ชีวิตคู่และงานแต่งงานถือเป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่สำคัญและมีความหมายมาก รวมทั้งยังเป็นช่วงเวลาที่พิเศษสุดๆ ของหลายคน และในฐานะที่ผมกับต๋งเองก็เคยผ่านประสบการณ์การเข้าพิธีมงคลสมรสและงานฉลองกันมาแล้ว พวกเราทั้งสองคนเลยอยากจะบอกว่านอกจากช่วงเวลาดังกล่าวจะเต็มไปด้วยความสุขและประสบการณ์ที่ดีมากมายแล้ว ในช่วงเวลาดังกล่าวโดยเฉพาะช่วงเวลาของการเตรียมตัวจัดงานแต่งงานก็ยังถือเป็นช่วงเวลาที่สาหัสและพิสูจน์ใจของหลายๆ คู่เลย เพราะในช่วงเวลานั้นว่าที่เจ้าบ่าวและว่าที่เจ้าสาวต่างก็ต้องมีสิ่งที่ต้องทำและตัดสินใจเยอะแยะเต็มไปหมด และหลายๆ เรื่องราวก็มักจะตัดสินใจยากหรือมีความเห็นที่ไม่ตรงกันครับ @_@
และสาเหตุสำคัญที่ทำให้ช่วงเวลานั้นเป็นช่วงเวลาที่หลายๆ คนรู้สึกท้อและเหนื่อยนั่นก็เป็นเพราะว่าการจัดงานแต่งงานหรืองานฉลองมงคลสมรสนั้นมีรายละเอียดปลีกย่อยมากมาย และการจัดงานประเภทนี้มันก็ไม่ใช่สิ่งที่ว่าที่เจ้าบ่าวและว่าที่เจ้าสาวคุ้นเคยมีประสบการณ์มาก่อน เพราะคนส่วนใหญ่แล้วก็มักจะมีประสบการณ์กับงานนี้เพียงครั้งเดียวในชีวิตเท่านั้นครับ
แต่อย่างไรก็ตาม ณ ปัจจุบันนี้ก็ได้มีอีเว้นท์ที่เกี่ยวกับงานแต่งงานอย่าง Wedding Fair ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกหรือมีการรวบรวมผู้ประกอบการด้านต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจัดงานแต่งงานมารวมกันไว้มากมาย ทำให้ว่าที่เจ้าบ่าวว่าที่เจ้าสาวมีความสะดวกสบายมากขึ้น เรียกว่าไปงานเดียวก็ได้ครบๆ ทั้งการ์ดงานแต่งงาน, ของชำร่วย, ชุดแต่งงาน, ออแกไนเซอร์, ช่างภาพ รวมไปถึงสถานที่จัดงานแต่งงาน แต่ๆๆๆๆ รู้มั้ยครับว่าไอ้งาน Weeding Fair เหล่านั้นมันก็มีข้อเสียที่สำคัญมากเหมือนกัน นั่นก็คือเรื่องของสถานที่จัดงานแต่ละที่นั้นเราจะได้เห็นเพียงแค่จากภาพถ่ายหรือวีดีโอเป็นหลักเท่านั้น ซี่งมันก็ทำให้หลายๆ คนนึกภาพตามไม่ออกว่าหน้าตาห้องจริงจะเป็นอย่างไร ขนาดห้องกว้างแค่ไหน สามารถตกแต่งได้แบบไหนบ้าง หรือเหมาะสำหรับการรับรองรับแขกกี่คน ซึ่งหากใครที่อยากจะรู้เห็นข้อมูลเหล่านี้แบบชัดๆ ก็ต้องเสียเวลาเดินทางไปดูสถานที่จริงอีกรอบครับ
