สวัสดีทุกคนครับ วันนี้ผมจะพาทุกคนไปรู้กับร้านชาบูบุฟเฟ่ต์ที่ชื่อโคตรเจ๋ง ราคาโคตรโดนใจอย่างร้าน “ข้าน้อยขอชาบู” โดยราคาที่ทางร้านโปรโมตตามสื่อต่างๆ นั้นก็คือ 186 บาท/ท่าน ซึ่งถือว่าเป็นร้านชาบูบุฟเฟ่ต์ที่ราคาถูกที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นมาเลย

เดี๋ยวเราไปดูกันดีกว่าว่าร้านชาบูบุฟเฟ่ต์ที่ราคา 186 บาท/คน เนี่ย จะมีอะไรบ้างและรสชาติจะเป็นอย่างไร โดยร้านข้าน้อยขอชาบูนั้น ปัจจุบันนี้มีหลายสาขามาก แต่สาขาที่ผมไปกินก็คือสาขาเมเจอร์ ปิ่นเกล้า ชั้น G ครับ โดยลักษณะร้านข้าน้อยขอชาบู สาขานี้นั้นจะเป็นร้านที่อยู่บริเวณหัวมุม ติดกระจกสองด้าน ที่หน้าร้านมีป้ายชื่อ, ราคา และประเภทอาหารแสดงให้เห็นเด่นชัด ส่วนภายในร้านนั้นจะมีพื้นที่ให้เรานั่งได้ทั้งหมดประมาณ 80 คน

Disclosure : บทความนี้เป็นบทความที่ไม่ได้รับการสนับสนุนจากผู้ให้บริการใดๆ ทั้งสิ้น

หลังจากที่พนักงานพาเราไปที่โต๊ะแล้ว ทางพนักงานก็จะสอบถามว่าเราเคยมาทานแล้วหรือยัง หากใครยังไม่เคยทาน พนักงานก็จะอธิบายข้อมูลต่างๆ ของทางร้าน ซึ่งผมว่าทางพนักงานเค้าอธิบายได้ละเอียดดี รวมทั้งน้ำเสียงก็สื่อถึงใจรักบริการ โดยข้อมูลคร่าวๆ ที่ทางพนักงานแจ้งให้ผมทราบก็มีดังนี้ครับ

  1. ระยะเวลาในการทานบุฟเฟ่ต์ของทางร้านคือ 1 ชั่วโมงกับ 20 นาที โดยทางร้านจะมีนาฬิกาจับเวลาให้ที่โต๊ะทุกตัว ซึ่งเรื่องนี้เป็นอะไรที่ผมชอบมาก และอยากให้ร้านอื่นมีแบบนี้บ้าง
  2. อาหารที่เราสามารถทานได้ในบุฟเฟ่ต์นั้นจะอยู่ในบริเวณด้านข้างของร้าน โดยทางเราต้องเดินไปหยิบด้วยตัวเอง
  3. อาหารที่อยู่นอกเหนือบุฟเฟ่ต์นั้นจะมีหลายประเภททั้งเนื้อและพวกซูชิ โดยหากใครต้องการสั่งก็ให้ระบุจำนวนที่ต้องการในใบ order พิเศษที่อยู่บนโต๊ะ
  4. ราคาบุฟเฟ่ต์ 186 บาท/คน เป็นราคาที่ยังไม่เครื่องดื่มและ Vat 7% โดยหากใครต้องการทานเครื่องดื่ม refill ด้วย ราคาทั้งหมดจะอยู่ที่ 241 บาท/คน net
  5. น้ำซุปที่เลือกทานได้โดยไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่มคือน้ำซุปใสต้นตำรับ แต่หากใครต้องการทานเป็นน้ำซุปทงคัตซึก็ต้องจ่ายเพิ่มอีกคนละ 10 บาท และหากใครต้องการหม้อที่แบ่ง 2 น้ำซุป ก็ต้องเพิ่มอีกคนละ 10 บาทครับ
  6. ทางร้านจะมีโปรโมชั่นต่างๆ ผ่าน Line @ ของร้านอยู่เรื่อยๆ โดยตอนที่ผมไปจะได้รับส่วนลดเครื่องดื่ม refill 10 บาท/คน ดังนั้นใครอยากประหยัดก็แอดไลน์ทางร้านไปนะครับ

