สวัสดีทุกคนครับ วันนี้ผมนาย “ภรรยาหา สามีใช้” จะพาทุกคนไปรู้จักร้าน Sim Suki Family Restaurant ร้านสุกี้, ชาบู และปิ้งย่างคุณภาพดี ราคาไม่แรง ทำเลติด BTS คนไม่มีรถเดินทางไปได้สะดวก ที่สำคัญน้ำจิ้มร้านนี้เค้าเด็ดมากเลยคร้าบบบบ
อ้อ….ร้านนี้เค้ามีจำหน่ายทั้งแบบ A la carte กับบุฟเฟ่ต์เลยนะครับ โดยทางร้านจะใช้เนื้อและอาหารต่างๆ คุณภาพเหมือนกันเลย เป็นเกรดเดียวกันทั้งหมด ใครชอบแบบไหนก็เลือกเอาตามถนัดครับ
Disclosure : บทความนี้ได้รับการสนับสนุนจากผู้ให้บริการ แต่ทั้งนี้ความเห็นต่างๆ ที่เกิดขึ้นเป็นความรู้สึกจริงของผมครับ
จุดเด่นของร้าน
1. เป็นร้านชาบูและปิ้งย่างที่เจ้าของร้านใส่ใจในเรื่องคุณภาพอาหารมาก โดยเค้าจะพยายามเลือกวัตถุดิบที่มีคุณภาพดีและราคาไม่แรงจนเกินไปมาเป็นวัตถุดิบหลัก เพื่อให้ทุกคนที่ได้มาทานนั้นอิ่มอร่อยในราคาสบายๆ เปรียบเสมือนกับการทำอาหารทานเองที่บ้านครับ
2. มีทั้งชาบูและปิ้งย่างให้บริการ และมีทั้งอะลาคาร์ทกับบุฟเฟต์ โดยทางร้านจะเลือกใช้วัตถุดิบแบบเดียวกัน เกรดเดียวกันทั้งหมด
3. มีน้ำจิ้ม 3 แบบให้เลือกทานได้แก่ พอนซึ, สุกี้ และซีฟู้ด ซึ่งผมว่าเค้าทำน้ำจิ้มอร่อยมากๆ ทั้ง 3 อันเลย โดยเฉพาะน้ำจิ้มสุกี้อันนี้เด็ดมากๆ ทุกคนที่ไปด้วยกันวันนั้นเอ่ยปากชมเหมือนกันหมด และมันก็ไม่น่าแปลกใจเลยครับ เพราะหลังจากที่ผมได้สอบถามทางเจ้าของร้านเพิ่มเติมก็พบว่าน้ำจิ้มเหล่านี้ทางร้านทำเองทั้งหมด และตัวเค้านั้นก็อยู่ในแวดวงธุรกิจการทำน้ำจิ้มต่างๆ มาเกือบ 20 ปีแล้วครับ!!
4. มีน้ำซุปชาบูให้เลือก 3 อย่าง ได้แก่ ซุปหม่าล่า, ซุปสุกี้ยาจีน (น้ำใส) และซุปชาบูชาบู (น้ำดำ) โดยในส่วนของซุปหม่าล่านั้นจะไม่ได้เผ็ดมากเหมือนกับหม่าล่าแท้ๆ ของจีนนะครับ ทางร้านได้มีการปรับเอารสชาติความเป็นไทยเข้าไปผสมด้วย ทำให้หลายๆ คนสามารถทานได้ง่ายขึ้น
5. สำหรับคนที่ทานแบบปิ้งย่างนั้น ตัวเตาปิ้งของเค้าจะมีช่องรอบๆ เตาที่สามารถใส่น้ำซุปได้พอควรเลย ดังนั้นมันเลยเหมือนกับว่าเราสามารถกินปิ้งย่างและชาบูไปพร้อมๆ กันได้ แต่สำหรับคนที่เลือกทานปิ้งย่างนั้นจะต้องนั่งในโซน Open Air นะครับ (ไม่มีแอร์) ส่วนคนที่ทานแต่ชาบูอย่างเดียวจะสามารถนั่งทางด้านในร้านที่มีแอร์ได้