และจากประเด็นปัญหานี้แหละก็เลยทำให้โรงแรม Pullman Bangkok King Power (พูลแมน คิง พาวเวอร์ กรุงเทพ) เค้าได้จัดอีเว้นท์สำหรับการเตรียมตัวจัดงานแต่งงานขึ้นมาใหม่ที่มีความแตกต่างจากงาน  Wedding Fair ทั่วๆ ไป โดยเค้าจะเน้นไปที่การเปิดห้องจัดเลี้ยงทั้ง 4 ห้องของโรงแรมที่มีความเหมาะสมกับการจัดงานแต่งงานในรูปแบบต่างๆ ให้ทุกคนที่สนใจได้เข้าไปชมกับตา ได้สัมผัสกับมือ และได้เก็บรายละเอียดต่างๆ อย่างใกล้ชิด รวมทั้งยังได้มีพาร์ทเนอร์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเติมเต็มและอำนวยความสะดวกให้กับว่าที่เจ้าบ่าวว่าที่เจ้าสาวด้วย โดยทางโรงแรมเค้าได้ตั้งชื่องานนี้ไว้ว่า “The Wedding Showcase by Pullman” ครับ
งาน The Wedding Showcase by Pullman ในปี พ.ศ. 2562 นั้นได้จัดขึ้นระหว่างวันเสาร์ที่ 14 และวันอาทิตย์ที่ 15 กันยายน ตั้งแต่เวลา 10.30 น. จนถึง 20.00 น. และงานนี้ถือเป็นอีเว้นท์ที่ใหญ่มากๆ ของโรงแรม Pullman Bangkok King Power เลย โดยหนึ่งในไฮไลท์ที่สำคัญของงานนี้ก็คือการที่ทางโรงแรมได้เปิดห้องจัดเลี้ยงทั้ง 4 ห้องที่มีความเหมาะสมสำหรับการจัดงานแต่งงานหรือพิธีมงคลรสรูปแบบต่างๆ อย่างห้อง Infinity Ballroom, Eternity Daylight Ballroom, Déjà Vu และ Glen Bar ให้ทุกคนได้เห็นอย่างใกล้ชิด รวมทั้งยังได้มีการตกแต่งและเนรมิตให้แต่ละห้องมีกลิ่นไอที่แตกต่างกันด้วย เพื่อให้ทุกคนที่ได้มีโอกาสมางานนี้ได้เห็นและสัมผัสกับบรรยากาศที่หลากหลายที่สุดครับ
ผมให้ดูภาพของแต่ละห้องเลยนะครับ เริ่มจากห้อง “Infinity Ballroom” ห้องจัดเลี้ยงที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของโรงแรม Pullman Bangkok King Power และเป็นห้องที่ผมได้มีโอกาสมาร่วมงานแต่งงานของคนรู้จักที่โรงแรมแห่งนี้บ่อยที่สุด โดยห้องนี้จะมีพื้นที่ทั้งหมด 520 ตารางเมตร และมีจุดเด่นมากๆ คือจะมีโถงทางเดินหรือโฟเย (Foyer) บริเวณหน้าห้องที่ยาวเหยียด ทำให้ว่าที่เจ้าบ่าวว่าที่เจ้าสาวสามารถจัดการตกแต่งหรือ Decoration ต่างๆ ได้อย่างเต็มที่ครับ
และนี่คือสิ่งที่โรงแรม Pullman Bangkok King Power และ The Collection by Ladawan เค้าได้เนรมิตพื้นที่บริเวณโฟเยนี้ออกมาครับ เป็นโครงสร้างและฉากที่สวยมาก ผมกับต๋งเห็นครั้งแรกก็รู้สึกประทับใจและชวนกันถ่ายรูปกันเพลินเลย ^^
โดยธีมของการจัดห้อง Infinity Ballroom ในงาน The Wedding Showcase by Pullman ประจำปี 2562 นี้ ทางโรงแรมเค้าเลือกนำเสนอออกมาเป็นลักษณะงานพิธีไทยที่ดูเรียบง่ายสบายตาครับ มีการใช้ดอกไม้และโทนสีอ่อนๆ เป็นหลัก รวมทั้งเน้นใช้แสงธรรมชาติจากด้านนอกที่ส่องผ่านกระจกเข้ามาเป็นตัวช่วย ส่วนภายในห้องก็เป็นการจำลองรูปแบบห้องทั้งงานที่เป็นพิธีการบนเวที และงานจัดเลี้ยงที่เป็นรูปแบบของการนั่งโต๊ะรับประทานอาหารกันอย่างจริงจังครับ
