สวัสดีทุกคนครับ วันนี้ผมจะมารีวิวและสรุปภาพรวมของทริปเที่ยวประเทศตุรกีของผม ในช่วงปลายเดือนกันยายน 2565 นะครับ โดยถึงแม้ผมกับเพื่อน ๆ อาจจะไม่ชินไม่เอ็นจอยกับเรื่องอาหารบ้าง แต่โดยรวมแล้วต้องบอกว่ามันเป็นทริปที่ดีงามมาก ประทับใจสุด ๆ และคุ้มค่าที่ได้ไปครับ ที่เที่ยวหลาย ๆ ที่ของเค้าดูสวยอลังการเลย
หมายเหตุ : ภาพทั้งหมดในรีวิวนี้จะถ่ายด้วยโทรศัพท์มือถือ vivo X80 นะครับ




ทริปนี้ผมใช้เวลาทั้งหมด 10 วันนะครับ (นอนที่ตุรกี 8 คืน) และมีรายละเอียดของแต่ละเรื่อง ดังนี้
ค่าใช้จ่ายแบบคร่าว ๆ
- ตั๋วเครื่องบินไปกลับ ไทย – ตุรกี คนละ 30,000 บาท
- ตั๋วเครื่องบินในประเทศตุรกี 2 ไฟลท์ คนละ 5,000 บาท
- ค่านั่งบอลลูนที่เมืองคัปปาโดเกีย คนละ 9,000 บาท (บอลลูนแบบ 16 ที่นั่ง)
- ค่าที่พัก 8 คืน คนละ 12,000 บาท (นอนโรงแรมถ้ำที่คัปปาโดเกีย 3 คืน)
- ค่ารถพร้อมคนขับ, ไกด์ชาวตุรกี, อาหาร และค่าเข้าสถานที่ต่าง ๆ คนละ 36,000 บาท
รวมแล้วประมาณคนละ 92,000 บาทครับ

สถานที่เที่ยวและกิจกรรมเด่น ๆ
- Ephesus
- Hierapolis – Pamukkale*
- Kaklik Cave
- Mevlana Musuem
- Caravanserais
- นั่งบอลลูนที่ Cappadocia*
- Cappadocia Red Tour*
- Cappadocia Green Tour*
- Belly Dance Show (โชว์การเต้นแบบตุรกี)
- Balat & Fener
- Taksim Square
- Blue Mosque – Hippodrome
- Hagia Sophia*
- Topkapi Palace*
- Grand Bazaar
- Dolmabahce Palace*
- Bosphorus Cruise Tour*
หมายเหตุ : รายชื่อไหนที่มี * ต่อท้าย รายชื่อนั้นคือสถานที่ที่ผมชอบเป็นพิเศษ และคิดว่าทุกคนไม่ควรพลาดครับ





















สายการบินที่ใช้
- Emirates : ใช้บินจากไทยไปกลับประเทศตุรกี โดยจะต้องไปเปลี่ยนเครื่องที่ UAE ทั้งขาไปและกลับครับ โดยภาพรวมผมประทับใจมากทั้งการบริการและอาหารครับ แนะนำเลย ^^
- Turkish Airlines : ใช้บินในประเทศ 2 ครั้ง คือ จาก Istanbul ไป Izmir และจาก Kayseri ไป Istanbul ครับ ความรู้สึกโดยรวมผมเฉย ๆ นะ ไม่ได้ประทับใจอะไรซักเท่าไหร่ เพราะผมเจอดีเลย์ไปไฟลท์นึงด้วย เสียเวลาไป 1 ชั่วโมงเลย แถมยังเจอกัปตันขาซิ่งแลนด์ดิ้งได้โหดมากด้วยครับ ทั้งนี้สำหรับไฟลท์บินในประเทศทั้ง 2 ไฟลท์นี้ เค้าจะมีการเสิร์ฟน้ำ และแซนวิชให้ด้วย 1 ครั้งนะ ขนาดแซนวิชคือใหญ่มาก ๆ ทานแล้วอิ่มท้องเลยครับ
และสำหรับใครที่อยากเห็นภาพรวมเครื่องและไฟลท์บินของ Emirates จากไทยไปกลับตุรกี ก็สามารถกดดูที่คลิปด้านล่างนี้ได้เลยครับ ผมมีสรุปไว้หมดแล้วครับ
ซิมโทรศัพท์
ทริปนี้ผมใช้ซิมของ Turkcell นะครับ โดยผมไปซื้อนอกสนามบิน เพราะราคาถูกกว่าในสนามบินแบบครึ่งต่อครึ่งเลย ราคาซิมที่ผมได้มานั้นคือซิมละ 250 TRL ครับ ได้ปริมาณการใช้ internet 15 GB สามารถใช้ได้นาน 30 วัน ส่วนในเรื่องความเร็วในการใช้งานตามสถานที่ต่าง ๆ ตลอดทริปนี้ถือว่าดีมากครับ รวดเร็ว ลื่น ไม่มีสะดุดอะไรเลย
ทั้งนี้ราคาซิมที่เค้าขายนั้น หากเป็นคนตุรกีซื้อจะถูกกว่านักท่องเที่ยวต่างชาติซื้อเองพอควรนะครับ (ต่างกันประมาณ 100 TRL/ซิม) แต่ถ้าหากเราไม่สามารถให้คนตุรกีช่วยซื้อและลงทะเบียนผ่านบัตรประชาชนเค้าได้ เราก็ต้องซื้อราคานักท่องเที่ยวนะครับ ส่วนเคสของผมที่บอกว่าราคา 250 TRL/ซิม นั้น อันนี้ทางไกด์ชาวตุรกีเป็นคนซื้อให้ครับ ก็เลยประหยัดเงินไปได้หลายร้อยเลย

