สวัสดีทุกท่านครับ วันนี้ผมนำรีวิวร้าน Mama do by เธอ สาขา The Walk ราชพฤกษ์มาฝากทุกท่านครับ โดยผมเชื่อว่าเหล่านักชิมทั้งหลายคงจะเคยได้ยินชื่อเสียงของร้านนี้มากันอยู่บ้างเพราะเปิดมานานและมีชื่อเสียงพอดูครับ แต่ทั้งนี้บางคนอาจจะไม่เคยได้ลองทานกันซักที โดยส่วนตัวผมเองนั้นเคยได้ทานมาแล้ว 3-4 ครั้งครับ ทั้งที่สาขาถนนนราธิวาสเอง หรือที่สาขา The Walk ราชพฤกษ์ครับ
มาเข้ารีวิวกันเลยนะครับ สำหรับร้าน Mama do by เธอ สาขา The Walk ราชพฤกษ์นั้น จะตั้งอยู่ที่ชั้น 2 บริเวณหน้าลิฟท์พอดีครับ เรียกได้ว่าออกจากลิฟท์มาก็ถึงเลย โดยร้านนี้จะโลโก้ของร้านตามภาพด้านล่างนี้เลยครับ
หมายเหตุ : ปัจจุบันร้าน Mama do by เธอ สาขานี้ได้ปิดทำการไปเรียบร้อยแล้วครับ
Disclosure : บทความนี้เป็นบทความที่ไม่ได้รับการสนับสนุนจากผู้ให้บริการใดๆ ทั้งสิ้น
วันที่ทาน : พฤหัสที่ 29 มกราคม 2558
เวลาประมาณ : 19.00 น.
จำนวนคนที่ทาน : 3 คน
โดยส่วนตัวแล้วผมค่อนข้างชอบกับการตกแต่งและการเลือกอุปกรณ์ต่างๆ ของร้านนี้นะครับ โดยเริ่มจากเมื่อเข้าไปในร้านจะพบว่าภายในร้านค่อนข้างมีสีสัน และจะมีการแบ่งโซนการกินออกเป็นทั้งหมด 3 โซน
โซนที่ 1 ได้แต่ counter bar โซนนี้เหมาะสำหรับคนที่มาแค่คนเดียว หรือมากับเพื่อนแต่ต้องการแยกน้ำซุปกันเพราะโซนนี้แต่ละคนจะมีหม้อเป็นของตัวเองครับ การตกแต่งของโซนนี้ถือว่าสวยสุดครับ มีโคมไฟหลากหลายสีสันประดับอย่างสวยงามครับ
โซนที่ 2 ได้แก่ โซนที่นั่งทั่วๆ ไป เหมาะสำหรับ 2-6 คนครับ
โซนที่ 3 เป็นห้องส่วนตัว เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเม้าท์มอยกันอย่างสนั่นหวั่นไหว หรือต้องการความเป็นส่วนตัว แต่เหมือนทางร้านจะให้ใช้บริการก็ต่อเมื่อมีจำนวนคนเกิน 8 คนนะครับ
สำหรับภาพนี้ก็เป็นภาพโคมไฟของบริเวณโซนที่ 1 ครับ
หลังจากที่ผมและชาวคณะรวม 3 คน นั่งลงที่โต๊ะแล้ว เราก็เริ่มเปิดเมนูครับ
เมนูของร้านนี้จะมี 2 ชิ้นนะครับ ชิ้นแรกที่ดูสวยๆ นั้น ข้างในจะมีแค่ชื่อเมนูอาหารและรูปภาพเท่านั้น แต่จะไม่มีราคาบอกนะครับ ราคาจะต้องดูอีกใบที่เป็นกระดาษแค่แผ่นเดียวครับ การทำแบบนี้เวลาร้านเปลี่ยนแปลงราคาอาหารก็จะง่ายและประหยัดต้นทุนในการผลิตเมนูนั่นเอง
ภายในเมนูที่สวยๆ นั้นก็จะมีรูปเหล่าดาราและเซเลปมากมายที่เคยมาทานที่ร้านนี้ครับ
หลังจากที่ผมนั่งปรึกษากันเรื่องเมนูกันเรียบร้อยแล้วก็ได้ข้อสรุปว่าเราจะเลือกทาน 2 ซุปได้แก่ ซุปน้ำข้น และซุปโจ๊กครับ (ถ้าผมเข้าใจไม่ผิด หากมาแค่ 2 คน และนั่งโต๊ะใหญ่นั้นจะเลือกได้แค่ซุปเดียว แต่ถ้ามา 3 คน ก็จะเลือกได้ 2 ซุปครับ ทีนี้หากเราไป 2 คน แต่อยากทาน 2 ซุป ก็อาจจะต้องไปนั่งที่ counter bar แทนครับ …………… ถ้าตรงนี้ผมเข้าใจผิดต้องขออภัยด้วยนะครับ)
