สวัสดีครับวันนี้ผมจะพาทุกท่านไปพบกับงานเทศกาลงานนึงที่รวมของกินอร่อยๆ ไว้ ณ ใจกลางย่านวัยรุ่นกันครับ โดยงานนี้มีชื่อว่า Food Festival  ครับ และเพื่อความโปร่งใส ความบริสุทธิ์ใจ ถึงการรีวิวในครั้งนี้ผมจะใช้เงินตัวเองทุกบาททุกสตางค์ในการเดินทาง รวมไปถึงการซื้อของกินภายในงานทั้งหมด แต่เนื่องจากผมรู้จักกับทีมงานบางคนที่ดูแลงานนี้อยู่ ผมก็เลยขอทำรีวิวนี้เป็น SR แทนนะครับ ^^
Disclosure : บทความนี้ได้รับการสนับสนุนจากผู้ให้บริการ แต่ทั้งนี้ความเห็นต่างๆ ที่เกิดขึ้นเป็นความรู้สึกจริงของผมครับ
สำหรับงานนี้มีชื่อเต็มๆ ว่า “Food Festival ตลาดรวมของอร่อย ปลอดภัย ปลอดมะเร็ง” โดยมีการจัดงานกันที่เซนเตอร์ พอยน์ ออฟ สยามสแคว์ (ดิจิตอล เกทเวย์) ในระหว่างวันที่ 3-5 ตุลาคม 58 ครับ ซึ่งเท่าที่ผมทราบคือ concept ของงานนี้จะเป็นการรวบรวมร้านค้าอร่อยๆ น่าทานมาไว้ที่เดียวกันและทุกๆ ร้านต้องใช้บรรจุภัณฑ์ในการใส่อาหารที่สะอาด ปลอดภัย ไร้สารก่อมะเร็งนั่นเองครับ เรียกได้ว่าเป็นกำไรของคนที่ไปงานมากๆ  เพราะนอกจากจะได้ทานอาหารอร่อยๆ หลายๆ ร้านในที่เดียวกันแล้ว ยังสบายใจ ไม่ต้องกังวลเรื่องอันตรายจากภาชนะที่ใส่อีกด้วยครับ
เอาล่ะครับ ถ้าทุกคนพร้อมแล้ว เราไปเริ่มตะลุยงานกันเลยดีกว่าครับ!! เปิดฉากด้วยภาพสถานที่จัดงานกันก่อนแล้วกันครับ งานนี้จัดกันที่ลานด้านหน้าของเซนเตอร์ พอยน์ ออฟ สยามสแคว์ (ดิจิตอล เกทเวย์) ฝั่งสยามแสควร์ครับ โดยมีรูปแบบงานที่โดดเด่นด้วยเต้นท์และธงราวสีฟ้า ครับ
ROD_8054
หลังจากผมที่เดินเข้าไปในบริเวณงานแล้ว ก็พบว่ามีร้านค้าประมาณ 20 ร้านได้ครับ ซึ่งลักษณะอาหารจากที่ผมสังเกตด้วยการกวาดสายตาคร่าวๆ แล้วก็พบว่ามีประเภทอาหารที่แตกต่างกันมากมายเลยทีเดียว ครบเครื่องทั้งอาหารคาว อาหารหวาน อาหารจานเดียว อาหารอีสาน ของทานเล่น ไอศรีม รวมไปจนถึงเครื่องดื่มครับ และหลายๆ ร้านก็เป็นร้านที่ขึ้นชื่อ มีชื่อเสียงพอดูเลยครับ เห็นแบบนี้นี่ผมเปรี้ยวปาก น้ำลายไหลเลยครับ
มาเริ่มกันที่ร้านแรกเลยนะครับ ร้านนี้ติดกับประตูทางเข้าเลย นั่นคือร้าน Hot-Star Large Fried Chicken ไก่ทอดยักษ์จากไต้หวัน ที่ได้ฉายาว่าไก่ใหญ่เท่าหน้านั่นเองครับ ต้องยอมรับตามตรงว่าที่ผ่านมาผมยังไม่เคยได้ลิ้มรสไก่ทอดอันลือชื่อเจ้านี้มาก่อนเลย เพราะทำเลที่ตั้งของร้านกับการใช้ชีวิตประจำวันของผมอยู่ค่อนข้างไกล และที่สำคัญผมขี้เกียจต่อคิวครับ – -“
