จริงๆ แล้วต้องบอกว่าห้องอาหาร The SQUARE (เดอะ แสควร์) โรงแรม Novotel Bangkok Ploenchit Sukhumvit (โนโวเทล กรุงเทพ เพลินจิต สุขุมวิท) ถือเป็นหนึ่งในห้องอาหารที่ผมเคยมาใช้บริการและชิมอาหารอยู่บ่อยครั้งมากครับ แต่ที่ผ่านมานั้นผมยังไม่เคยเขียนรีวิวเต็มๆ เกี่ยวกับห้องอาหารแห่งนี้ลงในเวบไซต์มาก่อนเลย จนกระทั่งเมื่อไม่นานนี้ผมได้มีโอกาสไปลองชิมบุฟเฟ่ต์ซีฟู้ดเย็นวันศุกร์และวันเสาร์ซึ่งเป็นบุฟเฟ่ต์ไลน์ใหม่ของเค้ามา และผมเห็นว่ามันมีความน่าสนใจหลายอย่างมาก โดยเฉพาะเรื่องของราคาต่อหัวที่ย่อมเยากับการมีฟัวกราส์ให้เราทานแบบไม่อั้น ดังนั้นวันนี้ผมก็เลยจะเขียนรีวิวเต็มๆ เกี่ยวกับไลน์บุฟเฟ่ต์ที่ชื่อว่า Seafood Unlimited ให้ทุกคนอ่านกันครับ ถ้าใครพร้อมแล้วก็ตามผมมายาวๆ ได้เลย!!
Disclosure : บทความนี้ได้รับการสนับสนุนจากผู้ให้บริการ แต่ทั้งนี้ความเห็นต่างๆ ที่เกิดขึ้นเป็นความรู้สึกจริงของผมครับ
สำหรับจุดเด่นที่น่าสนใจของไลน์บุฟเฟ่ต์ Seafood Unlimited ของโรงแรม Novotel Bangkok Ploenchit Sukhumvit ในความเห็นของผมก็มีตามนี้เลยครับ
-
มีอาหารให้เลือกทานหลากหลาย โดยประเภทอาหารที่ผมคิดว่าโดดเด่นที่สุดก็คือ Seafood on ice และ Grilled Station โดยเฉพาะขาปูอลาสก้า, กุ้งแม่น้ำ, ปูม้า, ปลาหมึก และหอยนางรมนั้นความสดของเค้านั้นอยู่ในเกณฑ์ที่ดีเลยครับ นอกจากนี้ในไลน์บุฟเฟ่ต์นี้ก็ยังมีฟัวกราส์ให้เราทานแบบไม่อั้นด้วย
-
บรรยากาศของห้องอาหารดี ขนาดห้องอาหารกว้าง เพดานสูง มีที่นั่งเยอะ สามารถรองรับคนได้มากกว่า 200 คน รวมทั้งยังมีห้องส่วนตัวอีก 3 ห้อง ที่สามารถรองรับคนได้ห้องละประมาณ 20-40 คนอีกด้วย
-
เดินทางสะดวกโดยเฉพาะคนที่ไม่มีรถส่วนตัว เนื่องจากโรงแรมแห่งนี้อยู่ห่างจากสถานี BTS เพลินจิตเพียงแค่ 50 เมตรเท่านั้น
-
สามารถนั่งทานได้ยาวถึง 4 ชั่วโมง ตั้งแต่เวลา 18.00 น. – 22.00 น.
-
ราคาย่อมเยาและคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป โดยราคาปกติของการทานไลน์บุฟเฟ่ต์ Seafood Unlimited นี้จะอยู่ที่ 1,699 ++ บาทต่อคน หรือประมาณ 2,000 บาทต่อคน net แต่ถ้าใครที่จองออนไลน์ผ่านลิงก์นี้ http://bit.ly/2TG76yo จะมีสิทธิ์ได้รับส่วนลดสูงสุดถึง 50% เหลือเพียงราคาคนละ 1,091 บาท net เท่านั้น โดยราคานี้เป็นราคาที่รวมเครื่องดื่มต่างๆ เรียบร้อยแล้ว และผมแนะนำว่าหากใครอยากจะได้ราคาพิเศษแบบนี้ควรจะต้องทำการจองล่วงหน้าอย่างน้อย 3 วันนะครับ
-
สำหรับสมาชิกแอคคอร์ พลัส จะได้รับส่วนลดเพิ่มอีก 10% เหลือเพียงราคาคนละ 909 บาท net เท่านั้น โดยบัตรสมาชิก 1 ใบ จะสามารถใช้สิทธิ์ส่วนลดได้สูงสุด 4 คนครับ
ภาพด้านล่างนี้จะเป็นหน้าตาของห้องอาหาร The SQUARE โรงแรม Novotel Bangkok Ploenchit Sukhumvit ครับ โดยห้องอาหารแห่งนี้จะตั้งอยู่ที่ชั้น 8 ของโรงแรม ส่วนการเดินทางมานั้นก็ง่ายแสนง่ายเพียงแค่นั่งรถ BTS มาลงที่สถานีเพลินจิตจากนั้นเดินต่ออีก 50 เมตร กดลิฟท์เพียงเท่านี้ก็ถึงแล้วครับ ส่วนถ้าใครขับรถมาก็ไม่ยาก เพราะโรงแรมหาง่ายอยู่ติดกับถนนสุขุมวิทเลย ที่จอดรถเค้าก็มีพอประมาณ ไม่ถึงกับต้องเครียดว่าขับมาแล้วจะมีที่จอดมั้ย เพียงแต่ว่าหากใครจะขับมาในช่วงเย็นๆ ของวันธรรมดาก็อาจจะต้องเจอกับการจราจรที่ติดขัดนิดนึงนะครับ ><
ส่วนนี่เป็นรายละเอียดและข้อมูลต่างๆ ของบุฟเฟ่ต์ Seafood Unlimited ครับ ใครที่สนใจก็อ่านรายละเอียดกันให้ดีๆ นะครับ จะได้จองวันและเวลาไปใช้บริการได้ถูก
ชื่อธีม : Seafood Unlimited (ซีฟู้ด อันลิมิเต็ด)
วันที่เปิดบริการ : เฉพาะเย็นวันศุกร์และวันเสาร์เท่านั้น
เวลาที่เปิดบริการ : 18.00 น. – 22.00 น.