สำหรับน้ำซุปของที่นี่จะมีทั้งหมด 3 แบบนะครับ อีกแบบที่ผมไม่ได้สั่งก็คือ ซุปใส และหม้อของที่นี่จะไม่มีแบบแบ่งครึ่งน้ำซุปครับ
ส่วนเมนูอาหารนั้น จะมีทั้งแบบเป็นเซ็ต และแบบสั่งแยกครับ วันนี้ผมสั่งเซตหมูแล้วก็ของเพิ่มอีก 7-8 อย่างได้แก่ หมูนุ่ม หมูเด้ง กุ้งสด ปลาสด ปลาสวรรค์ เกี๊ยวปลา ปลาหมึกแช่ ปาท๋องโก๋ แล้วก็เก๊กฮวย refill คนละแก้วครับ
หน้าตาอาหารพอมากองรวมๆ กันก็ประมาณนี้ครับ
ในเซตหมูจะมีผักมาให้ด้วยนะครับ หน้าตาผักที่มาในชุดครับ
มาดูหน้าตาอาหารแบบเจาะๆ กันในบางรายการแล้วกันนะครับ
ส่วนอันนี้หน้าตาน้ำซุปครับ ภาพแรกคือซุปน้ำข้น ภาพที่สองคือซุปโจ๊กครับ
หลังจากที่เอาหมูลงไปต้มในซุปโจ๊กครับ
ดูหน้าตาอาหารไปแล้ว น้ำซุปไปแล้ว จะกินสุกี้ทั้งทีมันก็ยังขาดของสำคัญมากๆ อีกอย่างนึง นั่นก็คือน้ำจิ้มนั่นเองครับ
น้ำจิ้มของร้านนี้นั้นถือว่าทีเด็ดอย่างที่หลายๆ คนพูดถึงเลยครับ โดยส่วนตัวผมนั้นประทับใจในน้ำจิ้มนี้หลายอย่างเลย เริ่มตั้งแต่ถ้วยน้ำจิ้มที่ใหญ่และมีการออกแบบที่ดีคือ มีขอบฝั่งนึงสูงกว่าอีกฝั่งนึง ไม่ได้สูงเสมอเท่ากันรอบถ้วย ซึ่งถ้วยน้ำจิ้มแบบนี้ สำหรับสายชอบจุ่มเนื้อ แช่เนื้อให้น้ำจิ้มท่วมๆ จะชอบมาก เพราะจิ้มและจุ่มแช่ได้ง่ายมากครับ
ถัดมาคือเรื่องเครื่องเคียงนั้น ทางร้านจัดมาให้เต็มและถ้วยใหญ่มาก ถ้วยภาชนะที่ใส่มาเรียกได้ว่าตักยังไงก็ไม่มีหมดแน่ทั้งต้นหอม พริก และกระเทียมครับ
ส่วนรสชาติน้ำจิ้มนั้น ผมให้ผ่านเลยครับ เป็นน้ำจิ้มสุกี้อีกสไตล์ที่ไม่เหมือนใคร ลักษณะออกคล้ายๆ กับแจ่วผสมเครื่องของมาม่าต้มยำครับ คือมีความเปรี้ยวปนอยู่ด้วย เมื่อนำเนื้อไปจิ้มแล้วอร่อยมากครับ
ก่อนจะเข้าสู่บทสรุป ก็มาดื่มน้ำกันก่อนแล้วกันครับ ฮา
น้ำเก๊กฮวย Refill ราคา 40 บาท/แก้วครับ รสชาติกลางๆ ไม่หวานจนเกินไปครับ
ทีนี้ก็มาถึงบทสรุปกันแล้วนะครับ มาแยกกันเป็นเรื่องๆ แล้วกันนะครับ
รสชาติ : โดยรวมๆ แล้วรสชาติอาหารของร้านนี้ถือว่าดีครับ ในส่วนของเนื้ออาจจะไม่ได้มีอะไรที่ประทับใจมากเป็นพิเศษ แต่ด้วยน้ำจิ้มและน้ำซุปที่ผมคิดว่าอร่อยมาก รสชาติดีเกินมาตรฐานทำให้รสชาติโดยรวมออกมาดีครับ ซุปน้ำข้นนั้นรสชาติเหมือนต้มยำเลยครับ ใครจะกินเฉยๆ ไม่ต้องใส่น้ำจิ้มเพิ่มก็ได้เพราะรสชาติเข้มข้นอยู่แล้ว หรือใครต้องการจี๊ดจ๊าดขึ้นไปอีกระดับก็จัดน้ำจิ้มลงไปอีกก็จะเด็ดมากครับ ส่วนน้ำโจ๊กนี่ผมขอบอกเลยว่าเด็ดมากๆ ครับ ผมเคยทานเมื่อครั้งก่อนแล้วประทับใจมากครั้งนี้เมื่อมาจึงไม่พลาดที่จะสั่งอีก การกินน้ำโจ๊กนี้ควรเติมเนื้อแบบโจ๊กเลยครับ สั่งแค่พวกหมูมาแล้วก็ปาท๋องโก๋อีกจาน