6. คุณภาพของหมู, เนื้อ, กุ้ง, ลูกชิ้น และอาหารต่างๆ ถือว่าดีเลย และราคาไม่แรง กินแล้วคุ้มค่า โดยในส่วนของกุ้งนั้นทางร้านจะมีการแกะเปลือกมาให้แล้วด้วยครับ ซึ่งอันนี้ผมประทับใจมากๆ ส่วนอีก 3 เมนูที่ผมอยากให้ทุกคนลองเป็นพิเศษก็คือหมูเด้งทรงเครื่อง, สาหร่ายทรงเครื่อง และเกี๊ยวกุ้ง 3 เมนูนี้แจ่มมากๆ และทางร้านเค้าทำเองด้วยนะ
7. ไอศรีมอร่อยมากกกกกก เป็นไอศกรีมโฮมเมดที่มีให้เลือกมากกว่า 20 รส แต่ละรสน่าสนใจทั้งนั้น โดยในส่วนของไอศกรีมนี้จะราคาถ้วยละ 25 บาทนะครับ และสำหรับคนที่ทานบุฟเฟ่ต์นั้นจะยังไม่รวมไอศกรีมนะ
8. ทำเลเดินทางสะดวก โดยเฉพาะคนที่ไม่มีรถ เพราะตัวร้านอยู่ปากซอยกรุงธนบุรี 1/1 ซึ่งอยู่ติดกับสถานีรถไฟฟ้า BTS วงเวียนใหญ่เลย เดินลงมาปุ๊บเจอร้านทันที ส่วนใครที่ขับรถไปนั้นผมแนะนำให้ไปหลัง 18.00 น. นะครับ เพราะจะสามารถจอดรถริมถนนบริเวณหน้าร้านได้ แต่หากใครไปช่วงก่อนหน้านี้ก็อาจจะหาที่จอดรถยากซักนิดนึงครับ
อันนี้จะเป็นหน้าตาและที่ตั้งร้านนะครับ ร้านจะอยู่ปากซอยกรุงธนบุรี 1/1 เลย ใกล้ๆ กับสถานีรถไฟฟ้า BTS วงเวียนใหญ่ โดยหากใครที่นั่งรถไฟฟ้าไปก็สามารถออกที่ทางออก 3 ได้เลย ลงมาแล้วก็จะเจอร้านทันทีครับ
ลักษณะร้านจะเป็นคล้ายๆ บ้านครับ ดูน่ารักและอบอุ่นดี พื้นที่นั่งมีทั้งส่วนที่เป็นห้องแอร์และแบบ Open Air โดยในส่วนที่เป็นห้องแอร์นั้นจะมีที่นั่งที่สามารถรองรับคนได้ประมาณ 20 คน ใครที่เน้นกินแต่ชาบูผมแนะนำให้นั่งในส่วนนี้นะครับ เพราะจะเย็นสบายกว่า ส่วนพื้นที่ Open Air นั้นจะสามารถรองรับได้อีกประมาณ 30 คน และจะมีบริการทั้งชาบูและปิ้งย่างครับ โดยใครที่อยากกินปิ้งย่างด้วยจะต้องมานั่งที่โซนนี้เท่านั้น เพราะในโซนที่เป็นห้องแอร์เราจะไม่สามารถกินปิ้งย่างได้ เนื่องจากควันต่างๆ มันจะเยอะไปครับ
ลักษณะของเตาปิ้งย่างเค้าจะเป็นแบบนี้นะครับ จะเห็นว่ารอบๆ เตาจะมีช่องว่างสำหรับใส่น้ำซุปกว้างพอควรเลย เรียกว่ากินได้แบบ 2 in 1 แล้วก็เนื้อต่างๆ ทั้งปิ้งย่างกับชาบูก็เป็นเนื้อเดียวกันทั้งหมดครับ ใครที่อยากกินทั้งคู่ก็เลือกเตาแบบนี้และนั่งตรงโซนด้านนอกร้านนะ แต่จะให้ดีผมแนะนำว่าให้ไปช่วงเย็นๆ นิดนึงนะครับ มันจะได้นั่งสบายๆ ไม่ร้อนจนเกินไป
ส่วนนี่เป็นเวลาเปิดปิดของร้านนะครับ ใครสนใจก็ไปให้ถูกน้า
วันจันทร์ – ศุกร์ : 11.00 น. -14.00 น. และ 17.00 น. -22.00 น.
