จากที่ก่อนหน้านี้ผมได้เคยเขียนรีวิวเกี่ยวกับการไปใช้บริการที่ Fitfac Muaythai Academy ตามหัวข้อรีวิวที่ชื่อว่า “Fitfac Muaythai Academy กับภารกิจลดน้ำหนักให้ Food Blogger ภายใน 20 สัปดาห์” โดยในรีวิวนั้นผมได้ทำการสรุปผลลัพธ์ที่ได้ตลอด 20 สัปดาห์ว่ารูปร่างของผมนั้นมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร น้ำหนักลดลงแค่ไหน เปอร์เซ็นไขมันในร่างกายลดลงไปมากเท่าไหร่ โดยได้ทำตารางเปรียบเทียบในแต่ละสัปดาห์อย่างชัดเจน รวมทั้งได้มีการพูดถึงจุดเด่นจุดด้อยของ Fitfac Muaythai Academy ในมุมมองผมว่าแต่ละอย่างนั้นมีอะไรบ้าง ใครที่สนใจรายละเอียดลึกๆ ของการไปใช้บริการที่นี่หรือยังไม่ได้อ่านก็ลองกดไปอ่านดูนะครับ ผมเขียนทุกอย่างที่เกี่ยวข้องไว้ละเอียดเลยแหละ ^^
Disclosure : บทความนี้ได้รับการสนับสนุนจากผู้ให้บริการ แต่ทั้งนี้ความเห็นต่างๆ ที่เกิดขึ้นเป็นความรู้สึกจริงของผมครับ
โดยหลังจากที่บทความนั้นได้เผยแพร่ออกไปก็ได้เริ่มมีคนรู้จักรอบๆ ตัวผมให้ความสนใจอยากจะไปลองใช้บริการดูบ้าง และได้มีการสอบถามผมมาว่าแต่ละสาขาของ Fitfac Muaythai Academy ในกรุงเทพนั้นเป็นอย่างไรบ้าง แตกต่างกันมั้ย และน่าไปเล่นที่สาขาไหนมากที่สุด ซึ่งผมก็บอกตามตรงครับว่าผมไม่ทราบจริงๆ เนื่องจากในตอนนั้นผมเคยไปใช้บริการที่สาขาตลิ่งชัน ซึ่งเป็นสาขาที่ใกล้บ้านผมที่สุดเพียงสาขาเดียวเท่านั้น
และเมื่อผมได้ไปลองค้นข้อมูลเก่าๆ ในอินเตอร์เนทดูก็พบว่าในอดีตมีกระทู้หรือรีวิวที่พูดถึง Fitfac Muaythai Academy บางสาขาอยู่บ้าง แต่รีวิวเหล่านั้นก็เริ่มมีอายุที่มากแล้ว ประกอบกับทาง Fitfac Muaythai Academy เองก็ได้มีการปรับปรุงสถานที่หรือเปลี่ยนแปลงสาขาที่ตั้งบางสาขาจากตอนนั้นด้วย ดังนั้นผมก็เลยคิดว่าถ้าหากผมได้มีโอกาสไปลองใช้บริการที่ Fitfac Muaythai Academy ทุกสาขาในกรุงเทพด้วยตัวเอง และมาเขียนรีวิวของแต่ละที่ผ่านมุมมองของผมก็น่าจะทำให้หลายๆ คนที่ไม่เคยไปใช้บริการที่นั้นได้เห็นภาพมากขึ้น และมีข้อมูลต่างๆ ประกอบการตัดสินใจมากขึ้นครับ เมื่อคิดได้ดังนี้แล้วมันก็เลยเกิดเป็นรีวิวซีรีย์นี้ขึ้นมา แต่ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและชัดเจนในการทำรีวิวซีรี่ย์นี้มากที่สุดผมก็เลยจะขอชี้แจงให้ทุกคนที่ได้อ่านรีวิวซีรี่ย์นี้เข้าใจตรงกันก่อนดังนี้ครับ
