ถ้าพูดถึงขนมบัวลอยแล้ว ผมเชื่อว่าชาวนักชิมในเขต กทม. น่าจะนึกถึงร้านนี้มาเป็นอันดับต้นๆ อย่างแน่นอนครับ “บัวลอย ท่าน้ำคลองสาน” เพราะร้านนี้เป็นร้านเก่าแก่ที่เปิดมานาน อีกทั้งยังมีลูกค้าที่ชื่นชอบรสชาติของเค้าเป็นจำนวนมาก และสำหรับตัวผมเองก็ได้มีโอกาสทานหลายครั้งแล้วเหมือนกันครับ โดยเฉพาะเมื่อต้องไปทำธุระที่โรงแรมมิลเลเนียม ฮิลตัน ผมเป็นต้องเดินแว้บออกไปกินแทบทุกครั้งครับ เพราะทั้งสองที่นี้มันอยู่ใกล้กันมากๆ ที่สำคัญไม่ต้องห่วงเรื่องที่จอดรถด้วยครับ
สำหรับการเดินทางก็ไม่ยากครับ ถ้าคุณไปตลาดท่าน้ำคลองสานถูก ฮา (ตลาดจะอยู่ข้างๆ กับโรงแรมมิลเลเนียม ฮิลตันเลยครับ) เมื่อเข้าไปในตลาดแล้วก็เดินเข้าไปเรื่อยๆ จนเจอสี่แยก ให้เลี้ยวขวาไปราวๆ 10 -15 ก้าว ก็จะเจอร้านอยู่ตรงหัวมุมครับ (สี่แยกที่ว่านี้ไม่ใหญ่มากนะครับ แต่รับรองว่าเดินไปถึงแล้วจะรู้ว่ามันคือแยกนี้แน่ๆ ครับ)
ขนาดของร้านไม่ใหญ่มากนัก มีโต๊ะเล็กๆ ราวๆ 6-7 โต๊ะครับ ทีเด็ดของบัวลอยร้านนี้ก็คือ นอกจากจะไข่หวานแล้ว ยังมีไข่เค็มด้วย!! และหากใครลังเลตัดสินใจไม่ถูก รักพี่เสียดายน้องก็จัดไปเลยครับ “บัวลอยไข่คู่” มีทั้งไข่หวานและไข่เค็มเหมือนที่ผมสั่ง ในราคาถ้วยละ 32 บาทครับ
Disclosure : บทความนี้เป็นบทความที่ไม่ได้รับการสนับสนุนจากผู้ให้บริการใดๆ ทั้งสิ้น

จุดเด่นของบัวลอยร้านนี้คือ แป้งบัวลอยจะมีหลากสี ดูสวยงามน่ากินมาก ว่ากันว่าแต่ละสีนั้นผสมแป้งกับพืชผักต่างๆ เช่น ฟักทอง ดอกอัญชัน เผือก แครอท ใบเตย และบีทรูท และนอกจากแป้งบัวลอยแล้ว เค้ายังมีการใส่เนื้อมะพร้าว และเผือก ลงไปอีกด้วยครับ



เอาล่ะครับเกริ่นกันไปหมดแล้วทีนี้มาถึงข้อสรุปเลยดีกว่าครับ
วันที่รับประทาน : ศุกร์ที่ 16 มกราคม 2558
เวลา : 17.30 น.
รสชาติ : ผมค่อนข้างชอบความอร่อยของแป้งบัวลอยร้านนี้นะครับ หอม ทานได้เรื่อยๆ การใส่มะพร้าวกับเผือกลงมาด้วยก็ทำให้รสชาติลงตัวมากขึ้น ส่วนเรื่องไข่หวาน ไข่เค็ม หรือไม่ใส่ คงเป็นเรื่องความชอบของบุคคล โดยส่วนตัวผมชอบไข่หวานมากกว่าครับ แต่ไปทีไรมักจะสั่งไข่คู่ทุกทีเพราะนานๆ ได้กินทีเลยจัดเบิ้ลตลอด ฮา ส่วนที่ติมีข้อเดียวก็คือ ผมว่าน้ำกะทิมันหวานไปหน่อยครับ T_T ลดความหวานลงอีกนิดจะดีมาก
สถานที่ : เดินทางไปค่อนข้างยาก โดยเฉพาะคนที่ติดการขับรถ เพราะหาที่จอดยาก ส่วนที่นั่งในร้านก็ค่อนข้างน้อย การไปแค่คนสองคนจะสะดวกเพราะสามารถแทรกนั่งโต๊ะคนอื่นได้ง่ายๆ แต่ถ้าไปเยอะก็คงต้องรอคิวนานหน่อย หรือหากจะซื้อกลับบ้านผมก็คิดว่าความอร่อยจะลดลงไปเยอะเลยทีเดียวครับ
โดยภาพรวมๆ ผมว่ารสชาติและราคา รวมทั้งความคุ้มค่าสูสีกับบัวลอยที่อยู่แถววัดสุวรรณ โดยร้านที่อยู่วัดสุวรรณแป้งอาจจะไม่อร่อยเท่า แต่น้ำกะทิดูลงตัวกว่า ไม่หวานจัดเกินไปครับ ถ้าใครมีโอกาสได้ผ่านไปแถวนั้นลองไปชิมเปรียบเทียบดูนะครับ อยู่ไม่ห่างกันมากครับ ทิ้งท้ายด้วยภาพเมนูและราคาของทางร้านแล้วกันนะครับ
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านจนจบ แล้วพบกันใหม่ในรีวิวหน้าครับ สำหรับผู้ที่ต้องการติดตามเรื่องราวการรีวิวต่างๆ ที่รวดเร็วทันใจ สามารถกดติดตามได้ที่เพจ ภรรยาหา สามีใช้ ได้เลยครับ

หมายเหตุ : บทความนี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวของผมในวันที่ไปใช้บริการเท่านั้นครับ แต่ละท่านที่ได้มีโอกาสไปใช้บริการอาจจะได้รับการบริการที่แตกต่างจากนี้ออกไปครับ