จากที่ผมได้มีประสบการณ์ไป Universal Studios Japan มา ในวันที่ 29 มี.ค. 66 และช่วงนั้นถือเป็นช่วง High Season ของปี คนไปกันแบบเยอะมากกกกก เยอะแบบสุด ๆ ผมก็เลยสรุปเอาประเด็นที่น่าสนใจมาเล่าสู่กันฟังครับ เผื่อใครกำลังวางแผนจะไปเที่ยวที่นี่จะได้เตรียมตัวกันถูก ^^
1. บัตรผ่านประตูของ Universal Studios Japan (USJ) นั้นมีหลายแบบมากครับ แต่อันที่คนไทยนิยมซื้อกันมากที่สุดจะเรียกว่า “1 Day Studio Pass” ครับ ซึ่งไอ้เจ้าบัตรประเภทนี้มันยังมีการแบ่งแยกย่อยออกไปเป็น 4 แบบนะ เรียกว่า A, B, C, D โดยแบบ A จะราคาถูกที่สุด และแบบ D จะราคาสูงที่สุดครับ
2. ในแต่ละวันทางสวนสนุกจะจำหน่ายตั๋ว 1 Day Studio Pass แค่แบบเดียวเท่านั้นนะครับ และเราไม่สามารถเลือกได้ว่าจะเอาแบบ A, B, C หรือ D เราต้องซื้อตามที่ทางสวนสนุกกำหนดเท่านั้น เช่น ถ้าเราต้องการไปวันที่ 1 พฤษภาคม 2566 ระบบมันจะแจ้งว่าวันนั้นคุณจะต้องซื้อเป็นตั๋วประเภทไหน ราคาเท่าไหร่ครับ โดยช่วงที่พีค ๆ คนไปเยอะ ๆ เช่น วันเสาร์-อาทิตย์, วันหยุด, ช่วงซากุระบาน ทางสวนสนุกก็มักจะกำหนดให้ช่วงวันเหล่านั้นเป็นตั๋วแบบ C และ D ซึ่งมีราคาสูงครับ
3. หลังจากที่เราซื้อตั๋ว 1 Day Studio Pass เสร็จเรียบร้อยแล้ว เราจะเห็นว่าตั๋วที่เราได้นั้นมันจะระบุเป็นช่วงเวลาที่สามารถใช้ได้ครับ (ไม่ได้ระบุวันเป๊ะ ๆ) เช่น สามารถใช้ได้ตั้งแต่ 1 พฤษภาคม 2566 – 1 กรกฎาคม 2566 นั่นหมายความว่าเราสามารถที่จะเอาตั๋วเข้านี้ไปใช้วันไหนก็ได้ในช่วงเวลานั้น แต่จะต้องเป็นวันที่เป็นรูปแบบตั๋ว Type เดียวกันเท่านั้นนะ เช่น เราซื้อมาเป็นแบบ C เราก็ต้องเอาไปใช้วันที่ทางสวนสนุกกำหนดเป็นแบบ C เท่านั้นครับ
4. นอกจากตั๋วเข้าแบบ 1 Day Studio Pass แล้ว มันยังมีอีกอย่างนึงที่หลายคนชอบซื้อกันด้วย นั่นก็คือบัตร Express Pass ครับ โดยบัตร Express Pass นั้นจะเป็นบัตรที่ทำให้เราเล่นเครื่องเล่นที่เค้าระบุไว้ได้เร็วกว่าคนทั่วไปมาก ๆ เพราะมันจะมีแถวพิเศษแยกออกไปเลย แต่ว่าราคาของมันก็สูงใช้ได้เลยล่ะ โดยในบางช่วงเวลาของปีบัตร Express Pass อาจจะมีราคาสูงกว่าบัตรเข้าแบบ 1 Day Studio Pass ถึง 2 เท่าเลยครับ
5. บัตร Express Pass นั้นมีหลายแบบมาก ทั้งจำนวนเครื่องเล่นต่างกัน, ประเภทเครื่องเล่นที่เล่นได้ต่างกัน ยังไงก็ดูรายละเอียดให้ดี ๆ ก่อนกดซื้อนะครับ
6. เราสามารถซื้อตั๋วเข้าแบบ 1 Day Studio Pass และบัตร Express Pass ล่วงหน้าได้ 60 วัน โดยเราจะซื้อผ่านเวบ Universal Studios Japan โดยตรงก็ได้ หรือจะซื้อผ่านตัวแทนในไทยก็ได้ เอาที่แต่ละคนสะดวกเลยครับ
7. เรามี Express Pass แค่อย่างเดียว ไม่สามารถเข้าสวนสนุกได้นะ เราต้องซื้อบัตรเข้าแบบปกติก่อนด้วย ซึ่งถ้าเป็นช่วง High Season ของปีนั้น ค่าบัตรเข้า + Express Pass 4 เครื่องเล่นก็ราว ๆ 6,500 – 7,000 บาท/คน ได้ครับ
