สวัสดีครับ กลับมาพบกับการรีวิวจากผม “ภรรยาหา สามีใช้” กันอีกแล้วนะครับ ครั้งนี้ผมจะพาทุกท่านไปพบกับร้านอาหารญี่ปุ่นที่ใหม่แกะกล่อง พึ่งจะมีสาขาแรกเท่านั้นเองครับ ร้านนี้ชื่อว่า “Okami Sushi” โดยร้านนี้จะตั้งอยู่บริเวณชั้น 3 ของ The Crystal SB ราชพฤกษ์ ใกล้ๆ กลับโรงหนัง SF ครับ
Disclosure : บทความนี้เป็นบทความที่ไม่ได้รับการสนับสนุนจากผู้ให้บริการใดๆ ทั้งสิ้น
ก่อนที่จะเข้าสู่การรีวิว ผมขอเกริ่นนิดนึงครับ ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ผมได้มีโอกาสไป The Crystal SB ราชพฤกษ์เป็นครั้งแรกครับ ซึ่งก่อนที่ผมจะไปผมก็ได้ยินมาว่าที่นี่มีร้านอาหารแปลกๆ ใหม่ หลายร้าน รวมทั้งกำลังมีการอัดโปรโมชั่นกันเยอะแยะมากมายฉลองการเปิดของ The Crystal SB กันครับ
หลังจากที่ผมเดินทางถึง The Crystal SB ผมก็เริ่มทำการเดินสำรวจทุกชั้น ทุกซอก ทุกซอย เพื่อดูว่าจะเลือกร้านอะไรเป็นที่ฝากท้องดี และในที่สุดก็เหลือเข้ารอบสุดท้ายเพียง 2 ร้านนั่นคือ Zen และ Okami Sushi ครับ โดย Zen มีทีเด็ดอยู่ที่ลด 15% ฉลองเปิดร้านและสำหรับคนที่มีบัตรสมาชิก Zen ยังจะได้รับไอศรีมชาเขียวด้วยครับ ส่วน Okami Sushi มีโปรโมชั่นหนักกว่าคือลด 30% สำหรับเงินสดครับ
สำหรับ Zen เรื่องมาตรฐานราคาและคุณภาพน่าจะไว้วางใจและเป็นที่รู้ดีกันพอควรอยู่แล้วว่าไว้วางใจได้ แต่ Okami Shushi นี่เป็นร้านเปิดใหม่และเท่าที่ผมดูราคาในเมนูหน้าร้านก็พบว่าราคาค่อนข้างแรงเหมือนกันครับ ประมาณซูชิ มาสะ และ ซูชิเดน ครับ ประกอบกับลองค้นหารีวิวแล้วก็พบว่ามีการรีวิวน้อยมากเนื่องจากร้านพึ่งเปิดไม่กี่วันแถมพึ่งเป็นสาขาแรกด้วย
หลังจากคิดไปคิดมาอยู่ราวๆ 10 นาที ผมก็ตัดสินใจได้ว่าเอาน่า ลองร้านใหม่แล้วกัน ด้วยเหตุผลที่ว่ารีวิวเท่าที่หาเจอก็ออกมาในทางที่ดี แถมตอนนี้ยังลด 30% อีก โดยวันที่ผมไปวันที่ 31 ธ.ค. นั้น เป็นโปรโมชั่นวันสุดท้ายแล้ว หากพลาดโอกาสนี้ไปแล้วต้องมากินราคาเต็มวันหลังน่าจะทำใจเดินเข้าร้านยากอยู่เหมือนกันเพราะราคาก็ถือว่าค่อนข้างสูง ส่วน Zen นั้น มีโปรโมชั่นจนถึงวันที่ 11 ม.ค. 58 ยังพอมีเวลาที่จะแวะมาได้ครับ
เมื่อตัดสินใจได้แล้ว ผมก็เดินไปบอกเจ้าหน้าที่ที่ยืนประจำหน้าร้านและก็พบว่าต้องรอประมาณ 3-4 คิว โดยเจ้าหน้าที่ได้จดชื่อและเบอร์โทรไว้ เมื่อถึงคิวจะโทรแจ้งให้ทราบ
วันที่รับประทาน : พุธที่ 31 ธ.ค. 57
เวลาประมาณ 19.30 น.