ราคาปกติสำหรับผู้ใหญ่ : ราคา 1,699 ++ บาท/คน
ราคาปกติสำหรับเด็ก : เด็กอายุต่ำกว่า 6 ขวบ รับประทานฟรี, เด็กอายุระหว่าง 6-12 ปี คิดราคา 50% ของผู้ใหญ่
ราคาพิเศษ : สำหรับผู้ที่ทำการจองออนไลน์ผ่านลิงก์นี้ http://bit.ly/2TG76yo จะมีสิทธิ์ได้รับส่วนลดสูงสุดถึง 50% โดยราคาของผู้ใหญ่จะเหลืออยู่ที่คนละ 1,091 บาท net เท่านั้น (ราคารวมเครื่องดื่มเรียบร้อยแล้ว) โดยผมแนะนำว่าควรทำการจองล่วงหน้าอย่างน้อย 3 วันนะครับ
หมายเหตุ : สำหรับสมาชิกแอคคอร์ พลัส จะได้รับส่วนลดเพิ่มอีก 10% เหลือเพียงคนละ 909 บาท net เท่านั้น โดยบัตรสมาชิก 1 ใบ จะสามารถใช้สิทธิ์ส่วนลดได้สูงสุด 4 คน
เอาล่ะ รู้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับไลน์บุฟเฟ่ต์ซีฟู้ดไลน์นี้กันไปครบหมดแล้ว คราวนี้เราไปดูรายละเอียดแบบเจาะลึกกันเลยนะครับ โดยในความเห็นของผมนั้นไลน์บุฟเฟ่ต์ Seafood Unlimited นี้ จะสามารถแยกหมวดของอาหารออกมาได้เป็น 7 หมวดดังนี้ครับ
หมวดที่ 1 : Seafood on ice
หมวดที่ 2 : Grilled Station
หมวดที่ 3 : อาหารนานาชาติ
หมวดที่ 4 : สลัด, Cold Cuts, ขนมปัง และชีส
หมวดที่ 5 : อาหารจานร้อน
หมวดที่ 6 : อาหารพิเศษและอาหารอื่นๆ
หมวดที่ 7 : ผลไม้, ของหวาน และไอศกรีม
มาดูรายละเอียดกันไปทีละหมวดเลยนะครับ เริ่มจากหมวดที่หนึ่ง “Seafood on ice” หมวดที่หลายๆ คนชื่นชอบและมักจะพุ่งตัวเข้ามาเลือกตักอาหารเป็นหมวดแรกๆ และทาง Novotel Bangkok Ploenchit Sukhumvit ก็ไม่ทำให้หลายๆ คนผิดหวังด้วยการเตรียมประเภทอาหารไว้ให้เลือกทานเยอะมากทั้งขาปูอลาสก้า, หอยนางรม, ปูม้า, กั้ง, หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์, หอยแมลงภู่ Black Mussel, กุ้ง และหอยหวาน โดยในเรื่องของขนาดและความสดนั้นเค้าก็สามารถทำมาได้อยู่ในเกณฑ์ที่ดีด้วยครับ
ผมให้ดูขนาดของหอยนางรมและขาปูอลาสก้าชัดๆ ครับ ขนาดของทั้งสองอย่างนี้ถือว่าใหญ่ใช้ได้เลย ส่วนในเรื่องความสดนั้นก็อยู่ในเกณฑ์ดีทั้งคู่ครับ
โดยสำหรับใครที่ชอบทานขาปูอลาสก้าเป็นพิเศษก็ไม่ต้องปวดหัวหรือเครียดกับการแกะขาปูไปนะครับ เพราะทางโรงแรมเค้าได้มีการเตรียมอุปกรณ์ไว้ให้เราทุกโต๊ะเรียบร้อยแล้ว โดยอุปกรณ์ที่ว่านี้ก็คือกรรไกรที่ด้านนึงจะเอาไว้ตัดตามปกติ ส่วนอีกด้านนึงซึ่งเป็นบริเวณด้ามกรรไกรนั้นจะมีจุดที่เราจะสามารถนำไปหนีบเปลือกปูให้แตกได้ครับ อันนี้ดีงามจริงๆ ปรบมือให้เลยครับ
ส่วนนี่เป็นภาพของปูม้าและเนื้อปูม้าชัดๆ ครับ ขนาดของตัวปูกลางๆ แต่ก็ถือว่ามีเนื้อให้กินพอควร แล้วก็เนื้อปูดี ไม่ยุ่ยเละครับ
และนี่เป็นหน้าตาของน้ำจิ้มเค้าครับ จุดนี้เป็นจุดนึงที่ผมชอบมากๆ โดยน้ำจิ้มของที่นี่นอกจากเค้าจะจัดใส่ไว้ในภาชนะที่มีความเก๋ไก๋อย่างครกแล้ว เค้ายังมีประเภทของน้ำจิ้มให้เราเลือกทานเยอะมาก และน้ำจิ้มซีฟู้ดที่เป็นเพระเอกหลักของการทาน Seafood on ice เค้าก็ปรุงรสชาติออกมาได้อยู่ในเกณฑ์ที่ดีครับ มีความเผ็ดแซ่บเล็กๆ จิ้มกับกุ้ง, หอย, ปู, กั้ง แล้วลงตัวมากๆ เลย ><
