ผมเชื่อว่าหลายๆ คนมักจะมีปัญหานึงที่เกิดขึ้นก็คือ พอมีเพื่อนจากต่างจังหวัดหรือชาวต่างชาติมาสอบถามมา หากเค้าอยากจะหาที่พักที่ใกล้ๆ สยามหรือใกล้แหล่งชอปปิ้ง เดินทางสะดวก ราคาไม่แพง มีที่ไหนแนะนำมั้ย
.
.
หลายๆ คนก็จะเกิดอาการอึ้ง หรือใบ้รับประทานไปชั่วครู่เพราะนึกไม่ออกว่าจะแนะนำที่ไหนดี โดยเฉพาะผม เพราะบอกตามตรงว่าย่านนั่นผมรู้จักแต่โรงแรมใน Chain ที่มีชื่อเสียงมากและแน่นอนว่าราคามันก็คงจะเกินงบไปพอควร แต่ในที่สุดปัญหานี้ของผมก็ได้หมดลง เมื่อผมได้มารู้จักกับ The Berkeley Hotel Pratunam ครับ
The Berkeley Hotel Pratunam เป็นโรงแรมขนาดใหญ่มากกกก อยู่แถวประตูน้ำ ตัวโรงแรมนั้นอยู่ติดกับตึก Palladium เลย หรือเรียกว่ามันอยู่เยื้องๆ กับ Platinum ที่หลายๆ คนชื่นชอบในการไปชอปปิ้งเสื้อผ้านั่นเองครับ
Disclosure : บทความนี้ได้รับการสนับสนุนจากผู้ให้บริการ แต่ทั้งนี้ความเห็นต่างๆ ที่เกิดขึ้นเป็นความรู้สึกจริงของผมครับ
ก็เรียกได้ว่าทำเลของ The Berkeley Hotel Pratunam นั้นดีมากๆ เพราะถึงแม้จะไม่ได้ใกล้กับรถไฟฟ้าแบบชนิดที่เดินเชื่อมถึง แต่ก็ไม่ไกลมาก สามารถเดินไหว และที่สำคัญละแวกนี้มีแหล่งชอปปิ้ง แหล่งเที่ยวให้เราใช้เวลากับมันเยอะมากกกก ซึ่งเดี๋ยวผมจะพาทุกคนไปดูกันว่า ใน 1 วันที่ผมพักที่นี่ ผมสามารถไปเที่ยวที่ไหนได้บ้าง แต่ก่อนอื่นเราไปดูรายละเอียดต่างๆ ของโรงแรมกันก่อนดีกว่าครับ
ตัวโรงแรม The Berkeley Hotel Pratunam นั้นมีขนาดใหญ่มาก และสำหรับคนที่ขับรถมาก็มีที่จอดรถเยอะแยะมากมาย โดยที่จอดรถของโรงแรมนั้นจะต้องไปจอดที่ 8 และจะมีลิฟท์ต่อไปยัง Lobby ของโรงแรมได้ ซึ่งผมจะบอกว่าไม่ต้องตกใจไปนะครับว่ามันวนหลายชั้นจัง เพราะที่จอดรถที่นี่เค้าออกแบบมาดี ดังนั้นเราใช้เวลาขับขึ้นแค่แป๊บเดียวก็ถึงชั้น 8 แล้วครับ
หน้าตาของ Lobby โรงแรมประมาณนี้ครับ ใหญ่โตดี ตอนที่ผมไปนั้นมีคนมารอ Check In Check Out อยู่เยอะทีเดียว เพราะเป็นช่วงเที่ยงพอดี แต่เจ้าหน้าที่เค้าก็บริการได้ไวดีครับ
ใกล้ๆ กับเคาเตอร์ Check in นั้น จะมีโซนรับฝากของและสัมภาระต่างๆ อยู่ด้วย มีการกั้นเขตชัดเจน รวมทั้งติดป้าย Tag ที่กระเป๋า มีพนักงานเฝ้าและที่สำคัญ มีกล้องวงจรปิดด้วย ดังนั้นจึงสบายใจได้ครับว่าของเราจะปลอดภัย
ที่บริเวณชั้น 1 นี้ มี Lounge ไว้บริการด้วยนะครับ กว้างใหญ่เชียว แถมเค้กก็น่ากินด้วยครับ