แต่สำหรับงานนี้ สิ่งที่ผมเห็นแล้วตาโตคือ มันแทบไม่มีคนยืนต่อคิวครับ!! แน่นอนว่าเห็นโอกาสแบบนี้แล้ว ผมก็เลยไม่ลังเลจัดไปเลย 1 ชิ้นครับ (140 บาท)  โดยเลือกแบบ Spicy ครับ สำหรับเรื่องรสชาติจากที่ผมเคยได้ยินมามันมีหลายกระแสมาก ทั้งอร่อย เฉยๆ ไปจนถึงไม่อร่อยนั้น หลังจากที่ผมได้ลองทานเองแล้ว ผมว่ารสชาติสอบผ่านนะครับ และราคาก็ถือว่าสมเหตุสมผลอยู่ครับ
ROD_8092
ROD_7856
เปิดฉากมาร้านแรกก็จัดไปซะชิ้นใหญ่แบบนี้  ถึงผมจะมีเพื่อนไปเดินด้วยอีก 1-2 คน แต่ผมก็คิดว่ากะเพาะของผมคงสามารถลองชิมได้อีกแค่ไม่กี่ร้านแน่ๆ ช่วงนี้ก็เลยขอตัดเป็นภาพบรรยากาศในงานรวมๆ ก่อนนะครับ ว่ามีร้านอะไรบ้างครับ และหากร้านไหนผมได้มีโอกาสชิมจะเขียนคำบรรยายกำกับไว้นะครับ
เริ่มจากชุดแรกครับ ร้านเหล่านี้จะอยู่ซอยตรงกลาง ซอยเดียวกับ Hot Star โดยซอยนี้จะเป็นซอยใหญ่สุด มีร้านอาหารให้เลือกดู เลือกทานทั้งซ้ายมือและขวามือ อาทิเช่น ร้านสถานีนมโต ที่ขายน้ำแข็งไสภูเขาไฟ ร้านนี้คนอุดหนุนซื้อกันเยอะเลยครับ ถ้วยใหญ่มาก
ROD_8114
ROD_8111
ร้านขนมเบื้อง สิรินทิพย์ ราคาชิ้นละ 15 บาทครับ อันนี้เพื่อนที่ไปด้วยกันซื้อมาชิม 2-3 ชิ้น บอกว่าอร่อยดีครับ
สำหรับร้านนี้เท่าที่ได้คุยกับแม่ค้ามา พบว่าเป็นร้านเก่าแก่ที่ตลาดพลู ขายกันมา 4 รุ่นแล้วครับ ใครได้มีโอกาสไปตลาดพลูลองแวะไปทานกันดูนะครับ
ROD_8100
ROD_8109
ต่อกันที่ร้านก๋วยเตี๋ยว ครัวถั่วแระ ครับ
ROD_8095
ร้านถัดมา ร้าน M Waffle ร้านขายวาฟเฟิลกลมๆ สุดเก๋ ผมลองชิม 2 รสครับ ได้แก่ ชีส+แฮม+ช็อคโกแลต และ ปูอัด+แฮม+ช็อคโกแลต โดยส่วนตัว
ผมชอบอันแรกที่มีชีสมากกว่าครับ แต่ก็ถือว่าอร่อยทั้งคู่ครับ
ROD_8101
ROD_7868
ร้านนี้น่าจะการันตีความอร่อยได้จากรูปลูกค้าบนป้ายนี้ครับ เยอะแยะมากมายเลยทีเดียว
ROD_7892
มาดูร้านต่อมาครับ ร้านนี้ชื่อว่าร้าน Butter Bake มีอยู่ 2 เมนูครับ ดูน่ากินทั้งคู่เลย แต่ผมมีเป้าหมายอื่นที่สนใจกว่าก็เลยไม่ได้ชิมครับ
ROD_7844
ROD_7848
ROD_7850
เป้าหมายที่ผมสนใจก็คือร้านนี้นี่เองครับ ร้านไอศรีมทอด Monster ดูจากจำนวนคนที่ยืนอยู่หน้าร้านแล้ว น่าจะการันตีได้ว่ามันต้องอร่อยแน่ๆ
ผมกับเพื่อนจัดกันมาคนละถ้วยครับ และก็ไม่ผิดหวังครับ เป็นร้านที่ผมประทับใจที่สุดในวันนี้เลยครับ
ROD_7851
ROD_7863