แผนเที่ยวแบบคร่าว ๆ
Day 1 : Bangkok – Istanbul – Izmir : นอนที่เมือง Izmir โดยเมื่อผมเดินทางจากไทยไปถึงอิสตันบูลแล้ว ก็นั่งเครื่องบินในประเทศตุรกีต่ออีก 1 ไฟลท์ครับ
Day 2 : Izmir – Selcuk – Ephesus – Pamukkale : นอนที่เมือง Pamukkale
Day 3 : Kaklik Cave – Hierapolis – Pamukkale : นอนที่เมือง Pamukkale โดยวันนี้ผมไปที่บริเวณปราสาทปุยฝ้าย (Cotton Castle) 2 รอบ รอบแรก คือ ช่วงเช้าตอนที่พระอาทิตย์กำลังขึ้นขึ้น และนอบ 2 คือ ช่วงบ่าย ๆ จนถึงพระอาทิตย์ตกดิน
Day 4 : Konya – Caravanserai – Mevlana Museum – Capadodia : นอนที่เมือง Capadodia โดยวันนี้จะเป็นวันที่นั่งรถนานพอควรครับ
Day 5 : Balloon Flight – Goreme Open Air Museum – Pigeon Valley -Devrent Valley -Pasabagi – Rose Valley : นอนที่เมือง Capadodia
Day 6 : Kaymakli Underground City – Cavusin – Uchisar – Mustafapasa – Bella Dance Show : นอนที่เมือง Capadodia
Day 7 : Avanos Valley – Ceramic Factory – Carpet Shop – Jewelry – Istanbul – Balat & Fener – Taksim Square : นอนที่เมือง Istanbul โดยวันนี้จะมีการนั่งเครื่องบินในประเทศ 1 ไฟลท์ จากสนามบิน Kayseri ไปยังเมือง Istanbul
Day 8 : Blue Mosque – Hippodrome – Hagia Sophia – Topkapi Palace – Grand Bazaar : นอนที่เมือง Istanbul
Day 9 : Dolmabahce Palace – Bosphorus Cruise Tour – Spice Bazaar – สนามบินอิสตันบูล : เดินทางออกจากสนามบินอิสตันบูลช่วงค่ำ ๆ
Day 10 : ถึงประเทศไทย