ในการทำรีวิวซีรี่ย์นี้ ผมจะไม่มีการรับค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้นจากทาง Fitfac Muaythai Academy โดยผมจะขอรับการสนับสนุนแพคเกจในการไปใช้บริการเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
ในการไปใช้บริการที่ Fitfac Muaythai Academy แต่ละสาขานั้น ผมจะสามารถไปใช้บริการวันไหน เวลาไหนก็ได้ โดยที่ผมไม่ต้องแจ้งให้ใครทราบล่วงหน้าทั้งนั้น เพื่อให้ข้อมูลเป็นกลางและเป็นจริงที่สุด
ถ้าเป็นไปได้ผมจะพยายามไปทดลองใช้บริการทุกสาขาของ Fitfac Muaythai Academy ที่มีอยู่ในกรุงเทพทั้งหมด (ปัจจุบัน ณ เดือนพฤษภาคม 2562 นั้น เค้ามีทั้งหมด 10 สาขาในกรุงเทพครับ) และผมจะพยายามเขียนให้แต่ละรีวิวมีรูปแบบการนำเสนอที่คล้ายๆ กัน ทุกคนจะได้เห็นภาพที่ชัดเจนและสามารถเปรียบเทียบได้ง่าย
เนื่องจากวันที่ผมไปใช้บริการส่วนใหญ่นั้นผมจะไปใช้บริการเพียงแค่คนเดียว ผมจึงไม่สะดวกในการถ่ายภาพตัวเองในอิริยาบถต่างๆ ดังนั้นในรีวิวซีรีย์นี้ผมจึงจะขอเน้นไปที่ภาพบรรยากาศและภาพรวมของแต่ละสาขามากกว่าครับ และผมคงจะไม่ได้ถ่ายภาพอะไรมากนักในแต่ละรีวิว เนื่องจากไม่อยากไปรบกวนผู้ที่มาใช้บริการคนอื่นๆ ครับ
หมายเหตุ : หลังจากนี้ผมจะขอเรียก Fitfac Muaythai Academy สั้นๆ ว่า Fitfac เท่านั้นนะครับ
เอาล่ะ เกริ่นมายาวนานแล้ว คราวนี้เรามาเข้าเรื่องกันเลยครับ สำหรับ Fitfac สาขาแรกที่ผมจะเขียนรีวิวถึงก็คือ Fitfac สาขาสาทร โดยสาเหตุที่ผมเลือกที่นี่เป็นที่แรกนั้นก็เพราะว่าที่นี่มีเทรนเนอร์หรือนักวิทยาศาสตร์การกีฬา (Sport Scientist) และครูมวยที่เคยสอนผมที่สาขาตลิ่งชันย้ายมาอยู่ถึง 3 คนด้วยกัน ดังนั้นการได้เดินทางไปใช้บริการที่นี่มันก็เหมือนกับผมได้ไปพูดคุยและเจอกับเพื่อนเก่าที่ไม่ได้เจอกันนานด้วยครับ บอกตรงๆ เลยว่าผมคิดถึงและอยากจะเจอเม้าท์มอยอะไรกับเค้าหลายอย่างเลย ^^
วันที่ไปใช้บริการ : วันอังคารที่ 14 พฤษภาคม 2562
เวลาที่ไปใช้บริการ : 14.00 น. – 16.30 น.