เอาล่ะ คราวนี้เรามาดูหน้าตาของเมนูที่เราจะสามารถสั่งทานได้ในบุฟเฟ่ต์ราคา 186 บาท/คน กันดีกว่า รายการอาหารจะมีตามภาพนี้เลยครับ โดยหลักๆ แล้วจะมีเนื้อหมู 4 ชนิด ได้แก่ สันคอหมู, สันนอกหมู, หมูสามชั้น, ตับ นอกนั้นก็จะเป็นพวกลูกชิ้น, เกี๊ยว, ผัก, ไข่ แล้วก็ของทานเล่น ซึ่งของทั้งหมดนี้เราสามารถเดินไปหยิบเองได้ที่บริเวณไลน์อาหารด้านข้างของร้านได้เลย

ส่วนเมนูอื่นที่นอกเหนือจากไลน์บุฟเฟ่ต์ก็จะเป็นพวกหมูชนิดพรีเมี่ยม, เนื้อ แล้วก็ซูชิ ซึ่งเท่าที่ดูราคากับโปรโมชั่นต่างๆ ที่ทางร้านกำลังจัดอยู่ ผมว่าราคาก็ไม่แรงนะ ใครอยากลองอะไรก็สั่งในใบ order ได้เลย แต่สำหรับมื้อนี้ผมกับต๋งขอลองเฉพาะของที่อยู่ในรายการบุฟเฟ่ต์เท่านั้นพอครับ

ในส่วนของเครื่องดื่มนั้น หากใครไม่อยากทานน้ำหวานหรือเครื่องดื่ม Refill ก็สามารถสั่งน้ำเปล่าเป็นขวดมาทานได้ โดยราคาที่ทางร้านแจ้งคือขวดละ 31 บาท ซึ่งผมว่าราคาสูงไปหน่อย เพิ่มอีก 8 บาทก็ได้เครื่องดื่ม Refill กินไม่อั้นแล้ว ดังนั้นผมกับต๋งก็เลยจัดเป็นเครื่องดื่ม Refill เลย แต่หากใครเน้นประหยัดและคิดว่าทานน้ำไม่เยอะอยู่แล้ว การสั่งน้ำเป็นขวดแล้วมาทานด้วยกัน 2 คนก็เป็นอะไรที่ประหยัดดีครับ

หมายเหตุ : ชนิดของเครื่องดื่ม Refill ที่เราสามารถทานได้ในราคา 39 บาท/ท่าน จะมี EST, พั้นซ์, ชามะนาว แล้วก็น้ำเปล่า ส่วนใครอยากจะทานชาเขียว, ชานม, โกโก้ หรือกาแฟในแก้วแรกก็จัดไปที่ราคา 45 บาท/ท่านครับ

คราวนี้เราไปสำรวจพวกหมูและผักในไลน์บุฟเฟ่ต์กันต่อดีกว่าครับ การวางอาหารของที่นี่จะวางไว้ที่ด้านข้างของร้าน โดยพวกหมู, ผักและลูกชิ้นนั้นจะอยู่ในตู้เย็น และมีการติดรายชื่ออาหารไว้ชัดเจนดี ใครต้องการอะไรก็หยิบๆ ไปได้เลย ซึ่งเท่าที่ผมลองเดินสำรวจดูก็พบว่าหน้าตาของหมูและผักนั้นดูสวยงาม น่ากินดีครับ