รวมๆ แล้วสำหรับหมวด Seafood on ice นี้ ผมถือว่าทางโรงแรม Novotel Bangkok Ploenchit Sukhumvit ทำได้ดีนะครับ และดีกว่าครั้งหลังๆ ที่ผมเคยมาทานเมื่อช่วงปีก่อนพอควรเลย
ต่อกันที่หมวดที่สอง “Grilled Station” หมวดนี้เป็นอีกหนึ่งหมวดที่ผมคิดว่าหลายคนน่าจะต้องประทับใจแน่ๆ โดยทางห้องอาหารเค้าได้มีการเตรียมเนื้อประเภทต่างๆ ไว้ให้เราเลือกทานเยอะมาก ทั้งหมู, เนื้อ, ไก่, แซลมอน, กุ้งแม่น้ำ และปลาหมึก ใครที่อยากจะทานเมนูไหนก็สามารถแจ้งพนักงานพร้อมกับหมายเลขโต๊ะของตัวเองได้เลย โดยในความเห็นของผมนั้นผมรู้สึกว่าหมู, ไก่, เนื้อ และแซลมอนนั้นรสชาติกลางๆ ไม่ได้เด่นอะไรมาก แต่ปลาหมึกกับกุ้งแม่น้ำนั้นถือเป็นอะไรที่ทีเด็ดเลยครับ สด อร่อย ย่างมาได้ดี หัวกุ้งมีมันทุกตัว และมันดีจนทำให้ผมกับเพื่อนๆ ต้องวนสั่งเพิ่มหลายรอบเลยครับ
ผมให้ดูบรรยากาศตอนที่ทางเชฟเค้ากำลังย่างกุ้งแม่น้ำกับปลาหมึกเล็กน้อยนะครับ บอกเลยว่าตอนไปยืนดูผมนี่น้ำลายไหลเลย ><
ส่วนนี่เป็นหน้าตาตอนที่ย่างเสร็จแล้วครับ โดยจานนี้เป็นจานที่ทางโรงแรมเค้าจัดมาให้เป็นพิเศษหน้าตาก็เลยดีกว่าทั่วไปนิดนึง แต่ในเรื่องของคุณภาพ, ขนาด และความสดของเนื้อต่างๆ นั้นก็เหมือนกับลูกค้าท่านอื่นๆ ที่มาใช้บริการในวันนั้นครับ เพราะว่าทางเชฟเค้าหยิบวัตถุดิบมาจากที่เดียวกันเลย
ใครที่ชอบทานกุ้งแม่น้ำและปลาหมึกย่างห้ามพลาดที่จะมาที่หมวดนี้เลยนะครับ อันนี้แนะนำจากใจเลย
หมวดที่สาม “อาหารนานาชาติ” หมวดนี้จะมีการแบ่งออกเป็น 3 หมวดย่อยๆ ได้แก่ ญี่ปุ่น, อิตาลี และอินเดียนะครับ โดยผมจะขอเริ่มจากญี่ปุ่นซึ่งเป็นอาหารยอดนิยมของคนไทยส่วนใหญ่กันก่อน โดยในไลน์บุฟเฟ่ต์ Seafood Unlimited นี้ทาง Novotel Bangkok Ploenchit Sukhumvit จะจัดทั้งซูชิและซาชิมิมาให้เราทานทั้งคู่ ในส่วนของซาชิมินั้นจะประกอบไปด้วยทูน่า, แซลมอน, ปลาหมึกยักษ์, ซาบะ, ปูอัด แล้วก็ไข่หวาน คุณภาพโดยรวมๆ อยู่ในเกรดกลางๆ ไม่ได้เด่นมาก แต่ก็ถือว่าดีกว่าที่ผมเคยมาทานในช่วงปีก่อนพอควรครับ
ภาพด้านล่างนี้ภาพแรกจะเป็นภาพของจานปกติที่ทางเชฟเสิร์ฟให้กับลูกค้าทั่วๆ ไปนะครับ ส่วนภาพที่สองและสามจะเป็นภาพของจานพิเศษที่ทางเชฟสามารถจัดให้ลูกค้าได้ในกรณีพิเศษ เช่น งานเลี้ยงฉลองรับปริญญา, งานวันเกิด เป็นต้น โดยหากใครที่ต้องการให้เชฟจัดแบบภาพที่สองและสามให้ก็สามารถแจ้งทางห้องอาหารได้เลย เพียงแต่เราจะต้องแจ้งล่วงหน้าซัก 1-2 วันเพื่อที่ทางเชฟเค้าจะได้เตรียมตัวไว้ก่อนเท่านั้นเองครับ
ส่วนนี่เป็นหน้าตาของซูชิต่างๆ ที่ทางห้องอาหารเค้ามีให้บริการครับ โดยในวันที่ผมไปนั้นเค้ามีให้เลือกทานเกือบ 10 หน้าเลย รวมทั้งมีแบบที่เป็นซูชิเบิร์นด้วย ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วผมรู้สึกชอบทานซูชิพวกนี้มากกว่าซาชิมิด้านบนอีกนะครับ ><