ROD_7864
ส่วนร้านนี้เป็นร้านขายเครปครับ คนเยอะเช่นกัน ผมก็เลยหนีมาถ่ายหลังร้านแทนครับ 55555
ROD_7894
และก็มาถึงร้านสุดท้ายในซอยนี้แล้วครับ ร้านผึ้งยิ้ม เป็นร้านขายน้ำผึ้งครับ มี 2 รส คือ รสมะนาวและรสส้ม
รสชาติอร่อย ชุ่มคอ ในราคาแก้วละ 25 บาทครับ
ROD_8103
ROD_8143
จบจากซอยตรงกลางแล้ว มาต่อที่ซอยขวามือกันดีกว่าครับ ซอยนี้จะมีร้านแค่ด้านเดียวเท่านั้นนะครับ ไม่ได้มีทั้งซ้ายขวาเหมือนซอยตรงกลาง โดยในซอยนี้มีร้านตามนี้ครับ
เริ่มจากร้านแรก ราดหน้ายอดผัก ศาลเจ้าพ่อเสือ ครับ
ROD_8040
ROD_7834
ต่อด้วยร้านขายอาหารเวียดนามครับ ดูน่าทานดีนะครับ แต่คงเหมาะกับการซื้อกลับบ้านมากกว่าครับ
ROD_7837
ROD_7838
ต่อด้วยร้าน CP Easy Snack ร้านขายลูกชิ้นครับ
ROD_7842
ROD_8127
ปิดท้าย ด้วยร้านสุดท้ายในซอยนี้ก็คือร้าน วิราณี ซาลาเปา-ขนมจีบ ครับ
ROD_8042
ROD_8134
ที่ปากทางของซอยนี้ ใกล้ๆ กับร้านซาลาเปา จะมีโมเดลกล่องข้าวขนาดใหญ่วางอยู่ครับ เท่าที่ผมอ่านป้ายดู ทางผู้จัดงานเค้ามีกิจกรรมสนุกๆ แจกของรางวัลให้กับผู้ที่ถ่ายภาพกับกล่องข้าวนี้ด้วยครับ
กล่องข้าวนี่ทำเป็นรูปกระเพรากุ้งไข่ดาว พร้อมช้อนเสียบอยู่ ดูน่ารักดีครับ
ROD_8120
ROD_8125
ถัดมา มาดูซอยซ้ายมือกันบ้างครับ ซอยนี้ก็จะมีร้านเพียงด้านเดียวเหมือนกันกับซอยขวามือครับ โดยมีทั้งหมด 3 ร้านได้แก่ ร้านไก่ทอด 8 กะทะ, ร้านพิชัยไก่ตอน ข้าวมันไก่เลิศรส และร้านเชฟตุ๋ย เรนเจอร์ ที่ขายบาร์บีคิวครับ
สำหรับซอยนี้ผมได้ทานอยู่ 1 ร้านครับ คือร้าน เชฟตุ๋ย เรนเจอร์ โดยเมนูที่ผมทานคือบาร์บีคิว ริบอาย ไม้ละ 30 บาทครับ รสชาติอร่อยถูกปากครับ
จริงๆ แล้ว ร้านเชฟตุ๋ยนี้มีอีก 2 เมนู คือ ไก่ และ หมู ครับ ในราคาไม้ละ 20 บาท แต่ตอนที่ผมไปนั้นทั้งไก่และหมูขายหมดกลี้ยงเลยครับ เลยอดไปครับ T_____T
ROD_8076
ROD_8077
ROD_8084
ROD_8079
ตอนนี้เราก็ดูกันครบทั้ง 3 ซอยแล้วครับ แต่ยังไม่หมดแค่นี้ เพราะภายในตัวตึกของ Digital Gateway นั้นยังมีร้านอีก 3-4 ร้าน ครับ แต่ก่อนที่จะเข้าไปในตัวตึกนั้นจะต้องเดินผ่านรถที่จอดอยู่ 2 คัน ทั้งทางซ้ายและทางขวามือเราตามนี้ครับ
เริ่มจากด้านซ้ายมือ เป็นรถสีเหลือง สีสันสดใสสวยงามครับ โดยรถคันนี้เป็นร้านขายแฮมเบอร์เกอร์ภายใต้ชื่อว่า Full Moon Café ครับ รูปแบบร้านและสีสันดูเก๋ไก๋ ชวนให้เข้าไปชิมมากเลยครับ ที่สำคัญแม่ค้าดูใจดีมากครับ ><
