Boon Tong Kee (บุญตงกี่) ร้านนี้ถือเป็นร้านอาหารอีกหนึ่งแห่งที่หลายๆ คนชื่นชอบในรสชาติมาก โดยเฉพาะเมนูเด็ดของร้านอย่างข้าวมันไก่สิงคโปร์ที่ใครๆ ต่างก็รู้สึกประทับใจในความนุ่มและปริมาณเนื้อของมัน เรียกว่าพอตักเข้าปากคำแรกปั๊บก็รู้สึกถึงความแตกต่างจากข้าวมันไก่ทั่วๆ ไปเลย นอกจากนี้เมนูอื่นๆ ของร้านเค้าก็ถือว่ามีความน่าสนใจไม่แพ้กันครับ หลายๆ เมนูนั้นเด็ดและอร่อยถูกปากมาก ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมพอร้าน Boon Tong Kee ได้ขยับขยายมาเปิดสาขาในประเทศไทยในช่วงแรกๆ จึงทำให้มีคนไปรอต่อคิวกันที่หน้าร้านกันอย่างยาวเหยียด เพราะทุกคนต่างก็อยากลิ้มลองว่าร้านอาหารจากสิงคโปร์ร้านนี้มันเด็ดขนาดไหน ทำไมก่อนหน้านี้ถึงมีหลายคนยอมบินจากไทยเพื่อไปกินที่สิงคโปร์กันครับ!!
Disclosure : บทความนี้ได้รับการสนับสนุนจากผู้ให้บริการ แต่ทั้งนี้ความเห็นต่างๆ ที่เกิดขึ้นเป็นความรู้สึกจริงของผมครับ
และด้วยคุณภาพอาหารของร้านนี้บวกกับความสมเหตุสมผลของราคาก็เลยทำให้ร้าน Boon Tong Kee ในไทยได้รับการตอบรับที่ดีมาก จนต้องขยายสาขาเพิ่มเป็น 10 สาขา (ข้อมูล ณ เดือนมกราคม 2563) และแต่ละสาขาก็มีคนแวะไปใช้บริการเรื่อยๆ ซึ่งก็ต้องบอกตามตรงครับว่าผมกับต๋งเองก็ได้มีโอกาสไปใช้บริการอยู่บ่อยๆ วันไหนอยากกินข้าวมันไก่อร่อยๆ กับซุปร้อนๆ นี่ ร้านนี้ถือเป็นตัวเลือกต้นๆ ของผมเลยครับ
และหลังจากที่ร้าน Boon Tong Kee ในไทยได้เปิดบริการมาซักพัก ร้านเค้าก็ได้มีการจัดโปรโมชั่นพิเศษร่วมกับ Hungry Hub ขึ้นมาครับและมันเป็นโปรโมชั่นที่ผมว่าน่าสนใจมาก เพราะมันเป็นโปรโมชั่น All you can eat ที่เราสามารถสั่งอาหารแทบทุกอย่างที่มีภายในร้านมากินได้ไม่อั้นภายในเวลา 2 ชั่วโมง โดยอาหารต่างๆ นั้นจะไม่มีการจำกัดจำนวนในการสั่งใดๆ เลย แถมขนาดของจาน รสชาติ และคุณภาพต่างๆ ยังเหมือนกับอาหารที่จำหน่ายภายในร้านปกติด้วย ยิ่งไปกว่านั้นราคาที่เค้าเปิดมายังน่าสนใจมากๆ เพราะมันราคาเพียง 499 บาท/คน net สำหรับวันจันทร์ – พฤหัสบดี และ 599 บาท/คน net สำหรับวันศุกร์ – อาทิตย์ โดยรายการอาหารที่สามารถสั่งได้นั้นทุกวันจะเหมือนกันหมด และมีการรวมเครื่องดื่มเอาไว้เรียบร้อยแล้วครับ
ใครที่สนใจอยากจะทานโปรโมชั่น All you can eat ของร้าน Boon Tong Kee ก็สามารถกดเข้าไปจองตามลิงก์นี้ได้เลยครับ http://bit.ly/2EUmJZ2 เค้าจะมีสาขากับเวลาให้เลือก จองเสร็จก็จะมีเมลหรือ SMS มายืนยัน พอถึงวันเราก็ไปที่สาขานั้น แจ้งพนักงาน สั่งอาหารต่างๆ และพอทานเสร็จแล้วก็ค่อยจ่ายเงินครับ ง่ายและสะดวกสบายมากเลย ^^