มาดูกันที่อาหารอิตาลีกันบ้าง อาหารชาตินี้จะมีให้เราทานอยู่ 2 ประเภท คือ พาสต้า และพิซซ่า โดยพาสต้าจะมีทั้งหมดอยู่ 3 แบบ คือ ซอสมะเขือเทศ, ซอสโบโลเนส (เนื้อ) และซอสคาโบนาร่า ส่วนประเภทของเส้นนั้นก็จะมีให้เลือกอยู่ 2-3 ชนิดครับ ใครที่อยากทานแบบไหนก็สามารถสั่งกับเชฟได้เลย โดยผมกับต๋งได้ลองทานเป็นเพนเน่ซอสเนื้อและสปาเกตตี้คาโบนาร่า ซึ่งทั้งสองจานนั้นถือว่ารสชาติใช้ได้นะครับ ดีกว่าที่ผมเคยทานพาสต้าที่ห้องอาหารนี้ในอดีตเยอะมาก เพราะบอกตรงๆ เลยว่าก่อนหน้านี้ผมเคยมาทานแล้วไม่ค่อยประทับใจรสชาติในสเตชั่นนี้เลย และตอนแรกรอบนี้ผมก็กะว่าจะไม่สั่งมาทานแล้วครับ แต่ทางโรงแรมได้บอกว่าเค้ามีการปรับปรุงใหม่แล้วผมก็เลยลองสั่งมาชิมดู
รสชาติของเพนเน่ซอสเนื้อนั้นเข้มข้นดี หอมกลิ่นเนื้อ และเส้นนุ่มเด้ง ถือว่าสอบผ่านเลยครับ ส่วนสปาเกตตี้คาโบนาร่านั้นรสชาติยังไม่ค่อยโดนใจเท่าไหร่ เพราะเค้าทำมาเป็นแบบแห้งขลุกขลิก และรสชาติจางไปนิด ไม่ค่อยมันๆ แบบที่ผมชอบทาน แต่โดยรวมๆ ก็ถือว่าอยู่ในระดับที่สามารถสั่งมาทานได้อยู่ครับ
ในส่วนของพิซซ่านั้นทางห้องอาหารจะจัดวางไว้คนละที่กับพาสต้านะครับ เรียกว่าอยู่กันคนละมุมห้องอาหารเลย เนื่องจากที่นี่เค้าจะมีการอบพิซซ่าให้เราเห็นตรงนั้นเลยก็เลยต้องใช้พื้นที่เยอะนิดนึง ลักษณะพิซซ่าของเค้าจะเป็นแบบแป้งบางกรอบ และมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของพิซซ่าที่ใหญ่มากกกก ใหญ่จนตกใจและคิดอยู่ว่าจะหยิบมาชิมดีมั้ย แต่พอได้ไปเดินดูใกล้ๆ ก็พบว่าทางห้องอาหารเค้าได้มีการหั่นแต่ละชิ้นให้มีความแคบพอควร ดังนั้นปริมาณต่อชิ้นก็เลยถือว่าไม่เยอะมาก หยิบมากินแล้วไม่ตัดกำลังเท่าไหร่ครับ
รสชาติโดยรวมของพิซซ่าทั้งสองหน้าที่ผมได้ชิมถือว่าอยู่ในระดับกลางๆ ครับ และถ้าผมจำไม่ผิดเหมือนเมื่อก่อนมันจะอร่อยกว่านี้นะ @_@
ต่อกันที่อาหารอินเดียครับ ใครที่ชอบทานอาหารอินเดียสามารถแวะมาทานบุฟเฟ่ต์ที่นี่ได้เลย เพราะผมเคยมาทานที่นี่ 2-3 ธีมแล้วเค้าก็มีการจัดอาหารอินเดียไว้ในไลน์ตลอด
สำหรับในไลน์บุฟเฟ่ต์ Seafood Unlimited เย็นวันศุกร์และเสาร์นี้ ทางห้องอาหารก็มีการเตรียมอาหารอินเดียไว้ให้เราทาน 3-4 อย่าง ได้แก่ ข้าวซัฟฟรอน (Saffron Rice), มาซาล่าไก่ (Chicken Masala), แกงถั่ว (Dal Makhani) และนาน (Naan Bread) ส่วนในเรื่องรสชาตินั้นในความเห็นของผมกับต๋งคืออยู่ในระดับกลางๆ ไม่ได้ว้าวมาก แต่ทั้งนี้เราทั้งสองคนก็ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญอาหารอินเดียนะ ดังนั้นใครที่ชอบอาหารประเทศนี้ก็ลองแวะมาชิมอีกทีนะครับ
มาถึงหมวดที่สี่ “สลัด, Cold Cuts, ขนมปัง และชีส” สำหรับอาหารในหมวดนี้จะถูกจัดวางไว้ใกล้ๆ กันเลยครับ ในส่วนของขนมปังและชีสจะมีให้เราเลือกทานแค่ไม่กี่อย่างเท่านั้น ส่วนในเรื่องรสชาติผมไม่สามารถบอกได้นะครับ เพราะไม่ได้ลองชิมเลย
ส่วนสลัดนั้นเค้าจะมีบริการทั้งในแบบที่ให้เราเลือกปรุงผสมเองแล้วก็แบบสลัดสำเร็จรูป โดยทางห้องอาหารจะมีการเตรียมผัก, น้ำสลัด และท็อปปิ้งต่างๆ ไว้ ใครชอบทานอะไรก็จัดการได้ตามใจชอบเลย คุณภาพของผักต่างๆ อยู่ในเกณฑ์ที่ดีเพียงแต่ประเภทของผักที่มีให้เลือกนั้นแอบมีน้อยไปหน่อยครับ
