สวัสดีทุกคนครับ หลังจากที่เมื่อประมาณ 2 เดือนก่อน ผมได้มีโอกาสพาทุกคนไปรู้จักกับไลน์บุฟเฟ่ต์ โอ้ มัน กุ้ง!! น้ำพุชีส มันยอดมาก!! ของห้องอาหาร The Square ชั้น 2 โรงแรม Novotel Bangkok on Siam Square มาแล้ว โดยครั้งนั้นผมไปทานเพียงคนเดียว ไม่ได้พาต๋งไปด้วย ดังนั้นพอทาง Novotel Bangkok on Siam Square เค้าแจ้งมาว่าตอนนี้กำลังจะมีไลน์บุฟเฟ่ต์ใหม่เปิดให้บริการแทนไลน์เดิม โดยไลน์นี้จะเป็นไลน์พิเศษส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ที่จะเน้นเมนูประเภทซีฟู้ดและอาหารในช่วงเทศกาลคริสมาสต์อย่างไก่งวงและแฮม ผมจึงไม่รอช้ารีบตอบตกลงและชวนต๋งไปลิ้มลองอาหารในไลน์บุฟเฟต์ใหม่ที่ชื่อว่า “Festive Seafood” นี้ทันทีครับ และนี่คือจุดเด่นคร่าวๆ ของไลน์บุฟเฟ่ต์ “Festive Seafood” ตามความคิดของผมหลังจากที่ทานเสร็จครับ
-
ราคาไม่แรงมาก โดยราคาปกติของไลน์นี้จะอยู่ที่ 1,620 บาท ++/คน (ราคารวมเครื่องดื่มแล้ว) แต่หากใครที่จองผ่านลิงก์นี้ https://www.novotelbkk.com/th/festive-seafood-buffet-amazingcouples/ ทางห้องอาหารจะลดราคาให้พิเศษ 50% สำหรับวันอาทิตย์-พฤหัสบดี เหลือเพียงคนละ 954 บาท/คน net เท่านั้น และจะลดราคาให้พิเศษ 40% สำหรับวันศุกร์-เสาร์ เหลือเพียงคนละ 1145 บาท/คน net (ราคารวมเครื่องดื่มแล้ว) ซึ่งราคาหลังจากที่ลดแล้วมันเป็นราคาที่ผมว่าน่าสนใจระดับนึงเลยครับกับไลน์อาหารแบบนี้
-
เป็นไลน์ที่มีเมนูซีฟู้ดเยอะมาก ทั้งขาปูอลาสก้า, King Crab, Blue Crab, Tiger Crab, กุ้ง, กั้ง, หอยนางรม, หอยแมลงภู่, หอยแครง และหอยหมาก นอกจากนี้คุณภาพของอาหารซีฟู้ดยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี น้ำจิ้มรสชาติแซ่บ ถูกใจคนไทยด้วยครับ
-
มี Grilled Station ที่มีการนำเอากุ้งแม่น้ำ, กุ้งลายเสือ, กั้ง, ปู, แซลมอน, หมู, เนื้อ และแกะ ไปย่างบนไฟร้อนๆ โดยใครที่ชอบทานกุ้งแม่น้ำ, กุ้งลายเสือ และกั้ง น่าจะประทับใจโซนนี้เป็นพิเศษครับ เพราะสามอย่างนี้เป็นอะไรที่ผมว่าโดดเด่นกว่าอย่างอื่นมาก
-
มีฟาวน์เท่นชีสฟองดู หรือที่เรียกว่าน้ำพุชีส โดยเราสามารถตักเอาชีสนี้ไปราดบนอาหารต่างๆ ที่เราต้องการจะทานคู่กับชีสได้ไม่อั้นเลย โดยน้ำพุชีสนี้จะมีส่วนผสมของ White Cheddar, Yellow Cheddar และ Cream Sauce ซึ่งรสชาติที่ได้จากการผสมผสานของทั้ง 3 อย่างนี้นั้นมันดีและลงตัวมากๆ ครับ รสชาติออกมันนิดๆ แต่ไม่เค็มมาก ทำให้เราสามารถทานได้เรื่อยๆ
-
สามารถนั่งทานได้นานถึง 4 ชั่วโมง 30 นาที
-
ทำเลที่ตั้งของโรงแรมอยู่ใจกลางสยามสแควร์ ทำให้คนที่ไม่มีรถส่วนตัวสามารถเดินทางไปใช้บริการได้สะดวก ส่วนผู้ที่ขับรถมาก็จะสามารถจอดรถได้ฟรี 3 ชั่วโมงครับ
Disclosure : บทความนี้ได้รับการสนับสนุนจากผู้ให้บริการ แต่ทั้งนี้ความเห็นต่างๆ ที่เกิดขึ้นเป็นความรู้สึกจริงของผมครับ