ROD_8038
ROD_8031
ROD_8066
ROD_8074
ส่วนฝั่งขวามือก็เป็นรถอีก 1 คันครับ แต่อยู่ในโทนสีฟ้า เรียกได้ว่าคู่สีตรงข้ามกันคันเมื่อกี้เลย โดยรถคันนี้เป็นรถที่ไม่ได้มาขายอาหารครับ แต่เป็นรถที่มาทำกิจกรรมรับบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยโรคมะเร็งให้กับศิริราชมูลนิธิ โดยทุกคนที่บริจาคเงินไม่ว่าจะมากหรือน้อยจะได้รับข้าวไก่อบสมุนไพร สุขใจ คนละ 1 กล่องเป็นของตอบแทนด้วยครับ
โดยรถคันนี้เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมที่ชื่อว่า Fest Food Truck ซึ่งภายในเดือนตุลาคมนี้ ในช่วงเช้าๆ จะมีการนำรถคันนี้ไปจอดตามแหล่งชุมชน และออฟฟิศสำนักงานหลายที่เลยครับ เช่น สีลม จตุจักร อารีย์ เพื่อระดมทุนให้กับโครงการนี้ต่อด้วยครับ  ใครที่มองเห็นรถคันนี้แถวไหนก็ลองเดินไปเฉียดๆ ดูนะครับ นอกจากจะอิ่มกายแล้ว ยังอิ่มใจด้วยครับ
ROD_8034
ROD_7825
หน้าตาของ “ข้าวไก่อบสมุนไพรสุขใจ” ครับ เป็นข้าวผสมอัญชัน โดยจะมีถุงกระดาษใส่ให้เรียบร้อยเลย ถือกลับบ้านได้สะดวกมากๆ ครับ
ROD_7877
ROD_7828
เอาล่ะครับ ตอนนี้ก็ได้เวลาเดินเข้าตัวตึกกันแล้วครับ เมื่อกลุ่มผมเดินเข้าตัวตึกก็ได้ยินเสียงดนตรีสดจากเวทีลอยมาเลยครับ ผมกับเพื่อนก็เลยไปนั่งฟังดนตรีกันครับ และถือโอกาสพักขาตัวเองด้วยครับ
มาดูภาพบรรยากาศบนเวทีกันซักภาพสองภาพดีกว่าครับ
ROD_8010
ROD_8026
หลังจากนั่งพักฟังเพลงได้ 2-3 เพลง ก็ได้เวลาที่ผมจะเดินชมงานต่อแล้วครับ โดยบริเวณข้างๆ เวทีจะมีอีก 4 ร้านตามนี้ครับ เริ่มจากร้านแรกที่ชื่อ Veganarie ครับ ร้านนี้มีสินค้าขายหลายอย่างเลยทั้งบราวนี่, คุกกี้, เค้กกล้วยหอม และ Cinamoll Roll
จุดเด่นของร้านนี้ คือ วัตถุดิบในการผลิตมาจากพืชและธรรมชาติ, ไม่มีนม เนย ไข่ และ แคลลอลี่ต่ำครับ
ROD_7925
ROD_7921
ROD_7908
ROD_7911
ROD_7915
ROD_7917
ROD_7918
ถัดมาคือร้านขายซูชิ กับร้านที่ชื่อว่า Sushi Gendai ครับ ถ้าผมจำไม่ผิด จะราคาคำละ 10 บาทครับ
ROD_7933
ROD_7931
ร้านถัดมาคือ บ้านลูกชุบ ครับ ร้านนี้ขายลูกชุบตามชื่อร้านเลย แต่มีลักษณะของลูกชุบที่น่ารักกว่ารูปผลไม้ปกติหลายชิ้นเลยครับ
ขายในราคากล่องละ 100 บาท มีจำนวน 25 ชิ้นครับ เท่าที่ดูร้านนี้ขายดีเลยครับ ผมก็เลยซื้อกลับบ้านด้วย 1 กล่องครับ รสชาติเท่าที่ได้ลองถือว่าอร่อยครับ ชิ้นค่อนข้างใหญ่สมกับราคาครับ
