หลังจากที่บทความก่อนหน้านี้ผมได้พาทุกคนไปรู้จักกับ เมืองเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยออนเซนและบรรยากาศที่แสนสงบที่ชื่อว่าเมือง Iizakaonsen (อิอิซากะออนเซน) ในจังหวัด Fukushima (ฟุกุชิมะ) ประเทศญี่ปุ่นมาแล้ว วันนี้ผมก็เลยจะพาทุกคนไปรู้จักกับที่พักแบบเรียวกังที่น่าสนใจภายในเมืองนี้กันต่อครับ โดยที่พักที่ผมอยากจะขอแนะนำให้ทุกคนรู้จักนั้นนี้มีชื่อว่า Fukuzumi Ryokan (ฟุกุซุมิ เรียวกัง) ครับ
สำหรับจุดเด่นของที่พักแห่งนี้ในความเห็นของผมก็มีอยู่ 5 ข้อหลักๆ ตามนี้เลย
ใกล้กับสถานี Iizakaonsen Station สามารถเดินไปได้สบายๆ
ห้องพักกว้างขวางและสะอาด
พนักงานบริการดี
อาหารอร่อย
ราคาไม่แพง
Disclosure : บทความนี้ได้รับการสนับสนุนจากจังหวัดฟุกุชิมะ แต่ทั้งนี้ความเห็นต่างๆ ที่เกิดขึ้นเป็นความรู้สึกจริงของผมครับ
เป็นยังไงล่ะครับ จุดเด่น 5 ข้อนี้น่าจะถูกอกถูกใจหลายคนเลยใช่มั้ยล่ะครับ ถ้าใครรู้สึกถูกใจและมีแผนที่จะไปเที่ยวและพักค้างคืนที่เมือง Iizakaonsen ซักครั้ง ก็ตามผมไปดูรายละเอียดเต็มๆ ของที่พักแห่งนี้กันต่อได้เลย
โดยอันดับแรกผมจะพาทุกคนไปรู้จักกับสถานที่ตั้งของ Fukuzumi Ryokan กันก่อนครับ Fukuzumi Ryokan นั้นจะตั้งอยู่ห่างจากสถานี Iizakaonsen Station ประมาณ 230 เมตรเท่านั้น และการเดินทางจากสถานีไปนั้นก็ง่ายแสนง่าย เพียงแค่เราออกจากประตูสถานีมาแล้วก็เดินตรงข้ามถนนขึ้นเนินไปเรื่อยๆ โดยให้แม่น้ำอยู่ทางขวามือ แล้วเดี๋ยวเราก็จะเจอ Fukuzumi Ryokan อยู่ทางขวามือของเราเองครับ
นี่เป็นภาพของสถานี Iizakaonsen Station ครับ
พอเรามายืนอยู่ที่หน้าสถานีแล้วก็ให้เราหันหลังให้สถานีและเดินขึ้นไปตามทางในภาพด้านล่างนี้เรื่อยๆ ได้เลยครับ
ระหว่างทางเดินเราจะเห็นแม่น้ำอยู่ทางขวามือ และเห็นวิวที่หน้าตาแบบนี้ครับ
เดินต่อไปซักพัก เราก็จะเห็นตึกและป้ายแบบนี้อยู่ทางขวามือของเรา และนี่ก็คือ Fukuzumi Ryokan นั่นเองครับ บอกเลยว่าหาง่ายมาก เดินจากสถานีมาประมาณ 4-5 นาทีเท่านั้นเอง
ที่หน้าเรียวกังจะมีที่จอดรถได้นิดหน่อยครับ แต่ถ้าจอดไม่พอก็สามารถจอดฝั่งตรงข้ามได้ ดังนั้นใครที่ขับรถมาก็ไม่น่าจะต้องกังวลเรื่องของที่จอดรถมาก
พอเราเปิดประตูเรียวกังเข้าไปเราก็จะเจอกับภาพแบบนี้ครับ เป็นภาพของห้องกว้างๆ ที่มีโซฟาให้เรานั่งหลายตัว รวมทั้งมีร้านขายของเล็กๆ น้อยๆ ด้วย
และเมื่อเราหันไปทางขวามือ เราจะเจอกับเคาน์เตอร์เล็กๆ แบบนี้ครับ นี่จะเป็นเคาน์เตอร์ที่เราจะต้องใช้เช็คอิน หากตอนที่เราไปแล้วไม่เจอใครอยู่ก็สามารถส่งเสียงเรียกได้เลยครับ เดี๋ยวพนักงานของทางเรียวกังจะออกมาจากห้องข้างหลังเอง
หลังจากที่เราทำการเช็คอินเสร็จแล้ว ทางพนักงานก็จะอธิบายให้เราทราบว่าที่เรียวกังแห่งนี้จะมีทั้งหมด 7 ชั้น โดยชั้นที่เรากำลังยืนอยู่นั้นคือชั้นที่ 5
.