รายละเอียดอื่น ๆ ของทริป
ทริปนี้ผมไปกับเพื่อนรวม 6 คนนะครับ และเราตัดสินใจไปเที่ยวผ่านบริษัททัวร์โดยจัดทริปแบบส่วนตัว (Private Trip) ที่เราวางแผนที่เที่ยวเองทั้งหมด และให้ทางบริษัททัวร์ที่เราใช้คอยประสานงานในเรื่องต่าง ๆ ที่เราไม่ถนัดให้ ทั้งเรื่องโรงแรม, รถ, คนขับ, ร้านอาหาร รวมถึงให้เค้าช่วยให้คำปรึกษาหลาย ๆ เรื่องว่าควรปรับแผนเป็นแบบไหนถึงจะเหมาะสมที่สุดครับ
โดยชื่อบริษัททัวร์ที่เราใช้ชื่อว่า “Be Your Travel” ครับ เป็นบริษัทคนไทยที่อาจจะไม่ใช่บริษัทใหญ่ หรือหลายคนคุ้นชื่อมากนัก แต่ว่าเค้าเป็นบริษัทที่เชี่ยวชาญการจัดทัวร์ที่ตุรกีมากพอควรเลย ไม่ว่าจะกรุ๊ปเล็ก Private Trip 4-5 คน หรือกรุ๊ปใหญ่จำนวนหลักร้อยคน เค้าก็มีประสบการณ์ดำเนินการมาหมดแล้วครับ และหลังจากที่พวกเราทั้ง 6 คนได้ลองใช้บริการด้วยตัวเองก็ต้องบอกว่าดีงามประทับใจมากครับ เค้าจัดสรรทุกอย่างได้ดีเลย ทั้งคนขับรถ, รถ, ไกด์, ที่พัก, ร้านอาหาร, ตารางแผนเที่ยว รวมไปถึงการตอบสนองข้อมูลต่าง ๆ ก็รวดเร็วและครบถ้วนดีครับ
“Be Your Travel” เป็นบริษัททัวร์ที่ทำให้ผมรู้สึกว่า เฮ้ยยยย…..การเที่ยวต่างประเทศกับทัวร์ก็ไม่ใช่เรื่องแย่นี่ มันดีและสะดวกสบายมาก ๆ โดยเฉพาะการเดินทางในที่ที่เราไม่คุ้นเคย และกลัวการขับรถด้วยตัวเองครับ นอกจากนี้การที่เราเที่ยวแบบ Private Trip กลุ่มเล็ก ๆ แบบนี้ มันยังทำให้เราได้รับฟังข้อมูลจากไกด์ได้แบบใกล้ชิดและเจาะลึกมากด้วยครับ อย่างทริปนี้ผมก็ได้ข้อมูลดี ๆ เยอะมากแบบที่ถ้าผมแบกเป้มาเที่ยวเองคงไม่ได้แน่ ๆ ครับ


เรื่องอื่น ๆ ที่ควรรู้เกี่ยวกับทริป และ Be Your Travel
- เค้าคือบริษัททัวร์ของคนไทยที่สามารถจัดทริปไปได้หลากหลายประเทศ มีการจดทะเบียนบริษัทถูกต้อง และสามารถจัดทริปได้ทั้งแบบ Private Group กลุ่มเล็ก ๆ 4-5 คน จนไปถึงทัวร์กลุ่มใหญ่หลักร้อยคนครับ
- เค้าสามารถดูแลให้เราได้หมดเลยตั้งแต่ตั๋วเครื่องบิน, ที่พัก, อาหาร, รถ, คนขับ, บอลลูน จนไปถึงโปรแกรมเที่ยวต่าง ๆ เรียกว่าถ้าใครไม่อยากยุ่งวุ่นวายอะไรก็ให้ทาง Be Your Travel จัดการให้หมดได้เลยครับ แต่ถ้าใครคิดว่าสามารถจองบางอย่างได้ถูกกว่า เช่น ตั๋วเครื่องบิน, ที่พักบางวัน, บอลลูน เราก็สามารถแยกจองส่วนเหล่านั้นเองได้ครับ และให้เค้าดำเนินการจองในส่วนที่เหลือที่เราไม่ถนัด

- กรณีที่เราจัดเป็น Private Trip เค้าจะให้อิสระเราในการวางแผนจัดทริปมาก ๆ เราอยากได้อะไรสามารถพูดคุยปรึกษาได้เลย และเค้าจะมีผู้เชี่ยวชาญให้ความเห็นกลับมาว่าโอเคมั้ย หรือควรปรับแก้ตรงไหนครับ นอกจากนี้เรายังสามารถปรับแผนหน้างานได้ด้วย ทำให้มีความยืดหยุ่นกว่าทัวร์ปกติที่ไปกับกลุ่มใหญ่ ๆ อย่างเช่นเคสผมก็มีการสลับที่เที่ยวในแต่ละวันเพื่อหนีฝน, คนกลุ่มใหญ่ หรือมีแม้กระทั่งการเปลี่ยนไปนั่งรถรางแล้วให้รถส่วนตัวไปรอรับอีกจุดหนึ่ง เพื่อทำเวลาในการเที่ยวให้ดีขึ้นครับ
- ในการติดต่อประสานงานก่อนการเดินทางทั้งหมด เราจะติดต่อผ่านคนไทย พูดคุยภาษาไทยครับ ทำให้มันสะดวกในการสื่อสาร และทำความเข้าใจในเรื่องต่าง ๆ ได้ง่ายมากครับ