เอาล่ะ หลังจากสำรวจชั้น 1 เสร็จแล้ว ทีนี้เราขึ้นไปสำรวจห้องเรากันดีกว่าครับ
ตัวโรงแรม The Berkeley Hotel Pratunam นั้น จะมี 2 ตึกนะครับ คือ Main Tower และ North Tower โดยวันนี้ผมเข้าพักที่ชั้น 24 ของตึกที่ชื่อว่า Main Tower ซึ่งตึก Main Tower นี้จะมีทั้งที่รับประทานอาหารเช้า แล้วก็สระว่ายน้ำ ส่วนอีกตึกถ้าผมจำไม่ผิดน่าจะมี Spa ครับ
ทั้ง 2 ตึกนี้จะมีทางเดินเชื่อมกันที่ชั้น 11 ซึ่งเป็นชั้นที่มีสระว่ายน้ำครับ
ประเภทห้องที่ผมพักนั้นชื่อว่า Luxury Suite ครับ แว้บแรกที่เปิดประตูเข้าไปเจอผมถึงกับตกใจ เพราะตัวห้องกว้างมาก แถมยังมี 2 เตียงอีกด้วย แถมเตียงแต่ละเตียงก็ไม่ใช่เล็กๆ นะครับ เป็นเตียงใหญ่เลย เรียกว่านอนสบายกันสุดๆ หรือจะมากันหลายคนก็ได้
ภายในห้องนอกจากจะมี 2 เตียงใหญ่ๆ กับโต๊ะทำงานแล้ว ยังมีชุดโซฟาและเก้าอี้เอาไว้ชมวิว รวมทั้งตู้เสื้อผ้ากับโซนแต่งตัวด้วยครับ แต่ละโซนก็พื้นที่เยอะใช้ได้
สิ่งอำนวยความสะดวกในห้องก็ครบครับ ตามมาตรฐานโรงแรมดีๆ ไม่ว่าจะเป็น TV, ตู้เย็น, กระติกน้ำแข็ง, กาต้มน้ำ, ชา-กาแฟ, เสื้อคลุมอาบน้ำ, ไฟฉาย, รองเท้า, ไดร์เป่าผม, ตู้เซฟ แล้วก็น้ำเปล่า 3 ขวด
อ้อ ที่นี่เค้าไม่มี Welcome Drink แต่ให้มาเป็น Set ผลไม้แทนนะครับ ใหญ่และดีมาก @_@
ทีนี้เราไปดูห้องน้ำกันดีกว่า ห้องน้ำของที่นี่กว้างมาก และก็เป็น Sexy Bahtroom ที่สามารถเปิดปิดได้ มีทั้งอ่างอาบน้ำ แล้วก็ Shower Box ครับ ส่วนตัวชักโครกก็มีสายฉีดชำระรวมทั้งโทรศัพท์ไว้ใช้ยามฉุกเฉินด้วย
ส่วนอุปกรณ์อาบน้ำ ให้มาครบครันมาก ชอบสุดๆ เลยครับ เพราะมีทั้งครีมอาบน้ำ, ยาสระผม, โลชั่น, Cotton Bud, หมวกอาบน้ำ, สบู่ แล้วก็ชุดแปรงฟันครับ ตัวขนแปรงนั้นไม่แข็งมาก นุ่มกำลังดีเลย
สำหรับวิวในห้องผมจะเห็นวิวแบบนี้นะครับ เรียกว่าใกล้ Central World มากๆ สามารถเดินไปถึงภายใน 10 นาทีสบายๆ โดยช่วงกลางวันแดดอาจจะแรงหน่อย ต้องใช้ผ้าม่านปิดไว้ แต่ช่วงเย็นๆ ผมว่าวิวน่าจะสวยดีครับ
สำรวจห้องกันเสร็จแล้ว ทีนี้ไปสำรวจส่วนกลางของ The Berkeley Hotel Pratunam กันดีกว่า โดยส่วนที่ผมจะพาไปดูก็คือบริเวณชั้น 11 ที่เป็นทางเชื่อมตึกและสระว่ายน้ำครับ
สระว่ายน้ำที่นี่ผมว่าสวยดีนะครับ ตัวขอบสระฝั่งนึงทำเป็นกระจกใสด้วย เก๋ดี และเค้ายังมีการเปิดเพลงตรงมุมที่เป็นจากุชชี่ด้วย มันก็เลยเป็นอะไรที่ดีมาก เสียอย่างเดียวก็คือช่วงกลางวันนั้นแดดมันร้อนไปมากสำหรับผม T___T แต่สำหรับชาวต่างชาติน่าจะชอบกันครับ
