สวัสดีทุกคนครับ วันนี้ผมนาย “ภรรยาหา สามีใช้” จะพาทุกคนไปรู้จักและทดลองชิมไอศกรีมโฮมเมดรสชาติดีที่ชื่อว่า Muse Homemade Ice Cream (มิวส์ โฮมเมด ไอศกรีม) ครับ โดยในปัจจุบันไอศกรีมยี่ห้อนี้จะมีการวางจำหน่ายในสวนอาหารและภัตตาคารเป็นหลัก และมีการวางจำหน่ายในห้างอย่างเช่น Gourmet Market, Tops (บางสาขา) และ Family Mart Ozone (ป้ายสีดำ) แต่สำหรับใครที่ไม่สะดวกกับการซื้อในช่องทางดังกล่าว ทาง Muse Homemade Icecream ก็ได้มีการอำนวยความสะดวกให้กับผู้บริโภคด้วยการจำหน่ายในช่องทางออนไลน์อย่าง Facebook, Line, Line Man, Grab, Honestbee และ Now ด้วยครับ โดยเค้าจะมีบริการจัดส่งถึงหน้าบ้านของแต่ละคนเลย (คิดค่าจัดส่งตามระยะทาง) ใครที่สนใจจะสั่งไปลองชิมเดี๋ยวผมจะเขียนช่องทางการติดต่อสั่งซื้อไว้ที่ด้านล่างของรีวิวนี้นะครับ

Disclosure : บทความนี้ได้รับการสนับสนุนจากผู้ให้บริการ แต่ทั้งนี้ความเห็นต่างๆ ที่เกิดขึ้นเป็นความรู้สึกจริงของผมครับ

ภาพรวมคร่าวๆ ของ Muse Homemade Ice Cream หรือที่หลังจากนี้ผมจะขอเขียนสั้นๆ ว่า Muse Ice Cream นั้น จะเป็นไอศกรีมที่เกิดจากความรักในการทำอาหารของเจ้าของ และอยากจะทำไอศกรีมอร่อยๆ คุณภาพดีให้ทุกคนได้ทานกัน โดยจุดเด่นของไอศกรีมยี่ห้อนี้ตามที่ทางแบรนด์ได้บอกไว้ก็คือ เค้าจะเป็นไอศกรีมที่เน้นคุณภาพเป็นหลัก โดยเฉพาะไอศกรีมผลไม้นั้นทุกคนที่ได้ทานจะต้องรู้สึกว่าได้ทานผลไม้จริงๆ ตามสโลแกนที่เค้าตั้งไว้ว่า Feel the extreme fruit in ice cream นอกจากนี้ในทุกรสชาติของไอศกรีมยี่ห้อนี้ เค้าจะมีการใส่เนื้อหรือ Chunk ลงไปให้เราได้เคี้ยวกันด้วย โดยรสผลไม้ก็จะเป็นการใส่เนื้อผลไม้เป็นชิ้นๆ ลงไป ส่วนรสอื่นๆ ก็จะมีพวกแมคคาเดเมีย, เฟลคช็อคแกลต, โอรีโอ เป็นต้น

หมายเหตุ : ใครที่ไม่สะดวกกับการสั่งซื้อทางออนไลน์ ก็สามารถดูรายชื่อของร้านอาหารและภัตตาคารที่ทาง Muse Icecream มีวางจำหน่ายในภาพด้านล่างนี้ได้เลยครับ มีหลายร้านอาหารทั่วกรุงเทพ รวมไปถึงในต่างจังหวัดที่เลือกนำเอาไอศกรีมยี่ห้อนี้ไปจำหน่ายในร้านครับ

สำหรับเรื่องรสชาติของไอศกรีมนั้น ในปัจจุบันนี้ทาง Muse Ice Cream จะมีอยู่ทั้งหมด 25 รสชาติด้วยกัน โดยจะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่ม Muse Premium (มิวส์ พรีเมี่ยม) จำนวน 15 รส และกลุ่ม Muse Classic (มิวส์ คลาสสิค) จำนวน 10 รส โดยไอศกรีมในกลุ่ม Muse Premium จะมีน้ำหนัก 90 กรัม/ถ้วย และจำหน่ายในราคา 55 บาท/ถ้วย ส่วนไอศกรีมในกลุ่ม Muse Classic จะมีน้ำหนัก 85 กรัม/ถ้วย และจำหน่ายในราคา 45 บาท/ถ้วยครับ