- ในช่วงระหว่างทริปเราสามารถเลือกได้ว่าจะให้มีไกด์ไทยไปกับเราด้วยมั้ย หรือจะเอาเฉพาะไกด์ตุรกีที่คุยภาษาอังกฤษได้ครับ ซึ่งกลุ่มผมเลือกเอาเฉพาะไกด์ตุรกีที่คุยภาษาอังกฤษได้เท่านั้นนะ และผมก็ได้ไกด์ที่ดีมาก ๆ ด้วย เค้าอัธยาศัยดีมาก ความรู้เยอะ แก้ปัญหาเฉพาะหน้าเก่ง อีกทั้งยังพูดและสื่อสารภาษาอังกฤษได้ดีมากด้วย ฟังแล้วเข้าใจง่ายสุด ๆ ส่วนตัวแล้วผมประทับใจไกด์คนนี้มากครับ และผมแนะนำว่าถ้าหากเราสามารถรีเควสต์ไกด์ได้ ให้เรารีเควสต์ไกด์คนนี้เลยนะครับ เค้าชื่อว่า “Serhat Top” เป็นคนตุรกีโดยกำเนิด และมีประสบการณ์เป็นไกด์มากว่า 30 ปีแล้วครับ
- การที่เรามีไกด์ชาวตุรกีดี ๆ ไปด้วย มันจะช่วยเราได้หลายอย่างเลยครับ ทั้งเรื่องการสื่อสาร, การซื้อซิมการ์ดที่ถูกกว่า, การรู้จักเส้นทางลัดที่จะช่วยให้เราประหยัดเวลา, การปรับแผนหน้างานได้อย่างเหมาะสมและรวดเร็ว และที่สำคัญที่สุดในหลาย ๆ สถานที่ที่ต้องเสียเวลาต่อคิวซื้อบัตร ไกด์เค้าจะมีช่องทางพิเศษที่สามารถพาเราเข้าไปได้เร็วกว่าปกติครับ

- การไปกับทัวร์แบบนี้มันช่วยลดปัญหาเรื่องการหาร้านอาหารได้ดีมาก ๆ ครับ เพราะในแผนเค้าจะมีการจัดร้านอาหารให้เราครบทุกมื้อเลย และแต่ละร้านที่เค้าจัดไว้ให้นั้นถือว่าโอเคเลยครับ
- สำหรับใครที่กลัวว่าอาหารที่ทางทัวร์เค้าจัดไว้ให้จะไม่อร่อย น้อย หรือไม่ถูกใจเรา เราก็สามารถรีเควสต์ร้าน หรือสั่งเมนูอาหารที่เราต้องการเองได้นะครับ โดยขอให้เค้าเสนอราคาทัวร์มาแบบไม่ต้องรวมค่าอาหาร และเราจัดการสั่งเองจ่ายเองในแต่ละมื้อครับ ซึ่งการทำแบบนี้มันก็จะดีตรงที่คุณภาพอาหารจะดีกว่าทัวร์ปกติทั่วไป แต่ก็อาจจะต้องแลกมากับราคาต่อมื้อที่สูงขึ้น รวมถึงเราเองก็อาจจะต้องทำการบ้านเรื่องการหาร้านอาหารต่าง ๆ ไว้ก่อนด้วยครับ