นี่เป็นหน้าตาสลัดสำเร็จรูปครับ วันที่ผมไปนั้นเค้ามีสลัดแฮมและสลัดหอยแมลงภู่บริการ รสชาติอยู่ในระดับกลางๆ ไม่ได้ว้าวอะไรมากครับ
ส่วนนี่เป็น Cold Cuts ครับ มีให้เลือกทาน 3 อย่าง รสชาติอยู่ในเกณฑ์ดีนะครับ ผมทานแล้วชอบ
ต่อกันที่หมวดที่ห้า “อาหารจานร้อน” อาหารในหมวดนี้ผมจะขอแยกย่อยออกเป็น 2 ประเภทนะครับ ประเภทแรกคืออาหารประเภทกับข้าวทั่วๆ ไป โดยวันที่ผมไปทานนั้นเค้ามีให้บริการ 8-9 อย่าง ได้แก่ แกงเขียวหวานไก่, ปลาผัดซอสพริกไทยดำ, หอยแมลงภู่อบซอสไวน์ขาว, ไส้กรอกลูกวัวกับซอสไวน์แดง, ข้าวผัดสเปนปาเอลย่า, ต้มยำทะเล, ซุปกะหล่ำ, ข้าวผัดกุ้ง แล้วก็ข้าวสวย
ในเรื่องของรสชาติอาหารในประเภทแรกนี้ผมให้อยู่ในระดับกลางๆ นะครับ คือผมชิมครบทุกเมนูเลยแต่ไม่รู้สึกโดดเด่นกับเมนูไหนเป็นพิเศษ ที่พอจะโดนใจอยู่บ้างก็น่าจะเป็นแกงเขียวหวานไก่เท่านั้นครับ แต่ทั้งนี้อาหารต่างๆ เหล่านี้ทางเชฟจะมีการเปลี่ยนเมนูไปเรื่อยๆ อยู่แล้ว และความชอบของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน ดังนั้นถ้าใครชอบทานอาหารจานร้อนก็ลองไปเดินดูหรือตักมาชิมได้นะครับ ไม่แน่อาจจะเจอเมนูที่ถูกใจและแอบด่าผมในใจก็ได้ว่าวันนั้นผมชิมยังไงของผม ><
ส่วนอาหารประเภทที่สองในหมวดนี้ก็คือ ซีฟู้ดนึ่ง โดยทางห้องอาหารจะมีการนำเอาอาหารทะเลต่างๆ มานึ่งร้อนๆ ให้เราทาน ซึ่งในวันที่ผมไปนั้นก็จะมีกุ้งขาว, ปู, หอยตลับ และหอยแมลงภู่สีน้ำเงิน โดยในเรื่องรสชาติของอาหารประเภทนี้ผมให้อยู่ในเกณฑ์ที่ดีนะครับ โดยเฉพาะกุ้งขาวกับปู ความสดนั้นดีเลย
อ้อ…..ผมลืมพูดถึงเรื่องนึงไปเลย มันมีอยู่เรื่องนึงที่ผมชอบมากๆ เกี่ยวกับไลน์อาหารของที่นี่ นั่นก็คือเค้าจะมีการติดป้ายชื่ออาหารค่อนข้างชัดเจนครบแทบทุกเมนู แล้วก็เมนูส่วนใหญ่จะมีการระบุรูปที่แสดงถึงประเภทของเนื้อที่อยู่ในอาหารนั้นด้วยครับ เช่น หมู, เนื้อ, ไก่, กุ้ง เป็นต้น ใครที่ทานอะไรได้ทานอะไรไม่ได้ก็จะได้เลือกตักง่ายนิดนึง ซึ่งอันนี้ผมเชื่อว่าหลายๆ คนที่ไปทานก็น่าจะรู้สึกดีแบบผมเหมือนกันครับ
ลุยต่อกันที่อาหารหมวดที่หก “อาหารพิเศษและอาหารอื่นๆ” สำหรับอาหารในหมวดนี้ผมจะทำการเอาอาหารคาวประเภทต่างๆ ที่ผมไม่สามารถจัดเข้าในหมวดก่อนหน้านี้มารวมไว้ด้วยกันนะครับ โดยประเภทอาหารหลักในหมวดนี้ก็จะประกอบไปด้วยฟัวกราส์, เนื้ออบ แล้วก็อาหารทานเล่น
เริ่มจากฟัวกราส์ซึ่งเป็นอาหารที่หลายๆ คนชอบและไม่ค่อยมีบริการในไลน์บุฟเฟ่ต์ที่ไหนกันก่อนดีกว่า โดยสำหรับการทานบุฟเฟ่ต์ Seafood Unlimited ในราคา 1,091 บาท/คน net นั้น ทุกคนจะสามารถทานฟัวกราส์ได้ไม่อั้นเลย โดยสเตชั่นของฟัวกราส์นี้จะอยู่ข้างๆ พิซซ่าครับ ทางเชฟจะมีการทำวางไว้เรื่อยๆ และเราสามารถหยิบไปทานได้ตลอดเวลา เพียงแต่บางครั้งหากมีคนไปทานเยอะก็อาจจะต้องรอคิวนิดนึงนะครับ