เอาล่ะ ตอนนี้เราก็รู้จักกับจุดเด่นต่างๆ ของไลน์บุฟเฟ่ต์ “Festive Seafood” กันไปแล้ว แต่ก่อนที่ผมจะพาทุกคนไปเจาะลึกกันในแต่ละโซน ผมจะขอพาทุกคนไปรู้จักกับที่ตั้งของโรงแรมแห่งนี้กันก่อนนะครับ
โรงแรม Novotel Bangkok on Siam Square นั้น จะตั้งอยู่ระหว่างซอยสยามสแควร์ 5 และซอยสยามสแควร์ 6 (ตรงข้ามกับอาคารสยามกิตติ์) โดยโรงแรมแห่งนี้จะอยู่ห่างจากสถานี BTS สยามประมาณ 150 เมตรเท่านั้น ซึ่งเรียกว่าอยู่ใจกลางเมืองมาก และสะดวกสบายสุดๆ สำหรับคนที่ไม่มีรถส่วนตัว ส่วนใครที่ขับรถมานั้นก็สามารถจอดรถที่บริเวณชั้นใต้ดินของโรงแรมได้เลยครับ โดยแขกที่มาทานอาหารที่โรงแรมจะสามารถประทับตราบัตรจอดรถได้ 3 ชั่วโมง แต่จากบริเวณที่จอดรถชั้นใต้ดินขึ้นมายังล็อบบี้นั้นจะไม่มีลิฟท์นะครับ เราจะต้องเดินขึ้นบันไดเอาเอง ^^

หลังจากที่เราเดินทางมาถึงที่โรงแรมเรียบร้อยแล้ว เราก็ตรงดิ่งขึ้นไปที่ชั้น 2 ของโรงแรมเพื่อไปยังห้องอาหาร The Square ได้เลยครับ โดยในเรื่องบรรยากาศของห้องอาหาร ผมจะไม่ขอลงรูปและเขียนรายละเอียดอะไรมากนะครับ เพราะผมเคยเขียนไปในรีวิวครั้งที่แล้วแล้ว ทุกคนสามารถคลิกที่นี่เพื่อย้อนกลับไปอ่านรีวิวเดิมที่ผมเขียนไว้ได้เลยครับ
สำหรับรายละเอียดต่างๆ ของไลน์บุฟเฟต์ “Festive Seafood” โรงแรม Novotel Bangkok on Siam Square ก็มีตามนี้เลยครับ
วันที่เปิดบริการ : ทุกวัน
เวลาที่เปิดบริการ : 18.00 น. – 22.30 น.
วันสิ้นสุดธีม : วันที่ 31 มกราคม 2562
ราคาปกติ : ผู้ใหญ่ 1,620 บาท ++/คน, เด็กอายุต่ำกว่า 6 ขวบ ทานฟรี, เด็กอายุ 6-12 ปี ราคา 810 บาท ++/คน โดยราคาดังกล่าวเป็นราคาที่รวมเครื่องดื่มเรียบร้อยแล้ว
ราคาพิเศษ : สำหรับผู้ใหญ่ที่จองการทานอาหารผ่านลิงก์นี้ https://www.novotelbkk.com/th/festive-seafood-buffet-amazingcouples/ จะได้รับสิทธิ์ทานอาหารในราคาที่ต่ำกว่าราคาปกติสูงสุดถึง 50% โดยจะมีราคาแตกต่างกันไปตามแต่ละวันดังนี้ครับ
ราคาพิเศษลด 50% สำหรับการทานในเย็นวันอาทิตย์ – วันพฤหัสบดี : ราคาผู้ใหญ่เหลือเพียงท่านละ 954 บาท/คน net (ราคารวมเครื่องดื่มแล้ว)
ราคาพิเศษลด 40% สำหรับการทานในเย็นวันศุกร์ – วันเสาร์ : ราคาผู้ใหญ่เหลือเพียงท่านละ 1,145 บาท/คน net (ราคารวมเครื่องดื่มแล้ว)
หมายเหตุ : สำหรับคืนวันที่ 24 และ 25 ธันวาคม 2561 ซึ่งเป็นคืนวันคริสมาสต์ ราคาจะอยู่ที่ 1,335 บาท/คน net (ราคารวมเครื่องดื่มแล้ว) ส่วนคืนวันที่ 31 ธันวาคม 2561 ซึ่งเป็นวันสิ้นปี จะเป็นราคาปกติ ไม่มีโปรโมชั่นใดๆ ครับ โดยทั้ง 3 วันนี้ทางห้องอาหารจะมีเมนูไก่งวงอบและแฮมชิ้นโตบริการเพิ่มขึ้นมาเป็นพิเศษครับ

