TreeHouse Villas (ทรีเฮ้าส์ วิลล่าส์) เกาะยาวน้อย จ.พังงา น่าจะเป็นชื่อของรีสอร์ทที่มาแรงที่สุดในประเทศไทยในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมานี้เลยครับ เพราะด้วยคอนเซ็ปการออกแบบที่แปลกแหวกแนวไม่เหมือนใคร รวมทั้งการตกแต่งต่างๆ ก็ทำออกมาได้อย่างลงตัว จนทำให้ใครๆ ที่ได้มีโอกาสเห็นรูปของรีสอร์ทแห่งนี้ถึงกับตกตะลึงในความสวยงามและอยากจะหาโอกาสไปพักที่นี่ให้ได้ และแน่นอนว่าคนเหล่านั้นย่อมต้องรวมถึงผมกับต๋งด้วยครับ
Disclosure : บทความนี้ได้รับการสนับสนุนจากผู้ให้บริการ แต่ทั้งนี้ความเห็นต่างๆ ที่เกิดขึ้นเป็นความรู้สึกจริงของผมครับ
โดยในตอนนั้น TreeHouse Villas น่าจะดำเนินการสร้างไปได้แค่ราวๆ 20-30% เท่านั้น แต่แค่ 20-30% ที่ผมได้เห็น มันก็ทำให้ผมจดจำชื่อรีสอร์ทแห่งนี้ได้แม่นและเฝ้ารอคอยที่ได้จะได้มาเยือนรีสอร์ทแห่งนี้อย่างใจจดจ่อ รวมทั้งผมยังได้บอกกับคนที่อยู่ใกล้ๆ ตัวอีกด้วยว่า อีกไม่นานรอพบกับรีสอร์ทแห่งนี้ได้เลย รับรองว่าเจ๋ง คุ้มค่าแก่การไปแน่ๆ
.
.
.
และในที่สุดหลังจากเวลาผ่านไปปีกว่าๆ TreeHouse Villas แห่งนี้ก็เสร็จสมบูรณ์และพร้อมที่จะเปิดให้ทุกท่านที่สนใจได้เข้าไปพักผ่อนและใช้เวลากับคนรักกันอย่างเต็มรูปแบบแล้วครับ!!
1. TreeHouse Villas เป็นรีสอร์ทที่มีการจำกัดอายุคนเข้าพัก โดยคนที่จะเข้าพักที่รีสอร์ทแห่งนี้ได้ จะต้องมีอายุ 16 ปีขึ้นไป และรีสอร์ทแห่งนี้จะมีบริการเฉพาะเตียง King Size เพียงอย่างเดียวเท่านั้น รวมทั้งไม่มีการเสริมเตียงด้วย เรียกว่ากลุ่มลูกค้าหรือคนที่เหมาะจะไปพักที่นี่ควรจะเป็นคู่รักเป็นหลักครับ แต่จะเป็นคู่รักอายุเท่าไหร่ แต่งงานแล้วหรือยัง อันนี้ไม่มีประเด็น สามารถที่จะไปได้หมดเลยครับ ^^
2. สำหรับใครที่สนใจจะไปพักที่ TreeHouse Villas ก่อนวันที่ 31 ตุลาคม 2561 สามารถที่จะใส่ Code พิเศษเฉพาะแฟนเพจ “ภรรยาหา สามีใช้” ในเวบไซต์ของ TreeHouse Villas ตามลิงก์นี้ https://goo.gl/A9s8Wa เพื่อรับส่วนลดพิเศษตามรายละเอียดด้านล่างนี้ได้เลยครับ
- ส่วนลด 10% ในการจองห้องพักทุกประเภท ใช้ Promo Code “AMZCP”
- ส่วนลด 500 บาท สำหรับแพคเกจพิเศษ 3 วัน 2 คืน (ราคาแพคเกจ 25,000 บาท) ใช้ Promo Code “AMZCP_PK”
ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วผมขอแนะนำให้ทุกคนจองเป็นแบบแพคเกจแบบ 3 วัน 2 คืนเลยนะครับ เพราะเป็นราคาที่คุ้มค่ามาก ได้ทั้งที่พัก, อาหารเช้า, สปา, โยคะ และ 1 Day Trip ไปเกาะผักเบี้ยด้วย บอกเลยว่าใครลังเลไม่กล้าจอง รับรองว่าปีต่อๆ ไปหาราคาแบบนี้อีกยากมากๆ ครับ
3. สำหรับใครที่มาอ่านรีวิวนี้และจองไม่ทันวันที่ 31 ตุลาคม 2561 ก็ไม่ต้องเสียใจไปนะครับ เพราะทุกคนสามารถคลิกที่นี่ เพื่อจองห้องพัก TreeHouse Villas ราคาพิเศษ ผ่าน Agoda ได้เลยครับ ใครสนใจก็คลิกไปดูราคาและทำการจองได้เลยครับ
ที่ตั้งและการเดินทาง
เอาล่ะ คราวนี้เราไปเริ่มรีวิวเจาะลึกทุกรายละเอียดของที่นี่กันดีกว่า เริ่มจากเรื่องแรกที่ตั้งของรีสอร์ทครับ TreeHouse Villas นั้นตั้งอยู่บนเกาะยาวน้อย จังหวัดพังงา แต่เชื่อมั้ยครับว่าการเดินทางมาที่เกาะแห่งนี้แบบสะดวกที่สุดคือการนั่งเรือมาจากภูเก็ต หรือกระบี่ โดยแต่ละรีสอร์ทบนเกาะยาวน้อยนั้นต่างก็ใช้ท่าเรือที่แตกต่างกันออกไป อย่างเช่น TreeHouse Villas นั้น ก็จะใช้ท่าเรือของ Yacht Haven Club จ.ภูเก็ต และท่าเรือท่าเลน จังหวัดกระบี่ เป็นสถานที่ขึ้นเรือ โดยเวลาในการขึ้นเรือของทั้งสองท่ามีรายละเอียดตามด้านล่างนี้เลยครับ
ท่าเรือ Yacht Haven Marina จ.ภูเก็ต
เวลาออกจากท่า : 11:00 น. และ 16:00 น.
เวลาออกจาก TreeHouse Villas : 09:30 น. และ 15:00 น.
ระยะเวลานั่งเรือ : 50 นาที
ท่าเรือท่าเลน จ.กระบี่
เวลาออกจากท่า : 14.00 น.
เวลาออกจาก TreeHouse Villas : 13.30 น.