ตรงสระว่ายน้ำนี้ ถ้าเราแหงนหน้าขึ้นไปมองก็จะเห็นตึกทั้งสองของ The Berkeley Hotel Pratunam ครับ
บริเวณสระว่ายน้ำนี้มันจะสามารถเดินขึ้นไปบริเวณชั้นลอยอีกชั้นนึงได้ครับ เป็นที่นั่งพักผ่อนที่ชิวๆ ดีเหมือนกัน และก็จะสามารถเห็นทางเชื่อมตึกแล้วก็สระว่ายน้ำในมุม Top แบบนี้ครับ
สำรวจข้างนอก ตอนแดดเปรี้ยงๆ จนตัวผมเริ่มไหม้แล้ว ผมขออนุญาตกลับเข้าไปในตึกนิดนึงนะครับ โดยที่ชั้น 10 และ 11 ของ The Berkeley Hotel Pratunam จะมีร้านเบเกอรี่และ Coffee Shop บริการด้วย ใครที่อยากมานั่งชิลๆ เย็นๆ ข้างในก็มาที่ชั้นนี้ได้เลย
ส่วนภาพนี้เป็นภาพที่ถ่ายจากลานกว้างที่ชั้น 10 มองมุมนี้ไปเห็นตึกใบหยก 2 สวยดีครับ
ตอนนี้เราก็สำรวจโรงแรม จนแทบจะพรุนหมดแล้ว ลำดับต่อไป ผมจะพาทุกคนไปเดินข้างนอกกันดีกว่าว่า จาก The Berkeley Hotel Pratunam เราจะสามารถไปเที่ยวไหนได้บ้าง โดยการเดินทางของผมส่วนใหญ่นั้นจะเป็นการเดินแทบทั้งหมดเลยนะครับ ยกเว้นช่วงเดียวเท่านั้นที่มีการนั่ง Taxi
อันดับแรก เราเริ่มจากตึก Palladium ก่อนเลยครับ เพราะเป็นตึกที่อยู่ติดกับโรงแรมสุดๆ มีสินค้าขายหลายอย่างเหมือนกัน ตั้งแต่เสื้อผ้ายันอุปกรณ์ IT
จาก Palladium เดินข้ามสะพานลอย และข้ามถนนอีกนิดนึงก็จะถึงแหล่งชอปปิ้งที่หลายคนชื่นชอบมากๆ นั่นคือ Platinum นั่นเอง
หากยังไม่จุใจ เดินเลยมาอีกนิด ก็จะเจออีก 2 ตึกได้แก่ ชิบูย่า กับ กรุงทองพลาซ่า 2 ซึ่งจริงๆ แล้ว หากขาชอปปิ้งจริงๆ จะบอกว่ามันยังอีกหลายตึกมาก แต่ผมว่าแค่ 4 ตึกนี่ก็ทำเอาแทบขนของกลับไม่หมดแล้ว หรือไม่ก็ใช้เวลาไปหลายชั่วโมงมากแล้วครับ
ส่วนคนที่ไม่ใช่ขาชอปปิ้งเสื้อผ้า แต่เป็นผู้ชายสไตล์ผมแล้วล่ะก็ ก็ต้องตึกนี้เลย เราจะปล่อยให้คุณผู้หญิงดูเสื้อผ้าไป ส่วนเราเข้าไปเพลินเพลินกับเกมส์และสินค้า IT ที่ Pantip
ใกล้ๆ กับ Pantip มีร้านอาหารนึงน่าสนใจด้วยนะครับ นั่นก็คือ “รสดีเด็ด” ที่ปกติร้านนี้เค้าจะเด่นในเรื่องของก๋วยเตี๋ยวเนื้อ แต่ที่สาขานี้เค้ามีอาหารอีสานขายด้วย รสชาติดีเลยล่ะครับ อาหารรสไม่จัดมาก แถมติดแอร์ด้วย คิดว่าเพื่อนๆ ชาวต่างชาติน่าจะชอบ และโดยส่วนตัวผมประทับใจตำข้าวโพดที่สุดเลยครับ
หลังจากเติมพลังเสร็จแล้ว ผมตั้งใจว่าจาก Pantip ผมจะเดินต่อไปยังหอศิลป์กรุงเทพฯ แต่เมื่อดูจากโปรแกรมตัวเองแล้วเห็นว่ายังจะต้องไปอีกหลายที่ ผมก็เลยนั่ง Taxi ไป ซึ่งมันใช้เวลาแค่ 5 นาทีเท่านั้นก็ถึง กับเงินค่า Taxi ราวๆ 40 บาทเท่านั้น
