สวัสดีครับ วันนี้ผมจะพาทุกคนไปรู้จักหนึ่งในร้านก๋วยเตี๋ยวที่อร่อยมากๆ ร้านหนึ่ง พร้อมกับเทคนิคการกินที่เรียกกันว่า “การอาบน้ำเนื้อ” เทคนิคที่จะทำให้โลกของการกินเนื้อของคุณเปลี่ยนไป!!
สำหรับร้านที่ผมจะพาทุกคนไปในวันนี้ชื่อว่า “ร้านรสดีเด็ด by นพ” ซึ่งเป็นร้านที่คนชอบทานก๋วยเตี๋ยวเนื้อน่าจะคุ้นเคยหรือคุ้นหูกันพอควร แต่ผมอยากจะบอกเพิ่มเติมว่าจริงๆ แล้วร้านรสดีเด็ดเนี่ย มีหลายสาขาและหลายเจ้าของมาก โดยในบรรดาสาขาและร้านที่มากมายของร้านรสดีเด็ดนี้ มันมีอยู่ร้านนึงที่โดดเด่นออกมาเหนือกว่าคนอื่นมาก นั่นก็คือ “ร้านรสดีเด็ด by นพ” ที่ตั้งอยู่ตรง ถ.พระราม 4 ใกล้ๆ กับซอยจุฬา 9 หรือที่หลายๆ คนเรียกว่าสามย่านนั่นเอง
Disclosure : บทความนี้ได้รับการสนับสนุนจากผู้ให้บริการ แต่ทั้งนี้ความเห็นต่างๆ ที่เกิดขึ้นเป็นความรู้สึกจริงของผมครับ
ในเรื่องการเดินทางมายัง “รสดีเด็ด by นพ” สาขาพระราม 4 นั้นก็ไม่ยากครับ เพราะตัวร้านอยู่ติดกับถนนพระราม 4 เลย โดยร้านจะอยู่ก่อนถึงปากซอยจุฬา 9 เล็กน้อย ส่วนในเรื่องของการจอดรถนั้น ผมแนะนำให้เลี้ยวไปจอดใน U Center หรืออาคารจามจุรี 9 ครับ อาจจะเดินไกลนิดนึงแต่ปลอดภัยไม่ต้องกังวลเรื่องตำรวจจะแวะมาแจกลายเซ็นที่รถเรา ^^
ร้านรสดีเด็ด by นพ สาขาพระราม 4 นั้นจะมีทั้งหมด 3 คูหาและ 2 ชั้นด้วยกัน โดยบริเวณชั้น 2 ของร้านจะเปิดให้บริการบุฟเฟ่ต์ปิ้งย่างสุดอร่อยซึ่งผมเคยได้เขียนรีวิวไปแล้วก่อนหน้านี้ ส่วนบริเวณชั้น 1 ของร้านนั้นจะเปิดบริการขายก๋วยเตี๋ยวและอาหารอื่นๆ โดยจะแบ่ง 2 ห้องเป็นแบบ open air และอีก 1 ห้องเป็นแบบติดแอร์ ใครที่รู้สึกร้อนก็สามารถเข้าไปใช้บริการในห้องแอร์ได้ ค่าบริการไม่มีการบวกเพิ่ม แต่วันไหนที่คนเยอะๆ อาจจะต้องรอคิวหน่อยนะครับ
คราวนี้เรามาดูกันดีกว่าว่าเมนูของร้านรสดีเด็ด by นพ สาขาพระราม 4 นั้นมีอะไรน่าสนใจบ้าง โดยเมนูที่ผมว่าเป็นตัวชูโรงของเค้าก็คือก๋วยเตี๋ยวและหม้อไฟ ซึ่งทางร้านจะมีการแยกไลน์การทำอาหารชัดเจนว่าไลน์เป็นหมู ไลน์ไหนเป็นเนื้อ และใช้น้ำซุปที่ต่างกัน ดังนั้นใครที่ไม่กินเนื้อก็สบายใจในการทานได้เลย