ระยะเวลานั่งเรือ : 20 นาที
ภาพด้านล่างนี้เป็นภาพของท่าเรือ Yacht Haven Marina จ.ภูเก็ต ครับ เป็นท่าเรือขนาดใหญ่ที่อยู่ห่างจากสนามบินนานาชาติภูเก็ตประมาณ 20 นาทีเท่านั้น ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วผมเชียร์ให้ทุกคนที่ต้องการจะเดินทางไปยัง TreeHouse Villas มาขึ้นเรือที่ภูเก็ตมากกว่ากระบี่นะครับ เพราะท่าเรืออยู่ไม่ไกลจากสนามบิน และมีเรือบริการวันละสองเที่ยว ทำให้เราสะดวกในการเดินทางมากกว่าครับ
หมายเหตุ : โดยปกติแล้วค่าใช้จ่ายของการขึ้นเรือไปกลับรีสอร์ทนั้นจะยังไม่รวมในราคาห้องพักนะครับ เป็นค่าใช้จ่ายที่เราต้องรับผิดชอบเอง
นอกจากนี้ใครที่ชอบอ่านหนังสือ หรือมีเด็กเล็กๆ เดินทางไปด้วย ภายในเลาจ์แห่งนี้ก็มีหนังสือดีๆ ให้อ่านฟรี รวมไปถึงมีห้องเด็กเล่นด้วยนะครับ
ในส่วนของ Lobby ของ TreeHouse Villas นั้นจะเป็นแบบ Open Air และมีขนาดที่ไม่ใหญ่มาก เพราะห้องทั้งหมดที่ทาง TreeHouse Villas มีบริการนั้นมีทั้งหมด 32 ห้องเท่านั้นเอง ก็เรียกว่าขนาดของล็อบบี้และ Facilities ต่างๆ นั้นก็มีขนาดสอดคล้องกับปริมาณของห้องพักของเค้าครับ
นี่เป็นหน้าตาและบรรยากาศโดยรวมของรีสอร์ทแห่งนี้ครับ จะเป็นห้องพักหรือวิลล่าที่ตกแต่งสไตล์บ้านต้นไม้ มีการจัด Landscape ภายในรีสอร์ทแบบกึ่งป่าดิบชื้น (Rain forest) มีชายหาดและทะเลส่วนตัว ภายในวิลล่าแต่ละหลังมีการตกแต่งอย่างสวยงามและมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน โดยวิลล่าแต่ละหลังจะมีระยะห่างกันพอควรเพื่อให้ผู้ที่เข้าพักนั้นได้รับความเป็นส่วนตัว และสำหรับใครที่ห้องพักอยู่ห่างจากล็อบบี้ก็สามารถที่จะให้ทางพนักงานของโรงแรมนำรถกอล์ฟไปรับและส่งถึงหน้าห้องได้ครับ
ประเภทห้องพัก
สำหรับห้องพักของที่นี่จะมีทั้งหมด 32 ห้อง โดยแบ่งออกเป็น 3 Types ดังนี้ครับ
- TreeHouse Villa ขนาด 100 ตารางเมตร จำนวน 25 ห้อง
- Beach Front Pool Villa ขนาด 110 ตารางเมตร จำนวน 6 ห้อง
- Hilltop Pool Villa ขนาด 390 ตารางเมตร จำนวน 1 ห้อง
และวันนี้ผมจะพาทุกคนไปรู้จักกับห้องทั้ง 3 ประเภทเลย โดยผมจะขอเริ่มจาก TreeHouse Villa ที่ผมกับต๋งได้เข้าพักก่อนนะครับ
หมายเหตุ : ชื่อห้องพักประเภท TreeHouse Villa และชื่อรีสอร์ท TreeHouse Villas นั้นจะเขียนคล้ายกันมาก ต่างกันแค่ตัว s ห้อยท้ายเท่านั้น ดังนั้นอ่านแล้วอย่าสับสนกันนะครับ
ห้อง TreeHouse Villa
ห้องพักประเภท TreeHouse Villa จะเป็นวิลล่าบ้านต้นไม้ 2 ชั้น และเป็นวิลล่าที่ผมว่าเก๋ไก๋ สวยงาม แปลกใหม่ไม่เหมือนใครเลย โดยวิลล่าแต่ละหลังจะตั้งอยู่ห่างกันเพื่อความเป็นส่วนตัว และมีทางเดินเข้าสู่วิลล่าแต่ละหลังเป็นสะพานเชือกที่ให้อารมณ์ของบ้านต้นไม้และการเข้าไปอาศัยอยู่ใกล้ชิดกับธรรมชาติครับ
ที่ชั้นล่างของวิลล่านั้นจะเป็นพื้นที่นั่งเล่นตากอากาศที่เปิดโล่ง สามารถรับลมได้รอบทิศ รวมทั้งมีโซฟาชิงช้า, สระจากุชชี่ส่วนตัวแบบ Plunge Pool, Daybed Sofa ที่สามารถปรับระดับได้, บาร์เครื่องดื่ม, โคมไฟแชนเดอเลียร์เชือกที่สั่งทำแบบเฉพาะ รวมไปถึงตู้เย็น, ห้องน้ำ, ผ้าเช็ดตัว และราวตากผ้า เรียกได้ว่าทางรีสอร์ทจัดมาให้ครบครันจริงๆ และผมเชื่อว่าหลายคนสามารถที่จะใช้เวลาอยู่ที่ชั้นล่างของวิลล่านี้ได้แทบจะทั้งวันเลยครับ
หมายเหตุ : สำหรับห้องน้ำที่อยู่ชั้นล่างนั้น จะเป็นสุขาเท่านั้นนะครับ ไม่สามารถอาบน้ำได้
และนี่คือของที่อยู่ในตู้เย็นชั้นล่างครับ ทางรีสอร์ทเค้าจัดมาให้เราครบมาก โดยเฉพาะช็อคโกแลตนั้นเก๋มากกกกกกก เพราะเค้าแพ็คมาในรูปแบบซองจดหมายเลย ตอนผมเห็นครั้งแรกนี่ถึงกับตกใจและงงเลยว่าใครเอาจดหมายมาใส่ไว้ในตู้เย็นเรา ><