ส่วนเมนูของทางเล่นนั้นก็จะอยู่ข้างๆ กัน โดยทางร้านจะมีข้าวผัดกระเทียม, ไส้กรอกอีสาน, ไก่นิวออร์ลีนส์, ไส้กรอกเวียนนา, สปาเกตตี้, เฟรนช์ฟรายส์ แล้วก็ของทอดอีก 2-3 อย่างให้บริการ ซึ่งจากที่ผมได้ลองชิมมาทุกเมนู ผมว่าพวกของทานเล่นนี่ทางร้านทำมาได้ดีนะครับ โดยเฉพาะเห็ดเข็มทองทอด, ไส้กรอกอีสาน, ไก่นิวออร์ลีนส์ และไส้กรอกเวียนนา

ส่วนของเนื้อหมูอย่างสันคอหมู, สันนอกหมู และหมูสามชั้น จากที่ผมกับต๋งได้ลองชิมจนครบ เรามีความเห็นตรงกันว่าสันคอหมูนั้นดีสุด แผ่นใหญ่ คุณภาพโอเคทานได้เรื่อยๆ ส่วนหมูสามชั้นรสชาติอยู่ในเกณฑ์ดี แต่สำหรับสันนอกนั้นค่อนข้างแข็งไปหน่อย ซึ่งจริงๆ แล้วก็ถือก็เป็นลักษณะทั่วไปของเนื้อประเภทนี้อยู่แล้วที่จะนุ่มน้อยกว่าเนื้อส่วนอื่น ดังนั้นเราจึงแทบไม่กินสันนอกในมื้อนี้เลย

อ้อ ผมลืมบอกไปว่าในไลน์บุฟเฟต์จะมีเนื้อปลาด้วยนะครับ รสชาติกลางๆ ครับ

สำหรับน้ำจิ้มของทางร้านนั้นจะมีให้เลือก 3 อย่าง คือน้ำจิ้มข้าน้อย, พอนซึแล้วก็งา ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วผมชอบพอนซึมากที่สุด ส่วนน้ำจิ้มข้าน้อยนั้นลักษณะจะคล้ายๆ กับน้ำจิ้มสุกี้ ใครชอบสไตล์นี้ก็จัดไปครับ

เอาล่ะครับ ตอนนี้ก็มาถึงช่วงท้ายของรีวิวนี้กันแล้ว เราไปอ่านบทสรุปของร้านข้าน้อยขอชาบูบุฟเฟ่ต์ ในความคิดผมกันได้เลย

วันที่รับประทาน : วันเสาร์ที่ 13 มกราคม 2561
ช่วงเวลา : 11.22 – 12.40 น.
จำนวน : 2 คน

รสชาติอาหาร : รสชาติอาหารส่วนใหญ่ทำได้ดีเมื่อเทียบกับช่วงราคา โดยเมนูที่โดดเด่นที่สุดก็คือสันคอหมู, เกี๊ยว, เห็ดเข็มทองทอด และไส้กรอกอีสานครับ

ความหลากหลายของอาหาร : ถ้าดูเฉพาะรายการเนื้อในไลน์บุฟเฟ่ต์แล้วก็อาจจะไม่ได้มีอะไรให้เลือกเยอะมาก เพราะมีเนื้อหมูให้เลือกแค่ 3-4 ชนิดเอง แต่ถ้ามองว่านอกจากนี้แล้ว เค้ายังมีปลา, ผัก, ลูกชิ้น, อุด้ง, ข้าวผัดกระเทียมและของทานเล่นอีก 6-7 ชนิด ก็ถือว่ามีความหลากหลายพอควรอยู่ แต่ความหลากหลายนี้ก็อยู่ในระดับที่กินครั้งแรกครั้งเดียวแล้วสามารถลองได้ครบนะครับ ไม่เหมือนบางร้านที่มีให้เลือกเยอะมาจนชิมไม่หมด ดังนั้นสำหรับร้านนี้หากใครจะมาซ้ำรอบสองรอบสาม ผมว่าควรจะดูพวกเมนูพิเศษที่ต้องสั่งเพิ่มเป็นตัวเลือกด้วย ซึ่งถ้ารวมเมนูพวกนั้นเข้าไปด้วยแล้ว ความหลากหลายของอาหารของทางร้านก็จะเพิ่มขึ้นอีกเยอะเลยครับ