ที่ตั้งของสาขา
Fitfac สาทรนั้นจะตั้งอยู่ที่ชั้น B1 ของตึก Ascott สาทร ติดกับถนนสาทรใต้เลย ใครที่ขับรถมานั้นก็สามารถจอดรถภายในตึก Ascott ได้เลยครับ โดยลูกค้าของ Fitfac จะสามารถประทับตราบัตรจอดรถได้ฟรี 4 ชั่วโมง ส่วนใครที่ไม่มีรถส่วนตัวก็สามารถเดินทางมาได้หลายวิธีทั้งรถเมล์, Taxi หรือรถไฟฟ้า BTS ซึ่งผมว่าอย่างหลังสุดนี่หลายๆ คนน่าจะสะดวกที่สุดครับ
โดยใครที่เดินทางมาด้วยรถไฟฟ้า BTS นั้นจะสามารถลงได้ถึง 2 สถานีด้วยกันคือ สถานีช่องนนทรี และสถานีสุรศักดิ์ ซึ่งหากดูตาม Google Map แล้วการลงที่สถานีช่องนนทรีนั้นจะใกล้กว่าเล็กน้อยครับ (จากสถานีช่องนนทรีระยะทางประมาณ 600 เมตร, จากสถานีสุรศักดิ์ระยะทางประมาณ 800 เมตร)
ใครอยากลงที่สถานีไหนก็เลือกลงได้ตามสะดวกเลยนะครับ โดยจากที่ผมได้ลองเดินจากสถานีช่องนนทรีไป ผมใช้เวลาเดินประมาณ 6-7 นาที แต่หากใครที่เดินมาจากสถานีสุรศักดิ์นั้นก็อาจจะใช้เวลามากกว่านี้อีกหน่อยครับ แต่ถ้าใครที่ไม่อยากเดินก็สามารถนั่งรถจักรยานยนต์รับจ้างก็ได้ นั่งแป้บเดียวก็ถึงแล้ว
นี่เป็นหน้าตาของตึก Ascott สาทร ครับ ป้ายชื่อต่างๆ ตัวใหญ่เห็นชัดเจนดี ใครที่มาครั้งแรกก็น่าจะหาได้ไม่ยากซักเท่าไหร่ โดยเมื่อเรามาถึงจุดนี้แล้วเราจะเห็นป้ายสีเหลืองของ Fitfac อยู่ทางด้านขวาของป้ายชื่อตึก Ascott ว่า Fitfac สาทร จะอยู่ที่ชั้น B1 นะ ใครที่ต้องการไปก็เดินลงบันไดที่อยู่บริเวณด้านหลังชื่อตึกลงไปได้เลย
เมื่อเราเดินลงบันไดมาจนสุดเราก็จะเห็นประตูทางเข้าของ Fitfac สาทร ทันทีครับ เมื่อเห็นประตูทางเข้าแบบนี้แล้วเราก็เดินตรงเข้าไปต่อโลด มาถูกที่แล้วชัวร์ๆ
บรรยากาศภายใน
สำหรับบรรยากาศภายใน Fitfac สาทรนั้น จะเป็นลักษณะพื้นที่ชั้นเดียวที่มีพื้นที่กว้างมาก และมีการเล่นระดับเล็กน้อยบริเวณเคาน์เตอร์ที่อยู่บริเวณประตูทางเข้า ภายในตกแต่งด้วยโทนสีเหลืองดำซึ่งเป็นโทนสีหลักของ Fitfac ส่วนพื้นที่บริเวณออกกำลังกายทั้งหมดนั้นก็ถูกปูด้วยพื้นยางครับ
สภาพโดยรวมของ Fitfac สาทรนั้นถือว่าดูดีและมีความใหม่มาก ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจเลยเพราะสาขานี้พึ่งเปิดบริการอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2562 นี้เองครับ ใครที่ชอบฟิตเนสหรือสถานที่ออกกำลังกายที่มีความใหม่เอี่ยมของอุปกรณ์ น่าจะถูกใจที่นี่อย่างแน่นอน