วันเสาร์ – อาทิตย์ : 11.00 น. – 22.00 น.
สำหรับวันนี้ผมกับเพื่อนๆ เลือกทานเป็นชาบูอย่างเดียว และเลือกนั่งตรงโซนด้านในที่เป็นห้องแอร์นะครับ โดยน้ำซุปของที่นี่จะมีให้เลือกทั้งหมด 3 แบบ ได้แก่ ซุปหม่าล่า, ซุปสุกี้ยากี้ (น้ำใส) และซุปชาบูชาบู (น้ำดำ) โดยใน 1 หม้อ เราสามารถเลือกน้ำซุป ได้ 2 ชนิดครับ
อันนี้เป็นหน้าตาน้ำจิ้มเค้าครับ จะมีทั้งหมด 3 แบบเหมือนกัน ได้แก่ พอนซึ, สุกี้ และซีฟู้ด และทั้ง 3 แบบผมว่าอร่อยหมดเลยนะ โดยเฉพาะน้ำจิ้มสุกี้ครับ เด็ดประทับใจมากๆ
มาดูในส่วนของรายการอาหารที่สามารถสั่งได้ดีกว่าครับ โดยทางร้านบอกผมมาว่าไม่ว่าจะเป็น A la carte หรือบุฟเฟ่ต์ ทางร้านก็ใช้วัตถุดิบเดียวกันคุณภาพเหมือนกันทั้งหมด ดังนั้นไม่ต้องกลัวเรื่องที่หากเลือกทานเป็นบุฟเฟ่ต์แล้วรสชาติจะด้อยลงเลยครับ
สำหรับราคาบุฟเฟต์นั้นจะอยู่ที่ 349 บาท/คน net นะครับ ทานได้ 1.30 ชั่วโมง และรวมน้ำดื่มอย่างเก๊กฮวย, ชาจีน และลำไยรีฟิลเอาไว้หมดแล้ว แต่จะไม่รวมไอศกรีมนะ โดยไม่ว่าคุณจะทานเป็นชาบูอย่างเดียวหรือปิ้งย่าง+ชาบู ก็ราคาเดียวกันนี้เลยครับ ^^
ส่วนใครที่เลือกทานเป็น A la carte ก็ลองดูขนาดและราคาแต่ละจานเทียบกันดูนะ หลายๆ เมนูของเค้าจะมีขนาดกลางกับขนาดใหญ่ให้เลือก โดยจากที่ผมลองเทียบดูหลายๆ เมนูก็พบว่าขนาดใหญ่นั้นจะมากกว่าขนาดกลางประมาณ 2 เท่าครับ ส่วนราคาอาหารต่างๆ นั้นก็ถือว่าไม่แรง พวกเนื้อต่างๆ เริ่มต้นที่ถาดละ 35 บาทเอง ส่วนพวกผักนั้นก็ราคาประมาณถาดละ 15-25 บาทครับ หรือถ้าใครจะสั่งเป็นชุดผักกับเห็ดรวมที่ราคา 89 บาทก็ได้นะ ได้เยอะจุใจดีครับ
ภาพนี้เป็นภาพเปรียบเทียบของเนื้อขนาดกลางกับเนื้อขนาดใหญ่นะครับ ลองดูแล้วก็พิจารณากันเองนะว่าจะสั่งแบบไหนดี
สำหรับคุณภาพโดยรวมของหมูและเนื้อต่างๆ ที่ผมได้ลองทานมานั้นถือว่าดีเลยครับ อร่อย กินแล้วรู้สึกคุ้มค่าคุ้มราคา ส่วนพวกลูกชิ้นต่างๆ เค้าก็ทำได้ดีเหมือนกัน ทั้งนี้ในส่วนของพวกหมูและเนื้อสไลด์นั้นทางร้าน Sim Suki จะมีเมนูหมู 4 อย่าง ได้แก่ เบคอน, สันคอ, สันนอก และตับ ส่วนเนื้อจะมี 3 อย่าง ได้แก่ เสือร้องไห้, เนื้อสันไหล่ และลิ้นโคขุนสไลด์นะครับ
ส่วนเมนูอื่นๆ ที่ไม่ใช่หมูกับเนื้อที่ผมอยากให้ทุกคนลองทานเพิ่มเป็นพิเศษก็คือ กุ้ง, หมูเด้งทรงเครื่อง, สาหร่ายทรงเครื่อง และเกี๊ยวกุ้งครับ โดยในส่วนของกุ้งนั้นทางร้านจะมีการแกะเปลือกต่างๆ มาให้เรียบร้อยแล้ว ทานง่ายมากๆ ความสดต่างๆ ก็ถือว่าดี ใครที่ทานเป็นบุฟเฟ่ต์ผมแนะนำให้สั่งมารัวๆ เลยนะ