สำหรับใครที่จะเดินก็สามารถทำได้นะครับ ผมเคยเดินไปใช้เวลาราวๆ 15 นาทีถึงครับ
วันนั้นผมใช้เวลาราวๆ 1.30 ชั่วโมง ในการเดินดูงาน และก็นั่งกินกาแฟในหอศิลป์ครับ สำหรับใครที่เป็นคนชอบศิลปะ ชอบดูงานอาร์ตๆ ผมว่าสามารถอยู่ที่นี่ได้เป็นวันเลยครับ
จบจากหอศิลป์แล้ว แถวนี้ก็มีห้างให้เราเข้าไปเดินเล่นชอปปิ้งและกินอาหารอร่อยๆ เยอะแยะเต็มไปหมด เริ่มจากห้างแรกที่ผมอยากจะแนะนำที่สุดก็คือ MBK หรือ มาบุญครอง
ที่นี่คือห้างที่ผมมาบ่อยมากกก สมัยที่ผมเรียนอยู่แถวๆ นี้ครับ แต่ผมก็ไม่ได้กลับมาเกือบ 10 ปีแล้ว พอวันนี้ได้มาเห็นอีกครั้งก็รู้สึกแปลกใจและว้าวกับการเปลี่ยนแปลงของเค้ามาก เพราะมันดูชิคและทันสมัยขึ้นมากๆ
เยื้องๆ กับ MBK ก็จะเป็นกลุ่มห้างสรรพสินค้าที่หลายๆ คนชอบ นั่นก็คือ Siam Discovery, Siam Square ต่อยาวไปจนถึง Siam Paragon เรียกว่าใครชอบแนวไหน ถนัดอะไรก็เดินเข้าไปตามสไตล์ตัวเองได้เลย
ชอปปิ้งมา 3-4 ห้างติดๆ กันแล้ว หลายๆ คนอาจจะเบื่อๆ เอียนๆ บ้าง คราวนี้ผมเลยพาแหวกแนว เข้าไปทำบุญที่วัดปทุมวนารามกันดีกว่า โดยวัดนี้เป็นวัดที่สงบเงียบมากกกกก สงบเงียบจนไม่น่าเชื่อว่าจะอยู่ใจกลางเมือง และตั้งอยู่คั่นระหว่าง Siam Paragon และ Central World
วัดนี้เป็นวัดที่ถ้าผมได้ผ่านมาแถวนี้ ผมจะพยายามหาโอกาสเข้าไปทำบุญเสมอๆ เพราะใช้เวลาแค่ไม่นานแต่ได้ความสุข ความสงบของจิตใจกลับมาเยอะมากครับ และผมอยากจะบอกว่านอกจากคนไทยอย่างเราๆ แล้ว ที่วัดนี้ก็มีชาวต่างชาติแวะเวียนกันเข้ามาพอดูนะครับ
จบจากการทำบุญและนั่งพักฟื้นพลังแล้ว เป้าหมายสุดท้ายในการเดินทางวันนี้ของผมก็มาถึง นั่นก็คือ Central World ห้างที่มีพื้นที่ใหญ่โตมากมายอีกห้างนึง และก็มีอะไรให้เราทำเยอะมาก เรียกได้ว่าเดินเล่นแป๊บๆ ก็ผ่านไป 3-4 ชั่วโมงแล้วครับ
โดยวันนี้ผมใช้เวลาอยู่ที่ Central World ตั้งแต่ราวๆ 1 ทุ่ม จนถึง 4 ทุ่มได้ เรียกว่าอยู่จนห้างปิดเลยทีเดียว จากนั้นผมก็เดินเท้ากลับไปยัง The Berkeley Hotel Pratunam และกะว่าวันนี้เหนื่อยมาทั้งวัน จะขอกลับไปนอนแช่อ่างอาบน้ำแล้วนอนหลับให้สบายซักหน่อย
แต่ระหว่างที่ผมเดินกลับไปยังโรงแรมนั้น สายตาผมก็เหลือบไปเห็นร้านข้าวมันไก่แถวๆ แยกประตูน้ำ และก็นึกขึ้นได้ว่าข้าวมันไก่ประตูน้ำ นี่มันของทีเด็ดนี่นา!! มาถึงนี่ทั้งทีจะไม่จัดได้ยังไง…….คิดได้ยังงั้นแล้วผมก็เลยไปยืนต่อแถวที่หน้าร้านข้าวมันไก่โกอ่าง และจัดไปคนละจานเบาๆ กับคุณภรรยา อยากจะบอกว่ารสชาติอร่อยสมคำร่ำลือจริงๆ ครับ และที่สำคัญร้านนี้ยังเป็นเป็นร้านที่เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงด้วย เรียกว่าหิวเมื่อไหร่ก็แวะมายิ่งกว่า 7-11 อีกครับ
