หลังจากที่ก่อนหน้านี้ผมได้พาทุกคนไปรู้จักกับสวนน้ำวานา นาวา หัวหิน (Vana Nava Hua Hin Water Jungle) มาแล้ว วันนี้ผมจะพาทุกคนไปรู้จักกับโรงแรม Holiday Inn Vana Nava Hua Hin (ฮอลิเดย์ อินน์ วานา นาวา หัวหิน) โรงแรมที่อยู่ใกล้กับสวนน้ำวานา นาวาสุดๆ และยังเป็นโรงแรมที่มีสิทธิพิเศษที่คนอยากเข้าสวนน้ำแห่งนี้ได้เห็นแล้วต้องตกใจอีกด้วย โดยจุดเด่นของโรงแรมแห่งนี้ในความเห็นของผมก็มีตามนี้เลยครับ
- เป็นโรงแรมที่มี Facilities ทุกอย่างครบครันมาก ตั้งแต่สระว่ายน้ำชั้น 26 ที่บรรยากาศดีสุดๆ, สปา, ฟิตเนส, ซาวน่า, Kids Club, ห้องอาหาร รวมไปถึงการบริการของพนักงานที่ดี พูดจาสุภาพ บริการรวดเร็ว และมีรอยยิ้มให้เสมอๆ
- เป็นโรงแรมที่พึ่งเปิดบริการเมื่อเดือนธันวาคม 2560 ดังนั้นในเรื่องความใหม่ ความสมบูรณ์ของอุปกรณ์ต่างๆ จึงอยู่ในเกณฑ์ที่ดีถึงดีมาก
- ห้องพักกว้างขวาง สะอาด บรรยากาศดี ที่นอนนุ่ม และสิ่งอำนวยความสะดวกภายในห้องเพียงพอต่อการใช้งาน
- อาหารเช้าหลากหลาย และมีคุณภาพกับรสชาติที่ดี
- มีทำเลที่ตั้งอยู่ติดกับสวนน้ำวานา นาวา หัวหิน โดยที่เราสามารถเดินจากโรงแรมไปยังสวนน้ำได้อย่างสบายๆ และหากรู้สึกเหนื่อยเมื่อไหร่ก็สามารถเดินกลับมาพักผ่อน เปิดแอร์เย็นๆ นอนเล่นที่ห้องได้อย่างชิลๆ
- ผู้ที่เข้าพักที่โรงแรมแห่งนี้สามารถเข้าสวนน้ำได้ฟรี โดยสามารถเข้าสวนน้ำได้ทุกวันตราบเท่าที่เรายังพักอยู่ที่โรงแรม รวมไปถึงสามารถใช้สิทธิ์นี้ในวันที่เราพึ่งทำการ Check in หรือวันที่เรา Check out แล้วก็ได้ โดยในกรณีที่ยังไม่ถึงเวลา Check in หรือกรณีที่เรา Check out ออกไปแล้ว แต่เรายังมีความประสงค์จะเข้าสวนน้ำในวันดังกล่าว ทางโรงแรมจะออก Ticket พิเศษมาให้เรา เพื่อให้เรานำไปแลกเป็น Wristband ของสวนน้ำซึ่งจะสามารถผ่านเข้าออกสวนน้ำในวันดังกล่าวได้ไม่จำกัดจำนวนเที่ยว
- แขกของโรงแรมจะได้รับสิทธิ์ใช้ล็อคเกอร์และผ้าเช็ดตัวในสวนน้ำฟรี โดยที่ไม่ต้องเสียเงินค่าเช่าเหมือนกับบุคคลทั่วไป ยกเว้นหากเรายังไม่ได้ Check in หรือทำการ Check out ออกมาจากโรงแรมเรียบร้อยแล้ว เราจะได้รับแค่ผ้าเช็ดตัวเท่านั้น ส่วนตู้ล็อคเกอร์จะต้องเสียเงินค่าเช่าเพิ่มที่ 150 บาท/วัน/ตู้
จองที่พัก Holiday Inn Vana Nava Hua Hin ราคาพิเศษกับ Agoda คลิก
Disclosure : บทความนี้ได้รับการสนับสนุนจากผู้ให้บริการ แต่ทั้งนี้ความเห็นต่างๆ ที่เกิดขึ้นเป็นความรู้สึกจริงของผมครับ
เป็นยังไงล่ะครับ เห็นความน่าสนใจของโรงแรมแห่งนี้แล้วใช่มั้ยครับ ยิ่งใครที่ชอบสวนน้ำนี่ผมว่าเป็นอะไรที่คุ้มค่ามากๆ เพราะจากที่ผมเคยเช็คราคาห้องพักมา ผมพบว่าห้อง Vana Nava Room ซึ่งเป็นห้องพักแบบ Standard นั้น มีราคาเพียง 4,100 บาท/คืนเท่านั้นเอง (บางคนอาจจะหาได้ถูกกว่านี้อีกนะครับ) โดยราคานี้รวมอาหารเช้าสำหรับ 2 คนเรียบร้อยแล้วด้วย เรียกว่าเป็นราคาที่คุ้มค่ามากๆ สำหรับคนที่ต้องการจะเล่นสวนน้ำ 2 วัน เพราะค่าเข้าสวนน้ำวานา นาวา หัวหิน สำหรับผู้ใหญ่ในปัจจุบันนี้อยู่ที่ 1,200 บาท/คน/วัน หากผมไปเที่ยวสวนน้ำ 2 คน 2 วัน โดยพักที่โรงแรมอื่น ผมก็ต้องจ่ายเงินค่าเข้าสวนน้ำถึง 4,800 บาท โดยที่ยังไม่รวมค่าเช่าผ้าเช็ดตัว, ล็อคเกอร์ภายในสวนน้ำ และค่าที่พักของโรงแรมนั้นอีก แต่ถ้าผมเลือกไปพักที่โรงแรม Holiday Inn Vana Nava Hua Hin ผมจะจ่ายเงินถูกกว่าค่าเข้าสวนน้ำ 2 วัน ถึง 700 บาท โดยที่ได้นอนโรงแรมดีๆ พร้อมอาหารเช้า 1 คืน ไม่ต้องเสียเงินนอนโรงแรมอื่น แถมยังได้ล็อคเกอร์กับผ้าเช็ดตัวในสวนน้ำฟรีด้วยครับ!!! บอกเลยโคตรคุ้มมมมม
