สวัสดีครับ กลับมาพบกับรีวิวอาหารกับผม “ภรรยาหา สามีใช้” อีกแล้วนะครับ สำหรับวันนี้ผมจะพาไปรีวิวร้านบุฟเฟต์ชาบูที่ชื่อว่า Shabu Sun (ชาบูซัน) กันนะครับ โดยร้านนี้จะตั้งอยู่ที่ชั้น 2 ของ Homepro ถ.ราชพฤกษ์ ซึ่งหากใครที่เคยไปที่ Homepro สาขานี้มาก่อน ตำแหน่งของร้านนี้จะอยู่ตำแหน่งเดียวกับร้าน Tokusen เลยครับ เพราะเป็นการเปิดแทนกัน ซึ่งต้องบอกตามตรงว่าผมค่อนข้างเสียดายที่ Tokusen สาขานี้ปิดตัวลงไปมาก เนื่องจากเดิม Tokusen เป็นหนึ่งในร้านที่ผมชอบมากทั้งในเรื่องของรสชาติอาหารและความคุ้มค่าครับ
สำหรับร้าน Shabu Sun สาขานี้น่าจะเปิดบริการมาได้ราวๆ 3-4 เดือนครับ และครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 2 ที่ผมได้มีโอกาสไปชิม โดยครั้งแรกที่ผมได้ไปลองนั้น น่าจะอยู่ในช่วงเดือน พ.ย. ปีที่ผ่านมา ซึ่งตอนนั้นผมตั้งใจที่ไปกิน Tokusen แต่เมื่อไปถึงหน้าร้านก็ต้องหน้าเหวอกันไปเนื่องจากร้านได้หายไปแล้ว @___@
เอาล่ะครับมาเริ่มการรีวิวกันเลยนะครับ โดยผมขอเปิดภาพแรกด้วยบรรยากาศหน้าร้านครับ ส่วนใครที่อยากจะรู้ว่ารีวิวนี้เกิดขึ้นจากการที่ผมไปกินวันเวลาไหนก็สามารถดูรายละเอียดตามด้านล่างนี้ได้เลย
วันที่รับประทาน : วันเสาร์ที่ 17 ม.ค. 58
ช่วงเวลา : 18.30 น.
จำนวนคน : 2 คน
Disclosure : บทความนี้เป็นบทความที่ไม่ได้รับการสนับสนุนจากผู้ให้บริการใดๆ ทั้งสิ้น
ป้ายราคาหน้าร้านครับ เริ่มต้นที่ 249 บาท/ท่าน โดยเป็นราคาสำหรับหมู และ เครื่องดื่ม, ไอศรีม รวมทั้ง Vat 7% และ Service Charge 10% เรียบร้อยแล้วครับ หรือเรียกได้ว่าเป็นราคา Net สำหรับชุดหมูครับ
จริงๆ ราคานี้ก็ไม่ใช่หมูอย่างเดียวนะครับ จะยังมีไก่ ลูกชิ้น และปลาดอลลี่ด้วย แต่จะไม่มีเนื้อวัวครับ
ภายในร้านค่อนข้างใหญ่ครับ น่าจะมีประมาณ 20 โต๊ะได้ครับ โดยจะมีเคาเตอร์บาร์ที่ไว้วางผัก อาหารทานเล่น ซูชิ ข้าวผัด และน้ำจิ้มอยู่ตรงกลางครับ ส่วนพวกเนื้อหลักๆ ก็สั่งจากพนักงานครับ
หน้าตาเมนูเป็นแบบนี้ครับ หากอยากทานเนื้อวัว หรือ เนื้อประเภทอื่น ก็จ่ายเพิ่มตามภาพเลยครับ
สำหรับผมเลือกทานแบบมีเนื้อด้วยครับ ก็บวกเพิ่มจาก 249 บาท/ท่าน เป็น 299 บาท/ท่านครับ (ในเมนูนี้ไม่ได้เขียนบอกนะครับว่าเนื้อบวกเพิ่ม 50 บาท/ท่าน แต่พนักงานจะเป็นคนบอกครับ)
ในส่วนของน้ำซุปจะมี 2 แบบครับ คือ ซุปใส และซุปน้ำดำ ผมก็เลือกทั้งคู่แบบแบ่งครึ่งหม้อครับ
มาดูในส่วนของหมูและเนื้อครับ หน้าตาประมาณนี้ครับ ผมว่าดูดีใช้ได้และปริมาณต่อจานถือว่าเยอะมากครับ
ดังนั้นใครที่มักจะสั่งเยอะๆ ในตอนแรกว่าหมู 3 เนื้อ 3 อะไรแบบนี้ ให้หยั่งเชิงแค่จานแรกดูปริมาณก่อนนะครับ จะได้ไม่พลาดอิ่มไปตั้งแต่เซ็ทแรก
เมื่อหมู เนื้อพร้อมแล้วก็ทำการจุ่มได้เลยครับ
