สวัสดีทุกคนครับ วันนี้ผมมีเครื่องดูดฝุ่นที่มีคุณสมบัติในการดูดฝุ่นและทำความสะอาดโซฟาผ้า, เบาะ และพรม ได้เก่งมาก ๆ มาให้ทุกคนรู้จักครับ ยิ่งบ้านไหนที่มีคราบสกปรกฝังลึกติดแน่นมานาน หรือเป็นบ้านที่เลี้ยงสัตว์อย่างสุนัขและแมวด้วยแล้ว เจ้าเครื่องนี้ยิ่งตอบโจทย์เลยครับ เพราะมันทำความสะอาดคราบฝังลึกต่าง ๆ รวมถึงเก็บเศษผมและขนสัตว์ได้ดีมาก ๆ และเจ้าเครื่องดูดฝุ่นรุ่นที่ว่านี้ก็คือ “Hoover CleanSlate Spot Cleaner” นั่นเองครับ
จุดเด่นของ Hoover CleanSlate
▪️ เป็นเครื่องดูดฝุ่นของ Hoover ซึ่งเป็นหนึ่งในแบรนด์เครื่องดูดฝุ่นชั้นนำของโลก โดยแบรนด์นี้เป็นแบรนด์สัญชาติสหรัฐอเมริกานะครับ และที่สำคัญแบรนด์นี้แหละที่เป็นแบรนด์แรกที่ผลิตเครื่องดูดฝุ่นขึ้นมาจำหน่ายบนโลกนี้ โดยปัจจุบันนี้แบรนด์ Hoover นั้นมีอายุกว่า 110 ปีแล้วครับ!!
▪️ เป็นเครื่องดูดฝุ่นที่มีความสามารถในการดูดฝุ่นบนโซฟาผ้า, เบาะ และพรมเก่งมาก ๆ ยิ่งบ้านไหนที่มีคราบติดแน่นฝังลึก หรือเศษผม, ขนสัตว์เยอะ ๆ ยิ่งตอบโจทย์เลยครับ
▪ มีระบบหัวพ่นสเปรย์น้ำยาทำความสะอาด ซึ่งมันจะช่วยทำให้คราบที่ฝังลึกติดแน่นอยู่หลุดออกมาได้ง่ายขึ้น โดยกรณีที่เราเจอพื้นที่ที่สกปรกมาก หรือคราบฝังลึกติดแน่น ผมแนะนำให้พ่นสเปรย์ออกมาเยอะ ๆ เลยครับ มันจะช่วยให้ทำความสะอาดได้ง่ายขึ้นมาก และเครื่องมันสามารถดูดน้ำที่พ่นออกมาบนวัตถุเหล่านั้นกลับไปได้หมดเลย
▪️ มีน้ำหนักเบา สามารถถือได้ด้วยมือข้างเดียว อีกทั้งยังมีสายไฟที่ยาวกว่า 4 เมตร ทำให้เราสามารถใช้งานได้อย่างคล่องแคล่ว และไม่เสียเวลาย้ายที่เสียบปลั๊กไปมาบ่อย ๆ
▪️ มีหัวแปรงให้ถึง 3 แบบ และเปลี่ยนได้ง่ายมาก ๆ โดยหัวแปรงทั้ง 3 แบบนั้นจะทำให้เราสามารถใช้งานได้ทั้งพื้นที่กว้าง, แคบ และบริเวณที่มีเศษผมหรือขนสัตว์เยอะครับ
▪️ การใช้งานง่ายมากกกกกก มีปุ่มหลัก ๆ แค่ 2 ปุ่มเท่านั้น คือ ปุ่มเปิดปิดเครื่อง และปุ่มฉีดน้ำยาทำความสะอาด เรียกว่าเป็นเครื่องดูดฝุ่นที่ใคร ๆ ก็สามารถใช้งานได้สบาย ๆ เพียงแค่เรียนรู้ไม่ถึง 1 นาทีครับ
▪️ การทำความสะอาดและการถอดอุปกรณ์ต่าง ๆ ง่ายมากครับ
▪️ มีการรับประกันยาวนานถึง 2 ปี
ผลจากการใช้งานจริงและความรู้สึก
