สวัสดีทุกท่านครับ วันนี้ผม “ภรรยาหา สามีใช้” จะพาทุกท่านไปรีวิวร้านอาหารญี่ปุ่นย่านทองหล่อร้านนึงครับ ซึ่งครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งที่สองแล้วที่ผมได้มีโอกาสไปทานที่ร้านนี้ครับ โดยครั้งแรกที่ผมได้มีโอกาสไปทานนั้นผมค่อนข้างประทับใจหลายๆ อย่างแต่ด้วยราคาที่แอบแพงกว่าร้านตามห้างทั่วๆ ไป ทำให้ผมต้องชั่งใจ ชั่งกระเป๋าเงินก่อนที่จะไปกินนิดนึงครับ > <
ร้านนี้มีชื่อว่า “Sushi Otaru” ครับ และมีพิกัดของร้านตั้งอยู่ที่ Arena 10 ทองหล่อซอย 10 นั่นเองครับ เมื่อเราเข้าไปใน Arena 10 ให้หาตึกใหญ่ๆ ที่มี 3 ชั้นครับ ร้านซูชิ โอตารุ จะอยู่ที่ชั้น 3 ของตึกนั้นครับ
เมื่อเราเดินไปที่ตึกจะเห็นป้ายชื่อร้านชัดเจนครับ และสามารถเลือกได้ว่าจะเดินขึ้นบันไดหรือจะใช้ลิฟท์ครับ สำหรับสายขยันกินแต่ขี้เกียจออกกำลังแบบผมก็แน่นอนว่าต้องเลือกขึ้นลิฟท์อยู่แล้วครับ ฮา
Disclosure : บทความนี้เป็นบทความที่ไม่ได้รับการสนับสนุนจากผู้ให้บริการใดๆ ทั้งสิ้น
อ้อ ร้านนี้จะเปิดบริการเป็นช่วงเวลานะครับ ไม่ได้เปิดตลอดทั้งวัน โดยช่วงเที่ยงเริ่มเปิดตั้งแต่ 11.30 น จนถึง 14.30 น. และช่วงเย็น เปิดตั้งแต่ 17.00 น. จนถึง 23.00 น. ครับ ถ้ายังไงก่อนที่จะไปทานก็เช็คเวลากันดีๆ นะครับ
สำหรับรายละเอียดของวันที่ผมไปทานก็ตามนี้เลยครับ
วันที่ทาน : วันพฤหัสบดี ที่ 29 ตุลาคม 2558
เวลาประมาณ 20.00 น.
จำนวน 2 ท่าน
เมื่อเรามาถึงชั้น 3 ก็จะเจอป้ายชื่อร้านสวยๆ และประตูกระจกครับ หลังจากที่ผ่านประตูกระจกไปก็จะพบภายในร้านที่ผมว่าเค้าแต่งได้สวย ดูดี เลยครับ ออกแนวเรียบๆ แต่หรู ดูได้นานครับ
โดยลักษณะที่นั่งของทางร้านนั้น จะแบ่งออกเป็น 3 ประเภทง่ายๆ ครับ
-
เก้าอี้หน้าเคาเตอร์บาร์
-
โต๊ะแบบปกติทั่วๆ ไป
-
ห้องส่วนตัว
โดยห้องส่วนตัวนั้นมีทั้งหมด 4 ห้องครับ และมีขนาดห้องที่แตกต่างกันออกไปครับ ซึ่งครั้งที่แล้วที่ผมได้มาทานที่ร้านนี้ ผมได้ใช้บริการที่ห้องส่วนตัวของทางร้านครับ ถ้าผมจำไปไม่ผิดโดยปกติทางร้านจะคิดค่าบริการการใช้ห้องด้วย แต่วันนั้นทางร้านได้ให้สิทธิ์พิเศษกับกลุ่มของผมโดยให้ใช้ห้องฟรี ไม่คิดค่าใช้จ่ายเพิ่มครับ และนี่คือเรื่องที่ 1 ที่ผมประทับใจในร้านนี้ครับ (วันนั้นกลุ่มผมไปทั้งหมด 10 คนครับ)