ROD_7960
ROD_7935
เต็มกล่อง 100 บาท จะได้เท่านี้ครับ
ROD_7949
และก็มาถึงร้านสุดท้ายในงานครับ ร้านนี้ชื่อว่า April Trees ครับ ขายน้ำสมุนไพร กับบราวนี่ ถ้าจำไม่ผิดร้านนี้เหมือนจะเป็นร้านของดาราที่ชื่อคุณเต็งหนึ่งครับ
แพคเกจน้ำสมุนไพรของร้านนี้ดูสวยดีครับ ผมเลยอุดหนุนมา 1 ขวด คือ Blue Potions ขวดสีม่วงที่มีส่วนผสมของอัญชัน ราคาขวดละ 60 บาทครับ
ROD_7975
ROD_7964
ROD_7969
ในที่สุด หลังจากการเดินชิมอันยาวนาน ผมก็พาทุกคนตระเวนจนครบทั่วทั้งงานแล้วครับ แต่ก่อนที่จะจบ review นี้ มีอีก 2 กิจกรรมภายในงานที่ผมว่ามันน่ารักดีและอยากจะเล่าให้ฟังกันครับ
เริ่มจากอันแรก คือ การแจกป๊อบคอร์นให้ฟรี สำหรับผู้ที่ตอบแบบสอบถามครับ ตัวผมเองไม่ได้ไปตอบนะครับ เลยไม่ทราบรสชาติว่าเป็นอย่างไร แต่จากกลิ่นที่ลอยมาแตะจมูก อยากจะบอกว่ามันหอมมากเลยครับ ><
ROD_7996
ROD_7998
ROD_8002
และอีกกิจกรรมก็คือ เกมส์คีบกล่องอาหารครับ
ลักษณะของเกมส์ก็เหมือนกับตู้เกมส์ที่คีบตุ๊กตาปกติเลยครับ แต่ว่าของข้างในตู้จะเป็นกล่องอาหารหลายๆ กล่อง เมื่อเราคีบได้กล่องไหนก็ให้เปิดกล่องออกมาดู ภายในกล่องจะมีคูปองส่วนลดร้านค้าภายในงานครับ หรือถ้าหากไม่มีคูปองในกล่องก็จะได้ของที่ระลึกเล็กๆ น้อยๆ แทนครับ
ROD_8008
ROD_7981
ROD_7982
สำหรับคูปองส่วนลดนั้น เท่าที่ผมยืนดูมีหลายราคา หลายร้านเลยครับ ได้มากบ้าง น้อยบ้าง คละกันไปครับ อย่างกล่องนี้ได้เป็นส่วนลดร้านขนมเบื้อง 20 บาทครับ
ROD_7985
เอาล่ะครับ มาถึงตอนนี้ก็น่าจะครบถ้วนทั้งงานแล้ว ผมก็ขออนุญาตจบการรีวิวด้วยภาพนี้แล้วกันครับ เป็นภาพบรรยากาศที่หน้างานบริเวณทางเข้าครับ ดูครึกครื้นและคึกคักดีครับ
สำหรับงานครั้งถัดไป จะมีอีกหรือไม่ หรือจัดที่ไหน ผมก็ไม่ทราบเหมือนกันนะครับ แต่ตัวผมเองแอบหวังว่ามันจะมีจัดอีกเพราะหลายๆ ร้านมันอร่อยมากครับ และการไปที่เดียวแล้วได้ทานอะไรอร่อยๆ หลายอย่างมันเป็นสวรรค์ของนักชิมอาหารอย่างผมมากครับ 55555
พบกันใหม่ในรีวิวหน้านะครับ ขอบพระคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านจนจบครับ สวัสดีครับ

ROD_8047

หมายเหตุ : บทความนี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวของผมในวันที่ไปใช้บริการเท่านั้นครับ แต่ละท่านที่ได้มีโอกาสไปใช้บริการอาจจะได้รับการบริการที่แตกต่างจากนี้ออกไปครับ