เอาล่ะ ตอนนี้เราก็รู้ราคาอาหารของไลน์ “Festive Seafood” กันแล้ว คราวนี้เราไปไล่ดูอาหารทั้งหมดที่มีในไลน์นี้กันดีกว่าว่ามีอะไรให้ทานบ้าง และแต่ละอย่างคุณภาพดีแค่ไหน คุ้มกับเงินที่จ่ายไปมั้ย โดยผมได้ทำการแบ่งประเภทอาหารของเค้าออกมาเป็นทั้งหมด 7 หมวด ตามนี้ครับ
-
Seafood on ice
-
Grilled Station
-
Special Menu
-
Hot Dish (อาหารจานร้อน)
-
อาหารนานาชาติ
-
สลัด, ยำ, ขนมปัง และอื่นๆ
-
ของหวาน, ผลไม้ และไอศกรีม
เรามาเริ่มเจาะลึกกันที่หมวดแรก Seafood on ice เลยนะครับ ที่หมวดนี้จะมีขาปูอลาสก้า, King Crab, Blue Crab, Tiger Crab, กุ้ง, หอยนางรม, หอยแมลงภู่ ไว้บริการ ความสวยงามของการจัด Display นั้นดีมาก ดึงดูดสายตาคนสุดๆ ชนิดที่ใครๆ เข้ามาก็ต้องแวะเข้ามาถ่ายรูปกันก่อนเป็นอันดับแรก ส่วนในเรื่องความสดและขนาดของอาหารแต่ละอย่างนั้นก็อยู่ในเกณฑ์ที่ดีเช่นเดียวกันครับ








ในเรื่องของรสชาตินั้น ผมขอลงรายละเอียดแค่ขาปูอลาสก้าเท่านั้นนะครับ เพราะอาหารอย่างอื่นนั้นอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานจนไปถึงดีทั้งหมด ไม่ติดประเด็นอะไร โดยผมกับต๋งคิดว่าขาปูอลาสก้าในวันนั้นมีรสชาติที่จืดไปหน่อย เนื้อไม่หวานเท่าที่ควร ทำให้เวลากินเราต้องใช้น้ำจิ้มซีฟู้ดเข้าช่วย ไม่สามารถกินขาปูเพียวๆ ได้ แต่ด้วยความที่น้ำจิ้มซีฟู้ดของที่นี่มีรสชาติที่ดี เผ็ดและแซ่บพอควร ก็เลยช่วยดึงให้ขาปูนั้นมีรสชาติดีขึ้นเยอะครับ
สำหรับใครที่ชอบทานปูเป็นพิเศษ ผมแนะนำว่าให้ลองหยิบ King Crab มาทานนะครับ เพราะจากที่ผมลองทานปูที่มีทั้งหมด ทั้งขาปูอลาสก้า, King Crab, Blue Crab และ Tiger Crab ผมว่า King Crab นั้นอร่อยถูกปากที่สุดเลย แถมทานง่ายด้วยเพราะเค้าตัดเป็นท่อนเล็กๆ ไว้แล้ว แล้วก็ที่ห้องอาหาร The Square โรงแรม Novotel Bangkok on Siam Square แห่งนี้ เค้าจะมีการวางที่หนีบปูไว้ในโซน Seafood on ice เลยนะครับ ใครที่อยากจะทานปูเยอะๆ ก็อย่าลืมหยิบมาที่โต๊ะด้วยนะครับ จะได้ทานได้สะดวกขึ้น
ส่วนใครที่ไม่ชอบแกะปู ก็ลุยไปที่กุ้ง, หอยแมลงภู่ และหอยนางรมได้เลย หรือถ้าใครรู้สึกไม่ค่อยชอบกินอาหารประเภท Seafood on ice ซักเท่าไหร่ ก็ตรงดิ่งไปที่โซนที่ 2 Grilled Station ได้เลยครับ


หมวดที่สอง Grilled Station ที่หมวดนี้จะเป็นการเอาเนื้อสัตว์ต่างๆ ไปย่างบนเตาไฟร้อนๆ ครับ โดยในไลน์บุฟเฟ่ต์ “โอ้ มันกุ้ง!!” ที่ผมเคยมากินก่อนหน้านี้เค้าจะมีเฉพาะอาหารทะเลเท่านั้น โดยเน้นไปที่กุ้งเป็นหลัก แต่สำหรับไลน์ “Festive Seafood” ซึ่งเป็นไลน์ใหม่นี้ เค้าจัดมาให้เต็มมาก มีเนื้อให้เราเลือกทานแทบทุกประเภทเลยทั้งกุ้งแม่น้ำ, กุ้งลายเสือ, กั้ง, ปู, หอยแครง, หอยหมาก, เนื้อ, หมู แล้วก็เนื้อแกะ โดยเมนูที่ผมประทับใจที่สุดก็คือกุ้งแม่น้ำ, กุ้งลายเสือและกั้งครับ สามอย่างนี้รสชาติและความสดอยู่ในเกณฑ์ที่ดีเลย แกะเปลือกแล้วจิ้มน้ำจิ้มซีฟู้ดกินเพลินๆ ยาวๆ
ส่วนเมนูที่ผมไม่ค่อยประทับใจซักเท่าไหร่ก็จะเป็นแกะแล้วก็เนื้อครับ โดยแกะนั้นค่อนข้างเหนียวและมีกลิ่นพอควร ส่วนเนื้อนั้นทางเชฟเค้าย่างมาให้สุกเกินไป ทำให้เนื้อแข็งไปหน่อย ดังนั้นสำหรับใครที่ต้องการจะทานเนื้อ ผมแนะนำให้ย้ำกับทางคนรับออเดอร์หรือเชฟให้ดีๆ นะครับว่าขอเป็นมีเดียม รสชาติจะได้ดีขึ้นครับ