ขนาดของฟัวกราส์นั้นถือว่าอยู่ในระดับมาตรฐานทั่วไป แต่ในเรื่องของความหนานั้นผมว่าแอบบางไปนิดนึงครับ ซึ่งพอมันบางแบบนี้ก็เลยทำให้ฟัวกราส์ขาดความมันและความฉ่ำไปพอควร ทานแล้วจะรู้สึกแห้งๆ กระด้างตรงผิวด้านนอกนิดๆ ซึ่งหากทางห้องอาหารสามารถปรับปรุงจุดเหล่านี้ให้ดีขึ้นได้ก็น่าจะทำให้หลายๆ คนประทับใจเลยครับ เพราะการไปทานบุฟเฟต์ในราคาไม่ถึง 1,100 บาท/คน และมีฟัวกราส์ให้ทานไม่อั้นแบบนี้ถือเป็นจุดขายที่น่าสนใจและน่าจะถูกใจหลายคนมากๆ
คราวนี้มาดูอาหารประเภทเนื้ออบกันบ้าง โดยผมว่าอาหารประเภทนี้เค้าทำได้ดีนะครับ โดยวันที่ผมไปนั้นเค้าจะมีปลาแซลมอน, เนื้อ, ไก่ และแกะไว้บริการ ในส่วนของแซลมอนและไก่นั่นทำได้ดีเลย อร่อยจนต้องไปหยิบเพิ่ม ส่วนแกะนั้นแม้จะมีกลิ่นอยู่นิดๆ แต่ก็ถือว่านุ่มและปรุงมาได้ดีกว่าหลายๆ ที่แล้ว ใครที่ชอบทานเนื้อแกะก็ลองไปชิมดูนะครับ
ส่วนนี่เป็นเมนูเนื้ออบครับ เมนูนี้เป็นเมนูที่ผมค่อนข้างจะผิดหวังที่สุดในเนื้อทั้งสี่ชนิด เนื่องจากรสชาติของเนื้อธรรมดา ไม่ค่อยมีความหอมของเนื้อ แล้วก็เนื้อแห้งไปหน่อย ก็หวังว่าทางเชฟจะทำการปรับปรุงให้มีความลงตัวมากกว่านี้ในอนาคตนะครับ
ปิดท้ายอาหารคาวกันด้วยอาหารทานเล่น โดยในวันที่ผมไปนั้นหลักๆ เค้าจะมียำต่างๆ, ลาบ แล้วก็เทมปุระ ในส่วนของยำและลาบจะมีให้เลือกทาน 4 อย่าง รสชาติมีทั้งถูกปากมากถูกปากน้อยปนๆ กันไป แต่รวมๆ นั้นถือว่าดีอยู่ครับ
ส่วนของเทมปุระนั้นจะมีทั้งกุ้งแล้วก็ผัก ผมเองหยิบแต่กุ้งเทมปุระมากินนะครับ รสชาติกลางๆ ขนาดของกุ้งไม่ใหญ่มาก แล้วก็มีการอมน้ำมันนิดๆ
ดูอาหารคาวกันไปครบแล้ว คราวนี้มาดู “ผลไม้, ของหวาน และไอศกรีม” กันบ้าง ในส่วนของผลไม้นั้นผมว่าเค้าทำได้ดีนะครับ หน้าตาสวยงาม ผลไม้มีความหวาน และที่สำคัญคือเค้ามีขนุนให้ทานด้วย นานๆ จะเจอขนุนในไลน์บุฟเฟ่ต์ซักที และขนุนนี่แหละคือผลไม้ที่ผมชอบทานมากๆ ครับ ><
ส่วนนี่คือของหวานครับ เค้ามีให้เลือกทานเยอะแยะละลานตามาก ทั้งของหวานไทยและของหวานสไตล์ฝรั่งรวม 30 รายการได้ แต่ทั้งนี้ผมไม่ได้ถ่ายมาให้ดูครบทุกเมนูนะครับ เพราะว่าขนมบางประเภทก็ถูกจัดวางไว้ในตำแหน่งที่ถ่ายรูปยากนิดนึง และผมไม่อยากไปย้ายหรือเลื่อนของเค้ามากครับ เดี๋ยวจะรบกวนลูกค้าที่มาใช้บริการท่านอื่นมากจนเกินไป
โดยรวมๆ แล้วจากที่ผมกับต๋งได้ลองชิมของหวานของเค้ามาประมาณ 50% ของทั้งหมด ผมว่าเค้าทำรสชาติในหมวดนี้ออกมาได้ค่อนข้างดีนะครับ ผมประทับใจหลายรายการเลยโดยเฉพาะฟรุตเค้ก, บราวนี่, บลูเบอร์รี่ครัมเบิ้ล และของหวานสไตล์ไทย โดยของหวานไทยนี่เค้าทำมาได้หอมนิดๆ รวมทั้งมีความหวานที่อยู่ในระดับที่ผมชอบด้วย ไม่หวานจนเกินไป ทำให้สามารถหยิบทานได้เรื่อยๆ
นี่เป็นหน้าตาของของหวานสไตล์ไทยครับ เค้าทำมาได้ขนาดน่ารักจุ๋มจิ๋มดี หยิบพอดีมือแล้วทานพอดีคำทุกอย่างเลย ข้าวต้มมัดก็เป็นข้าวต้มมัดขนาดจิ๋วที่ทานแล้วไม่ทำให้เราอิ่มจนเกินไป ใครชอบทานของหวานไทยๆ แบบนี้อย่าลืมแวะไปหยิบมาทานนะครับ
และนอกจากนี้เค้าก็ยังมีช็อคโกแลตฟองดูแล้วก็พวกของหวานน้ำแข็งใสอย่างเฉาก๊วยกับลอดช่องให้เราทานด้วยนะครับ เรียกว่ามีให้ครบทุกแบบทุกประเภทเลย ใครที่เป็นคนชอบทานของหวานก็เดินมาด้อมๆ มองๆ ในโซนนี้ก่อนนะครับ จะได้ดูว่าวันนั้นมีของหวานที่เราอยากทานเยอะมั้ย และจะได้เผื่อพื้นที่ในท้องได้ถูก ><