สำหรับคนที่ไม่ชอบทานข้าวมันไก่ แถวๆ นี้ก็มีร้านอาหาร Street Food ที่เปิดให้บริการในช่วงดึกหลายร้านเลยนะครับ ไม่ว่าจะเป็นพวกผัดไทย หรือข้าวเหนียวมะม่วง บอกเลยว่าอยู่แถวนี้ไม่มีอด มีแต่อิ่มจนท้องแน่น > <
หลังจากอิ่มหมีพีมันรอบดึก ผมก็เดินข้ามถนนเพื่อจะกลับไปยังโรงแรม และก็พบว่าหน้าห้าง Palladium ที่ตอนกลางวันดูเงียบๆ นั้น ตอนนี้มันครึกครื้นด้วยร้านขายเสื้อผ้าและของต่างๆ เต็มไปหมดครับ ดีนะที่ผมหมดพลังและหมดเงินแล้ว ก็เลยไม่ได้สอยอะไรมาเพิ่ม แต่สำหรับใครที่เป็นขาชอปปิ้งสุดๆ น่าจะชอบเพราะเค้าเปิดกันจนถึงเที่ยงคืนเลยครับ
และแล้วในที่สุด ในเวลาเกือบๆ เที่ยงคืน ผมก็กลับมาถึง The Berkeley Hotel Pratunam จนได้ หลังจากที่ออกไปลัลล้า เดินเที่ยวตั้งแต่ บ่าย 2 จนถึงตอนนี้ ซัดไปทั้งหมด 10 ชั่วโมงเต็มๆ และแน่นอนว่าคืนนั้นผมหลับสนิทมากกกก ตื่นมาอีกทีก็ราวๆ 8 โมงกว่าแล้ว ก็เลยรีบอาบน้ำแต่งตัวลงไปทานอาหารเช้าครับ
ห้องอาหารเช้าของที่นี่จะอยู่ที่ชั้น 10 เปิดบริการตั้งแต่ 6.00 น. ไปจนถึง 10.30 น. ขนาดพื้นที่และจำนวนโต๊ะเยอะมาก น่าจะสามารถจุคนได้ราวๆ 300 คน
ประเภทอาหารที่ให้บริการก็มีหลากหลายตั้งแต่ไทย จีน อินเดีย จนไปถึง International แต่แต่ละอย่างไม่ได้มีเมนูให้เลือกมากนัก คือมีอย่างละนิดอย่างละหน่อยเท่านั้น แล้วก็จะมีพวกก๋วยเตี๋ยว, เบเกอรี่, โยเกิร์ต, น้ำเต้าหู้, ปาท่องโก๋ แล้วก็ผลไม้ครับ
รสชาติอาหารโดยรวมๆ อยู่ในระดับกลางๆ มีบางรายการที่ดี แต่บางรายการก็ไม่ถูกปากเท่าไหร่ เช่น ก๋วยเตี๋ยวน้ำซุปเค็มไปหน่อย แล้วก็น้ำผลไม้เจือจางเกินไปครับ แต่สิ่งที่ดีมากๆ ของที่นี่ก็คือ มีการติดป้ายบอกชัดเจนว่าเมนูอาหารนั้นมีหมูเป็นส่วนผสมหรือไม่
เอาล่ะครับ ตอนนี้ก็มาถึงบทสรุปของการรีวิว The Berkeley Hotel Pratunam กันแล้ว ผมขออนุญาตสรุปเป็นเรื่องๆ ตามเดิมนะครับ
การออกแบบ : อยู่ในระดับกลางๆ ตามรูปแบบของโรงแรมมาตรฐานทั่วไป เรื่องนี้ไม่ใช่จุดเด่นของที่นี่ครับ
ความสะอาด : ไม่มีปัญหาอะไรในข้อนี้ครับ แม้คนจะมาใช้บริการเยอะ แต่ก็สะอาดสะอ้านดีทั้งในห้องพักและบริเวณส่วนกลาง