โดยภาพรวม รสชาติของเนื้อและหมู ผมโอเคนะครับ ถือว่าสอบผ่านครับ
ลำดับถัดไปมาดูของทานเล่นอื่นๆ ภายในร้านครับ ที่น่าสนใจก็คือจะมีพวกข้าวห่อสาหร่ายครับ มีประมาณ 3-4 อย่าง รสชาติกลางๆ ไม่ได้โดดเด่นอะไรครับ เรียกได้ว่าเอาไว้กินแก้อยากเฉยๆ ครับ
ถัดมาเป็นข้าวผัดครับ เมนูนี้ถือว่าอร่อยเลยครับ
ต่อมาเป็นน้ำจิ้มและเครื่องปรุง เช่น พริก กระเทียมครับ
น้ำจิ้มจะมีให้เลือก 3 แบบครับ ใครชอบแบบไหนก็ลองชิมดูครับ
ต่อมาเป็นเครื่องดื่มนะครับ
จะมี น้ำอัดลมของเอส แล้วก็ชาเขียว กับ ชาจีนครับ โดยส่วนตัวผมไม่ค่อยชอบน้ำชาของที่นี่เท่าไหร่ครับ เลยกินน้ำอัดลมเป็นหลักแทน
สุดท้ายเป็นของหวานครับ เป็นไอศรีมของแมกโนเลียครับ
เอาล่ะครับก็มาถึงบทสรุปกันแล้วนะครับ ผมก็ขอสรุปเป็นข้อๆ ตามนี้เลยนะครับ
รสชาติ : ถือว่าสอบผ่านครับ ในส่วนของเนื้อและหมู รสชาติดีในหลายๆ เมนู แต่สำหรับพวกลูกชิ้นบางรายการผมคิดว่าไม่อร่อยมีความเป็นแป้งปนอยู่พอควร ส่วนข้าวผัดถือว่าอร่อยถูกปากครับ
ความหลากหลายของเมนู : ถือว่ามีความหลากหลายพอควรครับ เพราะมีทั้งเนื้อ หมู ปลา ไก่ ปลาหมึก ลูกชิ้น และข้าวห่อสาหร่ายครับ เรียกได้ว่าอยู่ในเกณฑ์ที่โอเคไม่น้อยจนเกินไป แต่แอบเสียดายตรงที่เมื่อก่อนที่เป็น Tokusen จะมีเยอะกว่านี้หน่อย ทั้งในส่วนของทานเล่น เครื่องดื่ม และของหวาน แต่ก็ถือว่าเป็นไปตามราคาเนื่องจากตอนเป็น Tokusen จะราคาสูงกว่านี้นิดหน่อยครับ
บรรยากาศของร้าน : ถือว่าดีและกว้างขวางครับ โต๊ะค่อนข้างใหญ่ สามารถวางอาหารได้มากมายแบบไม่เกะกะครับ
พนักงาน : ถือว่าบริการดีและรวดเร็ว ซึ่งส่วนหนึ่งก็คงมาจากการที่มีคนนั่งทานในร้านน้อยด้วยครับ แค่ 4-5 โต๊ะเอง
ราคาและความคุ้มค่า : ในราคา Net 249 บาท/คน สำหรับหมู และ 299 บาท/คน สำหรับเนื้อ มีเวลาให้ทาน 90 นาที และรสชาติแบบนี้ ผมถือว่าเป็นหนึ่งในร้านที่มีความคุ้มค่า และราคาไม่แรงร้านนึงเลยครับ ในละแวกใกล้ๆ กันนี้หากจะกินบุฟเฟต์ชาบูร้านอื่นๆ ต้องมีจ่ายแพงกว่านี้เกิน 100 บาท/คนแน่ๆ ครับ
เอาเป็นว่า ใครอยู่แถวนั้น หรือมีโอกาสผ่านไปแถวนั้น และอยากทานชาบูแบบไม่อั้น แต่ไม่ต้องการจ่ายแพงเกิน 300 บาท/ คน ลองไปทานที่ร้านนี้ดูนะครับ
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านจนจบ แล้วพบกันใหม่ในรีวิวหน้าครับ สำหรับผู้ที่ต้องการติดตามเรื่องราวการรีวิวต่างๆ ที่รวดเร็วทันใจ สามารถกดติดตามได้ที่เพจ ภรรยาหา สามีใช้ ได้เลยครับ
*จากการอัพเดทข้อมูลล่าสุด ร้าน Shabu Sun ที่สาขานี้ได้ปิดลงไปแล้วนะครับ และเปลี่ยนเป็นร้านกิวกิวเต้แทนครับ
หมายเหตุ : บทความนี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวของผมในวันที่ไปใช้บริการเท่านั้นครับ แต่ละท่านที่ได้มีโอกาสไปใช้บริการอาจจะได้รับการบริการที่แตกต่างจากนี้ออกไปครับ