หมายเหตุ : สำหรับคนทาน A la carte ถ้าเป็นกุ้งจานกลางจะมี 5 ตัว จานใหญ่จะมี 10 ตัวนะครับ ส่วนคนที่ทานเป็นบุฟเฟ่ต์ทางร้านจะเสิร์ฟทีละ 3 ตัวต่อจาน แต่เราสามารถสั่งได้ไม่อั้นครับ
ส่วนพวกหมูเด้งทรงเครื่อง, สาหร่ายทรงเครื่อง และเกี๊ยวกุ้งนั้น จะเป็นเมนูที่ทางร้านเค้าทำด้วยตัวเองทั้งหมด ไว้ใจในเรื่องคุณภาพและความสะอาดได้ ที่สำคัญเกี๊ยวกุ้งทุกอันนั้นจะมีกุ้งอยู่ด้านในทุกชิ้นแน่นอนครับ!!!
นี่เป็นหน้าตาของผักต่างๆ นะครับ ใครที่ไม่ทานเยอะก็สั่งมาเป็นอย่างๆ ได้ ราคาต่อถาดไม่แพง และคุณภาพถือว่าดีเลย
แต่ถ้าใครสามารถทานผักได้หลายประเภท และขี้เกียจสั่งหลายๆ อย่าง ก็เลือกสั่งเป็นชุดผักและเห็ดรวมแบบนี้ก็ได้ครับ ราคา 89 บาทเอง แต่ได้ผักมาเต็มๆ จาน
ส่วนนี่เป็นเมนูอื่นๆ ที่ผมได้มีโอกาสลองทานครับ พวกบะหมี่หยก ข้าวผัดก็มี แต่ทั้งนี้บางรายการอาจจะไม่มีอยู่ในบุเฟเฟ่ต์นะครับ เช่น ปลาดอลลี่, เต้าหู้ชีส, ลูกชิ้นปลาไส้ไข่ปลา เป็นต้น
และนี่เป็นหน้าตาเครื่องดื่มต่างๆ ที่ทางร้านมีครับ เก๊กฮวย, ชาจีน และลำไย ใครที่ทานเป็นบุฟเฟ่ต์ก็สามารถทานได้หมดเลยไม่ต้องจ่ายอะไรเพิ่ม ส่วนใครที่ทานเป็น A la carte ก็จ่ายเพียง 25 บาทเท่านั้น แล้วก็สามาถเติมได้เรื่อยๆ เหมือนกัน รวมถึงสามารถเปลี่ยนประเภทของน้ำไปมาได้ด้วยครับ
ปิดท้ายกันด้วยไอศกรีมครับ โดยในส่วนนี้จะเป็นไอศรีมเจลาโตโฮมเมดนะ มีทั้งหมด 20 กว่ารส ราคาถ้วยละ 25 บาท แล้วก็ไม่รวมในบุฟเฟ่ต์ครับ ใครอยากทานก็ต้องจ่ายเพิ่มต่างหาก แต่ผมเชียร์นะครับ มันอร่อยและคุ้มเลย รสชาติแต่ละอันน่าสนใจทั้งนั้น อย่างวันนี้ผมกับต๋งก็จัดไป 3 รสครับ ได้แก่ ชีสเค้ก, ยาคูลท์ปีโป้ และช็อคกล้วย ซึ่งผมบอกเลยว่ายาคูลท์ปีโป้นี่คือ The Best ทุกคนต้องลองให้ได้ ส่วนชีสเค้กก็อร่อยไม่ควรพลาดเหมือนกันครับ
และทั้งหมดนี้ก็เป็นภาพรวมของร้าน Sim Suki Family Restaurant ร้านสุกี้, ชาบู และปิ้งย่างย่านวงเวียนใหญ่ ที่บรรยากาศร้านน่ารัก ดูอบอุ่น อาหารคุณภาพดี และราคาไม่แรงครับ ที่สำคัญมีบริการทั้งแบบบุฟเฟ่ต์กับอะลาคาร์ทด้วย ใครที่สนใจก็ลองแวะไปทานได้นะครับ ส่วนถ้าใครยังไม่มั่นใจก็ลองอ่านบทสรุปตอนท้ายของผมก่อนก็ได้ จะได้ตัดสินใจง่ายขึ้นครับ ^^
วันที่รับประทาน : วันเสาร์ที่ 26 กันยายน 2563
ช่วงเวลา : 14.30 – 17.30 น.