มาถึงตรงนี้ทุกคนคงเริ่มเคลิ้มไปกับจุดเด่นของโรงแรมแห่งนี้กันไปพอควรแล้ว และเพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจขั้นสุดท้ายก่อนที่จะทำการจอง เรามาดูรีวิวแบบเจาะลึกกันต่อเลยครับ
โรงแรม Holiday Inn Vana Nava Hua Hin ตั้งอยู่ข้างๆ กับสวนน้ำวานา นาวา หัวหิน โดยเราสามารถดู Google Map หรือแผนที่ด้านล่างนี้ได้เลยครับ เส้นทางหลักๆ ในการมาจากกรุงเทพฯ นั้นไม่ยาก เพียงแต่อาจจะมีงงๆ นิดหน่อยบริเวณทางเข้าสวนน้ำและโรงแรม เพราะถนนในช่วงนั้นจะเป็นถนนที่มีการแบ่งเลนแบบพิเศษ ยังไงก่อนจะเลี้ยว, แซง หรือกลับรถก็ดูลูกศรที่พื้นหรือป้ายบอกทางให้ชัดเจนก่อนนะครับ โดยเมื่อเราเลี้ยวเข้ามาในเขตพื้นที่ของโรงแรมแล้ว เราก็จะเห็นวงเวียนปลาวาฬแบบนี้อยู่ที่หน้าโรงแรมอย่างชัดเจน
หากใครที่ต้องการจะดร็อปของลงก่อนก็สามารถวนรอบวงเวียนและเอาของดร็อปได้ที่หน้าโรงแรมเลยครับ แต่ถ้าใครไม่มีของอะไรมากก็ขับรถไปจอดที่ลานจอดรถได้เลย โดยลานจอดรถของที่นี่จะเป็นลานกว้างที่สามารถจอดรถได้เป็นร้อยคัน และจะมีทั้งลานจอดที่มีหลังคากับไม่มีหลังคา ใครอยากจอดตรงไหนก็เลือกจอดได้ตามใจชอบเลยครับ ผมว่าลานจอดเค้ามีเยอะมาก ดูๆ แล้วไม่น่าจะมีปัญหาเรื่องที่จอดรถไม่พอครับ
และที่ลานจอดรถนี้ มีสิ่งหนึ่งที่ผมว่าเก๋มากๆ นั่นก็คือ “สถานีชาร์จรถไฟฟ้า” ครับ ใครที่ใช้รถประเภทนี้ก็หมดห่วงเรื่องพลังงานไม่พอได้เลย เค้ามีบริการหลายช่องและมีรายละเอียดวิธีการใช้ รวมถึงราคาบอกอย่างชัดเจน
จอดรถเสร็จเรียบร้อยแล้ว คราวนี้เราย้อนกลับไปดูหน้าตาโรงแรมแบบเต็มๆ กันดีกว่า โรงแรม Holiday Inn Vana Nava Hua Hin เป็นโรงแรมขนาดใหญ่ที่มีความสูงทั้งหมด 27 ชั้น มีห้องพักทั้งหมดประมาณ 300 ห้อง และด้วยความที่โรงแรมแห่งนี้มีพื้นที่เยอะมากก็เลยทำให้เค้ามีสิ่งอำนวยความสะดวกครบถ้วนทั้งห้องประชุม, สัมมนา, จัดเลี้ยง, ห้องอาหาร, สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, ซาวน่า, Kids Club รวมไปถึงร้านทำผมกันเลยทีเดียว เรียกว่าครบเครื่องสุดๆ
และอย่างที่ผมได้บอกไปว่า โรงแรมแห่งนี้อยู่ใกล้กับสวนน้ำวานา นาวา หัวหินมาก ผมก็เลยเอาภาพมาให้ดูว่าระยะห่างจากโรงแรมถึงประตูสวนน้ำมันใกล้แค่นี้เองครับ เดินแค่ 1 นาทีก็ถึงแล้ว ><
หมายเหตุ : ประตูสวนน้ำนาวา วานา หัวหิน ที่เห็นในรูปข้างล่างนี้จะเป็นประตูพิเศษที่อยู่ใกล้กับโรงแรม โดยประตูนี้จะไม่มีจุดจำหน่ายบัตรและไม่ใช่ประตูที่คนที่มาสวนน้ำตามปกติเดินเข้ากันครับ
ส่วนนี่เป็นภาพของชั้น 1 ของโรงแรมครับ ที่ชั้นนี้จะเป็นจุดที่ไว้ดร็อปของและประสานงานกับ Bellboy เป็นหลัก ส่วนล็อบบี้ของโรงแรมนั้นจะอยู่ที่ชั้น 8 โดยเราจะต้องขึ้นลิฟท์ที่อยู่ในซอกทางซ้ายมือขึ้นไป และผมต้องขอเตือนทุกคนไว้ก่อนเลยนะครับว่าอย่าเผลอเดินขึ้นบันไดวนสวยๆ ตามภาพด้านล่างนี้นะครับ ไม่งั้นเดี๋ยวเดินขึ้นไปแล้วจะเหวอเหมือนผม T_T
สำหรับธีมการออกแบบรวมทั้งการตกแต่งของโรงแรมแห่งนี้จะมีอยู่ 2 คอนเซปหลักๆ ด้วยกันก็คือ “Fisherman Village” และ “Playcation” ดังนั้นถ้าทุกคนสังเกตดีๆ จะเห็นว่าทางโรงแรมมีการนำเอาความเป็นท้องทะเลมาผสมผสานอยู่ในจุดต่างๆ มากมาย เช่น วงเวียนที่มีปลาวาฬ, บันไดวนที่มีแรงบันดาลใจมาจากอุปกรณ์จับปลา, ผนังของโรงแรมที่มีลวดลายของคลื่นหรือเกล็ดปลา เป็นต้น โดยสิ่งต่างๆ เหล่านี้จะถูกดีไซน์ให้มีความสนุกสนานเข้ามาปนอยู่ด้วยแทบทุกชิ้นงานครับ
