สาเหตุหลักๆ ที่ผมได้มีโอกาสไปกินที่ร้านนี้นั้นเพราะว่าผมเห็นคนแชร์ Promotion ของร้านใน Facebook มาครับ และด้วย Promotion ที่เย้ายวนของมันทำให้ผมสนใจที่จะไปลองทานมากๆ แต่ด้วยราคาที่แอบแรงเล็กน้อย ทำให้ผมต้องทำการค้นคว้าหาข้อมูลการ review ร้านนี้เพิ่มเติม และก็พบว่ามีการ review ไว้เยอะมาก และไปในทิศทางที่ดี ผมจึงตัดสินใจจะไปทดลองด้วยลิ้นของตัวเอง ถึงแม้ราคาจะแอบแรงมากก็ตามครับ T_T
สำหรับโปรโมชั่น ที่ผมเห็นนั่นคือโปรโมชั่น ซูชิหน้าพิเศษ “เอ็นงาวะ えんがわ (Engawa)” หรือปลาซีกเดียว นั่นเองครับ
Disclosure : บทความนี้เป็นบทความที่ไม่ได้รับการสนับสนุนจากผู้ให้บริการใดๆ ทั้งสิ้น
ก่อนอื่นเลย ผมขอท้าวความสั้นๆ ก่อนนะครับ ร้าน Shibuya Shabu ในวันที่ผมไปรีวิวนั้นจะมีอยู่ 2 สาขาด้วยกัน คือ สาขาทองหล่อ 20 กับสาขาพระราม 9 (อาคารวรสมบัติ) โดยสาขาที่ผมไปกินก็คือสาขาพระราม 9 และช่วงเวลาที่ไปคือประมาณ 19.00 ของวันอาทิตย์ที่ 27 กรกฎาคม 2557 ครับ
สำหรับสาขาพระราม 9 นี้ ถือว่ามีที่จอดรถเพียงพอเลย ทั้งที่บริเวณด้านหน้าตึกและที่บริเวณอาคารจอดรถครับ แต่ว่าเราอาจจะเสียค่าบริการจอดรถบ้าง เพราะทางร้านจะประทับตราจอดรถให้เราฟรีแค่ 2 ชั่วโมงเท่านั้น ซึ่งเมื่อรวมกับเวลาที่เราต้องคอยคิวด้วยแล้วมันจะเกินไปเล็กน้อยครับ
สำหรับราคาอาหารของที่นี่นั่นคือ 690 บาท/คน ครับ โดยเป็นราคาที่ Net แล้วครับ และมีเวลาให้รับประทานถึง 2 ชั่วโมงเต็มๆ ซึ่งเพียงพอและอิ่มแน่นอนครับ
เอาล่ะครับ ตามไปดูหน้าตาและรสชาติอาหารกันเลยดีกว่า โดยภาพอาจจะไม่เยอะเท่าไหร่นะครับ เพราะรอบนี้ผมตั้งใจไปกินเป็นหลักเลย เดี๋ยวเสียเวลาถ่ายรูปมากแล้วมันจะกินไม่คุ้ม ฮา
ROD_5240
เนื่องจากว่าภาพรอบนี้ค่อนข้างน้อยครับ ผมเลยขออนุญาตเล่าให้เห็นภาพแทนแล้วกันนะครับ
ลักษณะอาหารของที่นี่ จะแบ่งออกเป็นหมวดหมู่ตามนี้ครับ
1. ชาบู มีน้ำซุปทั้งหมด 3 แบบ คือ ซุปหางวัว (สีขาว) น้ำซุปใส และน้ำซุปสุกี้ (สีดำ) ครับ โดยหม้อสุกี้ 1 หม้อ สามารถเลือกน้ำซุปได้ 2 ประเภทครับ
2. ซูชิ โดยจะมีการแบ่งเป็น Set ที่เราสามารถสั่งได้ 2 Set คือ Set A และ Set B ครับ ซึ่งโดยปกติจะมีการสลับกัน 2 สาขาระหว่างทองหล่อและพระราม 9 เช่น ครึ่งเดือนแรก ทองหล่อเป็น Set A พระราม 9 จะเป็น Set B ส่วนครึ่งเดือนหลัง ทองหล่อ Set B พระราม 9 จะ Set A เป็นต้นครับ