ผมได้มีโอกาสใช้งานเครื่องดูดฝุ่น Hoover CleanSlate ทำความสะอาดชุดโซฟาผ้า และพรมเช็ดเท้าที่บ้านมาครับ ซึ่งต้องบอกตรง ๆ ว่าเจ้าของ 2 อย่างนี้คืองานหินของเครื่องดูดฝุ่นทั่วไปเลย เพราะว่าที่บ้านผมเลี้ยงสุนัขพันธุ์ไทยตัวใหญ่อยู่ครับ แถมเจ้าสุนัขบ้านผมเนี่ยมันยังชอบที่ไปจะไปนอนคลุกฝุ่นคลุกดินด้านนอก จากนั้นก็พุ่งตัวมานอนต่อบนโซฟากับพรมเช็ดเท้านี้ครับ @_@
ดังนั้นบอกเลยว่าต่อให้ผมทำความสะอาดโซฟาและพรมนี้ด้วยการตบหรือสะบัดบ่อยแค่ไหน แต่พวกฝุ่นต่าง ๆ ก็จะมีมาเพิ่มตลอดครับ ซึ่งไอ้ครั้นจะให้ถอดไปซักตลอดก็เป็นเรื่องยากมาก ๆ ทั้งการรอให้แห้ง หรือการกำจัดเศษขนต่าง ๆ ครับ
และพอผมได้มาลองใช้งานเครื่องดูดฝุ่น Hoover CleanSlate มันก็ทำให้ผมประทับใจมาก ๆ ครับ เพราะมันตอบโจทย์ผมได้เป็นอย่างดีเลย แถมยังใช้งานง่ายมากด้วย อีกทั้งยังสามารถดูดฝุ่นต่าง ๆ ที่ฝังแน่น รวมไปถึงกำจัดเศษผมเศษขนสุนัขได้ดีมาก ๆ ครับ
นอกจากนี้การที่มันมีหัวแปรงขนาดเล็กมาให้ด้วย มันก็ยิ่งทำให้ผมสามารถทำความสะอาดในหลาย ๆ จุดที่การตบ, สะบัด หรือถอดซักไม่สามารถทำได้ด้วยครับ
และนี่ก็คือเศษของการดูดฝุ่นของผมในวันนี้ครับ บอกเลยว่าเยอะมากกกกกก เยอะจนตกใจ นี่ขนาดผมตบ, สะบัดทำความสะอาดเรื่อย ๆ แล้วนะครับ @_@
โดยภาพด้านล่างที่ทุกคนเห็นนี้จะเป็นฝุ่นที่เกิดจากการดูดแห้งนะครับ ระหว่างที่ดูดผมฉีดสเปรย์พ่นน้ำยาทำความสะอาดแค่นิดเดียวเท่านั้น เพราะผมอยากเห็นชัด ๆ ก่อนว่ามันจะดูดฝุ่นออกมาได้เยอะแค่ไหน ซึ่งก็ต้องบอกว่ามันเยอะมาก ๆ ครับ
อันนี้เป็นพวกเศษผมเศษขนสัตว์ที่ติดอยู่ที่แปรงครับ โดยหากบ้านไหนมีเศษพวกนี้เยอะ ผมแนะนำให้ใช้หัวแปรงยางแบบในรูปด้านล่างนี้นะครับ เพราะมันจะเก็บพวกเศษเหล่านี้ได้ดีกว่าหัวแปรงปกติ
และจากที่ผมได้ลองดูดฝุ่นแบบแห้งก่อน มันก็เลยทำให้รู้ว่าเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพที่ดีที่สุดของเครื่องดูดฝุ่นรุ่นนี้ เราควรพ่นสเปรย์น้ำยาทำความสะอาดออกมาเรื่อย ๆ ระหว่างที่ดูดเลยครับ เพราะกรณีที่เราดูดฝุ่นแบบแห้งยาว ๆ มันอาจจะทำให้เศษฝุ่นไปเกาะตัวหนาแน่นจนทำให้ลมดูดเบาลง และส่งผลให้ประสิทธิภาพในการดูดลงลงครับ ซึ่งหากเกิดกรณีแบบนั้นเราก็ต้องทำการเปิดถัง Waste ออกและเขี่ยฝุ่นเหล่านั้นออกนะครับ
แต่ถ้าเราดูดฝุ่นไปพร้อมทั้งพ่นสเปรย์น้ำยาทำความไปด้วยเรื่อย ๆ ปัญหาด้านบนก็จะไม่เกิดเลยครับ อีกทั้งพวกคราบสกปรกที่ฝังแน่นอยู่ก็จะหลุดออกง่ายขึ้นกว่าเดิมด้วย