หลังจากที่เราขึ้นลิฟท์มาที่ชั้น 8 แล้ว เราก็จะเจอกับชั้นล็อบบี้ที่มีหน้าตาแบบนี้ครับ ดูสวยงาม โปร่ง โล่ง เก๋ สบายตา และมีที่นั่งเยอะดี
หมายเหตุ : ล็อบบี้ของโรงแรมจะอยู่ที่ชั้น 8 แต่ในการกดลิฟท์นั้นเราต้องกดไปที่ชั้น L นะครับ มันไม่มีเลข 8 ในลิฟท์ ><
หลังจากที่เราเช็คอินเสร็จแล้ว เราก็จะได้อุปกรณ์ที่มีหน้าตาแบบในรูปนี้มาครับ โดยสายรัดข้อมือหรือ Wristband สีน้ำเงินที่เราเห็นอยู่ทางซ้ายของรูปนั้นจะเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญมากในระหว่างที่เราเข้าพักที่โรงแรมแห่งนี้ เพราะ Wristband นี้จะใช้สำหรับการขึ้นลิฟท์, เปิดประตูห้อง, เข้าสวนน้ำ, เปิด-ปิดล็อคเกอร์ภายในสวนน้ำ รวมไปถึงเรายังสามารถเติมเงินเข้าไปภายใน Wristband เพื่อใช้ซื้อของต่างๆ ภายในสวนน้ำได้อีกด้วยครับ
ส่วนแผ่นพับสวยๆ ที่อยู่ใต้ Wristband นั้น จะเป็นแผ่นพับที่บอกรายละเอียดว่า Wristband นั้นสามารถทำอะไรได้บ้าง รวมไปถึงบอกเรื่องของการแต่งตัวภายในสวนน้ำนาวา วานา หัวหิน ครับ
เห็นความสำคัญของ Wristband นี้แล้ว ก็อย่าลืมใส่ติดข้อมือไว้ตลอดเวลาด้วยนะครับ และไม่ต้องเป็นห่วงไปว่ามันโดนน้ำแล้วจะพัง เพราะ Wristband นี้มีความทนทานมาก เราสามารถใส่ติดตัวได้ตลอดเวลาทั้งในระหว่างที่เราอาบน้ำรวมไปถึงการเล่นเครื่องเล่นต่างๆ ภายในสวนน้ำได้เลยครับ
เอาล่ะ คราวนี้เราไปดูห้องพักของเรากันดีกว่าครับ โดยจากข้อมูลที่ผมหามาได้นั้น โรงแรม Holiday Inn Vana Nava Hua Hin จะมีห้องพักประมาณ 300 ห้อง โดยมีขนาดตั้งแต่ 39 ตร.ม. ไปจนถึง 128 ตร.ม. และมีการแบ่งประเภทห้องพักออกเป็น Type ต่างๆ ตามนี้ครับ
- Vana Nava Room ขนาดห้อง 39 ตร.ม. โดยห้องประเภทนี้จะเป็นวิวภูเขาครับ
- Ocean View Room ขนาดห้อง 39 ตร.ม. ภายในห้องจะเหมือนกับ Vana Nava Room เลย เพียงแต่ห้องประเภทนี้จะเป็นวิวทะเลครับ
- Ocean Suite ขนาดห้อง 68 ตร.ม. ห้องนี้จะเป็นห้องมุมที่สามารถมองเห็นทั้งวิวทะเลและภูเขาได้พร้อมๆ กัน ภายในห้องจะมีการแบ่งพื้นที่เป็นห้องนั่งเล่น, ที่รับประทานอาหาร และมีอ่างอาบน้ำด้วย นอกจากนี้ห้องนี้ยังสามารถเชื่อมต่อกับห้อง Ocean View เพื่อตอบสนองการเข้าพักของครอบครัวใหญ่ หรือกลุ่มเพื่อนขนาดใหญ่ที่มาด้วยกันได้อีกด้วย
- Kids Suite ห้องสำหรับครอบครัวที่มีเตียงสองชั้นสำหรับเด็กภายในห้อง ทำให้สามารถรองรับครอบครัวที่มีเด็กเล็กๆ อายุ ไม่เกิน 15 ปี จำนวน 2 คนได้อย่างสบายๆ
- Panoramic Suite ห้องที่ว่ากันว่ามีความโรแมนติคและมีวิวที่สวยมาก สามารถชมวิวได้ถึง 180 องศาเลย
- Sky Suite ขนาดห้อง 128 ตร.ม. เป็นห้องที่อยู่ชั้นบนของโรงแรม มีพื้นที่เป็นสัดส่วน มีความเก๋และหรูมาก เช่น โต๊ะรับประทานอาหารที่สามารถดัดแปลงเป็นโต๊ะพูลได้ด้วย
สำหรับวันนี้ผมจะพาทุกคนไปรู้จักกับห้อง 1 King Bed Ocean View Room ซึ่งเป็นห้องที่ผมพักเพียงห้องเดียวนะครับ และนี่คือหน้าตาห้องของเรา สวยงาม สดใส ด้วยโทนสีน้ำเงินและส้ม แต่ก็ยังดูโปร่ง โล่ง สบายตา ด้วยการใช้เฟอร์นิเจอร์สีอ่อน รวมไปถึงการจัดวาง Lay out ห้องที่ดีครับ
ภายในห้องนอกจากจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างทีวี, ตู้เย็น, โซฟา และโต๊ะทำงานแล้ว การตกแต่งต่างๆ ก็ทำออกมาได้ดี โดยเฉพาะโคมไฟที่ผมว่าเค้าออกแบบได้เก๋มากครับ
ส่วนของปลีกย่อยอื่นๆ ภายในห้องก็มีน้ำดื่ม, กาต้มน้ำ, ชา-กาแฟ รวมไปถึงแก้วและช้อน เรียกว่าถ้าใครอยากจะกินชา-กาแฟ เพียงแค่เปิดลิ้นชักที่อยู่ด้านบนของตู้เย็นก็มีอุปกรณ์ทุกอย่างให้คุณครบถ้วนครับ