ซึ่งจากรสชาติทั้งหมด 25 รสที่ทาง Muse Ice Cream มีจำหน่าย จะเห็นว่ามีหลายๆ รสที่สะดุดตาและชวนให้ชิมมากๆ ครับ เช่น ชาเย็นเฉาก๊วย, โกปิ๊ คาราเมลนัท, มะขามหวานซ่อนเปรี้ยว, มะพร้าวกะทิซุปข้าวโพด, มะพร้าวกะทิแตงไทย, มะม่วงเปรี้ยวน้ำปลาหวาน, กระท้อน, น้อยหน่า, โอวัลตินภูเขาไฟ, แอปเปิ้ลเลมอน, ข้าวเหนียวทุเรียน, ข้าวเหนียวมะม่วง โอ้ยยยย……บอกเลยว่าเยอะแยะน่าลองไปหมด ใครที่ชอบไอศกรีมรสชาติแปลกๆ ไม่ซ้ำใครน่าจะถูกใจและอยากลองกันพอควรเลยครับ

สำหรับในการสั่ง Muse Ice Cream มาทานนั้น เราจะสามารถสั่งจำนวนกี่ถ้วยก็ได้ (ทางร้านไม่มีการกำหนดปริมาณขั้นต่ำ) ส่วนค่าจัดส่งนั้นก็จะคิดตามระยะทาง โดยทางร้านจะใส่ไอศกรีมในถุงฟอยล์ที่เก็บความเย็นพร้อมทั้งใส่น้ำแข็งแห้งในถุงมาให้เรียบร้อยตามภาพนี้ครับ

แต่ถ้าใครต้องการความสวยงาม ความคงทน และความมีระดับมากขึ้น รวมถึงต้องการส่งไปมอบเป็นของขวัญให้กับใคร ทาง Muse Ice Cream ก็มีการจำหน่ายแบบเป็นเซ็ตด้วยครับ โดยจะมีทั้ง Set S, M, L และ XL เลย เราอยากทานมากอยากทานน้อยแค่ไหนก็เลือกให้เหมาะกับแต่ละคนได้เลยครับ ทุกเซ็ตจะบรรจุในกล่องโฟมอย่างดี รวมทั้งมีสายคาดและเพคเกจที่สวยงาม ส่วนราคาแต่ละเซ็ตนั้นก็ตามภาพด้านล่างนี้เลยครับ

หมายเหตุ : ในการสั่งซื้อแบบเป็นเซ็ตนั้น เราจะสามารถคละรสชาติทั้ง Muse Premium และ Muse Classic ได้หมดเลย โดยในเรื่องของราคานั้นการซื้อแบบเป็นเซ็ตจะมีราคาต่อถ้วยที่สูงกว่า เนื่องจากทางร้านมีการคิดค่าแพคเกจรวมมาด้วยครับ

สำหรับวันนี้ทาง Muse Ice Cream ได้ส่งเซ็ตขนาด M มาให้ผมกับต๋งลองชิม ซึ่งจริงๆ แล้วในเซ็ตนี้หากเป็นการซื้อโดยทั่วไปจะต้องมีทั้งหมด 16 ถ้วยด้วยกัน แต่วันนี้ผมรับมาแค่ 12 ถ้วยพอครับ เพราะกลัวจะชิมไม่ไหว @_@

หน้าตาของกล่องไอศกรีมที่ผมได้รับมาก็ประมาณนี้ครับ กล่องใหญ่และดูดีมาก เห็นครั้งแรกก็รู้สึกประทับใจเลย เพราะทาง Muse Icecream ไม่ได้ให้มาแค่กล่องโฟมดาดๆ โดยทั่วไป แต่เค้ามีการทำแพคเกจด้านนอกอีกชั้นด้วยกระดาษอาร์ตมันที่พิมพ์ชื่อแบรนด์และภาพไอศกรีมที่สวยงามดูน่าทานครับ

