เมื่อช่วงปลายเดือนมีนาคม – ต้นเดือนเมษายน 2566 ผมกับต๋งได้มีโอกาสไปเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่นมา 11 วันเต็ม ๆ ครับ โดยทริปนี้พวกเราเที่ยวกันแบบจัดเต็มมาก ตั้งแต่ฟุกุโอกะ, เบปปุ, ยุฟุอิน, เกียวโต, โอซาก้า, นารา และคิโนซากิออนเซ็น นอกจากนี้พวกเรายังไป Universal Studios Japan ด้วยครับ และเบ็ดเสร็จเงินที่เราจ่ายไปในทริปนี้ก็อยู่ที่คนละ 38,000 บาทเท่านั้นเอง (ไม่รวมตั๋วเครื่องบิน และช้อปปิ้งนะครับ) ซึ่งส่วนตัวผมว่ามันถูกมาก เพราะเราได้เที่ยวกันเยอะสุด ๆ แถมในงบที่บอกนี้ยังรวมค่ากินไว้เรียบร้อยแล้วด้วยนะ และพวกเราก็ทำการไล่ตระเวนกินของอร่อยกันเยอะมากครับ
ใครที่สนใจจะตามรอยพวกเราบ้าง หรืออยากจะเอาแผนของพวกเราไปปรับให้เหมาะสมกับตัวเองก็ลองอ่านกันดูนะ พวกเราเขียนอธิบายแยกเป็นเรื่อง ๆ ครบเลย ตั้งแต่สายการบินที่ใช้, เวลาบิน, แผนเที่ยวรายวัน, พาสที่ใช้, โรงแรมที่พัก, ร้านอาหารเด็ด, งบประมาณทั้งหมด แล้วก็เรื่องอื่น ๆ ยิบย่อยอีกเพียบครับ
หมายเหตุ : ภาพทั้งหมดในรีวิวนี้ถ่ายระหว่างวันที่ 24 มี.ค. – 3 เม.ย. 66 นะครับ
สรุปค่าใช้จ่ายทั้งหมด 11 วัน (ไม่รวมตั๋วเครื่องบิน และช้อปปิ้ง)
- ค่าที่พัก 10 คืน (5 โรงแรม) : 11,688.50 บาท/คน
- ค่า Sanyo San’in Northern Kyushu Pass : 5,980 บาท/คน (Pass นี้สามารถใช้เดินทางได้ 7 วันต่อเนื่องนะครับ)
- ค่าเดินทางอื่น ๆ : 2,717 บาท/คน
- ค่าเข้า Universal Studios Japan + Express Pass 4 เครื่องเล่น : 6,696.50 บาท/คน
- ค่าเก็บสตรอเบอร์รี่จากฟาร์ม : 637 บาท/คน
- ค่าเข้าอื่น ๆ : 1,912.50 บาท
- ค่ากิน : 8,736 บาท/คน
- ค่า Sim2fly : 399 บาท/คน
รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด : 38,765.50 บาท/คน
หมายเหตุ : ผมคิดที่อัตราแลกเปลี่ยน 0.26 บาท/เยน นะครับ
สายการบิน
สำหรับทริปนี้ผมใช้บริการสายการบินเวียตเจ็ท (Vietjet) นะครับ โดยเราจะขึ้นลงที่ฟุกุโอกะทั้งหมด ส่วนที่ไทยนั้นจะเป็นการเดินทางออกจากสนามบินสุวรรณภูมิครับ
- ขาไป : ไฟลท์ vz810 ออกจากสนามบินสุวรรณภูมิ เวลา ตี 1.45 น. ถึงสนามบินฟุกุโอกะ เวลา 8.55 น.
- ขากลับ : ไฟลท์ vz811 ออกจากสนามบินฟุกุโอกะ เวลา 8.55 น. ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ เวลา 12.35 น.