มาดูกันที่ห้อง “Eternity Daylight Ballroom” กันบ้าง ห้องนี้จะอยู่ที่ชั้นหนึ่งของโรงแรมเหมือนกับห้อง Infinity Ballroom เลยครับ เพียงแต่จะอยู่กันคนละปีกของโรงแรมเท่านั้น ขนาดของห้องโดยรวมถือว่าไล่เลี่ยกับห้อง Infinity Ballroom เลย โดยพื้นที่ของห้อง Eternity Daylight Ballroom นั้นจะอยู่ที่ประมาณ 470 ตารางเมตรครับ
สำหรับห้องนี้จะมีจุดเด่นมากๆ อยู่ 2 เรื่องที่ผมชอบก็คือเรื่องของไฟบนเพดาน และการที่ห้องนี้เค้าสามารถเปิดครัวที่อยู่ด้านข้างให้เป็น Open Kitchen ได้ด้วย ซึ่งมันจะทำให้พื้นที่ห้องดูโล่งและกว้างขึ้น รวมทั้งยังสร้างความเก๋ไก๋ไม่เหมือนใครครับ
และในวันที่เค้าจัดงาน The Wedding Showcase by Pullman นี้ ทางโรงแรมเค้าก็ได้มีการเตรียมอาหารต่างๆ ไว้บริการตรงโซน Open Kitchen นี้ด้วยนะครับ อาหารแต่ละอย่างหน้าตาดีและรสชาติดีมาก ใครที่ได้มีโอกาสไปงานนี้นอกจากจะได้เห็นห้องด้วยตาของตัวเองแล้วก็ยังได้ถือโอกาสลองชิมอาหารจากเชฟที่นี่ด้วยครับ เรียกว่าไปทีเดียวคุ้มเลย อร่อยไม่อร่อย ถูกปากไม่ถูกปาก ลองชิมให้รู้ด้วยตัวเองนี่แหละดีที่สุด
สำหรับบรรยากาศของห้องนี้ทางโรงแรมเค้าจัดออกมาเป็นแนวที่ผมว่าดูโมเดิร์นและทันสมัยนะครับ ส่วนในเรื่องของโต๊ะและเก้าอี้เค้าก็มีการจัดให้ดูเป็นแบบการนั่งทานอาหารแนวยาวผสมกับโต๊ะกลม ก็ถือว่าเป็นอีกแนวนึงที่น่าสนใจและไม่ค่อยเห็นที่ไหนจัดเลยครับ
ห้องที่ 3 “Déjà Vu” ห้องนี้จะอยู่บริเวณชั้น 2 ของโรงแรมนะครับ ขนาดพื้นที่ใช้สอย 454 ตารางเมตร เรียกว่าไล่เลี่ยกับสองห้องที่ผ่านมาเลย แต่ห้องนี้จะมีจุดเด่นตรงที่นอกจากจะมีทางเดินหรือโฟเย (Foyer) บริเวณหน้าห้องที่ยาวแล้ว ห้องนี้ยังเป็นห้องที่มีเพดานสูงถึง 7.5 เมตรและมีการเล่นระดับเป็น 2 ชั้นด้วย ใครอยากได้ห้องเก๋ๆ ที่มีการเล่นระดับก็สามารถพิจารณาห้องนี้เป็นตัวเลือกได้นะครับ
สำหรับห้อง Déjà Vu นี้ ทางโรงแรมเค้าเลือกจัดออกมาเป็นแนวจีนๆ นะครับ โดยจะมีการวางพวกของชำร่วยและของต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับพิธีจีนให้เราดูด้วย ซึ่งของต่างๆ ที่เห็นนี้หลักๆ ก็จะมาจาก “ขันหมากเมืองมังกร” ซึ่งเป็นหนึ่งในพาร์ทเนอร์ที่สำคัญของงานนี้ครับ