หมายเหตุ : สำหรับเครื่องดื่ม Soft Drink และเครื่องดื่มอื่นๆ ที่อยู่ในตู้เย็นทั้งหมดนั้น ทางแขกที่เข้าพักสามารถทานได้หมดเลยโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ นะครับ ส่วนช็อกโกแลตที่เหมือนซองจดหมายและแชมเปญรวมถึงไวน์ที่อยู่ตู้ข้างๆ กันนั้นจะมีค่าใช้จ่ายครับ ใครจะหยิบอะไรออกมาทานก็ระมัดระวังกันนิดนึงนะครับ
สำหรับเตียงและหมอนของที่นี่นั้นผมว่านุ่มมากๆ นอนสบายสุดๆ ที่สำคัญด้วยความที่เราไปพักผ่อนใกล้ชิดกับธรรมชาติ อยู่บนเกาะ ใกล้ทะเล, ภูเขา และป่าไม้ ดังนั้นทางรีสอร์ทก็เลยมีการติดตั้งมุ้งรอบที่นอนทุกห้อง เพื่อให้เรานอนหลับได้อย่างสบาย ไม่มีแมลงอะไรมาสร้างความรำคาญ โดยในเรื่องของการกางมุ้งนี่เราไม่ต้องปวดหัวหรือกังวลใจว่ามันจะยุ่งยากเลยนะครับ เพราะในช่วงหัวค่ำของแต่ละวัน ทางพนักงานของรีสอร์ทจะเข้ามากางมุ้งให้เราเอง รวมถึงมีการจัดเตรียมขวดน้ำดื่มไว้บริเวณโต๊ะหัวเตียงทั้งสองข้าง, วางรองเท้าไว้บริเวณข้างเตียงทั้งสองข้าง และมีการนำเอาพยากรณ์อากาศรวมถึงข้อมูลต่างๆ ที่น่าสนใจมาวางไว้บนเตียงของเราให้ด้วยครับ………..บอกเลยว่าตอนที่ผมได้รับบริการแบบนี้ในคืนแรกที่เข้าพัก มันทำให้ผมกับต๋งประทับใจมากถึงความเอาใจใส่ของที่นี่ครับ
มาดูส่วนอื่นๆ ให้ห้องของเรากันต่อดีกว่าครับ เริ่มจากโต๊ะทำงาน บนโต๊ะทำงานนี้จะมีโทรศัพท์, สมุดโน้ต, โคมไฟ, ผลไม้ แล้วก็ iPad ครับ โดยผลไม้นั้นมีให้เราทานหลากหลายอย่างดี ส่วน iPad นั้นวันที่ผมเข้าพักระบบ Application ต่างๆ ของรีสอร์ทยังไม่เรียบร้อยดีเท่าไหร่ ผมก็เลยไม่ได้ลองใช้ครับ แต่ในอนาคตทางรีสอร์ทแจ้งว่าเราจะสามารถใช้งาน iPad นี้กับ Application ของทางรีสอร์ทเพื่อความสะดวกสบายในการเข้าพักมากยิ่งขึ้นได้ครับ
และที่ข้างๆ ตู้สีฟ้านี้จะมีถังดับเพลิงติดตั้งอยู่ จุดนี้เป็นอีกจุดนึงที่ผมประทับใจในการเข้าพักที่นี่เลยครับ มันเป็นเรื่องของความใส่ใจในความปลอดภัยที่เค้ามีต่อผู้เข้าพักจริงๆ
และไหนๆ ก็พูดถึงเรื่องความใส่ใจแล้ว ผมก็ขอพูดถึงอีกสองสามเรื่องที่เกี่ยวข้องด้วยเลยแล้วกันนะครับ โดยผมรู้สึกว่าที่ TreeHouse Villas นั้นเค้าใส่ใจกับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่หลายที่พักมองข้ามไป เช่น การติดตั้งปลั๊กแบบที่สามารถเสียบสาย USB ได้เลย, การที่มีปลั๊กติดตั้งครอบคลุมทุกบริเวณทั้งชั้นบนและชั้นล่าง ทำให้เราไม่จำเป็นต้องพกปลั๊กสามตาไปจากบ้าน, การนำเอาไฟฉายมาวางไว้ใกล้ๆ กับที่นอน รวมไปถึงการใช้แพคเกจของน้ำหอมที่มีความสวยงามเข้ากับ Mood and tone ของห้อง ที่สำคัญกลิ่นของน้ำหอมนั้นยังเป็นกลิ่น T-Vine ซึ่งเป็นกลิ่นเฉพาะตัวของรีสอร์ทแห่งนี้อีกด้วยครับ
เอาล่ะ คราวนี้เรามาดูห้องน้ำและโซนแต่งตัวของเรากันดีกว่า อย่างที่ผมได้บอกไปในตอนแรกว่าห้องน้ำของ TreeHouse Villa นั้นจะไม่มีประตูครับ โดยเค้าจะใช้ผ้าม่านในการปิดแยกส่วนระหว่างห้องนอนกับห้องน้ำแทน ยกเว้นในส่วนของห้องสุขาที่จะมีประตูกั้นเพื่อความเป็นส่วนตัวมากขึ้นครับ
ในเรื่องของอุปกรณ์อาบน้ำก็มีมาให้ครบครัน โดยแชมพู, ครีมนวดผม และสบู่เหลว จะอยู่ในขวดเซรามิคสวยงามแบบนี้ครับ
และสำหรับใครที่ชอบนอนแช่ในอ่างอาบน้ำก็คงจะฟินสุดๆ กับอ่างอาบน้ำรูปเปลขนาดใหญ่ที่มีรูปทรงเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ขนาดของอ่างนั้นใหญ่มาก สามารถที่จะลงไปนอนแช่พร้อมกันสองคนได้เลยครับ……ผมลองมาแล้ว ><
โดยที่ข้างๆ อ่างนั้นนอกจากจะมีก๊อกน้ำเย็นและร้อนแล้ว เค้ายังมีการเตรียมผงสครับเกลือไว้ให้เราด้วย นอนแช่น้ำอุ่นไป ขัดตัวไป ดูวิวสวยๆ ไป บอกเลยว่าฟินสุดๆ
ส่วนบริเวณห้องแต่งตัวนั้นทาง TreeHouse Villas ก็จัดมาให้เราเต็มไม่แพ้ส่วนอื่นๆ เลย ทั้งกระจก, เสื้อคลุมอาบน้ำ, ไดร์เป่าผม, รองเท้าแตะสำหรับเดินในห้อง, รองเท้าแตะสำหรับเดินนอกห้อง, ตู้เซฟ, ร่ม, กระเป๋าจักสานไว้ใส่ของไปเดินเล่นข้างนอก รวมไปถึงเครื่องชั่งน้ำหนัก!!!