ภาพรวมของสายการบิน Vietjet ที่ผมใช้ถือว่าดีเลยครับ ทั้งขาไปและกลับเครื่องออกและถึงตามกำหนดเวลา นอกจากนี้พนักงานบนเครื่องก็บริการดีมาก ๆ และมีพนักงานคนไทยเยอะด้วยครับ ใครที่สนใจก็ลองไปเช็คราคาหรือจองตั๋วกันได้นะ ไฟลท์ของเค้าไปญี่ปุ่นตอนนี้มีเยอะเลย ไฟลท์ที่บินตรงจากเชียงใหม่ไปโอซาก้าก็มี และหลาย ๆ ช่วงเวลาก็ถือว่าราคาเยี่ยมเลยครับ
ช่องทางจองและเช็คราคาตั๋วเครื่องบิน : https://th.vietjetair.com
หมายเหตุ : ทริปนี้ผมใช้บริการสายการบิน Vietjet แบบ skyBOSS Class นะครับ มันก็เลยมีอาหารให้บนเครื่องด้วย แล้วก็ยังได้รับสิทธิ์พิเศษอื่น ๆ อีกเพียบเลยครับ บอกเลยว่าดีมาก ๆ
แผนเที่ยวแยกเป็นรายวัน
สำหรับวิธีที่ผมใช้ดูเส้นทางการเดินทางในญี่ปุ่นในทริปนี้หลัก ๆ ก็คือ Google Map นะครับ โดยถ้าเราเข้าใจหลักการทำงานของมันแล้วจะเป็นอะไรที่ดีมากกกกก ที่สำคัญมันอัพเดทแบบ Real time และมีราคาบอกด้วยครับ
การเตรียมตัวก่อนเดินทาง
ทำการซื้อ Sanyo San’in Northern Kyushu Pass และตั๋วเข้า Universal Studios Japan พร้อมทั้ง Express Pass จากไทยให้เรียบร้อย ก่อนเดินทางอย่างน้อย 14 วัน แต่ถ้าใครจะซื้อกระชั้นกว่านี้ก็ได้นะครับ เอาที่แต่ละคนสะดวกเลย ขอแค่ซื้อให้เรียบร้อยก่อนเดินทางก็พอครับ
วันที่ 1
- ถึงสนามบินฟุกุโอกะประมาณ 8.55 น. จากนั้นใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงในการผ่าน ตม. ครับ
- ซื้อ 1 Day Fukuoka Tourist City Pass ผ่านแอพ My Route เพื่อใช้เดินทางเข้าเมืองฟุกุโอกะและเที่ยวตลอดทั้งวันครับ (ราคาพาส 1,500 เยน/คน) โดยถ้าใครอยากจะรู้รายละเอียดของพาสนี้แบบครบ ๆ สามารถกดที่นี่เพื่ออ่านเพิ่มเติมได้เลยครับ ผมมีเขียนอธิบายไว้หมดแล้ว แต่คร่าว ๆ มันคือพาสที่จะทำให้เราสามารถนั่งรถบัส, รถไฟ รวมถึงเรือ ในเขตเมืองฟุกุโอกะได้แทบทั้งหมด และไม่จำกัดจำนวนเที่ยวใน 1 วันครับ
- เดินทางไปแลก Sanyo San’in Northern Kyushu Pass ที่สถานีฮากาตะครับ โดยในบางช่วงเวลาการแลก JR Pass ที่สถานีฮากาตะนั้นจะนานมากครับ ต้องรอคิวเป็นชั่วโมงอย่างต่ำ ยังไงก็เผื่อเวลาไว้หน่อยนะ (วันนี้จะเป็นการเอาเอกสารมาแลกเป็นพาสตัวจริงเฉย ๆ นะครับ รวมทั้งทำการจองรถไฟเที่ยวต่าง ๆ ที่สำคัญไว้ล่วงหน้า แต่ว่าจะยังไม่ได้เริ่มใช้งานพาสครับ ซึ่งถ้าใครไม่รีบในส่วนนี้ไว้ค่อยไปทำตอนเย็น ๆ ค่ำ ๆ ก็ได้ เพราะคิวจะน้อยกว่าพอควรครับ)
- กินมินิครัวซองต์เจ้าดัง “iL Forno del Mignon” ที่สถานีฮากาตะ (อันนี้ก็ต้องต่อคิวยาวนิดนึงนะครับ)
- ฝากกระเป๋าที่โรงแรม President Hotel Hakata