และนอกจากนี้ทางโรงแรมเค้ายังได้กันพื้นที่ส่วนหนึ่งของห้อง Déjà Vu ทำเป็นงานพิธีสงฆ์และพิธีหลั่งน้ำพระพุทธมนต์แบบไทยๆ ให้เราดูด้วยครับ ทุกคนจะได้เห็นภาพว่าทางโรงแรมสามารถทำได้ และทำออกมาแล้วจะหน้าตาเป็นอย่างไร
ส่วนนี่คือภาพของดอกไม้สวยๆ บริเวณโฟเยหน้าห้องที่ทางงานเค้าจัดไว้ให้ดูครับ และผมคิดว่าบริเวณโฟเยหน้าห้องนี้ถ้างานไหนจัดเป็นซุ้มดอกไม้ยาวๆ เลยน่าจะแจ่มมากๆ เพราะผนังด้านนึงของโฟเยนี้จะเป็นกระจกใสยาวที่สามารถรับแสงจากภายนอกได้ รวมทั้งยังสามารถมองเห็นสวนสวยๆ ที่อยู่กลางโรงแรมได้ด้วย
ห้องที่ 4 “Glen Bar” ห้องนี้จะเป็นห้องที่มีขนาดเล็กที่สุดและมีสไตล์ที่ฉีกแปลกแหวกแนวกว่าเพื่อนครับ เพราะนอกจากห้องนี้จะมีการเล่นระดับเป็น 2 ชั้นแล้ว เค้ายังมีเคาน์เตอร์บาร์ที่พร้อมเสิร์ฟเครื่องดื่มต่างๆ รวมทั้งโซฟาภายในห้องด้วย ใครที่กำลังมองหาห้องสำหรับจัดงานแต่งงานในกรุงเทพที่มีขนาดไม่ใหญ่มาก สามารถรองรับแขกได้ประมาณ 50-100 คน รวมทั้งต้องการบรรยากาศที่ไม่เหมือนใคร ผมว่าห้องนี้น่าสนใจเลยนะ โดยเราจะเลือกจัดห้องเป็นบรรยากาศคล้ายๆ กับผับบาร์ที่มีกลิ่นไอความเป็นปาร์ตี้ที่พร้อมจะสุดเหวี่ยงตลอดเวลาแบบที่ทางโรงแรมเค้าจัดมาให้ดูเป็นตัวอย่างก็ได้ครับ ผมว่าดูสนุกและครบดี มาทั้งกลอง เค้ก โต๊ะทานข้าว และเคาน์เตอร์บาร์เลย หรือถ้าใครชอบขนาดของห้องนี้แต่ไม่ชอบบรรยากาศแบบนี้อันนี้ก็สามารถแจ้งกับทางโรงแรมได้เช่นเดียวกัน เดี๋ยวทีมเค้าจัดการปรับแต่งให้ได้ครับ
และนอกจากบรรดาห้องจัดเลี้ยงห้องจัดงานต่างๆ ที่ผมเล่ามานี้ ภายในงาน The Wedding Showcase by Pullman เค้ายังมีการเชิญพาร์ทเนอร์แบรนด์ดังต่างๆ มาร่วมออกงานด้วยนะครับ ไม่ว่าจะเป็นการ์ดงานแต่งงานและของชำร่วยจาก Anya Wedding, แหวนและเครื่องประดับจาก Caeli Jewelry, ชุดแต่งงานและชุดราตรีจาก CHER”Z, ชุดขันหมากจากขันหมากเมืองมังกร, สตูดิโอถ่ายภาพ Smallmoon Photo, การตรวจสุขภาพจากโรงพยาบาลพญาไท 1, ทีม Decoration จาก The Collection by Ladawan, ซุ้มถ่ายรูปหน้างานสุดสนุกจาก Social Touch, คอนโดจากแสนสิริ และรถยนต์ BMW ก็เรียกว่าครบๆ กันไปเลยตั้งแต่การ์ด, ชุดแต่งงาน, ช่างภาพ, การตรวจสุขภาพ ยันบ้านและรถ ซึ่งบอกตามตรงเลยว่าตอนที่ผมเห็นบูธของแสนสิริและรถ BMW ทีแรกนี่ผมก็อึ้งไปเหมือนกันนะ ไม่คิดว่าทางโรงแรมจะทุ่มเทและจัดเต็มเช่นนี้ ใครได้มีโอกาสมางานนี้ผมว่าน่าจะประทับใจพอควรเลย เพราะนอกจากบูธพาร์ทเนอร์เหล่านี้เค้าจะมาร่วมออกงานรวมถึงให้ข้อมูลดีๆ แล้ว เค้ายังมีโปรโมชั่นเด็ดๆ ให้กับลูกค้าที่ทำการจองแพคเกจภายในงานด้วย โดยหลายๆ บูธนั้นมีส่วนลดให้เยอะมากๆ ครับ
