ในบรรดาแคมเปญการตลาด หรือโปรโมชั่นของร้านอาหารต่างๆ ที่มีอยู่มากมายก่ายกอง มีอยู่แคมเปญนึงที่ผมประทับใจและชอบใจในไอเดียของคนคิดมากๆ ครับ นั่นก็คือ “แคมเปญล่าไข่บาร์บีกอน ของ BBQ Plaza” เพราะแคมเปญนี้ในรอบที่ผ่านมาสามารถดูดเงินผมไปได้หลายรอบมาก รวมทั้งยังทำให้ผมต้องไปดิ้นรนตามหาซื้อของบางอย่างที่อยากจะได้มากๆ อีกด้วย
โดยภาพรวมของแคมเปญนี้ผมว่าเจ๋งมาก มันสามารถสร้างอะไรที่แปลกใหม่ให้กับตลาด ทั้งการเพิ่ม basket size ของผู้บริโภคได้อย่างเนียนๆ และเต็มใจ ทั้งการที่ล่อให้เด็กหรือสาวๆ ให้อยากเข้าไปกินจากของรางวัลที่น่ารัก รวมทั้งการมีมงกุฏกระดาษมาใน set ที่สามารถสร้างสีสรรค์ใหักับคนทุกเพศ ทุกวัยเป็นอย่างมาก ที่สำคัญก่อให้เกิด viral ผ่านรุปภาพใน social อีกครับ
Disclosure : บทความนี้เป็นบทความที่ไม่ได้รับการสนับสนุนจากผู้ให้บริการใดๆ ทั้งสิ้น
และเมื่อแคมเปญนี้ได้หวนกลับมาอีกครั้ง ผมจึงไม่พลาดที่จะไปลองของอีกซักครา โดยครั้งนี้เค้ากลับมาในชื่อว่า “ล่าไข่บาร์บีกอน ตอน ขุมทรัพย์ถ้ำหิมะ” เอาล่ะครับ……..ตามไปดูกันดีกว่าว่าครั้งนี้มีอะไรใหม่ มีอะไรที่น่าสนใจบ้างครับ
วันที่รับประทาน : วันจันทร์ที่ 22 ธันวาคม 2557
สาขา : The Walk ราชพฤกษ์
เวลาโดยประมาณ : 19.30 น.
มาเริ่มกันที่ของรางวัลกันก่อนเลยนะครับว่าครั้งนี้เค้ามีอะไรมายั่วเราบ้าง โดยจุดเด่นที่สำคัญของแคมเปญนี้ก็คือ ทุกครั้งที่คุณสั่งชุดล่าไข่ คุณด๋จะได้จับฉลาก 1 ครั้ง และฉลากทุกๆ ใบนั้นจะมีของรางวัลแน่ๆ ให้คุณ 1 ชิ้น แต่จะได้เป็นอะไรนั้นอยู่ที่ดวงของคุณนั่นเอง สำหรับตัวผมในรอบนี้สิ่งที่ผมอยากจะได้มากที่สุดนั่นก็คือ “อู๊ดดี้ บาร์บีกอน หรือหมวกมังกรสุดน่ารัก” นั่นเองครับ
สำหรับราคาในชุดล่าไข่นั้น จะอยู่ที่ 699 บาท/ชุด ทั้งชุดหมูและชุดเนื้อ โดยทาง BBQ Plaza ระบุว่าเหมาะกับ 2-3 คน
ทั้งนี้มีโปรโมชั่นที่ช่วยลดราคาอีกหลายอย่าง แต่ที่สายตาผมเหลือบไปเห็นและเลือกที่จะใช้นั่นคือ บัตรกรุงศรี ลด 10% ครับ
และเนื่องจากว่าตอนที่ผมไปนั้น ทางร้านบริการเต็มทุกโต๊ะ ดังนั้นผมก็เลยต้องนั่งรอ
ระหว่างนั่งรอก็เลยถ่ายรูปผู้ร่วมล่าไข่กับบาร์บีกอนในชุดหน้าหนาวก่อนครับ
หลังจากพนักงานเรียกคิวของผม ผมก็เดินเข้าไปในร้าน และรอไม่นานน้ำโค้กเต็มๆ เหยือกที่อยู่ใน Set ล่าไข่ก็ถูกนำมาเสิร์ฟที่โต๊ะครับ
สำหรับวันนี้ผมจะกิน Set เนื้อนะครับ
เมื่อรินน้ำเสร็จแล้ว สิ่งที่จะทำต่อไประหว่างรอเนื้อมาเสิร์ฟนั่นก็คือ ผสมน้ำจิ้มนั่นเองครับ
ผมว่าน้ำจิ้มของที่นี่เป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใครดีนะครับ
หลังจากผสมน้ำจิ้มเสร็จ ผมก็นั่งรออีกซัก จนกระทั่งพนักงานยกชุดล่าไข่เนื้อมาเสิร์ฟที่โต๊ะ
แว่บแรกที่เห็น โอ้ว แม่เจ้า มีควันพวยพุ่งมาด้วยโว้ยยยย!!