- Sanno Park
- Nokonoshima Island Park
- Marinoa City Outlet
- นอน Hakata โรงแรม President Hotel Hakata
วันที่ 2
- ซื้อ 1 Day Fukuoka Tourist City Pass ผ่านแอพ My Route เพื่อใช้เดินทางเที่ยวตลอดทั้งวัน (ราคาพาส 1,500 เยน/คน) โดยพาสนี้จะเป็นพาสเดียวกับเมื่อวานที่เราซื้อนะครับ แค่มันต้องซื้อเป็นวัน ๆ เท่านั้น ยังไงแต่ละคนก็ลองคำนวนดูนะว่าวันไหนควรต้องซื้อ ซื้อแล้วใช้คุ้มก็ค่อยซื้อครับ แต่ถ้าวันไหนดูแล้วเดินทางน้อยไม่คุ้มก็ไม่ต้องซื้อ
- Maizuru Park
- ปราสาทฟุกุโอกะ
- Uminonakamichi Seaside Park
- Marine World
- กินฮากาตะราเมงเจ้าดัง “Hakata Ikkousha”
- ช้อปปิ้งที่ Yodobashi และ GU
- นอน Hakata โรงแรม President Hotel Hakata
วันที่ 3
- Tenjin Central Park
- เก็บสตรอเบอร์รี่ที่ Shiraki Strawberry Shiawasemon (ต้องจองผ่าน email ล่วงหน้า ไม่สามารถ walk in ได้)
- ศาลเจ้า Dazaifu Temmangu Shrine
- ตระเวนกินของอร่อยบริเวณถนนหน้าศาลเจ้า โดยเมนูที่อยากจะแนะนำเป็นพิเศษก็คือ ข้าวหน้าไข่ปลาเมนทาโกะ และไดฟุกุสตรอเบอร์รี่
- กินซูชิสายพาน “Kura Sushi” พร้อมลุ้นของรางวัลจากกาชาปอง (ผมกินที่สาขาเทนจินนะครับ)
- Nishi Park
- กินข้าวหน้าเนื้อชุบเกล็ดขนมปังทอดเจ้าดัง “Gyukatsu Motomura”
- ช้อปปิ้งที่ Bic Camera
- ช้อปปิ้งที่ดองกี้
- นอน Hakata โรงแรม President Hotel Hakata
วันที่ 4
- วันนี้จะเป็นวันแรกที่พวกเราเริ่มใช้งาน Sanyo San’in Northern Kyushu Pass นะครับ โดย Pass นี้จะสามารถใช้เดินทางได้ 7 วันต่อเนื่องนับจากนี้ครับ
- Nishi Park (อันนี้ผมไปซ้ำอีกรอบ เพราะผมอยากได้บรรยากาศตอนเช้า ๆ ที่ไม่มีคนครับ)
- กินข้าวหน้าเนื้อ “Yoshinoya” (อร่อยกว่าที่ไทยเยอะมากครับ)
- เดินทางไปเบปปุ และทำการฝากกระเป๋าที่โรงแรม Beppu Daiiti Hoel
- นั่งรถไฟ Yufuin No Mori จากเบปปุไปยุฟุอิน พร้อมกินเค้กโรลเจ้าดัง “B-speak” ในรถไฟ
- เที่ยวยุฟุอิน
- เดินทางกลับไปนอนที่โรงแรม Beppu Daiiti Hotel
วันที่ 5
- เที่ยว Beppu Hell Tour (บ่อน้ำร้อน 7 บ่อในเบปปุ) ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง
- เดินทางไปโอซาก้า
- เช็คอินและเก็บของที่โรงแรม APA Hotel & Resort Osaka Umeda Eki Tower
- กินบุฟเฟต์ปิ้งย่างเกาหลีร้าน “Yakiniku Rikimaru Umeda”
- นอนโอซาก้า โรงแรม APA Hotel & Resort Osaka Umeda Eki Tower
วันที่ 6
- เที่ยว Universal Studios Japan ตลอดทั้งวัน ออกจากโรงแรมตั้งแต่ ตี 5.30 น. ถึงหน้าสวนสนุก 6.20 น. และออกจากสวนสนุกตอน 21.30 น.