บอกได้เลยว่าฟินมากๆ ครับ รอบนี้ผมถึงกับขอเติมน้ำซุปอีกรอบเลยทีเดียว ข้อเสียอย่างเดียวของการทานน้ำโจ๊กนั้นก็คือ คุณจะต้องคอยหมั่นคนมันอยู่เรื่อยๆ ครับ ทำให้การถ่ายรูปหรือการกินอีกหม้อไม่ค่อยสะดวกเลย T_T คำถามก็คือหากไม่คนเรื่อยๆ จะเกิดอะไรขึ้น คำตอบก็คือมันจะไหม้น่ะสิครับ เหมือนที่ครั้งแรกที่ผมกินแล้วผมไม่รู้ว่ามันจะต้องคอยคน ครั้งนั้นทางร้านเลยต้องเดินมาบอกว่าหม้อมันไหม้แล้วและต้องเปลี่ยนหม้อให้ใหม่ครับ T___________T
ความหลากหลาย : ถือว่าเมนูของทางร้านมีหลากหลายนะครับ มีน้ำซุป 3 แบบ มีเนื้อครบทุกประเภท และมีหลายลักษณะครับ
ราคา : ต้องยอมรับตามตรงว่าราคาของร้านนี้ค่อนข้างสูงครับ โดยค่าใช้จ่ายในมื้อนี้ของผมเบื้องต้นคือ 799 บาท เมื่อต้อง + Services Charge 10% และ Vat อีก 7% ทำให้ราคาพุ่งขึ้นไปที่ 940.42 บาทเลยทีเดียว หาร 3 คนก็เฉลี่ยกลมๆ 315 บาท/คนครับ ถือว่าค่อนข้างสูงมากเมื่อคิดว่ามันคือการกินสุกี้ครับ และราคานี้เอาจริงๆ ผมก็ยังไม่อิ่มมากนะครับ
พนักงานและการบริการ : จากที่ผมไปใช้บริการมาหลายครั้ง คิดว่าพนักงานบริการอยู่ในเกณฑ์ที่ดีครับ อาจจะเพราะลูกค้าไม่เยอะด้วยครับ จำนวนและความจุของร้านในสาขาถือว่าค่อนข้างเยอะ น่าจะจุได้ 80-100 คนได้ แต่ที่ผมเคยไปมา โดยเฉลี่ยจะมีลูกค้าในร้านแค่ราวๆ 20 คนเท่านั้นครับ
ความคุ้มค่า : เมื่อเทียบรสชาติกับราคาที่ได้ สำหรับผมคิดว่ายังไม่คุ้มค่ามากนัก ราคายังถือว่าสูงไปอยู่ ที่ผ่านๆ มา ผมมักจะทานตอนที่มีโปรโมชั่นครับ ซึ่งก็เห็นเป็นระยะๆ ทั้ง 10% หรือ 15% ยกเว้นครั้งนี้ ที่ไม่มีโปรโมชั่นอะไรเลย เรียกได้ว่าจ่ายเต็มๆ เน้นๆ T____T เอาเป็นว่า หากใครชอบความแปลกใหม่ อยากกินสุกี้ที่แตกต่างจากเจ้าเดิมๆ ที่ทานมาหลายปีแล้ว อยากให้ลองทานร้านนี้ดูครับ โดยเฉพาะน้ำโจ๊กที่มีทีเด็ดอีกอย่างซ่อนอยู่คือ คุณสามารถอิ่มได้โดยไม่ต้องสั่งข้าว เพียงแค่เติมน้ำซุปเรื่อยๆ……………ฮา แต่หากใครไม่ชอบทานน้ำโจ๊กนั้น ซุปน้ำข้นและน้ำจิ้มก็น่าจะทำให้คุณประทับใจได้ไม่ยากครับ และถ้าบังเอิญคุณได้เดินผ่านร้านและเห็นว่าทางร้านกำลังมีโปรโมชั่นอยู่ อย่าพลาดที่จะเดินเข้าไปลองชิมซักครั้งนะครับ
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านจนจบ แล้วพบกันใหม่ในรีวิวหน้าครับ สำหรับผู้ที่ต้องการติดตามเรื่องราวการรีวิวต่างๆ ที่รวดเร็วทันใจ สามารถกดติดตามได้ที่เพจ ภรรยาหา สามีใช้ ได้เลยครับ
หมายเหตุ : บทความนี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวของผมในวันที่ไปใช้บริการเท่านั้นครับ แต่ละท่านที่ได้มีโอกาสไปใช้บริการอาจจะได้รับการบริการที่แตกต่างจากนี้ออกไปครับ