และด้วยความที่พื้นที่ของสาขานี้นั้นค่อนข้างมีพื้นที่เยอะมาก ดังนั้นก็เลยทำให้ Fitfac สาขานี้มีเวทีมวยด้วย รวมทั้งในเรื่องของอุปกรณ์ออกกำลังกายอื่นๆ ก็มีจำนวนที่มากและมีความทันสมัยครับ โดยอุปกรณ์ออกกำลังกายหลายๆ ชิ้นนั้นผมก็พึ่งจะเคยเห็นเป็นครั้งแรกก็ที่นี่แหละ
มาดูในส่วนอื่นๆ ภายในสาขากันบ้าง เริ่มจากล็อคเกอร์ก่อนนะครับ ล็อคเกอร์ที่สาขานี้ผมว่ามีจำนวนช่องที่เยอะและขนาดแต่ละช่องใหญ่ดีครับ โดยล็อคเกอร์เหล่านี้ลูกค้าของ Fitfac ทุกคนสามารถขอใช้บริการได้ฟรีนะครับ
ข้างๆ ล็อคเกอร์จะมีที่กดน้ำดื่มทั้งร้อนและเย็น ตรงนี้ลูกค้าทุกคนก็สามารถใช้บริการได้ฟรีเหมือนกัน ใครจะไปออกกำลังกายที่นี่ก็อย่าลืมเอากระติกหรือขวดน้ำไปด้วยนะครับ
ส่วนนี่เป็นรูปภาพของนวมและผ้าพันมือที่ทาง Fitfac สาทร มีให้เรายืม อุปกรณ์แต่ละอย่างยังมีความใหม่และสีสดอยู่มากครับ โดยอุปกรณ์เหล่านี้เราก็สามารถยืมใช้บริการได้ฟรีเหมือนกัน เรียกว่าใครจะไปออกกำลังกายที่นี่ไม่ต้องลงทุนอะไรเยอะเลย ไปแต่ชุดก็สามารถเล่นได้แล้ว
มาดูในส่วนของห้องน้ำกันบ้าง ห้องอาบน้ำกับห้องสุขาของ Fitfac สาทรนั้นจะอยู่แยกกันนะครับ โดยห้องอาบน้ำจะอยู่ภายในพื้นที่ของ Fitfac สาทรเลย มีการแยกหญิงชายชัดเจนและสามารถใช้บริการได้เฉพาะลูกค้าของ Fitfac เท่านั้น คนภายนอกไม่สามารถเข้ามาใช้บริการได้ โดยลักษณะของห้องอาบน้ำชายนั้นจะเป็นลักษณะปูนเปลือยสไตล์ลอฟท์ มีทั้งหมด 3 ห้อง แต่ละห้องมีเครื่องทำน้ำอุ่น, ยาสระผม และครีมอาบน้ำให้เรียบร้อย โดยพื้นที่ภายในห้องอาบน้ำนี้เค้าจะมีล็อคเกอร์เล็กๆ, อ่างล้างหน้า แล้วก็ไดร์เป่าผมให้ด้วย ซึ่งอย่างหลังสุดนี่ถือว่าดีเลย ผู้ชายผมยาวๆ หลายคนน่าจะถูกใจมากครับ
โดยรวมๆ แล้วผมประทับใจห้องอาบน้ำที่นี่มากนะครับ กว้าง สะอาด อุปกรณ์ครบ ถือว่าสะดวกมากๆ สำหรับคนที่อยากจะมาออกกำลังกายก่อนแล้วต้องไปทำธุระอย่างอื่นต่อ อย่างวันนั้นผมก็ต้องไปทำธุระต่อที่สยาม ผมก็ได้ห้องน้ำที่นี่แหละเป็นที่ชำระร่างกายและเช็คสภาพหน้าตาตัวเองก่อนที่จะออกเดินทางต่อครับ
ส่วนใครที่ต้องการจะเข้าห้องสุขานั้น อันนี้เราจะต้องไปใช้บริการที่ห้องน้ำของตึก Ascott นะครับ แต่โชคดีมากที่ตำแหน่งของห้องน้ำนั้นอยู่ไม่ไกล แค่เราออกประตูที่อยู่ทางด้านซ้ายของล็อคเกอร์ไปประมาณ 20 เมตร เราก็ถึงเป้าหมายแล้วครับ