และเพื่อให้ทุกคนเห็นภาพชัด ๆ ผมก็เลยจะทดสอบด้วยการทำให้ปลอกหมอนของชุดโซฟาผ้าผมเปื้อนซอส และดินโคลนเยอะ ๆ เลยครับ และเดี๋ยวเรามาดูกันว่าเจ้า Hoover CleanSlate นี้มันจะช่วยชุบชีวิตปลอกหมอนของชุดโซฟาผ้าผมได้มั้ย หรือว่าผมจะต้องทิ้งมันไปเลยครับ @_@
เตรียมอุปกรณ์ที่จะทำให้เปื้อนกันครับ “ซอสมะเขือเทศ และดินโคลนก้อนใหญ่”
เริ่มจากการบีบซอสมะเขือเทศครับ
จากนั้นก็ละเลงให้ทั่ว และกดบี้ลงไปให้มันติดแน่นลงไปในเนื้อผ้า
ต่อด้วยเศษดินโคลนครับ
เสร็จแล้วจะเป็นแบบนี้นะครับ ดูสยองน่ากลัวอยู่นะ พอทำเสร็จผมก็แอบหวั่นใจอยู่เหมือนกันว่ามันจะดูดให้สะอาดหมดจดจริงมั้ย @_@
อ๊ะ อะไรจะเกิดก็ต้องเกิดครับ เตรียมเครื่องดูดฝุ่นให้พร้อม จากนั้นก็ฉีดสเปรย์ทำความสะอาดลงไปเยอะ ๆ เลยครับ
จากนั้นก็มาลองดูดกองซอสมะเขือเทศครับ โอ้โห…..เห็นเลยว่ามันถูดดูดเข้าไปในเครื่องได้เยอะและเร็วมากครับ เห็นแล้วใจชื้นขึ้นมาเยอะเลย
ต่อด้วยเศษดินโคลนครับ อันนี้ก็เห็นเลยว่าถูกดูดเข้าไปในเครื่องได้รวดเร็วเช่นเดียวกัน แถมพวกกองน้ำยาทำความสะอาดที่เราฉีดไปเยอะ ๆ ในตอนแรกนั้นก็ถูกดูดหายไปจนแทบไม่รู้สึกถึงความเปียกบนผ้าแล้วครับ
และนี่ก็คือผลที่ได้ครับ บอกเลยว่าอเมซิ่งมากกกกก สะอาดหมดจดเลยครับ
ส่วนนี่จะเป็นลักษณะของถัง Waste ครับ มันจะเป็นน้ำดำ ๆ แบบนี้เลย ไม่ได้เป็นฝุ่นแห้ง ๆ แบบก่อนหน้านี้ครับ และจากการลองใช้งานทั้ง 2 แบบของผม ผมแนะนำว่าให้ดูดแบบพ่นสเปรย์ไปเยอะ ๆ เถอะครับ มันมีประสิทธิภาพการดูดที่ดีกว่า รวมถึงยังจัดการทำความสะอาดต่าง ๆ ได้ง่ายกว่าด้วยครับ
แนะนำเลยครับ ใครที่กำลังมองหาเครื่องดูดฝุ่นที่ดูดฝุ่นโซฟาผ้า, เบาะ และพรมเก่ง ๆ อยู่ รวมทั้งต้องการขจัดคราบฝังลึกที่ฝังติดแน่นมานาน เจ้า Hoover CleanSlate เครื่องนี้ตอบโจทย์เลยครับ ยิ่งถ้าบ้านใครมีเศษผม, เศษขนสัตว์เยอะ ๆ ด้วย เจ้าเครื่องนี้ยิ่งเหมาะใหญ่
เอาล่ะ รู้ถึงจุดเด่น, ผลการทดลองใช้งาน และความรู้สึกของผมหลังจากที่ได้ลองใช้แล้ว คราวนี้เดี๋ยวผมจะขอเล่าไปถึงพวกอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่มีในกล่อง รวมถึงวิธีการใช้งานแบบละเอียดนะครับ เผื่อใครสนใจจะได้มีข้อมูลแบบครบ ๆ ส่วนในเรื่องของราคา, โปรโมชั่น และช่องทางการซื้อนั้น เดี๋ยวผมจะเขีบนไว้ที่หัวข้อล่างสุดนะครับ
อุปกรณ์ทั้งหมดที่มีในกล่อง
▪️ ตัวเครื่องดูดฝุ่น
▪️ แปรงทั้งหมด 3 แบบ
▪️ น้ำยาทำความสะอาด