- ตลอดทริปที่ผมไปเค้าจะมีรถพร้อมคนขับคอยบริการเราทุกวันครับ ซึ่งเป็นอะไรที่ดีมากกกก โดยเฉพาะในอิสตันบูลกับตอนที่เราต้องข้ามเมืองไกล ๆ เป็นเวลา 8-10 ชั่วโมงครับ เราไม่ต้องกังวลเรื่องการขับรถหรือปวดหัวเรื่องเส้นทางเลย เราสามารถนอนหลับพักผ่อนหรือเมาท์มอยกับเพื่อน ๆ ได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้เรายังสามารถเลือกประเภทรถที่เหมาะกับจำนวนคนในทริป และไลฟ์สไตล์ของเราได้เลยครับ อย่างกลุ่มผมก็เลือกเป็นรถแวนของเบนซ์ขนาด 7 ที่นั่ง ที่สามารถใส่กระเป๋าเดินทางขนาด 28 นิ้ว จำนวน 6 ใบได้ และรถที่เค้าจัดมาให้เรานั่งนั้นก็ถือว่าดีมากเลยครับ นั่งสบายสุด ๆ, มีที่ชาร์จ USB บนรถให้หลายจุด, มี Wifi บนรถ รวมถึงยังมีตู้เย็นด้วยครับ!!
- กรณีที่จัดเป็น Private Trip ทาง Be Your Travel จะมีการสรุปข้อมูลต่าง ๆ มาให้เราดูก่อนที่จะตัดสินใจจ่ายเงินมัดจำนะครับ ซึ่งถ้าเราไม่โอเคกับที่พักไหน, ร้านอาหารไหน เราก็สามารถพูดคุยปรับเปลี่ยนได้ หรือเราจะจองเองบางส่วนก็ได้ครับ อย่างกลุ่มผมก็มีการจองเอง 4 อย่างด้วยกัน คือ ตั๋วเครื่องบินไปกลับไทย-ตุรกี, ตั๋วเครื่องบินในประเทศตุรกี 2 ไฟลท์, โรงแรมถ้ำที่เมืองคัปปาโดเดีย 3 คืน และการนั่งบอลลูนที่เมืองคัปปาโดเดียครับ
- ด้วยความที่การเดินทางแบบนี้มันคือการเดินทางรูปแบบทัวร์ (แม้จะเป็น Private Tour ก็ตาม) ดังนั้นในโปรแกรมของเรามันจะต้องมีการเข้าร้านเสื้อหนัง, ผ้าฝ้าย, เซรามิค, จิวเวลี่ อะไรพวกนี้ด้วยนะครับ แต่แต่ละร้านที่ไกด์เค้าจัดให้พวกผมนั้นถือว่าดีเลยครับ สวยงาม สถานที่ดี ดูแล้วน่าตื่นตาตื่นใจ และทุกที่ที่เข้าไปนั้นเค้าไม่ได้มีการบังคับซื้อของเลยครับ ไม่ซื้อก็แค่บอกว่า Thank you แล้วเดินออกเท่านั้นเองครับ

ใครที่อยากใช้บริการ Private Trip แบบเรา และคิดว่าสามารถรวมคนได้ 4-8 คนก็ลองติดต่อเค้าดูนะ และนอกจากประเทศตุรกีแล้ว ทาง Be Your Travel เค้ายังสามารถจัดทริปได้อีกหลายประเทศเลยครับ
Facebook : Be Your Travel
IG: beyourtravel2022
LINE : @beyourtravel
Tel : 065-935-9512 หรือ 061-569-6255

ลักษณะอาหารของประเทศตุรกี
ผมขอปิดท้ายรีวิวนี้ด้วยการพูดถึงลักษณะอาหารของประเทศตุรกีแบบรวม ๆ ในความเห็นผมนะครับ ซึ่งมันอาจจะไม่ถูกต้อง 100% นะ แต่ก็น่าจะพอเป็นไกด์ไลน์ให้กับหลาย ๆ คนได้ โดยเฉพาะคนที่มาเที่ยวกับทัวร์รถบัส ที่มีผู้ร่วมทริปมากกว่า 30 คนขึ้นไป อาจจะต้องมีการเตรียมตัวกันนิดนึงครับ เพราะว่าคนไทยจำนวนไม่น้อยเลยที่มาเที่ยวประเทศนี้แล้วรู้สึกว่าอาหารประเทศเค้ามันไม่ค่อยถูกปากครับ ทานได้ไม่กี่วันก็รู้สึกเบื่อหรือเอียนแล้ว
- ตุรกีเป็นประเทศอิสลาม ดังนั้นเมนูอาหารที่ทำจากหมูจะน้อยมาก ๆ ครับ ใครที่อยากทานหมูส่วนใหญ่ต้องทำอาหารทานเอง หรือไม่ก็ต้องไปพวกร้านอาหารเฉพาะทางอย่างไทย, เกาหลี ครับ ซึ่งในอิสตันบูลก็พอมีร้านพวกนี้อยู่บ้างครับ
- ประเภทเนื้อที่เราจะได้เจอบ่อย ๆ ในประเทศนี้ก็คือเนื้อวัว, เนื้อแกะ, ไก่ และปลาครับ ซึ่งผมว่าเค้าปรุงเนื้อวัวกับเนื้อแกะได้เก่งนะ อร่อย นุ่ม ถูกใจเลย
- เนื้อแกะประเทศนี้อร่อยมากครับ นุ่ม และแทบไม่มีกลิ่นเลย ใครทานได้ผมแนะนำให้ลองทานดูนะ
- ส่วนตัวผมว่าเค้าปรุงเนื้อไก่ไม่ค่อยเก่งครับ หลาย ๆ ร้านปรุงมาแล้วเนื้อไก่แน่น เคี้ยวยากมาก นาน ๆ ถึงจะเจอร้านที่ปรุงออกมาได้นุ่ม รสชาติถูกปากคนไทยซักทีครับ

