ปฏิเสธไม่ได้จริงๆ ว่าหนึ่งในสิ่งที่นักท่องเที่ยวหลายๆ คนโดยเฉพาะผู้หญิงมักจะมีอยู่ในตัวนั่นก็คือการช้อปปิ้ง แต่จะช้อปมากช้อปน้อย ช้อปของกิน ช้อปของแบรนด์เนม หรือช้อปของตกแต่งเก๋ๆ ก็เป็นเรื่องแล้วแต่ลักษณะนิสัยของแต่ละคนอีกที และหนึ่งในสถานที่ช้อปปิ้งที่นักเดินทางมักจะนึงถึง หรือแวะไปเดินเล่นบ่อยๆ ทุกครั้งที่ได้ออกเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมินั่นก็คือ King Power นั่นเองครับ
สำหรับจุดเด่นของ King Power ที่หลายๆ คนชื่นชอบนั่นก็คือสินค้าที่จำหน่ายนั้นจะเป็นสินค้าที่ปลอดภาษี ทำให้มีราคาสินค้าที่ต่ำกว่าราคาจำหน่ายทั่วไป นอกจากนี้ยังมีสาขาที่ตั้งอยู่ในสนามบินหลักของประเทศอย่างสุวรรณภูมิและดอนเมืองอีกด้วย ทำให้หลายๆ คนเลือกที่จะใช้เวลาหลังจากการ Check in ที่ counter แล้วไปเดินเล่นจับจ่ายซื้อของราคาพิเศษเหล่านี้ โดยเฉพาะที่สาขาสนามบินสุวรรณภูมิซึ่งมีพื้นที่ขนาดใหญ่และมีสินค้าให้เลือกเป็นจำนวนมาก จนทำให้หลายๆ คนกลายเป็นลูกค้าประจำของ King Power และมีบัตรสมาชิกกันเลยทีเดียว
และผมอยากจะบอกว่าสิทธิพิเศษของบัตร King Power นั้นนอกจากจะใช้เป็นส่วนลดในการซื้อสินค้าใน King Power แล้ว บัตรนี้ยังสามารถใช้เข้าไปนั่งในเลาจน์ของ King Power ที่อยู่ภายในสนามบินได้อีกด้วยครับ และไม่ใช่แค่สามารถเข้าได้เฉพาะคนที่ถือบัตรเท่านั้น แต่เรายังสามารถพาผู้ติดตามอีก 1 ท่าน เข้าไปใช้บริการดังกล่าวได้อีกด้วยครับ
และวันนี้ผมจะพาทุกท่านไปตะลุยเลาจน์แห่งใหม่ของ King Power ที่อยู่ภายในสนามบินสุวรรณภูมิ เลาจ์ที่มีชื่อว่า “King Power Space” ไปดูกันว่ามันจะดีงามแค่ไหน และมันจะทำให้หลายๆ คนที่ไม่มีบัตรสมาชิก King Power ต้องอิจฉาจนมองตาปริบๆ หรือไม่ ถ้าพร้อมแล้วก็ไปดูกันเลยครับ!!
Disclosure : บทความนี้เป็นบทความที่ไม่ได้รับการสนับสนุนจากผู้ให้บริการใดๆ ทั้งสิ้น
![](data:image/svg+xml,%3Csvg%20xmlns='http://www.w3.org/2000/svg'%20viewBox='0%200%201000%201500'%3E%3C/svg%3E)
โดยเลาจ์ King Power Space ที่สนามบินสุวรรณภูมินั้นจะมีทั้งหมด 2 จุดด้วยกัน ได้แก่ บริเวณ Concourse A และ Concourse E ซึ่งที่บริเวณ Concourse A นั้นจะอยู่ใกล้ๆ กับเลาจน์ King Power เดิมเลยครับ ส่วนที่บริเวณ Concourse E นั้นก็หาไม่ยาก เพียงแค่เราเดินไปแถวๆ นั้นเดี๋ยวก็จะเห็นชื่อ King Power Space อย่างชัดเจนเลย
หมายเหตุ : ในแผนที่ด้านล่างนี้จะยังไม่มีตำแหน่งของ King Power Space ที่ Concourse E นะครับ แต่ ณ วันที่ผมเดินทางวันที่ 7 สิงหาคม 2560 นั้น ผมเห็น King Power Space ที่ Concourse E เปิดบริการเรียบร้อยแล้วครับ
![](data:image/svg+xml,%3Csvg%20xmlns='http://www.w3.org/2000/svg'%20viewBox='0%200%20700%20456'%3E%3C/svg%3E)