นอกจากนี้เค้ายังมีการใส่สายรัดยางยืดพร้อมทั้งป้ายกระดาษที่มีข้อความเขียนไว้ว่า “ให้คุณเย็นใจ เหมือนไอติม With My Love To……… From……..” มาด้วย ดังนั้นใครที่อยากจะเขียนข้อความอะไร จากใครถึงใครก็แจ้งทางร้านไปได้เลยเดี๋ยวเค้าจะเขียนมาในการ์ดนี้ให้ครับ

ส่วนที่ด้านกล่องข้างนึงจะมีการพิมพ์จุดขายของเค้ารวมทั้งรสชาติไอศกรีมบางส่วนที่ทาง Muse Ice Cream มีจำหน่ายครับ ใครที่ไม่เคยรู้จักไอศกรีมยี่ห้อนี้มาก่อนก็จะได้รู้ข้อมูลคร่าวๆ ก่อนชิม รวมทั้งหากใครชิมแล้วติดใจอยากจะสั่งซื้อเพิ่ม เค้าก็มีช่องทางในการสั่งซื้อเขียนบอกไว้เรียบร้อยแล้ว

อ่ะ……ทีนี้เรามาดูกล่องโฟมที่อยู่ข้างในกันดีกว่า ลักษณะของกล่องโฟมที่ใส่ไอศกรีมมานั้นมีคุณภาพที่ดี ไม่บาง ไม่เปราะแตกง่าย เราสามารถเอามาเวียนใช้ซ้ำได้อีกหลายรอบเลย โดยทางร้านได้มีการติดเทปพลาสติกชนิดใสเพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่จะทำให้ฝากล่องโฟมหลุดออกมาด้วย ก็ถือว่าทางร้านมีการใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ดีครับ

พอแกะพลาสติกใสและฝากล่องโฟมออก เราก็จะเจอกับไอศกรีมทั้งหมดที่อยู่ภายในกล่องพร้อมกับน้ำแข็งแห้งที่ทางร้านใส่มาเพื่อรักษาอุณหภูมิภายในกล่อง โดยทางร้านได้มีการใส่กระดาษเคลือบพลาสติกที่มีข้อความว่า “ห้ามสัมผัสน้ำแข็งแห้งโดยตรง” มาด้วย และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจเล็กๆ น้อยๆ ของทางร้าน ซึ่งมันเป็นสิ่งที่สะท้อนต่อไปยังเรื่องของความใส่ใจในการเลือกวัตถุดิบ รวมถึงคุณภาพต่างๆ ของสินค้าด้วยครับ

สำหรับไอศกรีมทั้ง 12 รสชาติที่ผมได้มาทดลองทานก็ได้แก่

  1. ดับเบิ้ลช็อคโกแลต

  2. วานิลลาแมคคาเดเมีย

  3. กระท้อน

  4. มอคค่าอัลมอนด์ฟัดจ์

  5. สตรอเบอร์รี่ชีสเค้ก

  6. สตรอเบอร์รี่ชอร์เบต

  7. มะพร้าวน้ำหอม

  8. ข้าวเหนียวทุเรียน

  9. คุกกี้แอนด์ครีม

  10. ข้าวเหนียวมะม่วง

  11. บลูเบอร์รี่โยเกิร์ต

  12. โอวัลตินภูเขาไฟ

หน้าตาฝาของแต่ละถ้วย แต่ละรสนั้นดูดีเลยครับ หลายๆ รสนี่เห็นแล้วทำเอาน้ำลายไหลเลย

สำหรับรสที่เป็น 0% Dairy (ผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีนมเป็นส่วนผสม) และรสที่เป็น 0% Fat ทาง Muse Ice Cream จะมีการเขียนระบุชัดเจนไว้ที่ฝาด้านบนเลยครับ ใครที่กังวลเรื่องพวกนี้ก็สบายใจได้