สำหรับวันนี้ผมกับต๋งเลือกที่จะทานเป็นหม้อไฟ เพราะเราได้ยินมาว่าหม้อไฟของที่นี่เด็ดมาก รวมทั้งมีประเภทของเนื้อให้สั่งมากมายหลายชนิด โดยหลังจากที่เราดูราคาอาหารต่างๆ เรียบร้อย เราก็ตัดสินใจสั่งอาหารมื้อนี้ตามนี้ครับ
เนื้อริบอาย 200 กรัม ราคา 450 บาท
เนื้อปาล์เลอะฮง 200 กรัม ราคา 300 บาท
ลูกชิ้นเนื้อ ราคา 50 บาท
เนื้อสด ราคา 50 บาท
เนื้อเปื่อย ราคา 60 บาท
เนื้อน่องลาย 60 บาท
เอ็นแก้ว ราคา 60 บาท
ผักรวม ราคา 30 บาท
ข้าวเปล่า 2 ถ้วย ราคาถ้วยละ 10 บาท
ลูกตาลลอยแก้ว ราคา 35 บาท
สับปะรดในน้ำเสาวรส ราคา 35 บาท
น้ำกระเจี๊ยบ ราคา 20 บาท
น้ำเปล่า ราคา 10 บาท
หมายเหตุ : เมนูหม้อไฟของรสดีเด็ด by นพ นั้นจะมี 2 หน้า หน้านึงจะเป็นพวกเนื้อธรรมดา ส่วนอีกหน้าจะเป็นพวกเนื้อพรีเมี่ยมที่เป็นเนื้อจากสหกรณ์โคขุน อำเภอโพนยางคำ ซึ่งผมแนะนำเลยว่าคอเนื้อตัวจริงต้องสั่งเนื้อพรีเมี่ยมมาลอง
สำหรับใครที่ไม่รู้ว่าเนื้อแต่ละส่วนแตกต่างกันอย่างไรบ้าง ผมขออนุญาตนำภาพการ์ตูนน่ารักๆ จากแฟนเพจร้านเค้ามาเล่าให้ฟังแบบคร่าวๆ นะครับ โดยประเภทของเนื้อวัวเด่นๆ นั้นจะมีทั้งหมด 5 ส่วนด้วยกัน ได้แก่
เนื้อเซอรอยด์ หรือเนื้อสันสะโพก เนื้อส่วนนี้จะมีไขมันน้อย รสเนื้อหวาน เหมาะกับคนที่ไม่ชอบทานไขมัน
เนื้อสันไหล่ เนื้อส่วนนี้จะมีไขมันแทรกระดับกลางๆ นุ่ม หวาน เหมาะกับคนที่ชอบทานไขมันในระดับพอดีๆ
เนื้อใบพาย หรือปาล์เลอะฮง เนื้อส่วนนี้จะนุ่มและมีความหวานในตัว มีไขมันน้อย โดยส่วนปลายๆ ของเนื้อใบพายนั้นจะมีส่วนนึงที่นุ่มเป็นพิเศษ ซึ่งเราเรียกเนื้อส่วนนั้นว่า Super
เนื้อใต้ซี่โครง หรือ Short Ribs เนื้อส่วนนี้จะมีรสชาติหวานหอมเป็นพิเศษ มีระดับไขมันแทรกตั้งแต่ธรรมดาจนถึงมาก มีลายไขมันสวย มีความหอมสูง และที่สำคัญเนื้อส่วนนี้ยังให้ความรู้สึกเด้งสู้ฟันมากๆ ด้วย
เนื้อริบอายส์ (Rib eye) เนื้อส่วนที่ดีที่สุดส่วนนึงของวัว หลายๆ คนชอบทานมาก เนื้อนุ่มสุดๆ และมีระดับไขมันแทรกตั้งแต่น้อยจนถึงมาก เนื้อส่วนนี้เมื่อนำไปลวกทาน น้ำซุปที่ได้จะหอมอร่อยจนทำให้หลายๆ คนน้ำลายไหลเลย
ก็ลองอ่านกันดูนะครับ ใครชอบส่วนไหนก็จัดมาชิมดู