สำหรับในการสั่งอาหารที่หมวดนี้เราจะต้องบอกจำนวนและหมายเลขโต๊ะกับพนักงานที่ยืนอยู่บริเวณสเตชั่นนี้นะครับ พอเค้าย่างเสร็จเค้าก็จะนำไปเสิร์ฟให้เราที่โต๊ะเลยครับ โดยวันไหนที่คนน้อยๆ หน่อย นั่งรอไม่ถึง 10 นาทีก็ได้กินแล้ว แต่ถ้าวันไหนที่คนเยอะๆ แบบที่ผมไปรอบนี้ก็ต้องรอกันนานนิดนึงครับ


ต่อกันที่หมวดที่ 3 Special Menu ที่หมวดนี้จะมีอยู่ด้วยกัน 3 เมนูหลักๆ และแต่ละเมนูนั้นถือเป็นเมนูไฮไลท์หมดเลยครับ เมนูแรกก็คือน้ำพุชีสที่หลายๆ คนชื่นชอบ โดยใครที่อยากจะทานชีสก็สามารถเดินมาตักได้เลย จะทานเยอะแค่ไหน จะทานกี่รอบก็สามารถตักได้ไม่อั้น ซึ่งเมนูอาหารที่ผมว่ารสชาติเข้ากับชีสที่สุดก็น่าจะเป็นกุ้งแม่น้ำเผา, กุ้งขาว แล้วก็หอยแมลงภู่ แต่ถ้าใครจะลองไปประยุกต์กับเมนูอื่นๆ เช่น ซูชิ ชาซิมิ ก็ทดลองดูได้เลยครับ เผื่อจะค้นพบรสชาติใหม่ที่โดนใจ
สำหรับเมนูที่สองในหมวดนี้นั่นก็คือแฮมอบ (Roast Ham) ครับ เมนูนี้จะเป็นแฮมชิ้นโตที่เคลือบซอสเมเปิ้ลไว้ รสชาติดีและอร่อยถูกปากมาก แต่ต้องบอกว่าด้วยความที่ชิ้นของแฮมนั้นมีขนาดใหญ่ ดังนั้นบางชิ้นมันก็เลยอาจจะมีปริมาณของมันไม่เท่ากันมากบ้างน้อยบ้างแตกต่างกันออกไป ใครที่อยากจะทานส่วนไหนเป็นพิเศษก็ลองบอกเชฟเค้าดูนะครับ เค้าจะได้เลือกหั่นมาให้เราทานได้ตรงใจ
ส่วนเมนูที่สามของหมวดนี้นั้นจะเป็นเมนูไก่อบ (Roast Chicken) โดยหากเป็นวันธรรมดาที่ไม่ใช่คืนวันคริสมาสต์ (24-25 ธันวาคม 2561) และคืนวันสิ้นปี (31 ธันวาคม 2561) ทางห้องอาหารจะเสิร์ฟเป็นไก่อบสมุนไพรที่มีส่วนผสมของเครื่องเทศต่างๆ อย่างเกาลัดย่าง, น้ำเกรวี่, ซอสแครนเบอร์รี่ และแยมแอปเปิ้ล ซึ่งรสชาติที่ได้นั้นผมว่าดีเลยนะครับ หอมและไม่เหนียวเลย
แต่ทั้งนี้ถ้าใครที่ไปในทานอาหารไลน์นี้ในคืนวันคริสมาสต์และคืนวันสิ้นปี เมนูไก่อบสมุนไพรนี้จะถูกเปลี่ยนเป็นเมนูไก่งวงอบแทน ซึ่งผมกับต๋งก็ได้มีโอกาสชิมเมนูนี้เหมือนกันครับ โดยผมรู้สึกว่าเมนูไก่งวงอบจะอร่อยกว่าเมนูไก่อบสมุนไพรนิดๆ แต่ด้วยความที่ว่าเมนูไก่งวงอบนี้จะมีบริการแค่ 3 วันเท่านั้น และราคาของทั้ง 3 วันดังกล่าวจะสูงกว่าวันอื่นๆ ด้วย ดังนั้นผมเลยคิดว่าสำหรับใครที่ไม่ได้ต้องการทานไก่งวงเป็นพิเศษหรือไม่ได้ต้องการซึมซับบรรยากาศของความเป็นคริสมาสต์และปีใหม่มากนัก การเลือกไปทานบุฟเฟ่ต์ไลน์นี้ในวันธรรมดาที่มีส่วนลด 40-50% ต่อคนจะดีกว่าครับ