ปิดท้ายกันด้วยไอศกรีม สำหรับไอศกรีมที่มีให้บริการในไลน์บุฟเฟ่ต์ Seafood Unlimited นี้ จะเป็นไอศกรีมจากประเทศนิวซีแลนด์ หน้าตาดูดีชวนให้ตักมาชิมมากๆ ส่วนในเรื่องรสชาตินั้นก็ทำออกมาได้ดีเหมือนกับหน้าตาเลยครับ โดยในวันที่ผมไปนั้นเค้ามีทั้งหมด 4 รสชาติ ได้แก่ ช็อคโกแลต, สตรอเบอร์รี่, วานิลลา และชาเขียว ใครที่เป็นคนชอบทานไอศกรีมก็อย่าลืมแวะไปตักมาทานนะครับ ^^
หลังจากที่เราดูทั้งอาหารคาวและของหวานกันไปครบแล้ว คราวนี้เรามาดูเรื่องของเครื่องดื่มที่เค้ามีบริการในไลน์บุฟเฟ่ต์นี้กันบ้างนะครับ โดยไลน์บุฟเฟ่ต์ Seafood Unlimited คืนวันศุกร์และเสาร์นี้ทางห้องอาหารจะมีน้ำอัดลมรวมถึงชา กาแฟให้เราทานฟรีไม่อั้น แต่เครื่องดื่มเหล่านี้เราจะต้องบริการตัวเองนะครับ ใครอยากดื่มอะไรก็เดินไปกดได้เลย
และทั้งหมดนี้ก็คือประสบการณ์ของผมกับต๋งหลังจากที่เราได้มีโอกาสไปลองทานบุฟเฟ่ต์ Seafood Unlimited ของห้องอาหาร The SQUARE (เดอะ แสควร์) โรงแรม Novotel Bangkok Ploenchit Sukhumvit (โนโวเทล กรุงเทพ เพลินจิต สุขุมวิท) ครับ และเพื่อให้ทุกคนได้เห็นภาพของไลน์บุฟเฟ่ต์นี้มากขึ้น ผมก็ขอสรุปเป็นหัวข้อต่างๆ ตามนี้นะครับ
วันที่รับประทาน : วันเสาร์ที่ 16 มีนาคม 2562
เวลา : 18.00 – 21.30 น.
จำนวน : 2 คน
รสชาติอาหาร : เรื่องรสชาติอาหารในไลน์นี้โดยรวมๆ แล้วในความเห็นของผมจะมีอยู่ 2 อย่างครับ คือ ดีกับกลางๆ โดยในส่วนที่ทำได้ดีเลยก็คือ Seafood on ice, Grilled Station, แซลมอนอบ, ไก่อบ และของหวาน โดยเฉพาะกุ้งแม่น้ำ, ขาปูอลาสก้า และปลาหมึก ถือเป็นวัตถุดิบ 3 ประเภทที่ผมทานแล้วประทับใจที่สุดครับ ส่วนอาหารประเภทอื่นๆ ที่เหลือทั้งฟัวกราส์, พาสต้า, ซูชิ, ซาชิมิ, อาหารอินเดีย, สลัด, อาหารทานเล่น, อาหารจานร้อน และอื่นๆ รสชาติโดยรวมจะอยู่ในระดับกลางๆ แต่ถ้าเทียบกับที่ผมเคยมาทานอาหารที่ห้องอาหารแห่งนี้ครั้งหลังสุดเมื่อปี พ.ศ. 2561 ผมว่าเค้ามีการพัฒนาหลายๆ อย่างได้ดีขึ้นกว่าเดิมนะครับ
ความหลากหลายของอาหาร : ถือเป็นหนึ่งในไลน์บุฟเฟ่ต์ซีฟู้ดที่มีอาหารให้ทานเยอะดีครับ ประเภทอาหารทะเลหลากหลาย อาหารนานาชาติมีทั้งอิตาลี, ญี่ปุ่น, อินเดีย ส่วนพวกสลัด, ยำ, Cold Cuts, ขนมปัง, ชีส และของทานเล่นก็มีมาให้ทานแบบครบๆ นอกจากนี้ในส่วนของของหวานเค้าก็จัดมาให้อย่างเต็มที่มาก เรียกว่าใครชอบทานของหวานน่าจะฟินกันไปพอควรเลย และจากประเภทอาหารที่เค้ามีให้บริการเยอะแบบนี้ ผมว่าก็ไม่แปลกเลยนะครับว่าทำไมถึงมีคนชอบมาจัดปาร์ตี้หรือจัดเลี้ยงย่อยๆ ที่นี่ อย่างวันที่ผมไปนั้นก็มีกลุ่มใหญ่กลุ่มนึงมาจองห้องส่วนตัวจัดเลี้ยงครับ
ความสะอาดของสถานที่และบรรยากาศโดยรวม : ดีครับ ห้องอาหารกว้างมาก เพดานสูง พื้นที่สะอาด และสามารถรองรับคนได้เป็นจำนวนมาก สำหรับตัวผมเองไม่มีประเด็นอะไรที่รู้สึกว่าติดขัดครับ