8. กรณีที่เราซื้อ Express Pass ผ่านเวบ Universal Studios Japan โดยตรง เราจะสามารถเลือกช่วงเวลาเข้าและเล่นโซน Super Nintendo World และ Harry Potter ได้เลยครับ แต่กรณีที่เราซื้อผ่านตัวแทนในไทยบางเจ้า เช่น klook, kkday เราจะไม่สามารถเลือกเวลาได้ มันจะเป็นเวลาแบบสุ่ม ซึ่งบางครั้งเวลามันอาจจะไม่เวิร์ค ไม่ใช่แบบที่เราต้องการซักเท่าไหร่ครับ
* สำหรับใครที่อยากจะซื้อผ่านตัวแทนในไทยและเลือกเวลาได้ ลองสอบถามทาง HIS หรือ JTB ดูนะครับ เห็นว่าเลือกเวลาที่ต้องการได้ แต่ว่าอาจจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมนะครับ
9. ในการซื้อบัตรผ่านเวบ Universal Studios Japan โดยตรง เราอาจจะต้องใช้ความพยายามหน่อยนะครับ เพราะในขั้นตอนการจ่ายเงินช่วงสุดท้ายมันขึ้น error บ่อยมาก ผมลองจ่าย 3 ครั้ง ผ่านบัตรเครดิตแบบ Visa และ Mastercard แต่ก็ไม่ได้เลยครับ สุดท้ายผมเลยถอดใจกลับมาซื้อผ่านตัวแทนในไทยเอา (เห็นว่าถ้าใช้ Apple Pay หรือบัตรเครดิตของ JCB จะมีปัญหาในการจ่ายน้อยกว่าครับ)
10. ทาง USJ เค้ามีแอพมือถือให้โหลดด้วยนะครับ ชื่อ “Universal Studios Japan” ตรง ๆ เลย มีทั้งระบบ iOS และแอนดรอยด์ ซึ่งเจ้าแอพนี้มันดีมาก ๆ ครับ เพราะสามารถทำได้ทุกอย่างตามนี้เลย
▪ ลงทะเบียนเข้าสวนสนุกแบบ E-Ticket เพื่อจองเวลาเข้าโซน Super Nintendo World ได้ โดยที่เราไม่ต้องมี Express Pass ครับ (แต่เข้าไปแล้วก็ต้องรอคิวเครื่องเล่นตามปกตินะ)
▪ ดูเวลาการรอของแต่ละเครื่องเล่นได้แบบ Real time
▪ ดูรอบเวลาของโชว์ต่าง ๆ
▪ แผนที่ของสวนสนุก, ตำแหน่งของแต่ละเครื่องเล่น รวมไปถึงตำแหน่งของร้านอาหาร
▪ ระบบนำทางที่จะพาเราไปยังเครื่องเล่นที่ต้องการ อยากไปที่ไหนกดให้มันบอกทิศทางได้เลยครับ ไม่มีหลงแน่นอน
ส่วนวิธีลงทะเบียนแบบ E-Ticket ก็ให้เราเข้าแอพไปแล้วก็เลือกหัวข้อ Timed Entry eTicket จากนั้นก็เลือก Register Park Passes และสแกนบัตรของแต่ละคนเข้าไปครับ โดยมือถือหนึ่งเครื่องจะสามารถลงทะเบียนได้หลายใบ และหากใครที่อยากจะจองเวลาเข้าโซน Super Nintendo World พร้อมกันทั้งกลุ่ม ผมแนะนำให้ลงไว้ในเครื่องเดียวนะครับ มันจะสะดวกและจองเวลาง่ายกว่ามาก
11. กรณีที่เราโหลดแอพ USJ มาแล้วและมันแสดงเป็นภาษาญี่ปุ่น ให้เราลองเปลี่ยนระบบภาษาของมือถือเราเป็นภาษาอังกฤษก่อนนะครับ โดยถ้าเครื่องใครมีให้เลือกทั้งภาษาอังกฤษแบบ US และ UK ให้เลือกเป็น US นะครับ (ถ้าใครยังไม่ได้ให้ลองสลับภาษาอังกฤษ UK, US ไปมา หรือเปลี่ยน region เป็น United State นะครับ)
12. กรณีที่เรามี Express Pass อยู่แล้ว เราก็สามารถกดจองเวลาเข้า Super Nintendo World เพิ่มอีกรอบได้นะ ซึ่งถ้าใครกดได้ก็จะสามารถเข้าโซนนี้ได้ 2 ครั้งใน 1 วันเลยครับ ส่วนวิธีกดก็เพียงแต่เข้าแอพไปแล้วก็เลือกหัวข้อ Area Tine Entry Ticket แล้วก็เลือก Super Nintendo World ครับ โดยแอพมันจะเลือกเวลาที่ว่างและใกล้ที่สุดให้เราเลือกแค่ 2-3 ช่วงเวลาครับ เราไม่สามารถเลือกเวลาไกล ๆ ได้ และกรณีที่เข้าไปแล้วไม่มีเวลาให้เลือกแสดงว่ามันเต็มหมดทั้งวันแล้วนะครับ