ในถาดที่พนักงานยกมานั้น มีการใส่น้ำแข็งแห้งลงไปในช่องนึงด้วย เพื่อสร้างบรรยากาศให้ดูเหมือนหิมะ ดูเหมือนหนาวเข้ากับธีมที่ตั้งไว้
ต้องบอกว่ามันเป็นการสร้างความประทับใจที่ดีในแว่บแรกจริงๆ ครับ
เห็นยกมาเสิร์ฟแบบนี้ คนกินก็รู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาทีเดียวครับ
อ่ะ เดี๋ยวต่อไปเราจะมาชำแหละเนื้อทีละจานๆ นะครับ
เจาะทีละอัน เริ่มจากอันแรก ลูกชิ้นไส้ชีส ครับ
เนื้อราดซอสมิโสะ
อุด้ง
ข้าวโพดอ่อน เห็ด ฟักทอง และผักต่างๆ อีกเล็กน้อย
ทั้ง 4 รายการข้างบนนั้นจะอยู่รวมกันในถาดใหญ่ที่มีน้ำแข็งแห้งนะครับ
และจะมีถาดเล็กอีกทั้งหมด 6 ถาด ได้แก่ เนื้อ 3 ถาด, แซลมอน 1 ถาด, หอยเชลล์ 1 ถาด และ ไก่อีก 1 ถาดครับ
ภาพนี้เลยถ่ายรวมๆ กันมาให้ดูก่อนครับ
มาเจาะทีละอันนะครับ ไล่ตามลำดับไปเลย เนื้อ แซลมอน หอยเชล์ และไก่ครับ
ตบท้ายด้วยอย่างสุดท้ายที่คุณจะได้รับใน Set นั่นคือข้าวกระเทียมอีก 2 จานนะครับ
เมือถ่ายภาพอาหารเสร็จหมดแล้ว พนักงานก็นำกล่องใส่ฉลากมาให้จับ และแน่นอนว่าด้วยความที่ผมอยากจะได้หมวกบาร์บิก้อนมาก จึงอาสาเป็นคนจับเอง
และด้วยความที่ผมคิดว่ามือซ้ายจะเป็นมือที่นำโชค นำสิ่งดีๆ มาให้ ผมก็เลยใช้มือซ้ายหยิบลงไปจับ
และนี่คือสิ่งที่ผมได้รับครับ!!
มันคือ คูปองสำหรับกิน “ไอครีมชาเขียว ฟรี 2 ที่” มูลค่าารวม 84 บาท!!
เรียกได้ว่าแทบจะถูกที่สุดในบรรดาของรางวัลเลยทีเดียว T_T
หลังจากอึ้งและเศร้าไปซักพัก พนักงานก็ขอฉลากคืนเพื่อนำไปเปลี่ยนเป็น voucher มาให้ โดยเราจะต้องมีการเซ็นรับของรางวัลในสมุดของทางร้านก่อนทุกครั้ง
โอเค ในเมื่อจับแล้วไม่ได้ของที่อยากได้ และเนื้อก็มาอยู่ข้างหน้าแล้ว ก็ไม่มีอะไรจะทำได้นอกจากก้มหน้าก้มตากินทั้งน้ำตา T_T
แต่ก่อนจะกินก็ต้องสวมมงกุฏซักนิดนึง ฮา
เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว ก็เริ่มปิ้งได้ครับ ในภาพรวมๆ ของรสชาติ ผมขอไม่กล่าวถึงมากนะครับเพราะว่าน่าจะมีคนได้ลิ้มลอง ได้สัมผัสรสชาติอาหารของร้านนี้กันมาบ้างแล้วครับ
อันนี้หอยเชลล์ครับ ในถาดมีทั้งหมด 5 ชิ้น
ในเรื่องของรสชาติผมไมขอวิจารณ์นะครับ เนื่องจากว่าผมไม่แน่ใจว่ามันควรจะปิ้งเท่าไหร่จึงจะพอดี ผมไม่ค่อยมีประสบการณ์ในการปิ้งหอยเชลล์แบบนี้เองซักเท่าไหร่ ทำให้ในการปิ้งในครั้งนี้บ้างก็เหมือนยังไม่สุก บ้างก็เหมือนแข็งไป ครับ T_T
แต่โดยรวมๆ การใส่หอยเชลล์เข้ามาใน Set แบบนี้ทำให้ผมรู้สึกดีและสร้างความแปลกใหม่นะครับ
ส่วนรายการนี้ ลูกชิ้นไส้ชีส มีทั้งหมด 4 ชิ้น อร่อยโดนใจเลยครับ
แต่ตอนกินต้องระวังเรื่องร้อนลวกปากด้วยนะครับ
สำหรับแซลมอน โดยส่วนตัวผมโอเคกับรสชาตินะครับ