ภายในตู้เย็นนั้นจะไม่มีอะไรนอกจากกระดาษเปล่าๆ ที่เขียนว่า หากใครต้องการทานมินิบาร์ สามารถไปเลือกหยิบที่ล็อบบี้ที่ชั้น 8 ได้เลย โดยเค้าจะมีตู้ขนาดใหญ่ที่ใส่เครื่องดื่มต่างๆ เอาไว้ แต่ผมต้องบอกก่อนนะครับว่าเครื่องดื่มทุกอย่างในตู้นั้นจะมีค่าใช้จ่ายครับ
มาดูที่ตู้เสื้อผ้ากันต่อดีกว่า ภายในตู้เสื้อผ้าถือว่ามีอุปกรณ์ต่างๆ ให้เราจัดเต็มมาก ทั้งตู้เซฟ, ไฟฉาย, ที่กันยุง, เสื้อคลุมอาบน้ำ, ร่ม, รองเท้าแตะ, เตารีด, โต๊ะรีดผ้า รวมไปถึงราวตากผ้า ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วผมประทับใจในเตารีดและโต๊ะรีดผ้ามากๆ ครับ เพราะไม่ค่อยมีโรงแรมไหนที่จะจัดของแบบนี้ไว้ให้เราภายในห้อง ส่วนราวตากผ้านั้นก็เป็นอะไรที่ผมประทับเหมือนกัน เนื่องจากเป็นราวขนาดเร็ว, เบา, กางได้ง่าย ทำให้เราสามารถเลือกจะหยิบมากางใช้งานตอนไหนก็ได้ ส่วนตอนไหนที่ไม่ต้องการใช้ก็พับเก็บเข้าตู้ตามเดิม ซึ่งจะทำให้ห้องของเราดูโล่ง สบายตา และสวยงามเวลาถ่ายรูปครับ
เอาล่ะ คราวนี้เรามาดูห้องน้ำกันบ้างนะครับ ห้องน้ำของห้อง 1 King Bed Ocean View Room จะเป็นห้องน้ำแบบ Sexy Bathroom ที่เราสามารถเปิดปิดให้เห็นห้องนอนหรือไม่ก็ได้ ขนาดของห้องน้ำถือว่าใหญ่ใช้ได้ สามารถใช้งานได้อย่างสบายไม่รู้สึกอึดอัด มีการแบ่งส่วนเปียก ส่วนแห้งชัดเจน พื้นที่ภายใน Shower Box กว้าง สามารถยืดแขนขาอาบน้ำได้อย่างสบาย ไม่ต้องกลัวชนขอบ ส่วนบริเวณชักโครกก็มีการติดตั้งสายฉีดชำระมาให้เรียบร้อยครับ
แล้วก็ถ้าใครสังเกตดีๆ จะเห็นว่าที่ผนังห้องน้ำด้านนึงเค้าจะมีการตกแต่งให้มีลักษณะคล้ายๆ กับเกล็ดปลาด้วยครับ
บริเวณอ่างล่างหน้าจะมีการติดตั้งไฟส่องสว่างมาให้อย่างเพียงพอ รวมทั้งมีกระจกขนาดเล็กติดตั้งอยู่ทางด้านข้างเพื่อให้สะดวกในการใช้งานอีกด้วย
ใกล้ๆ กับอ่างล้างหน้าจะมีผ้าเช็ดตัว, ผ้าเช็ดผม, ผ้าเช็ดมือ, ไดร์เป่าผม รวมไปถึงบอดี้โลชั่น, หมวกอาบน้ำ และ Cotton Bud โดยในส่วนของผ้าต่างๆ นั้นผมว่าทางโรงแรมให้มาเยอะประเภทดีครับ ผืนเล็ก, ผืนกลาง, ผืนใหญ่ แยกใช้งานเป็นประเภทๆ เลย
ส่วนสบู่, ครีมอาบน้ำ, ยาสระผม และครีมนวดนั้น ทางโรงแรมจะวางไว้ให้เราที่บริเวณ Shower Box เรียบร้อยแล้วครับ ขนาดของแต่ละขวดถือว่าใหญ่เลย สามารถใช้ 2 คน ได้ 2-3 วันสบายๆ โดยภายใน Shower Box นี้จะมีราวตากผ้าขนาดเล็กที่แอบซ่อนอยู่ด้วยครับ หากใครต้องการจะใช้งานก็เพียงดึงหมุดจากฝั่งนึงไปเกี่ยวกับอีกฝั่งนึงเพียงเท่านั้นเอง และเดี๋ยวเราจะได้ราวตากผ้าเก๋ๆ มาไว้ตากเสื้อผ้าเปียกๆ ของเราครับ
ปิดท้ายการสำรวจห้องพักด้วยระเบียงครับ ระเบียงของห้อง 1 King Bed Ocean View Room มีขนาดใหญ่พอประมาณ โดยเราสามารถนั่งชมวิวภายนอกพร้อมกัน 2 คนได้โดยที่ไม่รู้สึกอึดอัด รวมทั้งยังมีที่สำหรับวางของรอบๆ ตัวได้อีกเล็กน้อย ส่วนในเรื่องความสูง, ความแข็งแรงและความสวยงามของราวกั้นระเบียงนั้น ผมว่าทางโรงแรมทำมาได้ดีเลย โดยทางโรงแรมเลือกจะใช้ราวกั้นที่มีความสูงกว่าราวกั้นทั่วๆ ไป และใช้กระจกเป็นส่วนประกอบหลัก ทำให้เรารู้สึกโปร่ง สบายตา สามารถมองเห็นวิวได้แบบเต็มๆ แต่ก็มีความรู้สึกปลอดภัยเวลาที่ไปยืมชมวิวใกล้ๆ กับราวกั้นครับ