สำหรับใครที่คุ้นเคยกับอาหารและคุณภาพของร้านนี้อยู่แล้วผมก็คงไม่ต้องบรรยายอะไรมากเนอะ กับราคา 499 บาท/คน net แบบนี้ ผมถือว่าคุ้มค่ามากเลยนะ ยิ่งใครที่ไปกันซัก 4-5 คนนี่ยิ่งฟิน สามารถสั่งเมนูได้หลากหลาย ทานกันได้เพลินเลย แต่สำหรับใครที่ยังลังเลอยู่เดี๋ยวตามผมไปอ่านด้านล่างนี้กันต่อนะครับ จะได้รู้ว่ามันคุ้มค่าน่าโดนแค่ไหน
โปรโมชั่น Boon Tong Kee (บุญตงกี่) All you can eat
สาขาที่มีให้บริการ : สุขุมวิท 49, ซีคอนสแควร์, สยามพารากอน, เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า, ดิอัพ พระราม 3, เซ็นทรัล เฟสติวัล อีสต์วิลล์
ราคาผู้ใหญ่ : 499 บาท/คน net สำหรับวันจันทร์ – พฤหัสบดี และ 599 บาท/คน net สำหรับวันศุกร์ – อาทิตย์
ราคาเด็ก : สูงระหว่าง 101 – 130 ซม. คิดราคา 50%, สูงระหว่าง 80 – 100 ซม. คิดราคา 99 บาท/คน net และเด็กที่ความสูงต่ำกว่า 80 ซม. ไม่คิดค่าบริการ
ลิงก์จองโปรโมชั่น : http://bit.ly/2EUmJZ2
หมายเหตุ : สาขาที่มีให้บริการ All you can eat นั้นอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงได้ แนะนำให้กดเข้าไปตรวจสอบที่ลิงก์อีกครั้งก่อนทำการจองครับ
สำหรับตัวผมเองนั้นบ้านอยู่ใกล้ๆ เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า ดังนั้นผมก็เลยเลือกไปใช้บริการที่สาขานี้ครับ แต่ถ้าใครไม่สะดวกก็สามารถเลือกไปสาขาอื่นได้นะ เค้ามีอีก 5-6 สาขาให้เลือกเลย
บรรยากาศของร้าน Boon Tong Kee เซ็นทรัล ปิ่นเกล้านั้นถือว่าโล่ง โปร่ง นั่งสบายดีครับ ตัวร้านจะอยู่ที่ชั้น G แล้วก็สามารถรองรับคนไปใช้บริการ 50-60 คนได้อย่างสบายๆ
ส่วนนี่เป็นระเบียบในการทาน All you can eat ของที่นี่ครับ ยังไงก็ลองอ่านกันให้ครบถ้วนก่อนสั่งอาหารนะ เพราะหากใครทานไม่หมดจะต้องชำระค่าอาหารจานนั้นๆ ด้วย แต่ทางร้านเค้าก็จะทำการแพ็คอาหารใส่ถุงให้เราถือกลับบ้านได้เหมือนกันครับ ^^
และนี่เป็นรายการอาหารทั้งหมดที่เราสามารถสั่งได้จากโปรโมชั่น All you can eat ของร้าน Boon Tong Kee โดยจากที่ผมลองเทียบเมนูนี้กับเมนูเล่มปกติที่ทางร้านเค้ามีการจำหน่ายให้กับลูกค้าทั่วๆ ไป ก็พบว่าเมนูใน All you can eat นี้แทบจะครอบคลุมทุกเมนูของร้านเค้าเลยครับ โดยรายการอาหารที่เราสามารถสั่งได้นั้นน่าจะประมาณ 90% ของเมนูปกติที่เค้ามีเลย แถมพวกเมนูเด็ดต่างๆ ก็มาครบเลย
ส่วนเครื่องดื่มที่เค้ามีให้บริการใน All you can eat นั้นจะเป็นเก๊กฮวยและชาจีนครับ สามารถเติมได้เรื่อยๆ โดยเราสามารถสั่งได้ทั้งร้อนและเย็นเลย ซึ่งวันนี้ผมกับต๋งลองเป็นเก๊กฮวยเย็นครับ อร่อยดีนะ แต่ถ้าใครไม่ชอบทานหวานอาจจะรู้สึกว่าหวานไปนิดนึงครับ