ส่วนที่ด้านข้างของแต่ละถ้วยนั้นก็จะมีการพิมพ์ข้อมูลต่างๆ ครบถ้วน ตั้งแต่ชื่อรสชาติ, ภาพประกอบ, 0% Fat – 0% Dairy หรือไม่, ส่วนประกอบที่สำคัญ, น้ำหนัก, เลขที่ อย.,วันหมดอายุ จนไปถึงช่องทางการติดต่อ ก็เรียกว่าใครอยากรู้อะไรก็ไล่อ่านได้เลย เค้าใส่มาให้ครบแล้ว

หมายเหตุ : ไอศกรีมในกลุ่ม Muse Premium จะมีน้ำหนัก 90 กรัม/ถ้วย ส่วนไอศกรีมในกลุ่ม Muse Classic จะมีน้ำหนัก 85 กรัม/ถ้วย นะครับ

ทั้งนี้ไอศกรีมแต่ละถ้วยนั้นจะมีวันหมดอายุที่ไม่เท่ากันนะครับ แต่เราก็ไม่ต้องเป็นกังวลไปว่าจะกินไม่ทัน เพราะว่ามันสามารถเก็บไว้ได้นานมากกกกกกกกก อย่างเซ็ตของผมที่ได้มานั้นก็สามารถเก็บได้จนถึงเดือนกรกฎาคม 2563 เลยครับ ใครที่กินไม่ทันนี่ต้องพิจารณาตัวเองแล้ว ><

ไอศกรีมทุกรสชาติ ทุกถ้วยของ Muse Ice Cream นั้นจะใช้แพคเกจเหมือนกัน คือเป็นกระดาษเคลือบที่มีความทนทานต่อน้ำและความชื้น มีความแข็งแรงของบรรจุภัณฑ์อยู่ในระดับกลางๆ และมีขนาดของถ้วยที่พอดีมือครับ

และเมื่อเราแกะฝาถ้วยพลาสติกด้านบนออกก็จะพบว่าทาง Muse Ice Cream นั้นได้มีการซีลพลาสติกภายในถ้วยไว้อีกชั้นนึงด้วย และที่ใต้ฝาพลาสติกจะมีช้อนพลาสติกสีขาวมาให้เราเรียบร้อยแล้ว ความแข็งแรงของช้อนพลาสติกที่ให้มานั้นดีเลยครับ แข็งแรง ตักไอศกรีมได้ง่าย ไม่มีอาการหักหรืองอ ขนาดของช้อนก็อยู่ในเกณฑ์ที่พอดีไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป ส่วนซีลพลาสติกที่ซีลอีกชั้นด้านในนั้นก็แกะง่ายดีครับ ผมลองแกะทั้งหมด 12 ถ้วยก็ไม่พบปัญหาการขาดหรือการดึงออกยากเลย

เอาล่ะ หลังจากที่ชำแหละบรรจุภัณฑ์และพูดถึงเรื่องจุดเด่นต่างๆ ของไอศกรีมยี่ห้อนี้กันมาจนทะลุปรุโปร่งแล้ว คราวนี้เราไปพูดถึงเรื่องรสชาติของไอศกรีมทั้งหมด 12 รสชาติ ตามความรู้สึกที่ผมกับต๋งได้ชิมกันดีกว่าครับ โดยในความเห็นของเราทั้งสองคน เรารู้สึกดังนี้ครับ

  1. ดับเบิ้ลช็อคโกแลต : เข้มข้นสะใจ แต่ไม่ขม แถมมีช็อคโกแลตเฟลคให้เคี้ยวกรุบๆ ด้วย รสนี้คนชอบทานช็อคโกแลตต้องห้ามพลาดครับ

  2. วานิลลาแมคคาเดเมีย : รสชาติโดยรวมจะออกแนวหวานมัน โดยมีความมันนำแล้วมีความหวานเล็กๆ ตามมา รสนี้จะมีการผสมแมคคาดาเมียลงไปด้วยครับ รวมๆ รสนี้ผมว่าเป็นไอศกรีมรสชาติกลางๆ ที่สามารถตักทานได้เรื่อยๆ