และที่หมวดนี้ในบางวัน ทางเชฟก็จะมีการทำเมนูพิเศษมาให้เราทานเพิ่มด้วยนะครับ อย่างวันที่ผมไปก็จะมีเมนูปลาแบบนี้อยู่ แต่โดยหลักๆ แล้ว อาหารของหมวดนี้ในธีม “Festive Seafood” ก็จะเป็นน้ำพุชีส, แฮมอบ แล้วก็ไก่อบสมุนไพรครับ
ต่อกันที่หมวดที่สี่ Hot Dish หรืออาหารจานร้อน อาหารในหมวดนี้ทางห้องอาหารจะมีการหมุนเวียนเปลี่ยนเมนูไปเรื่อยนะครับ โดยวันที่ผมไปนั้นอาหารในหมวดนี้จะมีต้มข่าไก่, ไก่ผัดซอสหอยนางรม, ไก่ผัดผงกะหรี่, กราแตงผัก (Vegetables Gratin), มันฝรั่งอบ (Saute Potato), ปลาหมึกทอด แล้วก็ไก่กับซอสฮันนี่มัสตาร์ด (Chicken with Honey Mustard) ซึ่งตัวผมเองได้ลองไป 4-5 เมนูก็พบว่ารสชาติอาหารส่วนใหญ่อยู่ในเกณฑ์ที่ดีครับ โดยเฉพาะไก่ผัดผงกระหรี่อันนี้ถูกใจผมมากครับ
หมวดที่ห้า อาหารนานาชาติ ที่หมวดนี้จะมีอยู่สองประเภทหลักๆ คืออาหารญี่ปุ่นแล้วก็อาหารอิตาลี โดยโซนอาหารญี่ปุ่นนั้นจะมีซูชิ, ซาชิมิ แล้วก็ยำสาหร่าย ในส่วนของซาชิมินั้นจะมีให้เราทาน 2 อย่างคือแซลมอนและทูน่า คุณภาพของทูน่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดี แต่ในส่วนของแซลมอนนั้นคุณภาพแอบตกลงไปจากที่ผมเคยไปทานในรอบที่แล้วอยู่เล็กน้อยทั้งในส่วนของลวดลายและรสชาติครับ ซึ่งในส่วนนี้ทางโรงแรมจะมีการนำไปปรับปรุงให้กลับมาอยู่ในมาตรฐานเดิม โดยถ้าหากสามารถทำให้กลับมาอยู่ในมาตรฐานเดิมได้ก็น่าจะทำให้คนที่ชอบทานทูน่าและแซลมอนถูกใจกับการมากินอาหารที่นี่พอควร เพราะโดยรวมๆ แล้วคุณภาพซาชิมิของเค้าก่อนหน้านี้นั้นดีกว่าไลน์อาหารญี่ปุ่นของหลายๆ ที่เลย



สำหรับในส่วนของซูชินั้นทางห้องอาหารก็มีการเตรียมไว้ให้เราทานหลายหน้าเลย โดยบางวันก็จะมีพวกซูชิแซลมอนเบิร์นด้วยครับ หรือถ้าเราไปแล้วไม่เห็นว่าเค้ามีวางไว้ในไลน์ เราก็ลองถามเค้าได้นะครับว่าพอจะทำให้ทานได้หรือเปล่า หากไม่ติดปัญหาเรื่องวัตถุดิบทางเชฟเค้าก็น่าจะทำให้เราทานได้ครับ






ดูอาหารญี่ปุ่นไปจบแล้ว คราวนี้มาดูอาหารอิตาลีกันบ้างครับ เดิมในไลน์ก่อนหน้านี้ที่ผมเคยมาทานจะไม่มีในส่วนนี้นะครับ และผมก็มีฟีดแบคไปว่าน่าจะเพิ่มให้มีความหลากหลายของอาหารขึ้นมาหน่อย คราวนี้ทางโรงแรมก็เลยจัดเป็นพิซซ่ากับสปาเกตตี้มาให้ โดยในส่วนของสปาเกตตี้นั้นผมไม่ได้ลองชิมเลย แต่พิซซ่านั้นอร่อยดีครับ
ก็ถือว่าทางโรงแรมทำการการปรับเมนูมาได้ดีเลย รวมทั้งความหลากหลายของอาหารก็ดูน่าสนใจขึ้นครับ


หมวดที่หก สลัด, ยำ, ขนมปัง และอื่นๆ สำหรับอาหารในหมวดนี้ทางห้องอาหาร The Square ยังคงให้ความสำคัญกับพวกผักมากกว่าเพื่อน เพราะว่านอกจากจะมีบริการทั้งในส่วนของสลัดและยำที่ทำสำเร็จรูปแล้ว เค้ายังมีบริการในส่วนของผักต้มกับน้ำพริก แล้วก็ส่วนที่เปิดโอกาสให้เราได้ทำสลัดทานเองพร้อมกับน้ำสลัดต่างๆ ที่เตรียมไว้อีก 4-5 ชนิดด้วยครับ