การบริการของพนักงาน : วันที่ผมไปใช้บริการน่าจะมีลูกค้าท่านอื่นๆ ไปใช้บริการด้วยประมาณซัก 60% ของห้องอาหารได้ ซึ่งทางพนักงานของห้องอาหารก็ยังสามารถดูแลความเรียบร้อยต่างๆ ของโต๊ะผมได้เป็นอย่างดี เสิร์ฟอาหารถูกต้อง เก็บจานที่ใช้แล้วได้รวดเร็วดีครับ
ความสะดวกของการเดินทาง : ถือว่าเป็นหนึ่งในห้องอาหารและหนึ่งในโรงแรมที่เดินทางไปได้ไม่ลำบากนะครับ เพราะแม้โรงแรมจะไม่ได้เชื่อมกับสถานี BTS เพลินจิตโดยตรง แต่ก็อยู่ใกล้กันชนิดที่เดินไม่ถึง 100 เมตร ดังนั้นใครที่ไม่มีรถส่วนตัวก็น่าจะเดินทางไปได้ไม่ยากครับ ส่วนใครที่ขับรถไปตำแหน่งที่ตั้งของโรงแรมก็สังเกตได้ง่าย เพียงแต่คนที่ขับรถไปอาจจะต้องปวดหัวกับเรื่องการจราจรแถวนั้นนิดนึง เพราะบทมันจะติดก็ติดแบบไม่ขยับเลย @_@
ความคุ้มค่า : ว่ากันตรงๆ เลยว่าถ้าใครไปกินที่ราคาเต็ม 1,699 ++ บาท/คน หรือคิดเป็น 2,000 บาท/คน net นั้น จะเป็นอะไรที่ผมว่าไม่คุ้มค่าเลยครับ ในราคาประมาณนี้มีตัวเลือกอื่นๆ ที่น่าสนใจกว่าเยอะมาก แต่ถ้าใครที่ไปทานโดยจองผ่านลิงก์นี้ http://bit.ly/2TG76yo และได้รับสิทธิ์ส่วนลด 50% ก็จะทำให้ราคาเหลืออยู่เพียงคนละ 1,091 บาท/คน net เท่านั้น (ราคารวมเครื่องดื่มแล้ว) ซึ่งถ้าดูจากราคานี้สำหรับผมแล้วถือว่าเป็นราคาที่เหมาะสมดีนะครับ ส่วนถ้าใครที่มีบัตรแอคคอร์ พลัส ก็จะได้รับส่วนลดเพิ่มอีก 10% เหลือเพียงคนละ 909 บาท/คน net เท่านั้น ซึ่งมันเป็นอะไรที่ผมว่าน่าสนใจมาก ยังไงใครที่ตั้งใจจะไปทานอาหารที่นี่ก็อย่าลืมจองผ่านลิงก์ที่ผมบอกนะครับ และหากกดเข้าไปแล้ววันที่เราต้องการไปทานนั้นไม่มีราคาลด 50% ผมแนะนำให้เลือกวันที่ไปทานใหม่ครับ เนื่องจากโควตาส่วนลด 50% ในแต่ละวันจะมีจำนวนจำกัดครับ
สรุป : สำหรับใครที่ต้องการทานบุฟเฟ่ต์เย็นวันศุกร์และเสาร์ที่มีอาหารให้เลือกทานเยอะ อยากจะเน้นอาหารทะเลหรือซีฟู้ดเป็นพิเศษ ชอบกินกุ้งแม่น้ำ, ปลาหมึก, ขาปูอลาสก้า, ฟัวกราส์ และของหวาน หรือเป็นคนที่ต้องการไปทานอาหารกับคนหมู่มาก ต้องการห้องอาหารกว้างๆ เดินทางไปมาสะดวก รวมทั้งมีห้องส่วนตัวให้ใช้บริการ ไลน์บุฟเฟ่ต์ Seafood Unlimited ของโรงแรม Novotel Bangkok Ploenchit Sukhumvit ถือเป็นอีกหนึ่งไลน์ที่น่าจะสามารถตอบโจทย์ได้ดีระดับนึงเลยครับ แต่ถ้าใครเป็นคนที่ต้องการทานไลน์บุฟเฟ่ต์ที่อาหารคุณภาพยอดเยี่ยมทุกรายการ อาหารทะเลสดแบบสุดๆ ฟัวกราส์อร่อยนุ่มแบบละลายหายไปในปาก ไลน์บุฟเฟ่ต์นี้น่าจะยังไม่เหมาะสำหรับคุณครับ
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านจนจบ และสำหรับใครที่ต้องการติดตามเรื่องราวของการกินและเที่ยวของผมอย่างใกล้ชิดก็สามารถกดติดตามได้ที่เพจ “ภรรยาหา สามีใช้” ได้เลยครับ ส่วนท่านใดที่อยากจะสอบถามข้อมูลของที่นี่เพิ่มเติมหรืออยากจะทำการสำรองโต๊ะก็สามารถติดต่อได้ที่ช่องทางด้านล่างนี้เลยครับ แล้วพบกันใหม่ในรีวิวหน้า สวัสดีครับ
Tel : 02-3056000
หมายเหตุ : บทความนี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวของผมในวันที่ไปใช้บริการเท่านั้นครับ แต่ละท่านที่ได้มีโอกาสไปใช้บริการอาจจะได้รับการบริการที่แตกต่างจากนี้