มาดูอาหารที่ผมกับต๋งสั่งมาทานกันบ้าง ใครที่คิดว่าไม่ใช่สายแข็งไม่ควรสั่งมาเยอะนะครับ สั่งมาเท่าที่คิดว่าจะทานสบายๆ ก่อนดีกว่า หากหมดแล้วหรือไม่อิ่มค่อยสั่งเพิ่มทีหลัง หรือถ้าจะให้ดีควรชวนเพื่อนหรือครอบครัวมาทานเป็นก๊วนซัก 4-5 คนจะดีกว่า มันจะได้ทานสนุก อาหารหลากหลาย ได้นั่งกินนั่งเมาท์เพลินๆ ด้วย
-
ไก่ต้นตำรับบุญตงกี่ Size M
-
ไก่ทอดหนังกรอบบุญตงกี่ Size M
-
แฮกึ๊น
-
ปาท่องโก๋ทอดยัดไส้ ทอดกรอบ
-
เต้าหู้ทอดสูตรบุญตงกี่
-
เต้าหู้ทอดราดซอสสไตล์ไทย
-
ข้าวมัน
-
ข้าวผัดกุ้ง
-
ซุปกระเพาะปลาเนื้อปู
-
หมูกรอบสูตรบุญตงกี่
-
ซี่โครงหมู อิมพีเรียล
-
เคาหยก
-
ถั่วแขกผัดหมูสับ
-
คะน้าฮ่องกงผัดกระเทียม
-
สลัดกุ้งทอด
-
เผือกกวนกับฟักทองแปะก๊วย
-
บัวลอยแห้ง
มาไล่เมนูกันเลยนะครับ เริ่มจาก “ไก่ต้นตำรับบุญตงกี่” เมนูนี้จะมีให้เราเลือกว่าจะเอา Size S หรือ M โดย Size S จะได้ไก่ ¼ ตัว ส่วน Size M จะได้ไก่ครึ่งตัว ใครที่มากันน้อยๆ ผมแนะนำว่าให้สั่ง Size S ก่อนครับ ทานหมดแล้วค่อยสั่งเพิ่ม ส่วนใครมากัน 4-5 คนก็จัด Size M มาได้เลย ขนาดของจาน Size M นั้นถือว่าใหญ่มาก ไก่เน้นๆ แบบพูนจานเลย ส่วนรสชาติไม่ต้องบรรยายเยอะ ไก่นุ่มและเนื้อชิ้นหนามาก รสชาติดี สมแล้วที่เป็นเมนูเด่นของร้านครับ
ในภาพที่ผมถ่ายมานี้จะเป็นขนาด M นะครับ ส่วนในการทานนั้นเราสามารถเลือกทานกับน้ำจิ้มได้หลายแบบเลย แบบที่เป็นน้ำจิ้มดำก็มี ใครอยากทานแบบไหนก็จัดไป หรือถ้าใครไม่อยากทานไก่เปล่าๆ ก็สามารถสั่งข้าวมันมาทานคู่ด้วยก็ได้ครับ
“ไก่ทอดหนังกรอบบุญตงกี่” เมนูนี้จะมีขนาดเดียวนะครับคือ Size M ขนาดไก่ครึ่งตัวเหมือนกับจานเมื่อกี้ แต่เวลาที่พนักงานยกมาเสิร์ฟนั้นเราจะรู้สึกว่าปริมาณเนื้อไก่จะน้อยกว่าไก่ต้นตำรับจานแรกอยู่พอควร เพราะด้วยกรรมวิธีการปรุงที่แตกต่างกันมันก็เลยทำให้ขนาดของไก่ดูไม่เท่ากันครับ ส่วนในเรื่องรสชาตินั้นผมว่าอยู่ในระดับกลางๆ ค่อนไปทางดี แต่ถ้าให้เลือกผมว่าไก่ต้นตำรับจานแรกเด็ดดวงกว่าเยอะครับ
อ้อ สำหรับเมนูนี้เค้าจะใช้เวลาในการปรุงนานนิดนึงนะครับ ประมาณ 20-30 นาที แล้วก็เค้าจะมีการเสิร์ฟมันฝรั่งแผ่นทอดกรอบและมะนาวมาคู่ด้วย ทานด้วยกันแล้วก็เพลินดีครับ
“แฮกึ๊น” เมนูนี้หนึ่งจานจะมี 4 ลูกนะครับ แต่ละลูกขนาดโตใช้ได้และสำหรับสาวๆ นั้นอาจจะรู้สึกว่าขนาดของมันโตเกินไปจนจะต้องแบ่งครึ่งทาน ส่วนไส้ของแฮกึ๊นทางร้านเค้าก็จัดมาให้แบบเต็มที่เลยทั้งกุ้งและมันหมู ทานคู่กับน้ำจิ้มบ๊วยแล้วลงตัวดีครับ