บอกเลยว่านี่น่าจะเป็นการเข้าพักในรีสอร์ทที่ผมไม่รู้สึกว่าอยากจะได้อะไรเพิ่มนอกเหนือจากที่เค้าจัดไว้ให้เลย มันมีมาให้ครบและมากมายเกินกว่าที่ผมกับต๋งต้องการใช้งานซะอีก
และผมขอปิดท้ายการพาทุกคนชมวิลล่าสองชั้นสไตล์บ้านต้นไม้นามว่า TreeHouse Villa แห่งนี้ด้วยระเบียงชั้น 2 แล้วกันนะครับ ระเบียงของห้อง TreeHouse Villa นั้นจะไม่ได้มีขนาดใหญ่มากนัก แต่ก็สามารถนั่งจิบกาแฟ, ทานขนม และดูวิวทะเลสวยๆ สองคนได้อย่างสบายๆ โดยมุมระเบียงนี้ผมแนะนำเลยว่าเหมาะมากที่จะมานั่งชมวิวในช่วงเช้าและเย็น รวมไปถึงการออกไปยืนโพสต์ท่าสวยๆ แล้วถ่ายรูปไว้อวดให้เพื่อนๆ เราอิจฉาด้วยครับ
Beach Front Pool Villa
หลังจากที่เราดูห้องแบบแรก TreeHouse Villa ที่มีชื่อคล้ายกับชื่อรีสอร์ทไปจนทะลุปรุโปร่งแล้ว คราวนี้มาดูห้องแบบที่สองที่ชื่อว่า Beach Front Pool Villa กันต่อดีกว่าครับ โดยห้องประเภทนี้จะมีเพียงแค่ 6 ห้องเท่านั้น และห้องนี้จะมีจุดที่แตกต่างกับห้อง TreeHouse Villa แบบที่เห็นได้ชัดเจนก็คือ ห้อง Beach Front Pool Villa จะเป็นวิลล่าชั้นเดียว มีขนาดของสระจากุชชี่ที่กว้างกว่า และมีทำเลที่ตั้งอยู่ด้านหน้าของรีสอร์ทซึ่งใกล้กับชายหาดและทะเลครับ ใครที่ไม่ชอบเดินขึ้นบันไดและอยากอยู่ใกล้ทะเลก็จับจองเข้าพักที่ห้อง Type นี้ได้เลย
บรรยากาศในโซนห้องนอนและห้องน้ำใหญ่ของห้องนี้จะคล้ายๆ กับห้องแบบ TreeHouse Villa เลยครับ เรียกว่าถ้าอยู่แค่ในโซนนี้จะไม่รู้สึกถึงความแตกต่างของห้องทั้งสองแบบเลย
แต่ถ้าเรามองออกไปนอกห้องทางด้านปลายเตียง ซึ่งเป็นด้านที่มองเห็นทะเล คราวนี้เราจะเห็นความแตกต่างของห้องนี้กับห้อง TreeHouse Villa ได้อย่างชัดเจนเลย โดยห้อง Beach Front Pool Villa นั้นจะมีสระจากุชชี่ขนาดใหญ่อยู่ชั้นเดียวกับห้องนอนเลย เรียกว่าก้าวเท้าออกจากห้องไปแค่ไม่กี่ก้าวก็สามารถลงสระได้เลยครับ
ส่วนพื้นที่นั่งเล่น, ชิงช้า, Daybed Sofa รวมไปถึงห้องสุขาอีกห้องนั้นจะกระจายอยู่ทางด้านข้างของวิลล่าครับ ซึ่งผมบอกเลยว่ามุม Sofa Daybed นี่ฟินมากๆ นอนชมวิวสวยๆ เพลินๆ ทั้งวันได้เลย
หมายเหตุ : จริงๆ แล้วบริเวณ Sofa Daybed และชิงช้านั้นจะมีฟูกวางอยู่ด้วยนะครับ เพียงแต่ห้องที่ผมถ่ายรูปมานี้ยังไม่มีแขกเข้าพัก ประกอบกับฝนพึ่งจะหยุดตกทางรีสอร์ทก็เลยยังไม่ได้นำเอาฟูกมาวางไว้ครับ
ผมให้ดูภาพมุมอื่นๆ ของ Beach Front Pool Villa เพิ่มเติมครับ ใครที่สงสัยหรือกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัวก็ลองตัดสินจากภาพดูนะครับว่าโอเคกับแนวต้นไม้ที่ทางรีสอร์ทปลูกไว้รอบๆ ตอนนี้หรือเปล่า หากใครคิดว่าแนวต้นไม้ยังเล็กไปหน่อยก็รออีกซักพักก็ได้ครับ ผมว่าอีกประมาณ 6 เดือน – 1 ปี แนวต้นไม้น่าจะสูงและหนากว่าเดิมพอควร
ส่วนนี่เป็นภาพของ Beach Front Pool Villa ตอนกลางคืนครับ บอกเลยว่าสวยงามไม่แพ้ TreeHouse Villa เลย
ใครที่ตัดสินใจจะไปพักที่รีสอร์ทแห่งนี้ก็ลองตัดสินใจดูนะครับว่าชอบห้องแบบไหนมากกว่า เพราะห้องทั้งสองแบบต่างก็มีจุดเด่นเป็นของตัวเอง หากใครชอบแนวบ้านต้นไม้ ไม่ขี้เกียจเดินขึ้นลงบันไดก็เลือก TreeHouse Villa แต่หากใครชอบห้องที่อยู่ใกล้ทะเล และไม่ชอบเดินขึ้นลงบันได อยากเดินออกจากห้องแล้วเจอจากุชชี่ขนาดใหญ่เลย ก็ต้อง Beach Front Pool Villa ครับ
Hilltop Pool Villa
และสำหรับใครที่ชอบบรรยากาศของรีสอร์ทแห่งนี้ แต่รู้สึกว่าห้องทั้งสองแบบที่ผมแนะนำมาก่อนหน้านี้มีขนาดที่เล็กไปหน่อย ก็ต้องไปห้อง Type ที่ 3 ห้อง Hilltop Pool Villa ห้องพักขนาดใหญ่ถึง 390 ตารางเมตร ที่ตั้งอยู่บนเนินเขาอีกฝั่งของชายหาดกันเลยครับ โดยห้องนี้จะเป็นวิลล่า 2 ชั้น 2 ห้องนอนที่สามารถมองเห็นวิวได้สวยงามมาก โดยเฉพาะช่วงเวลาพระอาทิตย์ขึ้น นอกจากนี้ที่ห้อง Hilltop Pool Villa ยังมีสระว่ายน้ำส่วนตัวที่มีความยาวถึง 12 เมตรอีกด้วย บอกเลยว่าครอบครัวไหนหรือแก๊งไหนที่มากันซัก 4 คน และต้องการความเป็นส่วนตัวสูง อยากจะเห็นวิวที่สวยที่สุดในรีสอร์ท มีห้องครัว ห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ไว้ใช้เวลาร่วมกัน ห้องนี้สามารถตอบโจทย์ได้อย่างแน่นอน
หมายเหตุ : เดิมห้องพัก Hilltop Pool Villa จะอยู่ในพื้นที่และการดูแลของ Paradise Koh Yao แต่หลังจากที่ TreeHouse Villas สร้างเสร็จ วิลล่าหลังนี้ก็ได้ย้ายมาอยู่ภายใต้การดูแลของ TreeHoue Villas ครับ
ผมขอเริ่มกิจกรรมแรกที่สระว่ายน้ำส่วนกลางนะครับ เพราะนี่น่าจะกิจกรรมที่หลายๆ คนน่าจะให้ความสนใจเป็นอย่างมาก โดยสระว่ายน้ำส่วนกลางของ TreeHouse Villas นั้นจะอยู่บริเวณเดียวกับห้องอาหารและล็อบบี้เลย และเป็นสระว่ายน้ำที่สามารถมองเห็นวิวภูเขาและทะเลได้อย่างเต็มๆ ตาเลยครับ