  3. กระท้อน : เป็นรสชาติที่ยังไม่ค่อยมีใครทำซักเท่าไหร่ รสจะออกเค็มเล็กๆ ส่วนความเป็นกระท้อนนั้นผมว่ายังไม่เข้มข้นเท่าที่ควร ถ้าสามารถทำให้เข้มข้นกว่านี้ได้อีกหน่อยน่าจะถูกใจคนชอบไอศกรีมผลไม้มากขึ้นครับ

  4. มอคค่าอัลมอนด์ฟัดจ์ : ดีงาม เข้มข้นและอร่อยมาก ขนาดผมผู้ไม่ชอบกินกาแฟยังชอบทานรสนี้เลย โดยเค้าจะมีการใส่อัลมอนด์ผสมมาในไอศกรีมด้วยครับ

  5. สตรอเบอร์รี่ชีสเค้ก : อีกหนึ่งรสที่ดีงาม มีการผสมผสานความเค็มและความหวานได้อย่างลงตัว กินแล้วรู้เลยว่าเป็นสตรอเบอร์รี่ชีสเค้ก ใครที่ชอบทานเค้กชนิดนี้น่าจะถูกใจแน่ๆ

  6. สตรอเบอร์รี่ชอร์เบต : รสชาติดี อร่อยถูกปาก มีความเปรี้ยวเล็กๆ และมีเนื้อสตรอเบอร์รี่ให้เคี้ยวพอควร

  7. มะพร้าวน้ำหอม : รสนี้จะเป็นมะพร้าวกะทิครับ สำหรับผมแล้วผมให้รสชาตินี้อยู่ในระดับกลางๆ คืออร่อย แต่ยังไม่โดนใจมาก ซึ่งส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะผมไม่ค่อยชอบทานไอศกรีมมะพร้าวที่รสชาติออกแนวนี้ซักเท่าไหร่ แล้วก็ผมอาจจะมีการตั้งความหวังกับรสชาตินี้สูงเกินไปหน่อยครับ

  8. ข้าวเหนียวทุเรียน : หอม อร่อย รสชาติลงตัวมาก สามารถกินได้เรื่อยๆ กลิ่นทุเรียนไม่ได้แรงชนิดที่เปิดฝาแล้วคนที่ไม่ชอบต้องเดินหนี สำหรับรสนี้ผมว่าใครที่ชอบความหอมของทุเรียนอ่อนๆ และอยากจะทานไอศกรีมทุเรียนที่ตักทานได้เรื่อยๆ น่าจะถูกใจกันพอควรเลย เพราะขนาดผมที่ปกติไม่ค่อยทานทุเรียนยังชอบรสชาตินี้เลยครับ

  9. คุกกี้แอนด์ครีม : รสชาติตามมาตรฐานของคุกกี้แอนด์ครีมโดยทั่วไปครับ ออกหวานนิดๆ และไม่ได้มีอะไรโดดเด่นมาก

  10. ข้าวเหนียวมะม่วง : รสนี้จะมีความเป็นกะทินำ โดยตอนแรกที่เราลิ้มรสเราจะรู้สึกถึงความเป็นกะทิก่อน จากนั้นจึงจะได้ความเป็นมะม่วงตามมาอีกที รวมๆ แล้วผมให้อยู่ในระดับกลางๆ และโดยส่วนตัวผมว่ารสข้าวเหนียวทุเรียนทำออกมาได้ถูกปากผมกว่าครับ

  11. บลูเบอร์รี่โยเกิร์ต : รสนี้จะมีความเป็นโยเกิร์ตนำ ดังนั้นรสชาติก็เลยออกเปรี้ยวเล็กๆ ความอร่อยอยู่ในระดับกลางๆ และผมแอบอยากให้ทาง Muse Icecream เพิ่มความเข้มข้นของบลูเบอร์รี่มากกว่านี้อีกหน่อยครับ