สำหรับวันนี้ผมเลือกนั่งที่โต๊ะปกตินอกห้องครับ หลังจากที่ผมได้โต๊ะเรียบร้อยแล้ว ทางพนักงานก็ได้นำเมนูมาให้ครับ ซึ่งผมเองก็มีรายการที่จะสั่งไว้ในใจแล้ว นั่นก็คือเมนูราคาพิเศษสำหรับผู้มีบัตรสมาชิกครับ
โดยปกติบัตรสมาชิกนั้นจะเสียค่าสมัคร 990 บาท และจะได้รับสิทธิ์พิเศษ 2 อย่าง อย่างที่ 1 คือ สามารถสั่งเมนู Promotion หรือราคาพิเศษได้ และอย่างที่ 2 ก็คือ สะสมแต้มครับ แต่ครั้งที่แล้วที่ผมได้มาทานที่ร้านนี้ทางร้านได้เปิดบัตรสมาชิกให้กลุ่มผมฟรีๆ แบบไม่มีค่าใช้จ่าย และทำให้กลุ่มผมสามารถเลือกสั่งเมนูตามใบรายการนี้ได้เลยครับ
และนั่นคือเรื่องที่ 2 ที่ผมประทับใจในร้านนี้ครับ เพราะบอกตามตรงว่าหลังจากที่ตอนนั้นพวกเราดูราคาในเมนูในตอนแรกแล้ว หากไม่มีส่วนลดใดๆ ด้วยรายได้และกำลังจ่ายของกลุ่มผมในวันนั้นคงทำให้แต่ละคนกระอักเลือดหรือช้ำในได้ครับ T___T
แต่พอได้สิทธิ์พิเศษแบบนี้ ทำให้วันนั้นเราสบายใจในการกินมากขึ้นครับ และสำหรับวันนี้ผมก็เลือกใช้สิทธิ์พิเศษสั่งเมนูลดราคาตามเดิม โดยมีรายการที่สั่งตามนี้ครับ
-
แซลมอน ซาชิมิ 2 ที่
-
ข้าวปั้นหน้าปลาไหล (Unagi) 2 คำ
-
ข้าวปั้นหน้าฟัวกราส์ (Foie Gras) 1 คำ
-
แซลมอน ชีส โรล 1 ที่
-
ชาเขียวเย็น (Refill) 2 แก้ว
หลังจากที่ผมสั่ง order ครบแล้ว ระหว่างที่รออาหารผมก็ดูเมนูไปเรื่อยและถ่ายรูปเล่นไปเรื่อยครับ
ภาพนี้เป็นภาพ Set อุปกรณ์การกินของที่นี่ครับ
นั่งรอไปซักพัก พนักงานก็ยกชาเขียวเย็นมาเสิร์ฟครับ สำหรับเมนูนี้ ราคาแก้วละ 60 บาทครับ รสชาติผมว่าอร่อยดีนะครับ หอม และเหมือนมีข้าวญี่ปุ่นผสมด้วย แต่เรื่องราคานี่ถือว่าเป็นร้านที่ขายชาเขียว Refill แพงเป็นอันดับต้นๆ เลยครับ
อ้อ สำหรับจุดเด่นหลักๆ ของร้านนี้ที่มีการประชาสัมพันธ์ไปยังภายนอกนั้นจะมีอยู่ 2 อย่างครับ คือ
-
เชฟที่ทำนั้นเป็นเชฟที่มีชื่อเสียงเคยแข่งชนะรายการเชฟกะทะเหล็กครับ
-
วัตถุดิบของทางร้านั้นจะคัดสรรอย่างดี โดยนำเข้าตรงมาจากฮอกไกโด รับประกันความสดใหม่ครับ