ส่วนอาหารประเภทขนมปังและอื่นๆ นั้นจะมีให้เราเลือกทานอย่างละนิดอย่างละหน่อยครับ ตัวขนมปังผมไม่ได้ลองทานก็เลยไม่ขอออกความเห็นนะครับ ส่วนอาหารประเภทอื่นๆ นั้นก็จะมีพวกไก่ทอดแล้วก็การนำเอาแซลมอนกับทูน่ามาปรุงรส ซึ่งสองอย่างหลังผมว่ารสชาติดีนะครับ เอาไปใส่กับพวกสลัดที่เราทำเองก็เป็นการเพิ่มรสชาติได้อีกแบบนึงเลย
โดยรวมๆ แล้วอาหารในหมวดนี้ก็อย่างที่ผมบอกไปล่ะครับว่าเค้าค่อนข้างเน้นไปที่ผักพอควร แต่ในส่วนของ Cold Cuts หรือขนมปังต่างๆ ไม่ได้เน้นมากนัก ดังนั้นใครที่ชอบทานอาหารสองอย่างหลังนี้ก็ต้องชั่งใจก่อนไปกินนิดนึงนะครับ





และตอนนี้เราก็เดินทางมาถึงหมวดสุดท้าย หมวดที่เจ็ด ของหวาน, ผลไม้ และไอศกรีม กันแล้วครับ สำหรับในส่วนของหวานนั้นจะมีให้เราเลือกทานประมาณ 6-7 อย่าง โดยทางห้องอาหารจะมีการเปลี่ยนเมนูไปเรื่อยๆ ในแต่ละวัน และเค้าจะมีการเขียนชื่อเมนูของหวานในวันนั้นไว้ที่ป้ายที่อยู่บริเวณนั้นครับ ซึ่งวันที่ผมไปทานรอบนี้ก็จะประกอบไปด้วยคาราเมลคัสตาร์ด, เอกโซติคทาร์ต, มาเบิ้ลชีส, คาราเมลบราวนี่, แอพพริคอทพัฟ, ช็อคโกแลตเค้ก แล้วก็ช็อคแลตฟองดูครับ








สำหรับในส่วนของรสชาตินั้นก็มีทั้งที่ผมถูกปากบ้างไม่ถูกปากบ้างปนๆ กันไป แต่โดยรวมก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีครับ ใครได้มีโอกาสไปทานก็ลองหยิบมาชิมอย่างละชิ้นก่อน ชอบอะไรเป็นพิเศษก็ค่อยไปหยิบเพิ่มทีหลังครับ
ทั้งนี้นอกจากของหวานทั้ง 6-7 รายการที่ผมพูดถึงไปแล้ว ที่ห้องอาหาร The Square โรงแรม Novotel Bangkok on Siam Square ก็ยังมีเครปและไอศกรีมไว้บริการด้วยนะครับ โดยเราสามารถเลือกกินแค่เครปเพียวๆ ก็ได้ หรือจะกินคู่กับไอศกรีมแล้วท็อปปิ้งอย่างอื่นเสริมลงไปด้วยก็ได้ รสชาติของเครปนั้นอยู่ในเกณฑ์ที่ดี แป้งเครปอร่อยครับ
ในส่วนของไอศกรีมนั้น รอบนี้ยังมีบริการอยู่ 3 รสเช่นเดิม แต่รสชาติจะแตกต่างไปจากเดิมเล็กน้อย โดยคราวนี้ทั้ง 3 รสชาติจะประกอบไปด้วยมะพร้าว, วานิลลา และช็อคโกแลต ซึ่งรอบนี้ผมกับต๋งไม่ได้ลองชิมไอศกรีมเลยนะครับ แต่จากครั้งที่แล้วที่ผมได้ชิม ผมว่ารสชาติของไอศกรีมอยู่ในระดับกลางๆ ไม่ได้โดดเด่นอะไรมากครับ ก็เอาเป็นว่าใครอยากกินก็เดินไปตักมากินได้ แต่ถ้าใครเฉยๆ ก็ข้ามไปได้เลยครับ
ปิดท้ายกันด้วยผลไม้นะครับ วันนี้ไลน์ของผลไม้ประกอบไปด้วยฝรั่ง, แคนตาลูป, มะละกอ, สับปะรด และแตงโม ใครที่ชอบทานผลไม้ปิดท้ายมื้อก็เดินมาหยิบไปทานได้เลย ผมดูจากหน้าตาแล้วคิดว่าน่าจะโอเคอยู่ครับ
เอาล่ะ ที่ผ่านมานั้นผมได้พูดทั้งในส่วนของของคาวและของหวานของไลน์บุฟเฟ่ต์ “Festive Seafood” นี้ไปเรียบร้อยแล้ว คราวนี้ผมจะขอพูดถึงในส่วนของเครื่องดื่มซึ่งเป็นเรื่องสุดท้ายในรีวิวนี้นะครับ โดยไลน์บุฟเฟ่ต์ “Festive Seafood” นี้ จะมีการรวมเครื่องดื่ม Free Flow เอาไว้เรียบร้อยแล้ว โดยเราจะต้องบริการตัวเอง และเค้าจะมีให้เราเลือกทานทั้งน้ำอัดลม, น้ำเปล่า, ชา แล้วก็กาแฟ ใครอยากทานอะไรก็เดินไปที่โซนเครื่องดื่มแล้วเลือกกดเองได้เลยครับ
หมายเหตุ : สำหรับภาพของโซนเครื่องดื่มนี้ ผมขออนุญาตใช้ภาพเดิมจากรีวิวที่แล้วนะครับ เพราะรอบนี้ผมไม่ได้ถ่ายภาพมาเลยครับ