สิ่งอำนวยความสะดวก : มีสิ่งอำนวยความสะดวกให้ครบครันดี อย่างในห้องก็มีชุดแปรงฟันมาให้ด้วย ซึ่งดีมากๆ ส่วนสัญญาณ Wifi นั้นถือว่าเสถียรแล้วก็เร็วดีครับ
การเดินทาง : เป็นโรงแรมที่ตั้งอยู่ในทำเลที่ดีมากๆ แม้จะไม่ได้ติดกับรถไฟฟ้าโดยตรงแต่ก็มีรถเมล์ผ่านหลายสาย รวมทั้ง Taxi เองก็สามารถพาไปได้ถูกต้องแน่ๆ ส่วนคนที่ขับรถไป อาจจะเจอปัญหารถติดบ้างในบางวันบางช่วงเวลาแต่ในเรื่องของที่จอดรถนั้น ไม่ต้องกังวลครับ เพราะเค้ามีที่จอดเยอะมากกกกก
การนอนหลับพักผ่อน : นอนหลับสบาย ทั้งเตียง หมอน ผ้าห่ม ความนุ่ม ความเย็นของแอร์ ลงตัวดี ไม่มีปัญหาอะไรเลยครับ
การบริการของพนักงาน : ผมไม่ค่อยได้มีโอกาสได้ใช้บริการพนักงานเท่าไหร่ แต่เท่าๆ ที่สังเกตและได้สัมผัสเอง 2-3 ครั้ง ถือว่าพนักงานที่นี่บริการดีนะครับ แม้แขกจะเยอะแค่ไหนแต่ก็พยายามยิ้มต้อนรับเป็นอย่างดี
อาหารเช้า : นิยามอาหารเช้าสั้นๆ ของที่นี่น่าจะเป็นหลากหลายแต่ไม่โดดเด่นครับ มีให้เลือกหลายอย่างดี แต่รสชาติอยู่ในระดับกลางๆ
สรุป : The Berkeley Hotel Pratunam คือโรงแรมที่มีทำเลที่ดีมากๆ และก็คงจะเป็นรายชื่อโรงแรมต้นๆ ที่ผมจะนึกถึง หากเพื่อนผมมาจากต่างจังหวัดหรือต่างประเทศ แล้วอยากจะพักในย่านนี้ เพราะด้วยความสะดวกสบายในการเดินทางไปชอปปิ้ง เที่ยว รวมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ในโรงแรม การบริการของพนักงาน ขนาดโรงแรม และจำนวนห้องแล้ว น่าจะสามารถตอบโจทย์ของคนที่เข้ามาพักได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้โรงแรมแห่งนี้ยังมีกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติด้วย ดังนั้นจึงไม่น่าจะต้องกังวลในเรื่องภาษาที่จะใช้ในการสื่อสารเลยครับ
ก็จบลงแล้วสำหรับรีวิวนี้ ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านจนจบ แล้วพบกันใหม่ในรีวิวหน้าครับ สำหรับผู้ที่ต้องการติดตามเรื่องราวการรีวิวต่างๆ ที่รวดเร็วทันใจ สามารถกดติดตามได้ที่เพจ ภรรยาหา สามีใช้ ได้เลยครับ และสำหรับท่านที่อยากจะจองที่พักราคาพิเศษ สามารถเข้าไปดูข้อมูลตามลิงก์ด้านล่างได้เลยครับ
เช็คราคาและจองที่พักผ่าน agoda.com
ปล. วันที่ผมเข้าใช้บริการคือ 12-13 กุมภาพันธ์ 2560 ครับ
หมายเหตุ : บทความนี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวของผมในวันที่ไปใช้บริการเท่านั้นครับ แต่ละท่านที่ได้มีโอกาสไปใช้บริการอาจจะได้รับการบริการที่แตกต่างจากนี้ออกไป