“ปาท่องโก๋ทอดยัดไส้ ทอดกรอบ” เมนูนี้เป็นหนึ่งในเมนูที่ค่อนข้างแปลกครับ ไม่เคยเจอที่ไหนมาก่อน หน้าตาโดยรวมตอนที่ยกมาเสิร์ฟนั้นดูไม่เหมือนกับปาท่องโก๋ที่เราคุ้นเคยกัน ส่วนรสชาตินั้นโดยรวมถือว่ามีความคล้ายคลึงกับปาท่องโก๋อยู่บ้าง แต่ด้วยความที่เค้ามีการยัดไส้มาด้วย มันก็เลยทำให้เวลาเราทานจะรู้สึกเหมือนกับทานพวกขนมปังหน้าหมูอะไรแบบนี้ครับ ใครที่ชอบทานพวกของทอดลองสั่งมาดูนะ แต่ถ้าไปกันน้อยๆ คนไม่แนะนำให้สั่งเท่าไหร่เพราะปริมาณมันเยอะเหมือนกันครับ
“เต้าหู้ทอดสูตรบุญตงกี่” อีกหนึ่งเมนูเด็ดของร้านครับ เวลาผมมาทานเองก่อนหน้านี้ก็มีการสั่งมาทานบ่อยๆ เต้าหู้ขาวทอดกรอบขนาดพอดีคำจำนวน 5 ลูก ทานคู่กับซอสครีมสลัดแล้วอร่อยลงตัวดี ใครอยากทานเต้าหู้รสชาติดีๆ รสชาติไม่จัด สั่งเมนูนี้มาได้เลย เค้าทอดมาได้พอดีมาก ไม่มีการอมน้ำมันใดๆ เลยครับ
“เต้าหู้ทอดราดซอสสไตล์ไทย” อีกหนึ่งเมนูเต้าหู้ที่เด็ดไม่แพ้กัน โดยเมนูนี้จะเป็นเต้าหู้อีกชนิดนึงและมีกระบวนการปรุงที่ไม่เหมือนกับจานเมื่อกี้ ดังนั้นทั้งขนาดและผิวสัมผัสต่างๆ จึงแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงครับ ขนาดของเต้าหู้จานนี้จะใหญ่กว่าและเวลาทานจะรู้สึกไม่นุ่มเนียนเท่ากับเต้าหู้ทอดสูตรบุญตงกี่ แต่สิ่งที่โดดเด่นกว่าคือจะมีรสชาติที่แซ่บ จัดจ้านกว่าด้วยซอสที่ราดมาด้านบนครับ
ใครที่ชอบทานเต้าหู้สั่งมาได้เลยไม่ผิดหวังครับ ดีงามทั้งสองเมนู เน้นเนื้อเนียนๆ รสชาติไม่จัดก็เต้าหู้ทอดสูตรบุญตงกี่ แต่ถ้าอยากได้อะไรที่มีเท็กเจอร์กว่า รวมทั้งอยากทานอะไรรสจัดจ้านนิดนึงก็เลือกเต้าหู้ทอดราดซอสสไตล์ไทยครับ
“ข้าวผัดกุ้ง” นี่เป็นอีกหนึ่งเมนูที่ผมว่าดีงามมากในมื้อนี้และผมรู้สึกดีมากที่สั่งมา เพราะตอนแรกผมเกือบจะไม่สั่งแล้ว ทางร้านเค้าผัดข้าวมาได้ดีมาก ความแห้งกำลังดี แถมมีกลิ่นหอมๆ ของการผัดลอยมาแตะจมูกด้วย ทานแล้วชอบมากครับ ใครที่ไม่อยากทานข้าวมันก็สามารถสั่งข้าวผัดกุ้งนี้มาทานคู่กับไก่ก็ได้ครับ ขนาดของจานไม่ใหญ่มาก แบ่งทาน 2 คนกำลังดี แล้วก็มีกุ้งมาให้ด้วย 4 ตัว หรือถ้าใครไม่อยากทานกุ้งก็สามารถเลือกสั่งเป็นข้าวผัดปู, ข้าวผัดหมู หรือข้าวผัดไข่แทนก็ได้ครับ
ทานอาหารที่ค่อนข้างแห้งมาเยอะแล้ว คราวนี้เรามาดูอาหารประเภทซุปกันบ้างดีกว่า จะได้ทานแล้วคล่องคอมากขึ้น โดยซุปที่ทางร้าน Boon Tong Kee มีให้บริการใน All you can eat จะมีทั้งหมด 3 ชนิด ได้แก่ ซุปกระเพาะปลาเนื้อปู, ซุปมะระยัดไส้ และซุปรากบัว โดยวันนี้ผมกับต๋งสั่งมาเป็น “ซุปกระเพาะปลาเนื้อปู” ครับ รสชาติดีเลย ผมกับต๋งทานแล้วประทับใจทั้งคู่ ส่วนเนื้อปูนั้นก็ให้มาเยอะดี ถือเป็นซุปที่ผมว่าใครมาร้านนี้ควรต้องสั่งเลยครับ ส่วนจะสั่งกี่ถ้วยนั้นก็ลองดูจำนวนคนที่มาด้วยอีกที โดยขนาดถ้วยของเมนูนี้อยู่ในระดับกลางๆ สามารถแบ่งทานได้ประมาณ 3-4 ถ้วยเล็กครับ