- อาหารส่วนใหญ่ของประเทศนี้มักปรุงออกมาแบบเค็มนำครับ บางเมนูบางร้านนี่คือเค็มมาก @_@
- กรณีที่เราไปทานอาหารแบบไลน์บุฟเฟ่ต์ในโรงแรมหรือในร้านอาหารทั่วไป โดยเฉพาะถ้าใครไปกับทัวร์ ส่วนใหญ่เราจะเจอแต่อาหารซ้ำ ๆ หน้าตาเดิม ๆ ครับ ไลน์อาหารจะเน้นพวกผักและของหวานเป็นหลัก ส่วนเมนูที่เป็นเนื้อหรือกับกับข้าวจานหลักแบบที่คนไทยคุ้นชินกันก็จะมีแค่ 3-4 อย่างเท่านั้น คือ เมนูที่ปรุงจากไก่, เนื้อ แล้วก็ซุป ซึ่งถ้าใครไม่ทานเนื้อกับผักเลยก็จะลำบากหน่อย เพราะมันเหลือเมนูให้ทานแบบน้อยมาก ๆ
- ซุปที่เราจะได้เจอบ่อย ๆ คือ ซุปถั่ว และซุปมะเขือเทศครับ แต่จากที่ได้ลองมาหลายที่ผมไม่ค่อยชอบรสชาติเท่าไหร่นะครับ
- ผักของประเทศนี้สดและดีเลยครับ แต่ว่าเค้าจะไม่ทานน้ำสลัดแบบที่เราคุ้น ๆ กันนะ เค้าจะทานกับน้ำมันมะกอก, เวเนก้า และเลมอนประมาณนี้ครับ ซึ่งส่วนตัวแล้วผมไม่ค่อยชอบทานแบบนี้นะ

- ผลไม้ของประเทศนี้ดีมากครับ ทั้งแบบสดและแห้งเลย โดยประเภทผลไม้เด่น ๆ ที่เรามักจะได้เจอ คือ ส้ม, ทับทิม, เมลอน, แอปเปิ้ล, แอปปริคอท และลูกเกดครับ
- น้ำผึ้งของประเทศนี้ดีมาก โดยไลน์อาหารเช้าของหลาย ๆ ที่มักจะเสิร์ฟมาให้แบบเป็นรังเลย
- แยมของประเทศนี้มีหลากหลายแบบมาก และส่วนใหญ่คุณภาพดีทั้งนั้นครับ จิ้มทานกับขนมปังอร่อยเลย
- ของหวานของประเทศนี้หวานมากกกกกก และผมคิดว่าคนไทยส่วนใหญ่น่าจะไม่ค่อยถูกปากกันครับ และโดยทั่วไปแล้วคนที่นี่เค้ามักจะทานของหวานคู่กับชาหรือกาแฟนะ ไม่ได้ทานกันเพียว ๆ ซึ่งมันจะช่วยทำให้ความรู้สึกหวานจากของหวานลดลงครับ
- ประเทศนี้ดูเหมือนจะชอบกินทับทิมพอควรเลย เพราะผมเห็นเอาไปผสมกับหลายอย่างเลยครับ