▪️ ถ้วยสำหรับตวงน้ำยาทำความสะอาด
▪️ หัวปลั๊กแปลงเพื่อใช้ในประเทศไทย
▪️ ถุงผ้าสำหรับเก็บอุปกรณ์ต่าง ๆ
▪️ ใบรับประกัน
รายละเอียดของอุปกรณ์แต่ละอย่าง
เรามาเริ่มจากตัวเครื่องดูดฝุ่นกันก่อนเลยนะครับ ตัวเครื่องดูดฝุ่น Hoover CleanSlate นั้น จะเป็นเครื่องดูดฝุ่นทรงสี่เหลี่ยมลูกบาศก์ที่มีขนาดไม่ใหญ่มากนัก โดยที่ตัวเครื่องจะมีสายไฟที่ยาวกว่า 4 เมตรมาให้ รวมถึงสายดูดก็มีความยาวที่มากกว่าช่วงแขนของเราครับ ทำให้มันสะดวกในการใช้งานมาก ๆ
ในเรื่องของสายไฟนั้นเค้ามีการจัดระเบียบและเก็บมาได้เป็นอย่างดีเลยครับ โดยมันจะมีสลักอยู่ 2 จุด หากเราต้องการเปิดเอาสายไฟออกมาใช้งาน ก็เพียงแค่หมุนสลักทั้ง 2 จุดขึ้น จากนั้นก็จะสามารถหยิบเอาสายไฟออกมาใช้งานได้ทันทีครับ
ทั้งนี้ลักษณะหัวปลั๊กที่ติดมากับสายไฟนั้น มันจะเป็นหัวปลั๊กแบบ 3 ขาแบนแบบนี้นะครับ ซึ่งถ้าบ้านไหนมีเต้าเสียบที่สามารถรับกับหัวปลั๊กแบบนี้ได้ ก็สามารถเสียบใช้งานได้เลยครับ
แต่ถ้าบ้านไหนไม่มีเต้าเสียบแบบนี้ ทาง Hoover เค้าก็มีหัวปลั๊กแปลงเล็ก ๆ แบบนี้มาให้ในกล่องด้วยครับ ซึ่งพอเราเสียบแปลงปั๊บ มันก็พร้อมจะใช้งานได้ทันที
ส่วนที่ตัวเครื่องดูดฝุ่นนั้น เราจะเห็นว่ามันจะประกอบไปด้วย 2 ถังซ้ายขวาครับ โดยถังที่เขียนว่า Solution Tank มันจะเป็นถังที่เราจะต้องใส่น้ำเปล่ากับน้ำยาทำความสะอาดลงไปในระดับที่มันระบุเอาไว้ ซึ่งเค้าจะมีสเกลบอกไว้ 2 ระดับ คือ แบบพื้นที่เล็ก (Small Area) และแบบพื้นที่ใหญ่ (Large Area) ครับ
ส่วนการถอดถัง Solution Tank ออกมานั้นก็ง่าย ๆ เลย เพียงแค่ยกหูหิ้วขึ้น และใช้แรงดึงนิดหน่อยเท่านั้นเองครับ (ไม่ต้องกดสลักหรือปลดล็อคอะไรเลย)
ส่วนอีกถังนึงนั้นจะเป็นถัง “Waste” หรือถังสำหรับเก็บของเสียที่เราดูดมานั่นแหละครับ ซึ่งการจะปลดถังนี้ได้นั้น เราต้องกดปุ่มที่ด้านบนของตัวถังก่อนนะ จากนั้นก็จะสามารถดึงออกมาได้ครับ
ปิดท้ายที่ลักษณะหัวแปรงทั้ง 3 แบบ และถุงผ้าสำหรับใส่อุปกรณ์ของเค้าครับ โดยหัวแปรงทั้ง 3 แบบนั้นก็มีตามนี้เลยครับ
▪️ หัวแปรงขนสำหรับทำความสะอาดทั่วไป
▪️ หัวแปรงยางสำหรับการเก็บเศษผมและขนสัตว์เป็นพิเศษ
▪️ หัวแปรงขนาดเล็กสำหรับการทำความสะอาดซอกมุมหรือพื้นที่จำกัด
วิธีการเปลี่ยนหัวแปรง
สำหรับวิธีการเปลี่ยนหัวแปรงทั้ง 3 แบบ ของ Hoover CleanSlate นั้นก็ง่ายมาก ๆ ครับ เพียงแค่กดปุ่มหรือดันสลักแค่ทีเดียวก็จบแล้ว