ตัวผมเองนั้นได้มีโอกาสไปใช้บริการที่ Concourse A ครับ โดยเมื่อเราเดินไปถึงบริเวณนั้นเราก็จะเห็นหน้าตาเลาจน์ตามภาพด้านล่างนี้เลย ฝั่งซ้ายมือซึ่งเคยเป็นตำแหน่งของเลาจน์ King Power เดิมนั้นในปัจจุบันได้กลายเป็น King Power Atlas Club แทน ซึ่งในส่วนนี้จะเปิดให้บริการสำหรับสมาชิกผู้ถือบัตร King Power แบบ Crown และ Vega เท่านั้น ส่วนฝั่งขวามือที่หน้าตาเหมือนร้านขายของ Duty Free นี่ก็คือ King Power Space ที่เปิดบริการสำหรับสมาชิกผู้ถือบัตร King Power แบบ Navy, Scarlet, Onyx และสมาชิกบัตรเครดิตอื่นๆ ที่มีสิทธิเข้าร่วมใช้บริการครับ โดยทางเข้าของ King Power Space เนี่ยจะแอบซ่อนตัวอยู่ในร้านขายของทำให้มองเห็นยากนิดนึงนะครับ แต่เดี๋ยวเราเดินไปใกล้ๆ ก็จะเห็นหน้าตาของเลาจน์ชัดเจนขึ้นเอง ^^
![](data:image/svg+xml,%3Csvg%20xmlns='http://www.w3.org/2000/svg'%20viewBox='0%200%202000%201333'%3E%3C/svg%3E)
![](data:image/svg+xml,%3Csvg%20xmlns='http://www.w3.org/2000/svg'%20viewBox='0%200%201000%201500'%3E%3C/svg%3E)
เมื่อเราเดินเข้ามาภายใน King Power Space แล้วก็จะเจอพนักงานยืนต้อนรับอยู่ เราก็ยื่นบัตร King Power ให้เค้าไปทำการลงทะเบียนการเข้าใช้บริการรวมทั้งแจ้งไปว่ามาใช้สิทธิ์ทั้งหมดกี่ท่าน ส่วนใครที่อยากจะเช็คว่ายอดซื้อของตลอดปีที่ผ่านมาของเรานั้นเท่าไหร่แล้ว ยังขาดอีกกี่บาทที่จะได้ต่ออายุหรือเลื่อนระดับบัตรก็สามารถสอบถามพนักงานที่เคาเตอร์ได้เลยครับ
เอาล่ะทีนี้เรามาดูเรื่องที่นั่งกันดีกว่า ขนาดพื้นที่ของ King Power Space บริเวณ Concourse A ที่ผมไปใช้บริการนั้นถือว่าใหญ่ใช้ได้นะครับ น่าจะสามารถจุคนได้เกือบ 100 คน โดยลักษณะโต๊ะจะมีทั้งแบบเป็นเคาเตอร์บาร์และก็โต๊ะแบบโซฟายาว จนไปโต๊ะที่เป็นกลุ่มเล็กๆ แบบนั่งได้ 4 คน การตกแต่งโดยรวมๆ นั้นจะเน้นที่สีไม้และสีส้มเป็นหลัก ซึ่งผมว่าสวยและดูดีมาก ส่วนความสว่างภายในพื้นที่นั้นก็ดีเช่นกันครับ
บริเวณที่นั่งแทบทุกโต๊ะจะมีปลั๊กให้เสียบไฟโดยจะติดตั้งคู่กันระหว่างปลั๊กปกติแล้วก็แบบช่อง USB ซึ่งอย่างหลังนี่ผมว่าดีมากๆ เพราะหลายๆ คนสามารถจะชาร์ตมือถือหรือ power bank ได้เลย โดยไม่ต้องผ่านหัวชาร์จให้ยุ่งยาก
![](data:image/svg+xml,%3Csvg%20xmlns='http://www.w3.org/2000/svg'%20viewBox='0%200%202000%201334'%3E%3C/svg%3E)
![](data:image/svg+xml,%3Csvg%20xmlns='http://www.w3.org/2000/svg'%20viewBox='0%200%202000%201334'%3E%3C/svg%3E)
![](data:image/svg+xml,%3Csvg%20xmlns='http://www.w3.org/2000/svg'%20viewBox='0%200%202000%201334'%3E%3C/svg%3E)
![](data:image/svg+xml,%3Csvg%20xmlns='http://www.w3.org/2000/svg'%20viewBox='0%200%202000%201334'%3E%3C/svg%3E)
ส่วนการบริการอื่นๆ ที่มีภายใน King Power Space ก็ได้แก่การให้บริการ Free Wifi และหนังสือต่างๆ โดย password ของ wifi นั้นจะเป็นกระดาษแผ่นเล็กๆ อยู่ตรงบริเวณเคาเตอร์ลงทะเบียน แต่ถ้าหาไม่เจอก็สามารถสอบถามพนักงานได้ครับ ความเร็วและความเสถียรถือว่าดีเลย ส่วนหนังสือต่างๆ บนชั้นนั้นก็สภาพใหม่ น่าอ่าน และมีความหลากหลายดีครับ