และด้วยความที่โรงแรม Holiday Inn Vana Nava Hua Hin เป็นโรงแรมที่ไม่ได้มีพื้นที่ติดกับทะเล ดังนั้นวิวสำหรับห้อง Ocean View ที่เราจะมองเห็นได้ ก็จะเป็นแบบภาพด้านล่างนี้ครับ ใครที่คิดว่าวิวที่เห็นนี้ไม่ค่อยโดนใจเท่าไหร่ก็สามารถไปเลือกพักห้อง Vana Nava Room ที่เป็น Mountain View แทนก็ได้ครับ เพราะทุกอย่างในห้องจะเหมือนกับห้องผมเลย ต่างกันแค่วิวเท่านั้น ที่สำคัญเราจะสามารถประหยัดเงินในกระเป๋าไปได้ประมาณ 400 บาท/คืนเลย ^^
เอาล่ะ หลังจากชมห้องพักกันเสร็จแล้ว คราวนี้ผมจะพาทุกคนไปชม Facilities ส่วนกลางที่มีความน่าสนใจกันต่อนะครับ เริ่มจากสิ่งแรกที่ผมประทับใจมากที่สุดก่อนเลย นั่นก็คือสระว่ายน้ำ โดยสระว่ายน้ำของ Holiday Inn Vana Nava Hua Hin จะตั้งอยู่ที่ชั้น 26 ทำให้สระว่ายน้ำแห่งนี้เป็นสระที่มีวิวสวยงามมาก สามารถมองเห็นเขาตะเกียบ เขาเต่าได้อย่างชัดเจน และยิ่งเมื่อทางโรงแรมมีการออกแบบสระที่ดี โดยเฉพาะเรื่องการทำเป็นสระแบบไร้ขอบ (Infinity Edge) ก็เลยยิ่งทำให้สระแห่งนี้มีความสวยงามมากยิ่งขึ้นไปอีกครับ
.
.
บอกเลยว่าครั้งแรกที่ผมเห็นสระว่ายน้ำของที่นี่ ผมถึงกับอ้าปากค้างไปเลย มันสวยและน่าเล่นมากๆ
นอกจากความสวยงามของสระแห่งนี้แล้ว จุดเด่นที่ผมว่าหลายๆ คนน่าจะชอบเหมือนกับผมนั่นก็คือการตกแต่งที่เก๋ไก๋, ขนาดของสระที่กว้างขวางมาก, เก้าอี้ชายหาดที่มีให้เลือกนั่งเป็นจำนวนมาก ทั้งในสระว่ายน้ำ หรือในร่ม รวมไปถึงสระเด็กเล็กที่แยกตัวออกมาต่างหากและมีสไลเดอร์ขนาดย่อมให้น้องๆ หนูๆ ได้เล่นด้วย
ผมว่าหลายๆ ครอบครัวสามารถเล่นน้ำที่สระแห่งนี้ได้อย่างแฮปปี้โดยที่ไม่ต้องเข้าไปสวนน้ำยังได้เลยครับ สระมันเจ๋งจริงๆ
สำหรับสระว่ายน้ำของ Holiday Inn Vana Nava Hua Hin นั้น จะเปิดบริการตั้งแต่ 7.00 น. จนถึง 19.00 น. และบริเวณชั้นที่ 27 ซึ่งเป็นชั้นบนสุดของโรงแรมนั้น จะมี Vana Nava Sky ซึ่งเป็นห้องอาหาร, บาร์ และจุดชมวิวที่เป็นพื้นกระจกบริการอยู่ด้วย เพียงแต่ Vana Nana Sky นั้น จะเปิดให้บริการตอน 11.00 น. – 24.00 น. และในช่วงเวลาดังกล่าวผมไม่สะดวกเข้าไปชม ผมก็เลยไม่ได้ถ่ายรูปมาให้ทุกคนดูครับ T_T แต่จากที่ผมเคยเห็นรูปจากที่คนอื่นๆ เคยไปมา ผมว่ามันสวยงามและน่าไปมากๆ โดยเฉพาะช่วงที่พระอาทิตย์กำลังจะตกดิน ดังนั้นใครที่ได้มีโอกาสไปพักที่โรงแรมแห่งนี้ก็อย่าลืมแวะขึ้นไปชมความงามที่ Vana Nana Sky กันด้วยนะครับ
จากชั้น 26 คราวนี้เราจะมาที่ชั้น 6 กันครับ โดยที่ชั้นนี้จะมี Fitness Center อยู่ และเป็น Fitness ขนาดใหญ่ที่เปิดบริการตลอด 24 ชั่วโมงด้วย ใครที่ชอบออกกำลังกายและช่วงเวลาตอนกลางวันไม่สะดวกมาใช้บริการ ก็สามารถเข้ามาใช้บริการตอนกลางคืนหรือเช้ามืดได้เลยครับ เค้ามีเจ้าหน้าที่คอยดูแลตลอด 24 ชั่วโมงเลย
ในส่วนของอุปกรณ์และเครื่องเล่นต่างๆ นั้น เท่าที่ผมเดินสำรวจดูก็พบว่ามีความใหม่ สภาพต่างๆ สมบูรณ์ รวมทั้งมีจำนวนกับความหลากหลายที่ดีเลยครับ คนที่ชอบออกกำลังกายน่าจะถูกใจแน่ๆ โดยวิวที่เราสามารถมองเห็นได้จากฟิตเนสนั้นก็ดูโล่ง สบายตา และบางมุมก็สามารถมองเห็นสวนน้ำวานา นาวา หัวหิน ได้แบบชัดๆ อีกด้วย
หมายเหตุ : ภายใน Fitness Center นี้จะมีห้องน้ำและซาวน่าไว้บริการด้วยนะครับ เรียกว่าครบวงจรมากๆ ใครที่ต้องการจะใช้บริการซาวน่าก็สามารถแจ้งทางเจ้าหน้าที่ได้เลยครับ
และที่ชั้น 6 นี้ ทาง Holiday Inn Vana Nava Hua Hin ก็ยังมีสปาที่ชื่อ Tea Tree Spa รวมไปถึงร้านทำผมให้บริการด้วยนะครับ โดยเวลาเปิด-ปิดของสปาก็คือ 10.00 น. – 21.00 น. ใครที่อยากใช้บริการก็โทรไปสำรองเวลาก่อนได้เลย ^^