สำหรับจุดเด่นของสระว่ายน้ำส่วนกลางของ TreeHouse Villas นั้นนอกจากจะมีวิวที่สวยงามแล้ว ที่สระว่ายน้ำแห่งนี้ยังมีการดีไซน์ที่เก๋ไก๋ด้วยการทำเป็นสระว่ายน้ำ 2 ชั้น โดยชั้นบนจะเป็นสระว่ายน้ำพร้อมเตียงอาบแดดเหนือน้ำที่ดีไซน์มาเป็นพิเศษ และเป็นเตียงที่ผมว่าหลายคนเห็นแล้วต้องอยากลงไปนอนซักครั้งครับ
ส่วนชั้นล่างของสระนั้นได้มีการออกแบบให้เป็นเหมือนถ้ำตามธรรมชาติที่มีน้ำไหลผ่านลงมา โดยเราสามารถว่ายน้ำผ่านผืนน้ำเพื่อเข้าไปภายในถ้ำด้านในได้ด้วย เรียกว่าเป็นสระว่ายน้ำที่สามารถสร้างความสนุกและประสบการณ์แปลกใหม่ให้กับคนที่มาใช้บริการได้เป็นอย่างดี และด้วยความเก๋ไก๋ของการดีไซน์สระว่ายน้ำแห่งนี้ ทำให้สระนี้มีชื่อว่าสระถ้ำน้ำตก หรือ Grotto Pool ครับ
นอกจากนี้ที่บริเวณข้างๆ สระก็ยังมีห้องซาวน่าไว้บริการอีกด้วย ใครที่ชอบซาวน่าก็อย่าลืมแวะมาใช้บริการนะครับ ผมว่าทางรีสอร์ทเค้าออกแบบและตกแต่งห้องซาวน่าออกมาได้สวยงาม ดูเข้ากับบรรยากาศรอบๆ ดีครับ
ผมให้ดูภาพของสระว่ายน้ำแห่งนี้เพิ่มเติมอีกซักหน่อยนะครับ วันแดดดีๆ ฟ้าใสๆ ที่สระแห่งนี้ถือเป็นอีกจุดนึงที่เราควรมาใช้เวลากับคนที่เรารักเลยครับ
มาต่อกันที่กิจกรรมที่สอง โดยกิจกรรมนี้จะเป็นกิจกรรมการออกกำลังกายต่างๆ ทั้งปิงปอง, เปตอง, แบดมินตัน, Beach Ball, คายัค, ปั่นจักรยาน และโยคะโดย 4 กิจกรรมแรกนั้นทางรีสอร์ทจะมีอุปกรณ์ให้เรายืมไปเล่นได้ฟรีๆ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ส่วน 3 กิจกรรมหลังอย่างการพายคายัค, ปั่นจักรยาน และโยคะนั้นจะมีค่าใช้จ่ายครับ ใครที่สนใจก็ลองสอบถามทางรีสอร์ทดูนะครับว่ามีค่าใช้จ่ายอย่างไรและเปิดบริการตอนไหนบ้าง
ส่วนใครที่เป็นสายชิล ไม่อยากออกกำลังกายให้เหงื่อออกก็สามารถไปเดินเล่น หรือนั่งเล่นบริเวณชายหาดและทะเลได้ โดยชายหาดของที่นี่จะเป็นชายหาดส่วนตัวทอดเป็นแนวยาวหลายร้อยเมตร ใครที่ชอบเล่นน้ำทะเลแบบสงบๆ ไม่มีคนอื่นมาวุ่นวายน่าจะถูกใจกับการมาพักที่นี่พอควรเลย
เดินเล่นชายหาดกันเสร็จแล้ว หากใครอยากจะนวดคลายเส้นก็สามารถไปใช้บริการ Serenity Spa กันต่อได้ โดยสปาของที่นี่เค้ามีบริการทั้งนวดไทย, นวดน้ำมัน และนวดอโรมาเลย ตัวผมเองได้มีโอกาสไปใช้บริการนวดไทยมาด้วยครับ พนักงานนวดดีมาก ส่วนพื้นที่ของห้องนวดก็เป็นส่วนตัว แยกออกมาเป็นหลังๆ ห่างจากโซนที่พักอย่างชัดเจน รวมถึงมีห้องน้ำ ห้องเปลี่ยนชุด ล็อคเกอร์ให้เราใช้บริการครบถ้วนครับ
แต่ถ้าใครที่ไม่ใช่สายนวด ผมขอแนะนำนี่เลยกิจกรรมเพ้นท์ผ้าบาติกตามแบบฉบับเกาะยาวน้อย กิจกรรมที่ผมว่ามันเก๋และควรลองมากๆ โดยทางรีสอร์ทจะมีวัสดุให้เราเลือก 2 แบบ แบบแรกคือเสื้อยืดสีขาว (350 บาท) และแบบที่สองคือผ้าเช็ดหน้าขนาดเล็ก (200 บาท) โดยทั้งสองแบบนั้นทางรีสอร์ทจะมีการวาดรูปบนผ้าไว้ให้เรียบร้อยแล้ว เราเพียงแต่เอาสีที่ทางรีสอร์ทเตรียมไว้ให้ระบายลงไปบนผ้าเหล่านั้นตามแต่จินตนาการและฝีมือศิลปะของเราเท่านั้นเองครับ
โดยสีที่ทางรีสอร์ทเตรียมไว้ให้เรานั้นเรียกว่าเพียงพอต่อการใช้งานเลย ยิ่งใครที่มีหัวทางศิลปะหน่อยก็ยิ่งสามารถนำสีเหล่านั้นมาผสมแต่งเติมเป็นสีต่างๆ ได้อีกมากมาย ส่วนระยะเวลาในการเพ้นท์นั้น ผมว่าควรมีเวลาซัก 1 – 1.30 ชั่วโมงกำลังดีครับ เราจะได้ไม่เร่งรีบเพ้นท์จนเกินไป
ใครที่สนใจกิจกรรมเพ้นท์ผ้าบาติกนี้ก็สามารถไปติดต่อที่รีสอร์ทได้เลยครับ โดยผมแนะนำว่าคนที่เลือกทำกิจกรรมนี้ควรจะต้องพักที่รีสอร์ทซัก 2 คืน และรีบไปเพ้นท์ตั้งแต่วันแรกเลย ผ้าของเราจะได้แห้งสนิทดีก่อนที่เราจะเดินทางกลับ ส่วนใครที่ไปพักแค่คืนเดียวอาจจะต้องเสี่ยงหน่อยว่าผ้าจะแห้งมั้ย โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน
ต่อด้วยกิจกรรมภายในรีสอร์ทแห่งนี้ที่ผมบอกเลยว่าใครมาที่นี่แล้วไม่ได้ทำนั่นถือว่าพลาดและเหมือนมาไม่ถึงเลย นั่นก็คือการดูนกเงือกครับ โดยที่บริเวณ TreeHouse Villas และ Paradise Koh Yao นั้น จะมีนกเงือกอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะช่วงเช้าและเย็นฝูงนกเงือกหลายสิบตัวจะบินโฉบไปมาจากต้นไม้ต้นหนึ่งไปยังอีกต้นไม้อีกต้นหนึ่ง โดยที่เราสามารถมองเห็นชัดเจนด้วยตาเปล่าเลยครับ
สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ผมว่ามันแสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ของป่าและธรรมชาติของเกาะยาวน้อยเป็นอย่างมาก ใครที่อยากเห็นนกเงือกใกล้ๆ ไม่ควรพลาดที่จะมาที่นี่ รับรองว่าได้เห็นแน่ๆ ทุกเช้าเย็น ส่วนใครที่จะต้องการถ่ายภาพก็ขอให้คำนึงถึงความเหมาะสมและระยะห่างในการถ่ายภาพด้วยนะครับ
หมายเหตุ : นกเงือกที่เราพบเห็นบนเกาะยาวน้อยนั้นจะมีอีกชื่อเรียกว่านกแก๊ก โดยนกเงือกชนิดนี้จะเป็นนกเงือกสายพันธุ์ที่เล็กที่สุดที่มีการพบเห็นในประเทศไทย ดังนั้นบางคนก็เลยจะเรียกนกชนิดนี้ในอีกชื่อหนึ่งว่านกเงือกเล็กครับ
.