3. บรรดาสลัด ผัก และของทานเล่นต่างๆ ครับ
4. เครื่องดื่ม
5. ของหวาน
มาเริ่มกันที่หน้าตาของเนื้อแล้วกันนะครับ มีทั้งหมู เนื้อ และแกะครับ แต่อย่าถามผมนะว่าภาพไหนเป็นอะไร ผมจำไม่ได้ T_T
ที่จำได้คือ รสชาติครับ ถือว่าอร่อย สอบผ่านทุกอันครับ
ROD_5246
ROD_5245
ROD_5249
ROD_5248
ROD_5242
ดูภาพเนื้อกันไปพอหอมปากหอมคอแล้ว ต่อไปไปดูของที่ผมว่าเป็นไฮไลท์ของร้านนี้ดีกว่าครับ 555555
นั่นคือ ซูชิไม่อั้นครับ!! แถมแต่ละหน้านี่ไม่ธรรมดาครับ
และเนื่องจากผมไม่ได้ถ่ายภาพเมนูมา แต่เพื่อให้ทุกคนที่ได้อ่านเห็นภาพ Set A, B ชัดเจน ผมขออนุญาตนำรูปจาก Fanpage ของร้านมาลงนะครับ
1406882735-5290354457-o
1406882761-2728444573-o
สำหรับวันที่ผมไป สาขาพระราม 9 นั้นเป็น Set B นะครับ โดยแน่นอนว่าผมก็จัดหนัก สั่งมาครบ และแต่ละหน้าหลายชิ้นด้วยครับ
ROD_5259
โดยภาพรวมของซูชิครับ เนื้อปลาค่อนข้างใหญ่ ยาว ครับ รสชาติอร่อย ถึงขั้นอร่อยมากในบางหน้าครับ
หมายเหตุ : โดยปกติ Set B จะเป็น แซลมอนกับมะเขือเทศนะครับ ไม่มีหน้าแซลมอนแบบปกติ แต่ว่าร้านเค้าอนุโลมให้สั่งได้เฉพาะเมนูนี้ครับ สงสัยเป็นเมนูยอดนิยมและหลายคนคงไม่อยากกินมะเขือเทศครับ
ROD_5255
ดูกันไปยาวๆ ครับว่าผมทานอะไรไปบ้าง
ROD_5258
ROD_5269
ROD_5251
แน่นอนว่า เมนูนี้ผมซัดไปเต็มๆ หลายรอบด้วยครับ เพราะนานๆ จะสามารถกินได้แบบไม่ต้องกังวลว่ากระเป๋าตังค์จะฉีกตอนเช็คบิลครับ
1
2
ปิดท้ายด้วยนี่ครับ รายการที่ทำให้ผมสนใจมากจนต้องถ่อเดินทางมาไกลหลายสิบกิโลเมตรเพื่อชืมแบบไม่อั้นครับ
สำหรับเมนู “เอ็นงาวะ えんがわ (Engawa)” นี้ ทางร้านหมดโปรโมชั่นไปแล้วเมื่อวันที่ 31 ก.ค. 57 ที่ผ่านมา นะครับ สำหรับโปรโมชั่นเดือนอื่นๆ หรือต่อไปจะเป็นอย่างไรต้องติดตามสอบถามทางร้านเองนะครับ
รายการนี้ผมกับภรรยาซัดไปทั้งหมด 14 คำ ครับ
ROD_5267
และรูปภาพที่ผมถ่ายไว้ก็หมดแต่เพียงเท่านี้ เนื่องจากวันนั้นเน้นกินเป็นหลัก แม้กระทั่งบิลยังไม่ได้ถ่ายไว้เลย 5555
มาสรุปกันดีกว่าครับว่าเป็นอย่างไรบ้าง
ค่าใช้จ่าย : คนละ 690 บาท/คน Net แล้ว โดยวันนั้นผมไป 2 คน ก็จ่ายไป 1,380 บาทครับ (ขออภัยที่ลืมถ่ายภาพมาครับ)
สถานที่ : ที่จอดรถกว้างขวาง ภายในร้านนั่งสบาย ไม่อึดอัด
ความสะอาด : ดูดี ไม่พบเจออะไรที่ขัดตา
การให้บริการของพนักงาน : มารยาทดี ดูแลดีครับ อาจจะมีเมนูตกหล่นไปบ้าง เข้าใจว่าเพราะคนเยอะแต่ถือว่าผิดพลาดน้อยมาก