จากชั้น 6 ซึ่งเป็นแหล่งรวมกิจกรรมของผู้ใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นสปา, ฟิตเนส หรือร้านเสริมความงาม คราวนี้ผมจะพาทุกคนไปยังชั้น 5 ซึ่งเป็นสวรรค์ของเด็กๆ กันบ้าง โดยที่ชั้น 5 ของโรงแรม Holiday Inn Vana Nava Hua Hin จะมี Bryde’s Kids Club เปิดให้บริการอยู่ โดย Kids Club แห่งนี้จะเปิดบริการตั้งแต่ 9.00 น. จนถึง 18.00 น. และเป็น Kids Club ที่ผมว่ามีขนาดใหญ่และน่าเล่นมากๆ แห่งนึงเลย
ภายใน Bryde’s Kids Club นั้น จะแบ่งออกเป็น 2 ฝั่งด้วยกัน ฝั่งซ้ายมือจะเป็นโซนบ่อบอลและเครื่องเล่นที่มีการปีนป่ายไปมา รวมไปถึงสไลเดอร์ด้วย โซนนี้เป็นโซนที่ผมเห็นแล้วอยากจะย้อนวัยลงไปซัก 10-20 ปีเลย จะได้ไปลองเล่นกับเค้าบ้าง เห็นแล้วมันน่าสนุกจริงๆ
ส่วนฝั่งขวามือของเรานั้นจะเป็นพื้นที่โล่งๆ และเต็มไปด้วยกิจกรรมที่เสริมสร้างจินตนาการ, สมอง และทักษะต่างๆ มากกว่าการเคลื่อนไหวของร่างกาย เช่น การวาดรูประบายสี, เกมส์ Play Station, Computer และกิจกรรมสนุกๆ อีกนับสิบที่เราสามารถเล่นไปพร้อมกับลูกๆ ของเราได้
บอกเลยว่านี่เป็น Kids Club ที่ผมว่ามีความครบเครื่องทั้งขนาด, การตกแต่ง, การวางเลย์เอาท์ และกิจกรรมที่มีให้บริการเลย และผมเชื่อว่าหลายๆ ครอบครัวน่าจะถูกใจกับ Kids Club แห่งนี้ จนอาจจะเป็นปัจจัยลำดับต้นๆ ที่ทำให้เค้าตัดสินใจเลือกเข้าพักที่นี่เลยก็ได้
ดูเรื่อง Facilities และสิ่งต่างๆ ที่น่าสนใจภายในโรงแรมกันครบแล้ว คราวนี้เราไปดูเรื่องสุดท้าย “อาหารเช้า” กันดีกว่าครับ
อาหารเช้าของโรงแรม Holiday Inn Vana Nava Hua Hin จะให้บริการที่ห้องอาหารประมง (Pramong Restuarant) ที่ชั้น 7 โดยไลน์อาหารจะเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 6.30 น. จนถึง 10.00 น. และหลังจากเวลา 10.00 น. เป็นต้นไป ห้องอาหารแห่งนี้ก็จะเปลี่ยนโฉมเป็นห้องอาหารมื้ออื่นๆ ที่รองรับการมาทานอาหารของลูกค้าตลอดทั้งวัน
ลักษณะของห้องอาหาร Pramong Restaurant นั้น จะเป็นห้องอาหารที่สามารถจุคนได้ประมาณ 150-160 คน ซึ่งโดยส่วนตัวผมว่าพื้นที่ห้องอาหารแห่งนี้น้อยไปหน่อยเมื่อเทียบกับปริมาณห้องพักทั้งหมดที่โรงแรมนี้มีครับ ยิ่งในช่วงที่มีแขกมาเข้าพักเป็นจำนวนมากแบบวันที่ผมไปใช้บริการ ยิ่งทำให้การจราจรภายในห้องอาหารแห่งนี้แน่นขนัดแบบสุดๆ ชนิดที่ผมเดินเข้าไปทานอาหารตอนแรกถึงกับไม่มีโต๊ะว่างให้นั่งเลยทีเดียว T___T
และด้วยความที่มีคนมาใช้บริการห้องอาหารในช่วงนั้นเป็นจำนวนมาก ผมก็เลยไม่ค่อยได้ถ่ายภาพอาหารในไลน์มาให้ดูซักเท่าไหร่ เพราะไม่อยากจะรบกวนแขกท่านอื่นๆ ที่เข้าพัก แต่อย่างไรก็ตามจากที่ผมได้เดินสำรวจไลน์อาหารและชิมเมนูต่างๆ ในวันดังกล่าว ผมก็ขอสรุปเกี่ยวกับอาหารเช้าออกมาดังนี้ครับ
- เป็นไลน์อาหารเช้าที่มีอาหารให้เลือกทานเยอะ และมีคุณภาพที่ดี แต่ก็มีเมนูบางอย่างเหมือนกันที่ผมคิดว่าทางโรงแรมน่าจะสามารถทำได้ดีกว่านี้ เช่น ไส้กรอก
- ไลน์อาหารเช้าในวันที่ผมไปนั้นจะประกอบไปด้วยขนมจีบ, ซาลาเปา, โยเกิร์ต, นม, Egg Station, ข้าวโอ้ตต้ม, พาสต้า, เบคอน, ไส้กรอก, ถั่วอบ, มะเขือเทศย่าง, มันฝรั่งย่าง, สลัด, ขนมปัง, ชีส, ดรายบีฟ, Cold Cuts, แพนเค้ก, วาฟเฟิล, ก๋วยเตี๋ยว, ซีเรียล, คอนเฟลค, อาหารไทย 6-7 อย่าง, ขนม, ผลไม้ แล้วก็เบเกอรี่ ซึ่งอาหารบางประเภทก็มีเมนูให้เลือกทานอีกหลายอย่าง ดังนั้นโดยส่วนตัวแล้วผมก็เลยยกให้นี่เป็นไลน์อาหารเช้าที่มีความครบเครื่องที่นึงเลยครับ