เอาล่ะ รู้จักประเภทของเนื้อกันไปแล้วทีนี้มาดูหน้าตาเนื้อจริงๆ กันดีกว่า โดยเนื้อพรีเมี่ยมที่ผมสั่งไป 2 ชนิด คือ ริบอาย และปาล์เลอะฮงนั้นจะมาเสิร์ฟในจานที่ใหญ่กว่าเนื้ออื่นๆ และมีลายที่สวยงามน่ากินมากๆ
ส่วนนี่เป็นหน้าตาเนื้อและเมนูอื่นๆ ที่ผมสั่งมาทานคู่กับหม้อไฟ หน้าตารวมๆ ก็เหมือนกับในก๋วยเตี๋ยวเนื้อทั่วไปนั่นแหละครับ
เมื่อเราได้อาหารทุกอย่างครบแล้ว คราวนี้ก็ได้เวลากินซักที โดยทางร้านจะนำหม้อไฟพร้อมเตามาติดตั้งให้เราที่โต๊ะ ซึ่งหากใครอยากทานทั้งหม้อไฟหมูและหม้อไฟเนื้อ ทางร้านจะนำหม้อที่มีการแบ่งครึ่งแยกน้ำซุปมาให้ครับ ก็เรียกว่าหากใครไปกันหลายคนและมีคนที่ไม่กินเนื้อไปด้วยก็สามารถทานร่วมกันในโต๊ะได้อย่างไม่มีปัญหาอะไร ส่วนในเรื่องของน้ำจิ้ม ทางร้านก็มีเครื่องต่างๆ ไว้บนโต๊ะให้เราเรียบร้อยแล้ว ใครชอบรสไหน เผ็ดมาก เปรี้ยวนำ หรือออกหวานๆ หน่อยก็ปรุงเองได้ตามใจชอบเลย
สำหรับรสชาติโดยรวมของมื้อนี้นั้นต้องบอกว่าผมกับต๋งประทับใจมากครับ โดยเฉพาะเนื้อพรีเมี่ยมอย่างริบอายกับปาล์เลอะฮง เนื้อทั้งสองส่วนนี้นุ่มมากๆ เนื้อริบอายนี่นุ่มแบบแทบจะละลายในปากเลย ส่วนปาล์เลอะฮงนั้นจะออกแนวนุ่มแต่ยังมีความแน่นของเนื้อปนอยู่ ทั้งสองเมนูนี้แนะนำเลยว่าใครที่ชอบทานเนื้อควรจะสั่งมาลองทาน ผมว่าคุ้มราคามาก เพราะปริมาณที่ได้ต่อจานนั้นเยอะพอควร ซึ่งเมื่อรวมกับเนื้ออื่นๆ อย่างเนื้อสด เนื้อเปื่อย ลูกชิ้นที่เราสั่งมาด้วย ก็ทำให้ผมกับต๋งอิ่มจนแทบจุกเลย
ทั้งนี้สำหรับคอเนื้อที่มีเวลาและอยากจะทานอาหารหม้อไฟมื้อนี้ให้อร่อยขึ้นไปอีกระดับ ผมขอแนะนำเทคนิคการกินของทางร้านรสดีเด็ด by นพ ที่เรียกว่า “การอาบน้ำเนื้อ” โดยเทคนิคนี้ผมรู้จักมาเกือบปีแล้วจากแฟนเพจของร้าน แต่ก็ไม่มีโอกาสได้ลองซักทีจนกระทั่งวันนี้ และหลังจากที่ลองก็พบว่ารสชาติของเนื้อที่ผ่านการอาบน้ำเนื้อนั้น อร่อยและนุ่มกว่าการกินด้วยวิธีการปกติมากๆ เพราะตัวเนื้อจะมีไขมันแทรกอยู่ เนื้อจะไม่กระด้างเท่ากับการที่เราเอาเนื้อลงไปลวกในหม้อไฟโดยตรงครับ โดยวิธีการอาบน้ำเนื้อนั้นจะมี 3 ขั้นตอนง่ายๆ ดังนี้
“อย่าทำให้เนื้อตกใจ” ขั้นตอนนี้คือขั้นตอนแรก โดยเราต้องนำเนื้อที่เราต้องการกินเข้าไปวางไว้ในถ้วยแยก จากนั้นก็ค่อยๆ ราดน้ำซุปลงไปในชามแต่อย่าให้โดนเนื้อโดยตรง