.
.
.
ใช่ครับ ชั้นที่ 5 ผมไม่ได้พิมพ์ผิดนะครับ เพราะด้วยโครงสร้างของเรียวกังที่ตั้งอยู่บนเนินที่ติดกับริมแม่น้ำ ก็เลยทำให้พอเราเดินเข้ามาจากทางถนนหลักเราเลยมาโผล่ที่ชั้น 5 ของเรียวกังเลย โดยทางเรียวกังนั้นได้มีการเขียนบอกเลขชั้นไว้ที่พื้นด้านหน้าของลิฟท์ทุกชั้นอย่างชัดเจนด้วย เพื่อไม่ให้คนที่เข้ามาพักสับสนในการกดลิฟท์ครับ
หลังจากนั้นทางพนักงานก็จะทำการอธิบายต่อว่าห้องอาบน้ำรวม (แยกเพศหญิง-ชาย) จะเปิดให้บริการอยู่ที่ชั้น 1 เราสามารถไปใช้บริการได้เลย ทั้งนี้หากใครที่จองห้องพักมาแบบที่ไม่ได้รวมอาหารเช้า-เย็น ทางพนักงานก็จะให้กุญแจห้องพักรวมทั้งหมายเลขการเก็บรองเท้าของเราที่บริเวณประตูด้านหน้ามาครับ และเท่านี้ก็ถือว่าเราเช็คอินเสร็จเรียบร้อยแล้ว สามารถเอาของไปเก็บที่ห้องได้เลยครับ
หมายเหตุ : ที่พักส่วนใหญ่ในประเทศญี่ปุ่นจะสามารถเช็คอินได้ตอน 15.00 น. หากเราไปถึงก่อนเวลาเราอาจจะยังไม่สามารถเช็คอินได้ ทำได้แค่ฝากกระเป๋าไว้ก่อนครับ แต่บางครั้งหากทางที่พักสามารถจัดการห้องของเราได้เรียบร้อย เค้าก็จะอนุญาตให้เราเช็คอินก่อนเวลาได้ครับ
สำหรับราคาที่พักของ Fukuzumi Ryokan ในช่วงที่ผมไปนั้นจะมีทั้งหมด 3 ราคาดังนี้ครับ
ราคาแบบที่ 1 : ราคาเฉพาะห้องพักอย่างเดียว 6,650 เยน/คน/คืน
ราคาแบบที่ 2 : ราคาห้องพักพร้อมอาหารเย็น 7,650 เยน/คน/คืน
ราคาแบบที่ 3 : ราคาห้องพักพร้อมอาหารเย็นและอาหารเช้า 8,650 เยน/คน/คืน
ทั้งนี้ราคาต่างๆ อาจจะมีความแตกต่างจากนี้ได้ครับ เพราะผมทำการจองผ่าน Agoda ไป แต่โดยรวมๆ แล้วคือหากเราต้องการทานอาหารเช้าและเย็นเพิ่มก็จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มคนละ 1,000 เยน/คน/มื้อ ซึ่งผมแนะนำนะครับว่าให้จ่ายเพิ่มไปเถอะ อย่างน้อยเฉพาะอาหารเย็นก็ดี เพราะสิ่งที่เราได้มานั้นมันคุ้มค่าและดีมาก ที่สำคัญมันยังได้บรรยากาศของการเข้าพักแบบเรียวกังสุดๆ แถมเมืองนี้ยังเป็นเมืองเล็กๆ อีกด้วย การที่เราจะไปหาร้านอาหารข้างนอกทานเองนั้นก็ค่อนข้างลำบากทั้งการเดินหาและการสื่อสารครับ ส่วนอาหารเช้านั้นหากใครที่เป็นคนที่ทานน้อยหรือไม่ค่อยชอบทานซักเท่าไหร่ก็ไม่ต้องจ่ายเพิ่มก็ได้ ไปหาซื้อขนมกรุบกริบหรือข้าวปั้นที่ Family Mart ตรงสถานี Iizakaonsen Station แทนก็ได้ครับ