13. เราจะสามารถจองเวลาเข้า Super Nintendo World ผ่านแอพได้ก็ต่อเมื่อเราผ่านประตูสวนสนุกเข้าไปแล้วเท่านั้นนะครับ (ไม่สามารถทำการจองล่วงหน้าได้) โดยบางครั้งมันอาจจะต้องรอเวลาซัก 5 นาทีหลังผ่านประตูไปแล้ว ระบบมันค่อยจะเปิดให้เราจองครับ
14. กรณีที่เราซื้อ Express Pass ให้กับเด็ก ๆ หรือลูกของเราด้วย และพบปัญหาว่าบางเครื่องเล่นมีการระบุส่วนสูง และทำให้เด็ก ๆ หรือลูกของเราไม่สามารถเล่นเครื่องเล่นนั้นได้ เราสามารถที่จะนำสิทธิ์ Express Pass ของเครื่องที่เล่นไม่ได้นั้นไปใช้เล่นเครื่องเล่นอื่นที่เค้าสามารถเล่นแทนได้นะครับ โดยเราสามารถประสานงานที่เจ้าหน้าที่บริเวณหน้าเครื่องนั้น ๆ ได้เลย
15. บางเครื่องเล่นจะมีฟังก์ชั่น Swap Child ที่จะให้ผู้ปกครองสามารถสลับกันเล่นทีละคนได้ เพื่อที่จะได้มีคนนึงคอยดูแลเด็กหรือลูก ๆ ตลอดเวลาครับ โดยเราสามารถดูในแอพ Universal Studios Japan ได้เลยว่าเครื่องไหนที่มีฟังก์ชั่นนี้บ้างครับ
16. ทางสวนสนุกอนุญาตให้นำน้ำเปล่าขวดเล็ก ขนาดไม่เกิน 500 มล. เข้าไปได้ แต่จะไม่อนุญาตให้เรานำของกินเข้าไปนะครับ โดยเค้าจะมีการตรวจกระเป๋าที่บริเวณทางเข้าด้วย ซึ่งในวันที่ผมไปนั้น (29 มี.ค. 66) ตอนที่เจ้าหน้าที่ตรวจเจอเค้าจะไม่ได้ยึดหรือให้ทิ้งครับ แต่จะแจ้งเตือนว่าห้ามทานเท่านั้น แต่ก็เห็นว่าบางวันบางคนโดนให้ทิ้งทั้งหมดก็มีนะครับ
17. บริเวณหน้าห้องน้ำหลาย ๆ จุด จะมีที่ให้กดน้ำเปล่าฟรีครับ ใครอยากประหยัดก็เอาขวดไปกดเติมได้ตลอดเลย ส่วนถ้าใครอยากทานพวกน้ำหวานเค้าก็จะมีตู้หยอดเหรียญอัตโนมัติอยู่หลายจุดครับ ราคาไม่โหดร้ายมาก ประมาณ 250 เยน/ขวด ครับ
18. ในบางช่วงของปีทางสวนสนุก USJ มักจะเปิดประตูจริงก่อนเวลาที่บอกไว้ในแอพ 30-45 นาทีเลยครับ ดังนั้นใครที่ไปรอตั้งแต่เช้า ๆ ก็จะได้เปรียบหน่อย เพราะจะได้เข้าตั้งแต่เนิ่น ๆ คิวน้อย ได้เล่นบางอย่างเร็วครับ ซึ่งผมแนะนำให้คนที่ต้องการไปที่นี่เช็คข้อมูลเรื่อย ๆ ตามกลุ่มเที่ยวญี่ปุ่นนะ ว่าช่วงที่เราต้องการจะไปนั้นเค้าเปิดตามเวลาปกติหรือเปิดเร็วกว่าปกติครับ เราจะได้ไม่เสียโอกาสในการเข้าไปครับ
19. หลาย ๆ เครื่องเล่นสามารถต่อแถวเล่นได้จนเกือบถึงเวลาสวนสนุกปิดเลยครับ อย่างวันที่ผมไปสวนสนุกปิด 22.00 น. แต่ช่วง 21.30 น. หลาย ๆ คนก็ยังรอต่อคิวเล่นบางเครื่องอยู่เลย
20. บางเครื่องเล่นมันจะมีแถว Single Rider หรือแถวสำหรับผู้เล่นคนเดียวนะครับ ซึ่งโดยปกติแล้วมันจะเร็วกว่าแถวปกติพอควร แต่ว่าเราจะถูกแยกไปเล่นคนเดียวกับใครก็ไม่รู้ (ไม่ได้เบ่นกับเพื่อนเรา) และในบางช่วงเวลาเค้าก็อาจจะปิดรับคิวแถว Single Rider เป็นการชั่วคราวก็ได้ครับ
สุดท้ายนี้ขอให้ทุกคนมีความสุขและสนุกกับการไปเที่ยว Universal Studios Japan นะครับ!! และสำหรับใครที่อยากจะติดตามเรื่องราวกินและเที่ยวของผมกับต๋งแบบรวดเร็วทันใจก็สามารถกดติดตามได้ที่เพจ “ภรรยาหา สามีใช้” ได้เลยครับ