ก่อนจะไปสู่บทสรุปการรีวิว ผมขอลงภาพบรรยากาศเตาปิ้งอีกซักหน่อยนะครับ
เอาล่ะครับ ก็มาถึงค่าใช้จ่ายและบทสรุปกันแล้วครับ
ค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่เกิดขึ้นคือ 629 บาท ซึ่งมาจากราคา Set 699 บาท ลด 10% จากบัตรกรุงศรีครับ (ราคารวม Vat แล้ว และไม่มี Service charger ครับ)
ผมขออนุญาตเซ็นเซอร์เลขบัตรเครดิตไว้นะครับ และในเรื่องของการให้คะแนนหรือความรู้สึกในเรื่องต่างๆ ผมขอให้ตามนี้นะครับ
รสชาติอาหาร : ดี โดยในส่วนของเนื้อ, เนื้อมิโสะ และไก่นั้นหลายๆ คนคงเคยทาน เคยชิมกันมาบ้างแล้ว ในส่วนใหม่ที่เพิ่มเข้ามาได้แก่แซลมอน หอยเชลล์ และไส้กรอกชีส ไม่มีอะไรที่ทำให้รู้สึกแย่ครับ โดยเฉพาะไส้กรอกชีสนั้นสามารถพูดได้เลยครับว่าอร่อย ชอบครับ
การบริการ : โดยภาพรวมของการบริการถือว่าดี ขออะไรได้รับการตอบสนองไว โดยเฉพาะการขอผักที่ผมขอแล้วขออีก เติมแล้วเติมอีก ฮา
ราคา : สำหรับราคาเต็ม 699 บาท/set สำหรับ 2 คน หรือราวๆ 350 บาท/คน ผมแอบคิดว่าแพงไปหน่อยครับ เพราะราคานี้สามารถที่จะไปทานบุฟเฟต์ได้หลายที่เลย ซึ่งจะทำให้เราได้ทานเยอะกว่านี้แน่ๆ โดยส่วนหนึ่งที่ราคาต่อ Set สูงขนาดนี้ก็คงเพราะมีค่าใช้จ่ายทางการตลาดที่แฝงไว้ค่อนข้างสูงนั่นเองครับ โดยส่วนตัวคิดว่า ถ้าได้ราคาราวๆ 599 บาท/set น่าจะเหมาะเหม็ง หรือไม่ก็ควรจะไปทานกัน 3-4 คน แล้วสั่งอาหารอย่างอื่นมาเพิ่มอีกเล็กน้อยจะลงตัวกว่าครับ เพราะการไปทาน 2 คนนั้นหากไม่ใช่คนที่ทานเยอะหรือหิวจัดๆ ผมคิดว่ามันอาจจะเยอะไปสำหรับท้องของหลายๆ คนครับ (ส่วนผมกับภรรยานั้นถือเป็นข้อยกเว้นนะครับ ฮา) สำหรับครั้งนี้ที่ผมใช้บัตรกรุงศรีแล้วลดเหลือ 629 บาท/set นั้นก็อยู่ในเกณฑ์ราคาที่รับได้ ซึ่งถ้าได้ของรางวัลที่ดีกว่านี้อีกนิดมันจะทำให้รู้สึกดีและคุ้มค่ากว่านี้อีกหน่อยครับ ฮา
อื่นๆ : น้ำโค้ก 1 เหยือก มันเยอะไปสำหรับ 2 คน และเชื่อว่ามีหลายๆ คนที่อาจจะไม่อยากทาน ดังนั้นน่าจะมี set ที่ไม่รวมน้ำโค้กแล้วราคาถูกลงเล็กน้อยครับ เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภค และอีก 1 เรื่องที่ผมคาใจเกี่ยวกับ BBQ Plaza ก็คือ ทำไมต้องทำในช่องของน้ำซุปต้มผักให้มันแคบแบบนี้ด้วยครับ มันตักยากมากเลยครับ T_T
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านจนจบ แล้วพบกันใหม่ในรีวิวหน้าครับ สำหรับผู้ที่ต้องการติดตามเรื่องราวการรีวิวต่างๆ ที่รวดเร็วทันใจ สามารถกดติดตามได้ที่เพจ ภรรยาหา สามีใช้ ได้เลยครับ
หมายเหตุ : บทความนี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวของผมในวันที่ไปใช้บริการเท่านั้นครับ แต่ละท่านที่ได้มีโอกาสไปใช้บริการอาจจะได้รับการบริการที่แตกต่างจากนี้ออกไปครับ