“เอาเนื้อลงอาบน้ำ” ขั้นตอนนี้คือการค่อยๆ เอาเนื้อจุ่มลงไปในน้ำซุปอย่างช้าๆ ทีละนิดๆ จากนั้นก็กวนไปเรื่อยๆ และเติมน้ำซุปใหม่ลงในน้ำซุปเดิม โดยอย่าให้น้ำซุปใหม่ที่ร้อนๆ นั้นโดนเนื้อโดยตรง
“หลอกให้สุกโดยไม่รู้ตัว” ขั้นตอนนี้คือขั้นตอนสุดท้าย โดยหลังจากที่เราเติมน้ำซุปลงไปในถ้วยเรื่อยๆ จนน้ำร้อนในถ้วยมีความร้อนเท่ากับในหม้อน้ำซุปแล้ว เราจะสามารถสังเกตุเห็นได้ว่าตัวเนื้อจะสุกแต่ไม่มีความกระด้างเกิดขึ้น เพราะว่าเนื้อจะสุกโดยที่ไม่รู้ตัวนั้นเอง ซึ่งที่นี้ก็ได้เวลาที่เราจะกินเนื้อลวกได้อย่างอร่อยและฟินสุดๆ แล้วครับ
ทั้งหมดนี้ก็คือ 3 ขั้นตอนง่ายๆ กับเทคนิคการอาบน้ำเนื้อ ซึ่งผมพิสูจน์ด้วยตัวเองแล้วว่ามันอร่อยและนุ่มกว่าการนำเนื้อลงไปลวกในหม้อไฟโดยตรงเยอะมาก โดยเราสามารถสังเกตเห็นความแตกต่างภายนอกของเนื้อที่สุกจากทั้ง 2 วิธีได้อย่างชัดเจนเลย (ใครที่อยากเห็นภาพชัดๆ ก็สามารถดูได้ที่คลิปวีดีโอตอนท้ายของบทความนี้ได้นะครับ) ส่วนข้อเสียของวิธีนี้ในความคิดผมก็คือ มันใช้เวลาในการทานนานกว่าปกติ ดังนั้นการทานเนื้อด้วยวิธีนี้จึงเหมาะสำหรับการทานในมื้อที่เราไม่รีบเร่ง มีเวลาทานนาน ไม่จำกัดเวลาครับ
หลังจากที่เราจัดหม้อไฟชุดใหญ่ไปเสร็จเรียบร้อยแล้ว คราวนี้เราก็มาปิดท้ายมื้อด้วยของหวานดีกว่า โดยของหวานที่ผมกับต๋งสั่งในมื้อนี้ก็ได้แก่ ลูกตาลลอยแก้ว และสัปปะรดในน้ำเสาวรส โดยทั้ง 2 อย่างนี้ราคาเท่ากันคือ 35 บาท/ถ้วย
สำหรับเรื่องรสชาติของของหวานทั้งสองถ้วยนั้นอยู่ในเกณฑ์ดีเลย เนื้อลูกตาลนุ่มกำลังดี และน้ำเชื่อมก็ไม่หวานจนเกินไป ส่วนสับปะรดในน้ำเสาวรสนั้น นอกจากเมนูนี้จะเป็นเมนูที่แปลกมากๆ ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนแล้ว รสชาติยังดีและลงตัวมากอีกด้วย ความหวาน ความเปรี้ยวอยู่ในระดับพอดีคือมีรสพวกนี้นำ แต่ไม่มากจนทำให้ทานไม่ลง สรุปเลยว่าของหวานทั้ง 2 ถ้วยนี้ดีมาก กินแล้วรู้สึกสดชื่นทั้งคู่ครับ
ทานของหวานสุดอร่อยเสร็จเรียบร้อยแล้ว คราวนี้เรามาสรุปรีวิวหม้อไฟของร้านรสดีเด็ด by นพ สาขาพระราม 4 กันดีกว่าครับ โดยเราจะไล่ไปเป็นเรื่องๆ ตามเดิมนะครับ
วันที่รับประทาน : วันอังคารที่ 2 มกราคม 2561
ช่วงเวลา : 13.30 – 15.30 น.