“หมูกรอบสูตรบุญตงกี่” สำหรับเมนูนี้ต้องบอกตามตรงครับว่าผมพึ่งจะเคยลองทานเป็นครั้งแรก และตอนที่ผมสั่งนั้นผมไม่ได้ดูรูปในเมนูเลย โดยตอนนั้นผมคิดว่าหน้าตาของมันก็คงจะคล้ายๆ กับหมูกรอบที่เราเห็นทั่วๆ ไป แต่พอทางพนักงานเค้ายกมาเสิร์ฟกลับกลายเป็นว่ามันคล้ายๆ กับหมูทอดเชียงรายมากกว่าครับ
รสชาติโดยรวมถือว่าดีครับ แต่ทานแล้วไม่ได้รู้สึกว่าว้าวมาก แล้วก็ผมรู้สึกว่ามันกรอบน้อยไปนิดนึง ถ้าหากเค้าทอดได้กรอบกว่านี้อีกหน่อยน่าจะทำให้รสชาติถูกปากผมยิ่งขึ้นครับ
“ซี่โครงหมู อิมพีเรียล” เมนูนี้เด็ดเลยครับ ตัวหมูนุ่ม หอม หวาน และทานง่ายมาก เพราะมันเปื่อยกำลังดีเลย ใครที่ชอบทานหมูราดซอสหวานๆ ควรสั่งมาเลยครับ
“เคาหยก” เมนูนี้จะเป็นหมูสามชั้นเสิร์ฟคู่กับพวกผักดองต่างๆ นะครับ ตัวหมูสามชั้นที่อยู่ด้านบนนั้นปรุงมาได้ดีมาก เปื่อยทานง่าย ส่วนผักดองที่อยู่ด้านล่างอันนี้ไม่ใช่แนวผมซักเท่าไหร่ เพราะโดยปกติแล้วผมไม่ค่อยชอบทานพวกผักดองแบบนี้เลย @_@ แต่ถ้าใครชอบทานน่าจะรู้สึกฟินกับเมนูนี้ครับ เพราะเค้าจัดมาให้เยอะพอควร
“ถั่วแขกผัดหมูสับ” เมนูนี้เป็นอีกหนึ่งเมนูที่ผมมองข้ามไปในตอนแรก แต่ทางน้องพนักงานเค้าแนะนำมาเพิ่มผมก็เลยลองสั่งมาทานครับ และมันก็ไม่ทำให้ผิดหวังเลย สมกับเป็นเมนูที่ทางร้านบอกว่าลูกค้าหลายๆ คนชอบสั่ง ตัวถั่วแขกทานแล้วกรุบๆ เคี้ยวเพลินดี ส่วนหมูที่ผัดมาคู่กันนั้นก็รสชาติอร่อย ทานคู่กันแล้วลงตัวดีครับ
“คะน้าฮ่องกงผัดกระเทียม” เมนูนี้เป็นอีกหนึ่งเมนูของร้าน Boon Tong Kee ที่ผมประทับใจมานานแล้วครับ เวลาที่ผมมาทานก่อนหน้านี้ก็มักจะสั่งมาทานบ่อยๆ เพราะผมว่าคะน้าเค้าทานง่ายดี ทานแล้วไม่รู้สึกว่าแข็ง แล้วก็โดยส่วนตัวแล้วผมเป็นคนที่ชอบทานอะไรที่ผัดกับกระเทียมอยู่แล้ว ดังนั้นเมนูนี้จึงถูกปากผมเป็นพิเศษครับ ใครที่อยากหาผัดผักอะไรมาทานในมื้อก็ลองพิจารณาเมนูนี้เป็นหนึ่งในตัวเลือกนะครับ หรือจะเลือกสั่งเป็นถั่วแขกผัดหมูสับจานเมื่อกี้ ไม่ก็มะเขือม่วงกรอบราดซอสหมูสับก็ได้ เพราะเมนูหลังนี้ทางพนักงานก็บอกว่าหลายคนชอบสั่งเหมือนกันครับ
ปิดท้ายอาหารคาวที่ผมกับต๋งสั่งมาในมื้อนี้ด้วย “สลัดกุ้งทอด” และนี่เป็นอีกหนึ่งเมนูที่ผมประทับใจเป็นลำดับต้นๆ ในมื้อนี้เลย ตัวกุ้งทอดมาได้ดีไม่อมน้ำมัน กุ้งเป็นกุ้ง ทานเพลินมาก ใครอยากทานสลัดที่ราดครีมซอสหรือมีเด็กๆ มาด้วยผมว่าเมนูนี้น่าจะตอบโจทย์ได้ดีเลยนะ ที่สำคัญเมนูนี้ยังเป็นเมนูที่ราคาสูงที่สุดที่เราสามารถสั่งได้ด้วยครับ ราคาจานละ 440 บาท บอกเลยว่าใครไม่สั่งถือว่าพลาดมาก!!