- เมนูที่ผมประทับใจเป็นพิเศษก็คือ ขนมจีบ และซาลาเปา เพราะโดยส่วนใหญ่แล้วสองเมนูนี้มักไม่ค่อยเวิร์คในไลน์อาหารเช้าหลายๆ ที่ แต่ที่ Holiday Inn Vana Nava Hua Hin ผมว่าเค้าทำออกมาได้ดีเลยครับ
- เมนูอื่นๆ ที่ผมประทับใจ ได้แก่ เบเกอรี่ ที่มีความหลากหลายและรสชาติที่ดี รวมไปถึง Egg Station ที่มีประเภทของไข่ให้เลือกสั่งหลายอย่าง และมีการทำไข่ดาวแบบสุกและไม่สุกแยกออกเป็น 2 ถาดให้ลูกค้ามองเห็นได้อย่างชัดเจนและสามารถตักทานได้อย่างสะดวก จุดนี้เป็นอะไรที่ผมว่าเค้าใส่ใจในรายละเอียดได้ดีมากครับ
- เครื่องดื่มในไลน์มีให้เลือกทานเยอะดี ไม่ว่าจะเป็นชา, กาแฟ, น้ำส้ม, น้ำสับปะรด, น้ำแอปเปิ้ล, นม, นมไขมันต่ำ, นมถั่วเหลือง, โอวัลติน และชานมเย็น โดยเฉพาะ 2 อย่างหลังนี้ผมว่าหลายๆ คนน่าจะถูกใจมากครับ
และก่อนที่จะเข้าสู่บทสรุปของการรีวิวครั้งนี้ ผมขอพูดถึงอีก 2 เรื่องที่คิดว่าคนมาพักที่โรงแรมแห่งนี้น่าจะสนใจก่อนนะครับ
เรื่องที่หนึ่ง ที่โรงแรม Holiday Inn Vana Nava Hua Hin จะมีรถ Shutter Bus บริการรับส่งฟรีจากโรงแรมไปยังสถานที่ต่างๆ ภายในหัวหิน เช่น True Arena, Bluport, Clock Tower, โรงแรม Intercontinental Hua Hin โดยจะเริ่มบริการตั้งแต่ 10.00 น. ไปจนถึง 23.00 น. ใครที่สนใจจะใช้บริการก็สามาถสอบถามกับทางเจ้าหน้าที่ของโรงแรมได้เลยครับ
ส่วนเรื่องที่สอง คือการขอเข้าสวนน้ำวานา นาวา หัวหิน ก่อนที่เราจะ Check in หรือหลังที่เรา Check out เรียบร้อยแล้ว โดยหากใครมีความประสงค์จะเข้าสวนน้ำในช่วงเวลาดังกล่าว ก็สามารถแจ้งกับเจ้าหน้าที่โรงแรมที่ล็อบบี้ได้ และเดี๋ยวเค้าจะออก Ticket พิเศษแบบในรูปนี้มาให้ จากนั้นเราก็นำ Ticket นี้ไปเปลี่ยนเป็น Wristband ของสวนน้ำได้ที่ประตูทางเข้า โดยที่เราจะสามารถอยู่ในสวนน้ำได้จนถึงเวลาปิดเลย เพียงแต่ว่าตอนที่เราใช้ Ticket พิเศษนี้ เราจะไม่ได้สิทธิ์ใช้ล็อคเกอร์ภายในสวนน้ำฟรีนะครับ เราต้องเช่าเองในราคา 150 บาท/วัน/ตู้ ซึ่งโดยส่วนตัวผมก็คิดว่ามันเป็นอะไรที่คุ้มมากๆ แล้วครับกับการได้เข้าสวนน้ำฟรี 2 คน อีก 1 วันแบบนี้
และในที่สุดตอนนี้เราก็มาถึงบททุดท้ายของรีวิวฉบับนี้กันแล้ว เรามาตามไปอ่านกันในแต่ละหัวข้อกันเลยว่า ผมกับต๋งรู้สึกอย่างไรกับการได้เข้าไปพักที่โรงแรม Holiday Inn Vana Nava Hua Hin (ฮอลิเดย์ อินน์ วานา นาวา หัวหิน) ในระหว่างวันที่ 8-9 มิถุนายน 2561 ครับ
การออกแบบ : เป็นโรงแรมที่มีการออกแบบสวยงามดีครับ รูปแบบส่วนใหญ่แม้จะไม่ได้ดูหวือหวาหรือแปลกแหวกแนวมาก แต่ก็ดูดีมีสไตล์เป็นของตัวเอง โดยเฉพาะสระว่ายน้ำชั้นที่ 26 นั้นเป็นอะไรที่ผมว่าสวยงามและรู้สึกประทับใจมากๆ ส่วนการออกแบบภายในห้องก็ทำได้ดี ทั้งการเลือกใช้สี การเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ และการจัดวางเลย์เอาท์ต่างๆ นอกจากนี้หากใครเป็นคนช่างสังเกตก็จะเห็นว่าทางโรงแรมจะมีการซ่อนลวดลายหรือกิมมิคเล็กๆ น้อยๆ อยู่ตามจุดต่างๆ หลายที่เลยครับ
ความสะอาด : ข้อนี้สอบผ่านสบายๆ สะอาดสะอ้านทั้งบริเวณส่วนกลางและภายในห้องเลย
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในห้อง : มีมาให้ครบถ้วนจนเรียกว่าเกินความต้องการของคนทั่วๆ ไปเลย เช่น เตารีด, โต๊ะรีดผ้า ที่น้อยคนนักจะได้ใช้ แต่บอกเลยว่าสำหรับบางคนแล้ว 2 สิ่งนี้มีความจำเป็นมากๆ ในบางวัน ส่วนอุปกรณ์อื่นๆ ภายในห้องก็ทำได้ดี ไม่เสียชื่อโรงแรมครับ
สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง : เป็นอีกหนึ่งอย่างที่ผมต้องบอกว่าเค้ามีมาให้ครบถ้วนจริงๆ ตั้งแต่สระว่ายน้ำ, สปา, ฟิตเนส, ร้านทำผม, Kids Club, ห้องอาหาร, ห้องสัมมนา, ห้องจัดเลี้ยง เรียกว่าแขกที่เข้าพักทั้งส่วนตัว ทั้งกลุ่มใหญ่เป็นหมู่คณะน่าจะพอใจกับ Facilities ต่างๆ เหล่านี้ โดยเฉพาะสระว่ายน้ำและ Kids Club ที่โดยส่วนตัวแล้วผมยกให้เป็นทีเด็ดของที่นี่เลย
การนอนหลับพักผ่อน : สอบผ่านสบายไม่มีจุดไหนติดขัดเลยครับ แอร์เย็นสบาย เตียงนุ่ม หมอนนุ่ม ผ้าห่มดี นอนหลับสบายสุดๆ ระบบน้ำและไฟในห้องก็ทำงานได้ลื่นไหล ส่วน Wifi ก็ใช้งานได้เสถียร ไม่ค่อยหลุดครับ
การบริการของพนักงาน : บริการได้รวดเร็วและมีอัธยาศัยที่ดีมากครับ โดยเฉพาะพนักงานที่ประจำที่เคาน์เตอร์ Check In เพราะเพียงแค่เค้าเห็นแขกมาต่อแถวเพียงแค่หนึ่งถึงสองคน พนักงานที่อยู่แถวนั้นก็จะเข้ามาดูแลและพาไปช่องใหม่ทันทีครับ นอกจากนี้จากที่ผมได้มีการขอให้ทางพนักงานช่วยเหลืออยู่ 2-3 เรื่อง ตั้งแต่การจองห้องพัก, การขอใบกำกับภาษี ผมก็ได้รับการช่วยเหลือที่ดี มีการตอบสนองที่รวดเร็วรวมทั้งมีคำพูดที่สุภาพทุกครั้งครับ
อาหารเช้า : เป็นโรงแรมที่มีไลน์อาหารเช้าที่ดีมากแห่งหนึ่งเลยครับ ไลน์อาหารเยอะ คุณภาพส่วนใหญ่ดี เมนูหลากหลาย เพียงแต่จุดติอย่างเดียวของผมเกี่ยวกับไลน์อาหารของที่นี่ก็คือขนาดของห้องอาหารที่เล็กเกินไปเมื่อเทียบกับปริมาณห้องพักทั้งหมด ดังนั้นในบางช่วงเวลาอาจจะมีคนมาใช้บริการจนเต็มทุกโต๊ะได้ รวมไปถึงการเติมไลน์อาหารของพนักงานในช่วงเวลาดังกล่าวอาจจะไม่รวดเร็วทันใจเท่าไหร่ครับ
สรุป : Holiday Inn Vana Nava Hua Hin เป็นหนึ่งในโรงแรมในหัวหินที่ผมพร้อมจะบอกทุกคนอย่างเต็มปากเต็มคำว่าดี มีความครบถ้วนทั้งด้านความสวยงามของห้อง, ขนาดของห้อง, ไลน์อาหารเช้า, สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ รวมไปถึง Facilities ส่วนกลาง และอัธยาศัยของพนักงานที่ดี โดยเฉพาะคนที่มีครอบครัว มีเด็กตัวเล็กๆ หรือกลุ่มคนที่มีความต้องการจะเข้าสวนน้ำวานา นาวา หัวหิน โรงแรมแห่งนี้เหมาะสมและเป็นตัวเลือกที่ดีมากๆ ครับ เพราะแค่ทำเลที่ตั้งของโรงแรมที่อยู่ติดกับสวนน้ำ รวมทั้งสิทธิพิเศษที่ให้แขกที่เข้าพักในโรงแรมสามารถเข้าสวนน้ำได้ฟรี, ใช้ล็อคเกอร์และผ้าเช็ดตัวได้ฟรี แค่นี้ก็เรียกว่าคุ้มเกินคุ้มแล้วครับ แต่ทั้งนี้ด้วยความที่โรงแรมแห่งนี้มีทำเลที่ตั้งอยู่ใกล้กับสวนน้ำนาวา วานา ดังนั้นเราก็ต้องทำใจนิดนึงนะครับว่าโรงแรมจะไม่อยู่ติดกับทะเล ไม่มีหาดส่วนตัว รวมทั้งอยู่ไกลจากตัวเมืองหัวหินพอควร ซึ่งหากใครสามารถรับกับเงื่อนไขเหล่านี้ได้ ที่นี่จะเป็นหนึ่งในโรงแรมที่คุณเข้าพักแล้วประทับใจเลยครับ แต่หากใครมองเรื่องของชายหาดส่วนตัว หรือการอยู่ใกล้ตัวเมืองหัวหินมากๆ เป็นลำดับแรก ผมแนะนำว่าคุณควรเลือกพักที่โรงแรมอื่นแทนครับ ^^
ก็จบลงแล้วสำหรับรีวิวนี้ ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านจนจบ และสำหรับผู้ที่สนใจอยากจะอ่านรีวิวของสวนน้ำวานา นาวา หัวหิน ฉบับเต็ม ก็สามารถคลิกที่นี่ได้เลย ส่วนใครที่ต้องการสอบถามข้อมูลอื่นๆ เพิ่มเติมเกี่ยวกับโรงแรมแห่งนี้หรือจองที่พักราคาพิเศษ ก็สามารถกดเข้าไปในลิงก์ข้างล่างนี้ได้ครับ แล้วพบกันใหม่รีวิวหน้า สวัสดีครับ
Fanpage : Holiday Inn Vana Nava Hua Hin
Tel : 032-809999
จองที่พักราคาพิเศษกับ Agoda คลิกที่นี่
หมายเหตุ : บทความนี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวของผมในวันที่ไปใช้บริการเท่านั้นครับ แต่ละท่านที่ได้มีโอกาสไปใช้บริการอาจจะได้รับการบริการที่แตกต่างจากนี้