เวลา : ให้มา 2 ชั่วโมง อิ่ม สะใจ ไม่ต้องเร่งรีบ
รสชาติ : สอบผ่าน อร่อย ทั้งเนื้อชาบู ซูชิ สลัด น้ำดื่ม และของหวาน ต้องบอกว่าของหวานนี่เข้าขั้นอร่อยมากหลายอย่างเลยครับ แต่เสียดายที่ผมอิ่มไปมาก ทำให้แทบจะทานของหวานไม่ลง แอบเสียดายเหมือนกัน T_T มีเมนูเดียวที่วันนั้นไม่ประทับใจ นั่นคือ เทมปุระกุ้งครับ ทอดมาชุ่มน้ำมันไปหน่อย สั่งมา 4 ตัว ทำเอาเลี่ยนและตัดพลังานไปมากๆ ครับ
ความคุ้มค่า : ถึงราคาจะดูแพงไปนิดเมื่อเทียบกับร้านอื่นๆ แต่ถ้าคิดในแง่ของความคุ้มค่าแล้วผมว่าคุ้มครับ โดยเฉพาะคนชอบกินซูชิ อย่างวันนั้นผมกับภรรยา 2 คน ทานรวมกันประมาณนี้ครับ ซูชิเอ็นงาวะ 14 คำ, ซูชิปลาไหล 10 คำ, ซูชิหน้าอื่นๆ อีก 15 คำ โดยเฉลี่ยแล้วเอ็นงาวะกับปลาไหลคุณภาพขนาดนี้ในหลายๆ ร้านก็มีราคาคำละ 100 บาท แล้วครับ (ประเมินคร่าวๆ ค่าซูชิที่ผม 2 คน ทานไปวันนั้น 39 คำ ก็น่าจะเกิน 3,000 บาทแล้วครับ) นอกจากนี้ผมยังทานเนื้อไปรวม 10 ถาด ของทานเล่น ขนามหวาน และเครื่องดื่มอีก ไม่เรียกว่าคุ้มก็ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรแล้วครับ แต่หากใครทานเฉพาะชาบูเป็นหลัก อาจจะไม่คุ้มครับ ผมว่ามีอีกหลายร้านที่ชาบูมีคุณภาพเนื้อ น้ำซุป ดีเท่านี้ หรือดีกว่านี้ ในราคาไม่เกิน 500 บาทต่อคนครับ
แนะนำนิดนึงสำหรับคนที่จะไปทานช่วงวันหยุด และเป็นเวลาเที่ยงหรือเย็น ต้องเตรียมใจไปรอคิวนานหน่อยนะครับ ผมเคยได้ยินว่าอาจจะต้องรอถึง 1-1.30 ชั่วโมงกันเลยนะครับ แต่วันที่ผมไปถือว่าค่อนข้างโชคดีครับ รอเพียง 40 นาทีเท่านั้นครับ
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านจนจบ แล้วพบกันใหม่ในรีวิวหน้าครับ สำหรับผู้ที่ต้องการติดตามเรื่องราวการรีวิวต่างๆ ที่รวดเร็วทันใจ สามารถกดติดตามได้ที่เพจ ภรรยาหา สามีใช้ และสำหรับท่านใดที่ต้องการติดต่อหรือดูข้อมูลของร้านเพิ่มเติมก็ตามรายละเอียดนี้ได้เลยครับ โดยตอนนี้ทางร้านมีทั้งหมด 3 สาขาแล้วนะครับ มีเพิ่มสาขาที่เจริญนครมาอีก 1 สาขาครับ
Facebook : Shibuya Shabu
สาขา พระราม 9 : โทร 02-2460535
สาขา ทองหล่อ 20 : โทร 02-7148644
สาขา เจริญนคร 13 : โทร 02-4370997
หมายเหตุ : บทความนี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวของผมในวันที่ไปใช้บริการเท่านั้นครับ แต่ละท่านที่ได้มีโอกาสไปใช้บริการอาจจะได้รับการบริการที่แตกต่างจากนี้ออกไปครับ