และทั้งหมดนี้ก็เป็นรายการอาหารคาวที่ผมสั่งมาในมื้อนี้ครับ บอกเลยว่าอิ่มมาก อิ่มจนแทบเดินกลับไม่ไหว เพราะขนาดของแต่ละจานนั้นเป็นขนาดปกติที่ทางร้านเค้าจำหน่ายเลยครับ แต่สำหรับใครที่เป็นสายแข็งสุดๆ คิดว่าปริมาณอาหารขนาดนี้ไม่คณามือ หรือไม่ก็ตั้งใจจะไปทานอาหารที่ร้านนี้พร้อมกับเพื่อนๆ อีก 4-5 คนอยู่แล้ว อยากจะทานเมนูอื่นๆ นอกเหนือจากนี้เพิ่มเติมอีกก็ไม่ต้องกังวลไปนะครับ เพราะนอกจากเมนูอาหารคาวที่ผมทานมา 15 รายการนี้ เค้ายังมีเมนูอาหารคาวอื่นๆ ให้สั่งอีกเพียบ เช่น ผัดซีอิ๊ว, ราดหน้า, ผักโขมจีนกับไข่ 3 อย่าง, ผัดถั่วงอกหนังปลากรอบ, ผักบุ้งผัดซอสซัมบัล, หมูผัดซอสเปรี้ยวหวาน, หมูสับนึ่งปลาเค็ม, ผัดตับหมูคะน้าฮ่องกง, เต้าหู้ยัดไส้, เนื้อปลาผัดซอสเปรี้ยวหวาน ใครอยากทานเมนูไหนเป็นพิเศษก็สั่งมาทานกันได้เลยครับ
เอาล่ะ คราวนี้เรามาดูของหวานกันบ้างดีกว่าครับ สำหรับเมนูของหวานที่เราสามารถทานได้ในโปรโมชั่น All you can eat ของร้าน Boon Tong Kee นั้นจะมี 2 เมนู ได้แก่ “เผือกกวนกับฟักทองแปะก๊วย” และ “บัวลอยแห้ง” ครับ โดยวันนี้ผมกับต๋งสั่งมาลองทั้ง 2 เมนูเลย รสชาติถือว่าดีทั้งคู่ เมนูเผือกกวนกับฟักทองแปะก๊วยนั้นจะแอบหวานนิดๆ แต่อยู่ในระดับที่ตักทานได้เรื่อยๆ ส่วนเมนูบัวลอยแห้งนั้นถือว่าเป็นเมนูที่แปลกใหม่ไม่เหมือนใครดี รสชาติจะเหมือนกับบัวลอยไส้งาดำที่อยู่ในบัวลอยน้ำขิง แต่อันนี้จะเสิร์ฟมาแบบแห้งๆ ไม่มีน้ำใดๆ ทั้งสิ้น แล้วก็จะมีการโรยผงถั่วบดที่ด้านนอกด้วย เวลาทานจะให้อารมณ์เหมือนกับการทานขนมตุ้บตั้บนิดๆ ครับ
ก็เอาเป็นว่าใครที่คิดว่ายังพอมีพื้นที่กระเพาะเหลือก็จัดมาทั้งสองเมนูได้เลยครับ เพราะขนาดของแต่ละจานไม่ได้ใหญ่มาก อย่างบัวลอยแห้งนั้นจานนึงก็เสิร์ฟแค่ 2 ลูกเองครับ
ครับ ทั้งหมดนี้ก็คือประสบการณ์ของผมกับต๋ง หลังจากที่ได้มีโอกาสไปลองทาน All you can eat ที่ร้าน Boon Tong Kee (บุญตงกี่) สาขาเซ็นทรัล ปิ่นเกล้าครับ โดยรวมๆ ต้องบอกว่าเราทั้งสองคนรู้สึกประทับใจมาก เพราะในราคา 499 บาท/คน net สามารถทานอาหารได้หลากหลายแบบนี้ คุณภาพแบบนี้มันถือว่าคุ้มค่ามากเลย ใครที่อยากจะตามรอยไปทานบ้างก็สามารถทำการจองผ่านลิงก์นี้ได้เลยครับ http://bit.ly/2EUmJZ2 และโปรโมชั่น All you can eat นี้ จะไม่สามารถ walk in ได้นะครับ เราต้องทำการจองผ่านลิงก์เท่านั้น
แต่ถ้าใครยังรู้สึกลังเลอยู่ เดี๋ยวผมจะสรุปตอนท้ายให้ฟังอีกทีว่าในมุมมองของผมนั้นแต่ละเรื่องมันเป็นยังไงบ้าง ถ้าใครพร้อมแล้วก็ตามไปอ่านกันต่อได้เลยครับ ^^
วันที่รับประทาน : วันอังคารที่ 24 ธันวาคม 2562
เวลา : 19.00 – 21.00 น.
