องราวกินและเที่ยวของผมกับต๋งเพิ่มเติม ก็สามารถกดติดตามได้ที่แฟนเพจ “ภรรยาหา สามีใช้” ได้เลยครับ แล้วพบกันใหม่ สวัสดีครับ