ห้องน้ำของตึก Ascott ที่อยู่บริเวณชั้น B1 นั้นมีการแยกชายหญิงชัดเจน แล้วก็มีหลายห้องดีครับ โดยรวมๆ ถือว่าโอเคสำหรับการใช้งานเลย
ปิดท้ายกับ Fitfac สาขานี้กันด้วยเคาน์เตอร์พนักงานที่อยู่บริเวณด้านหน้าประตูทางเข้านะครับ เคาน์เตอร์ที่สาขานี้มีขนาดใหญ่ดี มีโบรว์ชัวร์ต่างๆ ครบ ส่วนด้านหลังเคาน์เตอร์ก็มีอุปกรณ์จำหน่ายหลายอย่างทั้งนวม, กระเป๋า, ผ้าพันมือ, ขวดน้ำ ใครที่อยากจะมีอุปกรณ์เป็นของตัวเองก็สามารถมาเลือกซื้อดูได้ครับ นอกจากนี้ที่บริเวณนี้เค้ายังมีน้ำดื่มจำหน่ายด้วย ใครที่ไม่ได้เอาอุปกรณ์สำหรับกดน้ำดื่มมาเองก็สามารถมาซื้อน้ำที่บริเวณนี้ได้ครับ วันนั้นผมก็อุดหนุนเค้าไปเหมือนกัน ขวดละ 10 บาท น้ำนี่เย็นเจี๊ยบเลย ^^
และทั้งหมดนี้ก็คือภาพรวมของ Fitfac สาขาสาทรครับ และเพื่อให้ทุกคนเห็นภาพต่างๆ ที่ชัดเจนขึ้น ผมก็เลยจะขอสรุปทิ้งท้ายเล็กน้อยพร้อมทั้งให้คะแนนในแต่ละหัวข้อว่าจากที่ผมได้ไปใช้บริการที่สาขานี้มานั้น ผมรู้สึกอย่างไรบ้างครับ
ทำเลที่ตั้งและความสะดวกในการเดินทาง : ในส่วนนี้ผมให้คะแนนอยู่ที่ 9/10 แล้วกันครับ เพราะถึงแม้ว่าตึก Ascott นั้นจะอยู่ติดกับถนนสาทรใต้ สามารถสังเกตเห็นได้ชัด และลูกค้า Fitfac สาทร จะสามารถจอดรถได้ฟรีถึง 4 ชั่วโมง แต่ผมว่าสถานที่ตั้งนั้นมันอยู่ห่างจากสถานี BTS ไปหน่อยครับ คนที่ไม่มีรถส่วนตัวต้องใช้เวลาเดินพอควร ดังนั้นผมก็เลยขอหักคะแนนในส่วนนี้นิดนึงนะครับ ^^
บรรยากาศโดยรวม : ข้อนี้ผมให้ 9.5/10 เลยครับ เพราะด้วยความที่สาขาแห่งนี้พึ่งเปิดบริการได้ไม่ถึง 2 เดือน ดังนั้นในเรื่องของสีสัน, ความเรียบร้อย, ความสมบูรณ์ต่างๆ จึงอยู่ในเกณฑ์ที่ดีมาก ซึ่งจริงๆ แล้วตอนแรกผมอยากจะให้ 10/10 เลยด้วยซ้ำ แต่ด้วยความที่เค้ายังมีการเก็บรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ของสถานที่ที่ยังไม่เรียบร้อยดี ดังนั้นผมก็เลยขอหักไป 0.5 คะแนนนะครับ
ปริมาณและความสมบูรณ์ของอุปกรณ์ออกกำลังกาย : ข้อนี้ให้ 10/10 ครับ เพราะอย่างที่บอกว่าสาขานี้พึ่งเปิดได้ไม่นาน ดังนั้นอุปกรณ์ต่างๆ ในวันที่ผมไปใช้บริการนั้นมันก็เลยมีความใหม่เอี่ยมมาก นอกจากนี้อุปกรณ์ออกกำลังกายของเค้าก็มีปริมาณที่เยอะ แถมบางอย่างก็เป็นอุปกรณ์แปลกๆ ที่ผมไม่เคยเห็น ไม่เคยเล่นด้วยครับ เรียกว่าดูแล้วน่าสนใจอยากเล่นหลายอย่างมากครับ