และทั้งหมดนี้คือประสบการณ์ของผมในการไปทานบุฟเฟ่ต์ “Festive Seafood” ของห้องอาหาร The Square (เดอะ สแควร์) ชั้น 2 โรงแรม Novotel Bangkok on Siam Square (โนโวเทล กรุงเทพ สยามสแควร์) ครับ และเพื่อให้ทุกคนได้เห็นภาพของไลน์บุฟเฟ่ต์นี้ชัดเจนขึ้น ผมเลยขอสรุปการรีวิวออกมาเป็นหัวข้อต่างๆ ดังนี้นะครับ
วันที่รับประทาน : วันอังคารที่ 20 พฤศจิกายน 2561
ช่วงเวลา : 18.00 – 21.00 น.
จำนวน : 2 คน
หมายเหตุ : วันที่ผมไปทานนั้นยังเป็นวันที่ไลน์นี้ยังไม่ได้เปิดบริการแบบบุคคลทั่วไปนะครับ แต่ผมกับเพื่อนๆ ได้มีโอกาสลองชิมก่อนครับ
รสชาติอาหาร : รสชาติอาหารส่วนใหญ่อยู่ในเกณฑ์ที่ดีครับ โดยเฉพาะในส่วนของ Seafood on ice, กุ้งแม่น้ำเผา, กั้งเผา แล้วก็อาหารญี่ปุ่น โดยความสดของอาหารส่วนใหญ่อยู่ในเกณฑ์ดี และขนาดของ Seafood หลายๆ รายการก็ถือว่าใหญ่ใช้ได้เลยครับ
ความหลากหลายของอาหาร : อย่างที่ผมเคยบอกไปว่าด้วยความที่ห้องอาหารแห่งนี้เป็นห้องอาหารที่มีขนาดไม่ใหญ่มาก ทำให้มีข้อจำกัดในเรื่องของพื้นที่ต่างๆ พอสมควร ดังนั้นในเรื่องความหลากหลายของอาหารของที่นี่จึงอาจจะไม่ได้เป็นอะไรที่โดดเด่นมาก แต่อย่างไรก็ตามทางห้องอาหารเองก็ได้เน้นในส่วนที่เค้ามีบริการอย่างเต็มที่ อย่างในส่วนของ Seafood on ice ก็จัดอาหารทะเลมาหลากหลายประเภทมาก และในส่วนของ Grilled Station ก็มีการเพิ่มเนื้อต่างๆ เข้ามานอกเหนือจากอาหารทะเลครับ ดังนั้นในเรื่องของความหลากหลายของอาหารของไลน์นี้ ผมก็เลยให้อยู่ในระดับกลางๆ และคิดว่าเพียงพอสำหรับการชวนเพื่อนๆ หรือคนกลุ่มใหญ่มาทานอยู่ครับ
ความสะอาดของร้านและบรรยากาศโดยรวม : ในเรื่องของความสะอาดของสถานที่นั้นผมให้อยู่ในเกณฑ์ที่ดีครับ สะอาดสะอ้านแล้วก็ไม่ได้เจอจุดที่น่าตำหนิแต่อย่างใด ส่วนเรื่องของบรรยากาศโดยรวมนั้นผมให้อยู่ในเกณฑ์กลางๆ นะครับ เพราะถึงแม้ทางห้องอาหารจะมีการจัดการพื้นที่ต่างๆ ได้ดี แต่ด้วยขนาดของห้องอาหารที่ไม่ใหญ่มาก ก็เลยอาจจะทำให้คนที่ไปใช้บริการอาจจะรู้สึกอึดอัดนิดนึง โดยเฉพาะวันที่มีคนมาใช้บริการจนเต็มพื้นที่หรือซักประมาณ 80% ขึ้นไปครับ
การบริการของพนักงาน : โดยรวมอยู่ในเกณฑ์ที่ดีเลยครับ เก็บจานต่างๆ ได้รวดเร็วมาก ส่วนในเรื่องของการเสิร์ฟอาหารนั้นถึงแม้วันที่ผมไปใช้บริการอาจจะมีเรื่องผิดพลาดเล็กน้อยบ้าง แต่ก็เป็นแค่ประเด็นเล็กๆ น้อยๆ ไม่ได้มีอะไรมาก และวันนั้นก็มีคนไปใช้บริการค่อนข้างเยอะก็เลยพอจะเข้าใจได้ว่ามันต้องมีข้อผิดพลาดกันบ้าง
ความสะดวกของการเดินทาง : โรงแรม Novotel Bangkok on Siam Square เป็นโรงแรมนึงที่ผมว่าหลายๆ คนน่าจะชอบทำเลมาก โดยเฉพาะคนที่ไม่มีรถส่วนตัว เพราะการที่โรงแรมตั้งอยู่ในสยามสแควร์ ห่างจากสถานีรถไฟฟ้า BTS เพียงแค่ 150 เมตร รวมทั้งยังมีรถเมล์ผ่านบริเวณนั้นหลายสาย ก็เลยทำให้คนที่ใช้รถสาธารณะเดินทางสะดวกมากครับ แต่สำหรับคนที่มีรถส่วนตัวก็อาจจะรู้สึกไม่ค่อยโอเคกับการขับรถมาที่นี่ซักเท่าไหร่โดยเฉพาะในช่วงเวลาเร่งด่วน เพราะการจราจรแถวนั้นติดขัดมากครับ แต่อย่างไรก็ตามหากเราสามารถขับรถไปถึงที่นั่นได้ เราก็ไม่ต้องกังวลในเรื่องที่จอดรถเลย เพราะทางโรงแรมเค้ามีที่จอดรถให้บริการโดยเฉพาะครับ