ระหว่างที่รอผมก็เลยถ่ายรูปบรรยากาศโดยทั่วๆ ไปมาฝากครับ เริ่มจากภาพหน้าร้านครับ
ROD_3528
สำหรับโลโก้ของร้านนั้นจะเป็นรูปหมาป่าครับ เท่าที่ผมหาข้อมูลมา พบว่า Okami นั้นก็แปลว่าหมาป่านั่นเองครับ โดยคนญี่ปุ่นเชื่อว่าหมาป่านั้นเป็นสิ่งปกป้องจากผู้ร้าย และเป็นตัวแทนของความซื่อสัตย์
ROD_3530
ป้ายโปรโมชั่นลด 30% เฉพาะเงินสดเด่นหราที่หน้าร้านครับ โดยหมดเขตวันที่ 31 ธ.ค. 57 ครับ
ROD_3533
บรรยากาศโดยรวมของร้านตกแต่งด้วยโทนสีแดงและดำเป็นหลัก และมีเฟอร์นิเจอร์สีไม้แทรกเป็นระยะๆ ซึ่งผมว่าดูสวยและดูดีเลยครับ โดยเฉพาะรูปหมาป่าที่กำแพงรูปนี้ ผมชอบมากครับ
ROD_3541
หลังจากที่ผมรอประมาณ 20 นาทีก็ถึงคิวของผมครับ ก่อนที่จะเข้าไปที่ร้านผมก็นั่งอ่านรีวิวเท่าที่หาได้ไปพลางๆ ซึ่งสิ่งที่หลายคนชมก็คือ พนักงานอัธยาศรัยดี ยิ้มแย้มแจ่มใส และเท่าที่สังเกตดูจากคนรับแขกที่หน้าร้านผมก็แอบเห็นด้วยเล็กๆ ดังนั้นเมื่อผมก้าวเดินไปที่โต๊ะผมจึงคาดหวังไว้สูง
และสิ่งที่ผมพบก็คือ พนักงานที่กำลังเช็ดโต๊ะนั้นทำการเช็ดเศษอาหารลงบนพื้นโดยตรงแบบไม่มีอะไรรอง!! และแน่นอนเมื่อผมนั่งที่เก้าอี้ สิ่งที่ผมพบก็คือเท้าซ้ายผมเหยียบบนหางกุ้งที่เคยอยู่บนโต๊ะเมื่อไม่กี่วินาทีที่ผ่านมาพอดีเลยครับ – -“
แต่แน่นอนว่าเราจะให้เรื่องเล็กๆ พวกนี้มารบกวนจิตใจเราไม่ได้ สิ่งสำคัญคือรสชาติอาหาร!!
หลังจากผมพิจารณาเมนูอาหารซักพักผมก็ทำการสั่งครับ โดยจะแยกออกเป็น 2 ประเภท
ประเภทที่ 1 : เป็นข้าวปั้นทั้งหมด 8 คำ ได้แก่ แซลมอน 2, ปลาไหล 2, ครีบปลาตาเดียว 1, อาจิ 1, อากามิ 1 และหอยปีกนก 1 ครับ
ประเภทที่ 2 : เป็นโรลที่เป็น Fusion Foods ครับ ชื่อว่า Miso Salmon Roll รายการที่ 87 ใน เมนู ราคา 320 บาท/จาน ครับ
ทั้งนี้ผมใช้เวลาในการสั่งเมนูไม่นานครับ เพราะมีการเลือกมาจากข้างนอกร้านบ้างแล้วครับ
ROD_3548