ต่อมาไม่นานอาหารก็เริ่มมาเสิร์ฟครับ เริ่มจากแซลมอน ซาชิมิ ครับ ผมสั่งไป 2 ที่ โดย 1 ที่จะได้ 3 ชิ้นครับ โดยทางร้านได้จัดมาเสิร์ฟรวมในภาชนะเดียวกันเลยครับ ซึ่งถือว่าเป็นจุดเด่นอีกอย่างของทางร้านนี้เลยเนื่องจากภาชนะที่ใส่มานั้นจะมีการจัดค่อนข้างสวยงามครับ อย่างครั้งที่แล้วที่ผมมาตอนนั้นสั่งมาราวๆ 6 ที่ ทางร้านจัดมาอย่างสวยงามอลังการดาวล้านดวงมาก ทุกคนก็เลยถ่ายรูปลง ig, FB อวดชาวโลกกันใหญ่เลยครับ
สำหรับวันนี้ความสวยงามของภาชนะอยู่ในระดับกลางๆ ไม่อลังการเท่าครั้งที่ผ่านมา ส่วนลวดลายและความหนาของแซลมอนถือว่าสวย และหนา ไม่ผิดกับที่ผมเคยทานครับ
เมนูนี้โดยปกติราคาสำหรับ 1 ที่ (แซลมอน 3 ชิ้น) จะอยู่ที่ 360 บาท แต่ผมใช้สิทธิ์ลด 60% ก็เลยเหลือแค่ 144 บาท/ที่ครับ
ความหนาของแซลมอนถือว่าชิ้นหนามากครับ ลวดลายสวยงาม และเรื่องรสชาติผมว่าอร่อย ถูกปากมากครับ ไม่มัน เนื้อแน่น กำลังดีครับ หากจะเทียบกันแล้วผมว่าคุณภาพดีกว่า Sushi Hiro ครับ แต่ Sushi Hiro ได้เรื่องของความคุ้มค่าที่มากกว่า เพราะ 1 ที่ของ Sushi Siro ได้ 5 ชิ้น และราคายังถูกกว่าเพราะมีราคาเพียงแค่ 108 บาท/ที่เท่านั้นครับ
มาต่อกันที่เมนูถัดไปครับ เป็นข้าวปั้นหน้าปลาไหล (Unagi) โดยปกติราคาคำละ 190 บาท แต่ผมใช้สิทธิ์ 60% เหลือ 76 บาท/คำครับ
เมนูนี้ผมกับภรรยาแบ่งกันทานคนละคำครับ รสชาติที่ได้ถือว่ากลางๆ ครับ ไม่ได้รู้สึกประทับใจอะไรมาก มีอีกหลายร้านที่อร่อยกว่านี้ครับ แต่ถ้าเทียบกับราคาแล้วก็ถือว่าไม่ตก ไม่หล่น ไม่เจ็บตัวครับ เพราะขนาดความหนาของปลาไหลค่อนข้างมากและปกติข้าวปั้นหน้าปลาไหลหลายๆ ร้านจะวางราคาสูงกว่านี้เล็กน้อยครับ (ผมเทียบกับราคาที่ลดแล้วนะครับ แต่ถ้าเทียบกับราคาเต็มแล้วถือว่าสอบตก ไม่คุ้มค่าเลยครับ)
มาต่อกันที่เมนูที่ 3 ครับ นั่นคือ ฟัวกราส์ เมนูนี้ผมสั่งมาคำเดียว แบ่งกันชิมกับภรรยาครับ เมนูนี้เป็นเมนูที่ผมอยากลองทานมานานแล้ว แต่ไม่มีโอกาสได้ลองซักทีเนื่องจากเข้าร้านไหนราคาเมนูนี้ก็สูงทั้งนั้น แต่วันนี้ผมได้ที่ราคา 116 บาท/คำ ก็เลยเสี่ยงลองสั่งมาดูครับ (ปกติร้านนี้จะราคา 290 บาท/คำ ครับ)
สำหรับรสชาติเนื่องจากผมไม่เคยทานมาก่อนก็เลยไม่รู้จะเปรียบเทียบกับอะไร เอาเป็นว่าตัวฟัวกราส์นั้น นุ่ม ละลายในปาก แต่โดยส่วนตัวผมว่ามันแปลกและไม่ค่อยเข้ากับข้าวปั้นเท่าไหร่ครับ ครั้งหน้าถ้าไปร้านอื่นก็คงไม่สั่งเมนูนี้แล้วครับ เก็บเงินไว้กินหน้าที่เป็นพวกปลาดีกว่าครับ