นี่เป็นภาพอาหารเย็นที่เราจะได้รับครับ บอกเลยว่าคุ้มและดีมากจริงๆ
สำหรับคนที่จองห้องพักมาแบบรวมอาหารด้วยนั้น ตอนที่เราทำการเช็คอินทางพนักงานก็จะสอบถามเราว่าอยากจะให้ไปเสิร์ฟอาหารที่ห้องตอนที่โมง เราก็กะเวลาดีๆ นะครับว่าเราจะเดินเที่ยวในเมืองเสร็จตอนไหน เค้าจะได้มาเสิร์ฟตอนที่เราอยู่ห้องพอดีครับ
เอาล่ะ เมื่อนัดหมายเวลาเสิร์ฟอาหารเสร็จเรียบร้อย เราก็ได้เวลาเอาของไปเก็บที่ห้องของเรากันแล้วครับ โดยวันนี้ผมกับต๋งได้พักที่ชั้น 3 เราทั้งคู่จึงกดลิฟท์ลงมา 2 ชั้นและก็เจอกับห้องพักของเราที่ด้านซ้ายมือตามภาพนี้ครับ
สำหรับลิฟท์ของ Fukuzumi Ryokan นั้นจะมีเพียงแค่ตัวเดียวนะครับ แต่ขนาดของลิฟท์ใหญ่ใช้ได้ สามารถเอากระเป๋าขนาด 28 นิ้ว เข้าไป 2 ใบพร้อมกันได้อย่างสบายๆ รวมทั้งไม่เจอปัญหาเรื่องการต้องรอลิฟท์นานด้วยครับ
และนี่ก็คือภาพหลังจากที่ผมเปิดประตูห้องพักเข้าไปครับ เราจะเจอกับห้องเล็กๆ ที่ไว้เก็บของและวางรองเท้าก่อน
จากนั้นเราก็จะเจอกับห้องสไตล์ญี่ปุ่นที่ใหญ่เบ้อเริ่มเทิ่มแบบนี้ครับ บอกเลยว่าใหญ่มากมาย สามารถนอนกลิ้งเล่นหรือวิ่งไล่จับกันได้เลย โดยถ้าผมนับไม่ผิดขนาดของห้องเฉพาะส่วนที่เป็นห้องตรงกลางนี้จะมีขนาด 10 เสื่อครับ
ภายในห้องใหญ่นี้จะมีอุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆ ให้เราครบครันเลย ตั้งแต่โต๊ะญี่ปุ่น, โทรทัศน์, โทรศัพท์, ตู้เซฟ, แอร์, กระติกน้ำร้อน, ชุดยูกาตะ, แปรงสีฟัน, ผ้าเช็ดหน้า, ผ้าเช็ดตัว, ตู้เสื้อผ้า, ไม้แขวนเสื้อ จนไปถึงชุดชงชาแล้วก็ขนม 2 ห่อ โดยขนมและชานี้เราสามารถทานได้ฟรีเลยนะครับ
ถัดออกไปจากห้องใหญ่จะมีห้องเล็กๆ ที่มีลักษณะคล้ายระเบียงอยู่ โดยที่บริเวณนี้จะมีโต๊ะเก้าอี้เล็กๆ พร้อมทั้งตู้เย็น, ราวตากผ้าเช็ดหน้า, อ่างล้างหน้า แล้วก็ห้องน้ำอยู่
ที่บริเวณนี้ถือเป็นจุดที่ผมชอบมากที่สุดของห้องนี้เลย โดยเฉพาะช่วงเย็นๆ และเช้าๆ ที่มีแสงสาดเข้ามาอ่อนๆ มันดูสวยงามและสงบดีครับ