จำนวน : 2 คน
รสชาติอาหาร : จากที่ผมได้มีโอกาสไปทานอาหารที่ร้านนี้หลายครั้ง รวมถึงรสชาติอาหารในวันนี้ ผมว่ารสชาติอาหารโดยรวมอยู่ในระดับที่ดีเลยนะครับ โดยเฉพาะไก่ต้นตำรับบุญตงกี่ที่เป็นเมนูเด่นของร้านถือเป็นหนึ่งในเมนูที่ทุกคนห้ามพลาดเลย ส่วนเมนูอื่นๆ นั้นก็มีหลายเมนูที่โดดเด่นไม่แพ้กัน เช่น เต้าหู้ทอดสูตรบุญตงกี่, เต้าหู้ทอดราดซอสสไตล์ไทย, ข้าวผัดกุ้ง, ซุปกระเพาะปลาเนื้อปู, ซี่โครงหมู อิมพีเรียล, ถั่วแขกผัดหมูสับ, คะน้าฮ่องกงผัดกระเทียม ใครที่ชอบทานอาหารสไตล์นี้โดยเฉพาะคนที่ชอบทานข้าวมันไก่สิงคโปร์น่าจะถูกใจกับอาหารร้านนี้และโปรโมชั่น All you can eat นี้ครับ เพราะคุณภาพและขนาดของแต่ละจานนั้นมันเหมือนกับที่เค้าขายแบบปกติเลย
ความหลากหลายของอาหาร : ผมขอพูดเฉพาะอาหารที่มีให้เลือกสั่งในโปรโมชั่น All you can eat นะครับ โดยความหลากหลายของอาหารในโปรโมชั่นนี้ถือว่าอยู่ในระดับที่ดีเลย เพราะมีอาหารให้เลือกสั่งประมาณ 40 เมนู ครอบคลุมประมาณ 90% ของเมนูในร้านทั้งหมด และมีครบทั้งทอด, ต้ม, ซุป, ผัด, ข้าว, สลัด, ผัก และของหวาน ใครที่มาเป็นแก๊งค์ใหญ่ๆ 7-8 คนก็น่าจะยังโอเคกับความหลากหลายของเค้าอยู่ครับ
ความสะอาดของสถานที่และบรรยากาศโดยรวม : สำหรับสาขาเซ็นทรัล ปิ่นเกล้า ชั้น G ที่ผมไปใช้บริการนั้น ในเรื่องนี้ผมถือว่าอยู่ในระดับที่ดี สอบผ่านนะครับ ตัวร้านเพดานสูง นั่งทานสบาย ไม่รู้สึกอึดอัด ส่วนเก้าอี้ต่างๆ ก็ดี ไม่ได้ตั้งชิดกันมาก และในเรื่องของความสะอาดก็ถือว่าทำได้ดีเช่นเดียวกันครับ
การบริการของพนักงาน : ในวันที่ผมไปทานอาหารในรีวิวนี้ มีคนอื่นๆ ไปใช้บริการภายในร้านน้อยมากครับ ดังนั้นผมเลยไม่เจอปัญหาใดๆ ในการดูแลของพนักงานเลย พนักงานให้ข้อมูลครบ เสิร์ฟอาหารถูก บริการรวดเร็ว รวมทั้งยังมีการช่วยแนะนำข้อมูลอาหารที่น่าสนใจเพิ่มเติมให้ด้วยครับ
ความสะดวกของการเดินทาง : จริงๆ โปรโมชั่น All you can eat ของร้าน Boon Tong Kee นั้นมีหลายสาขามาก ดังนั้นในเรื่องนี้น่าจะมีคะแนนแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสาขาแล้วก็ความสะดวกของแต่ละคน แต่สำหรับสาขาเซ็นทรัล ปิ่นเกล้าในความเห็นของผมนั้นผมให้อยู่ในระดับกลางๆ ครับ เพราะแถวนี้แม้จะมีรถเมล์ผ่านเยอะ แต่ก็ไม่ได้ใกล้พวกรถไฟฟ้า MRT, BTS ซักเท่าไหร่ ดังนั้นความสะดวกของการเดินทางก็เลยอาจจะไม่เท่ากับบางสาขาครับ