![](data:image/svg+xml,%3Csvg%20xmlns='http://www.w3.org/2000/svg'%20viewBox='0%200%202000%201334'%3E%3C/svg%3E)
![](data:image/svg+xml,%3Csvg%20xmlns='http://www.w3.org/2000/svg'%20viewBox='0%200%202000%201334'%3E%3C/svg%3E)
ปิดท้ายกันด้วยของที่เป็นไฮไลท์ของการมาใช้บริการที่นี่นั่นก็คือของกินที่เปิดบริการให้เราทานฟรีได้ไม่อั้น โดยในหมวดของคาวนั้นจะมีพระเอกอย่างข้าวต้มหมูสับเป็นตัวชูโรง ที่ถึงแม้ว่ารสชาติจะเค็มไปนิดนึง แต่ก็ถือว่าอร่อยสอบผ่านครับ ที่สำคัญยังร้อนตลอดเวลาด้วย นอกจากนี้ก็จะมีสลัด, แซนวิช และเบเกอรี่ต่างๆ โดยหากเป็นช่วงเวลากลางวันจะมีติ่มซำไว้บริการด้วย แต่เนื่องจากผมไปช่วงหัวค่ำจึงอดทานไปครับ T_T
สำหรับการเตรียมข้าวต้มของ King Power Space นั้น จะเตรียมไว้เป็นถ้วยๆ ที่มีข้าวและเนื้อต่างๆ ไว้ให้เรียบร้อยและมีการใช้พลาสติกปิดปากถ้วยด้านบนไว้ เวลาที่เราจะทานก็แค่แกะพลาสติกออก เติมเครื่องต่างๆ แล้วก็ตักน้ำซุปราดเท่านั้นเองครับ
![](data:image/svg+xml,%3Csvg%20xmlns='http://www.w3.org/2000/svg'%20viewBox='0%200%202000%201334'%3E%3C/svg%3E)
![](data:image/svg+xml,%3Csvg%20xmlns='http://www.w3.org/2000/svg'%20viewBox='0%200%202000%201333'%3E%3C/svg%3E)
![](data:image/svg+xml,%3Csvg%20xmlns='http://www.w3.org/2000/svg'%20viewBox='0%200%202000%201334'%3E%3C/svg%3E)
![](data:image/svg+xml,%3Csvg%20xmlns='http://www.w3.org/2000/svg'%20viewBox='0%200%202000%201333'%3E%3C/svg%3E)
![](data:image/svg+xml,%3Csvg%20xmlns='http://www.w3.org/2000/svg'%20viewBox='0%200%202000%201333'%3E%3C/svg%3E)
![](data:image/svg+xml,%3Csvg%20xmlns='http://www.w3.org/2000/svg'%20viewBox='0%200%202000%201333'%3E%3C/svg%3E)
![](data:image/svg+xml,%3Csvg%20xmlns='http://www.w3.org/2000/svg'%20viewBox='0%200%201000%201500'%3E%3C/svg%3E)
![](data:image/svg+xml,%3Csvg%20xmlns='http://www.w3.org/2000/svg'%20viewBox='0%200%202000%201334'%3E%3C/svg%3E)
สำหรับในเรื่องของความอร่อยของเมนูต่างๆ นั้นผมให้อยู่ในระดับกลางๆ ครับ คือไม่ได้อร่อยมาก แต่ก็ไม่รู้สึกเสียดายเวลาที่แวะเข้ามาทาน โดยสิ่งที่ผมประทับใจเป็นพิเศษก็คือความสะอาด ความเป็นระเบียบ และการดูแลของพนักงานครับ เพราะวันที่ผมไปใช้บริการนั้น แม้พื้นที่กว้างๆ นั้นจะมีผมใช้บริการกันแค่ 2 คนเท่านั้น แต่ทางพนักงานก็ดูแลของในไลน์ดีมาก ชนิดที่ว่าถ้าผมกับแฟนหยิบอะไรออกไปทาน รอไม่เกิน 2 นาที ของเหล่านั้นจะถูกนำมาเติมให้เต็มและดูสวยงามแบบเดิมครับ ซึ่งเรื่องนี้เป็นอะไรที่ผมประทับใจจนต้องปรบมือให้เลยครับ