.
.
ปลูกไว้วันนี้และอีกซัก 10 ปี เราก็ชวนแฟนกลับมาดูขนาดของมันครับว่าจะเติบโตเบ่งบาน แข็งแรงเหมือนกับความรักของพวกเราหรือเปล่า ><
มาถึงตรงนี้หลายๆ คนก็คงจะคิดว่ากิจกรรมที่เราสามารถทำได้ในขณะเข้าพักที่ TreeHouse Villas นั้นน่าจะหมดแล้วใช่มั้ยครับ แต่ผมบอกเลยว่าคุณกำลังคิดผิดครับ!! เพราะที่ผมเล่าไปนั้นเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของกิจกรรมที่อยู่ภายในรีสอร์ทเท่านั้น โดยทาง TreeHouse Villas ยังมีกิจกรรมสนุกๆ แบบ One Day Trip ที่เปิดโอกาสให้เราได้ออกไปท่องเที่ยว ได้ไปเรียนรู้ และได้ไปสัมผัสประสบการณ์ที่น่าสนใจมากมายในเกาะยาวน้อยรวมถึงหมู่เกาะใกล้เคียงอีกด้วยครับ ไม่ว่าจะเป็น การไปเกาะผักเบี้ย, เกาะห้อง, ชมสันหลังมังกรหรือทะเลแหวก, เดินป่าชมต้นไม้ยักษ์ขนาดสิบคนโอบ รวมไปถึงการไปสัมผัสวิถีชีวิตชุมชนของเกาะยาวน้อย ชมธรรมชาติและฝูงควายอย่างใกล้ชิด และปิดท้ายด้วยการชิมโรตีแสนอร่อยของขึ้นชื่อประจำเกาะครับ
ใครที่สนใจกิจกรรมไหนก็สามารถสอบถามกับทางรีสอร์ทได้เลย แต่ละกิจกรรมทางรีสอร์ทสามารถจัดให้เราได้เพียงแค่เรามีผู้ร่วมทริปตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปครับ
สำหรับอาหารเช้าของ TreeHouse Villas นั้น จะเปิดให้บริการตอน 7.30 น. – 10.30 น. ซึ่งถือว่าเป็นอาหารเช้าที่เปิดให้บริการสายเหมือนกัน แต่ก็พอจะเข้าใจได้ว่าแขกที่มาพักส่วนใหญ่น่าจะใช้เวลาดื่มด่ำกับช่วงกลางคืนของที่นี่กันพอดู ดังนั้นเวลาที่ทางรีสอร์ทตั้งไว้ก็น่าจะเหมาะสมกับคนที่เข้าพักแล้วครับ
ในส่วนที่ตั้งของห้องอาหารเช้านั้นจะอยู่ข้างๆ กับสระว่ายน้ำและล็อบบี้เลย โดยห้องอาหารนี้มีชื่อว่า “Roots” ซึ่งแปลเป็นไทยว่า “รากไม้” ก็เรียกว่าชื่อที่สอดคล้องไปกับธีมของรีสอร์ทได้เป็นอย่างดี ส่วนในเรื่องของพื้นที่นั้นห้องอาหารแห่งนี้สามารถรองรับคนได้ประมาณ 30 คน และหากพื้นที่นั่งไม่พอ เราสามารถที่จะไปนั่งในพื้นที่ของ Roots Bar ที่อยู่ติดกันได้ครับ
ภาพนี้เป็นภาพของ Roots Bar ครับ อยู่ติดกับห้องอาหาร Roots เลย เดินแค่ไม่กี่ก้าวก็ถึง ดังนั้นเมื่อรวมที่นั่งในส่วนนี้เข้าไปด้วยก็น่าจะสามารถรองรับแขกที่มาทานอาหารเช้าได้อย่างพอดีๆ ครับ
ไลน์อาหารเช้าของ TreeHouse Villas นั้น จะไม่ได้มีขนาดใหญ่โตมากนัก โดยเค้าจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลักๆ ด้วยกัน ส่วนแรกก็คือส่วนที่ทางรีสอร์ทจัดวางอาหารต่างๆ ไว้เรียบร้อยแล้ว และให้แขกที่เข้าพักเดินเลือกตักด้วยตัวเอง ส่วนส่วนที่สองจะเป็นเมนูที่เราจะต้องสั่งให้ทางเชฟปรุงให้ใหม่และนำมาเสิร์ฟเราที่โต๊ะครับ
สำหรับอาหารในส่วนแรกจะประกอบไปด้วยสลัด, ขนมปัง, โยเกิร์ต, ข้าวต้ม, สปาเกตตี้, Cold Cuts, เครื่องดื่ม, ผลไม้ แล้วก็ขนมหวานทั้งไทยและเทศ ซึ่งโดยส่วนตัวผมค่อนข้างประทับใจที่ทางรีสอร์ทได้นำขนมหวานไทยๆ เข้ามาอยู่ในไลน์ด้วยนะครับ มันดูน่ากินมาก และบางครั้งขนมหวานไทยๆ เหล่านี้ เราคนไทยเองยังแทบไม่ค่อยได้กินเลย พอมาเจอแบบนี้ผมก็เลยจัดไปหลายชิ้นเลย ><
ส่วนอาหารในหมวดที่สองที่เราต้องสั่งให้เชฟปรุงให้นั้น ทางรีสอร์ทจะมีการวางใบรายการไว้บนโต๊ะทุกโต๊ะครับ ใครอยากทานอะไรก็สามารถสั่งกับพนักงานได้เลย โดยในวันที่ผมไปนั้นเราสามารถที่จะสั่งอาหารประเภทไข่ ไม่ว่าจะเป็นไข่ดาว, ไข่ต้ม, ไข่คน, ออมเล็ต, Poached Egg และ Egg Benedict ได้ รวมไปถึงยังมีเมนูอย่างคริสปี้เบคอน (Crispy Bacon), ไส้กรอกหมู, ไส้กรอกลูกวัว, ไส้กรอกไก่, แพนเค้ก และชากับกาแฟให้เราสั่งอีกด้วยครับ
และจากที่ผมได้ชิมอาหารแทบจะทั้งหมดในใบรายการนี้ ผมขอบอกเลยว่ามันดีมากครับ เมนูไข่แต่ละอย่างทำออกมาได้น่ากิน และรสชาติโอเคเลย โดยจุดที่ผมประทับใจที่สุดก็คือการที่เราสามารถเลือกได้ว่าเราจะให้ทางเชฟใส่อะไรลงไปในไข่ด้วย เช่น เบคอน, แฮม, ชีส เป็นต้น แนะนำเลยว่าใครชอบทานไข่ควรจะต้องสั่งมาลองครับ
ส่วนใครเป็นสายเนื้อ สายเบคอน ต้องห้ามพลาดไส้กรอกและคริสปี้เบคอนเลยครับ โดยไส้กรอกที่ผมชอบมากก็คือไส้กรอกหมูและไส้กรอกลูกวัว ส่วนคริสปี้เบคอนนี่บอกเลยว่าผมกับต๋งจัดไปวันละ 5 จานได้ ><
และที่พลาดไม่ได้หลังจากกินของคาวต่างๆ แล้วนั่นก็คือแพนเค้กครับ ผมว่าที่ TreeHouse Villas นั้น เค้าทำแพนเค้กมาได้นุ่ม อร่อยดี ยังไงก็อย่าลืมเผื่อท้องไว้กินด้วยนะครับ