  12. โอวัลตินภูเขาไฟ : อีกหนึ่งรสที่อร่อยถูกปาก โอวัลตินเข้มข้นมาก ตักเข้าปากแล้วรู้สึกว่าใช่ นี่แหละรสชาติที่เราไม่ได้กินมานาน ด้านบนของรสนี้จะมีการโรยผงโอวัลตินบางๆ ไว้ แต่ด้วยความที่มันเป็นการโรยบนหน้าไอศกรีมดังนั้นผงดังกล่าวจึงอยู่ในรูปแบบของผงเปียกๆ ชื้นๆ กลืนไปกลับเนื้อไอศกรีม ไม่ได้เป็นผงแห้งๆ แบบที่เราสามารถตักขึ้นมาทานได้ง่ายๆ ครับ

และหลังจากที่ผมได้ชิมไอศกรีมครบทั้ง 12 รสแล้ว ผมก็ขอสรุปจุดเด่นจุดด้อยของ Muse Homemade Ice Cream ออกมาดังนี้นะครับ

จุดเด่น

  1. โดยรวมๆ แล้วผมรู้สึกประทับใจในรสชาติไอศกรีมโฮมเมดยี่ห้อนี้นะครับ หลายๆ รสชาตินั้นชิมแล้วถูกปากผมกับต๋งมาก เช่น ดับเบิ้ลช็อคโกแลต, มอคค่าอัลมอนด์ฟัดจ์, สตรอเบอร์รี่ชีสเค้ก, สตรอเบอร์รี่ชอร์เบต, ข้าวเหนียวทุเรียน, โอวัลตินภูเขาไฟ

  2. สำหรับรสชาติที่ผมกับต๋งไม่ได้รู้สึกประทับใจอะไรเป็นพิเศษนั้นก็มีอยู่หลายรสเหมือนกัน แต่โดยรวมก็ยังถือว่ารสเหล่านั้นเป็นไอศกรีมที่คุณภาพดี รสชาติโอเคครับ เพียงแต่ว่ามันไม่ได้มีอะไรหวือหวาหรือโดดเด่นมากนัก ซึ่งเรื่องเหล่านี้เป็นความชอบของแต่ละคน บางคนอาจจะชอบรสเหล่านี้มากก็ได้ครับ

  3. แพคเกจต่างๆ ดูดี มีความสวยงามและแข็งแรง

  4. มีการระบุข้อมูลที่สำคัญ เช่น ชื่อ, ส่วนประกอบ, วันหมดอายุ, ข้อมูลผู้ผลิต และช่องทางการติดต่อมาให้ครบถ้วน

  5. มีช้อนใต้ฝามาให้เรียบร้อยแล้ว โดยช้อนที่ให้มานั้นคุณภาพดี มีความแข็งแรง สามารถตักไอศกรีมทานได้ง่าย

  6. มีการคิดค้นรสชาติแปลกๆ ที่น่าสนใจหลายรส (ตรงนี้ผมแอบเสียดายนิดๆ เพราะมีอีกหลายรสเลยที่ผมยังไม่ได้ลองเหมือนกัน)

  7. วัตถุดิบต่างๆ ที่ใช้ผลิตมีคุณภาพที่ดี รวมถึงมีการใส่เนื้อหรือ Chunk ลงไปในทุกรส เพื่อให้คนที่ทานได้มีการเคี้ยวด้วย

  8. ราคาต่อถ้วยเหมาะสม สามารถซื้อทานได้โดยไม่รู้สึกเสียดายเงิน (ราคา 45 บาท/ถ้วย สำหรับกลุ่ม Muse Classic และราคา 55 บาท/ถ้วย สำหรับกลุ่ม Muse Premium)

  9. มีการจัดเซ็ตที่เป็นกล่องโฟมจำหน่าย ซึ่งกล่องนี้มีความสวยงามและสามารถนำไปมอบเป็นของขวัญให้คนอื่นได้สบายๆ

  10. มีการใส่ใจรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เช่น การใส่กระดาษคำเตือนเรื่องการห้ามสัมผัสน้ำแข็งแห้งโดยตรงมาในกล่องโฟมด้วย

  11. มีบริการจัดส่งถึงบ้าน (คิดค่าใช้จ่ายตามระยะทาง)