ความคุ้มค่า : สำหรับโปรโมชั่น All you can eat ของร้าน Boon Tong Kee นั้นจะมี 2 ราคา คือ 499 บาท/คน net สำหรับวันจันทร์ – พฤหัสบดี และ 599 บาท/คน net สำหรับวันศุกร์ – อาทิตย์ ซึ่งทั้ง 2 ราคานี้จะมีทุกอย่างเหมือนกันหมด ทั้งรายการอาหาร, เวลาที่ทาน, เงื่อนไขต่างๆ ดังนั้นโดยส่วนตัวแล้วผมจึงยกให้ความคุ้มค่าของการไปทานในวันจันทร์ – พฤหัส เหนือกว่าครับ และผมว่ามันเป็นราคาที่ดีมากๆ เลยนะ ได้ทานอาหารหลากหลาย คุณภาพอาหารดี รสชาติอาหารส่วนใหญ่ถูกปาก แถมยังเป็นอาหารที่ปรุงเสร็จใหม่ๆ ด้วย ใครที่กำลังมองหาบุฟเฟ่ต์อาหารสไตล์นี้ ที่นี่น่าสนใจมากครับ โดยเฉพาะการไปใช้บริการในวันจันทร์ – พฤหัส เพราะโดยปกติหากเราไปทานร้านนี้กัน 2 คน สั่งอาหาร 4-5 อย่าง ราคาก็เกินพันแล้วครับ แต่นี่เราจ่ายคนละ 499 บาทเท่านั้น ส่วนใครที่จะไปทานวันศุกร์ – อาทิตย์ แล้วไปกันแค่ 2-3 คน ก็ลองคำนวนราคาดีๆ นะครับว่าจะทานได้กี่เมนู หากคิดว่าตัวเองทานได้ไม่เยอะ ไม่ใช่สายแข็งมาก สั่งมาทานได้ไม่กี่เมนูก็อิ่มแล้ว การเลือกสั่งแบบเป็น A la carte หรือชุดโปรโมชั่นพิเศษหน้าร้านก็อาจจะดีกว่าครับ
สรุป : สำหรับใครที่เป็นแฟนพันธุ์แท้หรือชอบอาหารของร้าน Boon Tong Kee อยู่แล้ว โปรโมชั่น All you can eat นี้น่าจะตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดีเลยครับ เพราะมันสามารถสั่งอาหารได้หลากหลาย สามารถกินได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องกังวลเรื่องงบประมาณจะบานปลายเลย ส่วนใครที่ไม่เคยทานอาหารที่ร้านนี้มาก่อน โปรโมชั่นนี้ก็เป็นโอกาสดีมากที่คุณจะได้ลองทานครับ โดยเฉพาะคนที่กำลังมองหาร้านอาหารบุฟเฟ่ต์ตามห้าง ที่สามารถนั่งกินได้ยาว 2 ชั่วโมง มีประเภทอาหารให้เลือกสั่งหลากหลาย มีคุณภาพอาหารที่ดี และเป็นบุฟเฟ่ต์อาหารที่ไม่ใช่ปิ้งย่างหรือชาบูที่สามารถเห็นได้ทั่วๆ ไป ร้านนี้ถือว่าน่าสนใจมาก แต่ทั้งนี้เพื่อความคุ้มค่าและความสนุกสนานในการกินอย่างเต็มที่ ผมแนะนำว่าให้ชวนกันไปอย่างน้อยซัก 3-4 คน แล้วก็เลือกไปทานวันจันทร์ – พฤหัสนะครับ รับรองว่าพวกคุณจะอิ่ม ฟิน และรู้สึกคุ้มค่ามากๆ อย่างแน่นอนครับ!!
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านจนจบ และสำหรับใครที่ต้องการติดตามเรื่องราวของการกินและเที่ยวของผมอย่างใกล้ชิดก็สามารถกดติดตามได้ที่เพจ “ภรรยาหา สามีใช้” ได้เลยครับ ส่วนท่านใดที่อยากจะจองโปรโมชั่น All you can eat ของร้าน Boon Tong Kee (บุญตงกี่) ที่สามารถกินได้ไม่อั้นตลอด 2 ชั่วโมงเต็มแบบนี้ ก็สามารถทำการจองผ่านลิงก์นี้ได้เลยครับ http://bit.ly/2EUmJZ2 แล้วพบกันใหม่ในรีวิวหน้า สวัสดีครับ
หมายเหตุ : บทความนี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวของผมในวันที่ไปใช้บริการเท่านั้นครับ แต่ละท่านที่ได้มีโอกาสไปใช้บริการอาจจะได้รับการบริการที่แตกต่างจากนี้