นี่เป็นตู้เย็นและเครื่องดื่มต่างๆ ที่ทางเรียวกังเตรียมไว้ครับ โดยของที่อยู่ในตู้เย็นนี้จะมีค่าใช้จ่ายด้วย ดังนั้นก่อนที่จะเปิดอะไรทานก็เช็คราคาดีๆ ก่อนนะครับ
ส่วนนี่เป็นห้องน้ำภายในห้องครับ จะเป็นเพียงห้องสุขาเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ความไฮเทคและอุปกรณ์ต่างๆ มีมาให้ครบครัน ตามแบบฉบับของโรงแรมและที่พักในประเทศญี่ปุ่น
และแน่นอนว่าในเรื่องของความแคบนั้นก็มีมาให้เราในมาตรฐานของที่พักในญี่ปุ่นอีกเหมือนกัน ใครที่คิดจะไปกลับตัว หมุนตัวเล่นในห้องน้ำที่นี่ต้องระวังหน่อยนะครับ ><
และถัดไปจากห้องเล็กๆ ที่เป็นเหมือนบริเวณนั่งเล่นนี้ จะมีประตูกระจกที่เราสามารถเปิดออกไปยังระเบียงด้านนอกได้ด้วย ขนาดของระเบียงนั้นไม่ได้กว้างมากนัก แต่ว่าการได้ออกไปดูวิวสวยๆ พร้อมกับสูดอากาศที่บริสุทธิ์ด้านนอกนี่มันเป็นอะไรที่ฟินมากๆ เลย ><
นี่เป็นภาพที่ผมถ่ายจากระเบียงครับ จะเห็นว่าด้านหลังห้องนั้นติดกับแม่น้ำเลย ด้านซ้ายจะมองเห็นภูเขากับใบไม้เปลี่ยนสีสวยๆ ส่วนในแม่น้ำนั้นก็มีเป็ดว่ายน้ำไปมาอยู่เป็นจำนวนมากครับ
และตอนนี้ผมก็พาทุกคนสำรวจห้องพักที่ Fukuzumi Ryokan กันแทบจะครบถ้วนแล้ว เหลือเพียงแค่เรื่องอาหารเช้า, อาหารเย็น แล้วก็อีกสองเรื่องที่หลายๆ คนต้องสงสัยแน่ๆ นั่นก็คือ เราจะไปอาบน้ำที่ไหน? แล้วก็เราจะนอนกันตรงไหน? เพราะภาพห้องที่ผ่านมา ไม่เห็นมีฟูกหรือที่นอนเลย
สำหรับเรื่องการอาบน้ำนั้น เราจะต้องไปอาบน้ำที่ห้องอาบน้ำรวมที่บริเวณชั้น 1 นะครับ โดยจะเป็นห้องอาบน้ำที่แยกหญิงชาย ภายในห้องอาบน้ำนั้นทาง Fukuzumi Ryokan เค้าจะมีอุปกรณ์ต่างๆ ให้เราครบเลยทั้งไดร์เป่าผม, ตู้ล็อคเกอร์, อ่างล้างหน้า, ครีมอาบน้ำ, ยาสระผม, เก้าอี้นวด แล้วก็น้ำดื่ม
หมายเหตุ : ในห้องอาบน้ำรวมของ Fukuzumi Raokan นั้น นอกจากจะมีบ่อใหญ่ที่อยู่ในห้อง 1 บ่อแล้ว เค้ายังมีบ่อเล็กๆ สำหรับ 1-2 คนแช่ที่บริเวณ Outdoor ด้วยนะครับ ใครที่อยากลองแช่แบบ Outdoor ก็ลองเปิดประตูออกไปนะครับ
เมื่ออาบน้ำเสร็จแล้ว คราวนี้เรามาดูเรื่องของอาหารกันดีกว่าครับ เริ่มจากอาหารเย็นกันก่อนเลย โดยทางพนักงานเค้าจะมาเสิร์ฟอาหารให้เราที่ห้องตามเวลาที่เราได้แจ้งไว้ หน้าตาอาหารจะเป็นแบบนี้ครับ บอกเลยว่าเยอะแยะอลังการมาก หลายๆ เมนูนี่อร่อยถูกปากผมสุดๆ โดยเฉพาะปลาดิบกับหม้อไฟนี่ดีมากกกก บอกเลยว่าคุ้มกับเงิน 1,000 เยนที่จ่ายไปอย่างแน่นอน