จุดด้อย

  1. ไอศกรีมละลายค่อนข้างเร็ว เปิดแล้วต้องรีบทาน

  2. ราคาแบบเป็นเซ็ตนั้นแอบสูงไปนิดนึง เข้าใจว่าทางร้านมีต้นทุนของบรรจุภัณฑ์ที่เพิ่มมากขึ้น แต่หากทางร้านสามารถปรับราคาลดลงมาได้อีกนิด น่าจะทำให้มีคนสนใจซื้อกันมากขึ้นครับ

  3. จุดวางจำหน่ายนอกช่องทางออนไลน์ยังมีน้อยไป ทำให้หลายๆ คนอาจจะไม่สะดวกในการไปหาซื้อซักเท่าไหร่


สรุป

Muse Homemade Ice Cream (มิวส์ โฮมเมด ไอศกรีม) เป็นไอศกรีมโฮมเมดคุณภาพดีอีกยี่ห้อนึงที่ผมว่าสามารถไปสู้กับแบรนด์อื่นๆ ที่มีชื่อเสียงและเป็นบริษัทใหญ่กว่านี้ได้ครับ ภาพรวมของรสชาตินั้นดี, วัตถุดิบดี, มีเนื้อให้เคี้ยว, บรรจุภัณฑ์สวยงาม, มีรสชาติให้เลือกหลากหลาย ไม่ซ้ำกับแนวตลาด, มีบริการจัดส่งถึงบ้าน และจากผมได้ทดลองชิมในครั้งนี้ก็สามารถรับรู้ได้เลยว่าทาง Muse Homemade Ice Cream และเจ้าของแบรนด์มีความจริงใจและมีความตั้งใจทำไอศกรีมยี่ห้อนี้ออกมามากครับ ซึ่งหากเป็นไปได้ผมก็อยากให้ทางแบรนด์นี้รักษามาตรฐานไว้, คิดค้นรสชาติใหม่ๆ เพิ่ม, กระจายสินค้าออกไปให้รู้จักในตลาดมากขึ้น รวมทั้งหาวิธีที่ทำให้ไอศกรีมละลายช้ากว่านี้อีกซักนิด ก็น่าจะทำให้แบรนด์นี้เป็นที่นิยมมากขึ้นครับ

ใครที่สนใจอยากจะชิม Muse Homemade Ice Cream ก็สามารถติดต่อสั่งซื้อได้ที่ช่องทางด้านล่างดังต่อไปนี้เลยครับ โดยก่อนที่จะสั่งมาทานก็อย่าลืมสอบถามเรื่องค่าจัดส่งอะไรให้เรียบร้อยก่อนล่ะครับ จะได้ไม่เหวอหรือตกใจตอนจ่ายเงิน

Line@ : @museicecream (อย่าลืม @ ด้านหน้านะครับ)

Facebook : Muse Homemade Ice Cream

IG : museicecream

Tel : 02-628.9509, 080-2607359

ส่วนใครที่ไม่ชอบการสั่งซื้อแบบออนไลน์ก็ลองไปหาซื้อได้ที่ Gourmet Market, Tops (บางสาขา), Family Mart Ozone (ป้ายสีดำ) และร้านอาหารต่างๆ ตามภาพด้านล่างนี้นะครับ เค้ามีการวางจำหน่ายไว้หลายที่เหมือนกัน เพียงแต่ในเรื่องรสชาติของแต่ละที่นั้นอาจจะไม่ได้มีการจำหน่ายครบทุกรสชาติครับ

ก็จบลงแล้วสำหรับรีวิวนี้ครับ ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านจนจบ และหากท่านใดที่ต้องการติดตามเรื่องราวการการกินและเที่ยวของผมกับต๋งแบบใกล้ชิด ก็สามารถติดตามได้ที่แฟนเพจ “ภรรยาหา สามีใช้” ได้เลยครับ แล้วพบกันใหม่ในรีวิวหน้า สวัสดีครับ

หมายเหตุ : บทความนี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวของผมในวันที่ไปใช้บริการเท่านั้น ทั้งนี้แต่ละท่านที่ได้มีโอกาสไปใช้บริการอาจจะได้รับการบริการหรือมีความคิดเห็นที่แตกต่างจากนี้ได้ครับ