ต่อกันด้วยเมนูที่ 4 ซึ่งเป็นเมนูสุดท้ายครับ แซลมอน ชีส โรล ปกติราคา 650 บาท แต่ใช้สิทธิ์ลดแล้วเหลือ 390 บาทครับ จานนี้มาเสิร์ฟที่จำนวน 5 คำครับ
ขนาดแต่ละคำถือว่าใหญ่มากครับ ต้องเรียกว่าผมนั้นต้องอ้าปากกว้างๆ แล้วจึงจะพอยัดเข้าไปได้ครับ ส่วนภรรยาผมแน่นอนว่าต้องแบ่งทานทีละครึ่งครับ
เรื่องรสชาตินั้น ถือว่าโอเคสอบผ่านครับ มีประทับใจเล็กๆ ก็ตรงที่ในโรลมีปลาไหลผสมอยู่ด้วยครับ
อ้อ ทางร้านมีบริการอาหารทานเล่นและผลไม้ให้ฟรีด้วยนะครับ โดยของทานเล่นนั้นวันที่ผมไปทานมีหน้าตาแบบนี้ครับ เข้าใจว่าเป็นปลาราดซอสอะไรซักอย่างครับ รสชาติอมเปรี้ยวนิดนึงครับ
ส่วนผลไม้จะมาเสิร์ฟตอนที่เราทานอาหารเสร็จครับ ผมได้มาเป็นเมลอนครับ รสชาติดีมากครับ หวานนนนนน อร่อยมาก ถึงกับอยากขอเพิ่มเลยครับ ฮา
เอาล่ะครับ ตอนนี้ก็ทานครบทุกเมนูแล้ว ต่อไปจะเข้าสู่บทสรุปนะครับ โดยผมขอแยกเป็นเรื่องๆ ตามนี้ครับ
รสชาติอาหาร : ถือว่าอร่อยครับ หน้าตา และการตกแต่งต่างๆ ดูดี สะอาดสะอ้าน ทำให้เห็นแล้วรู้สึกดี ที่ประทับใจสุดก็คือแซลมอน ซาชิมิที่ผมรู้สึกว่าอร่อยมมาก มีให้อีก 30 ชิ้น ผมก็กินหมดครับ…..แต่ขอกินเฉยๆ ไม่จ่ายเงินนะ T___T
ความหลากหลายของอาหาร : เท่าที่ผมเปิดดูผ่านๆ ในเมนูเล่มใหญ่ก็มีเมนูที่หลากหลายครับ ทั้งข้าวปั้น และข้าวหน้าต่างๆ แต่ด้วยราคาที่ค่อนข้างแรง ทำให้ที่ผ่านมาทั้ง 2 ครั้ง ผมกินเฉพาะเมนูข้าวปั้นที่ได้สิทธิ์ลดราคาเท่านั้นครับ
ความสะอาดของร้าน : ข้อนี้สอบผ่านสบายๆ จนถึงขั้นเกือบเต็ม 10 เลยครับ สะอาด ดูดี และการแต่งร้านที่ดูเผินๆ เหมือนจะเรียบๆ แต่จริงๆ แล้วมีดีไซน์ซ่อนอยู่ครับ การแต่งร้านแบบนี้ผมว่ามันทำให้รู้สึกถึงความพรีเมี่ยมและดูได้นานดีครับ
การบริการของพนักงาน : ข้อนี้ผมประทับใจมากครับ บริการดีทั้ง 2 ครั้งที่เคยใช้บริการครับ ส่วนหนึ่งก็คงเพราะคนในร้านน้อยด้วยครับ โดยทั้ง 2 ครั้งที่ผมไปน่าจะมีคนในร้านแค่ราวๆ 10% ของพื้นที่ทั้งหมดของร้านเองครับ