มาดูกันที่ผลไม้และเครื่องดื่มกันดีกว่าครับ สำหรับวันที่ผมไปนั้นจะมีผลไม้อย่างแตงโมเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ส่วนเครื่องดื่มก็มีทั้งน้ำเปล่า, น้ำอัดลม จนไปถึงน้ำสมุนไพรอย่างน้ำเก๊กฮวยและน้ำกระเจี๊ยบผสมพุทราจีน นอกจากนี้ก็ยังมีกาแฟและคุกกี้อีก 2-3 อย่างไว้บริการให้กับคนที่ชอบทานกาแฟด้วยครับ
![](data:image/svg+xml,%3Csvg%20xmlns='http://www.w3.org/2000/svg'%20viewBox='0%200%202000%201333'%3E%3C/svg%3E)
![](data:image/svg+xml,%3Csvg%20xmlns='http://www.w3.org/2000/svg'%20viewBox='0%200%202000%201334'%3E%3C/svg%3E)
![](data:image/svg+xml,%3Csvg%20xmlns='http://www.w3.org/2000/svg'%20viewBox='0%200%201000%201500'%3E%3C/svg%3E)
![](data:image/svg+xml,%3Csvg%20xmlns='http://www.w3.org/2000/svg'%20viewBox='0%200%201000%201500'%3E%3C/svg%3E)
ก็จบลงแล้วสำหรับการตะลุย King Power Space สนามบินสุวรรณภูมิของผมครับ และต้องบอกว่านี่ถือเป็นครั้งแรกของผมกับภรรยาเลยที่ได้มีโอกาสเข้าไปใช้บริการเลาจน์ของ King Power ดังนั้นเราจึงไม่อาจจะเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างเลาจน์แบบเดิมกับแบบใหม่ได้ แต่โดยส่วนตัวแล้วเราทั้งคู่พอใจมากๆ กับ King Power Space แห่งนี้ ทั้งในเรื่องของการออกแบบที่สวยงาม สิ่งอำนวยความสะดวกอย่างเก้าอี้,ปลั๊กไฟ, หนังสือ จนไปถึงของกินต่างๆ ที่ผมคิดว่ารสชาติโอเคและปริมาณเพียงพอแล้วสำหรับการทานรองท้องจนไปถึงการทำให้หลายๆ คนอิ่มได้อย่างสบายๆ
ส่วนเรื่องอื่นๆ ที่ผมได้อ่านเจอจากที่คนอื่นเขียนถึงอย่างการไม่มีห้องน้ำ และพนักงานหน้าตาไม่ค่อยรับแขกเท่าไหร่ ต้องบอกว่าในประเด็นแรกคือเรื่องห้องน้ำนั้นผมเฉยๆ นะครับ เพราะเราสามารถเดินออกมาเข้าห้องน้ำที่อยู่ใกล้ๆ กันได้อย่างไม่ลำบากอะไรนัก ส่วนเรื่องพนักงานหน้าตาไม่รับแขกนั้น ผมก็คิดว่าอาจจะมีบ้างเป็นบางคน แต่โดยรวมๆ แล้วผมประทับใจกับการไปใช้บริการที่นี่มาก และถ้ามีโอกาสก็คงกลับไปใช้บริการอีก รวมไปถึงอยากให้หลายๆ คนได้ไปใช้บริการที่แห่งนี้มากขึ้นด้วยครับ จะได้ดูครึกครื้นขึ้นและเผื่อทาง King Power Space เห็นว่ามีคนมาใช้บริการเยอะขึ้นแล้วเค้าจะเพิ่มอะไรลงไปให้อีกครับ ><
ก็จบลงแล้วสำหรับรีวิวนี้นะครับ สำหรับผู้ที่ต้องการติดตามเรื่องราวการรีวิวต่างๆ ที่รวดเร็วทันใจ ก็สามารถกดติดตามได้ที่เพจ ภรรยาหา สามีใช้ ได้เลยครับ แล้วพบกันใหม่ในรีวิวหน้า สวัสดีครับ
![](data:image/svg+xml,%3Csvg%20xmlns='http://www.w3.org/2000/svg'%20viewBox='0%200%202000%201333'%3E%3C/svg%3E)
หมายเหตุ : บทความนี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวของผมในวันที่ไปใช้บริการเท่านั้นครับ แต่ละท่านที่ได้มีโอกาสไปใช้บริการอาจจะได้รับการบริการที่แตกต่างจากนี้ออกไป