ส่วนในเรื่องของเครื่องดื่มนั้น หากใครที่ไม่อยากทานน้ำผลไม้และนมที่อยู่ในไลน์ เราก็สามารถที่จะสั่งชาและกาแฟกับทางพนักงานได้ครับ เค้ามีบริการทั้งในส่วนของร้อนและเย็นเลย ใครอยากชิมเมนูไหนก็จัดโลดดดด
และด้วยความที่ TreeHouse Villas นั้น เป็นรีสอร์ทที่แยกตัวออกมาโดดเดี่ยวทางด้านทิศเหนือของเกาะยาวน้อย ไม่ได้อยู่ใกล้กับแหล่งชุมชนซักเท่าไหร่ ดังนั้นแขกที่เข้าพักที่นี่ก็เลยจะต้องรับประทานอาหารมื้ออื่นๆ ภายในรีสอร์ทแห่งนี้ด้วย ซึ่งจากที่ผมได้ลองตระเวนชิมอาหารประเภทต่างๆ ภายในรีสอร์ทแห่งนี้ รวมไปถึงห้องอาหารของ Paradise Koh Yao ที่เราสามารถเดินไปใช้บริการได้อย่างสบายๆ นั้น ผมต้องบอกเลยว่าคุณภาพและรสชาติอาหารส่วนใหญ่ทาง TreeHouse Villas และ Paradise Koh Yao นั้นทำออกมาได้ดีมาก มีอาหารให้เลือกทานหลากหลายทั้งไทยและตะวันตก โดยเฉพาะคนที่ชอบทานอาหารอิตาเลี่ยน ทางรีสอร์ทได้มีห้องอาหารอัลเฟรชโก (Al Fresco Restaurant) ที่ให้บริการอาหารประเภทนี้โดยเฉพาะด้วยครับ
หมายเหตุ : สำหรับคนที่ชอบทานอาหารไทยนั้นผมต้องบอกให้ทราบก่อนนะครับว่ารสชาติอาหารไทยส่วนใหญ่ของ TreeHouse Villas นั้นจะไม่ได้มีความจัดจ้านมากนัก เพราะแขกที่เข้าพักส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มชาวต่างชาติเป็นหลัก ดังนั้นใครที่อยากทานอาหารไทย หรืออะไรที่เผ็ดจี๊ดถึงใจ ก็อาจจะต้องมีการแจ้งให้ทางพนักงานหรือเชฟทราบก่อนครับ
ส่วนในเรื่องของราคาอาหารโดยส่วนใหญ่ เท่าที่ผมได้ลองสอบถามราคามาก็พบว่าเป็นราคามาตรฐานของโรงแรมหรือรีสอร์ท 4-5 ดาว ที่ตั้งอยู่ตามเกาะครับ ใครที่มีแพลนจะไปพักที่นี่ก็อย่าลืมเตรียมค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ไปเผื่อด้วยนะครับ และใครที่เป็นสายของหวานผมแนะนำเลยว่าของหวานที่ TreeHouse Villas นั้น ทางเชฟเค้าทำออกมาได้สวยและรสชาติดีมาก ผมได้มีโอกาสทานไป 3-4 เมนู รู้สึกประทับใจหมดเลยครับ ^^
บทสรุปรีวิว
และทั้งหมดนี้ก็คือประสบการณ์จากที่ผมกับต๋งได้มีโอกาสเข้าไปพักที่ TreeHouse Villas (ทรีเฮ้าส์ วิลล่าส์) เกาะยาวน้อย จังหวัดพังงา ในระหว่างวันที่ 19 – 21 มิถุนายน 2561 ครับ และเพื่อให้ทุกคนเห็นภาพของรีสอร์ทแห่งนี้ชัดเจนยิ่งขึ้น ผมก็เลยขอสรุปการรีวิวออกมาเป็นเรื่องๆ ตามนี้นะครับ
การออกแบบ : สวย ดิบ เก๋ หรู แปลกใหม่ ไม่เหมือนใคร น่าจะเป็นคำบรรยายถึงการออกแบบของรีสอร์ทแห่งนี้ได้ดีที่สุดครับ เพราะที่นี่มีความสวยงามแบบธรรมชาติ มีการใช้ไม้และรูปทรงต่างๆ ที่ดูเป็นธรรมชาติมาเป็นส่วนหนึ่งของการออกแบบ แต่ก็มีการแฝงความสะดวกในการใช้งาน อุปกรณ์ที่ทันสมัย รวมทั้งมีความหรูลงไปในส่วนต่างๆ ด้วยครับ ก็เอาเป็นว่าสำหรับข้อนี้ผมให้ 10 เต็ม 10 เลยครับ
ความสะอาด : แม้จะเป็นรีสอร์ทที่ตั้งอยู่ใกล้ชิดกับธรรมชาติ ใกล้ป่า, ภูเขา, ชายหาด และทะเล แต่ในเรื่องของความสะอาดในส่วนต่างๆ นั้น ทาง TreeHouse Villas ก็ทำออกมาได้ดีมากๆ เรียกว่าไม่มีขยะหรือสิ่งส่งปรกที่ดูแล้วขัดตาเลย
สิ่งอำนวยความสะดวก : มีมาให้ครบครันจริงๆ ตั้งแต่อุปกรณ์การอาบน้ำทั้งชายและหญิง, รองเท้าแตะ, กระเป๋าใส่ของไปเดินเล่น, เครื่องชั่งน้ำหนัก, ไอแพด, ไฟฉาย, ตู้เซฟ, ผ้าเช็ดตัวชายหาด, ราวตากผ้า, สครับเกลือขัดผิว…..ที่นี่จัดของทุกอย่างที่ผมคิดว่าคนที่มาพักผ่อนต้องการใช้งานได้ครบถ้วนโดยไม่ต้องร้องขออะไรเพิ่มเลย ยิ่งเรื่องของกินภายในห้องยิ่งไม่ต้องพูดถึงเพราะพี่เค้าจัดน้ำเปล่า, น้ำอัดลม, ผลไม้ มาให้เราเยอะมาก ที่สำคัญทานฟรีด้วยนะครับ >< ส่วนในเรื่องของ Wifi นั้น จากที่ผมได้ลองใช้งานมา 3 วัน ก็พบว่าสัญญาณต่างๆ เสถียรดีครับ รวมถึงความเร็วในการใช้งานก็อยู่ในเกณฑ์ที่ดีด้วย
การเดินทาง : ด้วยความที่เป็นรีสอร์ทที่ตั้งอยู่บนเกาะ ดังนั้นในเรื่องของการเดินทางทั้งเวลา,ความสะดวกสบายและค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นเราก็ต้องทำใจนิดนึงนะครับ โดยระยะเวลาในการเดินทางจากสนามบินไปยังท่าเรือของ TreeHouse Villas ทั้งจากสนามบินภูเก็ตและสนามบินกระบี่จะใช้เวลาใกล้เคียงกันคือประมาณ 1 ชั่วโมงครับ (ระยะเวลาจากสนามบินภูเก็ตไปยังท่าเรือ Yacht Haven Marina ประมาณ 20 นาที และนั่งเรือต่ออีกประมาณ 50 นาที ส่วนระยะเวลาจากสนามบินกระบี่ไปยังท่าเรือท่าเลนจะใช้เวลาประมาณ 40 นาที และเราต้องนั่งเรือต่ออีกประมาณ 20 นาทีครับ)