จำนวน : 5 คน
รสชาติอาหาร : โดยส่วนตัวแล้วผมว่าคุณภาพอาหารของร้าน Sim Suki นั้นดีเลยนะครับ อร่อย สะอาด และคุณภาพวัตถุดิบต่างๆ ดีสมราคาเลย ที่สำคัญน้ำจิ้มทั้ง 3 อย่างของเค้าถือว่าดีมากครับ แต่ทั้งนี้ผมต้องบอกทุกคนไว้ก่อนนะว่าที่ผมบอกว่าอร่อย คุณภาพเนื้อดีนั้น มันก็จะอยู่ในระดับของราคาบุฟเฟ่ต์หัวละไม่เกิน 400 บาทนะครับ หากไปเทียบกับร้านอื่นๆ ที่ราคาสูงกว่านี้แน่นอนว่าคุณภาพของเนื้อนั้นย่อมสู้กันไม่ได้แน่นอนครับ
ความหลากหลายของอาหาร : ร้าน Sim Suki นั้นมีเมนูให้เลือกหลากหลายประเภทดีครับ เนื้อ, ลูกชิ้น, กุ้ง, ผัก, ของทานเล่น, ข้าว, บะหมี่หยก, เครื่องดื่ม มีให้ทานครบๆ โดยรวมถือว่าสอบผ่านครับ พาเพื่อนและครอบครัวไปทานได้สบายๆ แต่ถ้าใครเป็นพวกที่เน้นเฉพาะเนื้อกับหมูอย่างเดียวนั้น ต้องบอกก่อนว่าความหลากหลายของเค้าจะไม่เยอะมากนะครับ โดยเนื้อจะมีทั้งหมด 3 ประเภท ส่วนหมูจะมี 4 ประเภทเท่านั้นครับ แต่โดยส่วนตัวผมว่ามันก็โอเคแล้วครับ
ความสะอาดของสถานที่และบรรยากาศโดยรวม : เรื่องนี้ถือว่าสอบผ่านทั้งสองประเด็นเลยครับ เพราะถึงแม้จะเป็นร้านเล็กๆ แต่ร้าน Sim Suki ก็ออกแบบร้านได้เป็นเอกลักษณ์ เป็นบ้านหลังเล็กๆ หัวมุมถนนที่ดูแล้วอบอุ่นน่าเข้าไปทานอาหาร ส่วนเรื่องของความสะอาดนั้นก็ถือว่าทำได้ดีเลย ไม่มีจุดไหนที่ต้องติครับ
การบริการของพนักงาน : ด้วยความที่ตอนผมไปนั้นภายในร้านมีลูกค้าเพียงแค่ 2-3 โต๊ะเท่านั้น ผมจังไม่มีปัญหาอะไรเกี่ยกวับการบริการของพนักงานเลยครับ ขอความช่วยต่างๆ ได้รวดเร็ว และการเสิร์ฟอาหารก็ไม่มีผิดพลาด แต่ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันนะว่าหากเป็นช่วงที่มีลูกค้าเต็มร้าน ทางร้านจะบริการได้รวดเร็วและไม่มีตกหล่นหรือเปล่า เนื่องจากผมเห็นเค้ามีพนักงานแค่ 1-2 คนเอง
ความสะดวกของการเดินทาง : ข้อนี้บอกเลยว่าใครที่เดินทางด้วยรถไฟฟ้า BTS เป็นหลักต้องบอกว่าสะดวกมากแน่ๆ เพราะตัวร้านอยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้า BTS วงเวียนใหญ่มากๆ ลงบันไดมาก็เจอร้านเลย แต่ถ้าใครขับรถไปเองอาจจะลำบากนิดนึงนะครับ เพราะถึงแม้ตัวร้านจะหาไม่ยาก มองเห็นได้ชัดเจน และตั้งอยู่ติดถนนใหญ่ แต่ในเรื่องของที่จอดรถใกล้ๆ ร้านนั้นดูจะเป็นปัญหาพอควรครับ อาจจะหาที่จอดยากซักนิดนึง