เรามาเริ่มกันที่การเปลี่ยนหัวแปรงสำหรับการทำความสะอาดทั่วไป กับหัวแปรงสำหรับการเก็บเศษผมและขนสัตว์เป็นพิเศษก่อนนะครับ โดยหัวแปรงทั้ง 2 แบบนี้จะเป็นหัวแปรงขนาดใหญ่ 7 นิ้วเหมือนกัน วิธีการเปลี่ยนก็เพียงแค่ใช้นิ้วดันสลักสีแดงที่ยื่นออกมาตรงด้านล่างขึ้น เพียงเท่านี้หัวแปรงเดิมก็จะหลุดออกมาแล้วครับ จากนั้นเราก็เอาหัวแปรงใหม่ใส่ลงไปในช่องนั้นได้เลย
ส่วนวิธีการเปลี่ยนหัวแปรงขนาด 7 นิ้ว ไปเป็นหัวแปรงขนาดเล็กสำหรับการทำความสะอาดซอกเล็ก ๆ นั้น อันนี้จะใช้วิธีการกดปุ่มตามจุดในรูปนะครับ กดและดันออกทางด้านบน จากนั้นก็เอาหัวแปรงใหม่เสียบเข้าไปแทนได้เลยครับ แต่ยังไงก็ฟังเสียงให้ดี ๆ ด้วยนะว่ามันเข้าล็อคแล้วหรือยัง
ทั้งนี้หัวแปรงขนาดเล็กนั้นมันจะมี 2 ด้านนะครับ คือ ด้านขนแปรง (Scrub) และด้านดูดฝุ่น (Suction) ยังไงตอนที่เราดูดฝุ่นก็หันให้ทุกด้านล่ะ เดี๋ยวจะตกใจว่าทำไมฝุ่นมันดูดไม่เข้าครับ
วิธีการใช้งาน Hoover CleanSlate
เอาล่ะ คราวนี้ก็ถึงเวลาเอาเจ้า Hoover CleanSlate ไปดูดฝุ่นกันแล้วครับ โดยวิธีการใช้งานก็ง่าย ๆ ตามนี้เลย
1. เลือกประเภทหัวแปรงที่เราต้องการ
2. ถอดถัง Solution Tank ออกมาจากตัวเครื่อง จากนั้นก็ใส่น้ำและน้ำยาทำความสะอาดลงไปตามสเกลที่มันระบุไว้ โดยหากเป็นพื้นที่ขนาดเล็ก (Small Area) ก็ใช้น้ำยาทำความสะอาด 0.5 ออนซ์ และหากเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ (Large Area) ก็จะใช้น้ำยาทำความสะอาด 1 ออนซ์ครับ
3. ใส่ถัง Solution Tank กลับไปที่ตัวเครื่อง
4. กดปุ่มสีแดงที่ด้านบนตัวเครื่อง เพื่อเป็นการเปิดปิดการดูดฝุ่น
5. กดปุ่มที่บริเวณนิ้วชี้ (ตามรูป) เพื่อพ่นน้ำยาทำความสะอาดลงบนพื้นที่ที่เราต้องการ ซึ่งในบางจุดเราก็ไม่จำเป็นต้องฉีดพ่นก็ได้ครับ แต่ถ้าใครอยากจะทำความสะอาดแบบสุด ๆ ขจัดพวกคราบฝังลึกต่าง ๆ ผมแนะนำให้ฉีดนะครับ
6. เมื่อดูดฝุ่นเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ถอดอุปกรณ์ทั้งหมดไปทำความสะอาดครับ
วิธีการทำความสะอาด
สำหรับวิธีการทำความสะอาดเครื่องดูดฝุ่น Hoover CleanSlate นั้นจะมีหลายส่วนนะครับ แต่บอกเลยว่าแต่ละส่วนนั้นทำได้ง่าย ๆ เลย
วิธีการทำความสะอาดหัวแปรง
อันนี้เพียงแค่เราถอดหัวแปรงแต่ละส่วนให้แยกออกจากกัน จากนั้นก็นำไปล้างน้ำเปล่า หรือใส่น้ำยาทำความสะอาดที่ต้องการก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยครับ
ทั้งนี้กรณีที่หัวแปรงของเรามีเส้นผมหรือขนสัตว์ติดเยอะ ผมแนะนำให้หาไม้แหลม ๆ มาเขี่ยเศษเหล่านั้นออกนะครับ มันจะออกง่ายกว่าการล้างด้วยน้ำเฉย ๆ ครับ
วิธีการทำความสะอาดถัง Waste
1. กดปุ่มเพื่อถอดถัง Waste ออกจากตัวเครื่อง
2. ดึงฝาด้านบนออกตรง ๆ
3. เทของที่อยู่ในถังทิ้งให้หมด
4. นำถังไปล้างทำความสะอาด และผึ่งให้แห้ง
วิธีการทำความสะอาดท่อดูดฝุ่น
1. เติมน้ำเข้าไปในถัง Solution Tank เท่าที่เราต้องการ โดยตามคู่มือเค้าบอกว่าให้ใช้น้ำอุ่นอุณหภูมิ 60 องศาเซลเซียสนะครับ แต่ผมคิดว่าใช้น้ำทั่วไปก็พอได้เหมือนกัน และไม่ยุ่งยากด้วย
2. ถอดหัวแปรงดูดฝุ่นออก และตรงจุดนี้เราจะเห็นเลยว่าด้านในท่อดูดฝุ่นมันจะสกปรกพอควรครับ
3. ถอดฝาปิดท่อดูดฝุ่นออกมา ซึ่งฝาที่ว่านี้มันจะอยู่ที่ด้านบนของตัวเครื่องดูดฝุ่นนะครับ
4. นำฝาปิดนี้ไปปิดท่อดูดฝุ่นตามรูปแบบด้านล่าง
5. กดปุ่มเปิดเครื่อง
6. กดปุ่มฉีดน้ำไปเรื่อย ๆ โดยเราจะเห็นว่าน้ำจาก Solution Tank มันจะถูกฉีดให้ไหลผ่านท่อไปจนถึงถัง Waste ครับ
7. ฉีดล้างท่อจนเรารู้สึกว่ามันสะอาดหรือพอใจ จากนั้นก็กดปุ่มปิดเครื่อง
8. เทน้ำในถัง Waste ทิ้ง และนำไปผึ่งให้แห้ง
วิธีการทำความสะอาด Solution Tank
ถอดถังออกจากตัวเครื่อง ใส่น้ำเปล่าลงไป จากนั้นก็เทออกมา และผึ่งให้แห้ง
ราคา, โปรโมชั่น และช่องทางการซื้อ
สำหรับราคาปกติของเครื่องดูดฝุ่น Hoover CleanSlate จะอยู่ที่ 12,900 บาทครับ แต่ว่าช่วงนี้เค้ามีราคาโปรโมชั่นอยู่ที่ 8,900 บาท ซึ่งถ้าเป็นราคาหลังนี้ผมว่ามันน่าสนใจมากเลยนะ เพราะมันเป็นเครื่องดูดฝุ่นที่ใช้งานง่าย ประสิทธิภาพในการดูดสูง และช่วยตอบโจทย์หลายอย่างเลย โดยเฉพาะบ้านที่มีโซฟาผ้า หรือพรมเยอะ ๆ ครับ
ใครดูแล้วสนใจและคิดว่าเจ้าเครื่องดูดฝุ่น Hoover CleanSlate นี้ จะสามารถมาช่วยแบ่งเบาภาระต่าง ๆ ของเราได้ ก็สามารถซื้อได้ตามช่องทางด้านล่างนี้ได้เลยครับ ส่วนตัวผมนั้นบอกเลยว่าชอบมาก ประทับใจเลย!!
Facebook : Hoover Thailand เครื่องใช้ไฟฟ้า จากสหรัฐอเมริกา
Shopee : Hoover Thailand
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านจนจบครับ และสำหรับใครที่อยากจะอ่านเรื่องราวอื่น ๆ เพิ่มเติมก็สามารถกดติดตามได้ที่แฟนเพจ “ภรรยาหา สามีใช้” ได้เลยครับ แล้วพบกันใหม่ สวัสดีครับ