- นอนโอซาก้า โรงแรม APA Hotel & Resort Osaka Umeda Eki Tower
วันที่ 7
- เที่ยวนารา (Nara Park, วัดโทไดจิ และ Ukimido) ใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 5 ชั่วโมง
- เดินทางกลับโอซาก้า
- กินเบอร์เกอร์ “Shake Shack”
- ละลายทรัพย์กับของเล่นที่ตึก Daimaru Umeda ชั้น 13 อันนี้บอกเลยว่าใครที่เป็นสายของเล่น, เกมส์ หรืออนิเมะมีกระเป่าสั่นครับ เพราะที่นี่มีครบเลยทั้ง Nintendo Osaka, Pokemon Center Osaka, One Piece Mugiwara Store, Capcom Store & Cafe Umeda, Tomica Shop และ Plarail Shop ครับ
- ปราสาทโอซาก้า
- ดงทงบุริ ถ่ายรูปคู่กับกูลิโกะแมน และเดินตระเวนกินของอร่อยตามถนน โดยเมนูที่อยากจะแนะนำเป็นพิเศษก็คือ ทาโกะยากิ และขนมเหรียญ 10 เยนยักษ์ไส้ชีส
- นอนโอซาก้า โรงแรม APA Hotel & Resort Osaka Umeda Eki Tower
วันที่ 8
- เที่ยวเกียวโตตลอดทั้งวัน โดยวันนี้พวกเราซื้อ 1 Day Kyoto Bus Pass ราคา 700 เยน/คน เพื่อใช้เดินทางไปที่ต่าง ๆ นะครับ (ซื้อที่บริเวณหน้าสถานีเกียวโตได้เลย)
- ช่วงเช้าเที่ยวป่าไผ่, อาราชิยามะ และขึ้นรถไฟ Sagano Romantic Train ครับ โดยผมแนะนำให้เรารีบซื้อตั๋วรถไฟ Sagano ตั้งแต่เนิ่น ๆ นะครับ เลือกเวลาที่ต้องการจะนั่งไว้ก่อนเลย และเมื่อซื้อเสร็จแล้วเราค่อยไปเที่ยวป่าไผ่กับอาราชิยามะ แล้วค่อยกลับมาขึ้นรถไฟครับ
- กินข้าวหน้าเนื้อชุบเกล็ดขนมปังทอดเจ้าดัง “Gyukatsu Kyoto Katsugyu”
- ช่วงบ่ายเที่ยว Museum of Art Kyoto, Keage Incline, วัดนันเซนจิ, Philosopher’s Path และวัดน้ำใสคิโยมิซึ
- กินข้าวหน้าหมูชุบเกล็ดขนมปังทอดเจ้าดัง “Katsukura” ที่บริเวณสถานีเกียวโต
- เดินทางกลับโอซาก้า เพื่อไปนอนที่โรงแรม APA Hotel & Resort Osaka Umeda Eki Tower
วันที่ 9
- สวน Expo’70 Commemorative Park
- เดินทางไปคิโนซากิออนเซ็น
- เช็คอินและเก็บกระเป๋าที่โรงแรม Kinosaki Onsen Koyado Tsumugi
- เปลี่ยนเป็นชุดยูกาตะและเดินเที่ยวชมเมืองจนถึงช่วงเย็น ๆ (โรงแรมผมมีชุดยูกาตะให้ยืมใส่ฟรี และมีหลายสีหลายแบบเลย)
- กินข้าวหน้าปลาดิบแสนอร่อยที่ชั้น 2 ของร้านขายปลาในเมือง
- เริ่มตระเวนแช่น้ำร้อนที่โรงอาบน้ำสาธารณะทั้ง 7 แห่งในเมือง โดยซื้อบัตรอาบน้ำแบบ 1 Day Pass ราคา 1,500 เยน/คน (โรงอาบน้ำส่วนใหญ่จะเปิดบริการถึง 5 ทุ่มนะครับ จะมีที่เดียวเท่านั้นที่ปิด 21.00 น.)