ความคุ้มค่า : ข้อนี้ผมขอเขียนออกเป็น 2 ประเด็นนะครับ ระหว่าง A la carte กับบุฟเฟ่ต์ โดยในส่วนของ A la carte นั้นผมว่าราคาอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมครับ คุณภาพของที่ได้ ปริมาณ และรสชาติ ถือว่าเหมาะสมกับราคาที่ทางร้านตั้งไว้ ส่วนใครที่ทานเป็นบุฟเฟ่ต์และเป็นคนที่ทานได้ปริมาณมากพอ ผมว่าราคา 349 บาท/คน net รวมเครื่องดื่ม และทานได้ 90 นาทีนั้น เป็นอะไรที่คุ้มค่าน่าสนเลยครับ
สรุป : สำหรับใครที่กำลังมองหาร้านสุกี้, ชาบู และปิ้งย่าง แถววงเวียนใหญ่ หรือคนที่มองหาร้านประเภทนี้ที่สามารถเดินทางไปมาสะดวกด้วยรถไฟฟ้า BTS และอยากเน้นไปที่ความอร่อย ความคุ้มค่า และความสะอาดเป็นหลัก กินแล้วได้ฟีลอาหารโฮมเมดเหมือนทำกินเองที่บ้าน แล้วก็ไม่ได้เน้นว่าร้านนั้นจะต้องเป็นแบรนด์ดังอะไร ร้าน Sim Suki Family Restuarant ถือว่าตอบโจทย์เลยครับ รสชาติอาหารดี เมนูหลากหลาย ราคาไม่แรง แถมยังมีทั้งบุฟเฟ่ต์กับ A la carte บริการด้วย แต่ถ้าใครเป็นคนที่ติดว่าอยากกินเนื้อคุณภาพดีๆ นุ่มละลายสุดๆ หรือต้องเป็นชาบูร้านดัง มีเมนูหลากหลายเป้นร้อย มีพวกซูชิให้ทานไม่อั้นด้วย ร้านนี้น่าจะไม่ตอบโจทย์ที่คุณต้องการเท่าไหร่ครับ
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านจนจบ ทั้งนี้หากท่านใดที่ต้องการติดตามเรื่องราวการกินและเที่ยวของผมกับต๋งอย่างใกล้ชิด ก็สามารถกดติดตามที่เพจ “ภรรยาหา สามีใช้” ได้เลยครับ ส่วนใครที่อ่านรีวิวนี้แล้วอยากจะไปลองทานอาหารที่ร้าน Sim Suki บ้าง หรือมีข้อมูลที่ต้องการสอบถามเพิ่มเติม ก็สามารถดูรายละเอียดและติดต่อร้านได้ตามช่องทางด้านล่างนี้เลยครับ แล้วพบกันใหม่ในรีวิวหน้า สวัสดีครับ
Facebook : Sim Suki Family Restuarant
ที่ตั้ง : ปากซอยกรุงธนบุรี 1/1 (ติดกับสถานีรถไฟฟ้า BTS วงเวียนใหญ่ ทางออก 3)
ที่จอดรถ : หลัง 18.00 น. สามารถจอดรถริมถนนได้
โทร : 097-238-8990
ราคาบุฟเฟต์ : 349 บาท/คน net ทานได้ 1.30 ชั่วโมง รวมน้ำดื่มแต่ไม่รวมของหวาน
หมายเหตุ : บทความนี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวของผมในวันที่ไปใช้บริการเท่านั้น ทั้งนี้แต่ละท่านที่ได้มีโอกาสไปใช้บริการอาจจะได้รับการบริการหรือความรู้สึกที่แตกต่างจากนี้ได้