จำนวน : 2 คน
รสชาติอาหาร : รสชาติของเนื้อริบอายและปาล์เลอะฮงนั้นดีมาก นุ่ม อร่อยสุดๆ ส่วนน้ำซุปก็หอมอร่อยถูกปากดี กินแล้วเข้ากันมาก สำหรับรสชาติของเนื้ออื่นๆ ที่ผมสั่งมาทานด้วยนั้นก็อยู่ในเกณฑ์ดีเมื่อเทียบกับร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อทั่วไป โดยเฉพาะเนื้อเปื่อยกับเอ็นแก้วที่ค่อนข้างโดดเด่นกว่าใครเพื่อน ส่วนรายการที่ด้อยที่สุดในความคิดผมก็คือลูกชิ้นครับ มีอีกหลายร้านที่ผมว่ารสชาติลูกชิ้นเนื้อถูกปากผมมากกว่านี้
ความหลากหลายของอาหาร : ร้านรสดีเด็ด by นพ สาขาพระราม 4 นั้นเป็นร้านที่มีความหลากหลายของอาหารเยอะมาก เพราะมีทั้งปิ้งย่าง, ก๋วยเตี๋ยว, เกาเหลา, หม้อไฟ และก็ข้าว นอกจากนี้ประเภทของเนื้อและหมูก็มีให้สั่งหลายประเภทมาก ดังนั้นผมคิดว่าร้านนี้น่าจะตอบโจทย์ในการทานอาหารเป็นกลุ่มใหญ่ๆ ได้เลย
ความสะอาดของร้าน : อยู่ในระดับกลางๆ ตามร้านอาหารริมถนนที่อยู่นอกห้างครับ ไม่ได้สะอาดหรือหรูหรามาก แต่ก็สามารถนั่งทานได้ไม่ตะขิดตะขวงใจ
การบริการของพนักงาน : จุดนี้แอบตินิดนึงเพราะว่ามีหลายครั้งที่สั่งอาหารแล้วรอนานจนต้องทวง ซึ่งส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะมีลูกค้ามาใช้บริการเป็นจำนวนมาก เอาเป็นว่าข้อนี้ผมให้ซัก 8 เต็ม 10 แล้วกันครับ
ความสะดวกของการเดินทาง : ตำแหน่งที่ตั้งของร้านอยู่ติดกับถนนพระราม 4 ดังนั้นจึงมีรถเมล์ผ่านหลายสาย ส่วน MRT ที่ใกล้ที่สุดก็คือ MRT สามย่าน โดยจะอยู่ห่างจากร้านประมาณ 500 เมตร ซึ่งเป็นระยะที่พอเดินได้ และสำหรับคนที่ขับรถมานั้นภายในซอยจุฬา 9 ก็มีที่จอดรถหลายจุด ดังนั้นในเรื่องความสะดวกของการเดินทางมาที่ร้านนี้ผมให้อยู่ในเกณฑ์ดีครับ
ความคุ้มค่า : เทียบรสชาติ ปริมาณ และราคาแล้ว ผมว่าร้านนี้เป็นร้านอาหารที่คุ้มค่าร้านนึงเลย โดยเมนูเนื้อพรีเมี่ยมดูเผินๆ เหมือนราคาต่อจานจะสูง แต่สำหรับคนที่ชอบทานเนื้อแล้วจะรู้ว่าปริมาณแบบนี้ คุณภาพแบบนี้ ถือว่าไม่แพงเลยครับ
สรุป : หากคุณเบื่อชาบูและอยากจะหาร้านเนื้ออร่อยๆ ที่เป็นหม้อไฟสไตล์ไทยทานซักครั้ง ร้านรสดีเด็ด by นพ และบรรดาเนื้อพรีเมี่ยมจากโคขุนโพนยางคำ น่าจะเป็นตัวเลือกที่คุณควรพิจารณาและหาโอกาสไปลอง โดยผมแนะนำว่าควรรวมพลไปซัก 4-5 คน จะได้สั่งเนื้อพรีเมี่ยมมาลองทานได้หลายอย่าง และที่สำคัญอย่าลืมเทคนิคการกินแบบ “อาบน้ำเนื้อ” ด้วยนะครับ มันจะทำให้คุณลืมการกินหม้อไฟแบบเดิมไปจนหมดสิ้นเลย
ก็จบลงแล้วสำหรับรีวิวนี้ สำหรับใครที่อยากจะดูบรรยากาศของการรีวิวอาหารครั้งนี้ในรูปแบบของภาพเคลื่อนไหวก็สามารถกดดูที่คลิปด้านล่างได้เลย ส่วนใครที่อยากจะสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับห้องอาหารแห่งนี้ก็สามารถเข้าไปดูรายละเอียดต่อที่ลิงก์ด้านล่างได้เลยครับ
Fanpage : Roddeeded / รสดีเด็ด by นพ
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านจนจบ ทั้งนี้ทุกท่านสามารถเข้าไปพบปะพูดคุยเรื่องราวของการกินและเที่ยวของผมกับต๋งแบบใกล้ชิดที่เพจ “ภรรยาหา สามีใช้” แล้วพบกันใหม่ในรีวิวหน้า สวัสดีครับ
หมายเหตุ : บทความนี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวของผมในวันที่ไปใช้บริการเท่านั้นครับ แต่ละท่านที่ได้มีโอกาสไปใช้บริการอาจจะได้รับการบริการที่แตกต่างจากนี้ออกไป