ความสะดวกของการเดินทาง : อยู่ในย่านทองหล่อที่ขึ้นชื่อว่ารถติด แถมไม่ได้ติดถนนใหญ่ ไม่ได้ใกล้ BTS ดังนั้นร้านนี้จึงเหมาะกับคนที่มีรถ หรือคนที่อยู่แถวๆ นั้นเป็นหลักครับ โดยในเรื่องที่จอดรถนั้นใน Arena 10 มีที่จอดมากมายสบายใจได้ครับ
ความคุ้มค่า : ผมขอแยกเป็น 2 ประเด็นนะครับ ประเด็นแรกถ้าผมทานในราคาเต็ม ก็ต้องบอกตามตรงว่าเป็นร้านที่ราคาสูงมากกกกกกกสำหรับผม ถึงคุณภาพอาหารจะดี หน้าตาอาหารสวยงาม พนักงานบริการดีไม่มีตกหล่น ผมก็คิดว่ามันเป็นร้านที่ราคายังสูงเกินไปและไม่คุ้มค่าอย่างแรงครับ มีอีกหลายร้านที่คุณภาพไม่ต่างกันมากแต่ราคาไม่สูงเท่านี้ครับ แต่ถ้าเป็นประเด็นที่ 2 คือได้สิทธิ์ส่วนลดแบบที่ผมสั่งวันนี้ ผมเองพอจะรับในราคาได้ครับแต่ก็ยังไม่ถึงขั้นที่จะพูดคำว่าคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปอยู่ดีครับ โดยวันนี้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นของผมคือ 1,256 บาทครับ หรือประมาณ 628 บาท/คน (ราคาอาหาร 1,066 บาท และมี Vat กับ Service charge อีกครับ)
สรุป : หากคุณต้องการร้านที่ดูดี บรรยกาศเงียบๆ คนในร้านไม่เยอะ พนักงานบริการดี หรือต้องการห้องส่วนตัวไว้คุยธุรกิจกับลูกค้า คาดหวังกับรสชาติอาหารได้ว่าจะไม่ทำให้เสียหน้า และไม่ติดขัดเรื่องงบประมาณ ร้านนี้ก็เป็นร้านที่น่าสนใจครับ แต่สำหรับขาจรนักชิมงบไม่มากนัก หากไม่มีบัตรลดหรือมีโปรโมชั่นของร้านแรงๆ ออกมา ผมว่าลองมองตัวเลือกอื่นดีกว่าครับ
ปล. หลังจากที่ทางร้านคิดเงินเสร็จ ทางร้านได้นำ Gift Voucher ลด 20% มาให้ด้วยครับ คาดว่าน่าจะเป็นกิจกรรมพิเศษในช่วงนี้เพราะครั้งที่แล้วผมไม่ได้รับครับ
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านจนจบ แล้วพบกันใหม่ในรีวิวหน้าครับ สำหรับผู้ที่ต้องการติดตามเรื่องราวการรีวิวต่างๆ ที่รวดเร็วทันใจ สามารถกดติดตามได้ที่เพจ ภรรยาหา สามีใช้ และสำหรับท่านที่อยากจะได้ข้อมูลของร้านนี้เพิ่มเติม สามารถเข้าไปดูข้อมูลตามลิงก์ด้านล่างได้เลยครับ
Facebook : Sushi Otaru
หมายเหตุ : บทความนี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวของผมในวันที่ไปใช้บริการเท่านั้นครับ แต่ละท่านที่ได้มีโอกาสไปใช้บริการอาจจะได้รับการบริการที่แตกต่างจากนี้ออกไปครับ