หมายเหตุ : อาหารที่เห็นในภาพด้านล่างนี้จะเป็นอาหารสำหรับ 1 คนเท่านั้น ถ้ามา 2 คนก็จะได้ทั้งหมด 2 เซ็ตครับ
ในระหว่างที่ทางพนักงานของเรียวกังจัดเตรียมอาหารบนโต๊ะให้เรา เค้าก็จะพยายามพูดคุย อธิบายบอกเราว่าอาหารแต่ละอย่างนั้นคืออะไร กินยังไงบ้าง หรือบางอย่างควรต้องรอกี่นาทีค่อยสามารถกินได้ เป็นต้น ซึ่งผมอยากจะบอกว่าพนักงานของ Fukuzumi Ryokan นั้นนิสัยน่ารักมากๆ ครับ เค้าจะพยายามสื่อสารกับเราตลอดเวลา แม้ว่าเค้าจะพูดภาษาอังกฤษไม่ได้เก่งมากก็ตาม โดยบางครั้งผมกับเค้าก็จะสื่อสารกันผ่าน Google Translate หรือไม่บางทีทางพนักงานเค้าก็จะมีการกลับไปพูดคุยกับคนที่เคาน์เตอร์รีเซฟชั่นแล้วก็จดโน้ตเป็นภาษาอังกฤษมาให้เราอ่านครับ
โอ้ยยยย ผมชอบความน่ารักและความเอาใจใส่ของเค้ามากๆ เลยครับ อย่างในภาพนี้เค้าก็กลับไปเอาโน้ตมาบอกว่าหากเราทานอาหารเสร็จแล้วก็ให้โทรไปบอกรีเซฟชั่นที่หมายเลข 11 ได้เลย เดี๋ยวจะมีพนักงานมาทำการเก็บอุปกรณ์ต่างๆ ให้
ส่วนนี่เป็นภาพอาหารอื่นๆ ที่มีในเซ็ตอาหารเย็นวันนั้นของผมครับ บอกเลยว่าเยอะและอิ่มมาก
สำหรับเมนูข้าวนี้ จะเป็นเมนูที่เราต้องรอประมาณ 20 นาทีถึงจะสามารถทานได้นะครับ โดยตอนแรกมันจะมีน้ำเยอะๆ แบบในภาพแรก และเมื่อมันสุกพร้อมทานแล้วก็จะเป็นแบบภาพที่สองครับ
เมื่ออาหารทั้งหมดพร้อมแล้ว คราวนี้ก็มาเริ่มกินกันดีกว่าคร้าบบบบบบ เยอะอย่างนี้ไม่รู้จะกินหมดหรือเปล่า ><
และหลังจากที่ผมกับต๋งนั่งทานอาหารเย็นกันไปได้ประมาณ 30 นาที พวกเราก็จัดการอาหารที่มีอยู่ตรงหน้าไปเกือบหมดครับ ผมก็เลยโทรไปแจ้งให้รีเซฟชั่นมาเก็บอุปกรณ์ต่างๆ ซึ่งหลังจากที่พนักงานเค้าได้มาเก็บอุปกรณ์ไปเรียบร้อยแล้ว เค้าจะแจ้งให้เราทราบว่าเดี๋ยวอีกซักพักจะมีคนมาจัดการปูที่นอนให้เรา
ผมนั่งรอซักพักก็มีพนักงานผู้ชายมาเคาะประตูห้อง พร้อมกับนำที่นอนกับหมอนจำนวนสองชุดมาให้ จากนั้นทางพนักงานของ Fukuzumi Ryokan ก็ทำการย้ายโต๊ะ และจัดแจงปูที่นอนจนออกมาสวยงามเหมือนกับในรูปนี้ โดยเค้าใช้เวลาจัดแจงทั้งหมดเพียงแค่ 5 นาทีเท่านั้นเองครับ เร็วมากๆ เลย @_@