- ไอศกรีมสไตล์ตุรกีที่เป็นแบบตักนั้นดีและอร่อยมาก ๆ ครับ ผมลองมา 3-4 ร้านดีหมดเลย โดยลักษณะของมันจะเหนียว ๆ หนึบ ๆ หน่อย และผมคิดว่ามันเป็นอะไรที่ควรต้องลองเลยครับ
- ไลน์อาหารเช้าตามโรงแรมส่วนใหญ่จะมีเมนูเนื้อสัตว์ให้ทานน้อยมาก ส่วนใหญ่จะเน้นชีส, ขนมปัง, แยม, ไข่, และผลไม้สดแห้งเป็นหลักครับ และลักษณะอาหารแต่ละวันแต่ละที่จะคล้าย ๆ กันเลย ดังนั้นคนไทยหลาย ๆ คนจึงเกิดอาการเบื่อง่าย และจะทานกันแค่ไข่ต้มกันเป็นหลัก ส่วนที่เหลือก็จะเปิดมาม่า, น้ำพริก, อาหารซองมาช่วยครับ แต่ตัวผมยังพอทานได้นะ ผมว่าขนมปัง, แยม และน้ำผึ้งเค้าอร่อยดีครับ
- เมนูไข่ที่เราจะได้เจอบ่อยที่สุดคือไข่ต้มครับ นาน ๆ จะเจอไข่คนซักที ส่วนไข่ดาวนั้นตลอดทริปที่ผมไปผมไม่เคยเจอเลยครับ @_@
- ลักษณะข้าวของตุรกีส่วนใหญ่จะเป็นข้าวที่หุงกับเนยครับ มันจะมีความฉ่ำ ๆ มัน ๆ หน่อย ซึ่งบางที่ก็ทำออกมาได้ดีนะ อร่อยทานเพลินเลย แต่บางที่ก็ถึงขั้นฉ่ำแฉะ ทานแล้วแปลก ๆ ครับ

- ขนม Turkish Delight อร่อยดีครับ แต่มันก็มีทั้งร้านที่หวานมาก หวานน้อย อร่อยมาก อร่อยน้อยแตกต่างกันไปนะ แนะนำให้ต้องลองชิมดี ๆ ก่อนตัดสินใจซื้อครับ
- ชาผลไม้ของเค้าอร่อยดีครับ แนะนำเลย
- กาแฟสไตล์ตุรกีเป็นกาแฟที่เข้มมาก!! ใครที่เป็นคอกาแฟเข้ม ๆ ควรลองเลย นอกจากนี้ยังมีบางที่ที่เค้ารับดูโชคชะตาเราจากแก้วกาแฟด้วยนะครับ
- ในอิสตันบูลจะมีร้านอาหารนานาชาติหลายร้านนะครับ ทั้งไทย, จีน, เกาหลี, ญี่ปุ่น และอื่น ๆ ใครที่อยากทานก็ลองหาข้อมูลดูนะ

ก็จบลงแล้วนะครับสำหรับการรีวิวและภาพรวมทริปตุรกี 10 วันของผมครับ โดยหากใครที่ต้องการอ่านเรื่องราวอื่น ๆ ในทริปนี้เพิ่มเติม ทั้งเรื่องโรงแรมถ้ำ, ร้านพรม รวมถึงการนั่งบอลลูนที่เมืองคัปปาโดเกีย ก็สามารถอ่านที่ลิงค์ด้านล่างนี้ได้เลยครับ ผมมีเขียนแยกแบบเจาะลึกแต่ละเรื่องเอาไว้แล้ว
อ่านรีวิวอื่น ๆ ในประเทศตุรกีเพิ่มเติม
▪ Alia Cave Hotel Cappadocia : โรงแรมถ้ำในคัปปาโดเกีย ที่มีมุมถ่ายรูปบอลลูนสวย ๆ บนดาดฟ้า
▪ รีวิวและวิธีการจอง Butterfly Balloon เมือง Cappadocia ประเทศตุรกี
▪ รีวิว “Galerie Ikman” ร้านพรมชื่อดังแห่งเมืองคัปปาโดเกีย
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านจนจบครับ และหากท่านใดอยากติดตามเรื่องราวการกินและเที่ยวของผมกับต๋งแบบใกล้ชิด ก็สามารถกดติดตามแฟนเพจ “ภรรยาหา สามีใช้” ได้เลยครับ แล้วพบกันใหม่รีวิวหน้า สวัสดีครับ