- เข้าพักผ่อนที่โรงแรม Kinosaki Onsen Koyado Tsumugi
วันที่ 10
- เดินทางกลับไปยังฟุกุโอกะ โดยต้องไปเปลี่ยนรถไฟที่สถานีชินโอซาก้า
- กินแซนวิชเนื้อมัตซึซากะชื่อดัง “Nakanoshima Beef Sandwich” ที่สถานีชินคันเซนชินโอซาก้า
- เดินทางต่อไปยังฟุกุโอกะ
- เช็คอินและเก็บกระเป๋าที่โรงแรม Hotel La Foresta
- Maizuru Park (ผมกลับไปซ้ำอีกรอบ เพราะอยากเห็นว่าซากุระแตกต่างจากเดิมเยอะมั้ย)
- Ohori Park
- กินปิ้งย่างชื่อดัง “Yakiniku Like”
- ช้อปปิ้งส่งท้ายที่ดองกี้
- เข้าพักผ่อนที่โรงแรม Hotel La Foresta
หมายเหตุ : วันนี้จะเป็นวันสุดท้ายที่สามารถใช้งาน Sanyo San’in Northern Kyushu Pass ได้นะครับ ส่วนพรุ่งนี้เราจะเดินทางเข้าสนามบินตั้งแต่เช้า ซึ่งมันก็ไม่ได้มีค่าเดินทางอะไรเยอะครับ คนละไม่กี่ร้อยเยนเท่านั้น
วันที่ 11
- ออกเดินทางจากที่พักตั้งแต่ ตี 5.30 น. เพื่อขึ้นรถ subway เที่ยวแรกสุดไปสนามบิน
- ถึงเคาน์เตอร์เช็คอินเวลาประมาณ 6.15 น.
- 8.55 น. เครื่องบินออกจากฟุกุโอกะ และถึงไทยเวลาประมาณ 12.35 น.
รีวิวทุกโรงแรมที่ผมพักในทริปนี้
- Hotel La Foresta, Fukuoka : ที่พักฟุกุโอกะราคาดี ไม่ถึง 700 บาท/คืน แถมอยู่ใกล้สถานีฮากาตะสุด ๆ
- President Hotel Hakata : ที่พักในฟุกุโอกะที่ให้อุปกรณ์มาครบ ๆ และอยู่ไม่ไกลจากสถานีฮากาตะมาก
- APA Osaka Umeda Eki Tower : ที่พักย่านอุเมดะ ใกล้สถานี อุปกรณ์ครบ มีออนเซ็นให้ใช้ฟรี
- Beppu Daiiti Hotel : ที่พักเมืองเบปปุที่ห้องดี และอยู่ห่างสถานีแค่ 120 เมตร!!
- Kinosaki Onsen Koyado Tsumugi : ที่พักคิโนซากิออนเซ็นทำเลดี ห่างสถานี 1 นาที และมีชุดยูกาตะให้ยืมฟรี
รีวิวอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องในทริปนี้
- 6 แอปสุดเจ๋ง ที่ควรมีติดมือถือไว้เมื่อไปเที่ยวญี่ปุ่น!!
- Fukuoka City Pass 1 day Ticket : ตัวช่วยในการเที่ยวเมืองฟุกุโอกะแบบสุดคุ้ม!!
- รีวิว Beppu Hell Tour : ตะลุยบ่อนรกทั้ง 7 แห่งเมืองเบปปุ!!
- Kinosaki Onsen : เมืองเล็ก ๆ ที่แสนสงบ และมีออนเซ็นดี ๆ ให้แช่ถึง 7 แห่ง!!
- รีวิวเก็บสตรอเบอรี่สด ๆ ที่ญี่ปุ่น (ฟุกุโอกะ)
- หลายเรื่องที่อาจจะไม่รู้เกี่ยวกับ Universal Studios Japan
- วิธีเข้า Super Nintendo World (USJ) แบบไม่ต้องซื้อ Express Pass!!
- แนะนำ 6 เครื่องเล่น Universal Studios Japan ที่ห้ามพลาด!!
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านจนจบครับ ทั้งนี้สำหรับใครที่อยากจะติดตามอ่านเรื่องราวการกินและเที่ยวของพวกเราเพิ่มเติมก็สามารถกดติดตามได้ที่แฟนเพจ “ภรรยาหา สามีใช้” ได้เลยครับ และสุดท้ายนี้ขอให้ทุกคนมีความสุขกับการเที่ยวประเทศญี่ปุ่นครับ!!