เมื่อที่นอนต่างๆ ถูกจัดแจงเรียบร้อย คราวนี้ก็ถึงเวลาที่ผมกับต๋งจะเข้านอนแล้วครับ โดยสำหรับใครที่ไม่ทานอาหารเช้าก็สามารถที่จะตื่นตอนไหนก็ได้ ขอเพียงต้องเช็คเอาท์ก่อน 10.00 น. เท่านั้น แต่สำหรับใครที่ต้องรับประทานอาหารเช้าด้วย ผมแนะนำให้ตื่นก่อนเวลาที่เรานัดให้เค้ามาเสิร์ฟอาหารที่ห้องประมาณ 30 นาทีนะครับ เพราะก่อนที่จะถึงเวลาที่อาหารเช้าจะมาเสิร์ฟประมาณ 15 นาที จะมีพนักงานเข้ามาเก็บที่นอน รวมทั้งจัดแจงโต๊ะกินข้าวของเราก่อนครับ
และนี่ก็คือหน้าตาอาหารเช้าของผมกับต๋งในวันนั้นครับ ปริมาณและหน้าตาของอาหารอาจจะดูน้อยกว่าตอนเย็น แต่โดยรวมแล้วผมก็ว่ายังคุ้มค่ากับเงิน 1,000 เยนอยู่ เพราะเราจะได้สัมผัสกับการทานอาหารในห้องสไตล์ญี่ปุ่นแล้วก็นั่งชิลซึบซับกับบรรยากาศยามเช้าไปเรื่อยๆ แต่ถ้าใครดูแล้วคิดว่าไม่น่าสนใจก็จองเฉพาะอาหารเย็นหรือเฉพาะที่พักอย่างเดียวก็ได้ครับ
และทั้งหมดนี้ก็คือรายละเอียดของ Fukuzumi Ryokan ในเมือง Iizakaonsen จังหวัด Fukushima ในมุมมองของผมกับต๋ง ใครที่มีแผนจะเดินทางไปพักผ่อนที่เมืองนี้ก็ลองพิจารณาเรียวกังแห่งนี้เป็นหนึ่งในตัวเลือกได้นะครับ โดยทุกๆ ท่านสามารถตรวจสอบราคาและทำการจองที่พัก Fukuzumi Ryokan ราคาพิเศษ ผ่าน Agoda ได้ที่ลิงก์ด้านล่างนี้เลยครับ หรือถ้าไม่ชอบใจที่นี่ก็สามารถดูตัวเลือกอื่นๆ ใน Agoda ได้เช่นกันครับ
จองที่พัก Fukuzumi Ryokan ราคาพิเศษ ผ่าน Agoda คลิกที่นี่
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านจนจบครับ หวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์สำหรับทุกท่าน และสำหรับใครที่ต้องการติดตามเรื่องราวของการกินและเที่ยวของผมกับต๋งแบบใกล้ชิดก็สามารถกดติดตามได้ที่แฟนเพจ “ภรรยาหา สามีใช้” ได้เลยครับ แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้า สวัสดีครับ
หมายเหตุ : บทความนี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวของเราในวันที่ลองใช้บริการเท่านั้น ทั้งนี้แต่ละท่านที่ได้มีโอกาสใช้บริการอาจจะได้รับการบริการหรือมีความคิดเห็นที่แตกต่างจากนี้ได้ครับ