ความคุ้มค่า : สำหรับราคาปกติของการทานอาหารไลน์บุฟเฟ่ต์ “Festive Seafood” นั้น จะอยู่ที่ 1,620 บาท ++/คน (รวมเครื่องดื่มแล้ว) หรือคิดเป็น 1,907 บาท/คน net ซึ่งราคานี้ต้องบอกว่าเป็นราคาที่สูงมากครับ แต่ด้วยความที่ห้องอาหารได้มีการจัดโปรโมชั่นพิเศษลดราคา 40-50% เมื่อจองผ่านลิงก์ https://www.novotelbkk.com/th/festive-seafood-buffet-amazingcouples/ ก็เลยทำให้ราคาต่อคนของการไปทานอาหารในเย็นวันอาทิตย์ – วันพฤหัสบดี เหลืออยู่ที่ 954 บาท net เท่านั้น (รวมเครื่องดื่มแล้ว) ส่วนราคาสำหรับเย็นวันศุกร์และเสาร์ที่ลด 40% ก็จะเหลืออยู่ที่ 1,145 บาท/คน net (รวมเครื่องดื่มแล้ว) ซึ่งผมมองว่าราคาลด 50% ในเย็นวันอาทิตย์ – วันพฤหัสบดีนั้นเป็นอะไรที่น่าสนใจที่สุดครับ โดยเฉพาะคนที่อยากจะทานอาหารทะเลเยอะๆ เน้นขาปูอลาสก้า, King Crab, Blue Crab, หอยนางรม, กุ้งแม่น้ำ และกั้งเป็นพิเศษ
สรุป : สำหรับใครที่กำลังมองหาไลน์บุฟเฟ่ต์โรงแรมที่อยู่ใกล้สยาม หรือใกล้ BTS เดินทางไปมาสะดวก สามารถนั่งทานได้ยาวๆ และเป็นคนที่ชอบทานอาหารทะเล, อาหารญี่ปุ่นและชีสเป็นพิเศษ ไม่ได้เน้นการทาน International Foods มากนัก และสามารถไปใช้บริการในเย็นวันอาทิตย์ – วันพฤหัสได้ ไลน์บุฟเฟ่ต์ “Festive Seafood” น่าจะเป็นไลน์บุฟเฟ่ต์ที่ตอบโจทย์คุณได้ครับ รวมไปถึงใครที่อยากจะหาที่ทานอาหารในโรงแรมที่มีไก่งวงอบและมีการจัดบรรยากาศต่างๆ ให้เข้ากับช่วงคริสมาสต์และปีใหม่ ที่ห้องอาหารแห่งนี้ก็สามารถตอบโจทย์ได้เช่นเดียวกัน แต่ผมต้องบอกก่อนนะครับว่าราคาของการไปใช้บริการในวันที่มีไก่งวงนั้นจะสูงกว่าวันอื่นๆ ครับ ส่วนใครที่กำลังมองหาห้องอาหารกว้างๆ มีไลน์อาหารอลังการ มีเมนูให้เลือกทานเยอะ มีอาหารหลากหลายเชื้อชาติ แล้วก็อยากทานอาหารประเภท Cold Cuts เยอะๆ ไลน์นี้น่าจะไม่ใช่ไลน์ที่เหมาะกับคุณครับ
ก็จบลงแล้วสำหรับรีวิวนี้ ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านจนจบ และสำหรับผู้ที่ต้องการติดตามเรื่องราวการรีวิวต่างๆ ที่รวดเร็วทันใจของผมกับต๋งก็สามารถกดติดตามได้ที่เพจ “ภรรยาหา สามีใช้” ได้เลย ส่วนผู้ที่ต้องการสอบถามข้อมูลต่างๆ ของห้องอาหารแห่งนี้เพิ่มเติม ก็สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ช่องทางด้านล่างนี้ได้ครับ แล้วพบกันใหม่ในรีวิวหน้า สวัสดีครับ
Tel : 02-2098888

หมายเหตุ : บทความนี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวของเราในวันที่ลองใช้บริการเท่านั้น ทั้งนี้แต่ละท่านที่ได้มีโอกาสใช้บริการอาจจะได้รับการบริการหรือมีความคิดเห็นที่แตกต่างจากนี้ได้ครับ