ห้องอาบน้ำและห้องสุขา : หัวข้อนี้ผมขอพูดรวมกันเลยนะครับ โดยในส่วนของห้องอาบน้ำที่อยู่ในพื้นที่ของ Fitfac และทาง Fitfac สาทรดูแลเองนั้น ผมว่าอยู่ในระดับที่ดีเลยนะ ห้องอาบน้ำกว้าง อุปกรณ์ครบ ถือว่าโอเคมากๆ เลย โดยถ้าผมจะติดก็ติดเพียงเรื่องเดียวเท่านั้นคือทาง Fitfac สาทรนั้นใช้วิธีการกั้นประตูห้องอาบน้ำด้วยผ้า ซึ่งบางคนอาจจะไม่ชอบเพราะมันไม่มิดชิดเหมือนกับประตูครับ ส่วนในเรื่องของห้องสุขาที่ต้องไปใช้บริการที่ห้องน้ำของตึก Ascott นั้นก็อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานของห้องน้ำตามตึกสำนักงานต่างๆ ดังนั้นในหัวข้อนี้ผมเลยขอให้ที่ 9/10 คะแนนครับ
หมายเหตุ : สำหรับความเห็นและคะแนนในแต่ละหัวข้อนั้นเป็นเพียงความคิดเห็นในวันและเวลาที่ผมไปใช้บริการเท่านั้น ทั้งนี้แต่ละคนอาจจะมีความเห็นที่แตกต่างจากนี้ออกไปได้
ใครที่สนใจอยากจะไปลองใช้บริการที่ Fitfac สาขานี้ก็ลองเอาข้อมูลเหล่านี้ไปประกอบการพิจารณาดูนะครับ โดย ณ ตอนนี้ (พฤษภาคม 2562) ทาง Fitfac Muaythai Academy เองก็ได้มีการเพิ่มแพคเกจใหม่ๆ เข้ามาเพียบเลย ทั้งแพคเกจการใช้บริการเฉพาะวันศุกร์, เสาร์, อาทิตย์ หรือแพคเกจที่สามารถไปใช้บริการได้แค่เพียงบางสาขา โดยมีราคาแพคเกจเริ่มต้นในการเข้าไปใช้บริการอยู่ที่ 1,490 บาท/เดือนเท่านั้นเอง ซึ่งมันเป็นราคาที่ผมว่าย่อมเยามาก ใครที่สนใจก็ลองศึกษาหาข้อมูลและเปรียบเทียบดูนะครับว่าแพคเกจแบบไหนที่จะเหมาะสมและคุ้มค่ากับตัวเรามากที่สุด
แล้วพบกันใหม่กับรีวิวซีรี่ย์นี้ คราวหน้าผมจะไปที่สาขาไหนก็รออ่านกันได้เลยครับ ส่วนใครที่อยากจะติดต่อหรือเข้าไปหาข้อมูลเกี่ยวกับ Fitfac สาขาสาทรเพิ่มเติม ก็สามารถติดต่อตามช่องทางด้านล่างนี้ได้เลยครับ ^^
Facebook : Fitfac Muaythai – สาทร
Tel : 097-2793467
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านจนจบ และหากท่านใดที่ต้องการติดตามเรื่องราวรีวิวต่างๆ ของผมอย่างใกล้ชิด ก็สามารถกดติดตามได้ที่แฟนเพจ “ภรรยาหา สามีใช้” ได้เลยครับ แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้า สวัสดีครับ
หมายเหตุ : บทความนี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวของผมในวันที่ไปใช้บริการเท่านั้นครับ แต่ละท่านที่ได้มีโอกาสไปใช้บริการอาจจะได้รับการบริการที่แตกต่างจากนี้