ความสะอาดของร้าน : สะอาดสะอ้านดี ไม่ได้มีปัญหาอะไรในข้อนี้ครับ

การบริการของพนักงาน : นี่เป็นจุดเด่นและจุดแข็งของทางร้านเลย พนักงานพูดจาดี บริการไว ให้ข้อมูลได้ครบถ้วนชัดเจน ส่วนในเรื่องของการเติมน้ำซุป, การเก็บจานต่างๆ ก็ดูแลได้รวดเร็วมากครับ

ความสะดวกของการเดินทาง : เนื่องจากร้านนี้มีหลากหลายสาขามาก โดยสาขาส่วนใหญ่ก็จะอยู่ในห้างต่างๆ ดังนั้นในเรื่องของการเดินทางผมก็เลยคิดว่าน่าจะมีความสะดวกสูง เพียงแต่แต่ละคนอาจจะสะดวกที่สาขาต่างกันเท่านั้น

ความคุ้มค่า : ด้วยความที่ทางร้านโปรโมตว่าราคาบุฟเฟ่ต์อยู่ที่ 186 บาท/คน ทำให้เราอยากพิสูจน์ว่าราคานี้จะให้รสชาติอาหารและคุณภาพเนื้ออย่างไร ซึ่งหลังจากที่เราได้พิสูจน์และพบว่าราคา net หลังจากที่รวมเครื่องดื่ม Refill และ Vat 7% แล้วอยู่ที่ 241 บาท/คน นั้น เราทั้งสองก็สรุปว่าร้านนี้เป็นร้านชาบูที่สมราคาดีครับ แม้รสชาติของเนื้อหมูจะไม่ได้ดีมากแต่เมื่อเทียบกับราคาเท่านี้ก็เป็นอะไรที่โอเคมากแล้ว ยิ่งถ้าใครแอด Line@ ของทางร้านแล้วได้รับส่วนลดดีๆ เพิ่ม ยิ่งจะทำให้รู้สึกว่าคุ้มค่าในการทานเพิ่มขึ้นครับ

สรุป : สำหรับใครที่กำลังมองหาร้านบุฟเฟ่ต์ชาบูราคาประหยัด คุณภาพเนื้ออยู่ในระดับกลางๆ เน้นกินหมูเป็นหลักและมีของทานเล่นที่รสชาติดีเป็นของเสริม ร้านข้าน้อยขอชาบูบุฟเฟ่ต์นี้ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่เหมาะสม แต่สำหรับใครที่ต้องการทานเนื้อ หรือหมูที่คุณภาพพรีเมี่ยม กินแล้วฟินสุดๆ ร้านนี้คงไม่ใช่เป้าหมายในการทานของคุณครับ

ก็จบลงแล้วสำหรับรีวิวนี้ สำหรับใครที่อยากจะดูข้อมูลข้อมูลของร้านนี้เพิ่มเติมนี้ก็สามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ลิงก์ด้านล่างนี้ได้เลย

Fanpage : ข้าน้อยขอชาบูบุฟเฟ่ต์

ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านจนจบ ทั้งนี้ทุกท่านสามารถเข้าไปพบปะพูดคุยเรื่องราวของการกินและเที่ยวของผมกับต๋งแบบใกล้ชิดที่เพจ “ภรรยาหา สามีใช้” แล้วพบกันใหม่ในรีวิวหน้า สวัสดีครับ

หมายเหตุ : บทความนี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวของผมในวันที่ไปใช้บริการเท่านั้นครับ แต่ละท่านที่ได้มีโอกาสไปใช้บริการอาจจะได้รับการบริการที่แตกต่างจากนี้ออกไป