การนอนหลับพักผ่อน : ดีงามมาก หลับสบาย เตียง หมอน ผ้าห่มนุ่ม แอร์ก็เย็นสบาย แถมเรายังสามารถเปิดไฟและแอร์ทิ้งไว้ตลอดเวลาที่เราไม่อยู่ห้องได้ด้วย ที่สำคัญช่วงหัวค่ำของทุกวันจะมีพนักงานของทางรีสอร์ทมากางมุ้ง จัดน้ำดื่มและรองเท้า ข้างเตียงให้เราเสร็จสรรพ มันเป็นอะไรที่ผมเข้าพักแล้วประทับใจมากเลยครับ ^^
การบริการของพนักงาน : ยิ้มแย้มแจ่มใส บริการดีสมกับภาพลักษณ์และระดับของรีสอร์ทครับ
อาหารเช้า : ว่ากันตรงๆ ในเรื่องของคุณภาพ หน้าตา และรสชาติผมให้สอบผ่านเลยครับ ประมาณ 80% ของเมนูที่ผมได้ชิม ผมประทับใจในรสชาติมากและหลายๆ เมนูผมถึงกับมีการสั่งมาทานซ้ำ แต่ในเรื่องของความหลากหลายของอาหารและการบริการผมว่าทางห้องอาหารอาจจะต้องมีการปรับปรุงเพิ่มเติมอีกนิด โดยความหลากหลายของอาหารนั้นผมว่าหากสามารถเพิ่มอาหารไทยหรือเมนูที่น่าสนใจลงไปอีกซัก 2-3 อย่างน่าจะทำให้ไลน์นี้ลงตัวขึ้น ส่วนเรื่องของการบริการเนื่องจากว่าช่วงที่ผมไปนั้นเป็นช่วงที่รีสอร์ทพึ่งเปิดบริการเต็มรูปแบบและมีแขกเข้าพักเต็มทุกห้อง ประกอบกับเมนูส่วนหนึ่งของไลน์อาหารเช้านี้เป็นเมนูที่ทางเชฟจะต้องปรุงสุกใหม่และนำมาเสิร์ฟที่โต๊ะ ดังนั้นก็เลยอาจจะมีความล่าช้าและต้องรอนานบ้าง แต่อย่างไรก็ตาม ผมว่าในอนาคตทางห้องอาหารน่าจะสามารถปรับปรุงกระบวนการรับออเดอร์และปรุงอาหารเหล่านี้ได้เร็วขึ้นครับ
อาหารมื้ออื่นๆ : จากที่ผมได้มีโอกาสทานอาหารอีก 4-5 มื้อภายในรีสอร์ทนี้ ทั้งในส่วนของห้องอาหารของ TreeHouse Villas และห้องอาหารภายใน Paradise Koh Yao ผมต้องบอกเลยว่ารสชาติอาหารส่วนใหญ่นั้นดีเลยครับ โดยเฉพาะเมนูของหวานที่ทางเชฟทำออกมาได้ถูกปากผมมากๆ ส่วนในเรื่องของราคานั้นก็ต้องบอกว่าตามมาตรฐานของโรงแรมและตำแหน่งที่ตั้งล่ะครับ ใครที่จะไปพักที่นี่ก็เตรียมบัดเจ็ทไปเผื่อด้วยนะครับ
สรุป : TreeHouse Villas (ทรีเฮ้าส์ วิลล่าส์) เกาะยาวน้อย จ.พังงา เป็นรีสอร์ทที่ผมว่าเก๋ สวย หรู มีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร เลย และเป็นรีสอร์ทที่เหมาะมากๆ ที่จะพาคนรักไปใช้เวลาเติมความหวานด้วยกัน (รีสอร์ทแห่งนี้จำกัดอายุผู้เข้าพักที่ 16 ปีบริบูรณ์ขึ้นไปนะครับ) เพราะด้วยลักษณะของห้อง, การบริการ, ทำเลที่ตั้ง รวมทั้งกิจกรรมต่างๆ ที่ทางรีสอร์ทมีบริการ มันเป็นสิ่งที่จะช่วยทำให้คุณได้อิ่มเอมกับการพักผ่อน ได้อิ่มใจกับการใช้เวลากับคนที่คุณรักท่ามกลางความสงบและสมบูรณ์ของธรรมชาติ โดยที่ไม่ถูกรบกวนจากทัวร์หรือผู้คนจำนวนมาก และที่สำคัญท่ามกลางความพักผ่อนที่แสนจะสงบและเป็นธรรมชาตินั้น ที่ TreeHouse Villas ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ครบครันจนไม่ทำให้คนที่เข้าพักรู้สึกว่าลำบากแม้แต่อย่างใด ใครที่กำลังมองหาที่พักสงบๆ มีสไตล์โดดเด่นอย่างบ้านต้นไม้ มีมุมถ่ายรูปเก๋ๆ ที่พอเราถ่ายลง Social ปุ๊บเพื่อนเราต้องร้องกรี๊ดปั๊บ และไม่ได้เป็นคนที่เน้นกับการอยู่ใกล้แสงสี ความบันเทิง หรืออยากสัมผัสกับทะเลใสๆ ทรายนุ่มๆ ละเอียดสุดๆ ที่ TreeHouse Villas แห่งนี้ น่าจะสามารถตอบโจทย์คุณได้เป็นอย่างดีเลยครับ ^^
ขอบคุณทุกท่านที่อ่านจนจบครับ และหวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์ต่อทุกท่าน ทั้งนี้หากท่านใดที่ต้องการติดตามเรื่องราวการกินของผมกับต๋งอย่างใกล้ชิด ก็สามารถกดติดตามได้ที่เพจ ภรรยาหา สามีใช้ ได้เลยครับ ส่วนใครที่ต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกับทาง TreeHouse Villas ก็สามารถติดต่อได้ตามช่องทางด้านล่างนี้เลย แล้วพบกันใหม่ สวัสดีครับ
Facebook : TreeHouse Villas
เบอร์ติดต่อ : 076-584460
เช็คราคาและจองที่พักผ่าน Website โรงแรม : https://goo.gl/A9s8Wa
เช็คราคาและจองที่พักผ่าน Agoda คลิกที่นี่
หมายเหตุ : บทความนี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวของผมในวันที่ไปใช้บริการเท่านั้นครับ แต่ละท่านที่ได้มีโอกาสไปใช้บริการอาจจะได้รับการบริการที่แตกต่างจากนี้