ตอนที่ผมสั่ง Miso Salmon Roll นั้น พนักงานที่รับ order ก็ดีนะครับ มีการแจ้งว่าอาหารประเภท roll ของทางร้านนั้นอาจจะต้องใช้เวลารอนานหน่อย หากไม่อยากรอนานให้สั่งเป็นเมนูประเภทอื่นแทน ซึ่งเมื่อผมสอบถามไปว่าต้องรอนานประมาณเท่าไหร่ก็พบว่าราวๆ 20 กว่านาที ผมจึงตัดสินใจรอ confirm order ไปครับ เพราะประเมินจากคนในร้านแล้วกว่าซูชิจะมาก็น่าจะเกิน 15 นาที แถมผมต้องเสียเวลาถ่ายรูปอีกก็น่าจะพอดีๆ
ระหว่างที่รออาหาร ผมก็ถ่ายรูปสัพเพเหระไป เริ่มจากป้ายลดราคาอีกครั้ง ย้ำชัดๆ กับตัวเองว่า ชั้นทันโปรวันสุดท้ายโว้ยยยย 5555555
ROD_3551
หยิบทิชชู่มาถ่ายรูปเล่น
ROD_3554
ต่อด้วยจานชาม ผมว่าอุปกรณ์ของร้านนี้เลือกมาได้เก๋ดีในหลายๆ ชิ้นนะครับ
ROD_3559
อย่างแก้วน้ำก็แปลกดีครับ สำหรับราคาชาเขียวรีฟิลอยู่ที่ 30 บาท/แก้ว นะครับ รสชาติโอเคครับ มีความเป็นชาเขียวแบบต้นตำรับครับ ราคามาตรฐาน ถือว่ารายการนี้สอบผ่าน
แต่ที่สอบไม่ผ่านคือ พนักงานที่เอาที่รองแก้วมาที่โต๊ะ เพราะเค้าไม่ได้มาวางแบบธรรมดาครับ แต่วางแบบร่อนมาเลยครับ สงสัยแอบคิดว่าตัวเองเป็นนินจา ไม่ก็เป็นกิมมิคของร้านแน่ๆ – -“
ROD_3557
ร้านนี้ ทุกคนสามารถมองเห็นการปั้นซูชิของเชฟได้ครับ เนื่องจากตั้งไว้กลางร้านเลย และแน่นอนว่าร้านนี้เชฟก็ใช้มือเปล่าในการปั้นซูชิครับ
ROD_3563
ระหว่างที่ผมแอบถ่ายรูปเชฟอยู่ เชฟก็หันมามองและยิ้มเป็นระยะครับ รวมทั้งมีการพูดคุยทักทายด้วย และนอกจากนี้ยังมีการบอกด้วยว่ารอซักครู่นะครับ ซึ่งในแง่มุมของอัธยาศรัยดีตามที่หลายคนบอกมาก็คงจะจริง แต่เชฟอาจจะเข้าใจผิด คิดว่าที่ผมหันไปมองบ่อยๆ นั้น เป็นเพราะผมหิวและเร่งอยากจะได้อาหาร แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่ ผมจะแอบถ่ายรูปพี่ไปทำรีวิวต่างหากล่ะคร้าบบบบ ฮา
ภาพนี้เป็นตอนที่เชฟกำลังพ่นไฟใส่ครีบปลาตาเดียวครับ
ROD_3567
เอาล่ะครับ หลังจากผ่านไปประมาณ 15 นาที ข้าวปั้นทั้ง 8 คำก็มาอยู่บนโต๊ะผมแล้วครับ!!