ผมให้ดูภาพบรรยากาศของแต่ละบูธกันไปยาวๆ เลยนะครับ โดยบางบูธอย่างเช่น สตูดิโอถ่ายภาพ Smallmoon Photo และซุ้มกิจกรรมถ่ายรูปหน้างานสุดสนุกจาก Social Touch นั้นก็ได้มีการถ่ายรูปสวยๆ ให้กับทุกคนที่มาร่วมงานครั้งนี้ฟรีด้วย ^^
ครับ และทั้งหมดนี้ก็คือภาพรวมของงาน The Wedding Showcase by Pullman ปี 2562 ที่ผมกับต๋งได้ไปสัมผัสมา ซึ่งพวกเราก็รู้สึกประทับใจงานนี้หลายอย่างนะ เพราะตอนที่พวกเราเตรียมตัวจัดงานแต่งงานกันนั้นพวกเราก็เดินงาน Wedding Fair หลายงานเหมือนกัน แต่ปัญหาหลักๆ ของงาน Wedding Fair ทั่วไปก็คือเราจะได้ข้อมูลของสถานที่จัดงานในรูปแบบของภาพและวีดีโอเป็นส่วนใหญ่ แต่การมาที่งานครั้งนี้มันทำให้เราได้เห็นและสัมผัสกับบรรยากาศห้องจริงๆ ได้ลองชิมอาหารจากฝีมือเชฟจริงๆ แล้วก็สามารถจินตนาการภาพของการจัดงานของเราได้ชัดขึ้น แต่ถ้าถามว่าข้อเสียของงานนี้มีมั้ย แน่นอนว่ามันก็ต้องมีอยู่แล้วครับ เพราะงานนี้เป็นการจัดงานโดยมีผู้จัดหลักและสถานที่จัดหลักคือโรงแรม Pullman Bangkok King Power ดังนั้นในเรื่องของความหลากหลายและปริมาณของผู้ประกอบการต่างๆ ที่มาร่วมงานก็ต้องน้อยกว่างาน Wedding Fair ทั่วไปเป็นธรรมดา แต่โดยรวมก็ถือว่าเป็นงานที่ดีและน่าสนใจมากๆ ครับ โดยเฉพาะคนที่สนใจจะจัดงานแต่งงานที่โรงแรมแห่งนี้อยู่แล้ว การมางานนี้มันช่วยอะไรได้เยอะมากครับ
ใครที่รู้สึกสนใจอยากจะจัดงานแต่งงานหรืองานฉลองมงคลสมรสที่นี่ ก็ลองคลิกเข้าไปอ่านรายละเอียดต่างๆ ได้ที่ http://bit.ly/2kK6wPK หรือจะติดต่อไปสอบถามข้อมูลต่างๆ เพิ่มเติมที่ H6323-SC2@accor.com และ H6323-SC4@accor.com ก็ได้ครับ เดี๋ยวผู้ที่เกี่ยวข้องเค้าจะช่วยดูแลรวมถึงแนะนำสิ่งดีๆ ให้เราเอง ^^
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านจนจบและขอบพระคุณทางทางโรงแรม Pullman Bangkok King Power เป็นอย่างสูงที่จัดงานแบบนี้ขึ้นมา มันดูน่าสนใจและฉีกแปลกจากหลายงานเลย หวังว่าทางโรงแรมจะมีการจัดงานแบบนี้บ่อยๆ นะครับ ผมเชื่อว่าต้องมีคนชอบและได้ประโยชน์จากมันมากแน่ๆ สุดท้ายนี้ผมขอทิ้งท้ายบทความนี้ด้วยเพลงนี้แล้วกันนะครับ รักจริงจัง จากวง Pause” ผมว่าเป็นเพลงที่เพราะและมีความหมายดีมาก เหมาะกับบทความนี้สุดๆ เลยครับ