โดยรวมๆ ผมมองว่าราคาขนาดนี้ ขนาดปลาน่าจะใหญ่และหนากว่านี้อีกนิดครับ ถือว่าแอบผิดหวังนิดๆ ส่วนเรื่องรสชาติเดี๋ยวว่ากันอีกทีนะครับ ตอนนี้ชมภาพรวมๆ ของซูชิทั้ง 8 คำนี้ก่อนนะครับ
ROD_3569
ROD_3575
ROD_3580
ROD_3584
ROD_3588
ROD_3589
อ่ะ ครบทั้ง 8 คำแล้ว ได้เวลาลองชิมครับ
ROD_3598
ผลสรุปของรสชาติทั้ง 8 คำนั้น ผมถือว่าดี แต่ไม่ได้ดีถึงขั้นประทับใจครับ มีชอบมากสุดก็คือปลาไหล แค่เมนูเดียวครับ แต่ทั้งนี้ผมเป็นคนชอบทานปลาไหลเป็นพิเศษอยู่แล้วด้วยนะครับ
หลังจาก 8 คำนี้หมดไป ผมก็รอราวๆ อีก 5 นาที Miso Salmon Roll ก็มาเสิร์ฟครับ ก็ถือว่ามาใกล้เคียงกับเวลาที่พนักงานที่รับ order บอกไว้ครับ
ไปดูภาพรวมๆ ของเมนูนี้เลยครับ มีทั้งหมด 8 คำ ครับ
ROD_3602
ROD_3607
ROD_3610
และแล้วเมื่อผมชิมครบทุกเมนูที่สั่ง ทีนี้ก็ได้เวลาถึงบทสรุปกันแล้วล่ะครับ
รวมทั้งหมดค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น หากเป็นราคาเต็ม คือ 950 บาทครับ (ยังไม่รวม service charge 10%)
แต่เมื่อลดไป 30% ราคาก็จะเหลือ 683 บาท เมื่อรวมกับ service charge 10% ก็จะเท่ากับ 778 บาท ครับ
สำหรับความคิดเห็นของผมที่มีต่อร้านนี้ทั้งหมดเป็นดังนี้ครับ
รสชาติอาหาร : ให้ประมาณ 3.5 เต็ม 5 ครับ คือถือว่าดีแต่ไม่ได้ประทับใจอะไร สามารถหาร้านที่มีรสชาติขนาดนี้พอได้ เช่น ซูชิ มาสะ หรือ ซูชิเดน
ความหลากหลายของอาหาร : ถือว่ามีให้เลือกเยอะครับ และมีหลายประเภท
ความสวยงามของร้าน : ตกแต่งสวยงามดีครับ ผมชอบ ดูมีสไตล์เป็นของตัวเองน่านั่งครับ และมี 1 โต๊ะทำเป็นสไตล์ญี่ปุ่น ดูเป็นส่วนตัวนิดนึง นั่งได้ราวๆ 8 คน เหมาะกับการมานั่งคุยกับเพื่อน
พนักงาน : โดยรวมๆ อัธยาศรัยดี เช่น พนักงานต้อนรับ เชฟ แต่การบริการควรต้องปรับปรุง แรกๆ เติมน้ำชาเชียวช้ามาก ต้องเรียกเป็นระยะ อาจจะเป็นเพราะแขกเยอะ, การกวาดเศษอาหารจากโต๊ะลงที่พื้นโดยตรง ไม่เหมาะสมกับร้านอาหารแบบนี้ และการร่อนที่รองแก้วนี่ไม่ควรอย่างแรง ถึงจะร่อนไม่แรงก็ตาม – -“
ราคา : ถือว่าค่อนข้างสูง นิดนึง โดยเฉพาะเมื่อดูจากราคาเต็มไม่มี Promotion
สรุป : เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นที่เปิดใหม่เป็นสาขาแรก เท่าที่ทราบเจ้าของน่าจะเป็นคนที่ยังอายุน้อย ไฟแรงอยู่ ตอนนี้อะไรหลายอย่างยังดูไม่เข้าที่เข้าทางเยอะ แต่ถ้าปรับปรุงได้ทั้งเรื่องความเร็วในการบริการ หรือ มารยาทของพนักงาน น่าจะทำให้ร้านดูดีขึ้น แต่ในส่วนของราคาหากหมดโปรโมชั่น 30% ผมคงต้องขอผ่าน เพราะคิดว่าราคาสูงไปนิด และสิ่งที่ได้มานั้นรู้สึกไม่คุ้มกับที่จ่ายไปเท่าไหร่ครับ ในราคานี้ผมเลือกไปทานร้านอื่นที่ไว้ใจได้มากกว่านี้ครับ
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านจนจบ แล้วพบกันใหม่ในรีวิวหน้าครับ สำหรับผู้ที่ต้องการติดตามเรื่องราวการรีวิวต่างๆ ที่รวดเร็วทันใจ สามารถกดติดตามได้ที่เพจ ภรรยาหา สามีใช้ ได้เลยครับ

ROD_3624

หมายเหตุ : บทความนี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวของผมในวันที่ไปใช้บริการเท่านั้นครับ แต่ละท่านที่ได้มีโอกาสไปใช้บริการอาจจะได้รับการบริการที่แตกต่างจากนี้ออกไปครับ